คนเราเกิดมาพร้อมกับสมบัติ ๕ แน่ ควรยินดี ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รักเสมอ, 26 เมษายน 2008.

  1. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    คนเราเกิดมาพร้อมกับสมบัติควรดีใจหรือไม่หนอ ?

    ใน อภิณหปัจจเวกขณสูตร

    พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้พิจารณาหลักธรรม
    ที่ควรพิจารณาบ่อยเนืองว่า

    . เรามีความแก่เป็นธรรมดาจะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้

    . เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาจะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้

    . เรามีความตายเป็นธรรมดาจะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้

    . เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งหลายทั้งปวงไป

    . เรามีกรรมเป็นของตนเป็นผู้รับผลของกรรมเป็นผู้มีกรรมนำเกิดเป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยเราจักทำกรรมอันใดไว้ดีหรือชั่วก็ตามจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น (อย่างแน่นอน)

    หลักธรรมนี้ถ้าจะกล่าวให้สั้นอีกหน่อยเพื่อจำง่ายขึ้นคือ

    . เราต้องแก่แน่นอน
    . เราต้องเจ็บไข้แน่นอน
    . เราต้องตายแน่นอน
    . เราต้องมีการพลัดพรากแน่นอน
    . เราต้องรับผลของกรรมที่ทำไว้แน่นอน

    ถ้าจะกล่าวสรุปให้สั้นลงอีกเพื่อจะได้ตรึกหรือระลึกถึงได้โดยสดวกยิ่งขึ้นคือ

    . แก่แน่
    . เจ็บแน่
    . ตายแน่
    . พลัดพรากแน่
    . รับผลกรรมแน่

    ที่เห็นใช้กันมากคือข้อที่มักจะนำมาใช้เป็นคำบริกรรมภาวนาว่า
    ตายแน่

    น่าจะเป็นการเจริญมรณัสสติกรรมฐานโดยทางอ้อมนั่นเอง

    ท่านสมาชิกได้รับกันมาคนละ "กี่แน่" แล้วครับ...

    ส่วนใหญ่แล้วคงจะได้รับกันมาแล้วทุกข้อเหลือเพียงข้อเดียวคือ...

    ข้อ "ตายแน่" นั่นเอง

    ทีนี้ตามที่มีสำนวนพูดกันว่า

    ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
    ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน

    จะนำมาใช้กับหลักสัจธรรมความจริงนี้ไม่ได้ครับ

    เพราะทั้ง "แน่" นี้จะต้องเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอนนั่นเองครับ
    ไม่มีหนทางใดที่จะหลบหลีกรอดไปได้เลย
    แม้จะเดินทางหนีไปอยู่โลกอื่นก็ตาม...

    "แน่" นี้ก็จะติดสอยห้อยตามเป็นเงาตามตัวไปตลอดไม่เลิกลา
    เพราะเป็นสมบัติติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดนั่นเอง

    (สมบัติแปลว่าความถึงพร้อม)

    นอกใครจะเข้าถึงความ ไม่มีรูปนามตัวตน

    ที่จะมารองรับ "แน่" ซึ่งยังอยู่ในขั้นสมมติสัจจะเท่านั้น

    ผมคิดว่า...ตั้งใจทำความดีทุกประการ รักษาศีล ปฏิบัติธรรม

    เพื่อคอยต้อนรับ "ความแน่ข้อ ๓" ด้วยใจที่สงบผ่องใสสดชื่น

    ดุจดังได้พบกับสมบัติเก่าที่ติดตัวมาตอนเกิด

    (แต่หลงลืมไปไม่ทราบว่าไปอยู่ ณ ที่ใด)
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    [​IMG]


