การป้องกันผีหลอกในโรงแรม

การป้องกันผีหลอกในโรงแรม
นี่คือความเชื่อบางข้อของบรรดาเจ้าของธุรกิจโรงแรม

โรงแรมทุกๆ แห่งนั้น ย่อมจะมีอย่างน้อยหนึ่งห้องที่ซึ่งถูกปล่อยให้ว่างไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าโรงแรมห้อง เต็มขนาดไหน พวกเขาจะไม่ขายห้องนั้นให้กับแขกคนใดทั้งสิ้น ว่ากันว่าห้องพิเศษห้องนั้นได้ "สงวนไว้" สำหรับ "แขกพิเศษเหล่านั้น" ฉะนั้น เมื่อคุณมีแผนที่จะเข้าพักในโรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่ง ควรจองล่วง หน้าไว้ก่อนเสมอ

พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าพักแบบวอล์คอิน (Walk in) ถ้าพนักงานต้อนรับได้บอกคุณไปแล้วว่าไม่เหลือ ห้องว่างอีกต่อไปแล้ว จงอย่าได้ดื้อดึงอยู่ต่อหรือพยายามติดสินบนพวกเขาเพื่อที่จะให้พวกเขาให้ห้องพักแ ก่คุณ ถ้าหากคุณทำอย่างนั้น เกือบทุกครั้งที่ห้องที่คุณได้ไปจะเป็น "ห้องพิเศษ"ที่ว่านั่น และอีกเช่นกันที่ บางครั้ง "แขกพิเศษ" เหล่านั้น อาจจะโผล่ไปที่ห้องอื่นๆ ด้วย ดังนั้นนี่คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าคุณจะป้องกันตัวคุณเองได้อย่างไร

- ก่อนที่จะเข้ายังห้องพักของคุณ จงเคาะประตูก่อนทุกครั้ง แม้คุณจะรู้ว่านี่เป็นห้องว่างก็ตาม

- หลังจากที่เข้าไปอยู่ในห้องแล้ว หากคุณรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในทันทีทันใด และมีอาการ "ขนลุก" จง ออกจากห้องไปเงียบๆ และโดยทันที แล้วไปหาพนักงานต้อนรับเพื่อขอเปลี่ยนห้องใหม่ โดยส่วนใหญ่แล้ว พนักงานต้อนรับจะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

- หลังจากอยู่ภายในห้องแล้ว จงเปิดไฟให้ครบทุกดวงในทันที พร้อมกับเปิดผ้าม่านเพื่อ ปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามา

- ก่อนเข้านอน จัดวางรองเท้าของคุณให้อยู่ในลักษณะกลับหัวกลับหางกัน บางคนบอกเอาไว้ว่านี่เป็น การแสดงถึงหลัก "หยิน-หยาง"เพื่อคุ้มครองคุณขณะที่คุณหลับ

- จงเปิดโคมไฟทิ้งไว้อย่างน้อยดวงหนึ่งขณะที่คุณหลับ ยิ่งเป็นไฟในห้องน้ำยิ่งดี

- หากคุณพักคนเดียว และห้องคุณเป็นเตียงคู่ อย่าเข้านอนโดยปล่อยให้อีกเตียงหนึ่งว่างเปล่า พยายามนำสิ่งของไปวางไว้เช่น กระเป๋าเดินทาง ที่เตียงว่างอีกเตียงหนึ่งก่อนที่คุณจะหลับ

 

หากเป็นเตียงเดี่ยวล่ะ ให้หาอะไรมาวางไว้ป่ะ หรือเขาจามานอนด้วย อิอิอิอิ

ตามที่ได้ลองใช้มานะครับ ก็ให้ไหว้พระภูมิเจ้าที่ด้วยความเคารพ และก่อนนอนให้สวดมนต์บ้าง แต่ให้แผ่เมตตาก่อนทิ้งหัวลงนอน ครับ

 

ก่อนนอน ก็สวดมนต์ไหว้พระ บอกเจ้าที่เจ้าทาง รับรองหลับสบายหายห่วง

 

จะได้ไม่เหงาไง กึ๋....ย

 

เคยได้ยินแล้วอ่ะครับเรื่องนี้เนี่ย แต่หลังๆผมชักเจอบ่อยล่ะ

 

เคล็ดลับอื่นๆที่เคยได้ยิน เช่น
-ให้เอาเงินหรือเหรียญวางที่มุมเตียงเพื่อเป็นการซื้อที่
-ให้เลื่อนเตียงออกจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อย จะทำให้ผีจำไม่ได้

 

ถ้าจวนตัว ก็ มงกุฏพระพุธเจ้าครับพี่

 

สาธุ ผมเองนอนโรงแรมมากกว่านอนบ้านตั้งแต่ปี 2537-2550 เพราะเป็นคนขายของตะลอนไปทั่วเมืองไทยจนชราแล้ว ไม่เคยเจอน่ะ และไม่อยากเจอด้วย ก็บอกกล่าวเขา ขอเขาก่อนนอน ปัจจุบันตกงานเลยนอนบ้านมากกว่าแต่ก่อน วันดี คืนดียังฝันว่านอนโรงแรมอยู่เลย เวรกรรม เวรกรรม สาธุ

 

