เล่าประสบการณ์ตรง และเทคนิควิธีการฝึกกสิณแสงสว่าง (จนถึงฌานสี่)

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ณฐมณฑ์, 12 ตุลาคม 2004.

  1. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ขอบคุณคุณวานิชสำหรับมิตรภาพและกำลังใจ แต่ดิฉันขอลอกคุณปาริสัชชานะคะ คิดอย่างข้อความที่ 152 ของคุณปาริสัชชาทั้งกระบิน่ะค่ะ

    คุณStar Platinum เคยถามไว้เกี่ยวกับข้อควรระวังสำหรับการรักษากสิณ ซึ่งคุณปาริสัชชาได้ตอบไปแล้ว
    แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันนึกถึงประสบการณ์บางอย่างที่น่าจะมาเล่าเสริมในประเด็นนี้เพิ่มอีกนิดน่ะค่ะ

    พรุ่งนี้ดิฉันจะมาเล่าต่อนะคะ
    (อันที่จริงพิมพ์เสร็จแล้ว แต่คลิกผิดคลิกถูก...ข้อมูลหายเกลี้ยง...
    ไม่เป็นไร พรุ่งนี้พิมพ์ใหม่)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2004
  2. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +2,693

    เรียนคุณ wit ครับ .... ผมขออนุญาตตอบแทนคุณณฐมณฑ์นะครับ ผมอ่านดูแล้วก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดีครับ จริงๆการฝึกที่ว่านี้เป็นการประยุกต์กันเข้ามา โดยเฉพาะท่านหลวงพ่อธรรมธโร แห่งวัดไทรงาม นี้ท่านจะใช้สติปัฎฐานสี่ ซึ่งผมเคยเรียนรู้มาอยู่บ้าง จึงขอกล่าวโดยสรุปย่อๆดังนี้นะครับ ...

    การเจริญกรรมฐานแบบนี้จะใช้กำลังจิตให้สงบนิ่งลงในระดับหนึ่งเริ่มตั้งแต่ ขณิกสมาธิ-อุปจารสมาธิ แล้วพิจารณาการเคลื่อนไหวหรือหยุดอยู่ของ กาย เวทนา จิต ธรรม โดยใช้จิตดักอาการกระทบต่างๆ แล้วพิจารณาให้เห็นการเกิด-ดับ .... อย่างนี้เป็นต้น...

    คุณwit ลองปฎิบัติดูก็ได้ครับว่า ตรงกับจริตหรือไม่ คือปฎิบัติไปแล้วรู้สึกจิตเห็นสภาวะธรรมที่มันเกิด-ดับได้ชัดหรือไม่ ...

    มีอีกวิธีหนึ่งที่พระสายหลวงปู่มั่นท่านใช้ก็คือ การเจริญอานาปานสติจนจิตมีกำลัง(ถึงอัปปนาสมาธิ) แล้วท่านให้พิจารณาลงไปที่ร่างกายให้เห็นถึงสภาวะไตรลักษณ์ หรือลักษณะทั้งสามคือ ๑.มีความไม่เที่ยงและเปลี่ยนแปลงไป(อนิจจัง) ๒.มีความคงทนอยู่ในสภาวะเดิมไม่ได้ (ทุกข์) ๓.มีความแตกดับไปจนไม่มีตัวมีตน (อนัตตา) ....

