พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ปิด

    IMG_7777.jpeg IMG_7781.jpeg IMG_7780.jpeg IMG_7779.jpeg IMG_7778.jpeg

    ตะกรุด "รุ่นเสตุวารี"(สร้างน้อยหายากสุดๆ) หลวงพ่อเกษม เขมโก อธิฐานจิตปลุกเสกวันที่ 28 พ.ย 2527 ตอกโค๊ตนะทั้ง2ด้าน
    มาพร้อมกล่องเดิมๆจากพิธีครับ
    ตะกรุดไม้งิ้วดำ แกะจากไม้งิ้วดำ เนื้อไม้ดำ แห้งแกร่งตามอายุ พญาไม้งิ้วดำ ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวเอง เพราะมีเทวาอารักษ์สิงสถิตย์เพื่อบำเพ็ญบารมี มีความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วว่า วัตถุมงคลที่แกะจากไม้งิ้วดำ..จะศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพในตัวของไม้อยู่แล้ว
    ไม้งิ้วดำพุทธคุณเด่นทางด้าน มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสยมนต์ดำต่างๆ
    ไม้งิ้วดำนับว่าหายากเเล้วคับยังไม่พอหลวงพ่อเกษมได้อธิฐานจิตปลุกเสกอีกด้วย... นับว่าเป็นสุดยอดตะกรุดที่น่าเก็บไว้ใช้.. น่าบูชาไว้อย่างยิ่งครับ
    #รับประกันแท้และทันหลวงพ่อ

    บูชา 1,100 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2025
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7790.jpeg IMG_7791.jpeg IMG_7797.png

    โชว์

    เหรียญพลาสติกรูปไข่ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา-หลวงพ่อโอภาสี ปี2495

    ทันท่านปลุกเสก พลาสติกรูปไข่ หลวงพ่อกบ-หลวงพ่อโอภาสี รุ่นนี้ เป็นเนื้อพลาสติกนอก ทาทองบรอนซ์ สร้างประมาณปี 2495 หลายๆคนอาจจะเคยผ่านตาไม่ทราบข้อมูลกัน รุ่นนี้หลวงพ่อชื้น (สมัยยังเป็นอาจารย์ชื้น) และนางสำลี ธรรมชัย ภรรยา เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง วัตถุประสงค์เพื่อให้เช่าบูชาหาทุนพัฒนาวัดเขาสาริกา (หากสภาพเดิมๆจะมีกรอบพลาสติกสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหุ้มอยู่) แล้วนำไปให้ หลวงพ่อกบ ปลุกเสกที่วัดเขาสาริกาเองเลย ซึ่งปกติหลวงพ่อกบไม่ค่อยปลุกเสกอะไรง่าย ๆ ส่วนใหญ่ให้หลวงพ่อโอภาสีปลุกเสกแทนเกือบทั้งหมด

    นางเฉลียง สุนทราคม ลูกสาวคนโตของหลวงพ่อชื้น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเล่าว่า รุ่นนี้ จัดทำแค่ 200 องค์ เอาไปให้หลวงพ่อกบปลุกเสกให้ที่วัดเขาสาริกา ท่านเอามือคนๆ เขย่า 2-3 ทีแล้วก็คืนมาบอกว่า "เสร็จแล้ว" แต่คุณพ่อ คุณแม่ ก็ท้วงไปว่า "หลวงพ่อเสกแค่นี้ ลูกศิษย์จะเชื่อมั่นได้ยังไง" หลวงพ่อกบก็เลยเอาเป็บเก็บไว้ในกุฏิ ปลุกเสกให้ทุกๆวันนานร่วม 1 ปี จากนั้นค่อยนำออกมาให้เช่าบูชาองค์ละ 5 บาท วันเดียวหมดเกลี้ยง (สมัยก่อนหลวงพ่อกบดังมาก ฉะนั้นวัตถุมงคลทุกประเภทเป็นที่นิยมกันสุดๆเลย)

    ดังนั้นรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่ หลวงพ่อกบ ปรมาจารย์กสิณไฟปลุกเสกเอง เป็นรุ่นเดียวที่ปลุกเสกนานที่สุดเป็นประวัติการณ์และสร้างน้อยมาก จึงหายากและไม่ค่อยมีหมุนเวียนในตลาดพระ ใครมีไว้ในครอบครองถือว่าเป็น บุญวาสนา

    ไหนๆเล่าแล้ว ก็จะเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับรุ่นนี้ครับ ในสมัยก่อนมีเจ๊ร้านทองใหญ่ใน จ.ชัยนาท เจอประสบการณ์รุ่นนี้กับตัวเองเลยครับ คือมีคนนำรุ่นนี้มาเลี่ยมทองแล้วไม่มาเอาเสียทีจนแกลืมไปแล้ว ผ่านไปหลายปี คืนหนึงเจ๊ร้านทองแกฝันเห็น "หลวงพ่อกบ" มาบอกว่า "อีหนู ช่วยเอากูออกไปที กูเหม็นเยี่ยว" ตกใจตื่น มองหาจนทั่ว ปรากฎว่า พลาสติกรุ่นนี้เลี่ยมทองตกอยู่ข้างกระโถนข้างเตียง จากนั้นมาแกก็เลยคล้องรุ่นนี้ติดตัวจนตาย และผมเองก็คล้องรุ่นนี้ติดตัวอยู่ทุกวัน เป็นสมบัติจากคุณยายตกทอดมา ขอบคุณข้อมูลจาก คุณหมูมหาเวทย์
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7816.jpeg IMG_7817.jpeg IMG_7818.jpeg

    เสือหลวงพ่อสาย กระดูกแกะ

    พร้อมทองผ่าหวายอย่างดี รับประกันสากลทั้งพระ/ทอง

    บูชา 7,800 บาท
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7821.jpeg IMG_7822.jpeg IMG_7823.jpeg

    กุมารทองเก้าโกศรุ่นสุดท้ายปลุกเสกทิ้งทวน
    หลวงพ่อกอย วัดเขาดินใต้ จ.บุรีรัมย์

    กุมารทอง 9 โกศ รวมพลังแรงพราย 27 โกศ ปี 2556
    ปลุกเสก โดยหลวงพ่อกอย ขนาดพกพา เลี่ยมมาแบบคลาสสิคๆ

    บูชา 1,800 บาท
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7824.jpeg IMG_7825.jpeg IMG_7826.jpeg IMG_7827.jpeg

    กุมารทองหลวงพ่อเงิน เนื้อตะกั่วยุคต้นมีจาร

    บูชา 3,500 บาท

    สุดยอดเกจิที่ได้เรียนวิชาเสกตุ๊กตาทองกับ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
    กุมารทองรุ่นแรกและรุ่นเดียว หลวงพ่อเงิน ขันติโก วัดถ้ำน้ำ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี


    ประวัติพระครูใบฎีกา เงิน ขันติโก สกุลเดิม “รุ่งสว่าง” เจ้าอาวาสวัดถ้ำน้ำ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
    เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2475 และท่านได้มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2554

