เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 6 กุมภาพันธ์ 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ อากาศตามที่ดูจากโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ ๑๗ องศาเซลเซียส แต่ว่าเครื่องวัดอุณหภูมิที่ติดอยู่ของวัดท่าขนุน ระบุว่าอยู่ที่ ๑๔ องศาเซลเซียส แปลว่าเครื่องวัดอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยานั้น ประมวลด้วยการคำนวณสภาพรวมทั้งหมด โดยเฉพาะเป็นการวัดอากาศในตู้สกรีน ไม่ใช่อากาศที่อยู่ภายนอกอย่างแท้จริง จึงมีความแตกต่างกัน ๒ - ๓ องศาเซลเซียสเป็นปกติ

    กระผม/อาตมภาพเมื่อบิณฑบาตและฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาทำการติดต่อร้านโปรไบค์ เพื่อที่แจ้งว่าวันนี้จะเข้าไปดูหมวกนิรภัย ซึ่งทางไอ้ตัวเล็กได้ประสานงานเอาไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากว่าทางพันตำรวจเอกมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ท่านทำโครงการขับขี่จักรยานยนต์ด้วยความปลอดภัย สวมหมวกนิรภัยทุกคน โดยเฉพาะเน้นไปที่บรรดาเด็กวัยรุ่น ซึ่งความคึกคะนองทำให้เกิดอุบัติเหตุเนือง ๆ จึงได้ติดต่อไปทางโรงเรียนมัธยม และโรงเรียนขยายโอกาสซึ่งมีชั้นมัธยมต้น ว่าจะทำโครงการแจกหมวกนิรภัยให้นักเรียนฟรี

    ความจริงแล้วนักเรียนทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อมีรถจักรยานยนต์ขับขี่ก็มีหมวกนิรภัยอยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุที่ว่าทางบริษัทห้างร้านที่จำหน่ายรถจักรยานยนต์นั้น แม้ว่าถูกบังคับให้ต้องแถมหมวกนิรภัย ก็พยายามแถมในส่วนที่ราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุด เพื่อให้ตนเองมีกำไรมากที่สุด จึงมักจะเป็นหมวกนิรภัยห่วย ๆ ประเภทที่เรียกว่า "ไข่เค็มผ่าซีก"..!

    โดยเฉพาะวัสดุนั้น พอเก่าหน่อยก็กรอบแตกโดยง่าย นิสัยของวัยรุ่นก็คือ ถ้ามีอะไรที่ไม่เท่ ทำไปแล้วเพื่อนฝูงหัวเราะเยาะก็ไม่ทำเสียเลย ดังนั้น..จึงโดนตำรวจจับและตักเตือนอยู่เสมอ ในเรื่องให้สวมหมวกนิรภัยระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่ก็มักจะฝ่าฝืนกันเป็นปกติ

    หมวกนิรภัยมีไว้สำหรับแขวนที่แฮนด์รถเท่านั้น เมื่อถึงเวลาใกล้ด่านตรวจก็หยิบขึ้นมาสวมเสียหน่อยหนึ่ง พอเป็นพิธี ครั้นผ่านด่านตรวจไปแล้ว ก็ห้อยเอาไว้ที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ หรือไม่ก็บางคัน ถ้ามีตะกร้าใส่ของทางด้านหน้า ก็เป็นที่สิงสถิตของหมวกนิรภัยไปโดยปริยาย

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพที่ได้รับการนิมนต์ให้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะเป็นฝ่ายหาทุนในการหาซื้อหมวกนิรภัยให้ถูกใจเด็ก จึงจำเป็นที่จะต้องสืบหาข้อมูลต่าง ๆ แต่ครั้นจะไปลงมือเองก็เลยวัยเสียแล้ว จึงได้มอบหมายให้ไอ้ตัวเล็กไปช่วยจัดการให้ด้วย เพราะว่าหมวกนิรภัยแบบดี ๆ ราคาก็อยู่ที่ ๒,๐๐๐ กว่า ๓,๐๐๐ บาท ในแบบที่พอจะรับได้ก็อยู่ที่ ๑,๐๐๐ กว่าบาท จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาแบบที่ถูกใจเด็ก ๆ ให้ได้

