เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    ธรณีพิโรธ

    คำเตือน!! ประเทศไทย !! กับการรับมือภัยพิบัติ จากโพสต์ที่ผ่านมาวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025

    ประเทศไทย 28 มีนาคม 2568 เกิดแผ่นดินไหว เกิดความเสียหายรุนแรงเป็นประวัติศาสตร์ ทั้ง ๆ ที่อยู่ไกลจากจุดศูนย์กลาง นับพันกิโล

    ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลองย้อนไปพิจารณาอ่านกันอีกครั้งค่ะ นัยยะต้องการสื่อเตือนอะไร?

    ขอแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ

    ข้อความเริ่มแรกเลยเป็นการสื่อโดยตรงจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการพิมพ์รายละเอียดเพื่อขยายความเพิ่ม แต่ ...มีเหตุดลใจให้ไปกดตัวออกไป กลับมา ข้อความส่วนที่จะขยายหายไป คงเหลือแต่ข้อความสำคัญ สั้น ๆ ไม่เข้าใจคิดว่าบังเอิญ จึงพิมพ์ขยายใหม่ เพื่อความแน่ใจ ทีนี้ลองออกไปจากโพสต์ กลับเข้ามาใหม่ข้อความคงเหลือแบบเดิม เหมือนที่ลงครั้งแรก จึงตัดสินใจโพสต์ไปตามที่เหลือนั้น

    การแก้ไขเพราะว่า มีคำว่า ธรณีพิโรธ ขึ้นมาในใจ จึงกลับมาแก้ไข

    และมั่นใจว่า ข้อความสำคัญของโพสต์นี้ ถูกกำหนดโดย สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน นะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2025
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    สอบถามผู้รูู้ เกี่ยวกับนิมิตรที่เกิดขึ้นค่ะ

    Jityim เป็นคนธรรมดามาก วัน ๆ ก็อยู่คนเดียว สันโดด ชอบความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย สวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง ส่วนใหญ่จะเรียนรู้กายและใจเป็นหลัก

    ตนเองไม่ได้รู้เรื่องราวทุกเรื่อง การรับรู้ใด ๆ เกิดมาจากมีข้อมูลต่าง ๆ ปรากฎขึ้นมาเอง ในขณะที่กำลังดูอยู่ เช่นในสื่อโซเชียลต่าง ๆ ปรากฎขึ้นมาให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ปรากฎขึ้นในใจ

    บางครั้ง ก็มีความคิดผุดขึ้นในใจขึ้นมา หรือมีองค์ความรู้เกิดขึ้นให้ได้รู้ แล้วก็ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลที่ให้ได้รู้เห็นต่าง ๆ เช่นสื่อโชเชียล ตามที่ปรากฎข้างต้น

    และสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาในใจ เหมือนมีแรงผลักดันให้ต้องทำ ถ้าฝืนหรือปฏิเสธเหมือนต้องติดอยู่อย่างนั้น ไปต่อเรื่องอื่น ๆ ไม่ได้

    และการทำในสิ่งที่เกิดขึ้นในกระทู้นี้ เรื่องราวต่าง ๆ ที่นำมาให้พิจารณาล้วนเกิดจากข้อมูลที่เกิดขึ้นเองจากภายในประกอบกับข้อมูลส่งมาให้โดยบังเอิญ เพื่อให้เชื่อมโยงกัน

    คนที่เข้ามาอ่านเสมอ ๆ จะรู้ดีว่า แต่ละโพสต์ที่ปรากฎว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละโพสต์จะเล่าให้ฟังไปพร้อมด้วยเสมอ เพื่อเป็นข้อมูลพิจารณา ว่าเชื่อถือได้หรือไม่ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าความเป็นจริงนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะเป็นจริงแค่ไหน!!

    นั่นเป็นนิมิตรที่เกิดขึ้นในใจที่ปรากฎขึ้นมาให้ได้รับรู้ และเป็นเหตุ เป็นผล เพื่อให้พิจารณา ในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ต่อชาติบ้านเมือง และมวลมนุษยชาติ

    ส่วนนิมิตร ทีเกิดจาก การเห็นเป็นรูปร่าง ที่ชัดเจนที่เกิดจาก กึ่งหลับ กึ่งตื่น คือข่วงที่งีบหลับ และกำลังจะตื่น ปรากฎขึ้นมา เป็นรูปที่ชัดเจนมาก พนายามจะลืมตา รูปนั้นก็ไม่ยอมหายไป คือ...

    รูปกระบอกปืน ที่ค่อย ๆ ก่อตัวทีละน้อย แล้วเห็นภาพชัดเจน จนเด่นชัด แล้วค่อย ๆ หันกระบอกปืนเข้าามาหา jityim พยายามจะลืมตา ก็หายไปแว๊บหนึ่งและปรากฎขึ้นอีกครั้ง เป็นเวลาหลายวินาที

    นิมิตรที่ปรากฎขึ้นในใจ กับนิมิตรที่ปรากฎขึ้นตอนกึ่งหลับ กึ่งตื่น 2 สิ่งแตกต่างกันอย่างไร คะ

    นิมิตรแรก พอจะเข้าใจว่า หมายถึงสิ่งใด เพราะอะไร?

    ส่วนนิมิตรสอง ไม่เข้าใจ คืออ่ะไร ต้องการสื่อเรื่องใด จะเป็นจริงแค่ไหน แล้วต้องการให้ทำอย่างไร นะค่ะ

    ก็เลยอยาสอบถามผู้รู้ว่า สิ่งที่ jityim กำลังทำ ถ้ายัอนกลับไปดูโพสต์แรก ก็จะปรากฎไปป๊อบอัพขึ้นมาเอง โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่า การปรากฎขึ้นมาเองนั้น เพราะอะไร ในใจคิดว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องการให้ทำต่อมั้ง

    และข้อมูลต่าง ๆ ล้วนเป็นเหตุและผลเพื่อพิจารณา
    เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติที่มวลมนุษย์ชาติต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อเอาชนะภัยธรรมชาติได้ต้องทำอย่างไร

    Jityim คิดว่าตนเองกำลังทำประโยชน์เพื่อคนอื่นๆ ต้องการให้รอดพ้น และหลุดพ้นจากอันตรายจากภัยธรรมขาติอันใหญ่หลวงเหล่านี้

    ขอสอบถามผู้รู้ว่า นิมิตรกระบอกปืนที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากสาเหตุใด และนิมิตรนี้เชื่อถือได้ไหมคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2025
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    สัญญาณเตือน "แผ่นดินไหว" ขนาดใหญ่
    Earthquakes watch Begins Now

    และแล้ว..มนุุษย์โลก ก็สามารถใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ปรากฎการณ์ที่มาของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เป็นภัยพิบัติของมนุษย์ ได้แล้วว่าเกิดจากสาเหตุใด

    มีข้อมูลจากนักธรณีวิทยา ที่เป็นวิทยาศาสตร์ให้มนุษย์โลกได้รับรู้ว่า สัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว มาจากสาเหตุใด



