เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 20 ธันวาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้เรื่องเร่งด่วนของคณะสงฆ์ที่เพิ่มขึ้นมา แต่ว่าทุกรูปล้วนแล้วแต่เต็มใจทำ ก็คือการสร้างบุญกุศลต่าง ๆ เพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งประชวรรักษาพระองค์อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

    ทางวัดท่าขนุนของเรา นอกจากจัดการเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายพระพรแล้ว ก็ยังมีการปล่อยวัว ปล่อยนก ปล่อยปลา ก็ต้องบอกว่า หมดสิ้นเท่าไรก็ไม่ว่า ถ้าหากว่าทำแล้วได้ผล โดยเฉพาะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผล เราก็ได้ทุ่มเทให้อย่างเต็มที่แล้ว

    พรุ่งนี้พวกเราหลังจากบิณฑบาตและฉันเช้าแล้วก็ให้เข้าโบสถ์ เพื่ออุปสมบทนาคสมพร จิตกลางถวายเป็นกุศลและถวายพระพร ทุกสิ่งที่เราทำต้องถือว่าเป็นเรื่องของธรรมะจัดสรร เนื่องเพราะว่ามีนาคมาอยู่วัดพอดี ในโอกาสอย่างนี้ ถ้าขาดบ้างเกินบ้างก็ถือว่าให้อภัย ไปเข้มงวดทีเดียวก็คงอีกนานกว่าที่จะได้บวช เพราะว่านาคก็เป็นคนต่างประเทศอีกต่างหาก

    สำหรับวันนี้งานสำคัญที่กระผม/อาตมภาพไปทำก็คืองานตรวจข้อสอบธรรมศึกษาชั้นโท (สนามหลวง) ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ เป็นที่เหลือเชื่อว่าในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง รวมตั้งแต่ภาค ๑ (กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี เหล่านี้เป็นต้น) ภาค ๒, ภาค ๓, ภาค ๑๓, ภาค ๑๕ ผู้สอบธรรมศึกษารวมกันแล้วทั้ง ๑๙ จังหวัด ยังมีจำนวนน้อยกว่าภาค ๑๔ ที่มีแค่ ๔ จังหวัด ก็คือกาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรีและสมุทรสาคร

    ดังนั้น..วันนี้แต่ละท่านแต่ละรูปก็ก้มหน้าก้มตาตรวจกัน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่กระผม/อาตมภาพแก้ไขคะแนน แล้วก็เซ็นชื่อกำกับไว้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามีเด็กลอกนิยายลงไป ๓ เรื่อง..! เป็นคนเก่งมาก รูปแบบทุกอย่างถูกต้องตามหลักการแต่งกระทู้ทั้งหมด โดยเฉพาะกระทู้ของธรรมศึกษาชั้นโทก็คือ กระทู้ตั้ง ๑ กระทู้รับ ๒

    แต่ในช่วงระหว่างกระทู้ตั้งกับกระทู้รับและสรุปจบเป็นเนื้อหานิยายทั้งสิ้น..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ปกติอย่างนี้ ถ้าหากว่าอยู่ในส่วนของนักธรรม ก็คือพระภิกษุสามเณรสอบ กระผม/อาตมภาพให้ ๕๐ คะแนน ก็คือตก เพราะว่านักธรรมนี้ ถ้าจะผ่านต้องสอบได้ ๗๐ คะแนนขึ้นไป แต่ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี รองเจ้าคณะภาค ๑๔ บอกว่า "ไม่ได้ครับ ธรรมศึกษานี่เขาอะลุ้มอล่วยมากกว่านักธรรม ๕๐ คะแนนก็ถือว่าผ่านแล้ว"

    กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องแก้ไขใหม่ ก็คือขีดฆ่า ๕๐ คะแนนแล้วก็ลงไป ๓๐ คะแนน..! พร้อมกับเซ็นชื่อรับรองว่าเป็นคนแก้เอง แล้วก็ไปเจอแบบนั้นอีก ๑ ราย น่าจะเป็นเพื่อนกัน ก็คือคนแรกที่เจออยู่กลาง ๆ ปึก คนสุดท้ายที่เจอไปอยู่ท้ายปึก เขียนเหมือนกัน เพียงแต่เป็นนิยายคนละเรื่อง..!