    แล้วขณะเดียวกันราคาก็ต้องต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้ ไอ้ตัวเล็กจึงต้องไปหาข้อมูล และต่อรองกับทางร้านค้า จนกระทั่งวันนี้ กระผม/อาตมภาพจึงได้มีโอกาสที่จะเดินทางไปดูถึงร้านค้าด้วยตนเอง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ครั้นติดต่อไปแล้วก็ทำการทำงาน โดยเฉพาะการภาวนาเพื่อสะสม "เสบียงบุญ" ซึ่งวันนี้กระผม/อาตมภาพตั้งเป้าใหญ่เอาไว้ว่า จะพยายามให้ได้ที่ ๒๓ หรือ ๒๔ ชั่วโมง พูดง่าย ๆ ว่าทรงอารมณ์ภาวนากันทั้งวันทั้งคืน พยายามไม่ให้กำลังใจหลุดจากการภาวนา

    ครั้นฉันเพลแล้ว จึงได้เดินทางออกจากวัดท่าขนุน ตรงไปยังร้านซึ่งจำหน่ายหมวกนิรภัย ปรากฏว่า "พี่กู" หรือว่ากูเกิ้ลแม็พ พาหลงทางเข้าไปในซอย เพราะว่าร้านจำหน่ายนั้นเป็นตึกแถว ทางผู้เป็นเจ้าของร้านอาจจะปักหมุดภายในตึกของตนเอง ซึ่งอยู่ค่อนข้างจะลึก ทำให้กูเกิ้ลแมพเข้าใจว่าเป็นซอยข้างห้องแถว จึงได้พากระผม/อาตมภาพหลงเตลิดเปิดเปิงเข้าไป แต่ก็ดีตรงที่ว่าทำให้เรารู้จักหนทางแถวนั้นเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย..!

    ครั้นเมื่อได้ติดต่อจนกระทั่งรับทราบว่า ร้านค้าของเขาอยู่ที่ไหน เมื่อเข้าไปเจรจาแล้ว ปรากฏว่าจะต้องจ่ายค่าขนส่งอีก ๔,๐๐๐ บาท สำหรับหมวกนิรภัย ๓๐๐ ลูก กระผม/อาตมภาพจึงขอไปติดต่อกับท่านผู้กำกับมนตรีก่อน ครั้นท่านผู้กำกับมนตรีทราบปัญหา ก็ประสานไปทางท่านประเทศ บุญยงค์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ ให้ช่วยจัดหารถเพื่อไปขนหมวกนิรภัย ซึ่งถ้าเป็นรถกระบะก็ต้องใช้อย่างน้อย ๒ คัน เพราะว่าหมวกนิรภัยนั้นบรรจุลังละ ๑๒ ลูก แล้วก็เป็นจำนวนทั้งหมดถึง ๒๕ ลังด้วยกัน..!

    กระผม/อาตมภาพเมื่อวางมัดจำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้กลับมาพักยังวัดท่ามะขาม เพื่อที่จะเตรียมตัวไปเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมศพคุณแม่สำราญ ครุฑวงศ์ โยมแม่ของพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งวันนี้คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิเป็นเจ้าภาพ

    กระผม/อาตมภาพเองนั้นจะต้องเป็นเจ้าภาพในฐานะส่วนตัวที่มีความคุ้นเคยทั้งพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. และมีความคุ้นเคยกับครอบครัวของคุณแม่สำราญ ครุฑวงศ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะลูกเขยของคุณแม่สำราญ ก็คือพันเอกประสิทธิ์ พุฒตาลนั้น เรียนทหารมารุ่นเดียวกัน แล้วท่านขอเกษียณก่อนอายุกำหนด ที่เรียกกันว่า "เออร์ลี่รีไทร์"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ในเมื่อมีความสัมพันธ์กันหลายซับหลายซ้อน อันดับแรกเลยก็เป็นเจ้าภาพในฐานะส่วนตัว อันดับต่อไปก็คือ เป็นเจ้าภาพร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ อันดับต่อไปก็คือ เป็นเจ้าภาพร่วมกับทางพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งมาเป็นเจ้าภาพในนามคณะสงฆ์ภาค ๑๔

    ถัดจากนั้นก็เป็นเจ้าภาพ ในฐานะคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) เนื่องเพราะว่าทางคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านศีล ๕ นั้น พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร.ก็เป็นรองประธานคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านศีล ๕ หน (กลาง) ตัวกระผม/อาตมภาพเองก็เป็นคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านศีล ๕ หน (กลาง) เช่นกัน

