พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ของขลัง ของคูล EP.8 l จะพา YOU ไปที่ "วัดป่าภัทรปิยาราม" ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี
    .

    .
    ที่มา ของขลัง ของคูล
    วันที่ 17 ธันวาคม 2565
    .
    .
    #พระครูสังฆรักษ์ #วัดป่าภัทรปิยาราม #ภาพวาดพุทธศิลป์บนผนังถ้ำ
    .
    ของขลัง ของคูล EP.8 l จะพา YOU ไปที่ "วัดป่าภัทรปิยาราม"
    ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี เที่ยวชม วัดป่า
    ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ธรรมะกับธรรมชาติย่อมสามารถอยู่คู่กันอย่างยั่งยืน”
    ที่ได้ วิจิตรบรรจงสร้างศาสนสถานถาวรวัตถุ
    .
    #พระครูสังฆรักษ์ #วัดป่าภัทรปิยาราม
    #ภาพวาดพุทธศิลป์บนผนังถ้ำ #สายมู
    #ของขลัง #วัดป่าจังหวัดลพบุรี
    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สำหรับการเรียนรู้ เรื่องราวประวัติของ หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    ผมเรียนตามหนังสือ 2 เล่มนี้(เท่านั้น) คือ
    - หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร
    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน
    และ
    - หนังสือหนังสือ พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย
    พระราชกวี (อ่ำ ธมมทตโต ป.ธ.6) วัดโสมนัสราชวรวิหาร
    .
    และ ผมเรียนรู้จาก ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ที่ท่านได้เล่าให้ฟังนอกเหนือจากข้อมูลในหนังสือ
    รวมทั้ง ได้รับฟังข้อมูลจาก พระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง
    .
    .
    .
    ส่วนเรื่อง พระวังหน้า ที่ผมเรียนรู้จากหนังสือฯ ผมเรียนรู้จากหนังสือ 2 เล่มนี้(เท่านั้น) คือ
    - หนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า
    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน
    และ
    - หนังสือปู่เล่าให้ฟัง
    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน
    .
    และ ผมเรียนรู้จาก ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร และ ฆารวาสอีก 1 ท่าน โดยการเรียนรู้จากพระวังหน้าองค์จริงๆ
    การเรียนรู้นั้น เรียนทั้ง รูป (เนื้อหาทรงพิมพ์) และ นาม (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
    ผมได้เห็นพระวังหน้า ผ่านสายตาผมมา น่าจะไม่ต่ำกว่าเป็นหมื่นองค์
    .
    หมายเหตุ ผมเคยอธิบายไปหลายรอบแล้วว่า ทำไมผมใช้คำว่า พลังอิทธิคุณ
    ลองไปหาอ่านกันดู ครับ
    .
    ส่วนหนังสืออื่นๆ ที่ผมเคยไปซื้อมาศึกษาในสมัยเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ผมเก็บลงลังไปทั้งหมดแล้ว
    ในหนังสือเหล่านั้น เพิ่มเติม และ แต่งเติม เป็นนวนิยาย มีการเพิ่มเรื่องราวของปาฏิหาริย์จนมากเกินไป
    .
    .
    .
    ผมมาบอกเพิ่มเติม
    .
    หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านคือ คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ
    ดังนั้น คำสอนของหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็คือ นำ พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระโคตมพุทธเจ้า ( หรืออีกชื่อ พระสมณโคดมพุทธเจ้า) มาสอนให้กับผู้คนทั่วไป ครับ
    .
    .
    .

    .

    หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ ปี พ.ศ.235

    .

    คำบูชา (บทสวด) ของ หลวงปู่เทพโลกอุดร (คือ คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ ปี พ.ศ.235)

    โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

    .

    .

    องค์ที่ 1 คือ #พระอุตตระเถระเจ้า หรือ พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ

    .

    รูปร่างสันทัดผิวกายค่อนข้างดำคล้ำ มีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้า บรรลุอภิญญาหก และปฎิสัมภิทาญาณ ใจดีประกอบด้วยเมตตา มีอารมณ์ขัน มีสภาวะจิตที่รวดเร็วมาก มีความเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์และเภสัชกรรม เป็นพี่ชายของพระโสณะเถระเจ้า

    .

    พระอุตตระเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 ปีพุทธกาล 287

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 ปีพุทธกาล 288

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 510)

    หมายเหตุ ปีพุทธกาล 288 ผมนับจากวันที่พระอุตตระเถระเจ้า ท่านมรณภาพ(นิพพาน) คือ อยู่ในเดือน 1 ครับ

    .

    .

    องค์ที่ 2 คือ #พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต และเป็นหัวหน้าคณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตตระ

    .

    รูปกายสูงใหญ่ผิวดำ ทรงคุณสมบัติเหมือนกับ พระอุตรเถระเจ้า เว้นวิชาแพทย์ ใจดี เยือกเย็น ประกอบด้วยเมตตาธรรม ชอบผาดโผนเหินฟ้านภาลัยโขดเขินเนินไศลเป็นที่สัญจร และเป็นน้องชายของพระอุตระเถระจ้า

    .

    พระโสณะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 264

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 264

    มีการเก็บธาตุ ด้านหน้าพระพุทธรูป ที่ พระอุโบสถ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 497)

    .

    .

    องค์ที่ 3 คือ #พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมพิมพ์ว่า #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)

    .

    มีบุคลิกภาพสง่างาม มีความเชี่ยวชาญในวิชาแปรธาตุ เป็นผู้คงแก่เรียน ชอบเจริญอสุภกรรมฐาน 10 (ภาพในนิมิตร มักจะปรากฎเส้นเกสายาวจรดเอว)

    .

    พระมูนียะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 298

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 298

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 511)

    .

    .

    องค์ที่ 4 คือ #พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)

    .

    มีรูปกายค่อยข้างสูงใหญ่ ขนตาดกยาว มีอำนาจ แต่ขี้เล่นใจดี

    .

    พระฌาณียะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ปีพุทธกาล 278

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันแรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีพุทธกาล 278

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 506 - 507)

    .

    .

    องค์ที่ 5 คือ #พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ

    .

    สำเร็จปรอท ล่องหนย่นระยะทางเก่ง

    .

    พระภูริยะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ปีพุทธกาล 295

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 295

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 511)

    .

    .

    .

    .

    .

    หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ( คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ จากการที่ พระเจ้าอโศกมหาราช ได้อาราธนามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ) ในสายที่ 8 จาก 9 สายของคณะพระธรรมทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้อาราธนามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ข้อมูลจาก หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย เขียนโดย พระราชกวี (อ่ำ ธมมทตโต) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร

    .

    หมายเหตุ ในหนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย เขียนโดย พระราชกวี (อ่ำ ธมมทตโต) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร เขียนคำว่า สุวัณณภูมิ แต่ในที่นี้ ผมขอใช้คำว่า สุวรรณภูมิ แทน เนื่องจากน่าจะเข้าใจกันได้ง่ายกว่า)

    .

    พระอุปัชฌาย์ของคณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ คือ พระมหาโมคคัลลีปุตตติสสเถร ที่ท่านเป็นผู้เลือกคณะโสณะอุตตระ มาเป็นคณะพระธรรมทูตมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ

    (พระมหาโมคคัลลีปุตตติสสเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ของ พระโสณะเถระเจ้า , พระอุตตระเถระเจ้า , พระมูนียะเถระเจ้า , พระฌาณียะเถระเจ้า และ พระภูริยะเถระเจ้า)

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 428)

    .

    คณะคณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ เดินทางมาโดยทางเรือ มาถึงถิ่นสุวรรณภูมิที่เมืองทอง (ไม่ทราบว่า อยู่ในจังหวัดไหน) เมื่อเดือนอ้าย ขึ้น 14 ค่ำ ปีพุทธกาล 235 (ปีไทยฉลู) โดยอยู่ที่วัดปุณณาราม

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 439)

    .

    พระโสณะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 264

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 264

    มีการเก็บธาตุ ด้านหน้าพระพุทธรูป ที่ พระอุโบสถ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 497)

    .

    พระฌาณียะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ปีพุทธกาล 278

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันแรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีพุทธกาล 278

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 506 - 507)

    .

    พระอุตตระเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 ปีพุทธกาล 287

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 ปีพุทธกาล 288

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 510)

    หมายเหตุ ปีพุทธกาล 288 ผมนับจากวันที่พระอุตตระเถระเจ้า ท่านมรณภาพ(นิพพาน) คือ อยู่ในเดือน 1 ครับ

    .

    พระภูริยะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ปีพุทธกาล 295

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 295

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 511)

    .

    พระมูนียะเถระเจ้า ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 298

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ปีพุทธกาล 298

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 511)

    .

    พระโสณะเถระเจ้า ได้บวชให้กับ พระญาณจรเถระเจ้า (ดี หรือ ทองดี) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปี 236 โดยมี พระโสณะเถระเจ้า เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุตตระเถระเจ้า เป็นผู้สวดญัตติจตุุถกัมวาจา และ พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นผู้สอนอนุสาสน

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 440)

    .

    พระญาณจรเถระเจ้า (ดี หรือ ทองดี) (ธัมมปาโมกขสังฆราช) ท่านมรณภาพ (นิพพาน) วันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 313

    เข้าชุมไฟ (การประชุมเพลิง) วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 ปีพุทธกาล 314

    มีการเก็บธาตุ ที่ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 539)

    .

    ชื่อ พระญาณจรเถระเจ้า (ดี หรือ ทองดี)

    ญาณจรโณ ดี (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 440)

    ญาณจรโณ ทองดี (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 539)

    .

    ชื่อ วัดศรีมหาธาตุแดนลว้า

    โลกกนลว เมืองสุวัณณภูมิ ผู้โปรสเห้าหม่อมเมีย(ก้านตาเทวี) เป็นผู้ให้สร้างวัดศรีมหาธาตุแดนลว้า เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธกาล 238

    (หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย หน้าที่ 443-444)

    .

    Sithiphong (Noom Wangna) ผู้เรียบเรียง โดยเรียบเรียงมาจากหนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย เขียนโดย พระราชกวี (อ่ำ ธมมทตโต) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร

    .

    .

    .

    หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ( คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ จากการที่ พระเจ้าอโศกมหาราช ได้อาราธนามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ) ข้อมูลจาก หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน

    .

    พระอุตรเถระเจ้า

    รูปร่างสันทัดผิวกายค่อนข้างดำคล้ำ มีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้า บรรลุอภิญญาหก และปฎิสัมภิทาญาณ ใจดีประกอบด้วยเมตตา มีอารมณ์ขัน มีสภาวะจิตที่รวดเร็วมาก มีความเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์และเภสัชกรรม เป็นพี่ชายของพระโสณะเถระเจ้า

    .

    พระโสณะเถระเจ้า

    รูปกายสูงใหญ่ผิวดำ ทรงคุณสมบัติเหมือนกับ พระอุตรเถระเจ้า เว้นวิชาแพทย์ ใจดี เยือกเย็น ประกอบด้วยเมตตาธรรม ชอบผาดโผนเหินฟ้านภาลัยโขดเขินเนินไศลเป็นที่สัญจร และเป็นน้องชายของพระอุตรเถระจ้า

    .

    พระมูนียะเถระเจ้า

    มีบุคลิกภาพสง่างาม มีความเชี่ยวชาญในวิชาแปรธาตุ เป็นผู้คงแก่เรียน ชอบเจริญอสุภกรรมฐาน 10 (ภาพในนิมิตร มักจะปรากฎเส้นเกสายาวจรดเอว)

    .

    พระฌาณียะเถระเจ้า

    มีรูปกายค่อยข้างสูงใหญ่ ขนตาดกยาว มีอำนาจ แต่ขี้เล่นใจดี

    .

    พระภูริยะเถระเจ้า

    สำเร็จปรอท ล่องหนย่นระยะทางเก่ง

    .

    (หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร หน้าที่ 23 - 25)

    .

    คณะคณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ เดินทางมาโดยทางเรือ มาถึงถิ่นสุวรรณภูมิ โดยได้มาพักที่ วัดช้างค่อม (นครศรีธรรมราช) เมื่อวันขึ้น 14 คำ เดือน 1 พุทธศักราช 235

    (หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร หน้าที่ 10)

    .

    พระอุตรเถระเจ้า เป็นพี่ชายของพระโสณะเถระเจ้า

    พระโสณะเถระเจ้า เป็นน้องชายของพระอุตรเถระจ้า

    (หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร หน้าที่ 11)

    .

    Sithiphong (Noom Wangna) ผู้เรียบเรียง โดยเรียบเรียงมาจากหนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน

    .

    .

    .

    .

    .

    ผม Sithiphong (Noom Wangna) ขอนำเรื่องราวของ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ( คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ ที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ จากการที่ พระเจ้าอโศกมหาราช ได้อาราธนามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ)

    .

    มายืนยันว่า หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ( คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตตระ ที่ประกอบด้วยแกนหลัก คือ พระโสณะเถระเจ้า , พระอุตตระเถระเจ้า , พระมูนียะเถระเจ้า , พระฌาณียะเถระเจ้า และ พระภูริยะเถระเจ้า) ได้มรณภาพกันไปทั้งหมดแล้ว และกายที่ท่านมีในปัจจุบันคือ อทิสมานกาย ไม่มีตัวตนที่แท้จริง แต่เนื่องจากการที่คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร มีการฝึกฤทธิ์มามาก ส่งผลให้สามารถทำให้อทิสมานกาย ปรากฎเป็นกายเนื้อได้

    .

