นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

ของดี ก็คือ ของดี สมเด็จ option ครบ แค่เม็ดชนวนหนุมานก็หายากแจ่มแล้ว บวกเม็ดชนวนท้าวเวสสุวรรณเนื้อชนวนอีก เข้าพิธีมาแล้ว

แต่อย่างไร ดีทุกองค์ครับ ตามแต่ชอบ ถูกโฉลกกัน

ได้นำสิ่งดี ๆ มานำเสนอ และได้ทำบุญไปด้วย ถือว่าคุ้มค่าแล้ว....

 

การันตีว่า .. รุ่นนี้เด็ดทุกองค์ ทุกพิมพ์ครับ ผมยังเลี่ยมห้อยด้วยเลย...

การนำมวลสารเดิมเสกอัพเกรดภาคเหนือ ได้มวลสารเพิ่ม มรดกครูบาอิน และขึ้นรูปพระไปเสกภาคตะวันออก ภาคอีสาน รวม 3 พันกิโล เหนื่อยนะครับ ....

ไม่นับตอนครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาก่อนเสก ท่านชมเชย(ไม่ใช่ยัดลังไปเสกโดยท่านไม่รู้อะไรนะ)

จึงดีเกินบรรยาย ท่านใดได้ไปต้องลองเองครับ... ไม่ต้องมีคาถาใดๆ มีใจที่นับถือศรัทธาพอ สวดมนต์ปกติของชาวพุทธนี่ละครับ แล้วจะพบความอัศจรรย์ (คนสร้างย่อมรู้ดี พาไปเสกเองนะ)

 

ได้รับคำชี้แนะจากสหายธรรม กัลยาณมิตรท่านนึงที่พึ่งบูชาพระไปครับ ช่วยกันออกความเห็น

จริง ๆ เรื่องพวกนี้เป็นปัจจัตตัง ดังที่ผมเองก็สังเกตุตัวเองจากตอนได้ผงมาแล้วครับ สร้างมา 3 รุ่น ก็ตามที่เห็น

จากตะก่อนมุ่งสายปราบ หาของดีมาซะมาก อยู่ ๆ ก็เบื่อขึ้นมาซะงั้น ก็จากพระผงนี้ล่ะครับ ขยันสวดมนต์มากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้บูชาไปก็ลองอาราธนาห้อยดูครับ ไม่ยาก แค่มีศรัทธานับถือ(ดังหลวงปู่ใหญ่บอก ..ให้คนที่ศรัทธานะ) ไม่ใช่ของสูงส่งที่เราต้องสะอาดบริสุทธิ์อะไรมาก (ผมสังเกตุเราจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองกันเองครับ)

และแม้เกิดเหตุร้ายอะไรเราก็จะผ่านไปได้ด้วยอำนาจกุศลที่เราทำมา

ถ้าติดตามกระทู้นี้บูชาอะไรไปก็ถือว่ามีบุญวาสนาแล้วครับ เพราะค่าบูชาผมก็กระจายไปทำบุญมาตลอดครับ ไม่ได้มาขายของอย่างที่บอกไปแต่แรก อารมณ์ดีก็สร้าง เบื่อก็หยุด

จากที่มุ่งสายปราบมามาก ก็เลยสงบจนไม่รู้จะปราบใคร ใจก็สงบขึ้นด้วยครับ

ขอให้ผู้บูชาอาราธนาใช้ให้เกิดผลนะครับ สร้างมา 3 รุ่นแล้วยังไงก็คงมีกันซักรุ่นล่ะครับ

 

หลักการอย่างนึงที่หลวงปู่ท่านสอนมา (เกศาท่านในพระนั่นล่ะครับผมยึดเป็นหลักเพราะท่านสายตรงหลวงปู่โต)