    ส่วนคลิปด้านล่างนี้เป็นข้อมูลที่บันทึกในประวัติศาสตร์ขัอมูลแผ่นดินไหว ไมว่าจะเป็นแผ่นดินไหวจากญี่ปุ่นสึนามิ ปี 2011 หรือแผ่นดินไหวสึนามิเกิดขึ้นในไทยจากทะเลอันดามัน ปี 2004 แม้กระทั่งล่าสุดเกิดที่ประเทศพม่า (ล่าสุด) ปี 2025

    https://www.youtube.com/live/81FAIQOznb8?si=HNsiZicX9u8eGzLR

    ตั้งแต่ ปี2018 jityim ได้นำข้อมูลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำมาบอกกล่าวว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อขาวโลกบอกว่าไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เฝ้าติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก แล้วรอดู หลังจากนั้นไม่นานจะเกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในโลก

    ซึ่ง Jityim จะกล่าวไว้หลายครั้งว่า ถ้าได้รับรู้มวลคลื่นพลังงานแรงดันสูงในอากาศ ยิ่งมีกำลังแรงสูง เสียงในอากาศจะเสียงดังมาก และมีการรับรู้การเคลื่อนหรือขยับตัวใต้พิภพ หรือ อาการกวัดแก่วงสัดส่ายของโลกจะเกิดขึ้นให้รับรู้ได้

    สิ่งศักดิ์สิทธ์ได้สื่อเตือนว่า หมายถึงอะไร!!??

    เพื่อเป็นการช่วยเหลือโลก เพื่อยกระดับพลังงานต่อระบบโลก จะต้องใช้พลังงานมหาศาล เนื่องจากจิตสำนึกของมนุษย์โลกมีการสั่นสะเทือนด้านบวก เพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาให้แก่ระบบโลกในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โลกจึงมีพลังงานใหม่ทดแทนที่เสียสมดุลไปไม่มากพอ การถ่ายเทพลังงานจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาสู่ระบบโลก จึงมีความจำเป็น

    เมื่อพลังงานที่ถูกส่งเข้ามาใหม่มีความเข้มข้นสูง กายภาพของโลกย่อมได้รับแรงกระตุ้นให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงตามไปด้วย

    ซึ่งกระบวนการดังกล่าว มีทั้งพายุหมุน แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด

    พายูหมุน ทันทีที่คลื่นแม่เหล็กความความถี่สูงเดินทางจากชั้นบรรยากาศมาสู่โลกเป็นระลอกนั้น จะเกิดปฏิกิริยากับคลื่นพลังงานไฟฟ้าที่ดำรงอยู่ในสนามพลังงานโลก ก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กฉับพลัน ก่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มนุษย์ต้องเผชิญ ฟ้าผ่า น้ำท่วม วาตภัยร้ายแรง

    แผ่นดินไหว สิ่งที่จะบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า ต้องมีที่ใดที่หนึ่งเกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 วันก่อนเสมอ โดยทิ้งระยะห่างเป็นเดือนหรือสัปดาห์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเกิดที่เดียวกันเสมอ อาจเกิดคนละซีกโลกก็ได้

    นี่เป็นกระบวนการหนึ่งในการคืนพลังงานที่เสียสมดุลไปให้แก่ระบบโลกอยู่เป็นระยะ ๆ ช่วงใดที่โลกเสียสมดุลทางพลังงานไปมาก มนุษย์จะต้องเผชิญกับสภาวะแผ่นดินไหวรุนแรงมากน้อยถี่บ่อยตามสัดส่วนที่เสียสมดุลไปเสมอ ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อสร้างพลังงานใหม่ขึ้นทดแทนที่สูญเสียในระดับกลาง โดยพยายามให้มนุษย์กับโลกบอบช้ำน้อยที่สุดเสมอ

    สาเหตุของแผ่นดินไหวตามธรรมชาติมักเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกของรอยแยกตามแนวยาวเหล่านั้นโดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายดังที่รู้กันอยู่ คลื่นพลังงานแม่เหล็กความถี่สูง ซึ่งถูกส่งเข้ามายังกายภาพของโลก ส่วนที่เหลือจากการสร้างพายุแม่เหล็กใต้ธรณี ทำให้ของไหลและโลหะแข็งใต้พื้นโลกคายพลังงานออกมาจำนวนมาก จนสามารถเคลื่อนย้ายตนเองด้วยพลังงานมหาศาลนั้น ปรากฏการณ์การสั่นสะเทือนทางกายภาพของโลกจึงเกิดขึ้นตามความรุนแรงของพลังงานที่โลกคายออกมา

    บริเวณที่เกิดไม่จำกัดว่าจะเป็นภาคพื้นทวีปหรือใต้มหาสมุทร แต่ถ้าเกิดใต้มหาสมุทรมันจะก่อเกิดคลื่นยักษ์ที่พร้อมแสดงพลังอำนาจของมัน สู่บริเวณที่ตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ได้รุนแรงมากเช่นกัน ถ้ามันคลำหาเป้าที่จะคายพลังงานออกมาไม่ได้ มันจะสามารถรอนแรมเดินทางไปได้เรื่อยๆ แม้จะมีเวลานานเป็นสัปดาห์จนกว่าจะถึงเป้าหมายเลยทีเดียว

    ภูเขาไฟระเบิด การกระทำที่รุนแรงสูงสุดนี้ จะดำเนินการก็ต่อเมื่อต้องการผลการกระทำขั้นสูงสุดเท่านั้น

    จักรวาลจะใช้วิธีการสร้างพายุแม่เหล็กอย่างรุนแรงบริเวณใต้พื้นโลกส่วนที่เป็นโลหะร้อน ซึ่งสะสมพลังงานไว้อย่างมากมายให้มันคลายพลังงานออกมา เพื่อเคลื่อนย้ายไปที่ทางที่กำหนดไว้ การเคลื่อนย้ายแนวของโลหะแข็งแทนที่ของไหลที่ถูกผลักดันออกมา จึงจะเกิดขึ้นมันเป็นกระบวนการเพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางของแนวแกนแม่เหล็กโลกให้เบี่ยงเบนไป เพื่อวางระบบเครือข่ายของเส้นแรงแม่เหล็กโลกระบบใหม่นั่นเอง

    ข้อมูลดังกล่าวจากสถิติมักจะเกิดขึ้นปรากฎการณ์ต่างๆ ขึ้นก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวเสมอ ยกเว้นกรณีแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ประเทศพม่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่เกิดแผ่นดินไหว ก่อนเกิด "คลาส" วันที่ 29 มีนาคม 2568 1 วัน แสดงว่าพลังงานที่ถูกส่งเข้ามายังมีคลื่นความรุนแรงสูงมากกว่าปกติ จึงเกิดแผ่นดินไหวก่อนเกิดเหตุการณ์ของ"คลาส " ซึ่งเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก(เคยกล่าวไว้ที่ผ่านมามีแผ่นดินไหวก่อนคลาส )



    น่าจะมีสาเหตุอะไรบางอย่างที่ตักเตือนประเทศพม่า และ jityim คิดว่าเรื่องนี้คงไม่บังเอิญ



