เกิดนานแล้ว แต่ยังโง่อยู่

13 ตุลาคม วันนวมินทรมหาราช

 

23 ตุลาคม วันปิยมหาราช

 

พระอชิตะเถระ

มีข้อถกเถียงกันในโซเชียล ..
1. พระอนาคามีมาเกิดได้หรือไม่ ? เรื่องนี้เห็นมาหลายเพลาแล้ว ไม่ได้ดูรายละเอียด และขอผ่านครับ
2. พระอรหันต์มาเกิดได้หรือไม่ ? เปิดวิดิโอพบเรื่องนี้สดๆร้อนๆ

ขอต่อด้วยเรื่องที่ 2 ก็แล้วกัน ผมไม่มีความรู้อะไร จะขอสร้างลิงค์ไปอ่านที่ๆเขารู้นะครับ .. ขอพาไปดูเรื่องพระอชิตะเถระ ซึ่งได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ว่าจะเป็นพระศรีอาริย์

เรื่องที่โฟกัสจากเรื่องพระอชิตะเถระ คือ ..
.. ที่กล่าวกันว่า ท่านนั้นท่านนี้จะเป็นพระศรีอาริย์ในอนาคต ก็แสดงว่า ท่านนั้นเป็นพระอชิตะเถระมาเกิดใช่หรือไม่
.. ถ้าใช่ก็เป็นคำตอบของคำถามที่ว่า พระอรหันต์มาเกิดได้หรือไม่ ?
.. ถ้าไม่ใช่ แล้วเนื้อเรื่องจริงๆเป็นฉันใด ?

ไปที่เว็บฯ > dmc.tv
​

เพิ่มเติม ไปที่เว็บท่ากรมศิลปากร กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
.. ขออนุญาตสร้างลิงค์ครับ

> พระศรีอารยเมตไตรย จะมาอุบัติเมื่อใด
เจ้าหญิงนาคีเขียนไว้​

 

ความรู้เรื่องวัด
1. วัดทั้งหมดในประเทศไทยมี่กี่วัด ?
2. วัดที่พระเล่นโซเชียลมิเดีย YouTube, TikTok, รู้จัก Live สด มี่กี่วัด ?

คำตอบข้อ 1 : ข้อมูลจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วัดทั่วประเทศมี 44,078 วัด (7 กันยายน 2567 23.00 น.)
> ไปที่ ONB - สรุปจำนวนวัด
​

คำตอบข้อ 2 : ไม่ทราบ - ต้องติดตาม YouTube และอื่นๆครับ

 

> เจ้าหญิง....เขียนไว้

มีข้อสงสัยจะถามคือ แล้วเป็นพระอชิตะเถระมาเกิดเป็น "ลป ท" หรือเปล่า ?
.. ถ้าใช่ จะได้เป็นที่เข้าใจว่า พระอรหันต์มาเกิดได้
.. แต่ถ้าไม่ใช่พระอชิตะ ก็แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่าพระอชิตะจะเป็นพระศรีอาริย์
.. คิดว่าในเมื่อรู้อนาคตอีกยาวไกลเป็นล้านปี ย้อนอดีตไปแค่ 2 พันปีเศษคงรู้นะ
.. ว่าแต่เจ้าหญิงอยู่ไหน ?

 

ปวดหัว จะแก้ยังไง ?

มลภาวะหลายๆอย่างทำให้ปวดหัวได้ :
อ่านประเภทเหนือจินตนาการมากๆ เราก็ปวดหัวได้ เพราะตาต้องส่งความรับรู้ไปที่หัวสมอง สมองรับเรื่องเหนือจินตาการเกินตัว ย่อมปวดแน่นอน

ฟังสารพัดเรื่องก็เช่นเดียวกัน ฟังเข้าไป หูก็อยู่ที่หัว ไม่ปวดหัวแล้วจะปวดตรงไหนล่ะ ?

