**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

การอาราธนาพระเข้าตัว
บันทึกเรื่องเล่าโดย..อ.บุญเลิศ เชื่อบุญมี


​

......ท่านอาจารย์บุญเลิศ "ท่านมักจะบอกเสมอให้ทุกคนทั้งลูกศิษย์ลูกหา ประชาชนโดยทั่วไปที่ไปงานบูชาพระ ให้น้อมพระเข้าตัวในเวลาทำพิธี" ตรงนี้มีผู้ถามท่านว่าน้อมพระเข้าตัวทำอย่างไร แล้วทำไปเพื่ออะไร

......ท่านจึงเล่าว่า "การอารธนาพระเข้าตัวนั้น เป็นการที่เราน้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า แต่ในเมื่อเราๆท่านๆเกิดมาไม่ทันพระพุทธเจ้าการระลึกถึงคุณท่านก็คงยาก ดังนั้นพระพุทธรูปก็ดี รูปภาพพระท่านก็ดี จึงเป็นสื่อแทนเพื่อให้เราได้เข้าถึงรูปของพระพทธเจ้าแบบหยาบๆคือมองเห็นได้ เพื่อนำไปสู่ สื่อของพลังงานพระรัตนไตรได้ง่าย"

.....การน้อมก็คือการคิดถึงพระพุทธรูปที่เรามองเห็นนั้นแหละแต่อารธนาด้วยความเคารพ เป็นกุศโลบายให้เข้าถึงพลังงานพระโดย "การสร้างมโนภาพขึ้นมาเอง เรียกว่าองค์ภาวนา"ให้คิดจิตนาการว่าเราอาราธนาท่านเข้ามานั่งที่หัวเราก็ดี อารธนามาไว้ที่หน้าตักก็ดีแล้วเราประคององค์พระไว้ ภาพในจิตนาการของเราจะค่อยๆชัดขึ้นๆ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า "จิตเราเริ่มสงบขึ้นแล้ว" จนเกิดเป็น "นิมิต" คือชัดเต้มที่ นั้นละพลังงานท่านมาที่เราแล้ว"จิตสงบมากเท่าไรพลังงานพระมาที่เรามาเท่านั้น"

​

.......ท่านอาจารย์เล่าต่อว่า "เมื่อประมาณปี2515 ตอนนั้นผมทำงานอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ในกรมวัฒนธรรม(ปีนั้นกระทรวงวัฒนธรรมยังไม่เป็นกระทรวง) ได้มีโอกาสไปร่ำเรียนวิชากับหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา ซึ่งท่านก็เป็นครูบาอาจารย์สายวัดประดู่ทรงธรรมอีกท่านหนึ่งในสมัยนั้น ท่านก็ให้ผม(หมายถึงอาจารย์บุญเลิศ) ฝึกอัญเชิญพระเข้าตัวให้ชัดเจนก่อน ท่านจึงจะสอนวิชาอื่นๆให้ เพราะสมาธิกรรมฐานแบบนี้ถือเป็นพื้นฐานของสรรพวิชาต่างๆ ถ้าเรียนวิชาไปแต่ไม่มีสมาธิจิตที่แนวแน่ การอารธนาพลังงานพระมาประสิทธิลงวัตถุมงคลจะมีผลน้อย คาถาก็จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ฉะนั้นการฝึกกรรมฐานแนวนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อย....."

ภาพประกอบการอาราธนาพระมาที่ตัว
แล้วแผ่ออกไป "ท่านเรียกว่าพิธีบูชาพระนั้นเองครับ
(คืออัญเชิญพลังงานพระท่านมาประสิทธินั้นเอง)"



​

​

 

......วันอังคาร 28 ก.พ. 2566 ได้ฤกษ์เข้ากราบขอเมตตา "หลวงปู่เทือง" เมตตาอธิษฐานจิต พระสีวลีมหาลาโภ รุ่นแรกนะครับ

- ผู้เขียนจะได้บันทึกภาพอธิษฐานจิตและถวายปัจจัยมาให้อนุโมทนาบุญกันอีกครั้งนะครับ และจะจัดส่งวัตถุมงคลให้สมาชิกทุกท่านต่อไปครับ สาธุครับ

​

 