    หลวงพ่อเงินท่านเกิดที่ จ.นครปฐม เมื่ออยู่ในวัยรุ่น ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อน้อย วัดท่ามอญ นครชัยศรี โดยเรียนวิชาจากหลวงพ่อน้อยหลายอย่าง แม้จะอยู่ในวัยรุ่น ท่านก็ถือคาถาได้ขลังมาก
    โดยบวชกับ หลวงพ่อน้อย วัดท่ามอญ จากนั้นได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อน้อย และเรียนวิชาการทำผงรอดกระดาน ปัถมัง กับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เรียนวิชาเสกตุ๊กตาทอง กับ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    ต่อมาท่านได้ถือธุดงค์วัตรขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ จนได้เรียนวิชาจากครูเฒ่าฆราวาสท่านหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของท่านครูบาศรีวิชัย จนถึงปี 2522 ท่านได้ธุดงค์มาถึง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้บังเกิดนิมิตเป็นแสงสว่าง นำพาท่านให้เดินตามเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือถ้ำน้ำ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ท่านจึงตกลงใจสร้างวัดถ้ำน้ำ และพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
    ที่ผ่านมาท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลายอย่าง อาทิ พระสมเด็จบรรจุพระธาตุ เหรียญ รูปหล่อ ตะกรุดแบบต่างๆ วัวธนู นางกวักมะรุมเงิน-มะรุมทอง, ตุ๊กแกมหาลาภ ฯลฯ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์อย่างกว้างขวาง
    พระครูใบฎีกา เงิน ขันติโก สกุลเดิม “รุ่งสว่าง” เจ้าอาวาสวัดถ้ำน้ำ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2554
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7828.jpeg IMG_7829.jpeg IMG_7830.jpeg IMG_7742.png IMG_7743.png IMG_7745.png IMG_7744.png

    พระสมเด็จเทียนชัย หลวงพ่อสมจิตร วัดสว่างอารมณ์

    อดีตพระเกจิอาจารย์เรืองนามเรืองพุทธาคมแห่ง จ.สมุทรปราการ ตามประวัติกล่าวใว้ว่าจัดสร้างเมื่อปี 2499 บางตำราก็ว่าสร้างเมื่อปี 2509 แต่ไม่ว่าจะสร้างปีไหน อย่างไรก็เป็นพระดีปีลึก มีผงมวลสารว่านมงคลผสมผสานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผงพระสมเด็จกรุบางขุนพรหมที่ชำรุดแตกหัก

    หลวงพ่อสมจิตรมรณะภาพเมื่อปี 2520 ในปีเดียวกันนั้นเอง หลวงพ่อสุพจน์ คเวสโกก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ครั้นในราวปี2525 ท่านได้นำพระเครื่องของหลวงพ่อสมจิตร ที่หลงเหลือตกค้างจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จเทียนชัย พิมพ์สมเด็จสามชั้น พิมพ์พระสังกัจจายน์ ออกเผยแพร่ให้ผู้ศรัทธาทำบุญบูชากัน ขอย้ำว่าเป็นพระเก่าหลงเหลือตกค้าง หาได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ พระทั้งหมดจะมีทั้งแบบมีคราบมากบ้างน้อยบ้าง และอีกแบบจะปรากฏเป็นสีขาวนวลสะอาดตา

    * ปัจจุบันพระสมเด็จเทียนชัย ได้มีการจัดสร้าวย้อนยุคขึ้นใหม่ เป็นการแกะพิมพ์ขึ้นให้ดูสวยงามตามยุคสมัยเมื่อปี 2550 ส่วนพรสมเด็จเทียนชัยรุ่นเก่า ไม่ปรากฏว่ามีการนำบล็อกเก่ามาสร้างใหม่ จะมีก็แต่พระสมเด็จเทียนชัยทำเทียมเลียนแบบระบาดไปทั่ว ซึ่งในโพสต์นี้ก็ได้นำมาเปรียญเทียบให้ศึกษากัน

    * พระสมเด็จเทียนชัยนับเป็นพระดีราคาเบา พระเก่าพุทธคุณเลิศล้ำ คุณค่าเกินราคา ควรค่าแก่การสะสมบูชาอย่างยิ่ง