ฉะนั้น เรื่องหลากหลายเราก็ต้องคัดแยก อย่าไปสนใจมากนัก เอาที่พอสบายๆ จะร่ำเรียนอะไร ก็เลือกอาจารย์ที่แน่ใจและเป็นที่รับรู้กันแล้วว่าดีว่าเก่ง ส่วนบรรดาอาจานต่างๆ 108 1009 ปล่อยไปบ้างเถอะ ไม่ต้องนำมาบรรจุในหัวสมองเราให้ปวดเลยน่ะ

กิจกรรมทางโลกที่เคยฮิต คือ 5ส แม่จะเงียบๆไปบ้าง ก็รื้อฟื้นนำมาใช้ในการดำรงค์ชีวิตได้ คนเราชอบพร่ำว่า "ปล่อยวาง" ขออย่าให้เป็นแค่ปล่อยวางเพียงคำพูดหรือคำเขียนเลย !
.

 

เสียงลือเสียงเล่าว่า เป็นผลงานลุงตู่ แต่คนรู้น้อยมาก
ขออนุญาตแปะ YouTube ครับ

 

เครื่องเชื่อมที่ดีที่สุด !
เรื่องเชื่อมในเน็ตซาไปไม่ค่อยเป็นข่าว รวมทั้งเรื่องอื่นๆด้วย พระศรีฯ บรรลุธรรม เรื่องรถ ฯ

ความจริงเรื่องเชื่อมในชีวิตคนเราเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่มีคำเรียกที่แตกต่างกันออกไป รักเท่าไหร่, แบ่งปัน, ไม่ทิ้งกัน, ดูแลกัน, ช่วยเหลือกัน, กินน้ำ, กินขนม ฯ

เขียนขำๆนะครับ
แล้วอะไรที่เป็นตัวเชื่อมหรือเครื่องเชื่อมที่ดีที่สุด
.. ไม่บอก"ยี่ห้อ"(เพราะรู้ๆกันอยู่) เบอร์ใหญ่รับงานเชื่อมได้ดีกว่าเบอร์เล็ก

เครื่องเชื่อม เบอร์ 1, 2, 5 .. แหมเล็กไป จะสามารถเชื่อมอะไรได้ล่ะเนี่ย
" ............." เบอร์ 10 .. ใหญ่ขึ้นมานิดนึง แต่ความสามารถก็ยังน้อยอยู่นะ
" ............." เบอร์ 20 .. ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ความสามารถก็ยังไม่เท่าไหร่
" ............." เบอร์ 50 .. ใหญ่ขึ้น แต่เรื่องความสามารถ ครูให้คะแนนแค่ "พอใช้"
" ............." เบอร์ 100 .. ใหญ่ขึ้น มีขนาดและความสามารถมากขึ้น ถ้าครูให้คะแนนก็ "ใช้ได้"
" ............." เบอร์ 500 .. ใหญ่ขึ้นในขั้น "ดี" ภาษาปะกิตว่า "กู้ด"
" ............." เบอร์ 1000 .. ใหญ่สุดในวงการ "ดีมาก เวรี่กู้ด" เข้าที่ไหนงานสำเร็จ หลายๆเครื่องช่วยกันยิ่งแจ๋ว

สรุปว่า ถ้าเชื่อมอะไร จะสำเร็จไว ต้องใช้เครื่องเชื่อมเบอร์ 1000
.. แค่นี้ครับ พอฮาๆ

 

เนื้อร้องท่อนหนึ่งของเพลงดาวลูกไก่

"โอ้ชีวิตคิดไฉน
ใครหนอใครลิขิต
ปกาศิตของศิวะ
หรือของพระพรหมเจ้า
.............."​

เราอาจคิดว่าชีวิตเป็นของเรา
แต่จริงๆแล้วเราไม่อาจบงการชีวิตตัวเราเองได้เต็ม100หรอก ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

.. ทางพระก็ว่าเราเกิดแต่กรรม ผลแห่งกรรมดีกรรมชั่วที่ทำมา ชักนำให้เกิดมามีชีวิตดีหรือไม่ดี
.. ทางโลกก็ว่า วาสนาได้ออกมาดูโลกเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ สิ่งแวดล้อมแบบไหน .. ก็เหมือนกับทางพระว่ากรรมนั่นเอง เพราะย่อมเป็นเครื่องนำทางให้เราดำเนินชีวิตไปในแบบนั้นๆ

.. สิ่งที่กว้างกว่านี้ก็ต้องดูว่าเราเกิดที่ไหน ณที่นั้นมีกฏกติกาอย่างไร กติกาประเพณีต่างๆย่อมอยู่เหนือผู้ทื่อยู่ภายใต้กติกาประเพณีนั้นๆ