    สำหรับประเทศไทย ได้ลงข้อมูลในกระทู้ด้านล่างว่า แดนสยาม อาจไม่ใช่เมืองที่ปลอดภัยอีกแล้ว เพราะสาเหตุใด

    https://palungjit.org/threads/รวมพลคนเตือนภัย-ยกตัวอย่างตึก-สตง-ถล่ม.819996/

    ซึ่งได้เจอข้อมูล สัญญาณเตือนก่อนเกิดแผ่นดินไหวจาก คลิปก่อนหน้า ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ออกแจ้งข้อมูลให้รู้ว่ามีการบันทึกประวัติที่เก็บข้อมูลเอาไว้ และบังเอิญตรงกัน (นำมาให้พิจารณาบอกกล่าวกัน)



    ซึ่งได้เจอข้อมูลแผ่นเปลือกโลกแถบทะเลอันดามันที่ยังที่ยังมีโอกาสเสี่ยงสูง (เกี่ยวข้องที่จะเกิดขึ้นกับประเทศพม่าทางตอนใต้ด้วย)

    และประเทศไทยกรณีน้ำท่วมโลกตามญาณทรรศนะของผู้หยั่งรู่จะเกิดได้ กรณีนี้ (ภาคใต้จะหายไป น้ำท่วมภาคกลาง อีสานจะเป็นชายทะเล)



    และกรณี

    https://youtu.be/woxOcrxhNiE?si=WpvVmXC4V4Oc6H71

    ส่วนกรณีน้ำท่วมโลกจากเหตุปัจจัยนี้

    https://youtu.be/OvezOED0LqY?si=-w5oMS2_xHKOnAB8

    ข้อมูลต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาให้ jityim ใด้รับรู้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ทุกข้อมูลล้วนเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

    ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ อาจจะส่งผลในอนาคตรุ่นต่อไปให้รับรู้และเข้าใจ หรือแม้แต่รุ่นปัจจุบันนี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับมวลมนุษยชาติจะตัดสินใจเลือก ถ้าปัจจุบันเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอนาคตก็เปลี่ยนแปลง ถ้าปัจจุบันสถานการณ์โลกยังเหมือนเดิม ก็ส่งผลถึงอนาคตรุ่นต่อๆ ไป

    ไม่รู้ว่าโลกจะเป็นเช่นไร มวลมนุษยชาติล้วนช่วยเหลือโลกและกำหนดชะตากรรมร่วมกันได้

    มนุษย์สามารถช่วยเหลือโลกได้มนุษย์จะต้องเรียนรู้ที่จะมอบพลังงานความรักให้แก่เพื่อนมนุษย์และทุกสรรพสิ่งในระบบโลก ซึ่งเป็นระบบเดียวกันผ่านประสบการณ์การอดทน อดกลั้น และการให้อภัยด้วยสำนึกที่ถูกต้องแท้จริงให้จงได้

    ดาวเคราะห์โลกจะบอบช้ำมากเพียงใด และมนุษย์จะต้องเผชิญชะตากรรมรุนแรงระดับใดมนุษย์ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอย่างยิ่ง

    สิ่งที่เคยสงสัยว่า ทำไมข้อมูลต่าง ๆ ทำให้jตนเองได้พบเจอ บางทีก็มีคำตอบมาให้ว่าเพราะอะไร

    หรือความบังเอิญ คือ ความจงใจจากจักรวาล

    IMG_20250422_211848.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2025
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

    ลองพิจารณาข้อมูลนี้ประกอบไปด้วยก็ได้ค่ะ เพราะการรับรู้ของ jityim อาจพิสูจน์ได้โดยยาก คลิปวีดีโิอนี้ จากนักวิทยาศาสตร์เเกี่ยวกับแผ่นดินไหวทางธรณีวิทยา

    Earthquake activity is picking up and sticking mojor cities การขยับตัวของเปลือกโลก หรือ แผ่นดินไหวเริ่มมีมากขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ

    https://www.youtube.com/live/r4waLapTjAM?si=kkxeZC1zrLoo6qVn


    IMG_20250424_131338.jpg


    บางทีอาจทำให้เราฉุุกคิดขึ้นมาก็ได้ว่า...ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโลกกำลังบอกอะไรกับเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2025
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    การเข้าถึงแก่นแท้ทางจิตวิญญาณ

    ใครที่ดูข่าวในหลวง พระราชินีเสด็จเยือนภูฏานบ้างคะ ใครดูแล้วแล้วเกิดความรู้สึกที่น้ำตาไหลแห่งความรักและตื้นตันใจออกมาบ้างคะที่เห็นในหลวงพระราชินี และประชาชนประเทศภูฏานทำการต้อนรับในหลวงและพระราชินีของเรา



    การเล่าข่าวและภาพที่เห็นทำให้ความรู้สึกร้องให้ออกมา ซึ่งเป็นน้ำตาของความแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ที่เห็นความรักและความปรารถนาดีอย่างจริงใจที่ทั้งสองประเทศมีให้ต่อกัน ซึ่งความซึ้งใจและความอบอุ่นในหัวใจนี้ ทำให้เรารู้สึกเกิดความยินดีและปีติ ทำให้น้ำตาไหลออกมา เพราะทำให้เรารู้สึกว่าชาวภูฐานรักสถาบันพระมหากษัตริย์ รักคนไทย และประเทศไทย จึงทำให้เรารู้สึกรักต่อประเทศภูฏานอย่างมาก มีความปราถนาดีอยากให้ปวงชนประเทศภูฏานมีความสุข ความเจริญ ตอบกลับโดยยอัติโนนัติ เพราะความรู้สึกที่มีการปฏิบัติกระทำต่อกัน

    ความรู้สึกนี้ jityim ไม่ได้มีคนเดียวอย่างแน่นอน เป็นความรู้สึกของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศของผู้ที่มีหัวใจแห่งความเป็นคนไทยที่มีความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์




    IMG_20250429_085219.jpg

    การมอบพลังงานรักอันบริสุทธิ์ที่มีให้ต่อกัน ถ้าในขณะใดที่มนุษย์เกิดสั่นสะเทือนด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ละเอียดขึ้น อันเป็นสภาวะของจิตที่บริสุทธิ์ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วย ความรัก ความเมตตา ความปีติเบิกบานและความปรารถนาที่จะให้ ในอันที่จะนำมาซึ่งความปีติยินดีมีสุขของผุ้ที่จะได้รับในสิ่งใด ๆ ที่ตนจะมอบให้แล้ว กลไกการผลิตพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติด้านบวกของตนก็จะถูกกดปุ่มขึ้นมาทำงานในทันทึ การสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกทั้งของตนเองและผู้อื่น มีผลอย่างยิ่งต่อกระบวนการในมิติทางพลังงานที่ตาเปล่ามองไม่เห็น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    เตือนภัย!!การขยับตัวของเปลือกโลก

    ในช่วงเดือนที่ผ่านมา สุริยะจักรวาลได้มีการปรับความสมดุลพลังงานของสุริยะจักรวาลทั้งระบบ โดยคลื่นพายุสุริยะส่งเข้ามาระบบดาวเคราะห์โลก และดาวเคราะห์ทั้งระบบสุริยะจักรวาล โดยเฉพาะดาวเคราะห์โลกที่ต้องที่กำหนดให้เป็นผู้นำในการฉุดรั้งดาวเพื่อนทั้ง 8 ดวง รวมทั้งดวงจันทร์ ให้โคจรไปรอบจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ คือ ดวงอาทิตย์



