@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ?temp_hash=b48837e70bd3e0bfb7eb94ef5bacd2dd.jpg




    1f49c.png 1fa77.png สู้กับไสยศาสตร์ 1fa77.png 1f49c.png
    ถาม : ....(เกี่ยวกับคำภาวนา สัมปฎิจฉามิ, สัมปจิตฉามิ และการป้องกันไสยศาสตร์)…?
    ตอบ : การภาวนาคาถา สัมปฏิจฉามิ
    "สัมปฏิจฉามิ" แปลว่า สำเร็จทุกอย่าง ใช้ได้กับเรื่องที่ต้องการสำเร็จ ให้ว่าไปเลย..ได้ทั้งนั้น
    เรื่องของการทำไสยศาสตร์จริง ๆ ไม่น่ากลัว เหตุที่ไม่น่ากลัว เพราะกำลังใจของเขาตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่น ในเมื่อตั้งใจเบียดเบียนคนอื่น เขาจะเข้าไม่ถึงจุดสุดท้ายของสมาธิ เพราะว่าจุดสุดท้ายของตัวสมาธิ จะมีตัวอุเบกขาอยู่ ถ้าตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่น กำลังใจก็ไม่เป็นอุเบกขา
    ถ้าหากว่าเราตั้งใจภาวนาอยู่เป็นปกติ อารมณ์ใจแค่เกินอุปจารสมาธิไปนิดเดียว จะไม่มีไสยศาสตร์อะไรทำอันตรายเราได้เลย แต่ต้องไม่เผลอ
    ถ้าหากแก้กันตามสายของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้ปลุกยันต์เกราะเพชรขึ้นมา จะสะท้อนไสยศาสตร์กลับไปหมด
    อีกอย่างหนึ่งท่านให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า "เรวัตตะ" สมัยของท่านจะมีพวกทำไสยศาสตร์เหมือนกัน บางครั้งคนฟังเทศน์อยู่ดิ้นพลาด ๆ กลางศาลาเลยก็มี เพราะฉะนั้น..พระองค์ท่านจะมีความชำนาญในด้านนี้อยู่มาก ท่านแนะนำว่าให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า เรวัตตะ แล้วตั้งใจภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" เมื่อใครกลั่นแกล้งเราก็จะมีอันเป็นไปเอง
    ถ้าเจอวิธีนี้ เขาก็คงเข็ดไปอีกนาน ทำเมื่อไรตัวเองโดน
    สมเด็จพระพุทธเจ้าเรวัตตะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า "เรวัตโต รติวัฑฒโน" ผู้มีราตรีอันเจริญ คือมีสติอยู่เสมอ ราตรีเจริญ อยู่กับสมาธิกันทั้งวันทั้งคืน มีสติอยู่ตลอดเวลา
    พวกบรรดาสำนักต่าง ๆ ที่เขาแก้ไขเรื่องไสยศาสตร์ให้ ก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจ เพราะว่าเขาเอาออกได้ เขาก็ใส่คืนได้ บางครั้งจะอยู่ในลักษณะที่ครอบเราเอาไว้ ให้เราหาประโยชน์ให้เขาตลอดไป
    ถาม : อย่างนี้แล้วเราอยากทราบว่าใครทำจะได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ต้องถามเขา โดยมารยาทแล้วเขาก็บอกไม่ได้ ที่เขายอมช่วยเราก็ถือว่าเต็มที่แล้ว
    ของพระเราต้องยอมรับกฎของกรรม..ใช่ไหม ? ทางด้านโน้นเขายอมช่วยเรา เขาก็เสี่ยงมากแล้ว ถึงขนาดไปเปิดเผยตัว ถือว่าเป็นการประกาศตัวเป็นศัตรูโดยตรง เดี๋ยวลำบาก
    มีอยู่ครั้งหนึ่งอาตมาไปหาพระของวัดเขาอ้อ จะเอามาทำน้ำมนต์แก้พวกนี้ พวกทำไสยศาสตร์เขามีความสามารถสูงจริง ๆ ถึงเวลาเราไปช่วยเขาแค่ครั้ง สองครั้ง เขาจะรู้เลยว่าเป็นเรา แล้วต่อไปเขาจะทำใส่เราแทน..!
    ถาม : โดยที่เราไม่ได้ทำคืนเขา ๆ จะทราบเลย ?
    ตอบ : จ้ะ..เขาจะรู้เลย เมื่อเขาทำคนอื่นไม่ได้เพราะเราไปช่วยไว้ เขาก็ทำใส่เราแทน
    อาตมาตั้งใจจะเบี่ยงประเด็น การเอาพระของวัดอื่นมาทำน้ำมนต์ กระแสก็จะเป็นของสำนักนั้น ถึงเวลาเขาจับได้ก็ไปถล่มสำนักนั้นเอง ไม่เกี่ยวกับเรา แต่นั่นขี้โกงไปหน่อย ตั้งแต่เอาพระของสำนักเขาอ้อมา ยังไม่เคยใช้เลย เพราะว่าตัวเองยังพอรับไหว
    .....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    ที่มา https://l.facebook.com/l.php?u=http://www.watthakhanun.com/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR14lTnUL9ID9X79WIS55Cckry2GduFzH4BVgzT74CUk_BhGCRJJXfwgG4E_aem_R-Y5izjYs7xHMM2YdE-nQg&h=AT0-GMADmtCltDhycJtlXOvQ_AgkJMifOGXwdW_sbuFn_H5mG2F1aIAJoC9ImR5TT1VYmT1LZDu3K07GjUZ22yuydemxx5ZJbTntRSQrKiIWI5L41Zkv41o01AZK9TeqcKpu&__tn__=-UK-R&c[0]=AT0Onkk0eb1XNOlHK7uYyPVUEiaQU5RsfczFmhL05DzqcMXRDlL05FtNQgphgFqiRW3hqFeGRcOf0QwnleIrDCtE-CQ1bmrMwZKdfyQBYyZDbboU07j0cfvxcKF2FTYI0FN_4UHLkrv6iOZfyEG1DZfjoFNEFmR2YSv42u8HK034XYUwSy09FSgVY4v9eZrHj58YGfv5PDt2TDdBxg9SdXB27ysvtIF3M9juRoiCMEM2Eo9s6T4NI4GS3Q
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2024
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    bBwYXcVmAvHle_XOYMzO3yqppiH12&_nc_ohc=wEPVW50pgmMQ7kNvgEQ-lUg&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ?temp_hash=49e204f1f8a0d8dbfb96554df06725b5.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ใครกระทำความผิดศีล ผิดธรรม ด้วยมิจฉาทิฐิอย่างนี้ แม้มีชีวิตอยู่ในภพชาตินั้น ก็ยังจะได้รับโทษเป็นความทุกข์เดือดร้อน จากผลของกรรมนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะได้รับทั้งๆที่อยู่ในภพชาติปัจจุบันนี้ หนีกรรมไม่พ้น