    อีกเรื่องก็คือ ปัจจุบันมีรูป พระภิกษุที่เป็นรูปโครงกระดูก ที่ระบุเป็นรูปของหลวงปู่เดินหน (พระมูนียะเถระเจ้า) โครงกระดูกที่ปรากฎนั้น เป็นสิ่งที่หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านทำให้ปรากฎขึ้น เพื่อให้คนทั้งหลายที่ได้เห็น จะได้ระลึกถึงเรื่อง อสุภกรรมฐาน ส่วนกายของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ได้มีการประชุมเพลิง(ฌาปนกิจ) ไปเมื่อปีพุทธกาล 298 (ตามข้อมูลด้านบนที่ผมนำมาให้อ่าน) แล้ว

    .

    ขอกราบในพระคุณของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ( คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตตระ ที่ประกอบด้วยแกนหลัก คือ พระโสณะเถระเจ้า , พระอุตตระเถระเจ้า , พระมูนียะเถระเจ้า , พระฌาณียะเถระเจ้า และ พระภูริยะเถระเจ้า) ที่ทำให้ดินแดนสุวรรณภูมิ มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก ที่ทำให้ผู้คนได้มีหลักปฎิบัติตามหลักธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความหลุดพ้นในวัฏสงสาร มุ่งสู่แดนพระนิพพาน

    .

    โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

    .

    กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ

    Sithiphong (Noom Wangna)

    .

    รูปและเนื้อหา สงวนลิขสิทธิ์

    แต่อนุญาตให้นำไปลงยังเพจ.อื่นๆ หรือ นำไปลงในสื่อออนไลน์ทุกประเภท

    และต้องระบุที่มาของ รูปและเนื้อหา

    ดังนี้ ที่มาของรูปและเนื้อหา โดย Sithiphong (Noom Wangna) ชมรมพระวังหน้า

    .

    .

    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์

    .

    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร

    .

    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ

    .

    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี

    .

    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ

    .

    #พระเจ้าอโศกมหาราช

    .

    #ชมรมพระวังหน้า

    .

    #พระวังหน้า

    .
    .
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=166285946100096&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    การนำบทความของผู้อื่นที่มีการเขียนที่ต้องผ่านการค้นคว้ามาอย่างถูกต้อง
    โดยที่ผู้เขียนไม่ได้อนุญาตให้นำบทความนั้นๆ
    ไปลงยังสื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ
    เมื่อนำบทความไปลงยังสื่อออนไลน์แล้ว
    นั่นก็คือ เป็นความผิดสำเร็จตามเจตนาของผู้กระทำแล้ว
    .
    เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมนั้นได้เลยว่า เป็นการลักทรัพย์
    .
    โทษทางกฎหมาย เรียกว่า เป็นการลักทรัพย์ (ละเมิดลิขสิทธิ์)
    โทษทางกฎแห่งกรรม เรียกว่า การลักทรัพย์
    .
    อีกเรื่อง ความสำนึกในการที่ตนเองได้กระทำผิดไป ยังไม่มีในสันดาน
    เมื่อมีคนไปเตือนแล้ว บอกแต่เพียงว่า จะลบโพสต์
    ไม่มีการแสดงถึงความสำนึกในการกระทำผิด
    ไม่มีการแสดงคำขอโทษ
    แต่ถ้ามีความสำนึกในสันดาน สามารถฝากคำขอโทษที่แสดงถึงความจริงใจในการสำนึกในการกระทำผิด
    .
    ตามโคลงโลกนิติที่ลงให้อ่านด้านล่าง
    .
    ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร
    มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
    โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
    หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน
    (ผู้แต่ง - สมเด็จกรมพระยาเดชาดิศร - หนังสือ - โคลงโลกนิติ)
    สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล
    .
    แต่ที่แน่นอน ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ฟันธง คอนเฟิร์ม การันตี และ รับรอง ได้ว่า ผู้ที่กระทำกรรมในเรื่องของ การลักทรัพย์ ต้องไปชดใช้กรรม แน่นอน
    .
    .
    .
    ขอเพิ่มเติมในส่วนที่เคยเห็นมา ก็คือ โชว์พระเก๊จี๊ดจ๊าดเยอะ แถมเล่านิยายเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้าใหัอ่านอีก
    .
    กรรมในส่วนนี้ คือ การกระทำในเรื่องของ มุสาวาท
    .
    ใครทำอะไร ต้องได้เช่นนั้นเสมอ
    .
    ของจริงต้องพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
    .
    .
    .
    .
    .
    #ลักทรัพย์ #ขโมย
    #ละเมิดลิขสิทธิ์
    #มุสาวาท
    .
    .
    .
    .
    .

    “ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร…” การสื่อความและเจตนารมณ์ใน “โคลงโลกนิติ”
    .
    ที่มา ศิลปวัฒนธรรม
    โพสโดย ผู้เขียน เด็กชายผักอีเลิด
    เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2565
    .
    “ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร
    มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
    โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
    หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน”
    .
    ถอดความหมายบทประพันธ์นี้ได้ว่า กิริยามารยาทบอกได้ถึงชาติตระกูลและอุปนิสัยของบุคคล เช่นเดียวกับความสั้น-ยาวของก้านบัวย่อมบอกระดับความลึกของหนองบึงนั้น คำพูดสามารถแสดงระดับสติปัญญาของบุคคลได้ เปรียบเหมือนหญ้าที่เหี่ยวแห้งย่อมบอกถึงคุณภาพหรือความอุดมสมบูรณ์ของดินบริเวณนั้น กล่าวโดยสรุปว่า การแสดงออกทางพฤติกรรมและคำพูดสามารถบอกตัวตนของบุคคลนั้นได้
    .
    บทประพันธ์ดังกล่าวอยู่ใน “โคลงโลกนิติ” (อ่านว่า โคลง-โลก-กะ-นิด) ประพันธ์โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ระหว่าง พ.ศ. 2374-2378 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) สืบเนื่องจากมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม และมีพระราชประสงค์ให้รวบรวมสรรพวิชาความรู้ของไทยมาจารึกบนแผ่นศิลาประดับไว้ในวัดพระเชตุพลฯ
    .
    รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ซึ่งขณะนั้นดำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนเดชอดิศร รวบรวมและชำระโคลงโลกนิติสำนวนเก่าแล้วนำมาจารึกบนแผ่นศิลา เพื่อเป็นโอวาทสอนใจประชาชน ดังปรากฏในโคลงบทแรกว่า
    .
    “อัญขยมบรมเรศน์เรื้อง รามวงศ์
    พระผ่านแผ่นไผททรง สืบไท้
    แสวงยิ่งสิ่งสดับองค์ โอวาท
    หวังประชาชนให้ อ่านแจ้งคำโคลง”
    .
    โคลงโลกนิติสำนวนของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร เมื่อรวมสำนวนเดิมที่นำมาปรับปรุง และส่วนที่ประพันธ์ขึ้นใหม่ รวมเป็นทั้งสิ้น 593 บท สำหรับสำนวนเดิมนั้น สันนิษฐานว่ามีการแต่งขึ้นก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สืบเนื่องจากเนื้อความในบท 2 ที่ว่า
    .
    “ครรโลงโลกนิตินี้ นมนาน
    มีแต่โบราณกาล เก่าพร้อง
    เป็นสุภษิตสาร สอนจิต
    กลดั่งสร้อยสอดคล้อง เวี่ยไว้ในกรรณ”
    .
    โคลงโลกนิติใช้ฉันทลักษณ์หรือรูปแบบการประพันธ์แบบ “โคลง” โดยคำว่า “โลกนิติ” หมายถึง “ระเบียบแบบแผนของโลก” เนื้อหาของโคลงโลกนิติมุ่งเน้นการกล่าวถึงสัจธรรมหรือความเป็นจริงของโลก ความไม่เที่ยงของสิ่งทั้งปวง หรือความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ และสอนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตหรือการประพฤติตน เช่น การพูด การคบคน การใฝ่หาความรู้ ฯลฯ
    .
    ดังโคลงบท “ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร…” ที่กล่าวถึงแต่แรกนั้น คือการเสนอความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ว่า อากัปกิริยาที่แสดงออกทั้งหลายเป็นเครื่องสะท้อนชาติกำเนิด การเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน อุปนิสัย และสติปัญญาของแต่ละบุคคล สิ่งเหล่านี้เป็น “นามธรรม” แต่ผู้ประพันธ์หยิบยก “รูปธรรม” จากธรรมชาติ คือ บึงน้ำ – บัว และ ผืนดิน – หญ้า มาเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างแยบคาย
    .
    การเปรียบเทียบดังกล่าวนอกจากจะสอนเรื่องการมองโลกหรือมองคนแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเตือนบุคคลให้ระมัดระวังการแสดงออกของตนทั้งคำพูดและการกระทำ อันก่อประโยชน์ในเรื่องการได้รับการยอมรับจากบุคคลอื่นและการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขด้วย
    .
    อ้างอิง :
    .
    ราชบัณฑิตยสถาน. (2557). กวีวัจน์วรรณนา วรรคทองในวรรณคดีไทยพร้อมประวัติและคำอธิบาย. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน
    .
    เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 กันยายน 2565
    .
    .
    .
    .
    .
    #ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร
    #มารยาทส่อสันดานชาติเชื้อ
    #โฉดฉลาดเพราะคำขานควรทราบ
    #หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อบอกร้ายแสลงดิน
    (ผู้แต่ง - สมเด็จกรมพระยาเดชาดิศร - หนังสือ - โคลงโลกนิติ)
    #สำเนียงส่อภาษา #กิริยาส่อสกุล
    #สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล
    .
    .
    .
    .
    .
    #ไม่เคยนำปืนไปจ่อหัวบังคับใครให้กระทำ
    #การกระทำเป็นการกระทำด้วยกายวาจาใจของตนเองทั้งสิ้น
    .
    .
    .
    #กระทำถูกกฎระเบียบหน่วยงานราชการและบริษัทแต่ผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี
    #กระทำถูกต้องตามกฎหมายแต่ผิดกฎแห่งกรรมต้องไปใช้กรรมเสมอ
    .
    .
    .
    #ต่อให้ไปไหว้พระพุทธรูปทั่วโลก
    #ต่อให้ไปไหว้พระอริยสงฆ์ทั่วโลก
    #ต่อให้ไปไหว้เทวรูปเทวดาทั่วโลก
    #ไม่มีใครช่วยให้หนีกรรมพ้น
    .
    .
    .
    #ไม่ว่าใหญ่แค่ไหน
    #ไม่ว่ารวยล้นฟ้าเพียงใด
    #ไม่มีใครหนีกรรมพ้น
    #แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังหนีกรรมไม่พ้น
    .
    .
    .
    #ต่อให้ใหญ่แค่ไหน
    #ต่อให้รวยล้นฟ้าเพียงใด
    #ไม่เคยมีใครหนีกรรมพ้น
    #แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องชดใช้กรรม
    #บุพกรรมพระพุทธเจ้า
    .
    .
    .
    #พระเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #พระเก๊จี๊ดจ๊าด
    #เก๊จี๊ดจ๊าด
    #ต่อตีนโจร
    .
    .
    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=171859462209411&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สวัสดีในวันเด็ก ของปี พ.ศ.2566
    .
    เด็กๆคือ อนาคตของชาติ ต้องได้รับการอบรมในเรื่องที่ถูกต้อง
    .
    ไม่ว่าจะได้รับการอบรมมาจาก พ่อ แม่
    ไม่ว่าจะได้รับการอบรมมาจาก ครูบาอาจารย์
    ไม่ว่าจะได้รับการอบรมจากผู้ใหญ่รอบข้าง
    .
    อนาคตประเทศชาติ จะได้มีควาาเจริญรุ่งเรือง
    ที่เจริญทั้งวัตถุ และจิตใจ
    ที่เจริญทั้งทางโลก และทางธรรม
    .
    .
    ..*****************************..
    .
    .
    ผมขออัญเชิญ คำขวัญ พระราชทานพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) สำหรับลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566
    .
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท ลงหนังสือวันเด็กแห่งชาติ 2566
    .
    ที่มา mgronline
    .
    วันนี้ (1 ม.ค.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท สำหรับลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 ดังนี้
    .
    “เด็กทุกคนเติบโตขึ้นได้ ด้วยอาศัยการโอบอุ้มช่วยเหลือ ทั้งจากผู้ใหญ่และสังคม. การรู้และเห็นความดีของผู้ที่ได้โอบอุ้มช่วยเหลือนั้น นับเป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ชื่อว่าความกตัญญู. เด็ก ๆ จึงควรเรียนรู้ และสร้างสมอบรมคุณธรรมข้อนี้ ให้บริบูรณ์.”
    .
    พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2565
    .
    .
    .*****************************.
    .
    .
    เพลง ค่านิยม 12 ประการ พร้อมเนื้อร้อง
    .
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=DrrJ7sKFqJI
    .
    โพสโดย Dek-Geng
    .
    3 ธ.ค. 2557
    .
    บทเพลงค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ
    .
    คำร้อง โดย พันเอก สมศักดิ์ เตียสุวรรณ
    .
    ทำนอง/เรียบเรียงเสียงประสาน โดย ร้อยเอก สุระชัย ถวิลไพร
    .
    ขับร้อง โดย นางสาว กฤติญา สาริกา
    .
    จัดทำโดย กองดุริยางค์ทหารบก
    .
    หนึ่งรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    .
    สองซื่อสัตย์ เสียสละ อดทนได้
    .
    สามกตัญญู พ่อแม่ สุดหัวใจ
    .
    สี่มุ่งใฝ่ เล่าเรียน เพียรวิชา
    .
    ห้ารักษา วัฒนธรรม ประจำชาติ
    .
    หกไม่ขาด ศีลธรรม ศาสนา
    .
    เจ็ดเรียนรู้ อธิปไตย ของประชา
    .
    แปดรักษา วินัย กฏหมายไทย
    .
    เก้าปฏิบัติ ตามพระ ราชดำรัส
    .
    สิบไม่ขาด พอเพียง เลี้ยงชีพได้
    .
    สิบเอ็ดต้อง เข้มแข็ง ทั้งกายใจ
    .
    สิบสองไซร้ คิดอะไร ให้ส่วนรวม
    .
    .-------------------------------------------------.
    .
    เพลง หน้าที่เด็ก ( เด็กเอ๋ย เด็กดี )
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=BBfg1choSm4
    .
    โพสโดย Sattahip Today
    .
    9 ธ.ค. 2561
    .
    เพลง หน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ย เด็กดี)
    .
    คำร้อง : ชอุ่ม ปัญจพรรค์
    .
    ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
    .
    .
    เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
    .
    เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
    .
    หนึ่ง นับถือศาสนา
    .
    สอง รักษาธรรมเนียมมั่น
    .
    สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
    .
    สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
    .
    ห้า ยึดมั่นกตัญญู
    .
    หก เป็นผู้รู้รักการงาน
    .
    เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ
    .
    ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน
    .
    แปด รู้จักออมประหยัด
    .
    เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล
    .
    น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ
    .
    ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา
    .
    สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์
    .
    รู้บาปบุญคุณโทษสมบัติชาติต้องรักษา
    .
    เด็กสมัยชาติพัฒนา
    .
    จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
    .
    เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
    .
    เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
    .
    สำหรับเพลง "หน้าที่ของเด็ก" หรือเพลง "เด็กเอ๋ยเด็กดี" นี้ ประพันธ์คำร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ นักเขียนนวนิยายชื่อดังคนหนึ่งของไทย ซึ่งท่านเป็นพี่สาวของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2534
    .
    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    เพลง วัดป่าภัทรปิยาราม จ.ลพบุรี / by Tong Aim
    .

