ถ้าจะฝึกเพื่อมุ่งสู่นิพพาน ควรจะฝึกอย่างไรคับ

คือว่าไม่สนใจเรื่องพลังวิเศษหรืออะไรพวกนั้นนะคับ ไม่ทราบว่าต้องปฎิบัติตน และ ฝีกอะไรบ้างคับ เพื่อมุ่งสู่นิพพาน อย่างเดียว และก๊ได้อ่านจากกระทู้ในนี้เรื่อง วิปัสสนาญาณ ๙ นี่นะคับ เห็นบอกว่าถ้าฝึกได้จะละจากการตกนรกโดยสิ้นเชิง อันนี้ควรจะต้องฝึกปฎิบัตฺด้วยไหมคับ แล้วต้องทำอย่างไรบ้างคับ

 

ผมเองยังไม่แตกฉานครับ แต่ที่รู้ๆคือ ทางที่มุ่งสู่พระนิพพานได้เร็วที่สุดคือ การเจริญสติปัฎฐาน 4(เขียนผิดขออภัยนะครับ) ถ้าจะเริ่มทำอย่างง่ายๆที่สุดคือ การนั่งสมาธิจับลมหายใจเราเองครับ ดูลมหายใจไปเรื่อยๆ อย่างไปคิดเรื่องอื่นๆ ให้จับอยู่ที่ลมหายใจเพียงอย่างเดียว ......... อันนี้เป็นขั้นต้นครับ ลงมือทำได้เลยครับถูกต้องแน่นอน(ถึงแม้ผมจะยังรู้ไม่มากก็ตาม แต่อันนี้ทำได้เลยครับ....ฟันธง)............ที่เหลือรบกวนผู้รู้มาตอบเพิ่มเติมด้วยครับ..............เจริญในธรรมนะครับ

 

ผมก็ฝึก สติปัฎฐาน 4 ครับ
ลองไปดูหนังสือ 7 เดือนบรรลุธรรมสิครับ ในเวปก็มีให้โหลดไปอ่านฟรีครับ
แต่ผมจำเวปไม่ได้อ่ะ เดี๋ยวดูให้อยู่ที่ทำงาน แล้วจะมาบอกครับ

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ

 

๗ เดือนบรรลุธรรม โดย ดังตฤณ คลิ๊กข้างล่างนี้เลยครับ

http://dungtrin.com/7months/toc.html

 

ลองศึกษาเพิ่มเติมดูครับ

สติปัฏฐาน ๔ คืออะไร ? และ อานิสงส์ของการปฏิบัติ
http://larndham.net/index.php?showtopic=15118&st=0


สมถะ -- วิปัสสนา ต่างกันอย่างไร ?
http://larndham.net/index.php?showtopic=11408&st=0&hl=

แนะแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนา
http://larndham.net/index.php?showtopic=14032&hl=

ทุกข์และการกำหนดทุกข์
http://larndham.net/index.php?showtopic=13285&st=0

จะต้องทำอย่างไร จึงจะได้ชื่อว่าเจริญสติปัฏฐาน ?
http://larndham.net/index.php?showtopic=15955&st=0

การเจริญสติปัฏฐานหมวดพิจารณาอิริยาบถ ๔
http://larndham.net/index.php?showtopic=15688&st=0

 

เยี่ยมเลยครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ ^^

 

นั่นแหละครับ โมทนาครับ

 

อยากไปนิพพานเห็นทุกข์ตัวเดียวครับ

 

อยากไปนิพพานเห็นทุกข์ตัวเดียวครับ <<

อืม ครับ สาธุ ได้ความคิดมาเตือนตัวเองอีกแล้ว

 

ก็ ลองศึกษาพระสายหลวงปู่มั่นดูนะครับ....

....ท่านเทศน์แล้วฮึกเหิม ในการมุ่งสู่นิพพานมากๆๆๆ

 

แนวการปฏิบัติสายหลวงปู่มั่นครับ จะได้เข้าง่ายๆ หรือเผื่อใครหาไม่เจอ อิอิ ^^

--------------------------------------------------------------------------

http://www.palungjit.org/board/forumdisplay.php?f=63



กุศลจิตที่เกิดขึ้นอยู่ภายในใจเรานี้ ใครจะมารู้กับเราด้วยเล่า? นอกจากใจของเราเอง
ฉะนั้น เวลาเราทำดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาก็อาจจะมองเป็นเลวก็ได้
ด้วยเพราะอำนาจของอะไรบางอย่าง ??