    แล้วก็เจอเด็กที่อยากจะสอบได้ มีความพยายามสูงมาก มีอยู่หลายรายที่ใช้วิธีเขียนคำหนึ่งแล้วก็เว้นวรรคประมาณ ๑ เซนติเมตร ๒ เซนติเมตร แล้วเขียนอีกคำหนึ่ง เพื่อที่จะให้ครบหน้ากระดาษตามที่สนามหลวงกำหนด อย่างเช่นว่าต้องให้ได้ ๓ หน้าครึ่ง

    อีกรายหนึ่งใช้วิธีเขียนเกินครึ่งบรรทัดไปหน่อยหนึ่ง แล้วก็เริ่มต้นบรรทัดใหม่ ทุกบรรทัดจะเป็นอย่างนั้น ก็คือเว้นไปเกือบครึ่งบรรทัด ก็เพื่อที่จะให้ได้จำนวนหน้าตามที่ทางสนามหลวงกำหนดไว้..!

    เรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพไม่ได้ใส่ใจในวิธีการ แต่สนใจแค่รูปแบบและเนื้อหา แม้ว่าจะเป็นระดับธรรมศึกษาชั้นโทก็จริง แต่ว่าเด็กหลายคนเชื่อมความไม่เป็น คือไม่สามารถที่จะอธิบายเนื้อหากระทู้ตั้งแล้วดึงมาเชื่อมกับกระทู้รับให้กลมกลืนกันได้

    ไม่สามารถอธิบายกระทู้รับที่ ๑ แล้วดึงไปเชื่อมกับกระทู้รับที่ ๒ ให้กลมกลืนกันได้

    ไม่สามารถอธิบายกระทู้รับที่ ๑ ที่ ๒ แล้วสรุปเนื้อหาให้เข้ากับกระทู้ตั้งได้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    แต่จะโทษเด็กก็ไม่ได้ เพราะว่าหลายคนที่เขียนมา ก็ต้องบอกว่ามีแนวคิดที่ดี และโดยเฉพาะใช้สำนวนเด็กรุ่นใหม่ ๆ เลย ซึ่งกระผม/อาตมภาพอ่านไป ก็ขำไป บางทีก็สะกิดพรรคพวกที่อยู่ข้าง ๆ ให้ช่วยอ่านหน่อย คือเป็นสำนวนของเด็กรุ่นใหม่กันจริง ๆ พวกศัพท์วัยรุ่นมีเยอะมาก

    แต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ส่งให้ใครอ่านก็หัวเราะ เพราะว่ากระทู้ตั้งคือ ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรังฯ อันว่าห้วงน้ำย่อมสามารถยังสาครให้เต็มเปี่ยมฉันใด บุญกุศลที่ท่านทั้งหลายสร้างก็ย่อมทำให้มีผลบุญอันเต็มเปี่ยมได้ฉันนั้น

    เด็กไม่เข้าใจคำว่าห้วงน้ำ ก็เลยเขียนอธิบายว่าห้องน้ำที่เต็มแล้วย่อมไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ห้องน้ำ..ส้วม แล้วแกก็ว่ายาวของแกไป จะต้องแก้ไขปัญหาด้วยการจ้างเทศบาลมาดูดส้วมอะไรให้ยุ่งไปหมด แต่ก็อุตส่าห์มีความพยายามที่จะอธิบาย กระผม/อาตมภาพก็ว่าไอ้เจ้านี่มีอนาคต ขนาดเข้าใจผิด ยังแต่งเรื่องได้ดีมาก..!

