วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    กับมีอีกเคสหนึ่งครับ

    เป็นช่วงที่ก้าวหน้าในธรรม และในสมาธิอย่างมาก

    มีภาวะที่จิตเกิดตัวรู้มาสอนธรรมในนิมิตร เห็นภาพขาตัวเอง แยกออกมาจากร่างกาย(เห็นในจิตอย่างชัดเจนเหมือนของจริง) จากนั้นก็มีมาสอนว่า ร่างกายและขานี้ไม่ใช่ของเรา ปล่อยวางได้ไหม

    จากนั้นนิมิตรนี้ก็ยังทรงอยู่แต่เปลี่ยนสภาวะจนเห็น ขานั้นค่อยๆเน่าเปื่อยไปเรื่อยๆขึ้นอืด (เป็นนิมิตร ที่ดำเนินไปเอง ไม่ได้เป็นการกำหนดพิจารณา)

    ในกรณีนี้ เป็นกรรมฐานกองเก่าในอสุภกรรมฐานที่เคยได้ในการกาลก่อน ให้มาพิจารณาเพื่อปล่อยวาง เห็นสภาวะความเป็นจริงในร่างกายของเราเองจริงๆ

    หากนำไปใช้ถูกต้อง จิตไม่หวาด ไม่กลัว พิจารณาจนจิตยอมรับสภาพตามความเป็นจริงได้ ตัวสักกายะทิษฐิก็ลดลงไป

    ซึ่งมีจุดหนึ่งที่น้องท่านนี้มีปัญหาเกิดขึ้น ก็คือ มีวิปัสนูปกิเลสมาแทรกในจิต

    วิปัสนูปกิเลส ข้อนี้เกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุดังนี้
    -เป็นเจ้ากรรมนายเวรมาขัดขวางการเจริญธรรมของเรา ไม่ปรารถนาให้เราก้าวสู่ธรรมที่สูงขึ้นไปอีก
    -กรรมเก่าในอดีตที่เราอาจเคยทำกรรมขัดขวางสมาธิการปฏิบัติธรรมของท่านผู้อื่นทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา
    -สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาทดสอบ มาทดลองว่าเราจะผ่านขั้นนี้ไปได้หรือไม่

    ซึ่งที่ได้กล่าวมานั้น บางท่านอาจพบ หรือ บางท่านอาจไม่พบก็ได้ บางท่านพบแต่ไม่ผ่าน บางท่านก็ผ่านก็มี แล้วแต่บุญ และวาระ

    ของกรณีนี้ มีวิปัสนูปกิเลสมาแทรกในจิต บอกกับเจ้าตัวว่า ถ้าหาก ตัดขาทิ้งไปได้(ตัดจริงแบบเอามีดตัด)นี่จะบรรลุธรรมขั้นนั้น ขั้นนี้เลยนะ ซึ่งเจ้าตัว ก็ได้พิจารณาด้วยปัญญาแล้ว ไม่น่าจะจริง ก็เลยไม่ตัด และมาสอบถาม

    ซึ่งก็นับว่า ผ่านไปได้ จึงต้องย้ำเสมอว่า เราเองต้องใช้ปัญญา การพิจารณาด้วยเสมอ และรับรู้ในความเป็นทิพย์ด้วยจิตที่เป็นอุเบกขาเอาไว้เสมอ

    ส่วนวิปัสนูปกิเลส ตัวสำคัญอีกตัวที่พบบ่อยที่สุดก็คือ

    อารมณ์ที่คิดว่าเราเองบรรลุธรรมขั้นนั้นขั้นนี้เสียแล้ว
    (ต่างจากการบรรลุจริงๆ) ซึ่งองค์ประกอบจะสมจริงมากๆ จนสามารถเชื่อจนสนิทใจว่าเราถึงขั้นนั้นขั้นนี้

