หลวงปู่ทวดหรือใครที่จะมาเป็นพระศรีอริยเมตไตร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย eka.11@hotmail.com, 5 พฤษภาคม 2008.

  1. /_สายฟ้า_/

    /_สายฟ้า_/ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +999
    ถ้าสงสัยเรื่องพระศรีอารยเมตไตรลองถามศิษย์สายหลวงพ่อดู่ วัดสะแกดูสิครับ สายนั้นคนเก่งเยอะเลย เพราะหลวงพ่อดู่ท่านจะสอนให้ศิษย์เน้นการปฏิบัติภาวนา มิใช่มาเพื่อกราบไหว้ทำบุญทำทานอย่างเดียว

    แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขอให้ใช้หลักกาลามสูตรที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเมตตาตรัสเอาไว้ในเรื่องของความเชื่อ คือควรเชื่อเมื่อเราได้ประจักษ์ด้วยตัวเราเองจะดีกว่า อย่าได้เชื่อโดยฟังต่อๆกันมา

    หลวงพ่อทวดท่านคือพุทธภูมิหรือพระโพธิสัตว์หรือไม่นั้น ให้ดูที่ปฏิปทาของท่านครับ หรือดูจากหลวงพ่อดู่แห่งวัดสะแกก็ได้ เพราะท่านก็เคารพนับถือหลวงพ่อทวดเป็นอย่างยิ่งครับผม

    http://www.watthummuangna.com/board

    เวปวัดถ้ำเมืองนะ หรือวัดพุทธพรหมปัญโญเป็นแหล่งรวมใจของศิษย์สายหลวงพ่อดู่ครับ มักจะมีการถาม-ตอบปัญหาธรรมะกันอยู่เสมอๆ รวมไปถึงมีเรื่องราวของหลวงพ่อทวดหลวงพ่อดู่ที่เหล่าศิษย์ได้ประสบพบเจอกับตนเองมา ลองเข้าไปศึกษาดูนะครับ คุณเจ้าของกระทู้

    แต่การจะรับรู้สิ่งใดๆขอให้ใช้หลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าและยึดมั่นในพระไตรสรณคมณ์มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่สุด รับรองไม่หลงทางแน่ครับ
     
  2. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    เราก็ไม่รู้ว่าใครจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่5
    แต่ก็มีศรัทธาที่จะไปเกิดในยุคนั้น
    ขอบรรลุธรรมในยุคนั้นเหมือนกัน
    ไม่สนใจเร่งสะสมบุญทีละเล็กทีละน้อย
    ตามประสาคนขี้เกียจเอาน่าต้องได้สักวัน
    ตายไปแล้วก็ขอให้เกิดในที่ที่สร้างบารมีได้ต่อละกัน
    นิพพานังปรมังสุขัง
     
  3. pcman

    pcman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +287
    พระศรีอริยเมตไตรยในสมัยพระสมณโคดมพุทธเจ้า

    จากหนังสือที่อ่าน ว่ากันว่าหลังการตรัสรู้ในสมัยพระพุทธเจ้าของเรา พระศรีอริยเมตไตรได้มาเกิดแล้ว โดยได้มาเกิดเป็นพระโอรสของพระเจ้าอชาตศัตรู ในแคว้นมคธพระนามว่า อชิตะกุมารราชโอรส ดำรงมั้นในศีลาจาริยวัตรและศึกษาธรรมจนแตกฉาน แต่ไม่ได้บรรลุมรรคผล หลังมรณภาพแล้ว ได้ไปสถิตอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต (ท้าวนาถเทวราชพระโพธิสัตว์) จวบจนกาลปัจจุบัน

    พระอชิตะ ปรากฏตอนที่พระนางปชาบดีโคตมีต้องการถวายผ้าสาฎก 2 ผืนยาวผืนละ 14 ศอกและกว้างผืนละ 7 ศอกให้พระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าไม่รับ ให้ไปถวายพระรูปอื่น ไล่ตั้งแต่พระสารีบุตรเถระ พระโมคคัลลานะเถระ ตามลำดับไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครรับ จนถึงพระบวชใหม่รูปหนึ่งชื่อพระอชิตะจึงได้รับไว้

    หลังจากที่พระนางถวายผ้าสาฎกแก่พระอชิตะแล้ว ก็โทมนัสว่ามีวาสนาน้อย มีเพียงภิกษุหนุ่มพระใหม่ที่นั่งท้ายอาสนะเท่านั้นที่ยอมรับ พระพุทธองค์ต้องการคลายโทมนัสพระนางปชาบดีโคตมีกอปรกับจะประกาศเกียรติคุณแห่งพระอชิตะซึ่งจะเสด็จอุบัติเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล จึงเรียกพระอานนท์ให้นำบาตรพระองค์มาและทำพุทธาธิษฐานว่า พระพุทธสาวกทั้งหลาย แม้จะเพียบเพ็ญด้วยอิทธิฤทธาปาฏิหาริยานุภาพเพียงใดก็ตาม จงอย่าเห็นบาตรนี้ เว้นเฉพาะพระอชิตะ ผู้เป็นหน่อเนื้อแห่งพุทธวงศ์ ซึ่งจะเสด็จอุบัติขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเท่านั้น สิ้นพุทธาธิษฐาน พระพุทธองค์ก็ทรงเหยียดพระหัตถ์ข้างที่วางบาตรออก