    และแตกกายทำลายขันธ์แล้ว ต้องรับโทษจากกรรมที่ทำ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรกในชั้นต่างๆตามกรรม ชั้นสุดท้ายก็คืออนันตริยกรรม ผู้มิจฉาทิฐิน่ะไปได้รับโทษตรงนั้นก่อน และพ้นจากนั้น พ้นนี่..ไม่ได้ว่าพ้นหมดนะ มิจฉาทิฏฐิยังอยู่ นั่นแหละ นำไปสู่ความบังเกิดขึ้นในอายตนะโลกันต์

    สัตว์โลกที่เป็นไปอย่างนี้ ด้วยมิจฉาทิฏฐินี่ เป็นกรรมหนักยิ่งกว่าอนันตริยกรรม รับผลก่อนทั้งหมด พอไปถึงโลกันตนรกดังที่ได้กล่าวแล้ว เมื่อเป็นสัตว์นรกนี่ ต้องตกลงไปในทะเลน้ำกรดแล้วๆเล่าๆ นานเท่านาน เพราะฉะนั้น เชื้อแห่งคุณความดีที่เคยทำในระดับมนุษยธรรม ถูกกัดกินละลายหายไปๆๆ จนไม่สามารถที่จะเป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพสามอีก มนุษย์ก็คือในกามภพ ในโลกมนุษย์อีกไม่มี

    อย่างดีก็แค่มาเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำ สัตว์เซลล์เดียว เช่น พวกไฮดรา อะมีบา พวกเชื้อโรค พวกไวรัสต่างๆ นี่..มาจากนี้ส่วนมาก

    และถ้าร้ายกาจไปกว่านั้น
    ก็จะไปเป็นธาตุธรรมของภาคมาร
    ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับภาคพระ คือพระนิพพาน อยู่ตรงกันข้ามกัน

