เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 มกราคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ หลายอย่างที่กระผม/อาตมภาพทำไปบางทีพวกเราก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่ได้นำลงในข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน อย่างเช่นว่าการสั่งสร้างพระสมเด็จคำข้าวของวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งการได้รับคำสั่งให้ทำการเป่ายันต์เกราะเพชรในวันเสาร์ ๕ ของปีนี้

    คราวนี้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว บางอย่างก็เป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องรอคำสั่งอย่างเดียว อย่างเช่นเรื่องของการเป่ายันต์เกราะเพชรเพื่อสงเคราะห์แก่บุคคลเป็นการส่วนรวม ญาติโยมจำนวนมากก็ไม่เข้าใจว่า ถึงเวลามาขอความช่วยเหลือให้ขับไล่ไสยศาสตร์หรือวัตถุอาถรรพ์อะไรต่าง ๆ แล้วทำไมกระผม/อาตมภาพทำให้ไม่ได้ ?

    เนื่องเพราะว่าในเรื่องของการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น เป็นบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะสงเคราะห์ลงมา แล้วก็ต้องเป็นไปตามวันเวลาและโอกาสที่พระองค์ท่านจะสงเคราะห์ให้ นอกเหนือจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ต่างจากพวกเราทั้งหลาย ก็คือทำอะไรไม่เป็น แต่ญาติโยมก็มักจะไม่เข้าใจ คิดอยู่อย่างเดียวว่า ในเมื่อเวลาจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรแล้วช่วยเหลือได้ เวลาทั่วไปก็ต้องช่วยเหลือได้ด้วย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดไปจากความจริงเป็นอย่างมาก

    แล้วอีกหลายคนก็ยังเข้าใจว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้นทำเมื่อไรก็ได้ เนื่องเพราะว่ามีหลายคนที่อ้างเอาวิชาการนี้ไปหากินเป็นการส่วนตัว มีทั้งจัดเป่ายันต์เกราะเพชรวันเสาร์วันอาทิตย์ มีทั้งจัดเป่ายันต์เกราะเพชรให้กับทุกคนที่ไปขึ้นครู ๒๙๙ บาท ก็รับยันต์ได้เลย ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเป็นไปตามสายของครูบาอาจารย์แล้ว ท่านไม่เคยสั่งเอาไว้ว่าให้ทำอย่างนั้น

    การเป่ายันต์เกราะเพชรจะทำได้ก็เฉพาะวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเท่านั้น แม้เป็นวันเสาร์แรม ๕ ค่ำ ที่เป็นฤกษ์อมฤตโชคเช่นกันก็ทำไม่ได้ แล้วการทำนั้นก็ต้องเป็นไปตามคำสั่ง ก็คือเพื่อสงเคราะห์คนหมู่มาก ไม่ใช่ทำเพื่อหาชื่อเสียงเกียรติยศ หรือว่าหาลาภผลใส่ตัว ให้ทำเฉพาะวัดที่ตนเองอยู่เท่านั้น ก็คือไม่ใช่เดินสายรับจ้างเป่ายันต์..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ขณะเดียวกัน เมื่อพระท่านสั่งอะไรก็ให้ทำตามนั้น อย่าได้ใช้กำลังของตนเองในการเป่ายันต์เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้ได้อภิญญาสมาบัติขนาดไหนก็ตาม ทำแล้วก็มีผลไม่ถึง ๒ เปอร์เซ็นต์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ให้

    ดังนั้น..ในเรื่องของการเป่ายันต์เกราะเพชรจึงเป็นเรื่องที่คาดได้ แต่หวังไม่ได้ ก็คือถ้าไม่มีคำสั่งก็ทำไม่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกราบขอบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ แล้วถึงเวลาก็ต้องมีเครื่องบวงสรวงชุดใหญ่ ซึ่งเป็นการไหว้ครูประจำปีด้วย ถวายเครื่องบวงสรวงเพื่อขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ในการเป่ายันต์เกราะเพชรด้วย

    ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ว่าปีนี้ได้รับอนุญาตให้ทำหลังจากที่เว้นว่างมาหลายปี เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ คาดว่าบรรดาญาติโยมทั้งหลายที่อั้นอยู่ ก็น่าจะแห่กันมา อาจจะมีจำนวนมากเกินกว่าที่วัดของเราจะรับได้ ถึงเวลานั้นก็คงต้องแก้ไขหน้างานกันไปตามระเบียบ อาจจะมีการปรับเวลาปรับรอบในการรับยันต์ขึ้นมา แต่ว่าก็ต้องดูคำสั่งอีกทีหนึ่ง

    ส่วนเรื่องของพระสมเด็จคำข้าวนั้น กระผม/อาตมภาพสั่งทำไป ๓ พิมพ์ ก็คือปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่ ๑ พิมพ์เล็ก ๑ แล้วก็พิมพ์จันทร์ลอยอีก ๑ พิมพ์จันทร์ลอยก็คือกลม ๆ เพียงแต่ว่าพิมพ์ปรกโพธิ์นั้น ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร แต่ด้านหลังพิมพ์จันทร์ลอยเป็นยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าหากว่าจะเน้นในเรื่องลาภผล ยันต์มหาเศรษฐีเงินล้านน่าจะตรงกว่า แต่ว่าตามที่พระท่านสงเคราะห์มา ก็ไม่เคยเห็นท่านทำด้านเดียว ส่วนใหญ่ก็ให้หลายด้านด้วยกัน บางครั้งก็ให้มากกว่าที่เราคิด