    ในระบบสุริยะจักรวาลแห่งโลกนี้ หรือจักรภพนี้ แต่ละดวงมีเส้นทางการโคจรไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ของตนได้อย่างสม่ำเสมอและคงที่ จนดำรงตนเองอยู่ในระบบจักรภพเดียวกันได้อย่างสมดุลหรือลงตัวตลอดมาได้เนิ่นนานนับล้านล้านปี ก็เพราะมีดาวเคราะห์โลกดวงนี้เป็นผู้รับผิดชอบฉุดรั้งช่วยเหลือโดยแท้

    เพราะดาวเคราะห์โลกเป็นผู้ฉุดรั้งก้าวนำ เพื่อชักพาดาวเพื่อนทั้ง 8 ให้โคจรไปรอบๆดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของระบบจักรภพนี่เอง มนุษย์จึงมิต้องประหลาดใจเลยว่า

    เหตุใดเส้นทางการโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวง จึงมีลักษณะเป็นวงรีและอยู่ในระนาบเดียวกันทั้งสิ้น เพราะดาวเคราะห์แต่ละดวงเป็นผู้ก้าวตามดาวเคราะห์โลกนั่นเอง

    ดาวเคราะห์โลก เป็นจุดกึ่งกลางหรือเป็นจุดศูนย์กลางของทรงกลมที่เรียกว่า "ระบบเอกภพ" ซึ่งเป็นระบบใหญ่

    ความสำคัญของคำว่าจุดกึ่งกลางหรือจุดศูนย์กลางของระบบ ก็คือมันจะต้องมีพิกัดคงที่จะเคลื่อนย้ายไปจากเดิมไม่ได้ เพราะหากเคลื่อนย้ายพิกัดตำแหน่งจุดศูนย์กลางของวงกลมหรือทรงกรมไปจากเดิม วงกลมหรือทรงกลมนั้นจะบิดเบี้ยวไม่เป็นวงกลมหรือทรงกลมดังเดิมอีกต่อไป
    และแน่นอนว่าทุกสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ภายในบริเวณพื้นที่วงกลมหรือดำรงอยู่ภายในทรงกลมเดียวกันนั้นก็จะเกิดอาการเสียสมดุลกันตามไปด้วย

    การปะทะกันหรือการชนระหว่างสรรพสิ่ง และการแตกระเบิดของสรรพสิ่งภายในระบบย่อย ในอันที่จะนำไปสู่เหตุแห่งการทำลายระบบใหญ่ทั้งระบบคือ"เอกภพ" ให้พินาศย่อยยับ ดั่งทฤษฎี "โดมิโน่" จะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวิถีทางกายภาพโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

    เมื่อดาวเคราะห์โลกดวงนี้ เหวี่ยงหมุนรอบตัวเองช้าลงกว่าพิกัดที่กำหนดไว้ อาการที่ปรากฏขึ้นจะเกิดอาการแกว่งหรือสัดส่ายไปมาในขณะหมุนรอบตัวเอง

    ความจริงที่แท้จริงที่กำลังเกิดขึ้นกับดาวเคราะห์โลกอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อพิกัดของระนาบที่สมดุลของเอกภพจะต้องเบี่ยงเบนไปจากเดิม

    เนื่องจากแนวแกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลก ได้เกิดเบี่ยงเบนไปจากพิกัดตำแหน่งเดิมมากขึ้น เหตุเพราะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองช้าลง จึงยังผลให้แนวระนาบของระบบเอกภพเบี่ยงเบนไปทางซ้ายเพิ่มขึ้นจากกันเหมือนเดิมที่สมดุลอยู่ 0.2 องศา

    มนุษย์ยุคปลายพลังงานเก่าสามารถเข้าถึงการใช้ปัญญาอย่างอันเกิดจากสมองซีกขวานำซีกซ้ายกันได้ยากขึ้น

    เพราะค่าสนามแม่เหล็กของสมองทั้ง 2 ซีกไม่สมดุลกัน โดยสมองซีกซ้ายเกิดการอสมมาตรกับสมองซีกขวามากเกินปกติ อันเนื่องมาจากแนวระนาบของเอกภพเบี่ยงเบนไปทางซ้าย 0.2 องศาจากแนวระนาบปกตินั่นเอง

    นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดจากการเสียสมดุลของระบบโลก อันเกิดจากน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกถูกทำให้เพิ่มขึ้นเกินพิกัดที่โลกจะรับไหว ซึ่งมันจะมีผลกระทบต่อเอกภพที่เป็นระบบใหญ่ แล้วในที่สุดมันก็จะส่งผลกระทบย้อนกลับในทิศทางของมุมสามเหลี่ยม คืนสู่มวลมนุษย์โลกในฐานะผู้ก่อเหตุเองเข้าจนได้

    การเป็น"เพื่อนของโลก" แต่ละสรรพสิ่งที่อยู่ในระบบโลก จึงหมายถึงการเป็นผู้ทำหน้าที่ผลิตสร้างประจุไฟฟ้าบวกป้อนให้แก่ดาวเคราะห์โลกของตนนั่นเอง

    เมื่อมนุษย์ไม่สามารถทำหน้าที่ช่วยเหลือโลกได้ การที่ส่งคลื่นพายุสุริยะเข้ามาในระบบโลก เป็นการช่วยเหลือโลกยกระดับพลังงานโลกให้กลับมาสมดุลดังเดิม โดยสิ่งที่ต้องแลกมาภัยพิบัติ การขยับตัวของเปลือกโลก เพื่อคลายพลังงานที่สะสมเอาไว้ นั่นคือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโลก

    เมื่อโลกรับพลังงานพายุสุริยะจากนอกโลก ระดับพลังงานสูงขึ้น ทำให้มนุษย์บางส่วนมีการยกระดับจิตใจและสติปัญญาสูงขึ้นด้วย

    แต่ด้วยความไม่เสถียรของพลังงานในโลก มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โลกเสียสมดุลทางพลังงานลดลง พลังงานจากนอกระบบโลก คือพายุสุริยะจึงถูกส่งเข้ามาเรื่อย ๆ ผลกระทบจากภัยพิบัติจึงตามาเป็นระยะตามค่าพลังงานที่เสียสมดุลไป โดยเฉพาะเขตวงแหวนแห่งไฟ ที่ทำให้เปลือกโลกขยับและคลายพลังงานออกมา จึงมีผลกระทบและเฝ้าระวัง




    ผลที่ตามมาเมื่อพลังงานของโลกเพิ่มขึ้น มนุษย์ส่วนใหญ่ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงจะถูกยกระดับจิตใจและสติปัญญาสูงขึ้นตามไปด้วย

    หากมนุษย์คนใดไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง จะสร้างปัญหาให้กับสังคมและระบบโลก สังคมนั้นประเทศนั้นจะประสบกับภัยพิบัติอันใหญ่หลวงตามวาระกรรมของคนในประเทศนั้น

    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สัญญาณการขยับตัวของเปลือกโลกเริ่มปรากฎขึ้นอีกครั้ง ก็ยังนึกอยู่ว่าช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา ไม่ได้รับรู้พลังงานของโลก ถึงแม้จะมีพายุสุริยะเข้ามา คลื่นพลังงานของโลกก็
    สงบนิ่งไม่รับรู้การขยับเขยื้อน

