วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ........ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง..........

    ...ปั้นปรุงกอบก่อส่วน.....ล้วนดินนำรวม
    ตกแต่งเป็นงานศิลป์.......สวยสรรค์
    ด้วยดวงจิตดวงจินต์.......จึงเกิดรูปกาย
    นานาแผกเผ่าพันธุ์.........สีสันต่างไป
    ...ดินน้ำลมไฟด้วย........ช่วยกันประสาน
    หล่อหลอมรวมผูกพัน......มั่นไว้
    เจริญงามเฉิดฉันท์.........ชูช่อตระการ
    อวดโฉมแสดงสาย.........สืบพงศ์หยัดยืน
    ...แบ่งแยกแตกต่างชั้น.....เชื้อชาติสายเผ่า
    ดำขาวโง่ฉลาด.............ยกพื้น
    ดีชั่วเก่งกาจขลาด..........ผู้คนต่างมี
    เกิดตายมีหายคืน...........วัฏจักรเวียนวาย
    ...พายุโหมระห่ำ............พาพัดสะท้าน
    คลื่นสาดโครมสาดซัด......สลาย
    วายุกระแทกฟาดฟัด.........ตอกย้ำทำลาย
    พสุธาสะเทือนกาย...........อย่างไร้ปราณี
    ...เงียบสงบสงัด.............ไร้สิ้นสรรพเสียง
    ไร้สำเนียงชีวิน...............วิถี
    จุดเริ่มคือจุดสิ้น..............ใจยินยอมรับ
    ดินหวนคืนสู่ที่................ถิ่นฐานถาวร
    .................................ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2008
  2. Poohrich Assawanuwat

    Poohrich Assawanuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +341
    หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่า วิชามโนมยิทธิ(เต็มกำลัง) จะเริ่มปรากฏเป็นที่สาธารณะตั้งแต่ปี 35 คอยช่วยเหลือผู้คน และในวันนี้ก็เป็นจริงแล้ว ขออนุโมทนาในความตั้งใจจริงของทุกท่านด้วยครับ
     
  3. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...รูปธรรมที่ตาเห็นเป็นปรากฏ<O:p</O:p
    นามธรรมกำหนดด้วยใจจิต<O:p</O:p
    สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด<O:p</O:p
    สงบจิตสำรวจความคิดพิศเห็นจริง<O:p</O:p
    ..............................ธรรมดา(ฯ)
     
  4. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...สิ่งที่แบกบนบ่ามันพาเหนื่อย<O:p</O:p
    มันนำเมื่อยนำทุกข์คลุกปวดร้าว<O:p</O:p
    มันนำจิตตกหล่นแตกร่วงกราว<O:p</O:p
    สิ่งทุกข์เท่าคือเจ้าแบกไว้เอง
    .......................ธรรมดา(ฯ)
     
  5. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...จิตก่อเกิดกำเนิดรูปธรรม<O:p</O:p
    ความสุขล้ำจากจิตนำวิถี<O:p</O:p
    ยึดโยงทุกข์เกิดทุกข์ถมทวี<O:p</O:p
    ยึดเมตตานำวิถีจิตสุขจริง<O:p</O:p
    ...อันความทุกข์ไม่เจอใครไม่รู้<O:p</O:p
    ยั้งหยุดอยู่แค่ทุกข์คือทุกสิ่ง<O:p</O:p
    หรือปลดปล่อยทุกข์ลงปลงเห็นจริง<O:p</O:p
    คือทุกสิ่งให้เรียนรู้ดูจิตตน<O:p</O:p
    ...................ธรรมดา(ฯ)
     