    ในเรื่องของวัตถุมงคล กระผม/อาตมภาพไม่ได้สร้างตามตลาด และไม่ได้สร้างเพื่อหาเงิน หากแต่สร้างตามที่พระ หรือว่าครูบาอาจารย์ท่านสั่งเท่านั้น ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่เป็นรุ่นเก่า ๆ จะเห็นว่าในยุคที่จตุคามรามเทพโด่งดังมาก ๆ กระผม/อาตมภาพปลุกเสกไปน่าจะเกิน ๓๐ รุ่น แต่เป็นของที่อื่นทั้งหมด ของวัดท่าขนุนไม่เคยทำเอง แล้วในช่วงนั้น
    กระผม/อาตมภาพก็เป็นแค่รองเจ้าอาวาส ซึ่งถ้าในวัดท่าขนุนที่ทำ ก็เห็นมีท่านอาจารย์สมพงษ์ท่านทำขึ้นมารุ่นหนึ่ง ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพทำเอง เพราะจำได้ว่าช่วงนั้นได้รับคำสั่งให้สร้างรูปเหมือนลอยองค์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้าน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    แล้วมาในยุคที่ท้าวเวสสุวรรณโด่งดัง กลายเป็นว่าดังหลังจากที่กระผม/อาตมภาพสร้างและจำหน่ายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว ของที่อื่นค่อยมาเห่อกัน จึงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนมากว่า ทางวัดท่าขนุนหรือว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ไม่ได้สร้างวัตถุมงคลตามตลาดเพื่อหาเงิน หากแต่แล้วแต่พระท่านจะสงเคราะห์ ถ้าไม่มีคำสั่งก็ไม่สร้าง

    โดยเฉพาะรูปของตัวเอง กระผม/อาตมภาพตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าอายุไม่ถึง ๘๐ ก็ไม่สร้าง โอกาสที่จะถึงก็มีน้อยมาก..! เพราะว่าสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้มาก ถ้าไม่ได้รับการ "ต่อวีซ่า" ก็ไม่รู้ว่าจะ "ไป" ตอนไหน มีหลายต่อหลายท่านมาขอสร้างรูปเหรียญ แต่กระผม/อาตมภาพประกาศล่วงหน้าไว้นานแล้วว่า ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากทางวัดเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ไม่ต้องมาขอ เพราะว่าไม่อนุญาตให้สร้างด้วยประการทั้งปวง

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอันดับแรกเลย การสร้างเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใจคนยึดเกาะในพุทธานุสติ มีประโยชน์มากกว่า ประการที่สองก็คือ ไม่เคยคิดว่าตนเองมีคุณงามความดีเพียงพอที่คนจะถึงขนาดเอาขึ้นคอบูชากัน..!

    แล้วก็ไปนึกถึงหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน หลวงปู่หมุนท่านก็ตั้งใจว่า ถ้าอายุไม่ถึง ๑๐๐ ปี ท่านจะไม่สร้างวัตถุมงคล ยังโชคดีที่หลวงปู่อยู่จนถึง ญาติโยมทั้งหลายจึงมีวัตถุมงคลที่หลวงปู่ท่านสร้างเอาไว้บูชา หลวงปู่หมุนท่านให้เหตุผลว่า ถ้าวิชายังไม่แก่กล้าพอ ก็จะไม่ทำวัตถุมงคลสงเคราะห์ใคร เพราะว่าถ้าหากว่าไม่มีผล หรือว่ามีผลน้อยก็เสียหายถึงท่านเองไปด้วย

    แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่าในปัจจุบันนี้ บางท่านเพิ่งจะบวชก็สร้างวัตถุมงคลรูปตัวเองกันแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่ามีความดีเพียงพอที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ญาติโยมเขาได้

    เรื่องหนึ่งที่ไม่อยากจะเปิดเผย แต่อยากจะบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายว่า วัตถุมงคลที่เป็นรูปตัวเองนั้น เมื่อถึงเวลาเราสร้างขึ้นมา จะเดือดร้อนเทวดาประจำตัวของเราด้วย เนื่องเพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นต้องไปอนุเคราะห์สงเคราะห์กับท่านที่บูชาไป ในฐานะเทวดาประจำตัว ใครเอารูปของเราไปบูชาท่านก็ต้องตามดูแลไปด้วย ในเมื่อตามดูแลคนอื่นมาก ก็อาจจะบกพร่องในการดูแลเราเอง เดือดร้อนขึ้นมาเมื่อไรก็ตัวใครตัวมัน เท่ากับเราไปแส่หาความเดือดร้อนใส่ตัวเอง..!

    อีกประการหนึ่งก็คือ เท่าที่สังเกตมา ครูบาอาจารย์หลายต่อหลายท่าน พอมีรูปมีเหรียญแทนตัวแล้วก็มักจะละสังขารไปเลย พูดง่าย ๆ ว่า ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ญาติโยมมีที่พึ่งแล้ว..ก็ไปละ..! ซึ่งครูบาอาจารย์ในลักษณะนี้ กระผม/อาตมภาพเจอมาหลายต่อหลายท่านด้วยกัน

    ดังนั้น..ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าอายุไม่ถึง ๘๐ จะไม่สร้างรูปเหรียญตัวเอง เป็นความตั้งใจที่แน่วแน่มาก ไม่ต้องเสียเวลามาขอ แล้วก็ไม่ต้องแอบทำเอามาเข้าพิธี เพราะถึงเอามาเข้าพิธีก็ไม่เสกให้ ก็ถือว่าท่านทั้งหลายไม่มีความเคารพ ครูบาอาจารย์สั่งอะไรก็ยังฝืนคำครู ในเมื่อขาดความเคารพกันแล้วจะเอารูปเอาเหรียญไปทำอะไร ?

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...