หากเราเชื่อมั่นใจคำสอนของพระพุทธเจ้า เราทำดีก็อย่างน้อยอย่าได้ทำบาปอะไรมาก สวดมนต์ทำสมาธิ อำนาจกุศลและอำนาจพระจะทำให้เราผ่านพ้นได้เองครับ

ถามว่าคนเรามีความกลัวไหม ? มีนั่นล่ะครับกลัวอนาคตที่มาไม่ถึง แต่ถ้าเชื่อมั่นและทำดี อย่ากลัวเกินเหตุ และมีสติรับมือตลอดเวลา อำนาจพระที่เราห้อยก็จะออกมาเองครับ

เราต้องช่วยตัวเองก่อนนะ คือมี ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วพระจะมาช่วยเอง

ผมเชื่อว่า ผมได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดแล้วครับให้กับผู้บูชาทุกท่าน ไม่ได้ตั้งราคาอะไรแพงมาก น้อยกว่ากินสุกี้มื้อนึงอีก55

ผมเองก็ปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงได้ตัดขาดหลายๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างแล้วครับ มาอ่านรีวิวจากสหายธรรมเลยเข้าใจ อ้อ พระเปลี่ยนแปลงเรานี่เอง

ซึ่งแน่นอนเมื่อก้าวมาขนาดนี้แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไปล่ะครับ เพราะเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ซะอย่าง ...
ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขสมหวังกันนะครับ.. อย่าเอาไปใส่ถุงขึ้นหิ้งนะ ไปเลี่ยมห้อยกันนะครับ แล้วจะพบความอัศจรรย์

 

พรรคพวกผมได้ถวายวัดไปเรียบร้อย พร้อมปัจจัยร่วมสร้างเจดีย์

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมได้สวดบทธรรมจักรฯ จนวันออกพรรษาตามตั้งใจ
นับว่ามีเรื่องบังเอิญหลายเรื่องที่ได้พบหลังจากออกพรรษาดังนี้..

1.มีท่านนึงรอตะกรุดสุดฮอตไลน์มาชวนคุย.. เล่นเอาผมคึกตาม คือเป็นสุดยอดวิชาภาคกลาง ผมก็ว่าถ้าได้ขอแบ่งซักดอกเน้อ ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าทำใจเพราะทุกวันนี้แค่ที่มีก็พกไม่หวาดไม่ไหวแล้ว55

ทีนี้ว่าง ๆ เลยไปลองค้นวิชาสายภาคกลางดู อย่างที่เคยเล่าผมเคยเช่าตะกรุดมหาระงับจากวัดนึง ตอนนั้นพรรคพวกมาปลุกกระแส คือนัดเจอกันในเดอะมอล์มานั่งโม้กันเลย

ผลคือไปใช้ไม่ได้ผล ไอ้ขลังน่ะไม่ปฏิเสธตอนนั้นยังไม่เข้าใจเรื่องกระแสพลังมาก สุดท้ายไปตรวจกระแสกันหลายท่านคือ หลักวิชาไม่ครบ ก็งง เรื่องเสกตอนนั้นก็อ่อนต่อโลก ทางวัดก็จัดเสกหมู่

มันแปลกแต่จริงเรื่องนี้มันหลายปีมาก ๆ แล้วเป็น 10 กว่าปีได้

ล่าสุดหลังค้นเรื่องตะกรุดในตำนานภาคกลางไป ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ใดเด็ดจริง เลยเกิดไอเดีย ถามผู้รู้ประสบการณ์ชีวิตมากดีกว่า เลยไปถาม พี่ท่านที่มอบผงหลวงปู่โตให้

พี่ท่านนี้ มีอาจารย์ดีที่เชี่ยวชาญตะกรุดสายภาคกลางและภาคใต้ เพราะเรียนมามาก

สุดท้าย เหตุผลที่สงสัยมา 10 กว่าปีเลยโป๊ะแตก อาจารย์ของพี่เขาเป็นฆราวาสเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดให้วัดดังที่ผมเคยเช่ามานี่เอง55