    พระครูปลัดสมจิตร เปมิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่คนนอกพื้นที่รู้จักน้อย เพราะท่านเป็นพระสันโดษ พูดน้อย เป็นพระปฏิบัติ จึงไม่ค่อยมีการเผยแพร่เกียรติคุณของท่านให้เป็นที่รู้จักกัน
    .
    ตามประวัติกล่าวว่า ท่านชอบธุดงค์ รุกขมูลไปเรื่อยๆ และชอบศึกษาพุทธาคมจากครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ เรียกได้ว่า "เป็นคนแก่เรียน" แต่เนื่องจากประวัติความเป็นมาของท่านไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ตั้งแต่ครั้งก่อน จึงไม่อาจทราบว่าท่านได้มอบตัวเป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์รูปใดบ้าง
    .
    จนครั้งหนึ่งท่านจาริกไปพื้นที่ว่างเปล่าที่ต.คลองด่าน และได้นิมิตเห็นหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย มาบอกให้ท่านสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ เพราะครั้งหนึ่งสมัยที่หลวงพ่อปานจาริกผ่านมาทางนี้ ท่านทราบด้วยญาณว่า ณ ที่แห่งนี้ต่อไปจะต้องเป็นธรณีสงฆ์ จึงได้อธิษฐานไว้เพื่อรอให้ผู้ที่เหมาะสมมา สร้างวัดเพื่อจะได้เป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาในภายภาคหน้าและจะประสบความสำเร็จในกาลต่อมา หลังจากหลวงพ่อสมจิตรทราบถึงนิมิตดังกล่าวจึงได้เริ่มสร้างวัด ณ ที่แห่งนั้นโดยให้ชื่อว่า "วัดสว่างอารมณ์" ตั้งแต่นั้นมา
    .
    ท่านถือกำเนิดในตระกูลแย้มขวัญยืน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2462 เป็นบุตรของนายแต้ม และนางบรรจง มีพี่น้อง 2 คน ท่านเป็นพี่ชายคนโต ส่วนน้องชายชื่อนายบุญเจือ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บริเวณถนนตก เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เมื่ออายุ 12 ปี ได้ออกจากบ้านหายไปหลายปีจนทุกคนในครอบครัว เข้าใจว่า "เสียชีวิตไปแล้ว" จนกระทั่งวันหนึ่งในปี พ.ศ.2497 มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามาในบ้าน และถามหาโยมแต้มกับโยมบรรจง พร้อมกับได้แนะนำตัวเองว่า อาตมาคือเด็กชายสมจิตร ลูกชายคนโตที่หายจากบ้านไปเมื่อประมาณ 24 ปีก่อน
    .
    ทุกคนต่างตกตะลึงและประหลาดใจมากจึงพยายามจ้องมองและพิจารณาดูอยู่นานจึง จำได้เพราะใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปมาก และต่างพากันร้องไห้ด้วยความดีใจที่ยังได้มีโอกาสมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โยมแม่บรรจงซึ่งในขณะนั้นดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิทไม่สามารถมองอะไรเห็นได้ตั้งแต่ท่านหายไปจากบ้าน ถึงกับร้องไห้โฮเป็นการใหญ่ พร้อมกับเอื้อมมือสองข้างมาจับต้องใบหน้าของท่านอาจารย์สมจิตรซึ่งเป็นพระลูกชายในขณะนั้น
    .
    นอกจากนี้ ท่านอาจารย์สมจิตรก็ยังต้องสูญเสียบิดาในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน จึงทำให้ท่านอาจารย์สมจิตรรู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง และได้ตั้งจิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ในวันนั้นโดยกล่าวต่อหน้ามารดาและญาติพี่น้องว่า "ท่านจะขอถือบวชไปตลอดชีวิตและจะขอตายในผืนผ้าเหลืองเท่านั้น" หลังจากวันนั้นท่านก็มุ่งปฏิบัติธรรมและออกธุดงค์อย่างเคร่งครัด เพื่ออุทิศผลบุญกุศลให้กับบิดา-มารดา ตลอดจนญาติพี่น้องเพื่อเป็นการไถ่ถอนความผิดที่ทำให้ทุกคนต้องเสียใจและเป็นห่วงมานานหลายปี
    .
    ท่านถือธุดงค์เดี่ยวไปในที่ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา โดยจะปักกลดอยู่ห่างจากหมู่บ้านหรือชุมชนพอสมควร ชาวบ้านที่รู้ข่าวว่ามีพระมาปักกลดก็จะพากันมาทำบุญตักบาตร โดยนำอาหารและเครื่องใช้ต่างๆ มาถวาย บ่อย ครั้งที่ชาวบ้านจะนำปัญหาหรือข้อขัดข้องใจมาขอความเมตตาให้ช่วยเหลือ ท่านก็จะสั่งสอนและชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ไปตามวิถีแห่งธรรมะ ตามหลักของพระพุทธศาสนา หรือบางครั้งก็ให้คำทำนายทายทักตามดวงชะตาและโชควาสนาของแต่ละท่านไป ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะคำทำนายของท่านมักจะแม่นยำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำทายทักที่เป็นข้อห้ามของท่าน หากโยมหรือลูกศิษย์ที่ท่านได้ทายทักห้ามไว้ แล้วไม่เชื่อยังฝืนกระทำก็จะได้รับความเสียหายและสูญเสียเกือบทุกรายไป
    .
    จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านและลูกศิษย์มีความเชื่อถือศรัทธามาก จนเรียกท่านว่า "อาจารย์สมจิตร" และคอยติดตามท่านอยู่เสมอว่าท่านจะมาปักกลดอีกครั้งเมื่อใด เนื่องจากท่านเป็นพระธุดงค์เดี่ยวตลอดเวลา จึงไม่ค่อยอยู่กับที่นานนัก ทำให้ไม่ค่อยมีใครทราบหรือรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท่านมากนัก บ่อยครั้งที่มีญาติโยมบางคนที่มาทำบุญซักถามเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ท่านก็มักจะยิ้มแล้วพูดสั้นๆ ว่า "ขอให้มองไปข้างหน้า.." ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่มีใครเลยจะทราบว่า ท่านหมายถึงอะไร
    จนกระทั่งท่านได้มาธุดงค์มาที่คลองด่านแห่งนี้ ชาวบ้านเห็นปฏิปทาอันน่าเลื่อมใส จึงกราบอาราธนาให้ไปพักในวัดสว่างอารมณ์ ที่ปากอ่าวบ้านล่าง ซึ่งขณะนั้นวัดสว่างอารมณ์ว่างเจ้าอาวาสลงพอดี และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสอันดับรูปที่ 5 ในเวลาต่อมา หลวงพ่อสมจิตรจึงรับภาระธุระเจ้าอาวาส เห็นว่าพระอุโบสถเดิมที่หลวงพ่อปานสร้างไว้ทรุดโทรมลงมาก จนไม่อาจจะซ่อมแซมในบริเวณที่เดิมได้ จึงได้ก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นในบริเวณที่ตั้งในปัจจุบัน
    .
    ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรม เป็นพระครูปลัด เป็นครูบาอาจารย์ที่มีลูกศิษย์และชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นจำนวนมาก ทั้งใกล้และไกลในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น มักจะมีเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น และทำให้บรรดาลูกศิษย์หรือผู้ที่มาพบท่านอาจารย์รู้สึกประหลาดใจต่อเหตุการณ์และคำทำนายทายทักของท่านอาจารย์เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการทำนายทายทักที่มีความแม่นยำมาก
    .
    หลวงพ่อสมจิตรมรณภาพ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2520 สิริอายุ 59 ปี พรรษา 23 หลังจากนั้นได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2542
    .
    ในการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น แรกๆ ท่านไม่นิยม แต่เนื่องด้วยจำเป็นจะต้องหาสิ่งตอบแทนน้ำใจของญาติโยมที่เสียสละปัจจัยมาช่วยสร้างวัดกับท่าน แท้จริงแล้วท่านมีความสามารถในการเขียนลบผงพุทธคุณได้เยี่ยมยอดไม่แพ้ครูบาอาจารย์รูปใด แต่ไม่เคยพูดหรือเล่าให้ใครฟัง
    .
    ดังนั้นท่านจึงดำริสร้างพระผงพุทธคุณขึ้นมาชุดหนึ่งในปี 2499 มีอยู่หลายพิมพ์ อาทิ สมเด็จเทียนชัย เป็นพิมพ์ที่นิยมสุดสร้างเป็นรูปสมเด็จโต บริกรรมบาตรน้ำมนต์ ตามภาพที่ท่านนิมิตเห็นนอก จากนั้นยังสร้างพิมพ์พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์พระสังกัจจายน์ พระปิดตา เป็นต้น รวมๆ แล้วหลายพิมพ์โดยท่านเป็นผู้เขียนและลบผงวิเศษ นอกจากนั้นยังได้นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักมาบดละเอียดและผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถจนมั่นใจจึงนำมามอบให้ญาติโยมไว้บูชากัน อีกส่วนหนึ่งได้บรรจุไว้ที่ฐานชุกชีใต้องค์พระประธานของวัด
    ปรากฏว่าพระเครื่องของท่านนั้นมีประสบการณ์เรื่องเมตตา มหานิยม และค้าขายโด่งดังมาก จนกระทั่งคนพื้นที่แถบนั้นต้องดั้นด้นไปหาเพื่อขอพระมาบูชากัน แต่เนื่องด้วยมีอยู่ครั้งหนึ่งศิษย์ของท่านอุตรินำพระของท่านไปขูดผสมน้ำให้หญิงสาวคนหนึ่งดื่มเข้าไป แล้วเกิดความลุ่มหลงและรักเจ้าหนุ่มคนนั้นอย่างจริงจังยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลไปขอพระจากท่าน ซึ่งท่านก็ยินดีแจกจ่ายให้ทุกๆคน พร้อมทั้งกำชับห้ามนำไปใช้ในทางผิดศีลธรรม

    องค์นี้เนื้อจัด ถึงยุคชัดเจน ด้านหลังมีรอยขูดใช้ รับประกันแท้

    บูชา 1,200 บาท
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7832.jpeg IMG_7833.jpeg IMG_7834.jpeg

