ปัญหาธรรมชิงรางวัลสด ๆ ร้อน ๆ ครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รักเสมอ, 25 เมษายน 2008.

  1. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    ขอเชิญร่วมตอบปัญหาปริศนาธรรม ชิงรางวัล

    โดยจะรับเป็นเงิน พระพุทธรูป หรือหนังสือธรรมะ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ครับ

    ข้อ ๑. เรารักเขามาก แต่เขาไม่รักเราเลย

    ข้อ ๒. เรารักเขามาก แต่เขารักเราเพียงครึ่งเดียว

    ข้อ ๓. เขารักเราและหวังดีต่อเรามาก แต่เรากลับไม่ค่อยได้คิดถึงเขาเลย

    ข้อ ๔. เขาเกลียดเราและคอยทำโทษอยู่ แต่เรากลับไม่ค่อยกลัวเขาเลย

    ข้อ ๕. พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบสิ่งใดว่าเป็น "อสรพิษ" สำหรับเรา

    ขอเชิญร่วมสนุกกับปัญหาธรรมทั้ง ๕ ข้อนี้

    เป็นปัญหาทางธรรมทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับทางโลกครับ
     
  2. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    สวัสดีค่ะ ท่านรักเสมอ เข้ามาแอบดูแล้ว แต่ขอสละสิทธิ์ค่ะ เพราะไม่ประสงค์จะนำความดีของท่านผุ้มีพระคุณมาทำลายเสียเอง

    ยิ้มภูมิใจที่จะสละทรัพย์มากโขของตน(แต่อาจจะน้อยนิดของท่านอื่น)เช่าท่านมาเพื่อความสุขและพอใจของตนเองมากกว่า

    ขอบพระคุณในความหวังดีค่ะ สวัสดี
     
  3. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    ตอบนะครับ แต่ไม่เอารางวัลนะ ขอแค่เพื่นธรรมสักคนก็อิ่มใจแย้ว
    1 ร่างกายเราครับ
    2 ทรัพย์สมบัติครับ
    3 ญาติพี่น้อง ครับผม รวมทั้งมารดาบิดาด้วยครับ
    4 ผลแห่งการสร้างกรรมครับ
    5 ท่านเปรียบทรัพย์สมบัติเป็นดัวอสรพิษขอรับ

    ๅม่ทราบว่าจะถูกหรือผิดนะครับ ขอบคุณครับ
     
  4. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    ขออนุโมทนาคุณลักยิ้มครับ
    แต่ไม่เห็นร่วมสนุกตอบคำถามอะไรมาเลยครับ

    ขออนุโมทนาคำตอบของคุณ เราไม่ต่างกัน
    ตอบมาถูกต้อง ๒ ข้อ ครับ

    คำตอบที่เหลือ จะเฉลยในวันต่อไป

    ขอชื่นชมทั้งสองท่าน ที่บอกว่าไม่ขอรับรางวัล
    ขอบคุณมากครับ
     
  5. pom980095

    pom980095 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +181
    ขอร่วมสนุกด้วยคน

    ข้อ ๑. เรารักเขามาก แต่เขาไม่รักเราเลย
    ร่างกายของเรา

    ข้อ ๒. เรารักเขามาก แต่เขารักเราเพียงครึ่งเดียว

    สติ

    ข้อ ๓. เขารักเราและหวังดีต่อเรามาก แต่เรากลับไม่ค่อยได้คิดถึงเขาเลย
    กุศลกรรม

    ข้อ ๔. เขาเกลียดเราและคอยทำโทษอยู่ แต่เรากลับไม่ค่อยกลัวเขาเลย
    อกุศลกรรม

    ข้อ ๕. พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบสิ่งใดว่าเป็น "อสรพิษ" สำหรับเรา
    อวิชชา

    ยากเหมือนกันนะคะ แต่ก็อยากจะตอบ
     
  6. กตัญญ์ปัฐน์

    กตัญญ์ปัฐน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    อืมนะ น้องชายเราตอบถูกสองข้อ เก่งจังนะ นายลิงกังเอ้ย
     
  7. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    ขอนุญาติเดา ค่ะ
    ข้อ ๑. เรารักเขามาก แต่เขาไม่รักเราเลย
    ร่างกายของเรา