ผมก็บ่น อ้าวเห็น จารมาพลังไม่ครบสูตร ไม่ใช่แต่ผมนะ พรรคพวกที่ตรวจกระแสเก่งก็มาบ่นเช่นนี้

พี่แก บอกว่า "อาจารย์ไปสอนจารตะกรุดให้แต่เห็นแล้วว่า วัดเขาเน้นทำขาย ขายดอก 5 พันก็มี แต่วัดทำขายเลยพูดอะไรไม่ได้ ถ้ามีเหตุเรื่องเงินกะขายมากไปพลังก็จะไม่ครบสูตรฯ"

"และอาจเน้นทำขายก็เลยใช้ศิษย์จารแล้วพระที่เรียนก็มาจารตัวครู"

ส่วนการนำของมาเสกหมู่ ก็หลักการตรงกับเขาว่า ไม่แนะนำ เพราะอาจารย์ของพี่เขาก็เสกเดี่ยวตามตำรานี่เอง บางทีเสกกัน 3 เดือน 9 เดือนก็มี และแน่นอนราคาก็จะแพงมาก เพราะใช้เครื่องบวงสรวงเยอะตามสูตร

ทีนี้ผมเลยถามเรื่องที่สงสัยมานาน คือ ตะกรุดมหาระงับภาคกลาง ตามสายวิชาตักศิลาภาคกลาง ว่าทำไมถามหลายที่มีการอั้นวิชากันจัง

พี่เขาก็อธิบายตามอาจารย์บอก โดยปกติ การสืบทอดก็จะมีการอั้นหลักวิชา สอนไม่ครบกันมาก หากไม่ใช่ก้นกุฏิกันจริงๆ และการนำตำรามาเรียนเองก็จะผิดเลย เพราะการจารอักขระ เปรียบเทียบง่าย ๆ บางทีจะเปรียบเทียบเหมือนหนังสือจีนที่อ่านจากบนลงล่าง มีการสลับวิชา คือผู้ที่เรียนจริง ๆ เข้าใจเป็นต้น (เขาใช้คำพูดอธิบายตามอาจารย์ลำบากเพราะยากแก่การเข้าใจ)

วิชามหาระงับที่อาจารย์เขามีไม่ทำให้พี่เขา เพราะบอกมันจะระงับโชคลาภไปด้วย55

คือวิชามหาระงับในตำนานสมัยก่อนสร้างมาใช้รบทัพจับศึก ดังที่ว่าใช้ในศึกสงคราม ต้องเข้าใจว่าจะระงับโชคลาภไปด้วย นอกจากอาจารย์ผู้จารเข้าใจหลักวิชา พลิกแพลงนำสูตรมาใช้จริง ๆ ถึงจะแก้ไขตรงนี้ได้

ดังคาถาบางจุดที่ว่า ...ระงับอินทรา ระงับมนุสสา ระงับปีศาจ... คือ ศัตรูก็มีของดีก็จะไประงับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเขาอยู่

และอีกประเด็น ตะกรุดในตำนานภาคกลางจะเห็นดอกยาว ๆ ทั้งนั้น55 เช่น 12 นิ้ว 9 นิ้ว หากเป็นยุคนี้คาดเอวลำบากแน่ ทีนี้หากเรานิยมดอกสั้นๆ ท่านก็จะไม่ทำเพราะลดจำนวนอักขระเลขยันต์ไป

สรุป นี่คือวิชาทำตะกรุดที่จากที่เราบูชามานะครับ ฟังไว้เป็นความรู้เป็นต้น เราใช้ของเราดีเราก็ถือว่าแจ่มแล้ว (โดยเฉพาะเมื่อก่อนที่ผมไปควบคุมเองนะครับ ณ ปัจจุบันอันนี้ไม่ออกความเห็น)

 