    อาการที่ปรากฏก็คือ จิตจะมีมานะทิษฐิกำเริบ ปรารถนาให้คนอื่นรู้ คนอื่นยกย่อง กราบไหว้ ซึ่งหากใครไม่ทำก็จะเกิดจิตโกรธขึ้น

    หากจิตไหลไปจนลึก อวิชชาจะครอบงำรุนแรงจน การใช้ปัญญาความคิดพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลสูญเสียไปอย่างสิ้นเชิงในขณะนั้น

    หากเราใช้เจโตดูจะพบว่า จิตมีความร้อน ไม่เป็นจิตที่ชุ่มเย็น

    วิธีกันก็คือ ตามที่หลวงพ่อท่านได้สอนไว้ว่าให้ติตัวเองเอาไว้เสมอ เราหลงว่าเราดีเมื่อไหร่เราก็เลวเมื่อนั้น

    อย่าไปทะนงตนหลงว่าเราเป็นผู้วิเศษ หรือพระอริยะเจ้าขั้นนั้นขั้นนี้

    ให้เราระลึกว่าเราปฏิบัติเพื่อความดีมีพระนิพพานเป็นที่สุด ไม่ใช่ปฏิบัติให้คนเขายกย่องสรรเสริญ

    เมื่อเราพิจารณาดูแล้ว ก็ละความยึดติดต่างๆนั้นออกไปเสีย มุ่งขัดเกลา ปรับปรุงจิตเราให้สะอาด ยิ่งขึ้นไปทีละน้อยจนหมดไปสิ้นไป

    การพูดคุยในการปฏิบัติ ก็วางกำลังใจในการเอื้อเฟื้อกันในธรรมเป็นสำคัญไม่ใช่เพื่อการยกตนข่มท่าน ปรารถนาให้เพื่อนกัลยาณมิตร ก้าวหน้าในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสำคัญ

    หากได้ตั้งจิตและรู้เท่าทัน ตัววิปัสนูปกิเลสแล้ว ไม่ช้าก็ผ่านไปได้ และจะยิ่งทำให้ก้าวหน้าในการปฏิบัติเพิ่มขึ้นด้วย
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ส่วนความก้าวหน้าในการเจริญวิปัสสนาญาณของน้องอีกท่านหนึ่งครับ

    ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อครับ ซึ่งท่านนี้พระท่านมาสอนในสมาธิแบบ ละเอียดมากๆ

    "