    เหรียญอริยทรัพย์ ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง ปี 2558 สวยๆเดิมๆ พร้อมกล่อง

    เมื่อก่อนต้องมีพันขึ้น

    บูชา 600 บาท
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7846.jpeg IMG_7847.jpeg IMG_7841.jpeg IMG_7843.jpeg IMG_7844.jpeg IMG_7845.jpeg

    พระพิฆเนศ กรมศิลปากร รุ่นแรก เนื้อนวะโลหะผสม ปี2540 กล่องไม้เดิม รับประกันแท้

    บูชา 2,500 บาท เมื่อก่อนแพงมาก

    พระพิฆเนศรุ่นนี้สร้างโดยกรมศิลปากร เทพแห่งความสำเร็จ บรมครูด้านช่าง,และการแสดง เนื่องจากกรมศิลปากรดำเนินการสร้างเอง รูปแบบศิลป์สวยงามตรงตามลักษณะ
    พิธีเทวาภิเษก ณ โบสถ์พระแก้ววังหน้า ภายในวิทยาลัยนาฎศิลป เมื่อ ปี พศ.2540 มีโค๊ดกำกับ สวยๆเดิมๆ พิธีใหญ่ เข้มขลัง มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ฉนวนมวลสาร ที่ใช้ในการสร้าง
    1. ชนวนจากนิ้วหลวงพ่อมงคลบพิตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ( เป็นนิ้วที่ทำการเปลี่ยนซ่อมโดยกรมศิลปากร )
    2. ชนวนพระกริ่ง ภปร. ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่น 50,60 ปี
    3. ชนวนพระกริ่งบวรรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4. ชนวนพระกริ่งปวเรศ รุ่น 2 วัดบวรนิเวศวิหาร
    5. ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ดู่ วัดสระแก จังหวัดอยุธยา
    6. แผ่นจารอักขระยันต์ จากเกจิอาจารย์ดัง 108 รูป

    ออกแบบโดย อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์
    รายนามอาจารย์ร่วมปลุกเสก 108 รูป อาทิเช่น

    สมเด็จพระธีรญาณ วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
    หลวงปู่อุตตมะ วัดวิเวการาม กาญจนบุรี
    หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน นนทบุรี
    หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม นครปฐม
    หลวงปู่ลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี
    หลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ นครศรีธรรมราช
    หลวงปู่โง่น สรโย พิจิตร
    หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา
    ฯลฯ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2025
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7849.jpeg IMG_7848.jpeg IMG_7850.jpeg IMG_7851.jpeg

    เหรียญกลวงพ่อโอภาสี วัดประสาท ปี2506

    สภาพสวย เลี่ยมพร้อมบูชา

    บูชา 1,100 บาท
     
  10. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,007
    จองเหรียญหลวงพ่อกวย ปี53
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129

    รับทราบ ขอบคุณครับ
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ปิดแล้วครับ

    IMG_7837.jpeg IMG_7838.jpeg IMG_7859.jpeg IMG_7858.jpeg IMG_7856.jpeg IMG_7857.jpeg IMG_7855.jpeg

    เหรียญอาจารย์ฝั้น หลวงตามหาบัว ปลุกเสก

    สร้างย้อนยุค ประมาณปี 2540 เลข ๖๓ ตอกโค๊ต ดอกบัว 3 จุด หลังติดจีวรเกศา เลี่ยมพร้อมบูชา

    บูชา 600 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2025 at 09:22
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7869.jpeg IMG_7870.jpeg IMG_7872.jpeg

    เหรียญเข็มกลัด วัดเทพากร ปี 2513 กะไหล่ทองเดิม หายาก

    บูชา 700 บาท

    หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท ปลุกเศกพร้อม
    พระคณาจารย์ 40 รูปนั่งปรกบริกรรมปลุกเสก อาทิเช่น
    1. พระเทพวิริยากรณ์ วัดยานนาวา เป็นประธานจุดเทียนชัย
    2.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.ท่านเจ้าคุณโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิต
    5.พระอาจารย์สุพจน์ วัดสุทัศน์
    6.หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    7.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    8.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    9.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์
    10.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    11.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    12.หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
    13.หลวงพ่อป่วน วัดโพธิ์งาม ฯลฯ
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7876.jpeg IMG_7877.jpeg


    เหรียญดวงกายสิทธิ์
    หลวงปู่ทวด-หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    หลังพระเหนือพรหม
    หลวงตาม้า(จารทุกองค์)
    วัดถ้ำเมืองนะ
    เนื้อทองแดง ปี๒๕๔๔


    ด้านหน้า เป็นรูปลักษณ์หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ คู่กัน มีพญานาคปกป้อง มีดวงหลวงปู่ดู่อยู่ด้วย(เปรียบเสมือนฝากดวงไว้กับหลวงปู่ครับ)
    ด้านหลัง เป็นรูปพระพุทธเจ้าปางเหนือพรหม (พระเหนือพรหม นั้นยังเป็นสัญลักษณ์ของวัดถ้ำเมืองนะ (วัดพุทธพรหมปัญโญ)
    หลวงตาม้าท่านได้เป็นประธานในพิธีปลุกเสกอธิฐานจิต และจารเองทุกเหรียญ เรื่องพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ นั้นมีมิประมาณครับ

    บูชา 700 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2025 at 09:22
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    IMG_7881.jpeg IMG_7882.jpeg IMG_7886.jpeg IMG_7885.jpeg

    พระที่อนาตค น่าติดตามว่าจะไปถึงใหน ช่วงนี้ยังหลักร้อย น่สเก็บครับ
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ปิด