    และวันนี้ก็เจอข่าวใหญ่อิสราเอล กับอิหร่าน ก็ตรงกับการขยับของโลกพอดี ตามข่าวสถาณการณ์จะรุนแรงหรือไม่รุนแรง การที่นอกโลกส่งพลังงานเข้ามาในระบบโลกย่อมมีผลกระทบตามไปด้วย

    IMG_20250613_205929.jpg
    IMG_20250613_205910.jpg IMG_20250613_205853.jpg

    มนุษย์บางคนอาจสงสัยว่า ปกติแล้วแม็กโตสเฟียส หรือสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งแผ่ออกไปในชั้นบรรยากาศรัศมี 60,000 กิโลเมตร มีชั้นของสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งคอยป้องกันพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์ และคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กย่านความถี่ที่เป็นภัยต่อมนุษย์ เอาไว้อย่างดีแล้ว จนแม้กระทั่งอุกกาบาตขนาดใหญ่ ก็ไม่อาจฝ่าแนวกั้นที่ว่านี้เข้ามาทำลายโลกได้ แล้วเหตุใดจึงไม่อาจต่อต้านคลื่นพลังงานแม่เหล็กความถี่สูง ที่ถูกส่งเข้ามายังระบบโลกเพื่อการชำระโลกได้ คำตอบก็คือสนามแม่เหล็กโลกมันจะสามารถป้องกัน หรือต้านยันคลื่นความถี่แม่เหล็กจากพายุสุริยะดวงอาทิตย์ หรือจากแหล่งใดในจักรวาลก็ตาม ที่เป็นพลังงานเข้มข้นไม่เกินระดับ 3 ยุคพลังงานเก่าที่ผ่านมา ไม่เกินระดับ 6 ยุคพลังงานใหม่นี้เท่านั้น หากพลังงานที่ส่งเข้ามายังระบบโลกมีระดับพลังงานสูงเกินกว่าที่กำหนดค่าไว้ ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกเองก็ไม่สามารถต้านทานมันเอาไว้ได้เลย

    ระดับพลังงานที่ถูกส่งตรงเข้ามายังโลกคือระดับ 7 ซึ่งโลกไม่อาจต้านทานได้ นอกจากจะมีการสร้างร่างแหโครงข่ายสนามแม่เหล็กพิเศษคอยป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่งเท่านั้น

    แม้การตัดสินใจเพื่อการชำระโลก ครั้งนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้วก็ตาม มนุษย์ยังมีเวลาบรรเทาความบอบช้ำของโลก จากภัยพิบัติที่จะรุนแรง และลดทอนเคราะห์ภัยตนเองกับเพื่อนมนุษย์สังคมเดียวกันจะต้องเผชิญลงได้บ้าง

    มนุษย์จะต้องทำเป็นหมู่คณะ ทำเป็นกลุ่มเป็นสังคมไม่ใช่ใครบางคน เนื่องจากพลังงานด้านบวกจะจิตสำนึกใหม่ที่ถูกต้องของหมู่คณะหรือสังคมจะถูกปลดปล่อยออกมาเป็นแสงสว่างในมิติคู่ขนานซึ่งตาเปล่ามองไม่เห็น แสงสว่างจิตสำนึกของมนุษย์จะจับกลุ่มกันเป็นเมฆปกคลุมเหนือแผ่นดินนั้นไว้อย่างหนาแน่นก็เท่า ๆ กับปริมาณที่ปลดปล่อยออกมา เหมือนเป็นคล้ายร่างแหที่แข็งแกร่งปกคลุมเหนือแผ่นดินนั้นเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง โคร่งข่ายสนามแม่เหล็กคล้ายร่างแหนี้ จะถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะที่เท่านั้น มันมีไว้คอยดูดซับกักเก็บคือพลังงานแม่เหล็กความถี่สูง ซึ่งเป็นพลังงานนอกระบบที่ส่งเข้ามาในโลกโดยลดความรุนแรงลงอยู่ระดับที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ผู้อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น

    จุดดับบนดวงอาทิตย์มันจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสนามแม่เหล็กบนพื้นผิวดวงอาทิตย์บริเวณจุดดับนั้น มันจะวิปริตแปรปรวนอย่างรุนแรงและต่อเนื่องอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วมาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คือพลังงานระดับ 7 จะถูกปล่อยออกมาจากจุดดับในดวงอาทิตย์ที่มันจะเกิดขึ้นพร้อมกันทีละหลายจุด พลังงานผลลัพธ์อันเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ของคลื่นพลังงานในมิติคู่ขนานนี้ เป็นไปในทำนองเดียวกันกับพลังงานรวมด้านบวกจากจิตสำนึกของมนุษย์นั่นเอง

    การเปลี่ยนจิตสำนึกใหม่สู่ความถูกต้องที่แท้จริง ด้วยจิตที่รู้แจ้งในการเข้าถึงความดีงามของมนุษย์ การให้และการรับความรักต่อกัน ผ่านการคิดและการทำเป็นการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกด้านบวก โดยมีจุดศูนย์กลางของจิตใจเป็นบ่อเกิดแห่งการสั่นสะเทือนมันเป็นคลื่นพลังงานความรัก ซึ่งต่างฝ่ายต่างน้อมนำมันออกมาเพื่อเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้

    IMG_20250613_205815.jpg

    การปลดปล่อยพลังงานแห่งความรัก ผ่านการคิดและการกระทำ แบ่งเป็นพลังงานย่อย ๆ อันเป็นส่วนผสมของพลังงานความรักได้ 3 ชนิด คือ การอดทน อดกลั้น ให้อภัย จะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกด้านบวกที่เข้มข้นรุนแรงในมิติคู่ขนานได้ ทั้งยังสร้างความสุขความพึงพอใจของผู้ได้รับผลการกระทำนั้น ก่อให้เกิดภาวะจิตใจที่สมดุลที่มนุษย์หยิบยื่นมาให้ด้วยความรู้สึกและทัศนคติที่ดีงามบนพื้นฐานของความรักเป็นการตอบแทนเช่นเดียวกัน

    ทำให้มนุษย์ทั้งสองฝ่าย ต่างช่วยกันยกระดับจิตสำนึกด้านบวกที่มีต่อกันไปในทางที่สูงขึ้นพร้อม ๆ กันอีกด้วย

    นิยามของความอดทน คือ

    การยินยอมให้บุคคลอื่นได้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อตนเอง เพื่อตนเองจะได้มีโอกาสกระทำในสิ่งที่ถูกต้องกว่า เพื่อประโยชน์สุขร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้าได้

    กฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล อันเป็นกฎเกณฑ์ทางพลังงานมีอยู่ว่า ศาสตร์แห่งความสมดุลกันก็คือ การกระทำใด ๆก็ตามในการสร้างความสมดุลให้ตนเองแล้วจะต้องไม่ทำลายความสมดุลของบุคคลอื่นหรือสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันด้วย ภัยพิบัติจะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา เพื่อเปิดโอกาสให้มนุษย์ที่พร้อมต่อการเปลี่ยนจิตสำนึกใหม่ ได้ดำรงอยู่เพื่อการสร้างโลก ร่วมมือกันกับโลกมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ต่อไป

    IMG_20250613_205953.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2025
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +3,220
    สงครามนิวเคลียร์จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าเราได้รู้ความจริง....