  6. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...หมู่สัตว์โลกสังคมคนมนุษย์...............ควรรู้จุดแต้มต่อให้รับบ้าง
    ด้วยตัวตนหาใช่เก่งทุกทาง..................ปล่อยละวางยอมรับสิ่งที่เป็น
    ...มิใช่การดูหมิ่นตัวของเรา..................หาใช่ขลาดโง่เขลาเฝ้าแอบเร้น
    และใช่เหยียดดูถูกนอกประเด็น.............แต่คือการอยู่ให้เป็นในสังคม
    ...เมื่อถึงคราวเรานำจงมุ่งต่อ................ยามเราย่อยอมรับใช่ขื่นขม
    เมื่อถึงให้ให้ด้วยใจรื่นรมย์....................ยามเรารับชื่นชมด้วยจริงใจ
    ...ปกปิดตัวตนจนเป็นทุกข์...................ใครบุกรุกเข้าเขตตนมิได้
    ตนยิ่งใหญ่เก่งกาจกว่าใครใด................แล้วเป็นไงทุกข์ใครทุกข์ของตน
    ...อย่ามักง่ายกอบโกยหวังดูดซับ...........เอาแต่รับแต่ได้ให้ไม่สน
    เอาแต่พึ่งผู้อื่นยื่นป้อนตน.....................แล้วสุดท้ายอับจนพ้นไหมนาย<O:p</O:p
    ...ให้โอกาสตัวตนคนรอบข้าง...............ให้รับบ้างสร้างสานสัมพันธ์สาย
    ให้ตัวเขาตัวเราเปล่งประกาย.................ให้ทลายเกราะกำแพงแห่งตัวกู<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2008
  7. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...บนเส้นทางของเราที่เดินมา..................บนเวลาของเราที่นำไป
    บนความคิดของเราสู่สิ่งใด......................บนความจริงเปิดไปสู่ใจตน
    ...บ่อยครั้งที่สับสนอลหม่าน....................บ่อยครั้งที่อันธพาลทุกแห่งหน
    บ่อยครั้งที่อาภัพอับทางจน......................บ่อยครั้งที่วุ่นวนสิ่งไม่ดี
    ...ตั้งสติเข้าใจตนเองใหม่........................ยึดจิตใจให้มั่นให้คงที่
    ถอนความคิดอันธพาลชั่วฤดี.....................ยอมรับในสิ่งนี้ที่เราเป็น
    ...ให้โอกาสตัวคนเป็นคนใหม่...................ให้โอกาสดวงใจให้มองเห็น
    ให้โอกาสคิดดีคิดให้เป็น..........................ให้โอกาสได้เห็นฟ้าสีทอง
    ...บนเส้นทางเวลาบนความคิด..................ทุกคนเคยทำผิดทำบกพร่อง
    อย่าเดินซ้ำรอยเก่าใจคะนอง.....................ชีวิตตนยิ่งหมองอเวจี
    ...ตั้งสติมอบโอกาสกับชีวิต......................ปล่อยให้ฤทธิ์ความดีนำบ่งชี้
    ให้โอกาสตนได้ไตร่ตรองตี.......................ทางใหม่มีดีกว่าจงก้าวไป
    ...ให้อภัยตนเองในสิ่งพลาด......................มอบโอกาสให้ตนเป็นคนใหม่
    มอบความรักให้ตนได้ก้าวไป.....................มอบสิ่งดีย่อมได้เห็นฟ้าทอง
     
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...กระแสธารขึ้นลงไม่คงที่.......................ท่วงทำนองดนตรีมีหนักเบา
    แรงร้อนอุ่นกลับหน้าเย็นเหน็บหนาว...........เหนื่อยเงียบเหงากลับสุขสนุกใจ
    ...แค้นโกรธเกลียดเคียดคลายชอบพอรัก....ทั้งทุกข์หนักสุขนักวนเวียนใกล้
    ปกปิดไว้เปิดเผยเฉลยนัย.........................มืดดำมิดกลับได้สว่างงาม
    ...เผ็ดร้อนจัดมีจืดจรุงรส..........................ทรยศคดสัตย์ซื่อถือเกรงขาม
    เศร้าเสียใจดีใจเวียนทุกยาม.....................โศกชอกช้ำใจชื้นชื่นชีวี
    ...เหรียญในมือก็มีอยู่สองด้าน...................หัวก้อยนั้นสลับอยู่สองที่
    ใจคนเราทุกคนมีชั่วดี..............................ทุกข์ก็มีสุขก็มีคละเคล้าไป
    ...ลองกลับเหรียญกลับใจดูสักครั้ง.............ใส่พลังดูซิเราเลือกได้
    เลือกทุกข์สุขหัวก้อยอยู่ที่ใจ.....................เรื่องของใจใจเท่านั้นตัดสินความ <O:p</O:p
     