.. แล้วถ้าเกิดภายใต้ผู้มีอำนาจคือ"พระศิวะ"หรือ"พระพรหม"ล่ะ .. แน่นอน พระทั้งสองย่อมมีอำนาจบงการชีวิตเรา ที่ว่า ปกาศิตของศิวะ หรือของพระพรหมเจ้า !! (เพลงพร ภิรมย์ท่านว่าไว้)

ฉะนั้น บางครั้งบางเวลาคนเราอาจคิดมากกลุ้มใจ ก็ต้องเข้าใจในความเป็นจริงของชีวิต ไม่มีอะไรเป็นของเราร้อย
เปอร์เซ็นต์หรอก .. หายา "ทัมใจ" ติดบ้านไว้บ้างก็เป็นเรื่องดี

เขียนฮาๆครับ
.

 

ปลาหมอก็กำลังเป็นข่าวอยู่ ล่าสุดว่าห้ามมีไว้ในครอบครอง จริงหรือเปล่าไม่รู้นะ

แต่ "ปลาช่อน" ช่วงนี้ชุกชุมมาก ขายกันเกร่อ
.. เป็นเพราะเข้าฤดูฝนหรือเปล่า ที่แน่ๆ "ที่ไหนวุ่นวาย ที่นั่นมีขายปลาช่อน" จริงมั๊ย ! .. จับแพะชนแกะน้อเรา

เมื่อคืนฝันยาว ก็เหมือนทุกครั้งคือที่ว่าฝันนั้นไม่เหมือนฝัน เป็นลักษณะรับรู้ ความคิดของใครแล่นเข้ามาในหัวเรา แบบพูดคุยกัน มีอยู่ท่อนหนึ่งเขาว่า "มีอยู่หลายคนนะ" .. ขอบคุณในความปรารถนาดี
ส่วนจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรขอไม่กล่าวถึงนะครับ .. ใครทำอะไรไว้ สติสัมปชัญญะคนเราก็ย่อมมีอยู่ คงระลึกได้ว่าตัวเรานี้ ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร อย่างไร ?

ก็มีความคิดหนึ่ง เป็นข้อสงสัยว่า "ถ้าอาจารย์ดี แล้วลูกศิษย์จะดีหรือไม่ ?"
.. เรื่องอย่างนี้คงตอบยาก ในยุคปัจจุบันปากกัดตีนถีบ บางทีต้องพับความดีเก็บใส่ตู้ไว้ก่อน หรืออาจคิดเข้าข้างตัวเอง "ทำดีมาตั้งนาน ชั่วหน่อยเดียวคงไม่เป็นไร" .. ผ้าขาวอยู่ดีๆมันยังเปื้อนฝุ่นเลยนี่นา

แล้วก็สงสัยตามมาว่า "อาจารย์ที่ว่าดี ซึ่งได้ลาโลกไปนานแล้ว" หากรู้ว่าศิษย์ทำไม่ดีไม่ถูกต้อง เขาจะมาบอกศิษย์หรือไม่ ? .. คิดว่าอาจารย์ที่ดังๆย่อมไปอยู่ในที่ดีๆ ย่อมต้องมีญาณหยั่งรู้ความเป็นไปของคนในโลกนี้อย่างแน่นอน
.. หรืออีกทางหนึ่งศิษย์ที่ดี น่าจะเป็นฝ่ายถามไปที่อาจารย์ได้นะ ว่ากระผมทำอย่างนั้นอย่างนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร

ลักษณะแบบนี้ คงเหมือนโลกในฝัน จะเปี่ยมไปด้วยความดี แต่..เป็นจริงยากอยู่นะ
.