    .
    ธรรมมะสบายใจ / by Tong Aim
    14 ก.ค.2564
    .
    .
    ขอนมัสการ จากอรุโณ โลกุตตระ
    / ประพันธ์โดย พระครูสังฆรักษ์ ณริชธันร์ อรุโณ วัดป่าภัทรปิยาราม จ.ลพบุรี

    .

    .
    ธรรมมะสบายใจ / by Tong Aim 19 ก.ค.2564
    .
    .
    .
    .
    .
    #พระพุทธยมกปาฎิหาริย์
    .
    #พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต (พระประธาน พระอุโบสถเจดีย์ จักรรัตนอุโบสถ โลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมาน พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต อัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์ วัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    #พระอุโบสถเจดีย์จักรรัตนอุโบสถโลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมานพระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิตอัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์
    .
    #พระบรมธาตุเจดีย์ศรีอิทธิมนต์ทิพยสถานอรุโณโลกุตตระ
    .
    #พระอาจารย์ณริชธันร์ #วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    #ถ้าสุวรรณคูหามัฆวานวินิจฉัย
    .
    #พญานาคราชศีลวิสุทธิโลกาธิบดี
    .
    #ศาลาศรีอิทธิมนต์ (#ศาลาเคียงอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    สืบเนื่องจากที่ผมลงประวัติของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ
    .
    มาแอบกระซิบกัน ว่า การสร้าง #พระวังหน้า ในช่วงนั้น แม่พิมพ์หลายๆพิมพ์ เป็นการออกแบบแม่พิมพ์โดย พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ
    .
    #แม่พิมพ์พระสมเด็จ นั้น
    ผมเคยบอกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า พระสมเด็จ มีการสร้างกันมาตั้งแต่ยุคศรีสัชนาลัย ที่ทางกลุ่มลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร มีการค้นพบแม่พิมพ์พระสมเด็จในสมัยนั้น
    ปัจจุบัน แม่พิมพ์พระสมเด็จอันนั้น อยู่ในกลุ่มลูกศิษย์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร
    .
    พระสมเด็จที่ผมได้พบที่มีการสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา(เกือบ)ตอนปลาย
    .
    ในสมัยกรุงศรีอยุธยา(เกือบ)ตอนปลาย มีการสร้างพระสมเด็จขึ้นมา
    คาดว่า น่าจะมีการสร้างขึ้นมาในช่วงสมัย สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 1 หรือ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงธรรมอันมหาประเสริฐ) ถึง สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
    .
    ดังนั้น แม่พิมพ์พระสมเด็จ ไม่มีการสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์แน่นอน
    .
    ผมลงรูป #พระสมเด็จที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเกือบตอนปลาย นำมาให้ชม
    .
    ส่วนหลวงวิจารณ์เจียรนัย เป็นช่างสิบหมู่เช่นกัน เพียงแต่เป็นช่างที่ทำงานด้านการทำเพชรพลอย
    .
    รูปสงวนลิขสิทธิ์
    .
    .
    .
    .
    หนังสือทั้ง 3 เล่ม
    เป็นความรู้เบื้องต้นเท่านั้น
    ในการเรียนรู้เรื่อง #พระวังหน้า
    .
    เพราะว่า มีอีกหลายเรื่องมากที่ไม่มีในหนังสือทั้ง 3 เล่ม ที่ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ได้สอนลูกศิษย์และผู้ที่ไปหาท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง #รูป (คือ #เนื้อหาทรงพิมพ์ และ #นาม (คือ #พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต) ครับ
    .
    .
    .
    #หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร
    #ท่านอาจารย์ประถมอาจสาครผู้เขียน
    .
    #หนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า
    #ประถมอาจสาคร ผู้เขียน
    #ปรัชนีประชากร
    .
    #หนังสือปู่เล่าให้ฟัง
    #ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน
    .
    #ถ้ายังไม่ได้อ่านหนังสืออย่าริเป็นเซียน
    .
    .
    .*******************************************.
    .
    .
    ประวัติของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02RppDfpueNY5p4h1uRkHdyV7CZn6n1pgnJFbmycyF2j7AmDXNesy7FK7AHSSXbejXl&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
    .
    พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ
    .
    ที่มา thestatestimes
    เรื่อง: สถาพร บุญนาจเสวี Content Manager
    ที่มาของภาพ สถาพร บุญนาจเสวี Content Manager
    07 JANUARY , 2023
    .
    .
    เจ้าชายนักประดิษฐ์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ผู้สร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
    .
    .
    เมื่อช่วงปีใหม่ผมมีโอกาสได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวิถีของชาวพุทธ โดยได้ไปสักการะ 'พระพุทธอังคีรส' ประธานพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม คำว่า 'อังคีรส' มีความหมายว่า 'มีพระรัศมีเปล่งออกมาจากพระวรกาย'
    .
    พระพุทธรูปองค์นี้ หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อต้นรัชกาลที่ 5 ด้วยกะไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก 180 บาท เป็นทองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เมื่อยังทรงพระเยาว์ เดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงนำไปประดิษฐานที่พระปฐมเจดีย์ แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2415 ซึ่งใต้ฐานบัลลังก์ของ 'พระพุทธอังคีรส' นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมสรีรางคารของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    .
    พุทธลักษณะของ 'พระพุทธอังคีรส' ประกอบด้วยพระพักตร์ค่อนข้างกลม ขมวดพระเกศาเล็ก ไม่มีอุษณีษะ (ปุ่มด้านบนศรีษะ) มีพระรัศมีขนาดใหญ่เป็นเปลว พระกรรณสั้นเหมือนมนุษย์ปกติ ไม่ยาวเหมือนพระพุทธรูปทั่วไป การครองจีวรห่มเฉียง มีริ้วแบบธรรมชาติ สังฆาฏิเป็นแผ่นใหญ่เหมือนผ้าสังฆาฏิที่ใช้จริงแบบพระสงฆ์ทั่วไป นักวิชาการให้ความเห็นกันไว้ว่านี่คือพระพุทธรูปที่มีลักษณะ 'เทวดาครึ่งมนุษย์' ที่งดงาม ไร้ที่ติ ถึงตรงนี้ใครกันหนอ ? คือผู้ปั้นและหล่อ 'พระพุทธอังคีรส' องค์นี้
    .
    'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' พระองค์คือช่างปั้นและช่างหล่อท่านที่ผมสงสัยนั่นเอง พระองค์ทรงเป็นพระโอรสของ 'พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงค์หริรักษ์' ต้นราชสกุล 'ดวงจักร' เมื่อแรกประสูติ ทรงพระนามว่า 'หม่อมเจ้าดิศ' พระบิดาของพระองค์นั้น ทรงกำกับ 'กรมช่างหล่อ' (เป็น DNA จากพ่อสู่ลูกแน่ ๆ อันนี้ผมคิดเองนะ) ในรัชสมัยของ 'พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว' โดย 'ช่างหล่อ' เป็นหนึ่งในกลุ่ม 'ช่างหลวง' ที่เรียกกันว่า 'ช่างสิบหมู่'
    .
    โดย 'ช่างหล่อ' มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการหล่อโลหะ เช่น การหล่อกลองมโหระทึก หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ การหล่อพระพุทธรูปโลหะทำได้โดยการใช้ขี้ผึ้งทำเป็นหุ่นแล้วละลายขี้ผึ้งจนเกิดที่ว่างในแม่พิมพ์ แล้วจึงเทโลหะหรือทองที่กำลังหลอมละลายเข้าแทนที่ จะได้เป็นรูปหล่อโลหะสำริด เรียกวิธีนี้ว่า 'ไล่ขี้ผึ้ง' ซึ่งก็คืองานวิจิตรศิลป ประเภทงานประติมากรรมนั่นเอง ซึ่งนับว่ามีความสำคัญมาก ๆ ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จึงเชื่อได้ว่า 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' คงจะได้เรียนรู้ ศึกษา และสั่งสมประสบการณ์ จาก 'พระบิดา' ของพระองค์นั่นเอง
    .
    ผมคงไม่เล่าพระประวัติของพระองค์มากนัก แต่จะเล่าถึงความสามารถของพระองค์และงานปั้นที่พระองค์ได้ทรงปั้นไว้ดีกว่า
    .
    เริ่มต้นในรัชสมัยของ 'พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว' รัชกาลที่ 4 ซึ่งในช่วงนั้น ฝรั่งเศสและอังกฤษ พยายามหาทางจะยึดครองสยามให้ได้ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤติก็เกิดเหตุพลิกผันที่ทำให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้อย่างอัศจรรย์ พระองค์จึงทรงดำริว่า เป็นไปได้ว่าน่าจะมีเทพยดาคอยพิทักษ์รักษาสยามอยู่ จึงสมควรจะสร้างรูปสมมติของเทพยดาองค์นั้นขึ้นเพื่อสักการบูชา จึงได้มีพระบรมราชโองการ ให้ 'พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็น 'หม่อมเจ้าดิศ' รับราชการในกรมช่างสิบหมู่ ได้เป็นนายช่างเอกออกแบบเทพยดาองค์หนึ่ง ตามพระราชดำริของพระองค์ ซึ่งใช้คติ 'มเหศักดิ์' หรือเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเมืองมาจินตนาการแล้วปั้นขึ้นเป็น 'เทวรูปยืน' ทรงเครื่องต้น พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระอุระในท่าประทานพร มีขนาดสูง 8 นิ้ว หรือ 20 เซนติเมตร เป็นที่พอพระราชหฤทัยของ ร.4 เป็นอย่างยิ่ง จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้นแล้วถวายพระนามว่า 'พระสยามเทวาธิราช'
    .
    ช่วงปลายรัชกาลที่ 4 'พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' ก็ได้ใช้ประสบการณ์ด้านงานปั้นและงานหล่อที่ฝึกฝนมายาวนานจนชำนาญในงานแขนงนี้มากกว่าใคร จนถือได้ว่าศิลปินเอกแห่งยุคนั้น มาปั้นพระพุทธรูปที่ใช้คติ 'เทวดาครึ่งมนุษย์' ที่สวยงามแตกต่าง ก่อนจะนำไปหล่อด้วย กะไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก 180 บาท ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เมื่อคราวพระราชพิธีโสกันต์ เกิดเป็นพระพุทธรูปที่มีพระวรรณะเปล่งปลั่งงดงามที่สุด สมกับพระนามว่า
    .
    'พระพุทธอังคีรส' ซึ่งผมได้กล่าวไว้ในข้างต้น
    .
    พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งซึ่งมาจากฝีมือของ 'พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' ที่จะไม่กล่าวถึงคงไม่ได้คือ พระประธานในพระอุโบสถของ 'วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ' โดยพุทธลักษณะแบบผสมผสานระหว่างประเพณีนิยมและตะวันตก รับกับตัวอุโบสถที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบกอธิกของยุโรป โดยพุทธลักษณะมีความใกล้เคียงกับมนุษย์ จากขมวดพระเกศาไม่มีพระเกตุมาลา มีแต่พระรัศมี ครองจีวร อย่างพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ริ้วจีวร เลียนแบบธรรมชาติ นิ้วพระหัตถ์ยาวเท่ากัน ฐานพระเป็นฐานกลีบบัวหลายบนฐานสิงห์ประดับลวดลายอย่างวิจิตร ซึ่ง ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพอพระราชหฤทัยมาก โดยถวายพระนามว่า 'พระพุทธนฤมลธรรโมภาส'
    .
    ย้อนกลับไปตอนต้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมช่างสิบหมู่ และได้สร้างผลงานสำคัญซึ่งปัจจุบันประดิษฐานไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร นั่นก็คือพระบรมรูป 4 รัชกาล โดยพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 - 3 นั้นเป็นการปั้นขึ้นมาใหม่ โดยใช้ความทรงจำของเจ้านายที่ทันเห็นในหลวงทั้ง 3 รัชกาลมาสร้างงานปั้น โดยปั้นไป แก้ไป ซึ่งต้องนับว่า พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ทรงมีความอดทนและความสามารถเป็นอย่างมาก เมื่อปั้นเสร็จก็ได้แก้ไขข้อบกพร่องของพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 ที่ได้มีแบบปั้นอยู่แล้ว เมื่อเสร็จก็หล่อพระบรมรูปทั้งหมดในบริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยแรกเริ่มนั้นได้ประดิษฐานไว้ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดรในรัชสมัย 'พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว' รัชกาลที่ 6
    .
    ส่วนงานที่ 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' ยังดำเนินการไม่สำเร็จ แต่ได้ส่งต่อร่างต้นแบบที่สวยงามอัศจรรย์ใจ และยังปรากฏอยู่จนถึงวันนี้ นั่นก็คือการออกแบบภายนอกพระอุโบสถของ 'วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม' ที่ผมได้เข้าไปสักการะ 'พระพุทธอังคีรส' นั่นเอง โดย 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นแม่กองอำนวยการสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2412 แต่ยังไม่แล้วเสร็จพระองค์ก็ประชวรด้วย 'พระโรคคันธสูตปลายปัตฆาฏ' ซึ่งน่าจะเกิดจากการที่พระองค์ทรงนั่งปั้นงานอย่างต่อเนื่องยาวนาน พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2428 สิริพระชันษา 68 ปี เมื่อ 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' สิ้นพระชนม์ลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้ 'พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ' เป็นแม่กองอำนวยการสร้างต่อ
    .
    แม้พระประวัติของ 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ' จะมีไม่มาก แต่ฝีมือเชิงช่างของพระองค์ยังคงเฉิดฉายและงดงาม ควรค่าแก่การสักการะ จวบจนปัจจุบันนี้ ผมขอก้มกราบฝีมือเชิงช่างของพระองค์อย่างหมดหัวจิตหัวใจ
    .
    กราบ...
    .
    .
    เรื่อง: สถาพร บุญนาจเสวี Content Manager
    .
    .
    .
    .
    .**********************************.
    .
    .
    ว่าด้วยเรื่อง หลวงวิจารณ์เจียรนัย
    โพสโดย Paisal Puechmongkol
    วันที่ 2 กรกฎาคม 2020
    .
    หลวงวิจารณ์เจียรนัย!!!
    .
    กองเชียร์ของเซียนพระบางท่าน ที่ปฏิเสธการมีอยู่ของพระสมเด็จเวอร์ชั่นงานหลวงทั้งหมด กล่าวอ้างว่าหลวงวิจารณ์เจียรนัย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้แกะแบบพิมพ์พระสมเด็จเวอร์ชั่นงานหลวง ว่าไม่มีตัวตนอยู่จริง โดยอ้างเหตุผล 3 ประการคือ