  9. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...ท้องทะเลท้องน้ำงามด้วยคลื่น..........กลางวันฟื้นอาทิตย์ช่วยแต่งแต้ม
    ดวงดาราส่องสว่างคืนเดือนแรม...........ขึ้นก็แจ่มแอร่มด้วยพระจันทร์นวล
    ...พันธุ์พฤกษางามตาด้วยดอกใบ.........ในพงไพรไฉไลหลากสัตว์ล้วน
    ในสายน้ำงามได้ปลาว่ายทวน..............สายลมยวนชวนนกมาโบยบิน
    ...ในท้องฟ้าระบายด้วยก้อนเมฆ...........ฝนแดดเสกสายรุ้งงามด้วยศิลป์
    เทือกเขายาวขีดเขียนบนพื้นดิน............ศิลปินธรรมชาติวาดบันลือ
    ...อันชีวิตคนเราที่แตกต่าง...................ผิดถูกบ้างดีชั่วฉลาดทื่อ
    เป็นความงามของชีวิตต้องฝึกปรือ.........เพื่อเป็นสื่อสอนใจให้งดงาม
    ..........................................................................ธรรมดา(ฯ)
     
  10. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองหลายท่านบอกว่า บ้านเมืองเป็นของศักดิ์สิทธิ์

    ประเทศไทยมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองอยู่...


    จากข้อความที่อ้างอิง อาจจะเห็นว่าช่วงดังกล่าวไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ไทย แต่หากท่านติดตามข่าวจะเห็นว่าที่อเมริกาช่วงนั้น ดันเกิดพายุเฮอริเคนแคทริน่าพอดี ?? มีผู้เสียชีวิต 1000 กว่าศพที่นิวออร์ลีน

    น่าแปลก...

    กรณี ที่ 1.ก่อนที่อดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งมีข่าวจะกลับเมืองไทย ก็มีหมอดู นักวิชาการ ออกมาเตือนว่า อาจจะมีการลอบสังหาร มีการเตือนให้อดีตผู้นําระวังตัว มีการเตือนเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับประชาชนที่อยู่ระแวกใกล้เคียง...

    สุดท้ายก็กลับมาอย่างปรกติ

    แต่กลายเป็นว่า อดีตผู้นําที่ปากีสถาน (นางเบนาซี บุตโต)กลับจากการลี้ภัยมาที่ปากีสถาน โดนลอบยิง และมีการลอบวางระเบิด นางเบนาซี บุตโต คือผู้เสียชีวิต เป็นข่าวดังทั่วโลก


    กรณีที่ 2. หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 มีข่าวจากนักวิชาการ หมอดู หมอดังต่างๆว่า อาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นทางการเมือง เพราะมีผู้ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งต่างๆ

    ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

    แต่ในอีกมุมหนึ่งของโลก ที่เคนย่า มีการเลือกตั้งแล้วไม่ยอมรับผลกัน เกิดความรุนแรงทางการเมือง ข่าวดังไปทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

    กรณีที่ 3. พายุนากีสที่พม่า ???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2008
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เนื่องจากเราได้สูญเสียนักปฏิบัติธรรมไปในอุบัติเหตุรถยนต์

    ผมจึงขออนุญาตแนะนำ การทำสมาธิเวลาเราขับรถก็ดี นั่งรถไปไหนมาไหนก็ดีควรทำอย่างไร ตั้งกำลังใจอย่างไร

    เมื่อเริ่มก่อนจะออกรถก็ดี ไม่ว่าเราจะเป็นผู้ขับหรือเป็นผู้นั่ง ให้กำหนด จิตว่า นะโมสามจบ และสวดพระคาถา (ผมเองใช้คาถาในการเดินทางของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)

    จากนั้นอาราธนาบารมีพระกำหนด พุทธนิมิตร ที่ฝากระโปรงหน้า ภาวนา "พุทธธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง "
    ที่หลังคารถ
    และที่ฝาท้ายรถ พร้อมภาวนา บทอาราธนาตามลำดับ