2. ประมาณต้นปี ช่วงผมว่าง ๆ ก็เข้ากลุ่มพระหลายกลุ่ม ส่องของไปเรื่อยครับ55

และได้พบหลวงปู่ท่านนึงสายอีสาน ทีนี้ประเด็นหลักวิชาท่านน่าสนใจต่างจากที่พบเห็นทั่วไป คือท่านมาสายหมอธรรม ตรงกับที่ผมร่ำเรียนมา

คำว่าหมอธรรม ก็คงคล้าย หนานของทางเหนือ

อย่างที่ผมเรียนสายหลวงปู่โน ศิษย์ฆราวาสก็จะแต่งคาย (เครื่องบูชาครู) แล้วทำพิธีรักษาคนนี่เอง ซึ่งชาวบ้านเรียกเราว่า หมอธรรม

ประเด็น หลวงปู่ท่านนี้เรียนมาสายนี้ ผมได้บูชาของท่านมาชิ้น 2 ชิ้นในช่วงต้นปี (ขี้เกียจเช่ามาก) ผลการตรวจกระแสน่าสนใจมาก ๆ เพราะล้ำเลิศต่างจากที่มีอยู่

ผมจึงร่วมทำบุญกับท่านหลายครั้งผ่านศิษย์ของท่านครับ

และไม่นาน ต้นเดือนตุลาคม ท่านมรณภาพ ก็ได้ร่วมทำบุญไปด้วยครับ และได้ถามของดีแจ่มๆ ที่มี ก็มี แต่ ๆ ๆ หลังท่านมรณภาพเขาล็อคห้องท่านไว้ รอเวลาเปิดห้อง

คำว่าของดีที่ผมรอคอย ไม่ใช่พระเครื่อง วัตถุมงคลอะไรนะครับเพราะมีเยอะแล้ว แต่สนใจสิ่งสำคัญ และตรงกับหลักวิชาที่จะมาเล่าต่อไป ซึ่งวางแผนไว้แต่ต้นปี ถือว่าเป็นงานตกค้าง และมีเหตุการณ์สำคัญที่ต่อเนื่องในเวลาต่อมา

โครงการนี้น่าจะสำเร็จปลายพฤศจิกายนครับ... เป็นหลักวิชาที่ตรงกับที่ผมร่ำเรียนมาและได้โอกาสประจวบหลายอย่างให้ต่อเนื่องกัน...

หลักวิชานี้จะรวมของดีสายพระที่มีให้เป็นหนึ่งเดียว และเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้...

 

หลังจากที่ผมยกครู สายหลวงปู่โนมาหลายปีก่อน แน่นอนตอนทำพิธีก็แต่งคาย และทำพิธีแบบหมอธรรม แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมาก ให้บรรดาศิษย์ท่านอื่นทำไป55

การนำหลักวิชาท่านมาใช้ก็ได้ผลดียิ่ง แต่ปัญหาล่าสุดตามผมเคยเล่าเกริ่น ๆ ไปเมื่อก่อน ผลคือทำให้กุมารทองผมเดือดร้อน พลังลดจนแทบเกลี้ยง

ส่งไปขอครูบาชัยท่านอัพเกรดให้ ท่านก็ตอบตรงนะ ไปกวนตีนครูบาอาจารย์เข้า

ทีนี้ในหลักวิชาต่าง ๆ ที่ผมร่ำเรียนมามีการอาศัยอำนาจสูงสุดต่างๆ ซึ่งผมจะเล่าต่อไป หลังผมได้ของวิเศษนะครับ

ถามว่าสำคัญอย่างไรเพราะเป็นแก่นแท้ของหลักวิชาในสายหลวงปู่โนเลยครับ นอกจากเรื่องคาถาอาคม ที่ผมสนใจคือของดีที่จะสร้างเป็นวัตถุมงคลได้ เพราะเรา ๆ ก็ไม่ใช่จอมขมังเวทย์

ต่อมาตอนผมนำรุ่นมณีรัตนมงคลไปเสกล่าสุด หลวงปู่ท่านสุดท้ายก็แนะนำมาตรงประเด็น และบอกให้รอสร้างของดีนี้ขึ้นมา

เหตุใดต้องรอปลายพฤศจิกายน ??? เพราะจะได้ของดีมาประมาณช่วงนั้นล่ะครับ มีองค์ประกอบหลายอย่างถึงได้ตัดสินใจว่าจะไปให้ถึงที่สุดครับ...