    .
    ก. ไม่พบประกาศการแต่งตั้งในราชกิจจานุเบกษา
    ข.ไม่มีหลักฐานการขอนามสกุลพระราชทาน และไม่มีประกาศตั้งบรรดาศักดิ์ ในราชกิจจานุเบกษาด้วย
    ค.ไม่เคยได้ยินประวัติหลวงวิจารณ์เจียรนัยมาก่อน และไม่มีทายาท ให้ปรากฏ!!
    .
    ข้อกล่าวอ้าง 3 ประการนี้ไม่เพียงพอที่จะสรุป ว่าหลวงวิจารณ์เจียรนัยไม่มีตัวตน เพราะ
    .
    1 ราชกิจจานุเบกษานั้นเริ่มมีในสมัยรัชกาลที่ 4 แต่ตีพิมพ์เพียงบางส่วน และมาตีพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ในกลางรัชกาลที่ 5 ดังนั้นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 จึงทรงโปรดให้นำราชกิจจานุเบกษาฉบับสำคัญในรัชกาลที่ 4 มาพิมพ์ใหม่เป็นบางฉบับ ดังนั้นขุนนางข้าราชการ เกือบทั้งหมด จึงไม่มีการประกาศแต่งตั้งในราชกิจจานุเบกษาในขณะนั้น
    ผมมีการศึกษาไม่มากนัก แต่ผมก็ประกาศได้ว่า ผมเป็นคนหนึ่งในไม่กี่คนของประเทศไทยที่ได้อ่านและศึกษาราชกิจจานุเบกษาทุกฉบับที่มีการตีพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 5
    .
    2 นามสกุลพระราชทานนั้น เป็นค่านิยมที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ส่วนในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ยังไม่มีพระราชนิยมในเรื่องนี้ แม้ในสมัยรัชกาลที่ 6 ก็มีขุนนางข้าราชการที่ได้รับนามสกุลพระราชทาน ไม่ถึง 300 ตระกูล
    .
    3 การพระราชทานบรรดาศักดิ์ก่อนสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นแบบแผนแต่โบราณ ไม่ได้มีการวางระบบพระราชทานเป็นนามชุด ที่สอดคล้องกัน เหมือนสมัยรัชกาลที่ 6 ดังเช่น บรรดาศักดิ์ชั้น"พระ" ที่มีนามว่า พระดุลยพากษ์สุวมัณฑ์ พระดุลยฑัณฑ์ชนาณัติ พระดุลยทัศน์ปฏิภาณ
    หรือชั้นหลวง เช่น หลวงสุทธิมลนฤนาท หลวงสุทธิวาทนฤพุฒิ เป็นต้น
    .
    4 หลวง วิจารณ์เจียรนัยมีชีวิตอยู่ในยุครัชกาลที่ 4 ถึงกลางรัชกาลที่ 5 เป็นข้าราชการในสังกัดกรมช่างสิบหมู่ ในสังกัดของกระทรวงวัง ซึ่งในช่วงที่มีการสร้างพระสมเด็จ เวอร์ชั่นงานหลวงของวังหลวงนั้นอยู่ในบังคับบัญชาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลากรมพระยาบำราบปรปักษ์ เสนาบดีกระทรวงวัง ซึ่งท่านก็มีทายาทสืบสายสกุลลงนาจนถึงวันนี้ และได้รับพระราชทาน หรือมีพระสมเด็จวังหลวงอยู่มากแบบ
    .
    ส่วนหลวงวิจารณ์เจียรนัยท่านก็มีทายาทสืบทอดลงมาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ผมรู้จักเชื้อสายพระทายาทรุ่นปัจจุบันของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์นั้น และท่านก็เมตตามอบพระสมเด็จให้ผม มาแล้ว และผมรู้จักทายาทของหลวงวิจารณ์เจียรนัยด้วย
    .
    ความจริงเป็นเช่นนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของใคร
    .
    .
    .***********************************************
    .
    .
    .
    .
    การเรียนรู้ ต้องมี สุ(ฟัง) จิ(คิด) ปุ(ถาม) ลิ(เขียน)
    .
    พาหุสัจจะ แปลว่า ความเป็นผู้ได้สดับมาก
    หนังสือบางฉบับเรียกว่า หัวใจนักปราชญ์
    .
    สุ ย่อมาจาก สุตะ แปลว่า ฟัง
    จิ ย่อมาจาก จินตะ แปลว่า คิด
    ปุ ย่อมาจาก ปุจฉา แปลว่า ถาม
    ลิ ย่อมาจาก ลิขิต แปลว่า จด
    .
    #อย่าไปเรียนกับกลุ่มเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    .
    #เรียนรู้ของเก๊จี๊ดจ๊าดแทนของแท้ #เก็บสะสมของเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้าแทนของแท้
    .
    #หลงทางหลงป่าเข้าพงลงเหว จาก #กลุ่มกูรูเก๊
    .
    ระวังให้มากสำหรับ เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า และ เก๊จี๊ดจ๊าด กัน
    .
    #อย่าไปเข้าป่าเข้าพงลงเหว #ไม่หลงทิศหลงทางลงนรก #อย่าตกเป็นเหยื่อ
    .
    ในเรื่อง #มุสาวาท และ #ปรามาสผู้มีธรรม จากกลุ่ม #กูรูเก๊
    .
    #โง่จริงแบบว่าไม่โง่จริงทำไม่ได้
    .
    .
    #พระเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #พระเก๊จี๊ดจ๊าด
    #เก๊จี๊ดจ๊าด
    #ต่อตีนโจร
    .
    .
    .
    .----------------------------------.
    .
    .
    สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม คนหนึ่ง ตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
    บทกวีของท่านเช็คสเปียร์ "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star.
    ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ
    .
    “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”
    แปลโดยเจษฏาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ (F. Hilaire)
    สุภาษิตนี้แปลมาจากภาษาอังกฤษ
    Two men look out through the same bars; One sees the mud, and one the stars
    โดย Frederick Longbridge
    .
    .
    "สองคน ยลตามช่อง
    คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม
    คนหนึ่ง ตาแหลมคม
    มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว"
    .
    .....ต่อมาเมื่อได้ค้นคว้าเพิ่มเติมก็ได้ทราบว่าต้นแบบเป็นบทกวีของท่านเช็คสเปียร์ ที่ว่า "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star." ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว (ข้อมูลจาก ไทยโพสต์ 25 พ.ย. 2547 โดยคุณสุวรรณ) ความหมายก็คือมุมมองของคนหลายคนในเรื่องเดียว อาจมีความแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นว่าคนหนึ่งต้องมองว่าบวกอีกคนต้องมองว่าลบเสมอไป อาจจะมองทางบวกทั้งคู่ หรือลบทั้งคู่ก็ได้ ถ้าแตกต่างกันในความคิดเห็นก็จัดว่าเป็นสองคนยลตามช่องได้ทั้งสิ้น
    .
    #สองคนยลตามช่อคนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
    #คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
    .
    .
    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=178927421502615&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566) ผมและคณะไปร่วมงานบุญที่วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    .
    .
    ผมนำแผ่นทองเหลือง จำนวน 3 แผ่น
    (ที่ผมเคยนำไปขอพระเมตตา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด อธิษฐานจิตแผ่นทองเหลืองชุดนี้ที่วัดแค (วัดราชานุวาส) จ.พระนครศรีอยุธยา
    .
    นำไปใส่ในเตาหลอม (เป็นส่วนหนึ่งของมวลสาร) ในการสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทั้ง 2 องค์
    .
    ผมนำรูปพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร และ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากพระอาจารย์ณริชธันร์ มาให้ชมกัน
    .
    พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร และ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สวยงามมาก ครับ
    .
    .**************************************************.
    .
    รายละเอียดของงานบุญในวันนั้น ด้านล่าง ครับ
    .
    .
    .**************************************************.
    .
    .
    รายละเอียดของงานบุญ
    .
    ที่มา และโพสโดย อรุโณ โลกุตตระ
    วันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 05:18 น.
    .
    เรียนเชิญร่วมงาน
    .
    วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖” (ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนสาม ปีขาล)
    .
    ณ วัดป่าภัทรปิยาราม ต.โคกตูม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
    .
    ~ ยกช่อฟ้า, ปั้นลม, หน้าบัน ศาลาเคียงอุโบสถ วัดป่าภัทรปิยาราม
    ~ หล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
    ~ ประดิษฐานศาลาเคียงอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม
    ~ ประดิษฐานหน้าเสาธงโรงเรียนบ้านวังเพลิง
    ~ หล่อพระบรมรูป สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    ~ ประดิษฐานหน้าเสาธงโรงเรียนบ้านวังเพลิง
    .
    .
    มาร่วมโมทนาบุญกันครับ
    .
    .
    .
    #สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์
    #หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    #หลวงปู่ทวดวัดช้างไห้
    #พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร
    #สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    #วัดแค #วัดแคอยุธยา
    #วัดราชานุวาส #วัดราชานุวาสอยุธยา
    #วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    #หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
    .
    #หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
    .
    #หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
    .
    #หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #พระพุทธยมกปาฎิหาริย์
    .
    #พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต (พระประธาน พระอุโบสถเจดีย์ จักรรัตนอุโบสถ โลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมาน พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต อัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์ วัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    #พระอุโบสถเจดีย์จักรรัตนอุโบสถโลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมานพระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิตอัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์
    .
    #พระบรมธาตุเจดีย์ศรีอิทธิมนต์ทิพยสถานอรุโณโลกุตตระ
    .
    #พระอาจารย์ณริชธันร์ #วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    #ถ้าสุวรรณคูหามัฆวานวินิจฉัย
    .
    #พญานาคราชศีลวิสุทธิโลกาธิบดี
    .
    #ศาลาศรีอิทธิมนต์ (#ศาลาเคียงอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    หลวงพ่อสนอง วัดนครไทยวราราม ท่านมรณภาพแล้วในวันที่ 2 มีนาคม 2566 ประมาณ 11.30 น.ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด
    .
    ขอกราบส่งดวงจิตหลวงพ่อและกราบด้วยความเคารพอย่างสูง ครับ
    .
    คุณปู (ภรรยาคุณดาว ที่เป็นคนดูแลหลวงพ่อสนองฯ) ได้จัดตั้งโรงทานขึ้น
    ผมได้ร่วมทำบุญในการจัดตั้งโรงทานในงานศพฯด้วย
    มาร่วมโมทนาบุญกันครับ
    หมู่คณะของผมในไลน์กลุ่มพระวังหน้า และ ไลน์กลุ่มพระวังหน้าโลกอุดร หลายๆท่าน ได้ร่วมทำบุญโรงทานด้วย
    ผมขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญโรงทานในครั้งนี้ด้วย ครับ
    .
    .
    .
    ส่วนตัว ถือว่า ตนเองโชคดีมาก ที่ได้มีโอกาสไปกราบและได้ร่วมทำบุญกับหลวงพ่อสนองในหลายงานบุญ ครับ
    .
    .
    หมายเหตุ พระสงฆ์รูปหนึ่ง ที่ทางครูบาอาจารย์ผม ได้สั่งให้ผมต้องไปกราบท่าน
    เพราะ ปัจจุบัน หาพระสงฆ์ที่ท่านปฎิบัติดีปฎิบัติชอบที่ดีมากขนาดนี้ ที่ไปกราบได้สนิทใจนั้น หาได้ยาก
    .
    พระสงฆ์รูปนั้นก็คือ หลวงพ่อสนอง วัดนครไทยวราราม ครับ
    .
    ผมได้มีโอกาสไปกราบท่านมาหลายครั้งแล้ว
    แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ได้รับโอกาสพิเศษ
    .
    มีงานบุญงานหนึ่งที่วัดนครไทยฯ คือ งานตักบาตรเทโว
    ผมและหมู่คณะไปร่วมงาน แต่ไปก่อนงาน 1 วัน (วันที่ 12-13 ตุลาคม 2560)
    วันนั้น ผมได้รับเส้นเกสา(หลวงพ่อสนอง) ที่ผมได้เคยขอเส้นเกสาจากพี่ทวีป
    และ ได้รับเส้นเกสาของหลวงพ่อมาไว้เพื่อสักการะบูชา
    ในคืนวันที่ 12 ตุลาคม 2560 (ถ้าจำไม่ผิด)
    ผมและหมู่คณะ ได้ไปนั่งฟังหลวงพ่อสวดมนต์ในห้องของท่าน
    หลังจากที่หลวงพ่อสวดมนต์เสร็จแล้ว ผมและหมู่คณะได้นั่งสมาธิกับหลวงพ่อฯด้วย
    .
    หลวงพ่อสนอง ท่านเป็นอริยบุคคลแล้ว โดยเป็นอริยบุคคล ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว ครับ
    .
    หมายเหตุ ในกรณีที่พระสงฆ์มรณภาพ ห้ามใช้คำว่า สาธุ
    .
    หมายเหตุ รูปสงวนลิขสิทธิ์
    .
    .
    .
    คำสอนที่หลวงพ่อสนอง วัดนครไทยวราราม ได้สอนลูกศิษย์เสมอก็คือ “หนัก คือ ยึด ว่าง คือ วาง สว่าง คือ ปัญญา รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน ความสุขสงบที่แท้จริง จึงจะปรากฏ”
    .
    .
    .
    ชาติภูมิหลวงพ่อสนอง
    ที่มา เว็บไซด์ คมชัดลึก
    .
    “สนอง ขำคง” เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงพ่อสนอง เกิดที่ บ้านนาบัว ต.นาบัว อ.นครไทย เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๔๗๘ อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดนาบัว เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๔๙๘ โดยมี พระครูประพัฒน์สรศีล (ชม) วัดหัวร้อง เจ้าคณะอำเภอนครไทย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมโท ในปี พ.ศ.๒๕๐๑ และดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะอำเภอนครไทย
    .
    เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ พระครูประพัฒน์สรศีล ได้ลาสิกขา หลวงพ่อสนอง ขณะนั้นอายุได้ ๒๗ ปี พรรษา ๗ จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอนครไทย ต่อมา พ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ที่พระครูนครบุราณานุรักษ์
    .