    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2008
  3. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    "แม้มนุษย์จะตระเตรียมต่อการตาย มนุษย์เฝ้าบอกตัวเอง...อย่ากลัวตาย...หากพอเริ่มเดินทาง มนุษย์จะหวาดหวั่นว่าจะเจอกับอะไร เจ็บปวดมากน้อยแค่ไหน มนุษย์จะจินตนาการไป และที่กลัว คือกลัวภาพที่ตนจินตนาการนั้น ครั้นมนุษย์ไปหยุด ณ แดนที่จะย่างเข้ามรณกาล ได้รับรู้...ตาย...มิใช่อะไรเลย ตายคือการสลัดพันธนาการ ไปสู่ความสว่างแห่งจิต มนุษย์จึงคร่ำครวญอีกเมื่อถูกลากกลับมาเข้าที่คุมขัง เฉกนักโทษที่เอื้อมมือแตะอิสรภาพแล้ว เพียงก้าว จักพ้น หากต้องกลับเข้าห้องคุมขังดังเดิม"

    จากนิยาย ทิพยอาภา โดย มายาวดี
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    สัตว์โลกย่อมเป็นตามกรรม มีความตายเป็นที่ไป เกิดแล้วต้องตายทุกคน สาธุ
     
  5. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    شكراًَ
     
  6. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ... น่าจะเป็นสิ่งน่ายินดี ที่ผู้ใดเกิดมาแล้วรู้ว่า ความแน่นอน ทั้ง๕ คืออะไรบ้าง จะได้เข้าใจชีวิต ว่า ต้องเจอเข้าสักวัน
    คนทุกคน คงเจอมาแล้ว อย่างน้อย ๔ แน่ (อาจมีบางคนเคยตายแล้วฟื้น จะเจอมาแล้ว ๕ แน่ ถือว่าได้เปรียบคนอื่น เป็นกำไร ที่จะได้ตาย 2 ครั้ง :eek: )

    ขอเปลี่ยนสำนวน ให้ใหม่ ว่า
    " ความแน่นอนคือ ๕ ข้อนี้แน่แน่
    ความไม่นอนแน่ คือความไม่แน่นอน ..."

    แต่ไม่เข้าใจ คำว่าสมบัติเก่า ที่ติดตัวเรามา ตั้งแต่ตอนเกิด คืออะไรคะ
    (ทำไมต้องมีการหลงลืม ... อยู่ภายนอกตัวตนเรา หรืออย่างไร ? )

    ขออนุโมทนา กับผู้ตั้งใจ ทำความดี รักษาศีล ปฏิบัติธรรม
    เพื่อต้อนรับ "ความแน่ ข้อสาม" ด้วยความสุข สวัสดี ด้วยเถิด .... สาธุ
     
  7. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    ตอบคุณน้ำใสไหลเย็น

    แต่ไม่เข้าใจ คำว่าสมบัติเก่า ที่ติดตัวเรามา ตั้งแต่ตอนเกิด คืออะไรคะ
    (ทำไมต้องมีการหลงลืม ... อยู่ภายนอกตัวตนเรา หรืออย่างไร ? )


    คำว่า "สมบัติ" แปลว่า ความถึงพร้อม

    ทรัพย์สิน คือ สมบัติที่อยู่ภายนอกตัว

    ลักษณะของรูปร่างหน้าตา เป็นสมบัติของร่างกาย ในส่วนรูปธรรม ที่ติดตัวมาแต่เกิด

    ความแก่ ความเจ็บ และความตาย เป็นสมบัติ (ความถึงพร้อม) ของร่างกาย ในส่วนนามธรรม

    คือติดอยู่ในร่างกายของเรานี่เอง แต่ทว่าเราไม่อาจมองเห็นด้วยตาเนื้อได้

    จะมองเห็นได้ด้วย ตาปัญญา เท่านั้น

    หรือจนกว่า ความแก่ชราจะปรากฏให้เห็นชัด (อัปปฏิจจฉันนชรา)

    จนกว่า ความเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างหนักจะมาเยือน (อัปปฏิจฉันนพยาธิ)

    และจนกว่า ความตายจะมาถึงเข้าจริง ๆ (อัปปฏิจฉันนมรณะ)