    และเมื่อทรงภาพพระท่านทั้งสามองค์ได้แล้ว ก็ภาวนา บท "พุทธโธ อัปปมาโร ธัมโม อัปปมาโร สังโฆ อัปปมาโร "ตั้งกำลังใจว่า คุณของพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ คุ้มครองข้าพเจ้าและคนรอบข้างของข้าพเจ้าได้ ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ

    จากนั้นเมื่อนั่งรถไปก็ดีขับรถไปก็ดี เราก็ ทรงอารมณ์ใจของเราให้ปรากฏภาพพระในจิตของเราอยู่ตลอดเวลาสมาธิจิตก็จับเป็นลมหายใจสบาย แทบไม่หายใจไปด้วย ภาพพระก็ทรงไปด้วย

    หากเดินทางไปกันหลายคัน เราก็อาราธนาบารมีพระท่านคุมไปในรถทุกๆคัน คนทุกๆคน โดยเฉพาะคนขับให้เขามีพระคุ้มครองจิต ไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรมาดลจิตดลใจให้เกิดอันตรายได้

    เมื่อจิตเราทรงภาพพระพุทธเจ้าเอาไว้ เทวดาก็ดี พรหมก็ดี ท่านเสด็จมากันมาก หนทางก้สะดวกราบรื่นปลอดภัยเป็นธรรมดา

    ปรากฏการณ์ที่เป็นเรื่องราวที่ธรรมมะจัดสรร ก็ดี ปาฏิหาริย์ต่างๆก็ดี ก็ปรากฏเป็นเรื่องปกติธรรมดา

    สำหรับเรื่องราวของคุณหมอ ที่ได้เสียชีวิตไปนั้น

    ท่านได้มาเล่าเรื่องให้ฟังว่า

    "ท่านเอง เคลิ้มๆ วูบๆไป มารู้สึกตัวอีกที ก็มาปรากฏอยู่ที่วัดอัมพวัน ของหลวงพ่อจรัญแล้ว ตอนแรกก็ยังรู้สึกงง ๆ อยู่ แต่ด้วยความเป็นทิพย์ของจิต ก็รู้ว่า ได้เสียชีวิตละจากกายเนื้อนี้แล้ว ได้ถามดูว่ารู้สึกเจ็บหรือไม่ ก็ได้ตอบว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างไร วูบออกมาทันที เป็นกายทิพย์ ที่มาหามาให้ทราบเพราะมีความเกี่ยวพันกันในอดีตกาล เลยได้มาดลใจให้ทราบว่า ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนงานที่เคยคุยไว้ว่าจะช่วยก็จะช่วยอยู่ข้างบน"

    ส่วนข่าวจริงที่ทราบมาจากคุณหมอที่ได้ไปร่วมงานศพด้วยนั้น ได้แจ้งว่า สภาพศพของคุณหมอ ไม่มีรอยแผล รอยเลือดแต่อย่างไรทั้งสิ้น มีเพียง รอยที่ริมฝีปากนิดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนับเป็นเรื่องแปลกอัศจรรย์ ซึ่งคุณหมอผู้เป็นน้องชายได้เล่าให้ คุณหมอท่านอื่นได้ทราบครับ

    ที่เล่าให้ฟังนี้เพื่อปรารถนาป้องกันไม่ให้เกิดมิจฉาทิษฐิเข้าใจว่าไปปฏิบัติธรรมแล้ว ทำไมเกิดผลแบบนี้

    ต้องอธิบายว่า ภาวะที่คุณหมอได้ละสังขารไปในครั้งนี้สบายที่ที่สุดแล้ว ไม่รู้สึกกลัว ไม่รู้สึกเจ็บปวด วูบเดียว ก็จุติทันที

    หากละสังขารโดยอาการเจ็บป่วย ก็ย่อมเกิดทุกขเวทนา
    ดังนั้นภาวะการละสังขารของแต่บุคคลก็เป็นไปตามแรงอธิฐานและอำนาจของกฏแห่งกรรมที่พาไป