    ท่านจะเน้นให้จิตสงบด้วยสมถภาวนาก่อน และใช้การพิจารณาธรรมให้หยั่งลงสู่ไตรลักษณ์ ... ซึ่งจริงๆวิธีการนี้ผมเองก็ใช้อยู่ทุกวัน เช่นเมื่อจิตสงบลงและตั้งมั่นดีแล้ว ก็พิจารณาความไม่สวยงามของกาย คือพิจารณาลอกหนังออกเป็นชั้นๆ แยกอวัยวะต่างๆออกไป จนกระทั่งเห็นว่า ตัวตนของเรานี้หายไป คือเห็นอนัตตานั่นเอง และเมื่อเห็นอนัตตา ก็จะเห็นอนิจจัง และทุกขังด้วย คือลักษณะทั้งสามนี้เป็นสิ่งที่ติดตามกันอยู่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาเห็นลักษณะอย่างหนึ่ง ก็จะเห็นอีกสองลักษณะตามกันมา และเมื่อพิจารณาในไตรลักษณ์นี้บ่อยๆ จิตก็จะปล่อยวางจากการยึดมั่นในขันธ์ห้า คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และเมื่อจิตปล่อยวางในขั้นแรกๆนี้ไปเรื่อยๆ ญาณแห่งวิปัสสนา หรือที่เรียกว่า "วิปัสสนาญาณ" จริงๆจึงจะเกิดขึ้น และลบล้างกิเลสให้หมดไปเป็นขั้นๆ อย่างนี้เป็นต้นครับ...

    การฝึกกสิน หรือเจริญกรรมฐานในแบบอื่นก็เช่นกันครับ ก็คือต้องมาพิจารณาธรรมแบบนี้เพื่อเพิกถอนกิเลสออกไปจนสิ้นให้ได้เช่นกันครับ...

    เอาหล่ะนะครับอธิบายมาก็ยาวมากแล้ว ก็ขอให้คุณ wit เลือกใช้วิธีที่รู้สึกเหมาะกับจริตของตัวเอง และขอให้ถึงที่สุดแห่งธรรมโดยเร็วนะครับ...



    ปล.การภาวนาดูลมหายใจ และกำหนดรู้ที่ตรงอก ก็มีบางท่านนำวิธีการนี้มาใช้ ซึ่งเมื่อคืนผมลองกำหนดจิตรู้ไว้ที่อกดู ก็ดีเหมือนกันครับ จิตสงบแต่ไม่ถูกจริตของผม ... อันนี้คุณwit ลองทำดูครับ วิธีการใดที่ตรงกับเรา เราจะรู้สึกว่าง่ายและราบรื่นไม่อึดอัด และจะมีกำลังใจฝึกไปเรื่อยๆครับ สังเกตุดูด้วยว่าจิตใจจะสงบเยือกเย็นมีปิติน้อยๆหล่ะก็น่าจะใช่ครับ :)
     
  3. ปาริสัชชา

    ปาริสัชชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +2,693
    Re: เรื่องตลกของการฝึกกศินแสงสว่าง

    เรียน คุณจันทร์เจ้าครับ... เรื่องเพ่งกสิน ไม่ได้ใช้ภาพที่ติดตาอย่างนั้นนะครับ มันเป็นภาพติดใจ เหมือนให้คุณนั่งหลับตาเห็นน้ำตก หรือภูเขาตอนนี้ คุณก็จะต้องใช้ใจเห็นใช่มั้ยครับ! ก็เช่นเดียวกันนะครับ

    ส่วนทำใมต้องใช้ดวงกสินกลม ก็เพราะว่า ความกลมมันไม่มีมุม ไม่มีจุดสิ้นสุด และมันอาจจะสอดคล้องกับดวงจิต หรือธรรมชาติมากกว่าทรงอื่น...

    แต่ผู้ที่ชำนา_และมีอุปนิสัยเดิมมานั้น มองอะไรก็ได้ครับ มองแสงจากหลอดยาวๆก็ได้ คือจะจำภาพเฉพาะความสว่างเป็นหลักนั่นแหละครับ :)
     
  4. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    กระทู้นี้มีประโยชน์มากๆเลยครับ คุณณฐมณฑ์และคุณปาริสัชชาช่วยคลี่คลายปัญหาคาใจผมหลายๆอย่างเลยครับ ขอให้คุณทั้งสองสำเร็จทุกอย่างในสิ่งที่ปรารถนานะครับ
     
  5. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ขออนุโมทนาบุ_ในสิ่งที่คุณณฐมณฑ์และคุณปาริสัชชาทำด้วยนะครับ

    ว่าแต่ ชื่อของคุณปาริสัชชาเนี่ย คล้ายชื่อของพระพรหมองค์หนึ่งจังเลย...
     