    รายงานการปฏิบัติค่ะ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ.คะ

    เมื่อคืนได้มีโอกาสทำวิปัสสนาหลังสวดมนต์ก่อนนอนค่ะ ซึ่งก็เหมือนเดิมเลยคือขอพุทธเมตตาให้คุมและนำการพิจารณากองอาหารเรฯ ซึ่งท่านก็ทรงเมตตาสอน ในรูปแบบคำถามและคำแนะนำให้เราพิจารณาตาม ตอนพิจารณาก็สารภาพกับท่านว่า เราไม่ค่อยได้ทำ และไม่มีสติเวลากินข้าวค่ะ บางครั้งด้วยความหิวก็กินโดยลืมถวายอาหารทิพย์และแผ่เมตตา แล้วก็สารภาพว่าเราอยากผอมด้วย อยากตัดกิเลสเรื่องรสชาติอาหารด้วย ท่านก็ทรงถามว่า "เธอตั้งกำลังใจไว้อย่างไรกันแน่.. อยากผอม หรือ? มันถูกต้องหรือ?" จิตก็คิดตามว่าไม่ถูกนี่นา ท่านบอกว่ามันเป็นกิเลส 2 ชั้นเลยนะ เราอยากผอมเพราะอะไร?.... เราก็คิดตาม.. ได้คำตอบว่า เรายังยึดติดในกายนี้ ท่านเลยถามว่า กายนี้ใช่ของเราหรือ? .... ให้ตั้งกำลังใจให้ดีว่าต้องการตัดอะไรกันแน่ ตัดกิเลสในรสชาติ หรือจะเพิ่มกิเลสมา 2 ชั้น ติดทั้งรสชาติ แล้วยังติดในร่างกายอีก (เล่าย่อๆ นะคะ) สรุปแล้ว ท่านทรงให้กำลังใจและแนะนำให้ดังนี้ค่ะ
    - เมื่อหิว ให้จับภาพพระไว้ ...ท่านถามว่า รู้จักไหมคำว่า "อิ่มทิพย์" ให้ตั้งใจไว้อย่างนี้นะ
    - ก่อนกินอะไร ให้ตั้งสติก่อน แล้วถวายอาหารทิพย์พร้อมอธิษฐาน และแผ่เมตตาให้ผู้เกี่ยวข้อง
    - ระหว่างกินอาหาร ให้มีสติทุกคำที่เคี้ยว โดยให้เราคิดไว้ตลอดว่า ไม่ติดในรส, กินเพื่ออยู่เท่านั้น, ที่มาของอาหารมาจากอะไร, สภาพอาหารหลังย่อยแล้วเป็นอย่างไร แล้วเราไปยึดติดกับมันทำไมเล่า...
    - ถ้าอยากกินอะไร โดยที่ยังไม่หิว ให้นึกถึงสิ่งนั้นว่ามันเน่าเสีย สูญสลายไป