    IMG_20250619_151947.jpg


    เมื่อครั้งที่แล้วได้ลงความข้อมูลกี่ยวกับเรื่องสงครามโลก(นิวเคลียร์) ครั้งที่ 3 จะไม่วันเกิดขึ้น เพราะว่าอะไร ? จึงยืนยันเช่นนั้น !! แต่ต้องมีเหตุให้ลบข้อมูลออกไป ซึ่งเมื่อได้ลบข้อมูลออกไปแล้วนั้น ทันทีทันใดเกิดกระแสลมโหมกระหน่ำเกิดขึ้นอยู่สักพักแล้วก็สงบลง และต่อมาในเวลาดึกสงัดได้รับรู้คลื่นพลังงานอากาศที่มีมวลความหนาแน่นสูง ตลอดเวลาจนถึงบัดนี้

    ตอนนี้ แผ่นดินไหวญี่ปุ่นเริ่มขยับ หลังจากแผ่นดินไหวที่เปรู และภูเขาไฟระเบิดที่อินโดนิเซีย ภูเขาไฟเยลโล่สโตน ทีอเมริกากำลังเริ่มขยับ

    ครั้งนี้ก็มีอุปสรรคเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอด

    IMG_20250620_122249.jpg


    ไม่แน่ใจว่าเป็นพลังงานของฝ่ายมืดขัดขวาง หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังจะแจ้งเตือนกันแน่ว่า สงครามขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงสื่อเตือนเพราะรู้ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นไร!

    กระทู้นี้ไม่มั่นใจตั้งแต่ลบไปครั้งที่แล้วเพราะมีอุปสรรคเกิดขึ้นเหมือนกับว่ารู้ว่า jityim กำลังมีความคิดกัวลในเรื่องใด จึงส่งเหตุการณ์นั้นเข้ามา

    แต่เมื่อคิดอย่างนั้นจึงลบข้อมูลที่กำลังจะโพสต์ออกไป กลับมายังมีข้อมูลคงเดิม และคิดว่าถ้าไม่ใช่การนำทางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ไหลส่งมาให้นั้น เพราะสาเหตุ! ถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้ ตนเองไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้

    ถึงแม้ ณ ขณะนี้ ตัว jityim เอง ก็มีทั้งฝ่ายขาวและฝ่ายมืดตีกันอยู่ ความรู้สึกหนึ่งให้ลบ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งต้องทำ (ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี) เอาเป็นว่าข้อมูลนี้ทุกท่านที่มีส่วนสำคัญกับโลกใบนี้พิจารณาเอาเองเถิด jityim เพียงแค่ทำหน้าที่ ไม่ทำก็ไม่ได้ ต้องกลับมาทำอีก

    สงครามโลกนิวเคลียร์ จะเกิดหรือไม่ !อยู่ที่การตัดสินใจเลือก อำนาจการตัดสินใจของผู้นำประเทศที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนย่อมรักตนเอง และมีสิ่งที่ตนเองรักและห่วงใย คงไม่มีใครอยากเห็นตนเองและพวกเขาเหล่านั้นได้รับความทุกข์ยากลำบาก ไม่แม้แต่ความทุกข์ยากจากสงครามนิวเคลียร์ หรือหายนะภัยพิบัติขนาดใหญ่ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อเตือนถึงภัยอันตรายให้มวลมนุษยชาติรับรู้และตัดสินใจชะตากรรมร่วมกัน

    เมื่อถึงเวลาก็ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย เมื่อสงครามโลกนิวเคลียร์จะเกิดขึ้นจริง ๆ เตรียมตัวพร้อมรับภัยพิบัติใหญ่เพื่อชำระล้างระบบโลก ให้มวลมนุษยชาติเตรียมใจเพื่อความอยู่รอดกับการนำมนุษย์ชาติไปสู่โลกใหม่

    หายนะภัยพิบัติขนาดใหญ่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ถ้ามนุษยชาติยังไม่ร่วมมือกันช่วยเหลือโลก แต่ยังยืนยันว่า สงครามโลก(นิวเคลียร์)ครั้งที่ 3 จะไม่วันเกิดขึ้น ตามคำทำนายของนอสตราดามุส มันจะไม่แม่นยำอีกต่อไป นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก แต่ให้มวลมนุษยชาติเปลี่ยนจากการสั่นสะเทือนด้วยความหวาดกลัว เปลี่ยนมาเป็นความรักต่อเพื่อนมุษย์ ด้วยการหันมากระทำความดีงามต่อกัน รู้จักปลดปล่อยพลังงานความรักมอบให้แก่กันและกันมากขึ้น จะได้ช่วยเหลือตนเอง เพื่อนมนุษย์และแผ่นดินของตนให้หลุดพ้นไปจากเคราะห์ภัยรุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นตามที่จักรวาลกำหนดเป้าหมายนั้นไว้ให้จงได้

    โหรนักพยากรณ์จำนวนหลายคนทำนายไว้ ว่าจะต้องเกิดขึ้น และเหตุการณ์ปัจจุบันก็ทำให้มองได้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้สูง เพียงแค่มีการตัดสินใจเพียงชั่ววูบของผู้นำประเทศบางคนเท่านั้น

    IMG_20250620_100537.jpg
    IMG_20250620_094534.jpg


    สงครามนิวเคลียร์ จะต้องไม่มีวันเกิดขึ้น!! นี่เป็นสื่อคำเตือนจากจักรวาล ที่มองลงมายังมนุษย์โลกผ่านอณูช่องว่าง ที่เห็นถึงเหตุการณ์ในอนาคตเกี่ยวกับที่มนุษย์เลือกตัดสินใจ

    ดาวเคราะห์โลกเราไม่ได้โดดเดี่ยว ตลอดระยะเวลาดาวเคราะห์เราได้รับการช่วยเหลือจากจักรวาลเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ชาติสู่การตื่นรู้ความจริงทางด้านจิตวิญญาณและการกระทำความดีงาม ด้วยกระบวนการทางจิตสำนึกของมนุษย์แต่ละคน ที่กระทำต่อกันและต่อดาวเคราะห์โลกบนพิกัดถิ่นอาศัยดำรงอยู่ ด้วยการปลดปล่อยพลังงานด้านบวกคือความรักสู่สนามพลังงาน คือความรักสู่สนามพลังงานในจักรวาลโลกมากเท่าใด พื้นแผ่นดินที่อยู่อาศัยย่อมจะได้ผลลัพธ์จากการกระทำช่วยเหลือโลกครั้งนี้ ในรูปของภัยพิบัติที่ลดความรุนแรงลงได้ตามสัดส่วนพลังงานที่สร้างขึ้นเสมอ

    ขอย้ำอีกครั้งว่า การช่วยเหลือดาวเคราะห์โลกใบนี้ คือความเหมาะสมอย่างยิ่งที่การชำระระบบโลก โดยยกระดับพลังงานให้สูงขึ้นขึ้นสู่การสมดุลยิ่งกว่าระดับเดิม การกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำ
    จากภายนอกระบบโลกโดยตรง มนุษย์ที่ไม่เข้าใจไม่รู้แจ้งความลับเบื้องหลังมิติโลกอันเป็นมิติคู่ขนานและเคยชินอยู่กับภาวะธรรมชาติปกติตลอดมาเข้าใจว่า ธรรมชาติคือธรรมชาติ มักจะไม่เชื่อในเรื่องนี้ ส่วนมนุษย์ที่มีใจหวั่นไหวง่ายก็จะพากันอกสั่นขวัญแขวนไปกับข่าวร้ายเรื่องโลกแตกเสียเกินจริง