.....ด้วยกรรมการจัดสร้างเห็นว่า ช่อพระสีวลีที่ถูกตัดแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของชนวนมวลสารเหมือนกันครับ เลยรูปซึ่งเสียดายที่ไม่ได้นำไปทำอะไร

....ทางคณะกรรมการจึงไปนำช่อชนวนชุดนี้ "ไปหล่อเป็นพระมหากัจจายนะ" ขนาดสูง 4 นิ้วเป็นขนาดบูชา โดยขออนุญาต "ท่านอาจารย์บุญเลิศ" กรุณาพิจารณาให้ครับ ท่านก็ไม่ขัดข้อง จนสามารถหล่อมาได้ 5 องค์(ตามชนวนหล่อครับ) ผู้เขียนจองมาได้ 2 องค์(จริงๆเขาให้แต่กรรมการนะครับ)

.....เลยออกมาให้ร่วมบุญเพิ่มเติม 1 องค์สำหรับท่านสมาชิกที่สนใจมีจิตศรัทธาครับ โดยทุกองค์ท่านอาจารย์บุญเลิศ ได้ทำพิธีเบิกเนตรตามตำราวัดประดู่ และจารมือรอบฐาน "อักขรหัวใจพระมหากัจจายนะ" น้อมพลังงานท่านมาประสิทธิ โดยเคล็ดเชื่อว่า "มหากัจจายนะตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์" ครับ

....และจะได้เข้าพิธีอธิษฐานจิต
"โดยหลวงตาวิลาศและหลวงปู่เทือง" ด้วยครับ
ร่วมบุญองค์ละ 350 ครับ(เฉพาะค่าหล่อเลยนะครับ)
ปัจจัยส่วนนี้ถวายร่วมบุญทางวัดนะครับ

มีผู้จองร่วมบุญแล้วครับ ปิดครับ








​

 

ขอร่วมบุญ บูชา พระมหากัจจายนะ ขนาดสูง 4 นิ้ว

 

ขออนุโมทนาครับ รับทราบการจองนะครับ

 

​

.....เนื่องจากเกิดความผิดพลาดทางการขนส่งครับ(บริษัทที่ขนส่งของไม่มาส่งตรงเวลา) เลยต้องเลือนเวลาในวัน "ที่หลวงปู่เทือง" อธิษฐานจิตไป(จากเดิมวันที่28 ก.พ.2566) ประจวบเหมาะกับที่หลวงปู่ท่านติดนิมนต์ไปงานพุทธาภิเษก "วัดถ้ำเสือ" พอดีเลยครับ เลยได้เลือนไปอธิษฐานจิตในวัน 4 มีนาคม พ.ศ. 2566(คือพรุ่งนี้) แทน

.....พรุ่งนี้หลังจากอธิษฐานจิตพระสีวลีแล้ว ก็จะมีการน้อมถวายปัจจัยของสมาชิกทุกท่านจำนวน 5000 บาท และจะบันทึกภาพการอธิษฐานจิตมาให้ท่านสมาชิกได้อนุโมทนากันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้นะครับ ต้องขออภัยในความล่าช้าครับ

อนุโมทนาครับ

​

 

.....วันนี้ครับ 7 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. คณะได้เดินทางไปวัดโพธิ์ชัย น้อมถวายปัจจัยที่ทุกท่านได้ร่วมบุญ บูชาพระสีวลีจำนวน 5000 บาท โดยหลวงปู่เทือง ญาณธโร เมตตารับมอบถวายครับ

​

.....และในโอกาสนี้ทางคณะได้รับมอบวัตถุมงคลทั้งหมด คือ"รูปหล่อพระสีวลีรุ่นแรกและตะกรุดนะสีวลีมหาลาภ" ที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม - 7 มีนาคม 2566 เป็นระยะเวลา 3 วันกว่าครับ

บัดนี้บุญได้สำเร็วแล้ว ร่วมกันอนุโมทนากันอีกครั้งครับ
​

ปล.เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 ทางคณะได้กราบขอเมตตา "หลวงตาวิลาศ ปสาทิโก" เมตตาอธิษฐานจิตแล้วในวาระแรกครับ และหลวงปู่เทืองจึงเมตตา วาระสองครับ