    ประมาณนี้ค่ะ ที่เล่าได้เพราะว่า หลังจากออกสมาธิแล้ว รีบจดประเด็นสำคัญๆ ไว้ กลัวลืมค่ะ เพราะว่าระหว่างพิจารณาข้อมูลมันละเอียดมาก เยอะมาก เหมือนจะจำไม่ได้อ่ะคะ

    แล้วถามท่านว่า ทำไมมโนของหนูไม่ค่อยแจ่มคะ? ท่านตอบว่าเราย่อหย่อนในการทำวิปัสนา ให้ทำบ่อยๆ เลยถามต่อว่า พิจารณาโดยไม่ต้องอยู่ในสมาธิได้มั้ยคะ ท่านตอบว่าได้ ให้พิจารณาบ่อยๆ เพราะเราต้องกินอาหารทุกวันๆละหลายมื้อนี่ "

    ซึ่งต้องขอโมทนาในความก้าวหน้าในการปฏิบัติของทุกๆท่านด้วยครับ

    ขอให้ตั้งมั่นในเส้นทางแห่งธรรม ความดี โดยมีสัมมาทิษฐิที่ตั้งมั่นในจิตใจทุกคนด้วยเทอญ
     
  3. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...กินเพื่อรสเพื่ออิ่มเพื่อสนุก
    กินเพื่อปลุกกิเลสตามใจปาก<O:p
    กินเพื่อสวยเพื่องามตามอยากมาก<O:p
    กินหลายหลากไม่หยุดปากเพราะอยากกิน<O:p
    ...เกียรติสูงส่งระเริงหลงฟากฟ้า<O:p
    เกียรติยกไว้ให้ค่าเป็นทรัพย์สิน<O:p
    เกียรติยิ่งดังยิ่งดีคนได้ยิน<O:p</O:p
    เกียรติขจรไปทั่วถิ่นยิ่งยินดี<O:p
    ...กามมัวเมาเบาจิตคิดสกปรก<O:p
    กามนรกลุ่มหลงเสื่อมราศี<O:p
    กามตัณหาราคะไม่มีดี<O:p
    กามยิ่งมีดียิ่งลดสลดใจ<O:p
    ...กินเกียรติกามสามคำจำไม่ยาก<O:p
    ต้องลดละลงให้มากเลิกหลงใหล<O:p
    กินเกียรติกามมากมายพาบรรลัย<O:p
    ทางไม่ไกลมีนรกเปิดปากรอ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2008
  4. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...หลงเอ๋ยหลงรสเลิศไหลลุ่มหลง
    หลงเอ๋ยหลงรูปสวยฉลวยเฉลา<O:p
    หลงเอ๋ยหลงกลิ่นกรุ่นมันมึนเมา<O:p
    หลงเอ่ยหลงจิตเขลาเศร้าดวงแด<O:p
    ...หลงว่าตัวเก่งกว่าดีเลอเลิศ<O:p
    หลงว่าตัวประเสริฐสุดคนแท้<O:p
    หลงว่าตัวยิ่งใหญ่ใครไม่แล<O:p
    หลงว่าตัวข้าแน่กิเลสกุม<O:p
    ...ลืมคุณค่าผืนดินที่เหยียบย่ำ<O:p
    ลืมคุณค่าผืนน้ำที่โอบอุ้ม<O:p
    ลืมคุณค่าสายลมที่ห่อหุ้ม<O:p
    ลืมคุณค่าไฟสุมผ่อนหนาวเย็น<O:p
    ...ลืมเอ๋ยลืมรักเมตตาที่มาสู่<O:p
    ลืมเอ๋ยลืมแรงให้สู้อยู่ตรงเส้น<O:p
    ลืมเอ๋ยลืมกตัญญูรู้คุณเป็น<O:p
    ลืมเอ๋ยลืมจะแลเห็นคุณค่าครู<O:p
    ...ตัวหลงใหลตัวมัวเมาตัวเขลาขลาด<O:p
    ตัวแสนเก่งตัวฉลาดตัวอวดรู้<O:p
    ตัวหลงติดตามยึดยื้อถือตัวกู<O:p
    ตัวหลงอยู่หุบเหวแห่งกงเกวียนกรรม<O:p
    .................................ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2008
  5. ดั่งจันทรา