  6. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ขอบคุณครับ คุณปาริสัชชา
    งั้นผมก็จะเลือกวงกลม ใช้ในการฝึกด้วยเช่นกัน
    ผมอยากฝึกกศินเพราะเคยได้ยินมาว่า
    ผู้ที่ฝึกกศินสำเร็จแล้วจะเดินบนน้ำ หรือบนอากาศได้
    ผมเองก็อยากทำได้บ้าง ไม่ได้ต้องการฝึกเพื่อสมาธิ
    คิดอย่างนี้คงไม่ผิดนะครับ
     
  7. โยโย่

    โยโย่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +835
    เรียน อาจารย์ ทั้ง ๒ ครับ

    ตอนนี้ โยโย่ กำลังจะไปหาเช่า พระพุทธรูป ทองเหลือง
    เพื่อ สำหรับฝึกอโลกสิณ อยากถาม ท่านทั้ง ๒ ว่า พอนำ พระมาตั้ง ไว้ตรงกลาง ส่วนด้านข้างของพระ นำเอาโคมไฟ ๒ ดวง ส่องมาที่พระพุทธรูป จากทั้ง ๒ ด้าน เลย ถูกไม๊ครับ
    แล้ว ผมจะเริ่มฝึกแล้ว ครับ ขอบคุณครับ
     
  8. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    เรียน คุณจันทร์เจ้าและคุณโยโย่

    คาดว่าคุณปาริสัชชาจะมาตอบคำถามของท่านในราวๆ อีก 2-3 วันนะคะ ทราบมาว่าพี่เขากำลังป่วยไข้ขึ้นค่ะ
    (ขอภาวนาให้หายไวๆ นะคะพี่ปาริสัชชา)

    เรียน ท่านผู้อ่านทุกท่าน

    ดิฉันต้องขออนุญาตหยุดรับคำถามใหม่ๆ ตั้งแต่บัดนี้นะคะ เนื่องด้วย...

    1.จะพยายามเขียนประเด็นการอธิษฐานขอดูนิมิตรและเทคนิคบางประการ ที่ค้างไว้ให้จบในสองสามวันนี้ค่ะ
    2.จะขอไปฟื้นร่างกายและกำลังจิตเพื่อเตรียมตัวทูลถามพระพุทธองค์ถึงกรรมฐานกองที่เหมาะสมที่หลายท่านฝากดิฉันกับคุณปาริสัชชาทูลถามนะคะ
    เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่ดิฉันไม่ต้องการให้เกิดผิดพลาดจากตนเลยแม้แต่คำตอบเดียวค่ะ

    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2004
  9. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    คุณStar Platinumคะ
    ต้องขออภัยนะคะที่มาเขียนตอบในประเด็นที่ค้างไว้ในคืนนี้ไม่ทัน แบบว่าหนังตาหนักมากๆ แล้ว
    จะมาเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับข้อควรระวังในการรักษากสิณเพิ่มเติมอีกทีนึงนะคะ
     
  10. ศดานัน

    ศดานัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    893
    ค่าพลัง:
    +651
    งั้นแก้วขออนุ_าตจอง...ถามด้วยสักกอง
    ขออุ๊บอิ๊บแปะไว้ก่อนได้มั้ยคะ พี่ณฐมณฑ์ และคุณปาริสัชชา

    ขอบพระคุณทั้งสองท่านมากค่ะ
     
  11. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ยินดีค่ะคุณแก้ว :) ขอรับฝากทูลถามไว้เป็นท่านสุดท้ายนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2004
  12. ศดานัน

    ศดานัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    893
    ค่าพลัง:
    +651
    แล้วแต่คุณ ณฐมณฑ์ค่ะ
    ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ
     
  13. นุ่น

    นุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +210
    ถามเรื่องกสิณครับ