    ทันใดนั้น บาตรก็ลอยละลิ่วขึ้นไปสู่ท้องนภากาศและอันตรธานหายเข้าไปสู่กลีบเมฆ พระพุทธองค์จึงมีพระบรมพุทธานุญาตให้ภิกษุทั้งหลายไปนำบาตรนั้นมา

    พระสารีบุตรเหาะขึ้นไปเที่ยวแสวงหาบาตรแต่ก็ไม่พบ ถัดมาพระมหาโมคคัลลานะได้เหาะขึ้นไปเช่นกันแต่ก็ไม่พบ พุทธสาวกที่เหลือต่างก็ทูลขอพุทธานุญาตในภารกิจนี้ แต่ก็ไม่มีรูปใดหาบาตรเจอ จนอาสนะสุดท้ายที่พระอชิตะนั่งนิ่งอยู่ พระพุทธองค์จึงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระอชิตะไปนำบาตรนั้นมา

    ฝ่ายพระอชิตะก็แปลกใจที่ผ่านๆ มาล้วนเป็นพระอรหันต์มีอภิญญาทั้งนั้น ส่วนตัวเองเป็นเพียงพระนวกะบวชใหม่ ยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ เลย จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า อาตมานามว่าอชิตะมีจิดเลื่อมใสจึงได้เข้ามาบรรพชาอยู่ในบวรพระพุทธศาสนา หากแต่ปรารถนาในลาภสักการะก็หาไม่ ที่แท้อาตมาบรรพชาเข้ามาด้วยตั้งใจจะประพฤติพรหมจรรย์ หมายจะได้ตรัสรู้สัพพัญญุตญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล เพื่อช่วยสัตว์โลกให้พ้นจากกองทุกข์ ดังเช่นพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ อนึ่ง ตั้งแต่ได้รับการบรรพชาดำรงภาวะในเพศบรรพชิตมา อาตมาก็รักษาศีล และพรหมจรรย์มิให้ด่างพร้อย ตั้งใจรักษาให้บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา ด้วยเดชแห่งความบริสุทธิ์ของศีลและพรหมจรรย์นั้น ขอให้บาตรของพระพุทธองค์ซึ่งหายไปนั้นมาประดิษฐานอยู่บนมือของอาตมาที่เหยียดออกไปนี้ด้วยเถิด

    สิ้นคำอธิษฐานของพระอชิตะ พลันก็เกิดเหตุอัศจรรย์จนพระเถระทั้งหลายและพระนางปชาบดีต่างสาธุการพร้อมกัน กล่าวคือ บาตร ของพระพุทธองค์ที่หายไปนั้นได้มาประดิษฐานอยู่บนมือของพระอชิตะ จากนั้นพระอชิตะได้นำบาตรนั้นน้อมเข้าไปถวายพระพุทธองค์

    ฝ่ายพระนางปชาบดีครั้งได้เห็นเหตุอัศจรรย์ก็โสมนัส ปีติปราโมทย์ น้ำพระเนครไหลนอง บังเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ดำริว่า "พระสาวกในบวรพระพุทธศานนานี้เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก แม้เพยงพระนวกะผู้บวชใหม่ยังมีพระคุณเป็นที่อัศจรรย์เช่นนี้ พระอรหัตน์สาวกผู้ทรงอภิญญาทั้งหลายจะมีพระคุณที่อัศจรรย์เป็นประการใด จากนั้นจึงลากลับ

    ฝ่ายพระอชิตะได้รับผ้ามาแล้วตั้งใจจะนำไปถวายพระพุทธองค์เพื่อเป็นพระพุทธบูชา จึงนำผ้าผืนหนึ่งไปกั้นเป็นเพดาน อีกหนึ่งผืนฉีกเป็นสี่ท่อน ผูกเป็นม่านทั้งสี่มุมในพระคันธกุฎีของพระพุทธองค์ เมื่อเสร็จแล้วก็ยืนเพ่งพินิจเห็นว่างามยิ่งนักก็ปิติ ก้มกราบเบื้องพระยุคลบาทพระพุทธองค์แล้วตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตด้วยผลแห่งการบูชานี้ พระพุทธเจ้าทรงทราบวาระจิตจึงทรงแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย เป็นเหตุให้พระอานนท์เถระสงสัยจึงทูลถาม เพื่อแถลงไขให้พระสาวกทั้งหลายได้รู้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงมีพุทธฏีกาพยากรณ์ว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระอชิตะ ภิกษุหนุ่มซึ่งเป็นนวกะในกาลบัดนี้ ในอนาคตกาลแห่งภัทรกัปนี้ จักเป็นผู้รู้พุทธวิชาจักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า พระศรีอริยเมตไตรย ภายใต้ร่มไม้กากะทิง อันเป็นมหามิ่งมงคลในราตรีแห่งวิสาขปูรณมี