    ดั่งจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +693
    ขอบพระคุณอาจารย์อย่างมากครับผม
    จะพยายามต่อไป ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนจะมารายงานให้ฟังกันครับ
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีน้องที่ก้าวหน้าในการปฏิบัติมาแชร์ประสพการณ์ให้ฟังเพื่อที่จะได้จับอารมณ์ใจกันได้ว่าท่านที่ทำได้ตั้งกำลังใจกันอย่างไรครับ

    ขอให้โมทนาบุญกันและก้าวหน้าเจริญในธรรมกันทุกๆท่านครับ
    <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Xorce<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:44 AM
    วันที่สมัคร: Oct 2007
    อายุ: 17 ปี
    ข้อความ: 124 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 462 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 2,846 ครั้ง ใน 129 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] ประสบการณ์ถอดกายทิพย์ คืน 9 พ.ค.
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เมื่อคืนเหมือนออกมาแบบเต็มกำลัง2-3รอบ เริ่มรู้วิธีแล้วครับ อธิษฐานกำกับไว้แล้วด้วย
    คุณความดีทั้งหมด ผมขอถวายให้กับคุณครูบาอาจารย์ คุณเทพพรหมเทวดา คุณพระศรีรัตนตรัย โดยมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นที่สุดffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    คือผมแผ่เมตตาจนใจชุ่มเย็นจากนั้นก็ผ่อนคลายคือทำใจให้สบายไปเรื่อยๆ [พี่นากาบอกว่าคือพรหมวิหารเต็มกำลัง ผมก็เลยจำมาฝึกตาม ขอบคุณครับ] พอหลับก็ออกมาเอง<O:p></O:p>
    ครั้งแรกที่ออกมานั้น ผมเอามือไปกดนาฬิกาที่หัวนอนดู นี่ออกมาแล้วนะ บอกว่าเวลา12.43 ผมก็ได้ยินเสียงพระท่านบอกว่าจะมาทดสอบผม ให้ผมเอามือล้วงออกมาจาก ประตูห้อง ก็พบมีมืออีกมือนึง ในจิตบอกว่าเป็นมือของพระ ท่านบอกว่าให้ผมลองภาวนานะมะพะธะ แล้วบอกว่าในซองกระดาษที่ท่านให้นั้นใส่บทสวดอะไร<O:p></O:p>
    ผมก็นั่งท่องนะมะพะธะ แล้วก็คิดว่าเป็นชินบัญชร พอเปิดซองมาไม่ใช่ เป็นอีกบทนึง<O:p></O:p>
    ผมก็เลยเดินออกมาจากประตู ก็เลยเห็นว่าเป็นมือของหลวงปู่ทวด ตอนนั้นก็อึ้งๆ ก็เลยไม่ทันได้กราบ ก็บอกว่า สวัสดีครับแล้วท่านก็บอกว่า ผมนี่ซนจริงๆ ซักพักท่านก็เดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวในบ้านผม ผมก็เลยไปยกอาหารมาให้ ยกข้าวมาจานนึง กับผัก เยอะๆ มีใบไม้ต่างๆที่เรากินกับขนมจีนเป็นต้น อันนี้จำได้ดี 55<O:p></O:p>
    แล้วท่านก็คุย ท่านรู้ทุกอย่างที่พวกเรากำลังทำอยู่ ท่านคุยแบบครูบาอาจารย์คุยกับลูกศิษย์ธรรมดาๆ ผมรู้สึกว่าท่านไม่ได้เรียกตัวเองว่าอาตมาด้วยซ้ำมั้ง แล้วก็บอกว่า ชัด ให้อดใจรอหน่อย มีคนที่กำลังลำบากกว่าแก มีคนนึงชื่อ โฟ กำลังถูกดูดวิชาการแพทย์ ผมก็ฟังไว้ อดใจรอนี่หมายถึงอภิญญานะ
    ซักพักนึงก็ลอยกลับมาที่ร่างแล้วก็ตื่นมาดู<O:p></O:p>
    ก็มากดที่นาฬิกา 12.44 ห่างกันประมาณนาที ดูแล้วเป็นไปได้น่าจะออกมาจริง<O:p></O:p>
    แต่ว่ามันจะรู้สึกเหมือนฝันนิดๆ เป็นฝันแบบมีสติ<O:p></O:p>
    เสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็แผ่เมตตา แล้วก็ไปนอนต่อ<O:p></O:p>
    แล้วก็ใช้วิธีเดิม คือทำใจให้สบายๆ แล้วก็ออกมาอีกครั้ง<O:p></O:p>
    คราวนี้ได้สติก็เลยอธิษฐานกำกับเอาไว้ก่อน<O:p></O:p>
    เสร็จแล้วก็ขอบารมีพระ ขอให้เมตตาสงเคราะห์ พาขึ้นไปยัง ชั้นจาตุมหาราชิกา<O:p></O:p>
    เราก็ค่อยๆลอยขึ้น แล้วก็ผ่านชั้นมืดๆ พอผ่านชั้นมืดๆมา ก็เห็นสวรรค์ ดูแล้วน่าจะเป็นชั้นจาตุม มีเทวดามากมาย มีวิมานมากมาย ส่วนมากจะเป็นสีทอง<O:p></O:p>
    มีพื้นเป็นเมฆแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง<O:p></O:p>
    แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่า เวลาใช้มโนเต็มกำลัง ไม่ให้คิดถึงกายหยาบ หากคิดถึงเราจะกลับเข้าร่าง ว่าแล้วก็นึกสนุก งั้นลองดูหน่อยแล้วกัน เราก็พูดว่า "กายหยาบ" แล้วก็โดนดึงกลับร่างทันที แล้วก็ตื่นขึ้นมา
    เสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ลองอีกรอบ<O:p></O:p>
    คราวนี้ ตอนนอน ก็ยิ้ม ยิ้มไปเรื่อยๆ พอนอนก็ออกมาอีก<O:p></O:p>
    คราวนี้ออกมาก็เกิดคิดว่าอยากจะเหาะดู ก็เลยเหาะออกมา รู้สึกว่า สามารถควบคุมได้ดั่งใจนึก<O:p></O:p>
    จะให้สูงก็สูง จะให้ต่ำก็ต่ำ ก็เหาะเข้าไปกลางเมือง
    จึงพอจะเข้าใจความรู้สึกของการได้อภิญญา คือสามารถใช้ได้ดั่งใจพอถึงเวลาจริง จึงไม่มีการตั้งท่า ไม่ต้องเรียนรู้วิธีการใช้ หากอยากให้อะไรเกิดก็เกิดได้ทันที<O:p></O:p>
    ดังนั้นแม้เราจะได้อภิญญาตอนที่คลื่น30เมตรกำลังซัดเข้ามาพอดี <O:p></O:p>
    ก็สามารถใช้ได้ดีเหมือนคนที่เคยฝึกใช้มาก่อน<O:p></O:p>
    พอเหาะไปซักพัก เราก็เสียการควบคุมแล้วก็ค่อยๆลอยต่ำลง พอต่ำลงปุ้ป ก็ตกภวังค์ กลายเป็นความฝันแทน ทีนี้ก็ฝันมั่วไปหมด จนกระทั่งตื่นมาตอนตี5.30 ก็สนุกดีครับ<O:p></O:p>
    แต่ละครั้งที่ผมตื่นขึ้นมา ความชุ่มเย็นจากพรหมวิหารยังอยู่และก็มีสติเต็มรอบ คือเหมือนพึ่งไปมาจริงๆ ตอนที่อยู่กับหลวงปู่ทวด ผมเห็นคนอื่นด้วย จำได้ว่า น่าจะมีพี่ตุ๊ก<O:p></O:p>
    ไม่รู้ว่าใครโดนดึงมาบ้างเหมือนกัน ไม่โดนดึงอย่าน้อยใจนะ เดี้ยวคราวหน้าจะดึงมาด้วย อิอิ
    <O:p></O:p>
    ก็ขอให้การเล่าประสบการณ์ของผมเป็นธรรมทานสามารถทำให้ทุกๆคนเข้าถึงซึ่ง<O:p></O:p>
    มโนเต็มกำลัง อภิญญาสมาบัติ ความเป็นทิพย์ พรหมวิหาร4 ตั้งมั่นเป็นสัมมาทิฏฐิ ตลอดจนถึงวิปัสสนาญาณและเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยเร็วด้วยเทอญ หากไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานฉันใดขอให้ได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนาและศึกษาพระธรรม พร้อมตั้งมั่นเป็นสัมมาทิฏฐิ ทุกๆภพ ทุกๆชาติไป สาธุ<O:p></O:p>
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    หมั่นมองดูจิต คิดชำระให้สะอาดใส ห่างไกลซึ่งมารร้าย ขอสิ้นซึ่งภพชาติ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. wic.cama@hotmail.com