    ชาติที่แล้วผมเคยฝึกกสิณกองไหนไว้บ้างรึเปล่าครับ ตอนนี้ผมกำลังฝึกเพ่งกสิณสีขาวครับบางทีก็เพ่งพระพุทธรูปครับ เพ่งแล้วก็เห็นแสงสีขาวบ้างแต่มาแวบเดียวก็หาย แต่ถ้าเพ่งพระพุทธรูปนิมิตติดตาเป็นแสงสีม่วงครับไม่ใช่สีทองของพระพุทธรูปแสงมาแวบเดียวก็หายไปเหมือนกัน แล้วก็ส่วนให_่เวลาตอนกลางวันที่แดดจ้าๆผมมองไปที่แสงแดดมักจะเห็นนิมิตกลมๆใสๆดวงเล็กๆติดตาครับนิมิตอันนี้มาแล้วอยู่นานไม่มาแวบเดียวเหมือนแสงสีขาวกับสีม่วงครับเห็นนิมิตนี้ก่อนที่จะมาฝึกเพ่งกสิณครับ แล้วการส่งprivate message
    นี่ทำกันยังไงเหรอครับ ขอบคุณครับ
     
  14. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ขอให้คุณปาริสัชชาหายป่วยเร็วๆนะครับ

    ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
    รักษาสุขภาพให้แข็งแรงกันทุกคนนะครับ
     
  15. NanoProbe (นาโนโพรบ)

    NanoProbe (นาโนโพรบ) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +261
    คุณณฐมณฑ์/คุณปาริสัชชา ที่นับถือ
    พักผ่อนบ้าง นะครับ
    ร่างกายคนต่างต้องการ การพักผ่อน จะมากจะน้อยเจ้าตัวรู้เอง
    พักหนึ่งวัน อาจทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเป็นไข้สามวัน
    เห็นด้วยมั้ยครับ
     
  16. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ขอขอบคุณมากนะคะที่ให้กำลังใจมาแก่ดิฉันกับพี่ปาริสัชชา
    ได้ยินมาว่าพี่ปาริสัชชาอาการดีแล้วค่ะ แต่ดิฉันขอให้พี่เขาพักต่อก่อนอีกวันสองวัน

    ขอเล่าถึงวิธีระวังรักษากสิณเพิ่มเติมนะคะ

    1.เมื่อได้อุคหนิมิตรใหม่ๆ หรือได้ปฏิภาคนิมิตรใหม่ๆ มักจะยังไม่ทรงตัว
    คือช่วงเริ่มต้นนั้น บางวันดวงนิมิตรก็กำหนดง่าย บางวันกำหนดไม่ค่อยได้
    ตามประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น พบว่าวันที่มี"พรหมวิหาร"ชัดเจน จะกำหนดได้ง่ายทั้งอุคหนิมิตรและปฏิภาคนิมิตร
    เนื่องจากใจจะผ่องแผ้วค่ะ
    "ใจที่มีพรหมวิหารเป็นใจที่อ่อนโยน ใจที่อ่อนโยนจะน้อมสู่สมาธิได้ง่าย และรักษาระดับสมาธิได้ดีค่ะ"

    2.ในขณะเดียวกัน วันที่มีสถานการณ์ยั่วยุให้ใจผู้ปฏิบัติขุ่น ผู้เริ่มปฏิบัติก็มักจะกำหนดดวงนิมิตรยากกว่า
    คือมีนิวรณ์ข้อความฟุ้งมารบกวนน่ะค่ะ กำลังจิตจะตกได้
    (แต่ถ้ากำลังทรงตัวแล้ว จะกำหนดได้ทุกวันเอง)
    ดังนั้น "ผู้เริ่มใหม่ควรเก็บตัว คุยน้อยๆ "
    ถนอมจิตใจตนเองไว้ก่อน โดยพยายามเลี่ยงไม่ไปเกี่ยวข้องกับผู้ที่จะทำให้ใจเราหม่นหมอง
    หรือเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เรารันทด หรือขุ่นมัวนะคะ

    3.การฟังธรรม อ่านข้อธรรมที่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้สอนไว้นั้น
    จะช่วยให้ใจผ่องแผ้วลึกซึ้ง จะช่วยให้ทำสมาธิใดๆ ได้ดีทั้งสิ้น

    4.การรักษาศีลห้า(เป็นอย่างน้อย) หากทรงตัวดี
    เมื่อปฏิบัติพระกรรมฐานแล้ว กำลังสมาธิจะทรงตัวได้ดีด้วยค่ะ