    ข้อ ๒. เรารักเขามาก แต่เขารักเราเพียงครึ่งเดียว

    เดา ไม่ถูก ค่ะ

    ข้อ ๓. เขารักเราและหวังดีต่อเรามาก แต่เรากลับไม่ค่อยได้คิดถึงเขาเลย
    สวรรค์
    ข้อ ๔. เขาเกลียดเราและคอยทำโทษอยู่ แต่เรากลับไม่ค่อยกลัวเขาเลย

    นรก


    ข้อ ๕. พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบสิ่งใดว่าเป็น "อสรพิษ" สำหรับเรา

    เงิน , ทรัพย์สมบัติ
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ข้อ ๑. เรารักเขามาก แต่เขาไม่รักเราเลย

    ตอบ ทรัพย์สมบัติ


    ข้อ ๒. เรารักเขามาก แต่เขารักเราเพียงครึ่งเดียว

    ตอบ ลูกและภรรยา(สามี) เรารักเขามากแต่ยามเราตายเขาได้แต่จัดงานศพให้เราแต่เขาไม่สามารถตายตามเราไปได้


    ข้อ ๓. เขารักเราและหวังดีต่อเรามาก แต่เรากลับไม่ค่อยได้คิดถึงเขาเลย


    ตอบ บิดามารดา ญาติพี่น้อง

    ข้อ ๔. เขาเกลียดเราและคอยทำโทษอยู่ แต่เรากลับไม่ค่อยกลัวเขาเลย


    ตอบ อกุศลกรรม บาปกรรม

    ข้อ ๕. พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบสิ่งใดว่าเป็น "อสรพิษ" สำหรับเรา



    ตอบ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย
     
  9. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    สาธุเฮียปอ ตอบได้ชัดเจนที่สุดครับ โยงหาการปฏิบัติเพื่อพาตนออกจากทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2008
  10. รักเสมอ

    รักเสมอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +235
    คำตอบข้อที่ ผู้ที่ตอบถูกคือ

    คุณ
    เราไม่ต่างกัน pom980095 yochan และ อิสวาร์ยาไรท์

    คำตอบข้อที่ ๒ ผู้ที่ตอบถูกคือ

    เฮียปอ ตำมะลัง

    คนที่เรารักเขามาก จะเป็นใครก็ตาม เขาก็จะติดตามไปส่งเราได้เพียงแค่เชิงตะกอนเท่านั้นเอง

    คำตอบข้อที่ ๓

    โดยตรงหมายถึง พระนิพพาน

    รอง ๆ ลงมา คือ พรหมโลก และ เทวโลก

    ที่เปิดประตูอ้ารอคอยการเข้าไปของเราอย่างยิ่ง เมื่อเข้าไปแล้ว ก็มีแต่ความสุข

    แต่คนส่วนมากกลับไม่ค่อยคิดจะถึงกันเลย

    ส่วนกุศลกรรม หรือบุญทั้งหลาย นั้น เป็นเพียงตัวเหตุปัจจัย ที่จะให้ได้บรรลุถึงผลนั้น

    คุณ อิสวาร์ยาไรท์ ตอบมาว่า สวรรค์ ก็ต้องถือว่าถูกครับ

    คำตอบข้อที่ ๔ คุณ อิสวายาไรท์ ตอบถูก

    ที่จริงหมายรวมถึง อบายภูมิทั้ง ๔ เลยก็ได้ครับ

    เพราะจัดเป็นทุคติภูมิเช่นกัน

    ส่วนของคุณ เราไม่ต่างกัน ที่ตอบว่า ผลแห่งการสร้างกรรม นั้น

    ยังไม่ชัดครับว่า สร้างกรรมอะไร เพราะกรรมมี ๒ คือ

    กุศลกรรม และ อกุศลกรรม

    และแม้เป็นอกุศลกรรม หรือบาปทั้งหลาย ก็เป็นเพียงตัวต้นเหตุที่จะนำเราให้ไปสู่ทุคติภูมิ นั้น

    คำตอบข้อที่ ๕ โดยตรงได้แก่ เงิน

    ในนิทานธรรมบทมีเรื่องเล่าว่า

    คราวหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านไปที่ทุ่งนาแห่งหนึ่ง ทรงชี้ไปที่ถุงเงินกหาปนะ

    (ซึ่งพวกขโมยได้มาทิ้งเอาไว้) และตรัสกับพระอานนท์ว่า

    ดูกรอานนท์ เธอเห็นอสรพิษนั่นไหม
    ?