อันนี้สงสัยมากจิงๆครับคือเพื่อนเค้าเล่าให้ฟังว่าตอนที่เพื่อนไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงพยาบาลของคริสอ่ะครับแล้วแม่เพื่อนเค้าจะต้องสวดมนต์ก่อนนอน พอหลับแม่เค้าก็ฝันว่าเหมือนเป็นผีหรืออะไรสักอย่างมาหลอกอ่ะครับ แล้วอย่างนี้ขนาดสวดมนต์ยังกันไม่อยู่จาทำงัยดีครับ เคยได้ยินอยู่หลายเรื่องเหมือนกันที่ว่าสวดมนต์แต่ก้แพ้ผีอ่ะครับเป้นเพราะอะไรครับช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ ของคุณและอนุโมทนาครับผม

 

สรุป เราก็เป็นผีเช่นเดียวกัน แต่ยังมีลมหายใจ เขาเลยก็ยังเรียกว่าคน
จิตเกิดจักรวาลเกิด จิตดับจักรวาลดับ

ติชมเวบธรรมะเพิ่งเกิด ไม่รู้จะรอดหรือไม่ ได้ที่ www.watnai.org

 

เมื่อก่อนผมเป็นเซลขายสินค้า ต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งจำได้ไม่เคยลืม ผมไปพักโรงแรมในตัวจังหวัดลพบุรี (ไม่บอกชื่อละกัน ... แต่โรงแรมจะอยู่ใกล้โรงพยาบาล) พักอยู่ชั้นสองจำห้องไม่ได้แล้วเป็นเตียงใหญ่สามารถนอนได้สองคน ผมเข้าไปพักกับเพื่อนที่ไปด้วย ช่วงที่เข้าไปในห้องผมก็รู้สึกแปลก ๆ คือไม่รู้เป็นงัย ผมคิดในใจว่าห้องนี้อาจจะมีคนตาย เวลาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำผมก็ดูพื้นกระเบื้อง ดูผนังของห้องน้ำว่าจะมีรอยเลือด อะไรหรือเปล่า พออาบน้ำเสร็จ ก็ออกมานอนดูทีวี ซึ่งคืนนั้นรายการทีวีเกือบทุกช่องจะเป็นหนังผี.... เวลาประสองทุ่มเพื่อนผมก็ขอตัวออกไปหาซื้อบุหรี่ ส่วนผมก็ดูหนังผีไปอีกสักหน่อย ก็สวดมนต์ไหว้พระแล้วก็นอนหลับไป ผมนอนไปได้สักหน่อย เวลาก็ประมาณ ตีสองกว่า ๆ ลักษณะการนอนผมนอนคว่ำ ผมลืมตาตื่นขึ้นมามองไปที่ปลายเตียงซึ่งจะมีทีวีและตู้เสื้อผ้า ผมก็เห็นเป็นเงาของผู้หญิงผมยาวใส่ชุดราตรีสีขาวโชว์ไหล่ด้านซ้าย แต่มองไม่เห็นหน้าเพราะภายในห้องเป็นแสงสลัว ๆ มองไม่ชัด ระยะห่างจากหน้าผมไปยังที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ก็ราว ๆ สัก 6 เมตร ครั้งแรกที่เห็นผมยังคิดไปว่าเป็นผ้าเช็ดตัวสีขาวที่แขวนทิ้งไว้ที่บานประตูตู้เก็บเสื้อผ้า แต่พอคิดดูอีกทีลักษณะผ้าที่แขวนไว้ มันต้องเป็นรูปสามเหลี่ยม พอคิดไปคิดมาได้ดังนั้นก็รู้ทันทีว่าเป็นผีแน่ ๆ ผมก็เลยลองขยับตัว ก็ทำได้ปกติไม่ได้โดนผีอำ แต่พอรู้ตัวว่าเกิดความกลัวขึ้นมาทำให้หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น ผมก็คิดไปว่าเรามาพักเรามาดีไม่ได้ไปทำร้ายใคร ก็เลยนอนต่อไปโดยไม่สนใจเธอที่มายืนที่ปลายเตียง ...ช่วงที่ผมเจอผมก็ไม่สังเกตุว่าเพื่อนผมมานอนด้วยหรือยังเพราะผมนอนคว่ำและหันหน้าเข้ากำแพง ก็เลยเป็นการนอนที่หันหลังให้เพื่อนโดยอัตโนมัติ...... พอเช้าขึ้นมาผมเช็คเอ้าท์ออกห้องเวลา 8.00 น. ก็ถามเพื่อนว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายไหม เขาก็บอกว่าเมื่อคืนได้เจอผู้หญิงยืนอยู่ที่ปลายเตียง เขาก็เลยรุกขึ้นแล้วรีบเข้าไปหาเธอ แต่เธอก็หายไปเฉย ๆ ผมว่ามันคงบ้ามาก ๆ ดีที่ผีเค้าไม่โกรธ.... และเช้าวันนั้นเวลาเราขับรถยนต์เพื่อจะไปต่อที่จังหวัดขอนแก่น ภายในรถจะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดทางจนกระทั้งถึงที่พักที่จังหวัดขอนแก่น กลิ่นก็หายไป..... หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมา ผมไปนอนที่โรงแรมไหน ผมจะเปิดไฟทิ้งไว้ตลอดคืนทั้งคืน ถึงแสงมันจะแยงตาบ้างก็ยอม ดีกว่าจะโดนแบบเดิมอีก บรืออออ...... คิดแล้วยังเสียวไม่หาย