    คราวนี้การตรวจข้อสอบนักธรรมชั้นโทเมื่อวานก็ดี ตรวจข้อสอบธรรมศึกษาชั้นโทวันนี้ก็ตาม ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของวงการคณะสงฆ์ด้านการศึกษา เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เอามาตรวจต่างจังหวัด ปกติแล้วที่ยอมให้ตรวจต่างจังหวัดก็คือนักธรรมชั้นตรีและธรรมศึกษาชั้นตรี ระดับโทกับเอก เขาสงวนเอาไว้ตรวจกันในกรุงเทพฯ

    ด้วยความมั่นใจว่าพระภิกษุสามเณรกรุงเทพฯ มีการศึกษาที่เข้มข้นกว่า ถึงเวลาสามารถที่จะให้คะแนนได้ยุติธรรมกว่า ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและประสบการณ์ของคนตรวจ โดยคณะกรรมการที่ตรวจอย่างวันนี้ก็มีข้อผิดพลาด เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าท่านไม่รอบคอบ

    พอท่านเห็นกระทู้ตั้งไม่ใช่กระทู้ที่คุ้นตา ท่านก็ไม่ตรวจอย่างอื่นเลย ท่านเขียน ๕๐ ๕๐ ๕๐ ไปเลย ตั้งแต่ใบแรกยันใบสุดท้าย ก็คือปึกหนึ่งก็จะมี ๕๐ ชุด ปรากฏว่าคณะกรรมการต้องขอให้แก้ เพราะว่าที่หลุดมาเป็นปึกเดียวที่เป็นธรรมศึกษาชั้นโทระดับอุดมศึกษา ที่ตรวจกันไปคือธรรมศึกษาชั้นโทระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

    แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็คิดไม่ถึงว่าจะมีหลุดมา เพราะว่าระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่ก็คือระดับมหาวิทยาลัยหรือชาวบ้านทั่วไปที่เข้ามาขอสอบ โดยเฉพาะพวกครูบาอาจารย์ เห็นนักเรียนสอบแล้วคันไม้คันมือก็ลงชื่อขอสอบบ้าง

    กระผม/อาตมภาพเองนั้นได้กราบเรียนพระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี รองเจ้าคณะภาค ๑๔ ว่า "หลวงพ่อครับ ช่วยเตือนพรรคพวกหน่อยครับ ว่าสำหรับคณะกรรมการโต๊ะพิเศษที่เราตรวจอยู่นั้น มีกระทู้ระดับประถมศึกษาชั้นโท ๑ ปึก และกระทู้มัธยมศึกษาชั้นโท ๒ ปึกต่อรูป"

    ถ้าไม่เตือนจะต้องมีคนหลงทิศ เพราะว่าตรวจชั้นประถมโทมาตลอด อยู่ ๆ กลายเป็นมัธยมโท กระทู้ตั้งเปลี่ยนไป แล้วถ้าไม่อ่านให้ละเอียดก็จะเกิดแบบนั้นอีก แต่ว่าฉบับนั้นจะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะอยู่ ๆ มีปึกเดียวที่เป็นระดับอุดมศึกษาโทหลุดมาด้วย เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,540
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,538
    ค่าพลัง:
    +26,373
    กระผม/อาตมภาพเองเปิดกระทู้มา สิ่งแรกที่กวาดตาดูก็คือระดับไหน ชั้นไหน บางทีเขาขีดเลือกแต่ระดับประถมศึกษา ชั้นโทก็ไม่ขีด บางทีก็ขีดเลือกธรรมศึกษาโท แต่ว่าระดับประถมศึกษาไม่ได้ขีด จึงต้องขีดให้เขาก่อน แล้วหลังจากนั้นก็เซ็นชื่อรับรองการตรวจ แล้วก็ค่อย ๆ อ่านไล่ไป โดยเฉพาะถ้าใครเขียนผิดนี่กระผม/อาตมภาพวงให้หมดทุกคำเลย ตั้งแต่สมัยที่ตรวจวิทยานิพนธ์นิสิตบัณฑิตศึกษา บอกนิสิตว่า "อาจารย์อ่านทุกคำ" แต่นิสิตไม่ค่อยจะเชื่อ พอโดนแก้แดงเถือกไปทั้งเล่มถึงยอมเชื่อว่าอาจารย์อ่านทุกคำจริง ๆ..!