    IMG_7888.jpeg IMG_7889.jpeg

    สิงห์rาแกะ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก

    บูชา 1,800 บาท

    พุทธคุณสิงห์งาแกะ เด่นด้านมหาอำนาจ ปกป้องคุ้มครอง เมตตา โชคลาภ สภาพสวยเดิมๆ เอกลักษณ์ชัดเจน ดูง่าย
    ตามความเชื่อในส่วนของการบูชาหรือพกพารูปสัตว์ ต่างๆที่สร้างขึ้นเป็นเครื่องรางนั้น เป็นที่นิยมกันมานานหลายยุคหลายสมัยครูบาอาจารย์ท่านที่มีความเก่งกาจสามารถทั้งหลายท่านมักจะได้บรรจงสร้าง "รูปสัตว์"ทั้งหลายขึ้นมาแล้วปลุกเสกให้เป็นเช่นกับสัตว์นั้นๆได้ติดตามไปช่วยเหลือไปปกป้องคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของให้ตลอดไปสิงห์เป็นหนึ่งในบรรดารูปสัตว์ ที่นักนิยมเครื่องรางของขลังมักจะไขว่คว้าหามาติดตัวกันไว้ รูปสิงห์สามารถแกะขึ้นมาได้จากวัสดุต่างๆแต่ที่นิยมกันมากก็มักจะแกะจากงาช้าง เพราะนั่นคือความเป็นมหาอำนาจที่จักเกิดขึ้นจากพลังแห่งสัตว์ใหญ่ทั้งสอง
    นั่นเอง ในอดีตมีสิงห์งาแกะที่ได้รับความนิยมกันมากก็คือ สิงห์งาแกะของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ นครสวรรค์ ของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ของหลวงพ่อทิม วัดพระขาว อยุธยา
    สิงห์เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่า เป็นสัญญาลักษณ์
    แห่งอำนาจ ความลึกลับ การต่อสู้ ความเป็นผู้นำ น่าเกรงขามเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของผู้ที่ได้พบเห็นในทุกเมื่อ ฉะนั้นการที่ใครๆได้พกพา หรือนำเอารูปเหมือนของพญาสิงห์ติดตัวไปด้วยนั้น ก็เท่ากับการได้นำเอาพลังและบารมีที่มีอยู่ประจำตัวสิงห์ ติดตามไปด้วยนั่นเอง ประการหนึ่ง และถ้ายิ่งได้รับการปลุกเสก ประจุด้วยพระคาถาอาคมขลังจากพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทย์ จะยิ่งทรงคุณค่ามหาศาลทวีคูณสุดๆ
    การสร้างสิงห์ที่ถูกต้องตามโบราณจารย์และสร้างได้เข้มขลังนั้นมีอยู่ไม่กี่องค์ครับ ที่เด่นดังที่สุดก็หลวงพ่อเดิม และถัดมาก็มีอีกหลายองค์ครับ หลวงพ่อหอมวัดชากหมาก ท่านก็ถือเป็นเลิศด้านสิงห์ไม่เป็นรองใครในยุคนั้นนะครับ หลวงพ่อหอมท่านเสกสิงห์จนกระโดดโลดเต้นเมื่อท่านยังอยู่ในสมัยนั้นใครไปขอบูชาสิงห์จากท่านหากท่านเมตตาท่านจะเอาสิงห์สองตัวมาหันหน้าเข้าหากัน ตั้งไว้ห่างกันสักศอก แล้วท่านจึงเสกจนสิงห์กระโดดเข้าหากันเป็นใช้ได้ท่านทำให้ดูเพื่อให้ผู้ใช้ได้เกิดความเชื่อมั่น หลวงพ่อหอมท่านได้ร่ำเรียนวิชาการสร้างและเสกสิงห์มาจากไหนนั้นท่านไม่เคยได้บอกใคร แต่ประสบการณ์สิงห์งาแกะของท่านนั้นหายห่วงครับ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร สิงห์นั้นหากจะว่าไปแล้วเขาก็จะมีลักษณะเฉพาะของเขาสิงห์นั้นเป็นสัตว์ในตำนานและเป้นที่สุดแห่งมหาอำนาจในตำราโบราณของไทยเรา ลักษณะของสิงห์นั้น จะประกอบไปด้วย
    1.ต้องอ้าปากเห็นฟันถือเป็นบรรลือสีหนาท เป็นตวาดฟ้าป่าหิมพาต์เป็นสกดและเป็นมหาอำนาจแผ่ก้องกังวานไกล
    2.ลิ้นต้องยาวกวัดแกว่งเอาทรัพย์สมบัติเอาโชคลาภเงินทองเข้ามาสู่ ฉะนั้นการแกะต้องให้เห็นลิ้นที่ปากและปากก้ต้องอ้าเพื่อรับโชครับทรัพย์
    3.ท้องของสิงห์ต้องมีลักษณะใหญ่หรือมีลักษณะที่กลมเพื่อให้มีการเก็บรักษาทรัพได้มากมาย และที่ลำตัวนั้นให้มีขวัญเป็นวงกลมให้หมายถึง วัฏฏะที่แปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด ในชาวจีนถือเช่นนี้เหมือนกันชาวจีนให้หมายว่าเป็นโชคลาภที่เข้ามาไม่มีสิ้นสุด ถือเป็น infinity จริงๆแล้วการที่วงกลมอยู่คู่กันนั้นทั่วโลกถือเป็นมงคลเป็นความไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อนำมาเป็นสัญลักษณ์ที่ท้องของสิงห์ก็ให้หมายว่าเป็นการเก็บทรัพได้ไม่ม่ประมาณ
    4.หางที่ยาวมีไว้เพื่อช่วยในการกวาดโชคลาภเงินทองความมั่งคลั่งและหางที่ยาวยังให้หมายถึงการขจัดอุปสรรค์ทั้งปวงเป็นการตวัดออเพื่อขับไล่อุปสรรค์ทั้งปวงและเมื่อกวาดเข้าให้เป็นการกวาดโชคกวาดลาภเข้ามา
    5.สิงห์ต้องไม่มีรูทวารเพื่อการเก็บที่มิดชิดไม่มีรั่วไหลคนจีนถือเป็นเรื่องของเงินทองไม่รั่วไหล
    6.การยืนของสิงห์ต้องตะหง่าน และให้มีลักษณะที่สง่างมาหมายเป็นมหาอำนาจและการอยู่เหนือสัตว์ทั้งมวลในสามโลก สิงห์นั้นเป็นเครื่องหมายแห่งมหาอำนากมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทธยาเป็นราชธานี ตำราการสร้างและเสกนั้นก็มีมานาน แม้แต่ที่สุดแห่งเจ้าทัพ คือ กรมพระราชวังบวร สุรสีหนาท มหาอุปราชวังหน้าองค์แรกแห่งแผ่นดินรัตนโกสินท์ท่านยังใช้ตราราชสีห์เป็นตราสัญลักษณ์แทนพระองค์ท่าน
    โบราณจารย์ท่านสร้างและเสกไว้ให้ลูกหลานเพื่อเป็นเครื่องรางที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ให้เป็นโชคลาภ เป็นป้องกัน เป็นมหาอำนาจศัตรูคลั่นคล้าม เป็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เป็น ที่สุดแห่งมหาตบะเดชะ หากเรามองนึกย้อนไปดูการสร้างและการกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์แล้ว ถือว่าภูมิปัยญาของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่ธรรมดาจริงๆครับ เราๆท่านๆลูกหลานๆ ก็อย่ามัวแต่ตั้งเป็นราคาค่างวดกันซะจนแพงลิบลิ่วปั่นกันไปใหญ่โตนะครับ ถูกต้องแล้วครับของดีก็ย่อมมีราครแต่ หากเราหมายถึงปรัชญาแห่งโบราณจารย์ท่านได้กำหนดฝากไว้ให้ลูกหลานแล้วมันน่าจะลึกซึ้งตรึงใจและให้หวลคิดถึง
    โบราณจารย์ท่านสร้างและเสกไว้ให้ลูกหลานเพื่อเป็นเครื่องรางที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ให้เป็นโชคลาภ เป็นป้องกัน เป็นมหาอำนาจศัตรูคลั่นคล้าม เป็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เป็น ที่สุดแห่งมหาตบะเดชะ หากเรามองนึกย้อนไปดูการสร้างและการกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์แล้ว ถือว่าภูมิปัยญาของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่ธรรมดาจริงๆครับ เราๆท่านๆลูกหลานๆ ก็อย่ามัวแต่ตั้งเป็นราคาค่างวดกันซะจนแพงลิบลิ่วปั่นกันไปใหญ่โตนะครับ ถูกต้องแล้วครับของดีก็ย่อมมีราครแต่ หากเราหมายถึงปรัชญาแห่งโบราณจารย์ท่านได้กำหนดฝากไว้ให้ลูกหลานแล้วมันน่าจะลึกซึ้งตรึงใจและให้หวลคิดถึงความเมตตาที่ท่านมีต่อลูกหลานในยุคปัจจุบันมากกว่านะครับ
    ประวัติหลวงพ่อหอม วัดซากหมาก



    หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนานุโยค) แห่งวัดชากหมาก หมู่ 2 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ห่างจากตัวอำเภอบ้านฉางเข้าไปทางสี่แยกระยะทาง ประมาณ 9 กม. วัดชากหมาก (ป่าเรไร ) เป็นวัดเล็ก ๆ เงียบสงบ ในอดีตเคยเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในทางคุณวิเศษอันลือลั่น หลวงพ่อหอมซึ่งเป็น เจ้าอาวาสในสมัยที่มีชีวิต มักจะถูกอาราธนาไปร่วมในการประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญ ทั้งราชพิธีและพิธีสามัญ สม่ำเสมอทั่วประเทศไทย ผู้นิยม วัตถุมงคลน้อยคนที่จะไม่ได้ยินกิตติศัพท์ความเป็นผู้ทรงพุทธเวทย์ของท่าน จากวัตถุมงคลที่ได้ปลุกเศกไม่ว่าจะเป็นสิงห์งาช้าง ขี้ผึ้ง นางกวัก งาช้าง ไชมงคล พระกริ่งรูปเหมือน แหนบรูป เหมือน เหรียญรูปเหมือน แหวนทอง
    เมื่อ 2500 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี มีการจัดให้มีงานฉลอง 25 ปี พุทธศตวรรษขึ้นนับเป็นพิธีใหญ่ที่สุดในพุทธอาณาจักร โดยมีการจัดทำพระเครื่อง พระบูชา และวัตถุมงคล ไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมากหลวงพ่อหอมเป็น 1 ในจำนวน 108 รูปของพระเวทยาจารย์ผู้ทรง คุณวิเศษที่รัฐบาลอาราธนาไปร่วมพุทธาภิเษกในมลฑลพิธี ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ แม้เมื่อประกอบ พิธีเสร็จก็ยังมีผู้คนหลั่งไหลไปขอพรไม่ขาดสาย จนศิษย์ต้อง ออกมาขอร้องให้หลวงพ่อ พักผ่อนบ้างแต่หลวงพ่อกลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตาว่า "ช่างเขาเถอะลูก" และเป็นคำพูดที่ถูกใช้ติดปาก เรื่อยมาจนหลวงพ่อหมดสิ้นอายุขัย
    การก่อสร้างวัดชากหมากเมื่อประมาณพ.ศ.2471 ชากหมากซึ่งมีสภาพเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย เสือ ช้าง หมูป่า หลวงพ่อได้พบเรือนไม้ หลังคุ้มไม้ไผ่ 2 หลัง สอบถามชาวบ้าน ได้ความว่า เป็น สำนักสงฆ์ ซึ่งพระอาจารย์ล้ำเคยอยู่มาก่อน แต่ปล่อยร้างมา 10 ปี หลวงพ่อหอมจึงตกลงใจ ฟื้นฟูสำนักสงฆ์นี้ให้เป็นวัดขึ้นมาและได้ออกป่าไปจำพรรษาที่ถ้ำเขานั่ง หย่อง แล้วก็ได้ปรากฎสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น
    สิ่งมหัศจรรย์ที่ปรากฎมีช้าง เสือ และสัตว์ร้ายมาวนเวียนอยู่ใกล้หลวงพ่อตลอดเวลา แต่สัตว์ร้ายก็ไม่เข้ามาทำร้ายหลวงพ่อนานวันจนเกิดความคุ้นเคย สัตว์เหล่านั้นก็เชื่องและสามารถรับรู้คำพูด หลวงพ่อ ได้ เมื่อหลวงพ่อนำชาวบ้านมาช่วยกันตัดต้นไม้ในป่านั้นมาทำวัดได้แล้วก็เกิด ปัญหา ไม่สามารถ ชักลากไม้ลงมาได้ระยะทางก็ไกลกันถึง 7 กม. ชาวบ้านจึงลงจากเขามาปรึกษาหาทาง นำไม้ที่ตัดไว้ลงมาแต่หลวงพ่อกลับขึ้นไปบ้นเขาเพื่อสำรวจหา ช่องทางอีกครั้ง หลังจากนั้นชาวบ้านก็ต้องประหลาดใจเพราะพบท่อนไม้ที่ตัดไว้นั้น ลงมากองอยู่ที่เชิงเขาอย่างครบถ้วน และยังเห็น รอยเท้าช้างป่า ขนาดใหญ่อยู่รอบบริเวณนั้นมากมายคาดว่าน่ำจะเป็นช้างทีคุ้นเคยกับหลวงพ่อมา ช่วยกันชักลากลงมา เมื่อชาวบ้านรู้เข้าจึงทำให้เกิดความเลื่อมใส ศรัทธาหลวงพ่อ นับเป็นต้นมา หลังสร้างวัดเสร็จไม่นานก็มีชาวบ้านใกล้ ๆ มาแจ้งหลวงพ่อว่ามีช้างป่าลงมากินพืชผักที่ปลูกไว้จนเสียหาย ตนจะยิงช้างก็เกรงใจหลวงพ่อ จึงขอให้หลวงพ่อ ช่วยแก้ไขหลวงพ่อ ก็รับปากว่า จะช่วยพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปยืนบริกรรมสักครู่ที่หน้าวัด แล้วร้อยตะโกนขึ้นว่า "ลูกหลาน พญาฉัททันต์อย่าไปเหยียบย่ำของเขาเลยเจ้าของเขาจะยิงเอา ของเรามีอยู่แล้วในแปลงขวามือไปกินได้" ซึ่งภายหลังก็ปรากฎว่าไม่มีช้าง เข้าไปรบกวนชาวบ้านอีกเลย แต่ปรากฎว่าพืชผักที่อยู่บริเวณวัดกลับไม่มีเหลืออยู่เลย
    เมื่อประมาณ พ.ศ.2481 หลวงพ่อบวชได้ 12 พรรษาแล้ว มีนายพรานช้างมาขอพักที่วัดและบอกหลวงพ่อว่า จะมาล่าช้างในป่าแถบนี้แต่เวลาใกล้ค่ำ จึงขอพักเอาแรงที่วัดก่อนหลวงพ่อ ก็อนุญาต และ ไปยืนบริกรรมที่หน้าวัดสักครู่ เมื่อนายพรานออกป่าเพื่อล่าช้างก็ปรากฎว่าไม่พบช้างแเยแม้แต่ตัวเดียว
    ต่อมาหลวงพ่อกับภิกษุอีก 4 รูป ได้ธุดงค์ไปเพื่อหากระเพรา 7 อ้อม เมื่อเดินไปถึง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณี ก็พบศาลายกพื้นสูงมากหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในป่าทึบมีข้อความเขียนไว้ว่า "ใครผ่านทางนี้ เมื่อมืดแล้วให้ขึ้นข้างบนเพราะมีสัตว์ชุกชุมมาก"แต่หลวงพ่อกลับบอกพระที่ไป ด้วยกันว่าเรา ปักกลดอยู่ข้างล่างนี้แหละ และทั้งหมดก็ปักกลดลงข้างล่างนั้นเอง เมื่อปักกลดแล้ว หลวงพ่อก็เสกทรายซัด ล้อมกลดไว้โดยรอบพร้อมสั่งพระที่ไปด้วยกัน ทั้งหมดว่าอย่าได้ออกนอกกลดเป็นอันขาดไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ชวนกันนั้งสมาธิเจริญภาวนาแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ ในคืนนั้นเองก็มีสัตว์ร้าย หลายชนิดมาวนเวียนรอบ ๆ กลดแต่ไม่มีตัวใดเข้ามาทำร้ายหลวงพ่อและพระภิกษุอีก 4 รูปเลย จนรุ่งสางหลวงพ่อหอมจึงเดินทางต่อเมื่อเดินทางต่อไป หลวงพ่อเล่าว่าหนทางเป็นป่าเขา โดยตลอด เดินทาง 3 วัน ก็ไม่พบบ้านคนเลยต้องอดข้าวกันทั้ง 3 วัน จนกระทั้งวันที่ 4 จึงได้สวนทางกับชายคนหนึ่ง หาบขนบจีนผ่านมาแล้วเอาขนมจีนนั้นถวายทุกองค์ได้ฉันจนอิ่ม หลวงพ่อ ได้ถามชายคนนั้นว่า "ต่อจากที่นี่ไปอีกไกลมากไหมจึงจะถึงบ้านคน" ชายผู้นั้นตอบว่า "พอพลบค่ำก็จะเห็นแสงไฟบ้านคน" แล้วเดินหายไปในป่านั้น หลวงพ่อจึงชวนพระที่ไปด้วยออกเดินทางต่อ ซึ่งตลอดทาง ที่เดินผ่าน นั้นไม่พบบ้านคนจริงตามที่ผู้นั้นบอกไว้ จึงชวนพระ ที่ไปด้วยกันทั้งหมดปัก กลดพักที่บริเวณใกล้ ๆ กับหมู่บ้านนั้น แล้วก็เดินทางกลับ วัดชากหมากโดยไม่พบกระเพรา 7 อ้อม มาตามต้องการ ส่วนเรื่องที่พบคนนำขนมจีนมาถวายกลางป่าทั้ง ๆ ที่บริเวณใกล้ ๆไม่ม่บ้านคนเลยก็คง เป็นปริศนาให้ต้องแปลกใจอยู่ตลอด