    wic.cama@hotmail.com Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2008
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอซีดีนี้ดวยจ้า
    ด.ช.ธนพันธ์ ตันดี หมุ่ 1 ถนน อนาลโย ตำบล หนองบัว อำเภอ เมือง หนองบัวลำภู 39000
    อนุโมทนาด้วยจ้า
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ไม่เห็นขนตาตัวเอง ****

    ท่าน...ปฏิบัติตนด้วย สัจจะ เป็นประจำหรือยัง !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตอนนี้ที่พระท่านเป็นห่วงในเรื่องการปฏิบัติของพวกเราทุกๆคน (ขอย้ำว่าทุกคนไม่ว่าใคร)

    ท่านอยากให้เกาะกลุ่มกันเอาไว้ ดึงกันขึ้นมาให้ไล่ๆใกล้ๆกัน ท่านที่ช้าก็ต้องเร่งรัด สปีดตัวเองนิดหนึ่ง ใช้อิทธิบาทสี่ และความเพียรมากหน่อย

    ส่วนท่านที่เร็วอยู่แล้วก็รอๆหันหลังมาดูเพื่อนและช่วยดัน ช่วยดึงกันให้ก้าวหน้าในการปฏิบัติให้ครบทุกๆคนครับ

    พระท่านห่วงว่าคนที่ล้าหลังจะหลุดกลุ่มและพลาดจากความดี เพราะเสียกำลังใจที่เห็นท่านอื่น ไปไกลเกินจนไล่ไม่ทันครับ

    ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญครับ เพราะนั่นหมายความว่า

    พระท่านห่วงทุกคน และพวกเราทุกๆคนต้องโอบอุ้มกัน ช่วยเหลือเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันในการปฏิบัติครับ

    ดังนั้นไม่ต้องอาย สงสัยให้ถาม ในกระทู้หรือพีเอ็มก็ได้

    อยากเรียนอยากฝึกอย่ามัวเกรงใจแจ้งเข้ามาให้ทราบกันครับ หากมีเวลาจะจัดให้ครับ

    อย่าลืมว่าเราต้องการให้ทุกๆท่านได้เข้าถึงซึ่งความดีกันครับ
     
  11. อิน

    อิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +36
    คิดว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
    อาจไม่ใช่เรา ไม่ใช่วาระของเรา
    แต่ได้มารู้จักการเอาจิตจดจ่อที่พระ ก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ
    อย่างน้อย ก่อนจะตาย ก็คงไปยังภพภูมิที่ดีได้ (ถ้าไม่เผลอเนาะ)
     
  12. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    สาธุค่ะคุณอิน :d
     
  13. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    คิดว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
    อาจไม่ใช่เรา ไม่ใช่วาระของเรา


    ไม่ยอมๆ เพิ่งโผล่มาแป๊บเดียวจะยอมให้เขาวิ่งผ่านเลยไป
    รีบมาติว พอเข้าเดือนที่สามก็จะแจ่ม

    พวกรุ่นเก๋ากึ๊ก (เดือนที่สิบแล้ว) ยังย่ำบทที่ 1 ก็มีจ๊ะ ขอติวพิเศษค่ะ


     
  14. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    ตอนนี้ทุกคนกำลังพยายามปฏิบัติให้ก้าวหน้าขึ้น อย่างไรก็อย่าลืมจับภาพพระพร้อมลมสบาย +เมตตาพรหมวิหารสี่ให้ชุ่มชื่นจิตเบาสบาย ตอนนี้กำลังพยายามปฏิบัติให้มากขึ้นค่ะ ยังไงขอเอาใจช่วยทุกท่านนะคะ สู้ๆ
     
  15. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    สงสัยคงต้องให้อาจารย์เปิดห้องเรียนแล้วล่ะพี่ไก่ ตอนนี้นักเรียนอยากจะให้อาจารย์ติวเข้มกันหลายคน:d
     
  16. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    ถ้าอาจารย์ยังไม่สะดวก ติวจิตตัวเองไปก่อนดีไหมคะ

    อย่าอยากได้ ยิ่งอยากก็ยิ่งไม่ได้...

    นั่นแสดงว่าเรายังมีความเห็นแก่ตัวเองกันอยู่มากนะคะ...

    คิดว่าไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้... เราก็จะขอสงเคราะห์คนอื่นเป็นหลัก... เท่าที่เราจะทำได้ ณ ขณะนั้น... จะดีกว่าอยากจะมีฤทธิ์มีเดชกันซะเอง...

    ถ้ายังมีตัวอยาก... แล้วเกิดมีฤทธิ์ขึ้นมาจริง... เกิดเราไม่อยากให้คนที่เราไม่ชอบอยู่ดีมีสุข เราจะมิกลายเป็นมารไปหรือ...

    วางกำลังใจกันให้ดีๆ ค่ะ... ไม่ว่าจะมีฤทธิ์ หรือไม่ ไม่สำคัญ ทำจิตเราให้ผ่องใส จับภาพพระให้เป็นปกติ มีพรหมวิหารสี่เต็มกำลัง เป็นสัมมาทิฐิ คิดถึงความตาย ความไม่แน่นอนไว้เป็นปกติวิสัย...

    มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องธรรมดาให้ได้...

