จักรวาลคืออะไร ความไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย neoth, 11 ตุลาคม 2005.

  1. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +142
    อืมมม... รู้สึกคล้ายๆกับว่าพระเจ้าองค์แรกจะสร้างขึ้นมาเนี่ยแหล่ะ... (b-ng)
    ประมาณว่า เมื่อพระเจ้าจะสิ้นอายุขัยแตกดับไปนั้น พระเจ้าจะทำลายทั้ง 3 โลก และเลือกเทพมาองค์หนึ่งเพื่อที่จะส่งมอบพลังในการสร้างและปัญญาในการสร้างไปให้ ก่อนที่พระเจ้าจะแตกดับเพื่อให้เป็นผู้สืบทอดพลังในการสร้างและเป็นพระเจ้าองค์ต่อไป

    ทีนี้แน่นอน มันก็จะต้องมีคำถามใช่ป่ะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นสืบต่อกันมาแล้วพระเจ้าองค์แรกมาจากไหน?... อันนี้รู้สึกว่าพระเจ้าองค์แรกจะเกิดจากพลังจักรวาลสร้างขึ้นมาอะไรซักอย่างเนี่ยแหล่ะ รู้สึกคล้ายๆกับว่ากฏของจักรวาลมันจะไปกำหนดตรงไหนซักที่ให้มันต้องมีผู้สร้าง เมื่อไม่มีผู้สร้าง พลังจักรวาลเลยจะสร้างผู้สร้างขึ้นมาอะไรแบบนั้นน่ะ เหมือนกับมารก็เช่นกัน รู้สึกคล้ายๆกับว่าพลังจักรวาลมันจะไปกำหนดให้มีฝ่ายดี ( พระเจ้า ) แล้วก็ต้องมีฝ่ายไม่ดี ( มาร ) มาคานพลังกันเสมอ ไม่ว่ายังไงก็จะทำให้ฝ่ายไม่ดีหมดสิ้นไปไม่ได้ เมื่อจักรวาลมีฝ่ายดีซึงก็คือพระเจ้าแล้ว พระเจ้าก็ยังจะต้องสร้างเทพแห่งความเกลียดชังขึ้นมาเป็นฝ่ายไม่ดีเพื่อคานอำนาจกับตนอีกด้วย ( แต่ก็จะต้องสร้างขึ้นมาให้มีพลังและปัญญาน้อยๆ ถ้าฝ่ายไม่ดีมีพลังมากมีปัญญาสูงก็จะแย่ ) ถ้าไม่สร้างฝ่ายไม่ดีแล้วพลังจักรวาลก็จะต้องสร้างฝ่ายไม่ดีขึ้นมาให้แทน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าฝ่ายไม่ดีที่พลังจักรวาลสร้างให้จะทรงพลังและเลวร้ายขนาดไหน ดังนั้นจึงต้องชิงสร้างฝ่ายไม่ดีขึ้นมาก่อนโดยกำหนดไปเลยให้มีพลังและปัญญาน้อยๆจะดีกว่า
    :(
    พระเจ้าองค์แรกที่เกิดขึ้นมานั้น เป็นพระเจ้าที่มีปัญญาสูงมาก และได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา ( พระเจ้าองค์ที่เหลือต่อๆกันมาก็สร้างเพียงแค่โลกทั้ง 3 โลกเท่านั้น ไม่ได้สร้างทั้งจักรวาล ) พลังจักรวาลนั้นมีอยู่เยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่เอามาใช้ไม่ได้ แม้พระเจ้าเองก็เอามาใช้ได้ไม่ถึงครึ่ง ถ้าสามารถนำเอาพลังจักรวาลมาใช้ได้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก วันหนึ่ง พระเจ้าองค์แรกก็นึกสงสัยขึ้นมาว่า ถ้าฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดีมาต่อสู้กัน แล้วฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายชนะ... ผู้ที่ทรงพลังที่สุดอยู่ฝ่ายดีหรือฝ่ายไม่ดีกัน