    วิทยาเวทย์ที่เป็นคุณวิเศษของหลวงพ่อหอมวัดชากหมากอีกประการหนึ่งที่ยังไม่ เคยได้เรียนรู้มาก่อน คือ "การต่อชะตาดิน" ซึ่งคุณวิเศษนี้ก็เป็นที่เลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอย่างมากที เดียว คือหากที่ดินของผู้ใดที่ เคยอยู่อาศัย หรือใช้ประกอบกิจการใดๆ มาก่อนเกิดอาการเสื่อมทรามลง หลวงพ่อก็จะไปทำพิธี "ฝังหิน" ให้แล้วกิจการบนที่ดินแห่งนั้น ก็จะกลับคืนเป็นคุณแก่เจ้าของดังเดิม อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ซึ่งวิชาต่อชะตาดินนี้ได้เคยมีบรรดาศิษย์อยากจะขอเรียนจากหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อก็บอกว่าผู้ที่จะเรียนได้จะต้องเป็นภิกษุเท่านั้น และเมื่อเรียนแล้วก็จะต้อง ตั้งนโมปนิธาณ ด้วยว่า "จะบวชจนตายในผ้ากาสาวพัตร์" คือจะสึกออกไปครองเพศฆราวาสไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าผิดไปจากนี้แล้วจะต้องถูก "ฟ้าผ่า" ทันทีจึงไม่มีใครกล้าพอที่จะเรียนต่อจากท่าน เพราะการบวช เป็นพระภิกษุในพระพุทธ ศาสนานี้ไม่ใช่เป็นของง่ายนักที่ประกาศตนว่าจะไม่สึกไว้ล่วงหน้า
    นอกจากหลวงพ่อหอมวัดชากหมากจะเป็นผู้มีวิทยาคุณในทางเครื่องลางของขลังแล้ว ท่านยังเป็นเชี่ยวชาญในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิดอีกด้วย ทั้งนี้เพราะท่านได้เคย ศึกษาเล่าเรียน มาจาก ทางบิดาของท่านซึ่งเป็นแพทย์ ประจำตำบลในสมัยเมื่อท่านยังเป็นฆราวาสอยู่นั้นตามธรรดาทุกๆวัน จะมีคนป่วยด้วยโรคต่างๆ มาหาท่านที่วัดเพื่อขอให้ท่านขจัดปัดเป่า โรคร้ายเหล่านั้น ให้หาย วันหนึ่งๆ ถึง 40-50 คน หลวงพ่อจึงเป็นภิกษุผู้ได้รับความเคารพนับถือ อย่างสูง ทั้งที่เป็นคนไทย จีน แขก ซิกส์ และฝรั่ง ดังจะเห็นได้จากเมื่อหลวงพ่อมรณภาพได้มีผู้หลั่งไหลกันไป เคารพศพของท่านอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะวันถวายน้ำสรงศพของท่าน เจ้าหน้าที่ได้จัดให้เรียงแถวกันเข้าไปต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง จึงหมดคนที่ไปถวายน้ำสรงท่าน
    หลวงพ่อหอม จนทโชโต หรือพระครูภาวนานุโยค อดีตเจ้าอาวาสวัดชากหมาก หมู่ที่ 2 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เดิมชื่อ หอม ทองสัมฤทธิ์ เกิดวันจันทร์ เดือน 10 ปีขาล พุทธศักราช 2433 เป็นบุตร ของนายสัมฤทธิ์ กับนางพุ่ม ทองสัมฤทธิ์ เป็นชาวบ้านสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวักรอยง มีพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน 3 คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้าย พี่ๆ สองคนเป็นหญิงคนโตชื่อนางวอน คนรองชื่อนางเชื่อม
    เมื่อเยาว์วัยอาศัยอยู่กับบิดามารดาที่บ้านเกิดของท่านเอง ส่วนในด้านการศึกษาเบื้องต้นนั้น เป็นที่น่าเสียดายที่ ไม่มีผู้ใดทราบว่าท่านได้ศึกษากับใครที่ไหน เพราะในสมัยนั้น โรงเรียนในชนบท ห่างไกลจากความเจริญ เช่นบ้านเกิดของ หลวงพ่อคงจะไม่มีตั้งขึ้นแน่นอนโรงเรียนที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น โรงเรียนวัดสมบูรณาราม โรงเรียนวัดชากหมาก โรงเรียนวัดสุวรรณรังสรรค์ ล้วนแต่พึ่ง ตั้งขึ้นมาไม่ถึง 50 ปีทั้งนัน ถ้าในสมัยหลวงพ่อหอม 8-15 ปี มีโรงเรียนอยู่ที่บ้านเกิด ของท่านแล้วโรงเรียนนั้นก็จะต้องมีอายุมาถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 75 ปี จึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อ น่าจะเริ่ม ศึกษาเมื่อตอน ได้อุปสมบทแล้วมากกว่า
    หลวงพ่อหอมวัดชากหมาก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเมื่อปีศักราช 2469 อายุ 36 ปี พัทธสีมาวัดทับมา ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยมีหลวงพ่อขาววัดทับมา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจิ๊ด วัดเขาตาแขกเป็นพระกรรมวาจารย์และหลวงพ่อชื่น (ปัจจุบันเป็นพระครูพิพิธวรญาณ และยังมีชีวิตอยู่วัดมาบข่า เป็นอนุสาวนาจารย์)
    เมื่อหลวงพ่อหอมอุปสมบทใหม่ ๆ ยังเป็นพระภิกษุผู้น้อยด้วยคุณวุฒิไม่อาจที่จะปกครองตนเองและผู้อื่นได้จึง ยังจำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยเบื้องต้นในฐานะอันเตวาสิกของหลวงพ่อชื่นอยู่ ที่วัดมาบข่า แต่เพียงชั่วระยะ 2 พรรษา เท่านั้น หลวงพ่อหอมก็เป็นผู้แตกฉานในพระธรรมวินัยอย่างอัศจรรย์ เนื่องจากเป็นผู้มีความเพียรในการศึกษาเป็นเลิศ ยากที่จะหา พระภิกษุรูปใดในรุ่นเดียวกันเสมอ และหลวงพ่อชื่นเองก็ยังเคยปรารภให้พระภิกษุรูปอื่นๆ ฟังว่า "อีกหน่อยคุณหอมเขาจะหอมทวนลมนะ" และต่อมาหลวงพ่อหอมก็ได้กลายเป็นหลวงพ่อผู้มีชื่อเสียงหอมทวนลมจริงดังคำ ของหลวงพ่อชื่นนั้น เมื่อหลวงพ่อหอมได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อชื่น ซึ่งเป็นพระอาจารย์เบื้องต้นให้ไปอยู่ทีวัดชากหมากใกล้ ๆ บ้านเกิดของท่านได้พยายามศึกษาพุทธเวทย์เพิ่มเดิมอย่างจริงจัง จนเป็นที่ประจักษ์แก่ บรรดาศิษยานุศิษย์ถ้วนหน้า และนอกจากจะได้ราษฎรช่วยเหลือกันพึ่งทางใจแก่ผู้เลื่อมใสแล้ว ยังได้สร้างอาคารเรียน"หอมราษฎร์วิทยา" ถึง สองหลังซึ่งเป็นเงิน ที่หลวงพ่อได้รับ จากราษฎรช่วยเหลือกัน จำนวน 1,980,000 บาท รัฐบาลช่วยสมทบ 200,000 บาท เพื่อสร้างอาคารเรียนให้เด็กๆ ได้เล่าเรียนสร้างอุโบสถศาลาการเปรียญ หอระฆังคอนกรีต หอไตรกลางสระน้ำ กุฏิตึก 2 ชั้น ซุ้มประตูคอนกรีตหน้าวัด กำแพงรอบวัด หอสวดมนต์ และสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกมากจนเกือบวาระสุดท้าย ยังได้สร้างกุฏิครึ่งตึกครึ่งไม้เพิ่มอีก 1 หลัง แต่ไม่ทันเสร็จก็ถึงแก่มรณภาพ
    ด้วยคุณงามความดีที่ปรากฎนี้เอง หลวงพ่อจึงได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี พระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูภาวนานุโยคในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2507 เป็นเกียรติประวัต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2025 at 09:33
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ปิดครับ