    1f514.png อันนี้ให้เข้าใจ ที่อาตมายกตรงนี้มากล่าว เพื่อจะให้เข้าใจว่า ขณะนี้ในประเทศชาติของเรา ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ แต่คนไม่รู้บาปบุญคุณโทษมากขึ้น เพราะไปรับเอาความเจริญทางวัตถุมาบำบัด หรือมาสนองความต้องการของตน และก็หลงเพลิดเพลินติดอยู่ในทรัพย์สมบัติ ในอำนาจราชศักดิ์ต่างๆ จนมีผลให้ตนเองมีความเห็นผิด แล้วไปคิดทำลายล้างผู้อื่น ให้เกิดโทษ เกิดความทุกข์เดือดร้อน อยู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย

    1f514.png ก็เพื่อให้ทราบว่า ให้ท่านระวัง ความเป็นมิจฉาทิฐิ ไม่ใช่เกิดอยู่กับเฉพาะคนนอกศาสนาที่หลงผิดไป คนนอกศาสนาที่พอจะเข้าใจถูกก็มีนะ แต่ที่หลงผิดไปก็มี แต่..ในพุทธของเราที่หลงผิดไปก็มี เป็นมิจฉาทิฐิได้ และก็เป็นไปอย่างนั้นด้วย

    1f514.png อย่าไปทนงว่า พอขึ้นชื่อว่าเป็นพุทธแล้ว เป็นมิจฉาทิฐิไม่ได้ ไม่จริง!! คิดอย่างนั้น ทําอย่างนั้น ก็เป็นอย่างนั้น เหมือนปลูกมะพร้าว ออกลูกมาเป็นมะพร้าวแน่นอน มันไม่ออกมาเป็นลูกหมาก หรือมาเป็นอะไรๆอย่างอื่น มะม่วงอะไรอย่างนี้ ไม่ได้!! ฉันใดฉันนั้น

    หลวงป๋า

    mmKn1A0D3NFh6nwkcfZP4D47UojAIo&_nc_ohc=NgInsbdhE5wQ7kNvgGmT1gz&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ZBD5pwONytWTggsBSPFYNDS2LfMzx&_nc_ohc=fsdEytx9pQkQ7kNvgG2rXR1&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    บ่อเกิดความรู้ 4


    ทฤษฏีว่าด้วยการเรียนรู้(ทางศาสนา) มีการเกิดขึ้นขององค์ความรู้จาก 4 ส่วน คือ ความรู้จะสมบูรณ์ได้นั้นต้องมีองค์ประกอบของการเรียนรู้
    1. จากตัวผู้เรียน ศึกษาค้นคว้า 25 %
    2. จากอาจารย์ผู้สอน 25 %
    3. จากเพื่อนร่วมชั้น หรือผู้ช่วยให้คำปรึกษา 25 %
    4. จากการบ่มเพาะสั่งสมประสบการณ์ 25%
    รวมความรู้ที่ได้ 100 %


    อาจารย์ผู้สอนมีส่วนในการบ่มเพาะความรู้ให้แก่ศิษย์ บางครั้งเกินกว่า 25 % ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิชาที่เรียน และอาจารย์ผู้สอนมีประสบการณ์มากน้อยเพียงไร

    ความรู้ทางด้านศาสนา มักได้จากอาจารย์ 50-90 %
    ถ้าผู้เรียนศึกษาเอง ความรู้ที่ได้จึงมีโอกาสผิดพลาด เพราะเป็นเรื่องเฉพาะมีความซับซ้อนทั้งการแปลและการตีความรวมทั้งการเชื่อมโยงคำสอนในส่วนต่างๆ
    ปัญหาเรื่องการเข้าใจคำสอน แตกต่างกัน จนเกิดความแตกแยกทางความคิด ถือปฏิบัติ โจมตีกันและกันของชาวพุทธในปัจจุบัน
    ส่วนใหญ่ เกิดมาจากผู้เรียน ศึกษาธรรมเอง ไม่มีครูอาจารย์สอน อย่างกรณีวัดนาป่าพง คนตื่นธรรม พระต้นธรรมนาวา ล้วนแล้วแต่ "เรียนเองไม่มีครูอาจารย์สอน" จึงมีความเห็นผิดในหลายเรื่อง

    พระพุทธเจ้า ไม่ให้ศึกษาธรรมวินัยเอง แต่ให้ศึกษาจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังที่ตรัสไว้ใน สัทธิวิหาริกวัตรว่า
    “อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา."
    พระอุปัชฌาย์ ต้องสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก ด้วยอุทเทส ปริปุจฉา โอวาท อนุสาสนีย์
    >คำว่าปริปุจฉา คือการ ทวนสอบความรู้ คำอธิบายความ ความหมายตัวบทต่าง ๆ ถูกต้องตรงกันหรือไม่