    แต่จุดสำคัญที่สุดก็คือ สุขคติภูมิ อันมีพระนิพพานอันเป็นแดนเกษมเป็นที่สุดแห่งทุกข์ เป้นจุดหมายปลายทางนั่นเอง

    จงอย่าได้กลัวความตาย แต่จงกลัวที่จะการกระทำชั่ว

    ผู้ทำแต่กรรมดี ย่อมมีสุขคติเป็นที่ตั้ง
     
  12. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    เหมือนคนที่เป็นครูจากภาคเหนือ ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน แต่ประสบอุบัติถูกรถชนเสียชีวิตระหว่างทาง วิญญาณไปปรากฏที่วัดไปกราบหลวงพ่อจรัล มีพระหลายรูปเห็นวิญญาณครูคนนั้น ทำให้หลายคนหมดความสงสัยในเรื่องโลกวิญญาณ นรก สวรรค์เลย
    ผมสวดคาถาหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และของหลวงพ่อจรัล และอุทิศบุญกุศลให้ เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์และวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ตามเส้นทางที่ไป ขอเบิกทางและขอโปรดคุ้มครองให้เดินทางสะดวก ปราศจากอุปสรรค อุบัติภัย
     
  13. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    วันพุธ 14 พ.ค.นี้ มีพิธีการต่อชะตาหลวงพ่อจรัญ ที่วัดอัมพวัน เวลาเก้าโมงเช้า ขอเชิญท่านใดมีเวลาว่างไปร่วมพิธีกันค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้สวมชุดขาวเข้าร่วมพิธีค่ะ
     
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1176622 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>marine24<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1176622", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:07 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    อายุ: 47 ปี
    ข้อความ: 1,012 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,032 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 12,101 ครั้ง ใน 919 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1217 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1176622 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เหมือนคนที่เป็นครูจากภาคเหนือ ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน แต่ประสบอุบัติถูกรถชนเสียชีวิตระหว่างทาง วิญญาณไปปรากฏที่วัดไปกราบหลวงพ่อจรัล มีพระหลายรูปเห็นวิญญาณครูคนนั้น ทำให้หลายคนหมดความสงสัยในเรื่องโลกวิญญาณ นรก สวรรค์เลย
    ผมสวดคาถาหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และของหลวงพ่อจรัล และอุทิศบุญกุศลให้ เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์และวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ตามเส้นทางที่ไป ขอเบิกทางและขอโปรดคุ้มครองให้เดินทางสะดวก ปราศจากอุปสรรค อุบัติภัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำหรับพี่มารีนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อน้องๆมากครับ

    ปกติพี่เขานอกจากจะสวดมนต์ดังกล่าวแล้ว ยังทำวัตรเช้าไปในรถในระหว่างเดินทางไปทำงานด้วย

    ส่วนในขณะขับรถก็สามารถจับลมสบายทรงภาพพระพุทธเจ้าได้ไว้เสมอตลอดเวลาในการขับรถและเดินทางไหนมาไหนครับ เป็นผู้ยืนยัน การปฏิบัติ และผลในการปฏิบัติได้อย่างชัดเจนครับ แคล้วคลาด ปลอดภัยมาตลอดครับ สาธุ
     