 

นิยายกำลังภายใน
กฏ กติกา ข้อบังคับของพรรคหรือสำนักกำลังภายใน

เมื่อสมัยหนุ่มๆ ผมเป็นแฟนนิยายกำลังภายใน เล่มหนา 1 นิ้วอ่านวันเดียวจบ ผลงานแปลของท่าน ว.ณ เมืองลุง และท่าน น.นพรัตน์ ต่อมานิยายกำลังภายในก็สร้างเป็นหนัง ได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง ความสุขส่วนหนึ่งในชึวิตครับ

พรรคหรือสำนักของเหล่าจอมยุทธมีหลายพรรค เช่น พรรคกระยาจก, สำนักเสียวลิ้มยี่, สำนักบู๊ตึง, สำนักคงท้ง ฯ และยังมียอดฝีมืออิสระอีกต่างหาก

อ่านๆๆ เป็นหนอนหนังสือ แต่ไม่เคยรู้ว่า พรรคหรือสำนักต่างๆนั้น มี กฏ กติกา ข้อบังคับ ในการบริหารพรรคหรือไม่ ผู้รู้เรื่องนี้ช่วยบอกที เพราะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า..

ณ เวลาใดที่มีงานชุมนุมยอดฝีมือ แข่งขันหายอดฝีมือ ผู้ที่สังกัดพรรคนั้นพรรคนี้ ถ้าไปร่วมงานจะต้องไปในนามของพรรค โดยได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจของพรรคหรือไม่ หรือไปเองโดยทางพรรคมิต้องมอบหมาย ?

เปรียบกับองค์กรหรือบริษัท ถ้าผู้บริหารหน่วยงานหรือบริษัทฯไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ หรือจะส่งใครไปทำเรื่องอะไร ก็มีการแต่งตั้งผู้ทำการแทน หรือผู้ไปปฏิบัติหน้าที่ ระบุชื่อเรียงเสียงไร เป็นต้น

สงสัยครับ
.

 

มาช้าดีกว่าไม่มา
.. จดหมายเปิดผนึก (เรื่องฝันก่อนตื่น)

สวัสดี คุณเงินสด

ผมต้องขออภัยที่มองข้ามคุณตั้งแต่แรก
เสียเวลาไปนานเป็นปีแล้ว ผมมัวแต่ขับรถอ้อมไปอ้อมมา ผ่านอุปสรรคต่างๆมากมาย ผ่านภูเขาหลายลูก เสียเวลา เสียค่าน้ำมัน และเสียโอกาสจากการที่ ไม่เอาความคิดไปคิดหรือทำเรื่องอื่นให้เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น ผมผิดไปที่มัวแต่คิดเรื่อง "กำแพงเลท"

นอกจากนี้ยังต้องเสียเบี้ยประชุม ค่ากาแฟ โอเลี้ยง ให้พรรคพวกเพื่อนร่วมงานเมื่อตอนที่เรามาประชุมกัน เป็นจำนวนมาก .. แต่ความเสียหายต่างๆนี้ ผมไม่ขอรับผิดนะ เพราะกฏกติกา"เปิด"ให้ทำได้ ไม่มีกล่าวไว้ว่าเป็นความผิดใดๆ

มาบัดนี้ ผมคิดได้แล้วว่า หนทางที่จะทำให้เกิดความคล่องตัว ค่านิยมต่อพวกเราดีขึ้น มีทางเดียวคือต้องพึ่งคุณเงินสด ผมจึงกลับมาหาคุณเพื่อใช้บริการของคุณ หวังว่าคุณคงไม่โกรธ .. ช่วยผมด้วยนะ !!

ใครๆก็ชอบคุณ

ลงชื่อ .. ผู้มาเข้าฝัน​

.

 

กรรม และ กำ

กรรม คือการกระทำ ก็เป็นที่รู้ๆกัน ทำดีหรือทำชั่วก็จะมีผลสนองตอบการกระทำนั้น ภาพเล็กๆก็เช่น ไปตีหัวใครเข้าเขาก็จะมาตีคืน ไปด่าใครเขาๆก็จะด่าคืน เป็นต้น

มีบทเพลง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ร้องโดย เอมอร วิเศษสุด เนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า ..

"คนเราทุกคนว่ายวนผลกรรมนำเนื่อง
ตกต่ำรุ่งเรืองเกี่ยวเนื่องแต่กรรมของตน
................................."
​

ส่วนภาพใหญ่กรรมส่งผลข้ามภพข้ามชาติ อันนี้ต้องผู้รู้อธิบายครับ

กำ
เนื่องจากกรรมส่งผลช้าและอาจมีที่มองไม่เห็น คนเราจึงไม่กลัวกรรมกัน หันมาหาสิ่งที่เห็นผลไวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คือ "กำ"
ขออนุญาตแปลงเนื้อร้อง .. "กำดีทุกทีย่อมมีผลดีโดยทั่ว"
.. กำเล็กหรือกำใหญ่ล่ะ ถ้ากำใหญ่จะทำงานอะไรก็ง่าย เห็นผลไว ไม่ต้องรอชาติหน้า
.