    5.ตอนดูดวงนิมิตร อย่าเผลอปรับไปใช้ลูกตามองนะคะ
    เพราะจะทำให้ดวงกสิณจะหายวับทันที แต่ใช้ใจมองค่ะ (บางทีจะรู้สึกว่าเหมือนกึ่งใจกึ่งลูกตามองอยู่เหมือนกัน)

    6.ระหว่างวันทรงอารมณ์ปล่อยวางไว้บ่อยๆ เช่น ใช้ใจดูตามลมหายใจบ่อยๆ จะได้ไม่คิดโน่นคิดนี่ เป็นต้น
    ใจที่ฝึกให้ละความฟุ้ง โดยดูลมหายใจบ่อยๆ นั้น จะเข้ากรรมฐานได้คล่องเองโดยธรรมชาติ
    และจะทรงอารมณ์กรรมฐานได้นาน
    จะช่วยให้คุมระดับอารมณ์ละเอียดๆ ของฌานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

    7.ต้องรักษาสุขภาพดีๆ เนื่องจากว่า หากร่างกายล้า โอกาสที่กำลังจิตก็จะอ่อนลงก็มีมากขึ้นเช่นกัน

    8.ฝึกฝนให้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
    เพราะการทิ้งช่วงไปนั้นจะมีผลให้การทรงอารมณ์มักจะไม่ละเอียดดังเดิม เหมือนต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ค่ะ

    9.พยายามไม่สนใจความไม่ดีของคนอื่น มุ่งฝึกฝน-ขัดเกลาตนเองเป็นหลักดีกว่า
    เพราะการสนใจความไม่ดีของคนอื่นจะทำให้ฟุ้ง ใจคอไม่ค่อยสงบ
    เสียพลังงานความคิดและเวลาของเราโดยเปล่าเปลืองค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2004
  17. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    ขอบคุณพระคุณมากเลยครับสำหรับคำแนะนำ
     
  18. กระถัง

    กระถัง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอสมัครเรียนด้วยคนครับ

    ขออนุโมทนาผลบุ_ที่ท่านทั้งสองได้ช่วยเหลือการปฎิบัติแก่ผู้ใฝ่ธรรมะทุกท่านด้วยความจริงใจครับ ถ้ามีเวลาขอช่วยชี้แนะผมเรื่องกองกสิณที่เหมาะสมด้วยครับ
     
  19. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    เพิ่งมีโอกาสมาพิจารณาข้อความของคุณณฐมณฑ์จริงๆจังๆ

    ยินดีและโมทนากับกุศลเจตนา ตลอดจนผลแห่งการปฏิบัติด้วยครับ

    เดิมเห็นการนำธรรมะของหลวงพ่อมากล่าวปนๆกับความคึกคะนองตลอดจนกามราคะจนนึกเป็นห่วงว่าจะเป็นเหตุให้คนที่เข้ามาเห็นพลอยปรามาสหลวงพ่อและคำสอนของท่านไปด้วย จึงพยายามเข้ามาฉีดน้ำดีให้บ้างเท่าที่โอกาสจะอำนวย

    บัดนี้เห็นมีน้ำใสไหลเย็นหลั่งไหลมาไล่น้ำเก่าเน่าเหม็นออกไป จึงกระดี๊กระด้า ดำผุดดำว่ายอย่างชื่นใจ
     
  20. ณฐมณฑ์

    ณฐมณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,881
    วันนี้คุณปาริสัชชาฝากบอกมาว่าขอตัวไปขึ้นภูเขาเพื่อปฏิบัติธรรมสักหลายวันหน่อย
    เมื่อลงจากภูเขามาแล้ว จึงจะมีโอกาสมาตอบคำถามที่ยังค้างไว้นะคะ
    เมื่อเช้าทราบมาว่าคุณปาริสัชชาหายป่วยดีแล้วค่ะ
    และฝากขอบคุณมาสำหรับกำลังใจจากหลายท่าน

    ขอโมทนาในเจตนาอันเป็นกุศลของคุณคนเก่าเช่นกันค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...