  15. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

     
  16. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...รูปจรวยชมชอบ
     
  17. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สัมผัสธรรม

    ...รื่นระรื่นรวยรินกลิ่นแก้วกุดั่น
    สีสวรรค์สรรค์ว่าขาวราวเพชรใส
    ดั่งมงกุฎสวมครอบคอยปลอบใจ
    ต้นและใบเลื่อยเลาะเกาะกำแพง
    ...โชยชะชัดชื่นใจมิมีแพ้
    พวงแก้วมณีแน่ไม่หน่ายแหนง
    เลาะรั้วยึดเกาะไม้ไต่ระแนง
    ลิ่วลมแรงแข่งกลิ่นขับขจร
    ...พวงไขมุกลุกวาวสกาวสี
    ขาวเหลืองดีสีสวยงามสมร
    จำปีตอบจำปารับไม่แง่งอน
    ราตรีฟ้อนขจรส่งดงสุคนธ์
    ...กลีบเรียวเล็กใบบางพายพัดแผ่ว
    โอ้ดอกแก้วโปรยกลิ่นทุกแห่งหน
    ลั่นทมอบอวลกลิ่นทั่วสกล
    พุดยุคลมะลิปรุงฟุ้งกระจาย
    ...สายลมพัดพาไอดินกลิ่นหอม
    ดอกพะยอมโปรยฟุ้งจรุงสมัย
    พุทธชาดลำดวนยิ่งยวนใจ
    นางแย้มพรายปีบตันหยงดงดมดอม
    ...หอมเอยหอมหอมเย็นเช่นดอกไม้
    หอมเอยไกลหอมใดที่สุดหอม
    หอมเอยกลิ่นกรุ่นละมุนอบอุ่นออม
    หอมเอยหอมความดีนิรันดร์กาล
    ……………………..…ธรรมดา(ฯ)
     
  18. ดั่งจันทรา

    ดั่งจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +693
    สวัสดี อ.คณานันท์ อีกครั้งครับ
    หลังจากที่ได้ปฏิบัติดูก็เหมือนเย็นที่ใจมากขึ้นครับ พยายามระลึกถึงบุญและสร้างอารมณ์ปีติให้เกิดให้มากที่สุดแต่ก็ทรงอยู่ได้ไม่นานครับ
    ช่วงนี้จะงดสวดมนต์ลงสักนิดนึงเพราะไม่อยากสร้างวิตกให้เกิดมากไป (คิดถูกรึเปล่าไม่รู้ครับ)ส่วนการจับลมสบายนั้นก็พอได้นิดๆหน่อยๆ ก็จะพยายามต่อไปครับ
    ตอนนี้ที่กำลังคุมอยู่คือการวางอารมณ์ใจให้เย็นและอยู่ในแนวของสัมมาทิฏฐิ (เท่าที่ศึกษามานี่ผมชักจะมากไปด้วยมิจฉาทิฏฐิอยู่เหมือนกันครับ)
    อ้อ...ขอความกรุณาจากอาจารย์อย่างสูงด้วยครับ ให้ถือว่าผมเป็นอีกเคสหนึ่งก็แล้วกัน ถ้าวิธีปฏิบัติใดถูกจริต ทำให้ก้าวหน้า วิธีใด/คำภาวนาใดที่ไม่ถูกจริต เหตุที่ทำให้ดี เหตุที่ทำให้เสื่อม ฯลฯ ขออาจารย์ช่วยแนะนำเป็นบทสำเร็จให้ผมด้วยก็จะเป็นพระคุณมากครับ (แนะนำทาง PM ก็ได้ครับ)
    อนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงครับ
     
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625

    สาธุครับ คุณหมอไปสบายแล้ว

    แก้ไขให้ครับ


    "พุทธโธ อัปปมาโณ ธัมโม อัปปมาโณ สังโฆ อัปปมาโณ"
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1178296 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ดั่งจันทรา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1178296", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:37 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2007
    ข้อความ: 86 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 19 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 554 ครั้ง ใน 81 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 57 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1178296 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->สวัสดี อ.คณานันท์ อีกครั้งครับ
    หลังจากที่ได้ปฏิบัติดูก็เหมือนเย็นที่ใจมากขึ้นครับ พยายามระลึกถึงบุญและสร้างอารมณ์ปีติให้เกิดให้มากที่สุดแต่ก็ทรงอยู่ได้ไม่นานครับ
    ช่วงนี้จะงดสวดมนต์ลงสักนิดนึงเพราะไม่อยากสร้างวิตกให้เกิดมากไป (คิดถูกรึเปล่าไม่รู้ครับ)ส่วนการจับลมสบายนั้นก็พอได้นิดๆหน่อยๆ ก็จะพยายามต่อไปครับ
    ตอนนี้ที่กำลังคุมอยู่คือการวางอารมณ์ใจให้เย็นและอยู่ในแนวของสัมมาทิฏฐิ (เท่าที่ศึกษามานี่ผมชักจะมากไปด้วยมิจฉาทิฏฐิอยู่เหมือนกันครับ)
    อ้อ...ขอความกรุณาจากอาจารย์อย่างสูงด้วยครับ ให้ถือว่าผมเป็นอีกเคสหนึ่งก็แล้วกัน ถ้าวิธีปฏิบัติใดถูกจริต ทำให้ก้าวหน้า วิธีใด/คำภาวนาใดที่ไม่ถูกจริต เหตุที่ทำให้ดี เหตุที่ทำให้เสื่อม ฯลฯ ขออาจารย์ช่วยแนะนำเป็นบทสำเร็จให้ผมด้วยก็จะเป็นพระคุณมากครับ (แนะนำทาง PM ก็ได้ครับ)
    อนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุญาต ตอบครับ