 

สูงสุดคืนสู่สามัญ

ไม่ได้หมายถึงท่านใดๆที่มีตำแหน่ง ฐานะ หรือหน้าที่ นะครับ

คำกล่าวนี้ เป็นคำกล่าวในนิยายกำลังภายใน หมายถึง ผู้ที่มีวิทยายุทธสุดยอด สามารถคอนโทรลการแสดงออก เก็บงำฝีมือไม่ให้ใครเห็นหรือมองออก ภาษาทั่วไปคงเป็นลักษณะ เยือกเย็นสุขุม น้ำนิ่งไหลลึก หรือ คมในฝัก ประมาณนี้

ประเภทโฉ่งฉ่าง เกาโน่นเกานี่ เหลี่ยวลอกแลกซ้ายทีขวาที ย่อมเป็นตรงข้าม ลักษณะนี้หลายท่าน ถ้าชอบพูดในสิ่งที่เกินลักษณะ เช่น เรื่องบรรลุธรรม, เรื่องพระอรหันต์ และอื่นๆ อาจเปรียบได้กับยาจกพูดเรื่องเศรษฐี, ป4 พูดเรื่องปริญญา

ฉะนั้นจะฟัง ศรัทธา บูชาใครสิ่งใด ก็ควรตรองดู ย่อมเป็นการดี

ขออนุญาตแปะ YouTube
.. เห็นหัวเรื่องวิดิโอ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ผมหูไม่ดีเลยไม่ได้ฟัง ปิดเสียงในคอมพ์ตลอด

.

 

ตอนนี้เป็น ยุคอะไร ??

ถูกปิดกั้นเข้าเว็บไม่ได้ 2 วัน ทางเว็บเบราเซอร์บอก "เหตุผล" !!

ที่สงสัยว่ายุคนี้ยุคอะไรนั้น เพราะเห็นมีเรื่องราวมากมายจริงๆ แต่คิดว่าคงไม่ใช่ "กลียุค"นะ เพราะคงต้องอีกนาน .. หรือว่าใช่ ใครรู้ช่วยบอกที !!

เขียนแนวตลกแบบเรา ขอเรียกเป็นยุค "ดีซ่าน" หรือ "ดีแตก" ก็แล้วกัน เพราะสังคมเจ็บป่วยไปหมด ที่เคยคิดว่าดีก็กลายเป็นไม่ดี .. ถ้าหาเหตุผล สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะ "กินมาก" หากินทุกอย่างที่ขวางหน้า เครื่องในก็ย่อมพังเป็นธรรมดา ภาษาหมอก็คงว่า อาหารเป็นพิษ

ถ้าชนชั้นมีระดับ ที่ควรเป็นแบบอย่างของสังคม ที่ควรเป็นผู้มีโอกาสช่วยคนธรรมดาทั่วไปในสังคม ทำไม่ดีเสียเองแล้วคนธรรมดา ตาสี ตาสา จะหวังพึ่งอะไรใครได้ล่ะ .. เปรียบส่วนหัวถ้าส่ายไม่ดี ลำตัวและหางก็คงไม่รู้จะทำยังไง

ดีแตกเพราะกินมาก หรือดีแตกเพราะมีมากแล้ว เปย์สาว .. ล้วนแต่นำเรื่องยุ่งมา.

 

หาเหยื่อ และ เป็นเหยื่อ
2 อย่างนี้อย่างไหนดีกว่ากัน ?