***พรุ่งนี้ผู้เขียนจะเริ่มทยอยจัดส่งพระสีวลีให้สมาชิกทุกท่านนะครับ ***

***********


​

 

วิชากรรมฐานอักขระธรรมนิมิต
(อรรถาธิบายโดย...อ.บุญเลิศ เชื่อบุญมี อาจารย์ฆราวาสสายวัดประดู่ทรงธรรม)​

​

.....แผ่นจารสูตร "แนวกรรมฐาน 40 กอง" ที่ครูบาอาจารย์
ในอดีตท่านสร้างพระให้ลูกศิษย์นำไปบูชา "ทั้งใช้ติดตัวเพื่อเป็นสิริมงคลป้องกันสิ่งไม่ดี"
และยังเป็นพระที่ใช้ในการทำ"กรรมฐาน" อีกด้วยครับ เป็นสูตรเดินยันต์ที่แปลกดี
ท่านเจ้าคุณ ท่านบอกว่า "สมัยท่านไปเรียนปริยัติธรรมที่วัดบวร" สูตรนี้ถือเป็นสูตร"สรุป"
องค์กรรมฐานจนถึง "นิพพานเลยทีเดียว" เพราะครูบาอาจารย์ท่านนำไปทำองค์พระ
ถือ"องค์นิมิตวามรู้" หล่อเข้าองค์พระ แต่ถ้าเป็นพระเนื้อผง ท่านก็จะเขียนแล้วลบผง"ทำเป็นพระผงกรรมฐานผสมกับใบลานเผา" ทำเป็นพระผงกรรมฐานด้วย...
​

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

​

....อาจารย์บุญเลิศกล่าวว่า "พระที่สร้างเพื่อการปฏิบัติธรรมนี้" โดยเฉพาะพระในองค์กรรมฐาน นอกจากจะเป็นพระที่มี "อิทธิฤทธิ์" ในตัวแล้วยังต้องเสริมด้วย "บุญฤทธิ์" อีกด้วยจึงจะเรียกว่า "พระกรรมฐานเต็มกำลัง"

....สมัยก่อนพระที่วิชากรรมฐานเต็มกำลังนี้ว่าไปก็จะมี "พระหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,พระหลวงปู่ดู่ วัดสะแก,หลวงพ่อฤาษีลิงดำ"เป็นอาทิ และอีกหลายครูบาอาจารย์ที่ทำพระให้ลูกศิษย์ลูกหาไว้ปฏิบัติธรรม ซึ่งพระที่ทำขึ้นในรูปแบบนี้มักจะมีการ "ตั้งนิมิต" ซึ่งการตั้งนิมิตนี้เองที่จะต้องมี "รูป" เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่ง "นาม" เพราะเวลาทำกรรมฐานย้อมน้อมนำกระแสแห่งธรรมได้ง่ายขึ้น และเหมือนหนึ่งว่ามีองค์กรรมฐานคอยควบคุมเวลาภาวนา ครูบาอาจารย์ท่านจึงเรียกว่า "กรรมฐานธรรมนิมิต"

....กรรมฐานธรรมนิมิตนี้เอง "ที่เริ่มจากรูปธรรม" คืออักขระที่จารลง ถ้าเป็นเนื้อโลหะท่านจะลงในแผ่นจารแต่ถ้าเป็นเนื้อผง ครูบาอาจารย์ท่านจะนำแผ่นใบลาน "ที่ลงอักขระ" เผาและผสมผงกดพิมพ์เป็นองค์พระ เรียกว่าการขึ้นรูปองค์กรรมฐาน "เจตนาเพื่อเป็นการตั้งนิมิตรูป" เมื่อผู้ภาวนาถึงจุดหนึ่งกับความสงบหรือเริ่มภาวนาก็ดีจะบังเกิดธรรมนิมิตที่จะปรากฏขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกก็ดี ไม่ว่าจะปรากฏเป็นนิมิตภายในก็ดีท่าน เรียกว่า "นามกรรมฐาน" ซึ่งจะช่วยคุมผู้ปฏิบัติได้เป็นอย่างดีประหนึ่งว่า "มีครูบาอาจารย์คอยสอบภาวนาอยู่ตลอดเวลา"