    โดยเฉพาะเอกสารอ้างอิง เพราะว่าส่วนใหญ่ Footnote นั้นตัวเล็ก คนไม่ค่อยจะอ่านกัน แต่กระผม/อาตมภาพอ่านทั้งหมด เพราะว่าเขามีกฎเกณฑ์กติกา ซึ่งปัจจุบันนี้เปลี่ยนหรือยังก็ไม่รู้ว่า ถ้าอ้างงานวิจัยต้องไม่เกิน ๕ ปี ถ้าอ้างหนังสือต้องไม่เกิน ๑๐ ปี เพราะฉะนั้น..ถ้านับถึง พ.ศ. ปัจจุบันที่กระผม/อาตมภาพนั่งตรวจอยู่ เกินเมื่อไรก็วงแดงเลย ให้ไปแก้มาใหม่

    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเราต้องใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างสูง และต้องเข้าใจด้วยว่าเด็กไม่ใช่พระเณร ความเข้าใจในหลักธรรมของเขาจะน้อยกว่า การอธิบายขยายความในลักษณะของการเทศน์ จึงอาจจะเป็นสำนวนธรรมชาติของเด็กบ้าง ถ้าเขาอธิบายความให้เข้าใจได้ก็พอแล้ว

    โดยเฉพาะการเขียนผิด เด็กรุ่นนี้เขียนหนังสือผิดเยอะมาก คำว่า "ถ้า" นี่ ท.ทหาร สระอา ไม้เอกตลอดเลย "ท่า" บัดนี้จักบรรยายขยายความตามพุทธภาษิต จักของเขาคือ "จักร" เป็นอะไรที่ต้องบอกว่า วิชาคัดไทยเขียนไทยของเด็กสมัยนี้น่าจะไม่มี ทำให้เขียนผิดกันตลอด

    ถ้าหากว่าโดนบังคับให้ท่องอย่างรุ่นของกระผม/อาตมภาพนี่ ท่องได้อย่างไรก็เขียนไม่ผิด เพราะว่าไม่จะเป็นคำยากก็ดี อะไรก็ตาม คำซ้ำ คำซ้อนเขาจะมีให้ท่องทั้งนั้น

    ฉะนั้นฉะนี้หนา ก่อนจะล้าสะบักสะบอม
    ชะง่อนชะโงกจอม ละอองน้ำสะอาดแฝง
    มีสะพานผ่านสะดวก สะพายพวกอาหารพะแนง
    อย่าทะยานทะมัดทะแมง ทะนุไว้ละม้ายละคร
    ทำสะดุ้งเดินสะดิ้ง สะบัดสะบิ้งตะลุมบอน
    จะสะอึกสะอื้นอ้อน เพราะข้าวของพะรุงพะรัง​

    พวกนี้ต้องใช้สระอะ คือประวิสรรชนีย์ทั้งหมด แต่ถ้าเป็น...

    ขโมยร้องชโย หยิ่งยโสเหมือนทโมน
    เร็วรีบสกัดโยน สบงปิดสไบหมาย
    หน้ามอมสบู่ถู จะได้รู้สึกสบาย
    สนับสนุนให้ขยาย สยดสยองขโมยทราม​

    พวกนี้ไม่ต้องประวิสรรชนีย์ คือไม่ใช้สระอะ แล้วยังมีอีกมากมายมหาศาล เสียดายที่กระผม/อาตมภาพจำไว้เต็มหัวแต่ว่าเด็กรุ่นหลังไม่ได้เรียนกัน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกเล่าแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...