    พระพุทธเจ้าทรงรู้ว่า พวกเราพากันลืมสมบัติเก่ากันไปเสีย

    จึงได้ทรงแสดงธรรมข้อนี้ เพื่อตักเตือนพวกเรา มิให้ลืมเลือน

    เพื่อจะได้พากันตั้งตน อยู่ใน ความไม่ประมาทขาดสติ นั่นเองครับ
     
  8. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    ความปกปิด และ ความเปิดเผย คืออะไร

    คนหนุ่มคนสาว ที่ยังไม่เห็นร่องรอยของความแก่ ชื่อว่า

    ปฏิจจฉันนชรา...ความแก่ที่ถูกปกปิด คือ ยังไม่เปิดเผยให้เห็น

    คนที่ปัจจุบันยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีอยู่ ชื่อว่า

    ปฏิจจฉันนพยาธิ...ความเจ็บป่วย หรือโรคภัย ที่ถูกปกปิดไว้ ยังไม่ปรากฏในขณะนี้

    คนเราที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ตาย ชื่อว่า

    ปฏิจฉันนมรณะ...ความตายที่ถูกปกปิดไว้ ยังมองไม่เห็น แต่มันก็ไม่ได้อยู่ที่อื่น แฝงอยู่ในร่างกายของเราทุกคนนี่เอง

    เมื่อทุกสิ่งที่กล่าวมา ปรากฏตัวให้เห็นชัดเจนแล้ว

    จึงเรียกว่า

    อัปปฏิจจฉันนะ คือ ไม่มีการปกปิดกันอีกต่อไปแล้ว นั่นเองครับ
     
  9. Noppadol.Ve

    Noppadol.Ve เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +245
    โอ๋ ! ! นี่ชีวิตผมผ่านมา 4 แน่แล้วล่ะซี

    ที่ถามว่า ควรยินดีหรือไม่ ?

    ข้อ แก่ เจ็บ และพลัดพราก คงไม่น่ายินดีหรอกครับ

    แต่ข้อรับผลกรรม ก็คงจะยินดีในส่วนของกรรมดี ที่ได้รับผลดีตอบแทนแล้วละครับ

    ส่วนกรรมไม่ดี มานั่งนึกภายหลัง

    เฮ้อ...เวรกรรม

    ทำไปทำไมก็ไม่รู้ ทีหลังอย่าทำ ทีหลังอย่าทำ

    ไม่ดี ไม่เอา แล้วครับ
     
  10. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    คุณ s_klongkleaw กล่าวว่า

    อนุโมทนาครับ "ความตายอยู่ใกล้เราตั้งแต่เกิด"

    ถูกต้องครับ....ใกล้ขนาดไหนหรือครับ

    ขนาด..หายใจได้ยิน นั่นแหละครับ

    ความจริง จะเรียกว่า อยู่ในตัวเรา เลยก็ได้ครับ

    เพราะมีมาพร้อมกับความเกิดของเรานั่นเอง

    และเปรียบเสมือนดังเงาติดตามตัวเราอยู่ตลอดเวลาเลยนั่นเองครับ
    <!-- / message -->
     
  11. Noppadol.Ve

    Noppadol.Ve เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +245
    "ความตายอยู่ใกล้เราตั้งแต่เกิด"

    ใกล้ขนาดไหนหรือครับ

    ขนาด..หายใจได้ยิน นั่นแหละครับ


    ผมก็เคยได้ยินพระอาจารย์ท่านหนึ่งพูดเหมือนกันว่า

    พระนิพพานอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล....หายใจได้ยิน ! ! !

    พอจะเปรียบเทียบกันได้หรือเปล่าครับเนี่ยะ
     
  12. Nok Nok

    Nok Nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +3,297
    ขอกราบอนุโมทนาบุญ 1,000,000 ครั้ง
    กับความรู้ทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^


    [​IMG][​IMG][​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...