    สรุปและคัดลอกบางตอนจากหนังสือพระศรีอริยเมตไตรย มหาศาสดาพระองค์ใหม่ของมวลมนุษยชาติ สำนักพิมพ์ SMART BOOKS
    -----------------------------

    ข้าพเจ้าขอสาธุการแด่พระสมณโคดมพุทธเจ้าผู้ทรงคุณวิเศษ และพระศรีอริยเมตไตรยที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาลภายภาคหน้าด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มิถุนายน 2008
  4. THANAKIM

    THANAKIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +1,740
    ขออนุโมทนากับทุกๆท่าน ข้าพเจ้าได้ข้อมูลความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากมายเลย
     
  5. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  6. หนึ่งคน

    หนึ่งคน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +4
    แบบว่า ผู้ได้รับมอบหมายนั้นมีหลายๆคน ครับ
    เอ่อ มีตัวสำรองไว้อะไรประมารนี้ หากคนนี้ทำไม่สำเร็จอีกคนก็เป็น แทน อะไรอย่างงี้ นะครับ
     
  7. หนึ่งคน

    หนึ่งคน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +4
    เชื่อใน อริยะเมตรไตร บ้างมั้ย
    เชื่อมั้ย ว่า องคุลีมาล สามารถสำเร็จอรหัน แต่ไม่สามารถนิพพาน เพราะ ทำบาปมาก
    ได้มาเกิดเป็น อัลเบิต ไอสไตล์ เพื่อ หยุดสงครามโลก ด้วยประมาณู แต่ก็บาปมากขึ้นอีก
    และได้เกิดมาเป็นหลวงปู่มั่น เพื่อแสวงหา ร่างพันธุกรรม สมบูรแบบ ในการมาเกิดเป็นอริยะเมตรไตร (*ที่หลวงปู่มั่นบอกชอบฝัน ว่าตัวเองถือดาบนั้น เพราะฝันถึงชาติแรกที่พบองสัมมา )
    อริยะเมตรไตร (ก็ไม่ได้อยากมาเกิดเท่าไหร่หรอก แต่ทำบาปไว้มากหนิ เลยต้องมาช่วยชาวโลก จะได้หมดกรรมสักที)
    หน้าที่นั้น ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่สมัยนี้ คนไม่เข้าใจ ถึงหลักธรรมมะที่แท้จริง องอริยะแค่จะมาแปลให้ชัดแจ้ง อาจผ่านทางสื่อพิม ทีวี การแสดง สด ในปลายปีนี้ และปีหน้า ให้ทัน ก่อนที่โลกจะตื่น พื้นดินจะมีการขยับ คนที่รอดคือคนที่ อดอาหารได้ คนที่มีความอดทน คนที่ไม่เสียใจกับการตายของญาติหรือเพื่อนฝูง คนที่ ฉลาดในการใช้ชีวิต อ่ะประมานนี้
    องอริยะ อายุไม่มากเท่าไหร่ เพราะยังจะต้องสอน คนอีกหลายปี ร่างกายจึงยังไม่แก่ แต่ก็มีมากกว่านั้น อยากรู้ ต่อ ก็รอ ให้ องอริยะ เมตรไตร มาบอกเองแล้วกัน ตั้งใจดีๆหละ

    เทคโนโลยีในยุคนี้เลยทำให้คนส่วนใหญ่ ได้นับถือมาก กว่ายุค องสัมมา เพราะสมัยนั้น เทคโนโลยียังไม่เกิด การสอนคนจึงต้องใช้สาวก ยุคอริยะจะไม่มีคำว่าสาวก แต่จะใช้คำว่า ครอบครัว โลกทั้งโลกคือครอบครัวเดียวกัน

    หลักการมี สามสิ่ง รัก เข้าใจ อภัย แค่มีสามสิ่งนี้ โลกเราก็จะอยุ่อย่างสงบสุข มีแต่ชาวศิวิไลซ์
    เมตรแปลว่า ให้ ส่วนไตร แปลว่า สาม องอริยะ จะช่วยเหลือด้าน ร่างกาย จิตใจ ปัญญา

    เชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ไม่ได้ว่าอะไร

    โปรดให้อภัยในบางข้อความ เพราะเป็น ภาษาของคน ยุคปัจจุบัน บางตัวหนังสือ หรือการสื่อความหมาย คนศึกษาธรรมะยุคโบราณ อาจไม่เข้าใจ ขออภัยจิงๆ
    <!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     

แชร์หน้านี้

Loading...