    แล้วยังต้องไปเป็นเจ้าภาพร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรีอีกตำแหน่งหนึ่ง เรียกง่าย ๆ ว่าจ่ายซับจ่ายซ้อน แต่ก็ทำหน้าที่ตามที่สังคมเขากำหนดเอาไว้ เพราะว่าสิ่งที่ทำไปนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุญเป็นกุศลทั้งสิ้น

    ครั้นเมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ค่อยเข้าไปตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน ที่ตอนนี้กระผม/อาตมภาพลุ้นสุดชีวิตที่จะให้หมดวาระ ก็คือถึงการตัดงวดยอดวัตถุมงคลเสียที เพราะว่าตั้งใจจะเก็บมีดหมอเทพศาสตรา หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามคืนมา เนื่องเพราะว่าตั้งแต่สะสมมีดหมอหลวงพ่อกวยมา มีมีดหมอของท่านผ่านมือมาเกิน ๒๐๐ เล่ม เพิ่งจะมีเล่มนี้ที่ตีลายได้ประณีต ละเอียดที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา

    โดยปกติแล้วการตีลายในลักษณะแบบนี้ เคยพบแต่ช่างที่ตีมีดหมอปราบไพรีให้หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอนเท่านั้น นาน ๆ ทีที่ช่างเขาจะเกิดอารมณ์ ก็ลักษณะคล้ายคลึงกับช่างทำมีดของบ้านจ่าตุ่ม ที่ถึงเวลาแล้ว ก็ต้องมานั่งรดน้ำต้นไม้ ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เป็นวัน ๆ ซึ่งทางด้านป้าสุ (นางสุมาลี ทิมแท้) ภรรยาจ่าตุ่มบอกว่า "มันกำลังบิวด์อารมณ์อยู่" เมื่อถึงเวลาได้อารมณ์ขึ้นมา จะค่ำมืดดึกดื่นอย่างไร ก็จะมาตั้งหน้าตั้งตาทำมีดให้ ตามที่ลูกค้าสั่ง

    แต่ถ้าหากว่าไม่มีอารมณ์ บางที ๓ วัน ๗ วันก็ไม่ขยับเขยื้อนไปทำอะไรเลย ท่านทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า มีอารมณ์ศิลปินสูงมาก คาดว่าช่างที่ตีลายมีดหมอเล่มนี้ ต้องอยู่ในขณะที่อารมณ์ศิลปินกำลังปะทุสุดขีด ถึงได้ตีออกมาได้ละเอียดยิบขนาดนี้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    อีกส่วนหนึ่งที่ตั้งใจจะเก็บกลับก็คือสายคาดเอวของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็หายากเป็นอย่างยิ่ง ในชีวิตที่กระผม/อาตมภาพสะสมเครื่องรางของขลังมา แม้แต่ส่วนที่หายากมาก ๆ อย่างเบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง เจ้าของเครื่องรางในตำนาน "เบี้ยขลังวัดนายโรง" นั้น กระผม/อาตมภาพยังมีไว้ครอบครองถึง ๔ - ๕ ลูกด้วยกัน

    แต่ว่าหวายคาดเอว หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวนั้น เพิ่งจะเห็นเส้นนี้เป็นเส้นที่สอง และเส้นก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีหัวซึ่งถักด้วยพระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวอีกต่างหาก จึงได้ตั้งหน้าตั้งตารอว่า ถ้าหากว่าหมดกำหนดลงเมื่อไร จะรีบเรียกคืนจากไอ้ตัวเล็กโดยด่วน

    ไม่เช่นนั้นแล้วของที่หายาก ถ้าหลุดมือไป สำหรับคนที่เราไม่รู้จัก ถึงเวลาต้องการที่จะชื่นชมใหม่อีกสักครั้ง ก็ไม่รู้จะไปเรียกหาดูจากที่ไหน ถ้าหากว่าบุคคลที่บูชาไป เป็นบุคคลที่รู้จักมักคุ้น ก็ยังพอที่จะขอมาชื่นชมกันได้บ้าง จึงทำให้ต้องตั้งหน้าตั้งตาลุ้นว่าเมื่อไรจะได้เวลากลางเดือนเสียที

    ต่อจากนี้ไปกระผม/อาตมภาพก็ต้องเร่งเดินทาง เพื่อไปเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมคืนนี้ จึงต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗

    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...