​

....อีกประการเรียนว่า "ภาคอิทธิฤทธิ์" คำว่าอิทธิฤทธิ์นี้ ท่านหมายถึงว่า เป็นพระที่ทรงฤทธิ์ในตัวกล่าวคือ มีพุทธคุณความสว่างอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ผู้อาราธนาคุณพระนำติดตัวก็ดี พระท่านจะแสว่งอยู่ตลอดเนื่องๆ เมื่อระลึกถึงพระเมื่อไร "ความสว่างของพุทธบารมี" จะครอบคลุมเราตราบนั้น ที่นี้เราจะอธิษฐานแผ่ไปที่ใดก็ได้ตามความประสงค์ "นอกจากจะป้องกันอันตรายต่างๆแล้วยังเสริมหนุนตัวบุคคลนั้นๆ" ด้วยพุทธบารมีอีกด้วย นี้ถือว่าพระที่สร้างสำเร็จจึงเรียว่า "พระกรรมฐานเต็มกำลัง"

ดังนี้แล การสร้างพระแบบกรรมฐานเต็มกำลังจึงสร้างยาก

​

 

​

.....วันที่ 10/3/2566 ผู้เขียนได้จัดส่ง "พระสีวลีมหาลาภ รุ่นแรก วัดโพธิ์ชัย" ให้สมาชิกทุกท่านที่ร่วมบุญครบแล้วนะครับ ส่วนท่านใดอยากได้รหัสไปรษณีย์สามารถแจ้งขอรับทาง PM ได้เลยครับ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ​

​

 

พระพุทธกรรมฐาน
(ทำพิธีหล่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 มาฆบูชา)
*******************

​

....วันที่ 6 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาครับ ทางคณะผู้ศรัทธาผู้ขอสร้างพระกรรมฐาน "โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชวชิรสุธี" และอาจารย์บุญเลิศ ได้กรุณากำหนดฤกษ์หล่อพระกรรมฐานขึ้น ตามแบบโบราณจารย์ โดยท่าน อ.บุญเลิศให้ฤกษ์ "กำลังวันมาฆบูชา" ซึ่งตามพุทธประวัติแล้วเป็นวันที่พระสงฆ์มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย และพระทุกองค์ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือพระพุทธเจ้าท่านอุปสมบทให้เป็นภิกษุทั้งหมด และพระพุทธองค์ทรงมอบพุทธโอวาท "เรียกว่าโอวาทปาติโมกข์"

....ดังนี้ท่านจึงถือกำลังแห่งพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า(ท่านให้โอวาท) พระธรรม(โอวาทปาติโมกข์ คือ หลักการ 3 ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจาและใจ 2 .การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดีทุกอย่าง 3 . การทำจิตใจให้ผ่องใส) พระสงฆ์(เอหิภิกขุอุปสัมปทา จำนวน1250 รูป) อธิษฐานให้กำลังพลังงานเป็นกระแสธรรมทั้งหลายนี้เป็นกระแสเดียวกันกับพระหล่อนี้ในวันนี้ คือกำลังของ"พระกรรมฐานเต็มกำลัง" มีทั้งทางโลกและทางธรรม

******************************
ชนวนมวลสารตาม"ตำรา"โบราณจารย์


แผ่นธรรมนิมิตกรรมฐาน
ลงตามสูตรแห่งกรรมฐาน 40 กอง เข้าไปถึง ศีล สมาธิ ปัญญา
ไปถึง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ---> ตถา+ตา ---> ไปถึง ทุกขัง อนิจัง อนันตา
----> พทธะ(ผู้รู้) ---->ความว่างนิพพาน

และมียันต์ประกอบต่างๆ

*************

ยันต์พระพุทธนิมิต "ลงด้วยอิติปิโสรัตนมาลา"
วัดประดู่ทรงธรรม 56 ห้องตามสูตร
(เร่งนิมิตธรรมให้เกิดเร็วขึ้น)