    โอกาสที่โลกจะแตกดับได้จริงๆ มีเพียงช่องทางเดียวคือ ดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะนี้เกิดการเย็นตัวลง เพราะสิ้นพลังอำนาจในตัวเองเท่านั้น

    จงอย่าเชื่อคำพยากรณ์ใดๆ ในเรื่องโลกแตกอีกเลย เพราะหากโลกแตกดับเข้าจริงๆ มันจะก่อให้เกิดการเสียสมดุลของระบบสุริยะนี้

    สงครามนิวเคลียร์จะทำลายอารยธรรมมวลมนุษย์ให้สูญสิ้น ก่อให้เกิด "ฤดูหนาวนิวเคลียร์" ถึงขั้นทำลายอารยธรรมหมดสิ้นได้ มันทำงานอย่างไร?และมีลักษณะอย่างไร?




    (หมายเหตุ ท่านใดต้องการแปลเป็นภาษาของตนเอง เช่น ภาษาไทย สามารถกดรูปฟันเฟือง ที่ด้านบนขวา vdo เลือก คำบรรยายแทนเสียง เลือก แปลอัตโนมัติ แล้วจะมีภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกให้เลือกแปล)

    และนี่คือ การปลุกความสยองขวัญของจักรวาล หากโครงการความลับสุดยอดเกิดขึ้นมาจริง



    คลิปวีดีโอนี้ ปรากฎเข้ามาผ่านตาขณะนำข้อมูลมาประกอบ จึงน่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ จึงมาประกอบกับข้อมูลด้วย




    คลื่นสึนามิที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ครั้งหนึ่งนั้น มีแนวโน้มจะเกิดการขึ้นอีกครั้ง มหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ อาจเทียบได้กับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์



    จากข้อมูลใน VDO นี้ ต้องการสื่อให้มวลมนุษย์เข้าใจความจริงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น...เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง สถานการณ์แท้จริงเกิดจากสาเหตุใด! และมนุษย์ชาติควรจะวางใจตนเองเช่นไร เพื่อพาตนเองรอดพ้น




    ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางในขณะนี้ ตอนนี้เราอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนมนุษยชาติกำลังสั่นสะเทือนคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น และรักษาความสมดุล เมื่อสิ่งต่าง ไป มืดมนเกินไป ทุกอย่างต้องมีเสถียรภาพ มีการกระจายพลังงานทำลายล้างก่อนที่ทุกอย่างจะหลุดจากการควบคุม ให้ทุกคนเชื่อมโยงกัน เราทุกคนล้วนมาจากแหล่งเดียวกัน

    ความกลัว ความกังวล ที่เกิดขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในสถานที่ เช่นตะวันออกกลาง เป็นการผลักดันครั้งสุดท้าย เป็นการทดสอบครั้งสุดท้าย ก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเขาเรียกมันว่าตัวเร่งปฏิกิริยาทางจิตวิญญาณ กล่าวคือเสียงรบกวนความกลัว ความสับสนทั้งหมด มีไว้เพื่อปลุกเราไม่ใช่ทำลายเรา แต่เพื่อปลุกเราจากการนอนหลับ

    ความขัดแย้งระหว่างดินแดนโบราณอย่างเปอร์เซียกับไซออนิตส์ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เรื่องราวเป็นทางการเมืองหรือแค่ศาสนาเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสัญลักษณ์เป็นเรื่องของแสงกับเงา ความสามัคคีกับการแบ่งแยก การตื่นรู้กับการควบคุม ความตึงเครียดที่เป็นอยู่ณขณะนี้ เป็นการจัดเรียงพลังงานธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนแปลง เรากำลังสร้างคลื่นพลังงานสูงขึ้น ระบบเก่าสร้างขึ้นบนความกลัว การควบคุม และการแบ่งแยก เรากำลังดึงจากเงามืดครั้งสุดท้ายที่เขากำลังก่อให้เกิดสงครามภูมิภาค เพราะความกลัวทำให้เราแตกแยก เรายังไม่สามัคคีเราถูกการควบคุม ถ้าเราเลิกกันไว้ เราเห็นใจต่อกันแทนความเกลียดชังแสงสว่างก็จะยิ่งเข้มแข็งขึ้น

    ข้อความดังกล่าวใน VDO ถ้าใครได้ฟังด้วยหัวใจอันสงบ เราจะเห็นถึงความรักและปรารถนาดีต่อมนุษย์ในการปฏิบัติต่อกัน เนื้อแท้ของความเป็นมนุษย์มีความแสงสว่างและบริสุทธิ์เสมอกัน คุณค่าของการเกิดเพื่อมีความรักและมีเมตตาอันดีต่อกัน ถ้าใครกำลังมองผู้อื่นที่กำลังตกทุกข์ มีความกลัวและสูญเสียคนที่รัก เราจะเห็นภายในของเขา ความรู้สึกของเขาและของเราไม่ต่างกัน

    ตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างความมืดและแสงสว่าง ระหว่างความรักต่อ กับการมุ่งแสวงหาพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ในตนเองด้วยกันทั้งสิ้น

    มนุษย์ส่วนใหญ่บนโลกนี้ล้วนต้องการแสวงหาพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ในตนเองด้วยกันทั้งสิ้น แต่เป็นการมองหามันแค่ด้านเดียว คือความมีความเป็นในมิติทางกายภาพ การมุ่งแสวงหาพลังอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ จึงมุ่งเน้นกันที่ผลลัพธ์อันเกิดจากการกระทำต่อบุคคลอื่นเพื่อความเหนือกว่า เพื่อการนำพา และเพื่อชักจูงจิตวิญญาณผู้อื่น โดยต้องการให้ผู้อื่นยอมจำนนกับอำนาจเหนือกว่าที่ตนมีอยู่ ไม่ว่าบุคคลอื่น ๆ จะยอมรับหรือไม่ยอมรับอำนาจเหนือกว่าเขาตนหรือไม่ก็ตาม

    อำนาจใดที่ได้มาจากการกระทำดังกล่าวนี้ มันเป็นอำนาจด้านลบ ที่เกิดจากจิตสำนึกที่ไม่ถูกต้องหรือบกพร่อง ก่อให้เกิดการการกระทำที่ก้าวร้าวต่อบุคคลอื่น เพื่อให้ผู้อื่นสูญสิ้นพลังอำนาจในตัวเองไปชั่วคราว ขณะที่ต้องจำยอมอยู่ใต้อำนาจบงการนั้น

    อำนาจใดที่ได้มา จากจิตสำนึกที่บกพร่อง จะเป็นพลังอำนาจที่ไม่แท้จริง ซึ่งมีโอกาสเสื่อมสลายได้เสมอ เนื่องจากเป็นพลังอำนาจที่ต้องอาศัยปัจจัยภายนอกอื่นๆเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่พลังอำนาจแท้จริงภายในอันเกิดจากคุณสมบัติของจิตสำนึก ที่สั่นสะเทือนสูงสุดทางด้านบวกของมนุษย์ ที่บุคคลอื่นยอมจำนนและยอมรับได้อย่างไร้การต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน แต่เป็นการจำใจยอมโดยสิ้นเชิง