    อันที่จริงเราต้องทรง ลมหายใจสบายเอาไว้ให้เป็นปกติครับ ตลอดเวลาที่เราระลึกรู้ได้

    เมื่อทรงเอาไว้ได้แล้ว จิตจะตั้งมั่นเกิดเป็นสมาธิเอง
    หลังจากนั้น เราก็ค่อยๆ ฝึกให้การแผ่คลื่นเย็นจากดวงจิตของเรา แผ่เมตตาออกไปเป็นปกติ จนคนที่อยู่ใกล้เราก็ดี สัตว์ทั้งหลายก็ดีสัมผัสได้ถึงความเย็นความสงบ

    ในระดับนี้เราจะพบว่า ใจเราเย็นขึ้น มีความสงบ ปิติ และทรงอารมณ์ใจที่เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา

    ทำจนเป็นปกติ

    จากนั้นทรงภาพพระพุทธเจ้าเป็นพุทธนิมิตร แจ่มชัดในดวงจิต ลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น (ในจิต)

    เมื่อจิตเราตั้งมั่น สงบระงับ มีพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ สูงสุดแล้ว ก็ค่อยๆพิจารณาวิปัสนาญาณ ไปทีละน้อย ทีละน้อย

    ด้วยจิตที่เป็นอุเบกขาในสังขารร่างกาย จนจิตเรารู้ทันภาวะความเป็นไปในขันธุ์ห้า ร่างกาย ทรัพย์สมบัติทั้งปวง และไม่ไปยึดไปเกาะจนเกิดทุกข์

    จิตก็จะยกระดับขึ้นไปทีละน้อยๆ

    ข้อควรระวังก็คือ จงอย่าได้วางอารมณ์ใจหนักเกินไป อย่าไปเครียด ไปกังวล ไปอยาก มากนัก ทรงอยู่ในอารมณ์สบายเอาไว้ตลอด วางจิตเราเบาๆ เย็นๆเอาไว้

    อย่าทำอะไรที่ทรมานกาย

    ส่วนข้อต่อไปก็คือเมื่อความเป็นทิพย์ปรากฏ ก็จง อย่าไปตื่นเต้น พิจารณาก่อนด้วยจิตที่เป็นอุเบกขา ไม่เชื่อทันที และไม่ปฏิเสธทันที ใช้อารมณ์อุเบกขา แล้วจึงใช้ปัญญาประกอบ

    หากเรื่องที่รู้เพิ่มกิเลส เพิ่มความยึดติด เพิ่มความหลง ก็จงปล่อยวางเสีย

    หากเป็นเรื่องที่ทราบแล้ว ทำให้ก้าวหน้าเจริญในธรรมก็จงพิจารณาใคร่ครวญก่อน ให้รอบคอบแล้วจึงเจริญธรรมนั้นต่อไป

    การบรรลุธรรมขั้นใด สมาธิขั้นใดไม่ต้องไปสนใจ มีมารมาหลอกเสมอ สมจริงมากด้วย

    เราพิจารณาดูแต่เพียง ว่า เราปฏิบัติแล้วจิตสงบขึ้นหรือไม่ กิเลสเบาบางลงหรือไม่ จิตปล่อยวางได้มากขึ้นหรือไม่ สังโยชน์สิบ บางลง ขาดไปหรือไม่

    และเป้าหมายในเส้นทางธรรมของเราชัดเจน แจ่มชัด มั่นคงขึ้นหรือไม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...