ถ้าถามความรู้สึกของคน 2 กลุ่มนี้ ในเบื้องต้นด้วยทัศนวิสัยและทัศนคติ ที่ฝังอยู่ในหัวและในใจ คงได้คำตอบว่าดีทั้งสองนั่นแหละ เพราะคนเราก็คงมีคำตอบอยู่ตามความโลภ ความอยาก ที่มีอยู่ในสำนึก ย่อมมองเห็นสิ่งที่กระทำนั้นเป็นเรื่องดีๆๆ ไม่ดีไม่ทำจ้ะ

หาเหยื่อ .. ฉันเก่งและฉลาดนะจะบอกให้ การเป็นคนเก่งและฉลาดไม่ใช่เป็นกันง่ายๆ ถ้าคุณไม่ได้เป็นเสือ เป็นสิงโต คุณก็ไม่สามารถหาเหยื่อได้หรอก .. อาจหาได้บ้างถ้าคุณเป็นแมว แต่เหยื่อของคุณก็คงเป็นแค่หนูตัวน้อยๆเท่านั้น

เป็นเหยื่อ .. เรื่องของคนโง่หรือไม่โง่แต่โลภ หรือทั้งโง่ทั้งโลภ ความโลภเหมือนหน้ากากบังตาทำให้เห็นเสือเป็นเนื้อเป็นหมู .. ผมอยากได้เนื้อสันน่ะ กว่าจะรู้ว่าไม่ใช่หมู ก็ต่อเมื่อหน้ากากเนื้อหรือหมูนั้นหลุดออก .. โอ๊ะ เสือนี่นา เสือร้าย ช่วยด้วย !!

ข้อควรคิด ถ้าเป็นคน "ดี" ไม่ "โลภ" ก็คงไม่คิดเล่ห์กลต่างๆเพื่อหลอกลวงผู้อื่น คือไม่ "หาเหยื่อ"
ในทางตรงข้าม คนจะโง่หรือไม่ก็ตาม อย่าโลภอย่างเดียว ก็จะไม่ถูกเขาหลอก ไม่ต้อง "เป็นเหยื่อ" .. ก็มีข้อน่าเห็นใจตรงที่ยุคปัจจุบันวัตถุเป็นใหญ่ ชีวิตต้องการหลายสิ่งหลายอย่าง ต้องดิ้นรนเสาะหา จึงเป็นช่องโหว่ให้ถูกเจาะกระเป๋าได้

คำคมของ ท่าน ส.เงินยวง .. "2 เท้าก้าวไปข้างหน้า ตามองกระเป๋า"
.................
อ่านข่าวเรื่องสงครามผิวโลกแล้ว คิดว่าอย่ากังวลนัก เดี๋ยวนอนไม่หลับ .. คิดว่าหมัดน็อคแบบไมต์ ไทสันคงมีอยู่ .. แต่อยู่ที่ใครไม่รู้ เพราะผมเป็นแค่ผู้ติดตามอ่านข่าวคนหนึ่งเท่านั้น
.

 

อย่ายุ่งกับของแข็ง ถ้าอยากอยู่นานๆ

ขึ้นหัวเรื่องซะหวือหวา .. ไม่มีอะไรเขียนเบาๆ เรื่องของ "ฟัน" ในปากน่ะ
ก็เป็นเรื่องจริงที่คนเราอาจไม่ทันนึกคิด ผมอยู่มาจนแก่ก็เพิ่งนึกได้ว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้ ดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็ขอออกความเห็นสู่กันฟัง เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

"ฟัน"เป็นกระดูก แล้ว"ช้อน"ซ่อมล่ะเป็นอะไร เป็นเหล็กน่ะซิ ลองคิดดูกระดูกกับเหล็กกระทบกันบ่อยๆ ทุกวันๆละหลายเวลา เวลาละหลายๆครั้ง ผลจะเป็นอย่างไร ? อาจไม่เห็นผลทันที แต่อายุของฟันย่อมน้อยลงแน่นอน

อัธยาศัยส่วนตัวเวลานี้ คือ
- ไม่ใช้ช้อนเหล็ก แต่หันมาใช้ช้อนพลาสติกแทน เป็นช้อนที่ได้จากข้าวกล่องเซเว่น .. ถ้าจะให้ดูสวยงามหน่อยก็หาซื้อช้อนซุปเปอร์แวร์มาใช้แทนช้อนซ่อม