    พระเจ้าก็ลองนึกดูว่าถ้าลองตัดกายทิพย์ส่วนนั้นส่วนนี้ออกมาแล้วจะสร้างเทพที่มีพลังมากได้ขนาดไหน ลองตัดโน่นลองตัดนี่ดูแล้วก็ยังได้พลังน้อยอยู่ดี... แล้วพระเจ้าก็เหลือบไปมองหัวใจตัวเอง พรางคิดในใจถ้าเป็นไปได้ไม่อยากจะแตะเลย... ( เพราะถ้าพระเจ้าควักหัวใจออกมาจะเสียพลังไป 2 ใน 3 ดังนั้นพระเจ้าจึงจะต้องไม่อยากควักหัวใจออกมาเป็นแน่ ) พอเหลือบมองหัวใจตนเองพระเจ้าก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าควักหัวใจออกมาแล้วสร้างเป็นเทพขึ้นมาหนึ่งองค์แล้วส่งไปช่วยโลก 10 ครั้ง มันจะบรรลุอะไรคล้ายๆโสดาบันจำชื่อไม่ได้แล้วแต่ไม่ใช่โสดาบัน เป็นเลเวลอัพของโสดาบันอีกทีหนึ่ง จะมีอุจครบหมดทุกตัว ใช้พลังจักรวาลได้ แล้วก็ใช้ลูกบอลเก็งกิได้... ( ทุกคนที่ดูดราก้อนบอลคงจะรู้จักลูกบอลเก็งกิอ่ะนะ ที่เป็นลูกแก้วพลังที่รวบรวมพลังจากคนอื่นมาใช้เป็นพลังโจมตีของตัวเอง ) แล้วถ้ามันเกิดในวันมหาชัยสงครามอะไรเนี่ย จำไม่ค่อยได้แฮะโทดที พลังมันจะสูงขึ้นไปอีก

    ดังนั้นจึงได้ข้อสรุปว่า เมื่อฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดีมาต่อสู้กัน ไม่ว่าฝ่ายไม่ดีจะชนะกี่ครั้ง ได้เปรียบกี่อย่าง แต่สุดท้ายแล้วฝ่ายที่จะชนะคือฝ่ายดี ผู้ที่เข้มแข็งที่สุดนั้นอยู่ฝ่ายดี ( และเกิดข้อสรุปที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ ผู้ที่เข้มแข็งที่สุดนั้นจะต้องเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เทพ ) จึงเกิดสูตรสำเร็จขึ้นมาอีกสูตรหนึ่งคือว่า ถ้าเมื่อใดที่เกิดวิกฤตขึ้นโดยที่พลังของพระเจ้าไม่สามารถที่จะแก้ได้ พระเจ้าจะต้องสร้างศาตราวุธปราบมารขึ้นมาโดยสร้างมนุษย์ขึ้นมา แล้วก็ควักหัวใจออกมาในวันมหาชัยสงครามแล้วสร้างเป็นเทพหนึ่งองค์แล้วส่งไปช่วยโลก 10 ครั้ง ( แต่พระศรีอารีย์ไม่ได้เกิดในวันมหาชัยสงครามอะไรนั่นอ่ะนะ ทำให้เมื่อตรัสรู้แล้วจะได้พลังไม่เต็ม )
    (b-malang)
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    จักรวาลไม่มีขอบเขตสิ้นสุดจริงหรือ?... หรือมีเพียงแต่ใหญ่โตมาก?...ดำรงอยู่อย่างนิรันดร์ หรือเพียงแต่มีอายุยืนยาว?

    สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำได้ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับอวกาศ คือ รู้ว่ามันมีอยู่อย่างต่อเนืองกัน จาก"กล้องฮับเบิล"โดยบอกว่าเราได้ประสบความก้าวหน้าอย่างมากทีเดียวในความพยายามที่จะเข้าใจจักรวาล โดยเฉพาะในไม่กี่ปีมานี้ เราได้พยายามต่อจิกซอร์ แม้จะยังไม่ได้ภาพสมบูรณ์ แต่อาจอยู่ไม่ไกลนัก...และรู้ว่าจักรวาลก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปกับกาลเวลาเช่นกัน.. โดยการวิเคราะห์แสงจากกาแลคซี่อื่นๆ ก็สามารถบอกได้ว่าพวกมันกำลังเคลื่อนที่มาทางเรา หรือหนีออกจากเราไป...แสดงว่าพวกมันจะต้องเคยอยู่ใกล้กันมาก่อน และกำลังเคลื่อนที่ห่างออกจากกันโดยดูจากการอัตราการขยายตัวที่กำลังเป็นอยู่ และต้องมีจุดเริ่มต้นจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ (Big Bang)