    ทำพื้นฐานกันให้ดีก่อน... เมื่อถึงวาระ ทั้งเสา กำแพง ผนัง หลังคา ฯลฯ จะตามมากันเองจนครบสมบูรณ์ในที่สุดค่ะ...

    ขอให้ทุกๆ ท่านเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมกันทุกๆ คนน่ะคะ
     
  17. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ไม่ใช่อยากได้ แต่เป็นฉันทะอยากฝึกโดยมีผู้ให้คำแนะนำค่ะ
    ฝึกกับครูอาจารย์ พลังงานบวกเยอะ เหนี่ยวนำได้ดีค่ะ
    ยังไม่เป็นวสีก็เลยอยากฝึกใกล้ครูบ่อยๆ

    ไม่อยากก็ได้ค่ะ แต่ถ้าครูมาใกล้ๆก็เรียนเชิญเปิดติวเลยนะคะทั้งครูใหญ่ครูน้อยค่ะ
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีอีกสองท่านที่พระท่านได้เมตตาสงเคราะห์แจ้งเรื่องให้ทราบครับ น่าแปลกที่เรื่องราวตรงกันโดยบังเอิญ ไว้จะขอนำมาลงให้อ่านกันครับ

    สิ่งสำคัญก็คือ พวกเรา"ทุกๆคน" พระอภิญญาท่านจับตาและดูแลอยู่ ท่านบอกว่า หากวางกำลังใจผิดเป็น"อด"

    คนไหนสมควรได้ มีจิตปรารถนาเพื่อส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่ช้าก็ได้ครับ

    ท่านที่เมตตาดูแลเราและประกบเราอยู่เป็นสามเณรอภิญญาครับ (จะได้ทำจิตของเราว่า เรานั้นยังเด็กแค่ไหนกันในการปฏิบัติ) ดังนั้นต้องวางกำลังใจ วางอารมณ์ใจ ให้ถูกต้องเป็นสัมมาทิษฐิกันเอาไว้เป็นสำคัญครับ
     
  19. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...พวงเอ๋ยเจ้าพวงมาลัยใยเป็นพวง
    ด้วยเพราะพ่วงเมตตานำจำในจิต<O:p
    ด้วยเพราะรักไม่รู้โรยพุดดอกนิด<O:p
    ด้วยมวลมิตรมะลิขาวกุหลาบมอญ<O:p
    ...อีกดาวเรืองจำปีปาอุบะห้อย<O:p
    ร้อยเป็นสร้อยพลับพลึงด้วยมาช่วยสอน<O:p
    ใบตองตึงใบพลูด่างเสริมงามงอน<O:p
    มาลัยซ้อนกลีบสลับจับบรรจง<O:p
    ...เอาใบไม้สารพัดมาจัดเรียง<O:p
    เข้าคู่เคียงมวลบุบฝาสวยเสริมส่ง<O:p
    กรองมาลัยได้งดงามตามจำนง<O:p
    ร่วมด้ายใจที่มั่นคงเคียงคู่งาน<O:p
    ........................ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2008
  20. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...รู้เอ๋ยรู้สิ่งใดใยต้องรู้
    รู้เพื่อชูยกตัวเก่งหรือไฉน<O:p
    รู้เพื่อฟุ้งหลงลอยหรืออย่างไร<O:p
    รู้เพื่อเหยียบหัวใครจมแผ่นดิน<O:p
    ...รู้เอ๋ยรู้ในธรรมจำต้องรู้<O:p
    รู้เพื่อละปล่อยวางลงปลงให้สิ้น<O:p
    รู้เพื่อเตือนตัวเราเขลาชีวิน<O:p
    รู้เพื่อดิ้นให้หลุดหยุดวงจร<O:p
    ...รู้เอ๋ยรู้วาระตนค้นให้รู้<O:p
    รู้เพื่อกู้ชีวิตคิดถอดถอน<O:p
    รู้เพื่อรักแผ่เมตตาเอื้ออาทร<O:p
    รู้เพื่อสอนใจตนพ้นทางเวียน<O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...