 

ทางนี้เป็นทางสายเดียวเป็นทางสายเอกที่จะนำสัตว์โลกพ้นจาก ทุกข์ โทมนัส
ทั้งหลายทั้งปวงคือสติปัฏฐาน 4 กาย เวทนา จิต ธรรม นอกนั้นแล้วไม่มี

 

อ่าน อันนี้สิ ทำแล้วเป็นไง มาเล่าทาง 025792201
หนุ่ม
16.00-21.00
http://mercury.dnswild.com/~suknirun/Patipata/Patipata18.htm
http://mercury.dnswild.com/~suknirun/Patipata/Patipata20.htm
http://mercury.dnswild.com/~suknirun/Patipata/Patipata26.htm
http://mercury.dnswild.com/~suknirun/Patipata/Patipata21.htm

 

1. มีนิพพานเป็นที่ต้องการอย่างแท้จริง
2. ทำตัวอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา
3. วิปัสสนา โดยมีสมาธิเป็นตัวผลัก

*** ถามก่อนว่า พร้อมที่จะทำเพื่อนิพพานแค่ไหน จิตปรารถนาแรงกล้าไหม
*** ทางที่จะดำเนินไป ตามทางของ มรรค 8
*** วิปัสสนา... เกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ในท่ามกลาง ดับไปในที่สุด

 

การให้อภัยครับ

 

6. คำว่า รักพระนิพพานเป็นอารมณ์ คืออารมณ์แบบไหน คนที่ไม่ได้มโนฯ ไม่เคยเห็นพระนิพพาน จะตั้งอารมณ์อย่างไร
.../...ให้มีความเชื่อมั่นตามองค์ประกอบที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่ามีความสุขอย่างยิ่งมีอาการสูญจากกิเลส อารมณ์สองอย่างนี้จะทำให้จิตเป็นสุข หากเปรียบเทียบแล้ว พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญผู้ที่ทำจิตวันหนึ่งว่างจากกิเลสชั่วขณะจิตหนึ่ง การที่มนุษย์เกิดมาย่อมมีกิเลสปรุงแต่งเปรียบเทียบอยู่เสมอว่าเราดีกว่า เลวกว่า เสมอเขา ก่อให้เกิดอกุศลจิตเป็นทุกข์ทางใจอยู่ตลอดกาลสมัย การนำพระกรรมฐาน ๔๐ ในกองใดกองหนึ่งเข้ามาบริกรรมภาวนาแล้วสามารถเบียดบังอารมณ์ที่กล่าวมาข้างต้นย่อมถือว่าจิตว่างจากกิเลสชั่วขณะ ถ้าวันหนึ่ง ทรงอารมณ์ได้มีความว่างจากกิเลสอย่างนี้วันละ ๑ วินาที ที่จิตเบาสบายจากการปรุงแต่งก็เอาหมื่นล้านเข้าไปคูณ ก็จะมีความสุข อยู่ประมาณ ๑ เปอร์เซ็นต์ของพระนิพพานได้ ถ้า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ของนิพพานจะขนาดไหนก็คิดเอาเองก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นแล้วความสุขที่มนุษย์พึงขวนขวายได้จะไม่มีความหมายสำหรับ ความสุขในเทวโลก และพรหมโลกก็ไม่มีความหมายสำหรับเราพระพุทธองค์อยู่ที่ใดเราอยู่ที่นั่น

- ถ้าดิฉันเสียชีวิตก่อนอายุขัยในวัยชรา จะมีโอกาสไปอยู่ภพไหน
../...รีบทำอารมณ์พระอรหันต์เร็วเท่าไรได้ตายก่อนอายุและไปนิพพาน ดีกว่า เพราะอารฒณ์พระอรหันต์มีอยู่นิดเดียวที่ต้องตัด คือ มีวิชชาเห็นว่า ชีวิตนี้เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา หมายความง่ายๆ ทรงอารมณ์วันที่เป็นอรหันต์ว่า ชีวิตของตนเองและบุคคลอื่นไม่มีความห่วงใย ไม่มีความหมายที่จะผูกไว้เป็นของตน พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่เป็นสิ่งประเสริฐอยู่ในนิพพาน พระพุทธเจ้าอยู่ที่ใดต้องไปที่นั้น เพียงคิดเบาๆ วันละเล็ก ละน้อย พอใกล้จะตายจริงๆ อารมณ์จะเต็มนิพพานอยู่ในกำมือเราแล้ว ดูง่ายดีไหมละจ๊ะ

อรูปพรหม กับพระนิพพานอารมณ์ต่างกันอย่างไรครับสงสัยมากๆ ขอบคุณครับ
../...อารมณ์ใกล้เคียงกัน ต่างกันตรงที่อรูปพรหมเข้าสู่ในฌานอรูปสี่อย่างขาดปัญญา แต่พระนิพพานเพียงมีกำลังใจตั้งแต่ปฐมฌานจนถึงอรูปฌานสี่ แล้วเจริญวิปัสสนาญาณดับกิเลสที่เกิดจากปรุงแต่งจากจิตเห็นความเป็นธรรมดาของทุกสิ่งว่าไม่เที่ยงมีพระนิพพานเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน
...ต่างกันตรงนี้เอง