********************

​

- แผ่นไตรสรณคมน์ ลงแบบพิศดาร(ประกอบฉายาะรรม พรหมรังสี พรหมปัญโญ ภูริทัตโต)
- ยันต์ดวงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ 2 แผ่น (หลวงตาม้า เมตตาอธิษฐานจิต)
- ยันต์พระมหากัจจายนะ(เสริมธรรมปัญญา อ.บุญเลิศลงตามพระไตรปิฏก)
- ลูกสะกดพระสีวลีมหาลาภ(หลวงปู่เทือง ญาณธโร เมตตาอธิษฐานจิต)
- ตะกรุดเงิน(พระอาจารย์พล ศิษย์ในองค์หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี หายากมากๆครับ)
- ยันต์พุทธรังษีองค์ธรรม

**************

​

- แผ่นจารมือ หลวงพ่อมหาสุพัฒน์ (เจ้าคณะจังหวัด)
- แผ่นจารมือ หลวงพ่อสมศรี อัตตสิริ
- แผ่นจารมือ หลวงตาวิลาศ ปสาทิโก
- แผ่นจารมือ หลวงปู่เทือง ญาณธโร
- แผ่นจารมือ หลวงพ่อขันตี ญาณวโร
- แผ่นจารมือ หลวงพ่อทวี ปุณญปัญโญ
- แผ่นจารมือ หลวงพ่อคาน ธัมมธโร
- ตะกรุดเงิน(พระอาจารย์พล ศิษย์ในองค์หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี)

******************

แผ่นจารลงยันต์สมบัติจักรพรรดิ์ 7 ประการ ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว จักรแก้ว แก้วสารพัดนึก

ยันต์ธงชัยพระพุทธเจ้า

********************************************

ผู้เขียนได้จัดส่งชนวนมวลสารทั้งหมด
เพื่อหล่อเป็นองค์พระในวัน "มาฆบูชา" ที่ผ่านมาครับ
(ในรูปเป็นชื่อ-ที่อยู่ผู้เขียนชัดเจนทุกขั้นตอน)





*****************

หล่อเสร็จภายในวันนั้นเลยครับ
**********************

และก็ตัดช่อ ทีละองค์ในวันนั้นจนเสร็จสรรพเรียบร้อยครับ
ตอนนี้รอโรงหล่อแต่งพิมพ์อีกเล็กน้อย จึงจะเข้าพิธีอัญเชิญพระ
และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ทรงกรรมฐาน อธิษฐานธรรมอีกครั้งครับ

************
สำหรับหลายท่านที่สอบถามเข้ามามีให้ร่วมบุญแน่นอนครับ
แต่จะมากน้อยขนาดไหนต้องรอดูจำนวนอีกครั้ง บอกไว้ก่อนครับว่า
งานนี้จัดสร้างน้อยมากครับ เพราะเจตนาสร้างครั้งนี้คือ ​

1.ผู้เขียนขอความกรุณา อ.บุญเลิศ ท่านช่วยทำให้ตามตำราเพื่อรักษา
สรรพวิชาต่อไปไว้ให้คนรุ่นหลัง
(เพราะปัจจุบันมีคนสร้างตามตำราได้น้อยแล้ว)​

2.เพื่อให้ท่านผู้ศรัทธาได้มีของดีไว้บูชาคุ้มตัว โดยท่านอาจารย์บอกว่า "ภัยต่อไปของมนุษย์ที่ใกล้จะมานี้คือภัยจากธรรมชาติ
(ครั้งก่อนท่านบอกว่าภัยจากโรค)" เลยทำเผื่อไว้ให้พระรักษาตัว
3.อักขระที่ใช้ลงใต้องค์พระคือ "นโม เม สัพพพุทธานัง" เป็นอักษร "ปัลลวะ" เป็นอักษรเก่าแก่ซึ่งหมายถึง "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์" ซึ่งพระรุ่นนี้ "มีคุณตามอธิษฐาน" ทั้งสามารถน้อมองค์พระเข้าตัวทำเป็นกรรมฐานได้ ทั้งสามารถแขวนบูชาติดตัวไปไหนได้ทุกที่ปลอดภัยครับ
4.ปัจจัยก็นำไปทำกุศลต่างๆเพื่อเป็นกุศลสำหรับท่านที่บูชาด้วย เป็นประโยชน์ต่อศาสนาด้วยประการหนึ่งครับ

​

 