    แต่อะไรทำให้มันเกิด....ประวัติศาสตร์ที่ยังขาดหายไปครับ..
    ดูแล้วนักวิทยาศาสตร์ส่วนมากก็ยังคงไล่ตามปรากฏการณ์ที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ส่วนที่มองไม่เห็นก็อธิบายออกมาเป็นทฎษฏีต่างๆนาๆที่ดูมีเหตุมีผล ให้คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ บางทีอาจไม่ต่างกับการคาดเดาเหมือนกันนะครับ...เพราะอาจไม่มีใครรู้จริงเหมือนกันไปหมด...แม้แต่พวกเราเอง....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • bigbang.jpg
      bigbang.jpg
      ขนาดไฟล์:
      202.3 KB
      เปิดดู:
      112
    • finalbigbang4a.jpg
      finalbigbang4a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.4 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2005
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    แต่เราก็ต้องขอบคุณนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ครับ..ในการพยายามค้นหาคำตอบที่เอามาให้เราขบคิดกันอย่างแพร่หลาย.. อย่าง สตีเฟ่น ฮอกินส์ ที่พยายามรวบรวมเอาทุกๆทฎษฏี มารวบรวมกันเป็นทฎษฎีใหม่เพื่ออธิบายภาพรวมให้เราได้เข้าใจยิ่งขึ้น..ในเรื่อง The Brief History Of Time หรือ The Universe In A Nut Shell อ่านสนุกมากครับ..ได้จินตนาการไปกับการผจญภัยที่เราชอบ...เพราะถ้าเรารู้อะไรไปหมดชีวิตเราคงไม่น่าตื่นเต้นเลยครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • hawking.jpg
      hawking.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.7 KB
      เปิดดู:
      79
  4. RYO

    RYO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +456
    จักรวาลคือจิตใจของพระเจ้า(มั้ง)
     
  5. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +142
    อืมมมม... ความไม่สิ้นสุดคืออะไร...

    ถ้าหากว่าทุกๆสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ดำเนินไปตามทิศทางของพลัง พลังใดที่มีอำนาจเหนือกว่าก็จะชักจูงเบี่ยงเบนให้กระแสของจักรวาลดำเนินไปตามทิศทางของพลังอำนาจนั้น

    ถ้าหากว่าพลังที่จะมาบีบบังคับให้เราเรียนไม่จบ มีมากกว่าพลังที่จะส่งเสริมให้เราเรียนจบ เราที่ดำเนินไปตามกระแสของอำนาจ ก็จะต้องเรียนไม่จบ ถ้าพลังอำนาจที่มีบีบบังคับให้เราจีบไม่ติด มีมากกว่าพลังอำนาจที่ส่งเสริมให้เราสมหวัง เราก็จะต้องแห้ว และถ้าพลังอำนาจที่จะทำลายเรา มีมากกว่าพลังอำนาจที่เราจะดิ้นรนให้รอด เราก็จะต้องตายอย่างแน่นอน กฏพื้นฐานเรื่อง " ทุกสรรพสิ่งดำเนินไปตามทิศทางของอำนาจ " นี้ เป็นพื้นฐานของกฏธรรมชาติทั้งหมดทั้งมวลที่มีอยู่และจะมีต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด [Embarrass

    หากว่าเราฆ่าคนแล้วจะทำให้แรงอาฆาตที่มีอยู่มีมากกว่าความรู้สึกสงสารอยากให้อภัย ก็จะทำให้เกิดกฏธรรมชาติขึ้นมาว่า " ถ้าฆ่าคน ก็จะถูกตามล้างตามฆ่า " ( เพราะว่าเมื่อแรงที่จะฆ่ามีมากกว่าแรงที่จะอภัย ก็จะทำให้คนเราเลือกที่จะฆ่ามากกว่าเลือกที่จะอภัย ) ถ้าเราโกหก แล้วแรงอาฆาตที่คนอื่นมีต่อเราเมื่อเราโกหก มากกว่าความรู้สึกเห็นด้วยเห็นดีเห็นงามเมื่อเราโกหก ก็จะเกิดกฏธรรมชาติขึ้นมาอีกว่า " ถ้าโกหก จะถูกหลอก " ( เพราะเมื่อคนอื่นไม่ได้เห็นดีเห็นงามว่าเราโกหกนั้นถูก คนอื่นก็จะคิดว่างั้นมันก็โกหกเราเพื่อผลประโยชน์ของมันได้ ) และถ้าเราเล่นชู้ แล้วแรงอาฆาตต่อความเจ็บช้ำที่ถูกทรยศนั้นมากกว่าความรู้สึกสงสารอยากจะให้อภัย ก็จะทำให้เกิดกฏธรรมชาติขึ้นมาอีกว่า " ถ้าเล่นชู้ คู่ของเราจะนอกใจ " ( เพราะเมื่อถูกทรยศเราก็จะคิดว่าเรื่องอะไรจะยอมให้ทำฝ่ายเดียวมากกว่าที่จะยอมให้อภัยแบบโง่ๆแล้วก็ให้เรื่องราวมันหายๆกันไป )