    ตัวอย่าง ข้อความที่มีผู้ส่งมาถามในวันนี้ (9 ต.ค.67)
    สกฺยปุตฺติย ไม่มีใน หนังสือบาลีไวยากรณ์สนามหลวง
    (มีแต่ สกฺยปุตฺติก) จึงมีคำถามว่า ปุตฺติย ลงปัจจัยอะไร ?
    แม้ พมว.แคปหน้าจอ ขีดเส้นใต้ส่งไปให้อ่าน
    ผู้ถาม ก็ไม่อาจเข้าใจได้ จึงต้องอธิบาย อีกว่า ณิก ปัจจัย แปลง ก เป้น ย

    นี่คือตัวอย่าง การศึกษา ถ้าหากขาดครูอาจารย์ผู้มีประสบการณ์คอยแนะนำ
    ผู้เรียน ไม่อาจเข้าใจได้เลย แม้จะเป็นเรื่อง ง่ายๆก็ตาม


    5nZ-YkxT6fp2MVF_LPxP3wRYPcxMT&_nc_ohc=axF9tdL_aKEQ7kNvgHovUJC&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg


    ที่มา https://web.facebook.com/wattana.pa...eRDENTP8dBpcC-j6rehD0Y2wv5gKYqO7&__tn__=-UC*F
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ก้อนหินไม่หนัก
    ถ้าเรา . . “ไม่แบก”
    “ทุกข์” ไม่เกิด
    ถ้าเราไม่นำมันมาใส่ใจ
    ปล่อยทุกอย่างไปแค่อยู่กับบทสวดมนต์
    สวดไปเรื่อยเรื่อยเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง

    หลวงตาม้า


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    Q_N1b-aghw5AD1jXzwPag9nG5fkex&_nc_ohc=v393ZxLFlRgQ7kNvgGJxcoq&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    "พึงระวังการวิพากวิจารณ์บุคคลอื่น ที่จะทำให้ปิดกั้นการเห็นให้เนิ่นนาน ถึงเห็นก็ไม่ชัด และจะปิดกั้นการเข้าถึงธรรมะที่สูงยิ่งๆขึ้นไป "
    คำสอนหลวงป๋า

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ?temp_hash=8d355f557d2933158f957f5cf1f5b470.jpg
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ผู้รักษาศีล 5 จะงดงามทั้งกาย วาจา ใจ!! คำสอน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต




    ที่มา https://www.youtube.com/@ThaiNews-online



     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ?temp_hash=6b37919823073faef26b5ba8307358f6.jpg