    พ.ศ.๒๕๑๑ เป็น พระอุปัชฌาย์ และใน พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก จนในพ.ศ.๒๕๒๒ จึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอนครไทย เพื่อมุ่งปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา แสวงหาความสงบ ในสมณเพศอย่างแท้จริง ดังพุทธพุจน์ที่ว่า นตฺถิ สนฺติ ปรมํสุขขํ สุขใดยิ่งกว่าใจสงบไม่มี
    .
    .
    .
    .
    .
    #พระครูนครบุราณานุรักษ์
    #หลวงพ่อสนอง #อตฺตทโป
    #หลวงพ่อสนองอตฺตทโป
    #วัดนครไทยวราราม หรือ #วัดหัวร้อง (#วัดใต้)
    #วัดนครไทยวรารามอำเภอนครไทยจังหวัดพิษณุโลก
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    #ไลน์พระวังหน้า
    #ไลน์พระวังหน้าโลกอุดร
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    วันนี้(วันที่ 6 พฤษภาคม 2566) ผมนำรูปพระวังหน้า นำมาให้ชมกัน
    .
    ท่านผู้อ่าน จะได้ทราบว่า พระวังหน้า เนื้อทองคำ และ พระวังหน้า เนื้อทองเหลือง
    มีรูปแบบและลักษณะเป็นอย่างไร
    จะได้ไปตกเป็นเหยื่อ ของกูรูเก๊ ได้
    .
    อย่างที่ผมบอกไป การเรียนรู้เรื่องของพระวังหน้า
    ต้องเรียนรู้ทั้ง #รูป ( #เนื้อหาทรงพิมพ์ ) และ #นาม ( #พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต )
    ต้องเรียนรู้กับผู้ที่รู้จริง สามารถดูได้ทั้ง รูป และ นาม
    .
    .
    เรื่องของ รูป (เนื้อหาทรงพิมพ์)
    เรื่องของพิมพ์(พระวังหน้า) จะมีอยู่ด้วยกันมากมาย หากดูองค์จริงจากพระวังหน้าที่เป็นเนื้อผง
    ก็จะพอทราบได้ว่า พิมพ์ที่เป็นเนื้อทองคำ จะมีรูปร่างลักษณะเป็นอย่างไร
    ส่วนเรื่องเนื้อทองคำ ผมเองได้นำไปพิสูจน์เนื้อมาจากสถานที่หนึ่ง
    เครื่องที่ตรวจเนื้อทองคำ เมื่อสมัยประมาณ 16 ปีที่ผ่านมา (ประมาณปี พ.ศ.2550)
    มูลค่าของเครื่องตรวจโลหะ มีมูลค่าไม่น้อยกว่าเป็น 10 ล้านบาท และ เป็นเครื่องตรวจโลหะที่มีคุณภาพสูง
    ผมขอไม่แจ้งเปอร์เซ็นของทองคำในองค์พระที่ผมนำมาลงในวันนี้
    .
    .
    เรื่องของ นาม (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
    ผมเองมีครูบาอาจารย์ที่เก่งมาก อีกทั้งรองประธานชมรมพระวังหน้า
    มีความสามารถในเรื่องการดูพระพิมพ์ต่างๆ ทั้ง รูป และ นาม
    และสามารถใช้จิตไปดูถึงงานพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า)
    ผมนำเรื่องที่ผมเคยเขียนไว้ และ ที่เคยนำมาลงในเพจ.Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า นำมาลงให้อ่านกันอีกครั้ง
    ผมขอไม่แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิตของรูปพระที่ผมนำมาลงในวันนี้
    .
    .*************************************.
    .*************************************.
    .
    เรื่องของ “นาม” (การตรวจดูพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)
    .
    .
    เรื่องของการจับพลังพระพิมพ์(ผมเคยลงไว้เมื่อ 21 สิงหาคม 2549 ที่กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เว็บไซด์พลังจิต) นั้น มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายประการ อาทิเช่น
    .
    1.พระพิมพ์บางองค์ เวลาที่กดพระพิมพ์นั้น อาจกดไปโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ ถ้าพระพิมพ์องค์ไหน กดโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ ไม่ว่าพระองค์ไหน ก็เสกไม่เข้าทั้งสิ้น ฤกษ์ดอกลูกพิษนั้น มีทุกวัน แต่ว่ามีเป็นช่วงๆ บางครั้งในหนึ่งวัน มีช่วงเดียว บางครั้งในหนึ่งวัน อาจมีหลายช่วงก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
    .
    2.ในการจับพลังองค์พระพิมพ์นั้น บางวัน พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ก็เป็นได้ การปิดกระแสนั้น พระผู้เสกย่อมทำได้เนื่องจากว่า ระดับของญาณหรืออภิญญาสูงกว่าผู้จับพลังองค์พระพิมพ์ มีเพื่อนผมคนหนึ่ง สามารถจับพลังขององค์พระพิมพ์ได้ มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนผมผู้นี้ได้นำพระพิมพ์องค์หนึ่ง ไปให้อาจารย์ของเขาตรวจพลังให้ แต่ปรากฏว่า อาจารย์ของเขาได้บอกว่า พระพิมพ์องค์นี้ ไม่มีพลัง ไม่มีอะไรเลย แต่เพื่อนผมได้นำพระพิมพ์องค์เดิมไปให้เพื่อนของเขาจับ ปรากฎว่าเพื่อนของเขาจับพลังได้ และยังบอกอีกว่า พลังขององค์พระพิมพ์นั้น แรงมากด้วย ในเรื่องนี้ ความคิดเห็นส่วนตัวผม ผมเห็นว่า พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสไม่ให้อาจารย์ของเพื่อนตรวจพลัง นะครับ
    .
    3.ในบางวัน พระผู้เสก ท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
    .
    4.และในบางวัน ผู้ที่ตรวจพลังของพระพิมพ์ เป็นวันที่เบื้องบนไม่ให้ตรวจพลังขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
    .
    5.พิมพ์ทุกองค์นั้น เวลาที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว จะมีเทวดารักษาองค์พระพิมพ์ทุกองค์ บางครั้งเทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์อาจจะปิดกระแสก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน
    .
    6.ในบางครั้งพระปลอมก็มีพลังเช่นเดียวกัน ถ้าผู้ทำพระปลอมได้นำพระไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก
    .
    7.หรือบางครั้งผู้ทำพระปลอมได้นำเศษพระแท้ผสมลงไป ก็สามารถมีพลังได้เหมือนกัน เพียงแต่พลังอาจจะน้อยกว่าพระแท้ครับ
    .
    8.การนำพระแท้ไปไว้ในที่ไม่สมควร เทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์ ท่านอาจจะไม่อยู่ครับ และทำให้พลังขององค์พระพิมพ์นั้นเสื่อมได้ครับ ตามหลัก มีเกิดได้ก็มีดับได้นะครับ
    .
    ในเรื่องของรังสีของคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรให้ฟังหลายครั้ง อีกทั้งลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถมหลายท่าน ก็สามารถตรวจสอบพลังขององค์พระพิมพ์ได้ เช่นการนั่งดูว่าใครเสก ,การนั่งดูพิธีเสก ,การจับพลังขององค์พระพิมพ์ เป็นต้นครับ
    .
    การตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์นั้น ผมแนะนำให้ไปหาผู้ทรงฌานหรือผู้ทรงญาณ หลายๆท่าน(ควรไม่ต่ำว่า 3 ท่าน) นะครับ และผลที่ตรวจได้นั้น ต้องตรงกัน
    .
    บทความนี้ เขียนโดย sithiphong ชมรมพระวังหน้า หรือ NooMWangnA
    .
    สงวนลิขสิทธิ์
    .
    .
    .
    สำหรับท่านใดที่ต้องการจะเผยแพร่รูปพระวังหน้าที่ผมลง หรือเนื้อหาที่ผมแจ้งเรื่องการสงวนลิขสิทธิ์ ให้คนอื่นได้เห็น สามารถทำได้ แต่ต้องระบุที่มาของรูปและเนื้อหาทุกครั้ง และให้มาขออนุญาตใน"เฟส หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า" ด้วย เมื่อผมอนุญาตแล้ว ถึงนำไปลงได้และลงข้อความในโพสที่ลงรูปด้วยครับ
    .
    ....."รูปที่ผมลงที่ผมแจ้งว่า เป็นรูปของผม หากจะนำไปลงในเว็บไซด์อื่นๆ หรือ เฟสบุ๊ค หรือสื่อออนไลน์ตามที่ต่างๆ ให้ลงท้ายรูปตามนี้ครับ
    รูปของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
    บทความของ Sithiphong ชมรมพระวังหน้า สงวนลิขสิทธิ์".....
    .
    หากต้องการนำไปเผยแพร่ ให้มาแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และลงตามที่ผมได้แจ้งไว้ด้านบนข้อความนี้
    .
    เรื่องของการสงวนลิขสิทธิ์
    .
    ผมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ผมสงวนลิขสิทธิ์รูปภาพ และเนื้อหาที่ผมนำมาลงในเรื่องราวของพระวังหน้า หรือ พระวังหลวง หรือ พระพิมพ์ต่างๆ ที่ผมเป็นผู้ที่เขียนขึ้นในเฟสฯหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ในวันที่ 20 มกราคม 2561 เวลา 7.35 น.
    .
    ข้าพเจ้า ขอบรมพุทธานุญาต ขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ มาเป็นประธาน ขออาราธนาพระบารมีองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ , พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ มาเป็นรองประธาน ขออาราธนาองค์พยามัจจุราชเจ้าองค์ปัจจุบัน และองค์พยามัจจุราชเจ้าที่จะมาเป็นองค์พยามัจจุราชในอนาคตทุกๆองค์ , นายนิริยบาลองค์ปัจจุบัน และนายนิริยบาลที่จะมาเป็นนายนิริยบาลในอนาคตทุกองค์ , พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลก และพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ทุกๆองค์ทั่วโลกที่จะมาเป็นพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ในอนาคตทุกๆองค์ทั่วโลก และเทพเทวาชั้น 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินทั่วโลก และองค์พระเยซูคริสต์ และองค์อัลลอฮ์ และองค์นบีมุฮัมมัด (หรือมุหัมมัด หรือพระมะหะหมัด) โปรดมาเป็นสักขีพยานในการอธิษฐานในครั้งนี้
    .
    ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า รูปภาพทุกรูปภาพที่ข้าพเจ้าถ่ายรูปเองหรือรูปที่ข้าพเจ้าแจ้งสงวนลิขสิทธิ์และทุกเนื้อหาที่ข้าพเจ้าอธิบายลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า และในสื่อออนไลน์ทุกประเภทที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมี่ขึ้นในอนาคต ทุกประเภท
    .
    หากมีผู้หนึ่งผู้ใดที่นำรูปภาพหรือเนื้อหาดังกล่าว นำไปใช้ในสถานที่อื่นๆ หรือลงในสื่อออนไลน์ทุกประเภทในปัจจุบันและอนาคต โดยไม่แจ้งที่มา และ/หรือนำไปใช้ในเรื่องของพุทธพาณิชย์หรือการซื้อขายพระเครื่อง,พระพิมพ์และวัตถุมงคลต่างๆ รวมทั้งการปลอมแปลงพระวังหน้า หรือพระวังหลวงตามรูปและเนื้อหาที่ผมนำมาลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ยกเว้นเพื่อการศึกษาหาความรู้และต้องแจ้งที่มาของรูปและเนื้อหาที่ผมลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า
    .
    ข้าพเจ้าคิดเป็นค่าเสียหายต่อครั้งต่อหนึ่งวันต่อหนึ่งรูปภาพและหรือต่อหนึ่งเรื่องราว เป็นวันละ 10,000,000 บาท(สิบล้านบาทถ้วน) (โดยคำนวนเป็นค่าเงินของประเทศไทยในวันปัจจุบันที่ลง ถึงแม้ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงค่าเงินต่างๆในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงในทุกลักษณะ) พร้อมด้วยดอกเบี้ยสูงสุดของประเทศนั้นๆ และเพิ่มขึ้นทุกปีในวันขึ้นปีใหม่(หรือวันในลักษณะที่เหมือนกับวันขึ้นปีใหม่)ของทุกประเทศและทุกลักษณะ โดยเป็นไปตามเรื่องของประเทศในเบื้องต้น โดยเพิ่มจำนวนเงินขึ้นปีละ 100,000,000 บาท(หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วย) โดยการคำนวณค่าเงินเป็นไปตามข้างต้น
    .
    ในการใช้หนี้ข้าพเจ้า ไม่ต้องนำมาให้ข้าพเจ้า แต่ให้นำไปใช้หนี้ข้าพเจ้าในลักษณะให้นำเงินทั้งหมดไปทำบุญดังนี้ ให้แบ่งยอดเงินทั้งหมดออกเป็นสี่ส่วนเท่าๆกัน ในสองส่วนแรกให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องของงานบุญในพระพุทธศาสนา(ไม่ว่าจะมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ไหนก็ตาม) ในส่วนที่สามให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องในงานบุญของศาสนาคริสต์ และในส่วนที่สี่ส่วนสุดท้ายให้นำไปใช้หนี้ให้ข้าพเจ้าในทุกๆเรื่องงานบุญของศาสนาอิสลาม ในการแจ้งที่มา ให้แจ้งตามข้อความในอัญประกาศดังนี้
    .
    “ที่มาของรูปและเนื้อหา รูปและเนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
    หรือ
    “ที่มาของรูป รูปโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
    หรือ
    “ที่มาของเนื้อหา เนื้อหาโดยsithiphong : Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า”
    กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    .
    #สงวนลิขสิทธิ์
    #การสงวนลิขสิทธิ์
    #นำรูปไปใช้ไม่แจ้งที่มา
    #ลักทรัพย์
    #พยามัจจุราช
    #พระแม่ธรณี
    #พระแม่คงคา
    #พระแม่โพสพ
    #พระวังหน้า
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    #Facebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร&พระวังหน้า
    .
    .
    #พระเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    #พระเก๊จี๊ดจ๊าด
    #เก๊จี๊ดจ๊าด
    #ต่อตีนโจร
    .
    การเรียนรู้ ต้องมี สุ(ฟัง) จิ(คิด) ปุ(ถาม) ลิ(เขียน)
    .
    พาหุสัจจะ แปลว่า ความเป็นผู้ได้สดับมาก
    หนังสือบางฉบับเรียกว่า หัวใจนักปราชญ์
    .
    สุ ย่อมาจาก สุตะ แปลว่า ฟัง
    จิ ย่อมาจาก จินตะ แปลว่า คิด
    ปุ ย่อมาจาก ปุจฉา แปลว่า ถาม
    ลิ ย่อมาจาก ลิขิต แปลว่า จด
    .
    #อย่าไปเรียนกับกลุ่มเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า
    .
    #เรียนรู้ของเก๊จี๊ดจ๊าดแทนของแท้ #เก็บสะสมของเก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้าแทนของแท้
    .
    #หลงทางหลงป่าเข้าพงลงเหว จาก #กลุ่มกูรูเก๊
    .
    ระวังให้มากสำหรับ เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า และ เก๊จี๊ดจ๊าด กัน
    .
    #อย่าไปเข้าป่าเข้าพงลงเหว #ไม่หลงทิศหลงทางลงนรก #อย่าตกเป็นเหยื่อ
    .
    ในเรื่อง #มุสาวาท และ #ปรามาสผู้มีธรรม จากกลุ่ม #กูรูเก๊
    .
    #โง่จริงแบบว่าไม่โง่จริงทำไม่ได้
    .
    รูปสงวนลิขสิทธิ์
    .
    .
    .----------------------------------.
    .
    .
    สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม คนหนึ่ง ตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
    บทกวีของท่านเช็คสเปียร์ "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star.
    ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ
    .
    “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”
    แปลโดยเจษฏาจารย์ ฟ. ฮีแลร์ (F. Hilaire)
    สุภาษิตนี้แปลมาจากภาษาอังกฤษ
    Two men look out through the same bars; One sees the mud, and one the stars
    โดย Frederick Longbridge
    .
    .