อาจจะไร้สาระไปบ้างแต่ก็อยากจะรู้ว่าในปัจจุบันนี้ยังมีมนุษย์ที่สามารถบรรลุถึงขั้นนิพพานได้ไหมครับ
../....มนุษย์ที่เป็นฆราวาสสามารถปฏิบัติธรรมทรงอารมณ์พระโสดาบันให้ตลอด พอใกล้ตายให้ทรงอารมณ์พระอรหันต์ คือ ต้องการไปนิพพานอย่างเดียว ไม่ห่วงใยภพทั้งสี่อีกแล้ว

-ที่มา ... รวบรวมมาจากกระทู้คนเมืองบัว-

 

ความอยากเป็นกิเลส

ปราถนาหลุดพ้น ให้ทรงอารมณ์เป็นกลางไว้ ศีล สมาธิ ภาวนา มีสติและเชื่อมั่นในพระธรรมวินัย พระธรรมจากพระพุทธเจ้า ตั้งจิตให้แน่วแน่ว่าถ้าตายไปจากภพนี้แล้ว ไม่ขอเวียนไหว้ตายเกิดอีก หากยังไม่ถึงซึ่งนิพพานก้ออธิษฐานขอให้บุญบารมีที่สร้างทำมาทุกภพทุกชาติหนุนนำให้ไปเกิดภพดีๆ โดยเฉพาะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมเพื่อปฏิบัติธรรม เกิดภายใต้ร่มพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานแล

อยากนิพพานจงอย่ากระหายอวดดี แต่จงทำดี เอาดีให้ได้ การทำดีต้องทำด้วยความพร้อม ด้วยจิตมุ่งมั่น เกรงกลัว และละอายต่อการทำบาป ทำจิตให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานต่อพุทธธรรมเสมอ การปฏิบัติไม่จำเป็นต้องเจาะจง เวลา สถานที่ กริยา สภาพแวดล้อม การปฏิบัติควรตั้งมั่นทุกขณะจิตทุกลมหายใจเข้าออก

ทรงอารมณ์ให้ได้สุปกิปันโนให้ได้ก่อนอย่างน้อยๆ

ไม่มีใครบอกได้ว่าใครบรรลุขั้นใดๆ นอกจากพระพุทธเจ้า นอกจากจะบอกได้คร่าวๆว่าขณะที่ท่านปฏิบัติอยู่ขณะนี้หรือขฯนั้นท่านกำลังทรงอารฒณ์อะไร ขั้นใดอยู่ การตรวจจิตก้อเช่นกัน ไม่มีใครเก่งเกินกำลังใจเราได้ ถ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระอรหันต์ อย่างบางคนมาบอกอยากทราบอยากเจอว่าใครมีสีจิตอะไร ใครของจริง ใครของปลอม อยากย้ำว่า เลิกสนใจกริยาคนอื่นๆ เถิด ในเมื่อตัวท่านผู้ตรวจสอบเองไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่อรหันต์ ทำไมท่านจึงจะกล้าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเล่า อย่างเคยมีคนมาบอก โห...หลวงพ่อพระฤษีฯ มีบารมีสว่างจ้า เห็นด้วยตามาเลย แต่พอไปจะทดสอบจิตท่านอีกครา ท่านกับทรงกำลังที่สูงกว่า ทำให้คนที่มาดูบารมีท่านเห็นเพี้ยนเป็นมืดดำไปหมด แล้วจะมาอวดเก่งว่า เอ้า หลวงพ่อดำมืดไปหมด หลวงพ่อไม่มีบารมีที่น่าศรัทธาหรือ แล้วแต่จริตของคน แต่ยายผีป่าขอยืนยันถ้าเราทรงอารมณ์ที่อยู่ตัวแล้ว ใครก้อดูเราไม่ออก แอรมณ์มันมีขึ้นมีลง แล้วแต่กำลังของการทรงอารมณ์นั้นๆ แต่ถ้าถึงขั้นอรหันต์แล้ว อารมณ์เย็น ไม่มีแปรเปลี่ยนแล้วเจ้าค่ะ

เอ...ไหง๋ยายเข้าห้องนี้ พล่ามเลยเถิดล่ะเนี่ย เจ้าคำก้น อุ้ย...คำอ้น..

 

นิพพานนัง ปรมังสุขขัง
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

 

ก็ถ้าช่วยๆกัน ให้กำลังใจ

มันก็ดีกว่าเนอะ

อย่างน้อยเราช่วยออกความเห็นจากพระที่เราเคารพว่าดีจริง ... ก็เป็น "ธรรมทาน"

ยายเป็นคนไปหาพระดีมาเยอะมาก......... ยายมีคำแนะนำที่ดีมากมาย ว่างๆ ก็มาช่วยตอบห้องนี้ด้วยสิ

ส่วนเรื่อง สมาธิ กรรมฐาน .. ยายก็มีประสบการณ์เยอะ อันไหนที่คิดว่าตอบได้มากกว่าเดิม ตอบได้ก็ตอบกันนะ เคิ๊บบบบ....

คร๊าบบ