    ดังนั้น จะเห็นว่าเมื่อเกิดแรงกิริยาขึ้นมาต่อบุคคลใดแล้ว จะเกิดแรงขับสองอย่างคือแรงขับด้านดีและด้านไม่ดีขึ้นมาในบุคคลนั้น และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากแรงกิริยานั้น ก็จะดำเนินไปตามทิศทางของแรงที่มากกว่าเสมอ ( เมื่อใดที่แรงด้านดียังมากกว่าแรงด้านไม่ดีอยู่ ปฏิกิริยาก็จะออกมาในด้านดี แต่หากเมื่อใดที่แรงด้านดีน้อยกว่าแรงด้านไม่ดี ก็จะทำให้ปฏิกิริยาออกมาในด้านไม่ดี ) เป็นกฏเหล็กตายตัวของทุกๆสรรพสิ่งในจักรวาลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือสั่นคลอนได้ :)

    ดังนั้น หากจะถามว่าจักรวาลนี้สิ้นสุดหรือไม่ ก็ต้องถามก่อนว่า เรามีกำลังพอที่จะหลุดออกไปจากเส้นของของจักรวาลได้หรือไม่ หากเรามีกำลังพอ จักรวาลนี้ก็มีที่สิ้นสุด... แต่หากเรามีกำลังไม่พอที่จะทำอย่างนั้น จักรวาลนี้ ก็ไม่สิ้นสุด...
    (b-ng)
     
  6. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    จริงๆ แล้วคำถามนี้มีคำตอบในตัวของมันเอง มันก็เหมือนกับคุณอยู่ในห้อง แต่ไม่เห็นผนังห้อง คุณจะรู้ไหมว่ามีผนังห้อง แต่ก็อีกนั่นแหละถึงคุณจะรู้ว่ามีผนังห้องเมื่อคุณออกไปจากห้อง คุณก็จะเจอห้องที่ใหญ่กว่า แล้วคุณก็จะคิดอีกว่ามีผนังห้องอีกหรือเปล่า ถ้าเดินไปถึงผนังห้องแล้วถึงจะรู้ว่ามี สรุปง่ายๆ จะเอาความสิ้นสุดในโลกนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกเกิดจากจิตตราบใดจิตยังมีอยู่ในภพโลกก็ยังทำให้โลกไม่สิ้นสุด เรื่องนี้คิดแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว คิดมากเดี๋ยวหัวหงอก
     
  7. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    แท้จริงแล้วจักวาลเองก็เกิด-ดับ มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
     
  8. กัสสปะ

    กัสสปะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +51
    คุยเสียดี ที่แท้ แพ้กิเลส
    น่าสมเพช เตือนเท่าไร ก็ไม่เห็น
    ว่าเป็นทาส กิเลส อยู่เช้าเย็น
    จะอวดเป็น ปราชญ์ไป ทำไมนา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ค้นธรรมมะ หาทางออก อุ้มกิเลส
    น่าสมเพช จริงๆ เที่ยววิ่งหา
    ตำรานี่ ตำรานั่น สรรหามา
    ได้เป็นข้า กิเลสไป สมใจเอยฯ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
     
  9. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    เมื่อจักรวาลไม่มีที่สิ้ยนสุดขนาดนี้แล้วไม่นึกเบื่อกันมั้งเลยเหรอ
     
  10. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    มดฉลาดที่สุดในตู้กับข้าว มันจะรู้ไหมว่าโลกกลม แล้วมันจะรู้ไหมว่านี่คือประเทศไทย
     
  11. dekart

    dekart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +203
    อีก 5000 ปีไม่ใช่เหรอที่ จะเกิดการล้างโลก.. กลวงพ่อฤาษีบอกไว้ ผมเชื่อ......................... ผมบอกตรงๆ ผมไม่ค่อยสบอารมณ์พวกที่ชอบพูดมั่วๆ ไม่รู้จิง ชอบอ้างนู่นอ้างนี่มั่วแหลก........................
     
  12. สุวรรณา รัตนกิจเกษม

    สุวรรณา รัตนกิจเกษม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +772
    ฮืม ..... มีให้อ่านเยอะ ..ดี ....
     