    "สองคน ยลตามช่อง

    คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม

    คนหนึ่ง ตาแหลมคม

    มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว"

    .
    .....ต่อมาเมื่อได้ค้นคว้าเพิ่มเติมก็ได้ทราบว่าต้นแบบเป็นบทกวีของท่านเช็คสเปียร์ ที่ว่า "Two folks look through same hole, one sees mud, one sees star." ถอดเป็นภาษาไทยโดยท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งอัสสัมชัญ เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว (ข้อมูลจาก ไทยโพสต์ 25 พ.ย. 2547 โดยคุณสุวรรณ) ความหมายก็คือมุมมองของคนหลายคนในเรื่องเดียว อาจมีความแตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นว่าคนหนึ่งต้องมองว่าบวกอีกคนต้องมองว่าลบเสมอไป อาจจะมองทางบวกทั้งคู่ หรือลบทั้งคู่ก็ได้ ถ้าแตกต่างกันในความคิดเห็นก็จัดว่าเป็นสองคนยลตามช่องได้ทั้งสิ้น
    .
    #สองคนยลตามช่อคนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
    #คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
    .
    .
    ที่มา https://www.facebook.com/100081560750868/posts/221059333956090/?mibextid=Nif5oz
    .
    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566)
    .
    ผมได้โอนเงิน จำนวน 159,547.39 บาท ให้กับ พี่หวาน
    พี่หวาน เป็นเจ้าภาพการถวายโคมไฟระย้า (ที่ติดไว้ที่พระอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    เงินที่ผมโอนให้พี่หวาน เป็นเงินของ สมาชิกไลน์กลุ่มพระวังหน้า , สมาชิกไลน์กลุ่มพระวังหน้าโลกอุดร , สมาชิกชมรมพระวังหน้า ที่ได้ร่วมกันทำบุญกันมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564 จนถึง เดือน กุมภาพันธ์ 2565
    .
    และเงินจำนวนนี้ จะไปสมทบกับเงินของพี่หวาน ที่เป็นเจ้าภาพฯ ครับ
    .
    ขอกราบโมทนาบุญกับพี่หวาน และ ทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญกันมาด้วยครับ
    .
    .
    .********************************.
    .
    .
    #หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า (#หลวงปู่พระอุตตระเถระเจ้า) หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
    .
    #หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
    .
    #หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
    .
    #หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #พระพุทธยมกปาฎิหาริย์
    .
    #พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต (พระประธาน พระอุโบสถเจดีย์ จักรรัตนอุโบสถ โลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมาน พระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิต อัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์ วัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    #พระอุโบสถเจดีย์จักรรัตนอุโบสถโลหะสัมฤทธิ์เจดีย์ บรมพิมานพระพุทธมณีรัตนอัมรินทรถสถิตอัมพรสุวรรณนพรัตนมณีโชติจรัสสุริเยนทร์
    .
    #พระบรมธาตุเจดีย์ศรีอิทธิมนต์ทิพยสถานอรุโณโลกุตตระ
    .
    #พระอาจารย์ณริชธันร์ #วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    #ถ้าสุวรรณคูหามัฆวานวินิจฉัย
    .
    #พญานาคราชศีลวิสุทธิโลกาธิบดี
    .
    #ศาลาศรีอิทธิมนต์ (#ศาลาเคียงอุโบสถวัดป่าภัทรปิยาราม)
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    วัดป่าภัทรปิยาราม
    .
    โพสโดย เฟซบุ๊ก เที่ยวเมืองลิง : เช็คอินลพบุรี
    วันที่ 28 สิงหาคม 2566
    .
    https://fb.watch/mIpkvpxLuI/
    .
    พาเที่ยววัดป่าภัทรปิยาราม สายมูและแรงศรัทธา ตอนนี้กระแสดังมาก ผู้คนจากทั่วทิศแห่กันมาที่วัดมากมาย พญานาคสีขาว อุโบสถพระหินหยก พระขาวที่เชิงเขาเสาหลักศาสนา และถ้ำสีทอง อยู่ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี
    .
    .