- พยายามเลิกกัดเลิกแทะ เพื่อรักษา"ฟันหน้า" ให้อายุยืนยาว ของที่ต้องกัดต้องแทะมีอะไรบ้างก็นึกเอานะครับ แม้แต่ข้าวเหนียว ถ้าจะไม่ต้องกัดก็ปั้นเป็นคำๆ จะได้ไม่ต้องกัดจากก้อนใหญ่ .. ของแข็งทุกอย่างก็เป็นภัยกับฟัน ทั้งฟันหน้าที่ทำหน้าที่กัดแทะ และฟันกรามที่ทำหน้าที่เคี้ยว

สรุป ก็เป็นเช่นที่ขึ้นหัวเรื่องไว้นะครับ .. และคำคมส่วนตัว ถ้าใช้ช้อนซ่อม อีกหน่อยท่านก็คงได้ซ่อมแน่ แต่ซ่อมฟันน่ะ
.

 

เพื่อนเมื่อตอนเป็นหนุ่ม หายหมด
ได้เพื่อนใหม่ตอนแก่ แต่.. อยากมีไม่หร็อก ! เขียนให้งง คือไม่อยากมีหรอก !

เพื่อนเมื่อตอนเป็นหนุ่ม นายแข็งแรงงี้ .. นายสมาร์ท หล่อเหลา เต่งตึง .. นายฟันดี หูดี ตาดี ..นายสนุกสนาน .. นายผมดำ นายดีๆๆๆ เพื่อนเมื่อตอนเป็นหนุ่มดูดีหมด

แล้วตอนนี้แก่ตัวแล้วมีเพื่อนแบบไหนบ้างล่ะ ??
.. นายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงงี้ .. นายหนังเหี่ยว หน้าเหี่ยว ผิวตกกระ .. นายฟันหลอ หูตึง ตามัว .. นายหมดสนุก .. นายผมขาวโพลน นายหัวเถิก หัวล้าน .. เห้อ เพื่อนอะไรหนอ กลับไปไม่ต้องมาเป็นเพื่อนเราได้มั๊ย ?

เจอข้อความที่ไหนน้อ เขาว่า "หนีไม่พ้น" !! เพื่อนพวกนี้ไล่ก็คงไม่ไปหร็อก

เซ็งๆ กับเรื่องราวข่าวต่างๆ เขียนเบาๆแบบนี้ จะได้ไม่หนักสมอง
.. ข่าวที่ไปแนวซื้อใจล่วงหน้า เมื่อไหร่จ่ายไม่รู้ จะ จะ จะ อยู่นั่นแหละ
.. เรื่องราวที่ทำให้คนคิด กลัวไปซื้อของแล้วตาชั่งไม่ตรง
.. ช่วยพวกพ้อง โน่นที่เมืองนอกเมืองนาโน่น
.. ยุให้ตีกัน ที่ร้านเครนโน่น ตีกันกว่าสามปีแล้ว หมดคนเมื่อไรเราจะเข้าครอบครองที่ดิน

เนื้อหาข่าวไม่ได้เป็นดังที่ผมเขียนนะครับ ผมคิดไปเอง มีเพื่อนๆตอนแก่ทำให้ฟุ้งซ่าน คิดมากน่ะ
.

 

ความลำบาก ความเดือดร้อน ล้วนเกิดจากการแข่งขัน

คนเรามีค่านิยมมุ่งมั่นหา ความเจริญ ความเก่ง ความรวย ความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจ .. พลโลกที่ต้องลำบาก เดือดร้อน และเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้ ล้วนเกิดจากที่กล่าวมาคือการแข่งขัน ใช่หรือไม่ ?

.. การแข่งขันในด้านกีฬาถือว่าเป็นเรื่องสันติ แต่ข้อเขียนนี้จะกล่าวเฉพาะเรื่องความเหน็ดเหนื่อย การแข่งขันย่อมต้องฝึกซ้อม ชัยชนะไม่ใช่จะได้มาเพราะนึกเอา
.. แข่งกันสร้างเครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่ๆ คนก็ต้องลำบากเดือดร้อนหาเงินมาซื้อ รถราและสิ่งอื่นๆก็เช่นเดียวกัน