    IMG_7891.jpeg IMG_7892.jpeg IMG_7894.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ ปี 2518 รุ่นเมตตาต่อวิทยาลัยสงฆ์ภาคฯ วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น

    รุ่นนี้กล่าวกันว่า เป็นรุ่นที่พุทธคุณไม่แพ้รุ่น 1 (รุ่นประสบการณ์)

    หลวงพ่อผางรุ่นปี2518เมตตาต่อวิทยาลัยลัยสงฆ์ภาคฯ ขนาดเหรียญเท่ากับเหรียญปี2512
    มีทหารที่จะไปปฎิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากจะมีวัตถุมงคลไว้เพื่อป้องกันตัวและขวัญกำลังใจ จึงได้ทดสอบวัตถุมงคลหลายคณาจารย์ด้วยกัน ทั้งพระหลักพัน หลักหมื่นและยอดนิยมโดยได้จุดธูปเทียนขอขมาก่อนทดลองยิง ปรากฎว่าหลายคณาจารย์ต่างแตกกระจุย

    มีหลวงพ่อผางปี 2518 คณะทดลองใช้ปืน.38 ยิง3นัด ไม่ออกแต่รอยกระสุนมีรอยสับแล้วทั้ง3ลูก พอยิงไปที่อื่นออกทั้ง3นัด นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วครับ ลูกศิษย์จึงตามเก็บกันเงียบๆ

    บูชา 800 บาท เหรียญสวยมากอยู่ในเลี่ยมเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2025 at 09:28
  18. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +1,007
    จองพระอ.ฝัั้นครับท่าน/ล.พ.ผาง
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ขอบคุณครับ
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,779
    ค่าพลัง:
    +53,129
    ปิดครับ

    IMG_7911.jpeg IMG_7912.jpeg IMG_7913.jpeg IMG_7914.jpeg
    IMG_7915.jpeg
    IMG_7917.jpeg IMG_7918.jpeg IMG_7919.jpeg IMG_7925.png

    ชานหมากสร้างโบสถ์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลีจ.นครสวรรค์

    คำนี้เดิมเลี่ยมมาเก่าๆ ผมแกะออกเพื่อความสบายใจแก่ผู้จะบูชา เจ้าของเดิมบอกว่ารับจากมือท่านแล้วเลี่ยมบูชามานาน จึงขอขมาบอกกล่าวหลวงปู่ท่านแกะออกดู เพราะปัจจุบันของแท้หายาก เลี่ยมมาก็ไม่เห็นว่าใช่หรือไม่ ลูกนี้จึงบูชาได้สบายใจครับ

    อีกหนึ่งตำนานต้องจารึก ชานหมากสร้างโบสถ์ ที่ขลังยิ่งนักพระแก่ๆ บ้านนอก เคี้ยวหมากสร้างโบสถ์ได้เป็นหลัง ขลังขนาด ไม่มีตกถึงพื้น ลองยิงแล้วลองยิงอีก จนเป็นตำนานดังที่กล่าวขานจวบจนวันนี้ เมื่อก่อนแพงมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2025

แชร์หน้านี้

Loading...