    .
    แรงศรัทธา วัดป่าภัทรปิยาราม ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลไม่ขาดสาย คนต่างจังหวัดรู้แล้วคนลพบุรีรู้ยัง แวะมากราบไหว้ขอพรกันจ้า #วัดป่าภัทรปิยาราม #พญานาคสีขาว
    .
    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สวัสดียามเช้า วันอังคารรื่นเริง
    วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566
    .
    มาชม #พระสมเด็จวังหน้าเนื้อทองคำ กัน
    .
    เนื้อทองคำแท้ มีลักษณะแบบนี้
    .
    แต่ที่เคยเห็นมา ที่บอกว่าเป็นเนื้อทองคำนั้น เก๊ทั้งหมด
    .
    ส่วนจะเชื่อผมหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น
    เพราะ เลือกที่จะเชื่อได้ตามที่ต้องการ
    ที่สำคัญ ไม่ใช่ตัวผมและหมู่คณะของผม
    .
    ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ฟันธง
    คอนเฟิร์ม การันตี และ รับรอง ว่า ถูกต้อง
    .
    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=285472024181487&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
    .
    .
    .
    #เรียนรู้ของเก๊แทนของแท้ #เก็บสะสมของเก๊แทนของแท้
    .
    #หลงทางหลงป่าเข้าพงลงเหว จาก #กลุ่มกูรูเก๊
    ระวังให้มากสำหรับ #เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า และ #เก๊จี๊ดจ๊าด กัน
    .
    จะได้ #ไม่หลงทิศหลงทางลงนรก
    #อย่าไปเข้าป่าเข้าพงลงเหว
    #อย่าตกเป็นเหยื่อ
    .
    ในเรื่อง #มุสาวาท และ #ปรามาสผู้มีธรรม จากกลุ่ม #กูรูเก๊
    .
    รูปสงวนลิขสิทธิ์
    .
    ผมอนุญาตเฉพาะการนำข้อมูลไปใช้เพื่อการศึกษาเท่านั้น
    .
    ผมไม่อนุญาตให้นำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการซื้อขายพระวังหน้า , พระสมเด็จวังหลวง , พระสมเด็จวัดระฆัง และ ซื้อขายพระเครื่องต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาด
    .
    ผมไม่อนุญาตให้นำข้อมูลไปใช้เพื่อโชว์ว่า ตนเองเป็นกูรู ทั้งๆที่เป็นกูรูเก๊
    .
    ผมไม่อนุญาตให้คัดลอกด้วยวิธีการต่างๆ และไม่อนุญาตให้แชร์ไปยังสื่อออนไลน์ทุกประเภท
    .
    #หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า (#หลวงปู่พระอุตตระเถระเจ้า) หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
    .
    #หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
    .
    #หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมพิมพ์ว่า #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
    .
    #หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #พระเจ้าอโศกมหาราช
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สำหรับท่านใดอยากเห็น พระวังหน้า พิมพ์เจ้าสัว
    .
    ตามไปดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย ครับ
    .
    มาชม #พระวังหน้าพิมพ์เจ้าสัว ( #พิมพ์เจ้าสัว บางส่วน) กันครับ
    ท่านผู้ให้ดำเนินการจัดสร้าง คือ #กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (อุปราชวังหน้าในรัชกาลที่ 5)
    ท่านผู้สร้าง คือ #ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า
    แม่พิมพ์ เท่าที่ทราบ ผู้คิดค้นแบบพิมพ์และจัดทำแม่พิมพ์ คือ ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า
    เนื้อปูนเพชร
    นำเข้า #พระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ที่ #พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (#พระอุโบสถประจำวังหน้า)
    .
    หมายเหตุ สำหรับแบบพิมพ์ ทาง #หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ท่านนำแบบพิมพ์ไปใช้ในการสร้างพระพิมพ์เจ้าสัว ที่ #วัดกลางบางแก้ว
    .
    ขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิตให้ทราบ
    ผมจะนำไปแจ้งในไลน์กลุ่มพระวังหน้า และ ไลน์กลุ่มพระวังหน้าโลกอุดร เท่านั้น
    .
    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=330383403023682&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช) พระองค์ท่านสร้างโครงการในพระราชดำริ มามากกว่า 4,000 โครงการ เพื่อประชาชนชาวไทย เพื่อแผ่นดินไทย อีกทั้งยังทำนุบำรุงพระศาสนาให้มั่นคงเจริญก้าวหน้า รวมทั้งที่พระองค์ท่านได้ศึกษาความรู้ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี
    กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ
    .
    .
    .
    kapook.com
    .
    วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก ที่องค์การสหประชาชาติมีมติยอมรับให้วันนี้เป็นวันสำคัญสากล ซึ่งเราชาวไทยทุกคนก็ควรได้รู้ถึงประวัติวันดินโลกไว้เป็นความประทับใจที่ชีวิตนี้ได้เกิดในรัชกาลที่ 9
    .
    นอกจากวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี จะเป็นวันพ่อแห่งชาติมาตลอดในรัชกาลที่ 9 แล้ว ทั่วโลกยังให้ความสำคัญต่อวันนี้ในฐานะวันดินโลก ตามมติของ UN อีกด้วย ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนมาทราบถึงประวัติวันดินโลก และความสำคัญของวันดินโลก พร้อมด้วยโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับดิน อันเป็นเหตุผลสำคัญยิ่งที่ทำให้มีวันดินโลก
    .
    ประวัติวันดินโลก
    .
    วันดินโลก (World Soil Day) ถูกกำหนดขึ้นตามมติขององค์การสหประชาชาติ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ 68 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2556 ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก (World Soil Day) และกำหนดให้ปี พ.ศ. 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soils) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของทรัพยากรดิน ต่อการพัฒนาด้านการเกษตร โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ
    .
    ทั้งนี้สาเหตุที่กำหนดให้วันดินโลก ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมนั้น สืบเนื่องจากการประชุมสภาโลกแห่งปฐพีวิทยา (World Congress of Soil Science) ครั้งที่ 17 เมื่อปี พ.ศ. 2545 ทางสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Sciences) ได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการพัฒนาทรัพยากรดิน โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการเกษตร จึงได้เลือกวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ เป็นวันดินโลก เพื่อเทิดพระเกียรติพระวิริยอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในด้านการปกป้องและพัฒนาทรัพยากรดิน ซึ่งถ้าให้กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการพัฒนาทรัพยากรดิน เราก็ขออนุญาตพาคนไทยทุกคนมาทบทวนโครงการในพระราชดำริเกี่ยวกับดินของในหลวง รัชกาลที่ 9 ดังนี้กันค่ะ
    .
    1. โครงการศึกษาฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม (อันเนื่องมาจากพระราชดำริ)
    .
    ตั้งอยู่ที่บ้านเขาชะงุ้ม หมู่ที่ 2 ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและสาธิตวิธีการฟื้นฟูปรับปรุงดินเสื่อมโทรมให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นรูปแบบและส่งเสริมอาชีพเกษตรกรที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ โครงการ ได้เรียนรู้วิธีการจัดการดิน น้ำ และพืชอย่างถูกต้อง มีความยั่งยืนไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    .
    2. โครงการทดลองแก้ปัญหาดินเปรี้ยว
    .
    ด้วยพระปรีชาสามารถของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชดำริแก้ปัญหาดินเปรี้ยวในจังหวัดนครนายก ด้วยการใช้วิธีธรรมชาติอย่างการเปลี่ยนถ่ายดินจากแปลงหนึ่งสู่แปลงหนึ่ง เพื่อลดความเปรี้ยวของดิน อีกทั้งพระองค์ยังได้พระราชทานพระราชดำริให้ใช้ปูนมาร์ล และสาหร่ายในการปรับสภาพน้ำให้ดีขึ้น และต่อมาก็ได้พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการศึกษาผลกระทบ ของการใช้เถ้าลอยลิกไนท์ เพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวเพิ่มเติมอีกด้วย
    .
    3. โครงการหญ้าแฝก
    .
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงศึกษาเรื่องการใช้หญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำจากเอกสารของธนาคารโลก ที่นาย Richard Grimshaw ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย และพระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับหญ้าแฝก โดยให้ทรงทดลองปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน จนปัจจุบันมีหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงาน ดำเนินงานสนองพระราชดำริการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝก ส่งผลให้การดำเนินงานก้าวหน้ามากขึ้นตามลำดับ
    .
    4. โครงการแกล้งดิน
    .
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงรับทราบความเดือดร้อนของพสกนิกรในภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในจังหวัดนราธิวาส ที่ประสบปัญหาดินเปรี้ยวทำให้เพาะปลูกไม่ได้ผล พระองค์จึงมีพระราชดำริให้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาดินพรุเพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการศึกษาและพัฒนาพื้นที่พรุ ซึ่งเป็นดินเปรี้ยวให้เป็นดินที่มีคุณภาพ สามารถทำการเพาะปลูกได้ ซึ่งพระองค์ทรงแนะนำให้ใช้วิธี "การแกล้งดิน" คือ เริ่มจากการแกล้งดินให้เปรี้ยวสุดขีด ด้วยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันเพื่อเร่งปฏิกิริยาทางเคมีของดินพรุที่มีสารประกอบของกำมะถันที่จะทำให้ดินมีสภาพเป็นกรดจัดเมื่อดินแห้ง จากนั้นจึงทำการปรับปรุงดินที่เป็นกรดจัดนั้นด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่จะลดความเป็นกรดลงมาให้อยู่ในระดับที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าว ได้
    .
    5. โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน
    .
    ตั้งอยู่ที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ที่ราษฎรน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน จำนวน 216 ไร่ และครั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทอดพระเนตรเห็นสภาพความทุรกันดารของผืนดิน จึงมีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ ณ พื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งหมู่บ้านรอบ ๆ ศูนย์ โดยการวางแผนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ทั้งยังให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า และสนามทดลองทางด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้ามาดูงานและนำแนวพระราชดำริไปปฏิบัติตาม และพัฒนาอาชีพและพื้นที่ของตนเพื่อเพิ่มผลผลิต เพื่อให้ประชาชนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งพระองค์ยังมีพระราชดำริให้ส่งเสริมศิลปาชีพและหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จากอาชีพหลักอีกทางหนึ่งด้วย
    .
    6. โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย
    .
    หนึ่งในโครงการพระราชดำริที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เคยอุดมสมบูรณ์ แต่ได้ถูกราษฎรเข้าบุกรุกทำลายป่าเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม จนไม่เหลือป่าไม้และสัตว์ป่า ทำให้พื้นที่แห้งแล้ง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล และสภาพพื้นดินเสื่อมโทรมอย่างหนัก ทำการเกษตรกรรมไม่ได้ผล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่บริเวณห้วยทราย เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านป่าไม้อเนกประสงค์ โดยยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้สมดุลกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ และสามารถฟื้นฟูให้มีศักยภาพในการทำเกษตรกรรมและความเป็นอยู่ของประชากรได้อย่างต่อเนื่อง
    .
    7. โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
    .
    ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทั้งด้านทรัพยากรต้นน้ำ ด้านเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม รวมทั้งด้านอุตสาหกรรม เนื่องมาจากมีพระราชประสงค์ที่จะให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ทำหน้าที่เสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ที่ประชาชนจะเข้าไปเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้
    .
    โดยในด้านดินและเกษตรกรรมมีพระราชดำริให้ศึกษาพัฒนาสภาพดินในพื้นที่ที่มีความลาดชัน ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด โดยได้ทำการทดลองปลูกพืชที่เหมาะสม ทดสอบประโยชน์ของดินชนิดนี้ในรูปแบบอื่น ๆ รวมทั้งศึกษาความยากง่ายในการชะล้างพังทลายของดินดังกล่าวไว้เพื่อหาวิธีป้องกัน และเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ส่งผลให้ประชากรได้มีพื้นที่ทำกินและอยู่อาศัยได้อย่างไม่ลำบากมากนัก
    .
    หวนนึกไปถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อใด เมื่อนั้นก็รู้สึกว่าเราช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นประชาชนของพระองค์ท่านนะคะ ซึ่งนอกจากวันดินโลกจะเกิดขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระวิริยอุตสาหะ ของพ่อหลวง ร.9 แล้ว เราก็เชื่อว่าชาวไทยทุกคนคงทราบกันดีถึงความหมายของพระนามพระองค์ท่าน อันหมายถึง กำลังของแผ่นดิน...
    .
    "อันที่จริงเราชื่อ "ภูมิพล" ที่แปลว่า "กำลังของแผ่นดิน" แม่ก็อยากให้เธออยู่กับดิน เมื่อฟังคำพูดแล้วกลับมาคิด ซึ่งแม่คงจะสอนเราและมีจุดมุ่งหมายว่าอยากให้ติดดินและอยากให้ทำงานให้แก่ประชาชน"...พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
    .
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    .
    ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
    .
    สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)
    .
    มูลนิธิชัยพัฒนา
    .
    เรารักพระเจ้าอยู่หัว
    .
    un.org
    .
    kapook.com
    .
    .
    .*************************************.
    .
    .
    .
    วันดินโลก 5 ธันวาคม
    https://www.youtube.com/watch?v=UcZx8PQmDFg
    กรมพัฒนาที่ดิน แชนแนล LDD Channel
    9 เม.ย. 2018
    ประชาสัมพันธ์ พระราชกรณียกิจด้านดิน เนื่องในวันดินโลก 5 ธันวาคม
    .
    .
    .****************************
    .
    .
    วีดิทัศน์ วันดินโลก
    https://www.youtube.com/watch?v=zwknSf2fLJw
    สํานักงาน กปร.
    13 พ.ย. 2018
    วันดินโลก 5 ธันวาคมของทุกปี
    ได้รับการสนับสนุน จากกรมพัฒนาที่ดิน
    เผยแพร่โดยสำนักงาน กปร. 14 พฤศจิกายน 2561
    .
    .
    .****************************
    .
    .
    ชุดแสนสุดอาลัยพ่อหลวง เพลง World Soil Day วันดินโลก ศิลปิน เก้า กรุงเก่า
    https://www.youtube.com/watch?v=_XtBesUiI18
    narupon pumchaivijit
    8 ธ.ค. 2016
    บทเพลงที่กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดถลยเดช ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันดินโลก” เพื่อสดุดีพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงตระหนักในการพัฒนาดินอย่างต่อเนื่องและยาวนาน และมีหนึ่งประโยคที่ประชาชนคนไทยหลายคนยังไม่รู้ว่าครั้งหนึ่งในหลวงทรงเคยตรัสว่า “อย่าจำตัวฉัน แต่ให้จำประโยชน์ที่ฉันทำ” ซึ่งเราชาวไทยรู้ดีว่า พระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    สวัสดีวันปีใหม่ ปี 2567
    .
    .
    .**********************************.
    .
    .
    วันนี้ (วันที่ 1 มกราคม 2567) เป็นวันปีใหม่ของผู้คนในประเทศตะวันตก
    ที่คนไทยได้รับเอามาเป็นธรรมเนียมประเพณี
    .
    ผมขอนำธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เกี่ยวกับการกระทำ
    นำมาให้อ่านกัน มีข้อสรุปที่สำคัญ ดังนี้
    .
    = ฐานะ ๕ ประการนี้ อันสตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า
    - เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความแก่ไปได้ ๑
    - เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ ๑
    - เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ๑
    - เราจะต้องพลัดพรากจาก ของรักของชอบใจทั้งสิ้น ๑
    - เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่ว ก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ๑ ฯ
    .
    .
    การเริ่มต้นในการทำความดี ไม่มีฤกษ์ที่ต้องใช้
    สามารถกระทำได้ตลอดเวลาที่ต้องการเริ่มต้นในการทำความดี
    ที่สำคัญ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านไม่เคยพูดผิดแม้แต่คำเดียว
    และ เป็นจริงในทุกเรื่อง และ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองว่า จริงตามธรรมะของพระองค์ท่านหรือไม่
    .
    และ ผมขอทำบุญตามหลักบุญกริยาวัตถุ 10 คือ ธัมมเทสนามัย (ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้) ถึงแม้ไม่มีใครเปิดฟัง บุญนั้นก็สำเร็จจากการกระทำของผมทั้ง กาย , วาจา(คือการโพส) และ ใจ(เจตนา)
    .
    หากมีผู้ที่ฟัง (ที่เคยมีความคิดเห็นที่ไม่ถูกต้อง) เมื่อฟังแล้ว มีความเห็นที่ถูกต้อง) ผมได้ทำบุญในเรื่อง ทิฏฐุชุกัมม์ (ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง)
    .
    มาร่วมโมทนาบุญกัน บุญเสมอกัน ครับ
    .