....วันที่ 12/3/2566 ผู้เขียนและคณะนำ "พระพุทธกรรมฐาน" กราบขอเมตตาพ่อแม่ครูบาอาจารย์พน วัดภูพงษ์ (ศิษย์ในองค์หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี) ครูบาอาจารย์ผู้เก็บตัวในวัดป่ากรรมฐาน ได้เมตตาอธิษฐานธรรม "พระพุทธกรรมฐาน" ในวาระโอกาสนี้ครับ

ปล.ปกติท่านจะไม่อธิษฐานจิตเกี่ยวกับวัตถุมงคลอะไรแบบนี้นะครับ ครั้งนี้ท่านเมตตาให้เพราะคณะกราบเรียนว่า "พระใช้ทำกรรมฐาน" ท่านจึงเมตตาเพราะท่านชอบให้คนปฏิบัติธรรมครับ(ปัจจุบันท่านอายุ 62ปี 40 พรรษาครับ)

รุ่นนี้สุดยอดมากๆครับ

เปิดดูไฟล์ 6141753



เปิดดูไฟล์ 6141754

​

 

ของดีหญ้าปากคอก
(นะพระสีวลีมหาลาภ)​

......เอตถะคัง ภิกขเว มะมะ สาวะกานัง ภิกขุนัง ลาภีนัง ยะทิทัง สีวลีติ "ในบรรดาสาวกทั้งหลายของเราตถาคต พระสีวลี เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านผู้มีลาภมาก"

....หลวงปู่เทืองเมตตาเล่าว่า "คนชอบไปแสวงหาแต่ของดีข้างนอก บ่มองของดีใกล้ๆ คือจังหญ้าปากคอก คนเลี้ยงวัวเอาวัวไปกินหญ้าเลี้ยงที่ไกลๆ ไกลแค่ไหนกะไป ทั้งๆที่หญ้าอยู่หน้าคองวัวแท้ๆกลับทำมองบ่เห็น.."

".....คาถาพระสีวลีนี้กะคือกันพระพุทธเจ้าบอกไว้แล้วในพระไตรปิฏกว่า "พระสีวลีนี้เลิศกว่าใครในด้านมีลาภมาก" (ตามคาถาที่กล่าวไปข้างต้น)
พระพุทธเจ้าเพิ่น(ท่าน) เป็นเอกในสามโลก คำที่เพิ่นตรัสนั้น ศักสิทธิ์ที่สุดแล้ว เป็น"สวาขาโต" ตรัสไว้ชอบแล้ว บ่มีผู้ใดลบล้างคำเพิ่นได้ ตรัสแล้วบ่คืนคำ "นั้นละคำกล่าวของพระพุทธเจ้า ที่ผ่านดวงพระปัญญาอันสูงสุดแล้ว บ่เป็นอื่น"

....คาถานี้คือกัน "ของดีในพระไตรปิฏกคำตรัสของพุทธเจ้าเพิ่น ตรัสถึงพระสีวลี เป็นคาถาพระสีวลีบทแรกเลยละก่อนคาถาอื่นๆสิมีตามมาเพราะพระพุทธเจ้าเพิ่นเป็นผู้แต่ง ทำให้คนทั่วไปรู้ว่าพระสีวลี "เป็นผู้มีลาภมาก" ขั้นพระพุทธเจ้าบ่บอกคำนี้ กะบ่มีผู้ใดรู้ใด นี้ละของดีของพระพุทธเจ้ามอบให้พระสีวลี...

ปล.หลวงปู่เทืองเมตตานำ "คาถาหัวใจพระสีวลี" คำตรัสพระพุทธเจ้านี้ เขียนเป็นอักษรธรรม(ตัวขอม) ลงทำเป็นตะกรุดดอกเล็ก ไว้แจกผู้มาทำบุญ ถือเป็นคาถาหัวใจพระสีวลีเลยก็ว่าได้(มีโชคลาภมาก)

ปกิณณกธรรม
หลวงปู่เทือง ญาณธโร
6 มีนาคม 2566 (มาฆะบูชา)

 

เปิดร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน





​

......ในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ สมาชิกหลายท่านสอบถามผู้เขียนเข้ามาจำนวนมาก(ทั้งทาง PM และโทรศัพย์มา) "เรื่องพระพุทธกรรมฐาน" ว่าจะมีให้บูชาหรือไม่ และจะเปิดให้บูชาเมื่อใด ผู้เขียนขออนุญาตนำเรียนดังนี้ครับว่า