  13. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    stefaขอยืนยันนะว่า

    พระเจ้ามีหนึ่งเดียว

    ท่านอยู่ยงคงประพันมาจนปัจจุบัน

    ไม่เคยเปลี่ยนพระเจ้าเป็นองค์อื่นเลย
     
  14. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    พระเจ้าคืออมตะ

    พระองค์ไม่มีทางสูญสิ้น

    สร้างโลกด้วยความรัก

    มนุษย์จะต้องอยู่คู่โลกที่สวยงาม
     
  15. vazabe

    vazabe สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    พระเจ้าที่เป็นผู้สร้างมีจริงเหรอ ?
    หากมีจริงทำไมต้องสร้างขึ้นมาด้วยละ
    ทำให้หลายๆคน มีความทุกข์ที่ได้เกิดมา
    (คนไม่มีเหตุผล)
     
  16. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    มนุษย์รู้จักความสุขใช่ไม๊

    มนุษย์ต้องมีความสุขถึงจะรู้จักความทุกข์
     
  17. Ambient

    Ambient สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมขอใช้หลัก ปฏิจจสมุปบาท ตอบ
    ลองทำความเข้าใจในมุมของพุทธศาสนาดูนะครับว่า
    จักรวาลนั้นเกิดด้วยปัจจัยใด

    ปฏิจจสมุปบาท คือ สภาพอาศัยปัจจัยเกิดขึ้น
    การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น
    การที่ทุกข์เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยต่อเนื่องกันมา มีองค์คือหัวข้อ ๑๒ ดังนี้
    เพราะอวิชชา เป็นปัจจัย สังขารจึงมี
    เพราะสังขาร เป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
    เพราะวิญญาณ เป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
    เพราะนามรูป เป็นปัจจัย สฬายตนจึงมี
    เพราะสฬายตนะ เป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
    เพราะผัสสะ เป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
    เพราะเวทนา เป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
    เพราะตัณหา เป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี
    เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัย ภพจึงมี
    เพราะภพ เป็นปัจจัย ชาติจึงมี
    เพราะชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
    โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงมีพร้อม
    ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมีด้วยประการฉะนี้


    ขอให้พิจารณาข้อที่กล่าวว่า "เพราะวิญญาณ เป็นปัจจัย นามรูปจึงมี"
    คำว่าวิญญาน ในพุทธศาสนา หมายถึงการรับรู้ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้มี นามรูป
    นามรูป คือ สรรพสิ่งต่างๆ ทั้งเป็นรูปธรรม และ นามธรรม
    รูปธรรม คือสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยทวาร 5 ตา หู จมูก ลิ้น โผฏฐัพพะ
    นามธรรมคือ สิ่งที่รับรู้ด้วย จิต การนึกการคิด

    ถ้ากล่าวแปลตรงๆ สรุปสั้นๆคือ จักรวาลทั้งหมดนั่นละ อยู่ในจิตใจเรานั่นเอง
    คราวนี้ฟังดูแล้วขัดๆกับสิ่งที่เราเคยรู้มาก่อนใช่ไหมครับ
    นี่ละครับสิ่งที่พุทธศาสนาต่างจากคัมภีร์อื่น ความลึกซึ้ง ลึกล้ำในคำตอบ เป็นปริศนาธรรมที่น่าคิด
    สิ่งที่เป็นคำถามต่อมาว่า คุณรู้็จักอำนาจของจิตเราดีแค่ไหน และ เราจะรู้็อำนาจจิตได้อย่างไร
    สิ่งที่ผมแนะนำได้คือ การรู้จัก อำนาจของจิตนั้น มีสอนในพระไตรปิฏกอย่างละเอียด ไม่มีคัมภีร์ใดละเอียดเท่า
    หลายสิ่งหลายอย่างนั้นเกินจินตนาการ เป็นอจินไตย คือคิดไปก็ไม่มีทางคิดออก ต้องสัมผัสด้วยตนเอง
    ปัจจัตตัง เวทิตโพ วิญญู หิติ เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน
    หวังว่าคำตอบของผมพอจะมีประโยชน์ในแง่คิดในนเรื่องจักรวาลไร้ขอบเขตบ้างนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2005
  18. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    พระเจ้าสรรค์หาจิตแห่งความสนุกสนาน

    จิตแห่งความครึกครื้นหลายรูปแบบ

    จิตที่สวยงามบริสุทธิ์ละเอียดยิบ

    เพื่อถ่ายทอดให้แก่มนุษย์แล้ว
     
  19. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    ปัจจุบันท่านให้มนุษย์ลองใช้ความละเอียดของจิตตัวเอง

    ตรวจสอบดูอารมณ์
     
  20. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,790
    มุขตลกขบขันจากการดูโฆษณาในโทรทัศน์อย่างเดียว

    อย่าเอาเรื่องอื่นเข้ามาแทรกแซง

    เราจะได้อารมณ์ขันที่น่ารักมากมาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...