    คุณ เราไม่ต่างกัน และ อิสวายาไรท์ ตอบถูกครับ

    (งูพิษถ้าเราไม่ไปรบกวน เขาก็จะไม่ทำอันตรายอะไรกับเรา และยังมีประโยชน์ในระบบนิเวศน์วิทยา คือช่วยกำจัดหนู ไม่ให้มีมากเกินไป จนมาทำลายข้าวหรือพืชอย่างอื่น
    เงินทองถ้ารู้จักใช้ ก็มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ถ้าใช้ไม่เป็น ก็อาจนำมาซึ่งทุกข์โทษได้ และบางครั้งก็อาจนำมาซึ่งอันตรายแก่ชีวิตของเราได้เช่นกัน)

    ส่วนคำตอบที่ว่า อวิชชา และ กิเลส นั้น ถ้าพูดในแง่นามธรรม ก็ไม่น่าจะผิด

    เพราะกิเลสทรงเปรียบว่า ดุจดังไฟ ที่สามารถแผดเผาจิตเราให้เร่าร้อน และอาจเป็นเหตุทำให้ถึงแก่ความตายได้เช่นเดียวกัน

    ส่วนที่ เฮียปอ ตำมะลัง ตอบว่า

    ความแก่ ความเจ็บ และความตาย นั้น

    ข้อนี้ ท่านจัดว่าเป็นสัจธรรมของชีวิตครับ เป็นของคู่กันมากับทุกชีวิต ดุจดังเงาตามตัวตลอดเวลา

    ที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงออกผนวช เพราะทรงเห็นว่า ความแก่...ฯ นั้น เป็นภัยอันใหญ่หลวง ที่ครอบงำประชาชน ซึ่งพระองค์จะต้องปกครองดูแลในอนาคต ในฐานะกษัตริย์

    จึงทรงออกผนวชเพื่อแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมที่จะช่วยให้คนทั้งหลาย ได้หลุดพ้นเสียได้จาก ความแก่...ฯ นั้น

    เพื่อคนทั้งหลายจะได้ไม่ต้อง แก่ เจ็บ และตาย อีกต่อไป

    แต่ในที่สุด ก็ทรงค้นพบว่า เมื่อมีชาติ คือ ความเกิด ขึ้นมาแล้ว ก็ไม่มีหนทางใดเลย ที่จะช่วยป้องกันมิให้ แก่ เจ็บ ตาย ได้

    มีหนทางเดียวเท่านั้นคือ ดับตัวต้นเหตุที่ทำให้ต้องเกิดขึ้นมาเสีย

    สิ่งนั้นคือ สมุทัย ได้แก่ ตัณหา ๓ นั่นเอง

    ตัณหา ๓ จึงอาจเปรียบดัง อสรพิษ ได้ครับ

     
  11. Noppadol.Ve

    Noppadol.Ve เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +245
    แต่ในที่สุด ก็ทรงค้นพบว่า เมื่อมีชาติ คือ ความเกิด ขึ้นมาแล้ว ก็ไม่มีหนทางใดเลย ที่จะช่วยป้องกันมิให้ แก่ เจ็บ ตาย ได้

    แม่แต่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถจะค้นพบวิธีที่จะทำให้คนเราไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตายได้

    แต่เคยดูภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องชุบชีวิตคนตายแล้ว (ผีดิบ)
    ให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก

    ซึ่งไม่ทราบว่าทำได้จริงรึเปล่า

    แต่ถึงจะจริง ก็คงจะต้องกลับตายเหมือนเดิมอีกนั่นแหละ

    สรุปแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ยังคงเป็น

    สัจธรรม

    ความจริงแท้แน่นอนอยู่ตลอดไปนั่นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...