- พระกรรมฐานชุดนี้ จัดสร้างขึ้นโดยเจตนาหลักๆเลยก็คือ "การสารต่ออนุรักษ์สรรพวิชา" เรื่องกรรมฐานตามหลังของ "คัมภีร์วิสุทธิมรรค" สายหลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อสด เป็นต้น เพราะถือเป็นพระที่เกี่ยวข้องกับการฝึกกรรมฐานตามแนวพุทธโดยเฉพาะ โดยได้รับความกรุณา และเมตตา จากท่าน อ.บุญเลิศ และ หลวงพ่อพระราชวชิรเมธี(เจ้าคณะจังหวัด) ในการจัดสร้างให้เป็นไปตามตำรา ทั้งสูตรบังครับต่างๆครับ

- เนื่องจากพระกรรมฐานเป็นรูปพระพุทธเจ้านั่งสมาธิ "จึงเรียกพระปางนี้ว่า" พระพุทธกรรมฐาน เพื่อเป็นรูปลักษณ์องค์กรรมฐานสำหรับการภาวนาครับ

- ด้วยเจตนารมณ์ข้างต้นและปัจจัยส่วนนี้ก็จะน้อมถวายครูบาอาจารย์ต่างๆ(เช่น ถวายวัดศรีสุทธาวาส) จึงจะให้ร่วมบูชาเพียงองค์ละ 90 บาท หลายท่านเคยบอกผู้เขียนว่า "ทำจำนวนน้อย ให้ร่วมบูชาก็อัตตราไม่แพง แล้วได้ปัจจัยน้อยแบบนี้จะคุ้มหรือ" ขออนุญาตนำเรียนว่า ของดีบางอย่างที่ทำ อยากให้ได้บูชาได้ทั่วถึงกันทุกท่านครับ ถ้าแพงมากหลายท่านอาจจะเข้าถึงได้น้อย(เช่นบางท่านอยากบูชาหลายองค์ไว้ให้พ่อแม่พี่น้องหมู่เพื่อนด้วย แต่ถ้าอัตตราบูชาสูงมากอาจจะได้แค่ตัวเองหรือสามี ภรรยาลูกเท่านั้น) แต่ถ้าของดี สร้างดี เจตนาดี อัตราบูชาเหมาะสม ศรัทธาหลายท่านก็จะได้ของดีไว้บูชา ไว้ให้ทั้งญาติพี่น้องหมู่เพื่อนไว้เป็นที่ระลึกคุ้มครองโดยทั่วถึงกัน เพราะเจตนาสร้างดีอยู่แล้วครับ

ดังนั้นพระพุทธกรรมฐานชุดนี้
จะเปิดให้บูชาตั้งแต่บัดนี้ 14/3/2566 จนถึงวันที่ 16/3/2566
โดยพระชุดนี้ได้หล่อชนวนมวลสารไปแล้วในวันที่ 6 มีนาคม 2566(วันมาฆบูชา) และได้รับการอธิษฐานจิตไป 1 วาระแล้วครับ
(ข้อมูลกระทู้ #4891 #4892)
ปล.จัดสร้างเพียง 97 องค์ครับ
(หมดแล้วไม่มีสำลองนะครับ เพราะว่าจัดสร้างตามชนวนมวลสารครับ)

และจะเอาพิธี "อธิษฐานงานบูชาพระ" อีกครั้งหลังยิงเลเซอร์โค๊ตองค์พระ
ไว้ใต้ฐานแล้วเป็นสัญลักษณ์โดยเป็นอักษร "ปัลลวะ" คือ
"นะโม เม สัพพพุทธานัง"
แปล ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทุกองค์


​

 

ร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน 10 องค์ครับ

 

ร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน 10 องค์ครับ

 

ขอร่วมบุญ 10 องค์ครับ

 

ร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน จำนวน 5 องค์

 

ร่วมบุญ 2 องค์ครับ

 

ร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน จำนวน 3 องค์

 

ร่วมบุญบูชาพระพุทธกรรมฐาน 10องค์ครับ