    ปัจจัยภายนอกในการสร้างอำนาจเหนือบุคคลอื่นของมนุษย์ อันเป็นอำนาจ ที่ไม่ยั่งยืนไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีมากมายหลายรูปแบบ รวมเป็นปัจจัยทางกายภาพทั้งสิ้น เช่น

    โอกาสที่เหนือกว่า
    มีความพร้อมที่มากกว่า


    พลังงานทางอารมณ์จากจิตสำนึกด้านลบ เพื่อการปิดหน้าต่างแห่งโอกาสของคนอื่นด้วยการเบียดเบียน ปิดบัง บังคับ ด้วยการสั่นสะเทือนทางอารมณ์หยาบๆ อันเกิดจากความโลภและความหลง เป็นพลังอำนาจที่ไม่บริสุทธิ์ของมนุษย์ มันจะได้ผลแค่ด้านเดียว ในด้านกายภาพของมิติโลกเท่านั้น แต่มันจะเป็นขยะพลังงานในมิติคู่ขนานทั้งสิ้น เพราะมันเป็นพลังอำนาจเทียมซึ่งเกิดจากจิตใจด้วยอารมณ์หยาบๆ การกระทำที่ก้าวร้าวล้วน ๆ ไม่ได้เกิดจากสติปัญญาของจิตวิญญาณอันเป็นแก่นแท้ของตนเองเลย

    มนุษย์จะต้องรู้ว่ากฎเกณฑ์จักรวาลที่ถูกต้อง ระบบเดียวกัน ด้วยเสมอภาคและความสมดุลกัน เพื่อเป็นพื้นฐานของความเป็นอันเดียวกันเท่านั้น

    เพราะขาดการรู้แจ้งในกฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล มนุษย์เรียกว่า "สัจธรรม" บนพื้นฐานของความเป็นหนึ่งเดียวกันนี่เอง

    กฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล ว่าด้วยเรื่องพลังงานของจิตสำนึกมนุษย์ล้วนๆ อำนาจใดที่ได้มาจากจิตสำนึกที่บกพร่อง จะไม่สามารถทำให้มนุษย์คนนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์หมายถึงการยอมรับของผู้อื่น ความนับถือ เชื่อถือและความศรัทธาอย่างจริงใจ มันจะต้องเป็นพลังอำนาจอันเกิดจากการกระทำทางจิตสำนึก ที่ไม่ก่อให้เกิดขยะทางพลังงานในมิติคู่ขนาน

    ถ้ามนุษย์มุ่งหวังจะกระทำบนกระบวนการใดๆเพื่อเสริมพลังอำนาจในตนเองกับมนุษย์คนอื่น จะละทิ้งจิตสำนึกแห่งความสมดุล ความเสมอภาคและความเป็นหนึ่งเดียวกัน กับคนอื่นไม่ได้

    เนื่องจากกฎเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งสิ้น ดังนั้นกระบวนการต่างๆของจักรวาล เรื่องของกระบวนการตามพลังงานล้วนๆ


    ซึ่งมนุษย์สามารถเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์นี้ได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ แล้วจะพบว่า จุดดับบนดวงอาทิตย์มันจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนามแม่เหล็กบนพื้นผิวดวงอาทิตย์บริเวณจุดดับนั้น มันจะวิปริตแปรปรวนอย่างรุนแรงและต่อเนื่องอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วมันจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะล่วงผ่านไปทุกอย่างจะสงบลงดังเดิมอย่างช้าๆ

    https://www.youtube.com/live/K-mH3fo_gVA?si=B40PwrnWI0jNtsu6

    พลังงานรวมอันเกิดจากการผสมผสานเป็นพลังงานผลลัพธ์ หรือพลังงานรวม ของคลื่นพลังงานแม่เหล็กความถี่สูงมีเป้าหมายคือ ดาวเคราะห์โลกแห่งนี้ได้กำเนิดจากดวงอาทิตย์และจากดวงจันทร์ของโลกทั้งสิ้น

    ค่าพลังงานที่ต้องใช้เพื่อการนี้ คาดว่าอาทิตย์และดวงจันทร์จะต้องใช้พลังงานของตนไป 1 ใน 3 ของแต่ละดวงเลยทีเดียว


    พนักงานของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ที่กระทำต่อโลกข้างต้นนี้ เพื่อชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมว่า เพียงแค่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ใช้พลังงานที่ตนมีอยู่ เพียงแค่ 1 ใน 3 ก็ทำต่อโลก มันจะก่อให้เกิดผลรวมทางพลังงานจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

    จากการยกระดับพลังงานให้สูงขึ้นแก่ดาวคราะห์โลกครั้งนี้ ทำให้ดวงจันทร์บริวารของโลกและดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ มีระดับพลังงานลดลงไปมาก การจัดระบบองค์กรให้สมดุลของจักรวาล จำเป็นจะต้องลดจำนวนมวลของดาวเคราะห์โลกให้น้อยลงไปจากเดิมด้วย จักรวาลจึงสมดุลต่อไปได้ ในการกระทำที่มนุษย์สามารถสัมผัสรู้ได้คือ

    ส่วนที่เป็นพื้นแผ่นดินจะหายไป 1 ใน 3 ส่วนจากที่มีอยู่

    มนุษย์จำนวน 1% ที่มีอยู่ จะจบชีวิตลงทันทีกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรืออาจมากกว่านั้น ถ้ามนุษย์เองอยู่ในความประมาท จำไม่นำจิตสำนึกของตนสู่ทางการรู้แจ้ง

    งานจิตสำนึกเข้าสู่การรู้แจ้ง แท้จริงคือ การกระทำดีที่ถูกทางซึ่งหมายถึงการรู้แจ้งเบื้องต้น 3 ประการดังนี้

    มนุษย์ต้องรู้หน้าที่ของตนในการมาสู่รูปธรรมมนุษย์บนดาวเคราะห์โลกแห่งนี้

    มนุษย์ต้องรู้วิธีปฏิบัติหน้าที่ของตน เพื่อการปฏิบัติให้ถูกต้อง

    มนุษย์ต้องรู้เวลาว่า บัดนี้จะละเลยเหลวไหลต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ถ้าอยากอยู่รอดปลอดภัยเพื่อก้าวไปพร้อมกับโลกสู่ยุคพลังงานใหม่ที่กำลังจะมาถึง อีกไม่นานนี้


    จงค้นหาสติปัญญาอันเป็นพลังอำนาจในตัวเองให้พบ ด้วยกันเลิกงมงายและไม่อยู่ใต้การที่นำหรือป้องกันของผู้อื่น จงเร่งกำจัดกรรมของตนด้วยการตัดสินใจกระทำต่อผู้อื่นให้ถูกต้อง และจงทำให้จิตสำนึกของตนสั่นสะเทือนด้วยพลังงานความรัก มอบให้แก่โลกและทุกสรรพสิ่ง เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันให้จงได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2025 at 15:29

แชร์หน้านี้

Loading...