.. เป็นคนเก่ง สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างกิจการใหญ่โต เพราะมีกลยุทธ กว้านเงินจากกระเป๋าคนอื่น คนเก่งรวยไป แต่คนไม่เก่งจำนวนมากต้องจน รับความเดือดร้อนไป
.. เมื่อมีฐานะสิ่งที่มองหาต่อไปก็คือ อำนาจ อำนาจจะเป็นตัวช่วยให้รวยขึ้น แบบมีเงินก็มีอำนาจ มีอำนาจก็มีเงิน สองสิ่งนี้เกื้อกูลกัน

.. ในอีกแง่หนึ่งของอำนาจ ถ้าคิดไปในทางสร้างเหตุเภทภัยด้วยอาวุธต่างๆที่ร้ายแรงขึ้นๆ นี่ย่อมทำให้คนไม่ใช่แค่เดือดร้อนแต่ต้องล้มหายตายจากโลกนี้ บางแห่งก็เริ่มขาดแคลนคนแล้ว ถึงกับจะเกณฑ์เด็กต่ำกว่า 18 ไปต่อสู้แนวหน้า ต่อไปคงถูกกลืนชาติ ก็เป็นไปได้

.. มีความคิดอยู่สงบๆก็ดีนะ จะได้ไม่เหนื่อย ไม่ลำบาก .. เชื่อเถอะการแข่งขันทำให้ลำบาก เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง มีกินมีใช้อยู่ได้สบายๆ ก็คิดถึงเรื่องพอ เรื่องหยุด กันเถอะท่าน
.

 

ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นต่อไป .. จะหยุดดิ้นต่อเมื่อสิ้นแรง

ที่เคยเขียนไว้ว่า การแข่งขันนำมาซึ่งความลำบากนั้น อีกนัยหนึ่งอาจเรียกว่าความพยายาม ดิ้นรนขวนขวาย ความหมายน่าจะไปทางเดียวกัน

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการดิ้นหรือดิ้นรนกันมาก คือเรื่องราวต่างๆ หรือจะกล่าวว่า "เรื่องวุ่นวาย" ต่างๆก็มากตาม เพราะการดิ้นทำให้มีผลกระทบต่อชีวิตอื่นหรือสิ่งแวดล้อม ดูไก่หรือปลา ตอนที่ไก่ถูกเชือดแล้วโยนไป (หมายถึงทั่วไปไม่ใช่ในโรงเชือด) มันจะดิ้นกว่าจะสงบได้ก็ฝุ่นตลบ หรือปลาที่ถูกทุบหัวก็จะดิ้น อาจมีสิ่งเลอะๆกระเด็นเปื้อนสถานที่หรือชีวิตอื่นได้

ที่ว่าดิ้น ไม่ได้หมายเฉพาะถึงชีวิตที่มีภัยต้องดิ้นเพื่อความอยู่รอด แต่หมายถึงทุกแบบของการดิ้น มีอะไรบ้างล่ะ
.. ดิ้นเพื่ออำนาจ ดิ้นเพื่อเป็นใหญ่ ดิ้นเพื่อความร่ำรวย ดิ้นเพื่อความโด่งดัง ฯ

.. ดิ้นเพื่อความอยู่รอดเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ แต่ดิ้นเพื่อสิ่งที่เกินกว่านั้นล่ะ น่าเห็นใจหรือไม่ ? น่าจะเรียกว่า"น่ากลัว" สำหรับชีวิตน้อยๆที่ด้อยกว่า เพราะย่อมได้รับผลกระทบ แบบช้างสารกับหญ้าแพรกนั่นแหละ

ข้อเท็จจริง .. เมื่อชีวิตที่ใหญ่กว่าดิ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ชีวิตน้อยๆที่ด้อยกว่าก็ต้องรับสภาพ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หรือต้องหลบไป .. ไม่หลบเดี๋ยวก็แบนหรอก

แล้วมีมั๊ยที่ชีวิตจะหยุดดิ้น .. เป็นเรื่องยากแต่ก็ทำได้ แม้จะมีคำนิยามหนึ่งว่า "ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นต่อไป" ก็ตาม
.. หยุดดิ้นกันเถอะท่าน เพื่อชีวิตน้อยๆที่ด้อยกว่าจะได้ไม่ลำบาก หรือจะไม่หยุดดิ้นก็ได้ แต่ขอเป็นดิ้นเพื่อให้
ชีวิตอื่นเป็นสุข .. ดีมั๊ย
.