    นักปฏิบัติธรรม ต้องมีพื้นฐาน ปัจจเวก ทั้ง 4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,459
    ในขณะเดียวกัน ถ้ากล่าวว่าการสร้างวัตถุมงคลถือเป็นเดรัจฉานวิชา หาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบ ท่านต้องเข้าใจว่าคำว่า "เดรัจฉานวิชา" ก็คือ "วิชาที่ขวางต่อการบรรลุมรรคผล"
    หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์จำนวนมาก ที่กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าท่านบรรลุมรรคผลแล้วประการหนึ่ง หลวงปู่หลวงพ่อที่กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่า ท่านมีสมาธิสมาบัติคล่องตัวมาก ๆ ไม่ว่าจะในระดับรูปฌานหรืออรูปฌานอีกประการหนึ่ง ท่านทั้งหลายเหล่านี้ถือว่าปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงไปถึงระดับนั้นได้ ท่านก็ยังสร้างวัตถุมงคลกันอยู่
    ไม่ว่าจะโดยวัตถุประสงค์สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา โยงจิตให้ระลึกถึงความดี หรือสอนญาติโยมที่ยังต้องการเครื่องยึดโยงให้ปฏิบัติในไตรสิกขาเบื้องต้นก็ตาม ท่านทั้งหลายเหล่านี้ย่อมไม่สามารถจะกล่าวได้ว่าท่านศึกษาในเดรัจฉานวิชา เพราะว่าท่านทำเพื่อตนเองจนสำเร็จประโยชน์แล้ว ท่านจึงทำเพื่อพุทธศาสนิกชน ทำเพื่อพระพุทธศาสนา
    ประการต่อไปคือเป็นการ "หาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบ" ขอเรียนถวายพระอาจารย์ว่า การหาเลี้ยงชีพที่พระพุทธเจ้าตลอดจนกระทั่งพระอุปัชฌาย์แจ้งแก่เราทั้งหลายนั่นก็คือ "ปิณฑิยา โลปโภชนัง นิสสายะปัพพัชชา" ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตก็คือการเที่ยวบิณฑบาต ก็คือให้หาเลี้ยงตนเอง ด้วยการละมานะทิฏฐิลงไปขอจากผู้อื่นเขา
    แต่คราวนี้การหาเลี้ยงนั้นจะต้องหาอยู่ทุกวัน กระทำกันเป็นอาจิณ ไม่ว่างไม่เว้นแม้แต่สักวันหนึ่ง เพราะว่าเราต้องกินต้องฉัน แต่การสร้างวัตถุมงคลนั้นจะกล่าวว่าหาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบไม่ได้ เนื่องเพราะว่าทำกันเป็นครั้งเป็นคราวเท่านั้น
    โดยเฉพาะถ้าหากว่าตัดบรรดาผู้ที่หากินอยู่ในวงการนี้ ที่เรียกกันชัด ๆ ว่า "พุทธพาณิชย์" ออกไปแล้ว สิ่งที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านทำก็ดี หรือว่าสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำก็ตาม ย่อมไม่สามารถที่จะกล่าวได้ว่าหาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบได้
    ไม่เช่นนั้นแล้วหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง อันเป็นจักรพรรดิแห่งพระเครื่องเมืองไทยก็ดี หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผู้สร้างพระเครื่องทรงสัตว์พาหนะ ที่ระบือลือลั่นไปทั่วประเทศไทยก็ดี หลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้สร้างพระของขวัญ อันดังระเบิดเถิดเทิง เป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศก็ตาม จะไม่ยกตัวอย่างมากไปกว่านี้ แต่พระอาจารย์ท่านจะกล่าวหาว่า หลวงปู่หลวงพ่อที่กระผมยกตัวอย่างมานี้ ท่านศึกษาในเดรัจฉานวิชาหรือว่าหาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบหรือไม่ ?
    แต่อย่างไรเสียก็ขอกราบขอบพระคุณในความมีน้ำใจของพระอาจารย์ที่เมตตาตักเตือนมา แต่กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่า สิ่งที่ท่านเตือนมาประกอบไปด้วยความหวังดีปรารถนาดีนั้น เพราะว่าอยากจะให้พุทธบริษัททุกรูปทุกนาม ช่วยกันพิทักษ์รักษาค้ำจุนพระพุทธศาสนาของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ แต่ว่าศาสนาพุทธของเรานั้นประกอบด้วยบุคคลในระดับต่าง ๆ ที่ไม่เท่ากัน
    ขอบคุณที่ท่านหวังดีปรารถนาดีตักเตือนมา แต่เมื่อพิจารณาแล้วว่า สิ่งที่กระทำนั้นไม่น่าจะใช่อย่างที่ท่านคาดคิด ก็ได้แต่ขอบคุณความหวังดีของท่าน โดยที่ไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามได้
    ประการต่อไปก็คือพระอาจารย์อายุน้อยกว่ากระผม ๑๐ ปี พรรษาน้อยกว่ากระผมหลายพรรษา โดยมารยาทของนักบวชด้วยกัน ถ้าหากว่าบุคคลอื่นต่อให้พรรษาน้อยกว่า อายุน้อยกว่า ถ้าไม่ได้ปวารณาเอาไว้ เราก็จะไม่เข้าไปตักเตือนเพราะถือว่าเป็นการเสียมารยาท..!
    กระผม/อาตมภาพเคยตักเตือนรุ่นพี่ที่อาวุโสพรรษาและอายุกาลมากกว่ามาแล้ว แต่นั่นท่านปวารณาโดยตรงให้กระผม/อาตมภาพตักเตือนเอง แต่ว่าท่านเองก็ยังเมตตาฝืนมารยาทอันควรมีในหมู่สงฆ์ของเรา ตักเตือนให้กระผม/อาตมภาพประพฤติปฏิบัติตนเสียใหม่ เพื่อความงามสมบูรณ์พร้อมในสายตาของท่าน ก็ต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
    ขอให้บารมีแห่งคุณพระศรีพระรัตนตรัย และคุณงามความดีที่ท่านอาจารย์ได้กระทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ จงรวมกันเป็นตบะเดชะ พลวปัจจัย ดลบันดาลให้ท่านอาจารย์สถิตสถาพรไพบูลย์ อยู่ช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาของเรา ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปชั่วกาลนาน
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=10621
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    q82dzS-h-yZkuXsjmxt9cE6hSqzaf&_nc_ohc=2odw9YA90rMQ7kNvgHk462C&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...