    หากมีผู้ที่อ่าน มีความเห็นว่า ผมได้ทำบุญตามที่บอก และ มีจิตที่ยินดีในการทำบุญของผมในครั้งนี้ ท่านผู้อ่านจะได้บุญในเรื่อง ปัตตานุโมทนามัย (ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น)
    .
    .
    .
    .**********************************.
    .
    .
    ฐานสูตร ทำอะไรไว้ต้องได้รับผลเช่นนั้น
    .
    .
    พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔
    อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
    .
    ๗. ฐานสูตร
    .
    ที่มา เว็บไซด์ 84000
    .
    .
    [๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะ ๕ ประการนี้ อันสตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความแก่ไปได้ ๑ เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ ๑ เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ๑ เราจะต้องพลัดพรากจาก ของรักของชอบใจทั้งสิ้น ๑ เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่ว ก็ตาม เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ๑ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความแก่ไปได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความมัวเมาในความเป็นหนุ่มสาวมีอยู่แก่สัตว์ ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเขา พิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมาในความเป็นหนุ่มสาวนั้นได้โดย สิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลงได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามี ความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ฯ
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วง พ้นความเจ็บไข้ไปได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความมัวเมาในความไม่มีโรคมีอยู่แก่ สัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลาย ประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมาในความไม่มีโรคนั้นได้โดย สิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลงได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามี ความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้ ฯ
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความตายไปได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความมัวเมาในชีวิตมีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย ซึ่ง เป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเขาพิจารณาฐานะ นั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมาในชีวิตนั้นได้โดยสิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลง ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความตายไปได้ ฯ
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของ ชอบใจทั้งสิ้น
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจ ความรักใคร่ในของรักมีอยู่แก่สัตว์ ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเขา พิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความพอใจ ความรักใคร่นั้นได้โดยสิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลงได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้อง พลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ฯ
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่ง กรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต มีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละทุจริตได้โดยสิ้นเชิง หรือทำให้เบาบางลงได้
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัย อำนาจประโยชน์นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณา เนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจัก เป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ฯ
    .
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ไม่ใช่เราแต่ ผู้เดียวเท่านั้นที่มีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ โดยที่แท้ สัตว์ ทั้งปวงบรรดาที่มีการมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
    .
    เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ มรรค ย่อมเกิดขึ้น อริยสาวกนั้นย่อมเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป อริยสาวก นั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้น ที่มีความเจ็บไข้เป็น ธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ โดยที่แท้ สัตว์ทั้งปวงบรรดาที่มีการมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ ไปได้
    .
    เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น อริยสาวก นั้นย่อมเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรค นั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป
    .
    อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็น ดังนี้ว่า ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตาย ไปได้ โดยที่แท้ สัตว์ทั้งปวงบรรดาที่มีการมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วน มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
    .
    เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะ นั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น อริยสาวกนั้น ย่อมเสพ อบรม ทำให้มากซึ่ง มรรคนั้น เมื่อเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป อริยสาวกนั้นย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียว เท่านั้นที่จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น โดยที่แท้ สัตว์ทั้งปวง บรรดาที่มีการมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนจะต้องพลัดพรากจากของรักของ ชอบใจทั้งสิ้น
    .
    เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น อริยสาวกนั้นย่อมเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเสพ อบรม ทำให้ มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป อริยสาวกนั้นย่อม
    .
    พิจารณาเห็นดังนี้ว่า ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาท แห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
    .
    โดยที่แท้ สัตว์ทั้งปวงบรรดา ที่มีการมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่ง กรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เมื่ออริยสาวกนั้นพิจารณาฐานะ นั้นอยู่เนืองๆ มรรคย่อมเกิดขึ้น อริยสาวกนั้นย่อมเสพ อบรม ทำให้มากซึ่ง มรรคนั้น เมื่อเสพ อบรม ทำให้มากซึ่งมรรคนั้นอยู่ ย่อมละสังโยชน์ได้ อนุสัยย่อมสิ้นไป ฯ สัตว์ทั้งหลาย ย่อมมีความแก่เป็นธรรมดา มีความเจ็บไข้ เป็นธรรมดา มีความตายเป็นธรรมดา สัตว์ทั้งหลายย่อม เป็นไปตามธรรมดา พวกปุถุชนย่อมเกลียด ถ้าเราพึงเกลียด ธรรมนั้น ในพวกสัตว์ผู้มีอย่างนั้นเป็นธรรมดา ข้อนั้นไม่ สมควรแก่เราผู้เป็นอยู่อย่างนี้ เรานั้นเป็นอยู่อย่างนี้ ทราบ ธรรมที่หาอุปธิมิได้ เห็นการออกบวชโดยเป็นธรรมเกษม ครอบงำความมัวเมาทั้งปวงในความไม่มีโรค ในความเป็น หนุ่มสาว และในชีวิต ความอุตสาหะได้มีแล้ว แก่เราผู้ เห็นเฉพาะซึ่งนิพพาน บัดนี้ เราไม่ควรเพื่อเสพกามทั้งหลาย จักเป็นผู้ประพฤติไม่ถอยหลัง ตั้งหน้าประพฤติพรหมจรรย์ ฯ
    .
    จบสูตรที่ ๗
    .
    .
    .
    .**********************************.
    .
    .
    #ไม่เคยนำปืนไปจ่อหัวบังคับใครให้กระทำ
    #การกระทำเป็นการกระทำด้วยกายวาจาใจของตนเองทั้งสิ้น
    .
    .
    .
    #กระทำถูกกฎระเบียบหน่วยงานราชการและบริษัทแต่ผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี
    #กระทำถูกต้องตามกฎหมายแต่ผิดกฎแห่งกรรมต้องไปใช้กรรมเสมอ
    .
    .
    .
    #ของจริงต้องพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
    .
    #ต่อให้ไปไหว้พระพุทธรูปทั่วโลก
    #ต่อให้ไปไหว้พระอริยสงฆ์ทั่วโลก
    #ต่อให้ไปไหว้เทวรูปเทวดาทั่วโลก
    #ไม่มีใครช่วยให้หนีกรรมพ้น
    .
    .
    .
    #ไม่ว่าใหญ่แค่ไหน
    #ไม่ว่ารวยล้นฟ้าเพียงใด
    #ไม่มีใครหนีกรรมพ้น
    #แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังหนีกรรมไม่พ้น
    .
    .
    .
    #ต่อให้ใหญ่แค่ไหน
    #ต่อให้รวยล้นฟ้าเพียงใด
    #ไม่เคยมีใครหนีกรรมพ้น
    #แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องชดใช้กรรม
    #บุพกรรมพระพุทธเจ้า
    .
    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    นำมาให้ชมกันอีกครั้ง
    .
    สำหรับ #พระวังหน้าชุดพิเศษ
    .
    #พระวังหน้าพิมพ์พระพุทธมหาธรรมราชา
    .
    การจัดสร้าง : สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับ #พระพุทธชินราช , พระพุทธชินสีห์ , พระศรีศาสดา และ พระเหลือ(วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก) โดยใช้แบบที่ใช้ในการจัดสร้าง เป็นองค์ #พระพุทธมหาธรรมราชา (วัดไตรภูมิ จ.เพชรบูรณ์)
    .
    มวลสารที่จัดสร้าง : เป็นมวลสารที่เหลือจากการหล่อ พระพุทธชินราช (องค์จริง)
    .
    ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทางเจ้าเมืองของหัวเมืองต่างๆ จะมีการนำส่งพระพุทธรูป หรือ พระเครื่อง (ที่มีอยู่ตามหัวเมือง) มาถวาย วังหน้า หรือ วังหลวง
    .
    ช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ได้ บุทอง , บุเงิน และ บุนาค กับ พระเครื่องชุดนี้
    .
    องค์ผู้อธิษฐานจิต คือ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ทั้ง 5 พระองค์)
    .
    นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง(เพิ่ม) ที่ พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า)
    .
    .
    หมายเหตุ สมัยก่อนผมเองมีพอสมควร ปัจจุบัน คงเหลือแต่ตัวอย่างไว้ศึกษา อีกประการหนึ่ง สมัยก่อน(เมื่อประมาณปี 2550 ถึง 2552) พบของเก๊เป็นจำนวนมาก ครับ
    .
    .
    เรื่องของข้อมูล ผมแจ้งเพียงเท่านี้ ครับ
    .
    .
    พระภิกษุสงฆ์ องค์หลักของคณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ( 5 พระองค์)
    .
    #หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า (#หลวงปู่พระอุตตระเถระเจ้า) หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
    .
    #หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
    .
    #หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมพิมพ์ว่า #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
    .
    .
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตตระ
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
    .
    #หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #พระเจ้าอโศกมหาราช
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
    .
    รูปและเนื้อหา สงวนลิขสิทธิ์
    .
    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?st...X9FkZPNuCl&id=100081560750868&mibextid=Nif5oz
    .
    ผมอนุญาตเฉพาะเพื่อการศึกษาเท่านั้น
    หากมีผู้หนึ่งผู้ใดที่นำรูปภาพหรือเนื้อหาดังกล่าว นำไปใช้ในสถานที่อื่นๆ หรือลงในสื่อออนไลน์ทุกประเภทในปัจจุบันและอนาคต โดยไม่แจ้งที่มา และ/หรือนำไปใช้ในเรื่องของพุทธพาณิชย์หรือการซื้อขายพระเครื่อง,พระพิมพ์และวัตถุมงคลต่างๆ รวมทั้งการปลอมแปลงพระวังหน้า หรือพระวังหลวงตามรูปและเนื้อหาที่ผมนำมาลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ยกเว้นเพื่อการศึกษาหาความรู้และต้องแจ้งที่มาของรูปและเนื้อหาที่ผมลงในFacebookหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า
    .
    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ผมนำบทความที่ผมเขียนขึ้นมาหลายปีแล้ว (ผมเขียนขึ้นในปี 2563) ผมนำมาลงใหม่อีกครั้ง
    โดยผมนำไปลงในเฟส.หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า ในวันนี้ (วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2567)
    .
    ลิงค์ตอนที่ 1
    .
    https://www.facebook.com/share/p/M7RMKwmLejtMBVNG/?mibextid=oFDknk
    .
    .
    ลิงค์ตอนที่ 2
    .
    https://www.facebook.com/share/p/PRd4esDzWKFTZp4e/?mibextid=oFDknk
    .
    .
    บทความที่ผมเขียนนี้ ผมได้รวมรวมองค์ความรู้จากหนังสือที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ท่านเขียนขึ้นมาทั้ง 3 เล่ม ก็คือ
    1. #หน้งสือวิเคราะห์พระสมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า
    2. #หนังสือบรมครูพระเทพโลกอุดร
    3. #หนังสือปู่เล่าให้ฟัง
    และ จากที่ผมไปหาท่านทุกเดือนเป็นระยะเวลาประมาณ 4 - 5 ปี ท่านได้สอนในเรื่อง พระวังหน้า และ พระพิมพ์อื่นๆที่ไม่ใช่พระวังหน้า
    อีกทั้งผมได้ไปศึกษาจากครูบาอาจารย์ของผมอีกท่านหนึ่ง
    รวมทั้งจากการที่ได้ศึกษาจากพระวังหน้าที่ผมได้พบได้เห็นมาด้วยตนเอง
    .
    .
    .
    หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ พระสงฆ์ 5 รูปที่เป็นแกนหลักในคณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ
    .
    #หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า (#หลวงปู่พระอุตตระเถระเจ้า) หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
    .
    #หลวงปู่พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
    .
    #หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพ (เดิมพิมพ์ว่า #หลวงปู่โพรงโพธิ์ เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี (เดิมที่พิมพ์ไว้ #หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า เป็นการพิมพ์ผิด)
    .
    #หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร5พระองค์
    .
    #หลวงปู่เทพโลกอุดร
    .
    #หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
    .
    #คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #อาจารย์ประถมอาจสาคร
    #ประถมอาจสาคร
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    .
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    .
    .
    พระบิดา : กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
    มารดา : นางงุด (เป็นธิดา ของ นายผล และ นางลา)
    .
    ชาตะ : วันพุธ เดือน 6 ปีวอก อัฐศก จุลศักราช 1138 ( พ.ศ.2319 )
    ถึง ชีพิตักษัย วันเสาร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 (ต้น) ปีวอก จุลศักราช 1234 ( พ.ศ.2415 ) เวลา 2 ยาม ( 24.00 น.)
    .
    .
    ที่มา หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน)
    ที่มา บันทึกของมหาอำมาตย์ตรีพระยาทิพยโกษา (สอน โลหนันท์)
    .
    .
    .******************************************.
    .
    .
    .
    .
    22 มิถุนายน: วันคล้ายวันมรณภาพแห่งเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)
    .
    เผยแพร่ วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2561
    “พระเทพกระวีมีพรรษายุกาลประกอบด้วยรัตตัญญูมหาเถรธรรมยั่งยืนนาน แลมีปฏิภาณปรีชา ตรีปิฎกกลาโกศล แลฉลาดในโวหารนิพนธ์เทศนาปริวัติวิธีแลทำกิจในสุตนั้นด้วยดีไม่ย่อหย่อน อุสาหะสั่งสอนพระภิกษุสามเณรโดยสมควร อนึ่งไม่เกียจคร้านในราชกิจบำรุงพระบรมราชศรัทธาฉลองพระเดชพระคุณเวลานั้น ๆ สมควรเป็นที่อรัญญิกมหาสมณคณิศราจารย์พระราชาคณะผู้ใหญ่ มีอิศริยยศยิ่งกว่าสมณนิกรฝ่ายอรัญวาสี เป็นอธิบดีครุฐานิยพิเศษ ควรสักการบูชาแห่งนานาเนกบรรพสัช บรรดารนับถือพระบรมพุทธสาสนาได้ จึงมีพระบรมราชโองการมาณ พระบัณฑูรสุ รสิงหนาทดำรัสสั่ง ให้สถาปนาพระเทพกระวี ศรีสุทธินายก ตรีปิฎกปรีชามหาคณฤศร บวรสังฆารามคามวาสี เลื่อนที่ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา วิสุทธิจรรยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ ศิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศร สมณนิกรมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลศีลขันธ์ สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร พระอารามหลวง”
    .
    ความตอนหนึ่งในคำประกาศสถาปนาพระเทพกระวี (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อปี พ.ศ. 2407 เป็นอนุสารณีย์เนื่องในวันคล้ายวันมรณภาพแห่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ รูปนั้น (หมายเหตุ: สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) มรณภาพเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415)
    .
    ที่มา เว็บไซด์ silpa-mag
    .
    .
    .
    .
    #สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    .
    #หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
    .
    #วังหน้า
    .
    #ชมรมพระวังหน้า
    .
    #พระวังหน้า
    .
    #พระสมเด็จวังหน้า
    .
    #พระสมเด็จ
    .
    #วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
    #วัดอินทรวิหาร
    #วัดใหม่อมตรส
    #วัดไชโยวรวิหาร
    #วัดกลางคลองข่อย
    #วัดบางน้ำชน
    .
    .
    .
    ที่มา เว็บไซด์ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร & พระวังหน้า
    https://www.facebook.com/share/p/2H215D7s7GpPQ5Yh/?mibextid=oFDknk
    .
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...