 

สอยมาดอกนึง ของอาจารย์ของพี่เขาครับ

เป็นหลักวิชาภาคกลาง ในภาพเป็นยันต์มงกุฏพระเจ้าหรืออิติปิโสเรือนเตี้ย ยันต์โสฬสสายหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงในตำนาน

และผมได้ขอให้อาจารย์ท่านทำตะกรุดแบบพิเศษให้ด้วย...

 

จริง ๆ ผมไม่ได้ใส่ใจในการไขว่คว้าตะกรุดอะไรอีกนะครับ เพราะเรียกว่าเจอไม้งามยามขวานบิ่นแล้ว เพราะที่มีก็พกไม่ไหวแล้ว 55 ผมไม่ค่อยชอบคาดเอวตะกรุดด้วย

เคยคาดเอวเวลาจวนตัวฉุกเฉินจริงๆ ตามเคยเล่า พอผ่านพ้นก็จบ พอดีชอบแพ้เหงื่อด้วยพอเหงื่อออกโดนตะกรุดหรือเชือกคาดจะทำให้คันเป็นผื่น

ถือว่าห้อยคอไปง่ายกว่า

จริงๆ อย่างเรื่องสายหลักวิชาตะกรุด พอเราหาอ่านในเน็ตในเฟส หลายที่ก็มักเชียร์ของสายตัวเอง

บางทีก็โจมตีเรื่องการสืบทอดวิชาในตำนานกันมั่ง แม้ผมได้คุยกับพระเกจิที่ทำของออกมาหลายท่าน ก็จะมีปัญหาเรื่องการร่ำเรียนสืบทอด เรา ๆ จึงเอาจากหลวงปู่จารเองแท้ ๆ สบายใจกว่า

แต่ ผมก็ได้สาระมาหลายอย่างใน 2 วันนี้จากผู้รู้จริง ๆ และใช้ของมายาวนานหลายสิบปีจริง ๆ มาก (อย่างที่ว่า พี่ที่มอบผงหลวงปู่โตให้ก็อายุเกือบ 60 แล้ว)

อย่างตะกรุดโสฬสผมก็ฟังเพลิน ๆ ดี เพราะเคยอ่านในเฟส เจ้าตำนานตะกรุดโสฬสของไทย เรียกว่าแตกสาขาไปมากถ้าจะหาในปัจจุบันนี้ก็ลำบากแล้วล่ะครับ

อย่างตำนานว่าต้องเสก 3 ปี เสกคาถาพันจบ ใครจะหาทำในยุคนี้ล่ะครับ55

เราหาแบบของเราดีกว่า ที่ผมได้เผยแพร่มาก็สุดยอดแล้วครับ เพราะไปคุมเอง ตอนเสกผมก็ทำบุญตอนเสกเองด้วย หายห่วง...

 

ชุดประจำกายของผู้ใหญ่ท่านนึงครับ...

 

เมื่อ 10 กว่าปีก่อนดังเล่าผมเสาะหาตะกรุดแจ่ม ๆ แน่นอนในการนั่งโม้กับพรรคพวกที่เดอะมอลก็มีการคุยเรื่องยาจินดามณีด้วย

จริง ๆ ยาจินดามณีหาไม่ยากนะครับ มีหลายที่ราคาไม่แพง ปัญหา สรรพคุณตามตำนานนั้นล้ำเลิศเหลือเกิน ขอยกตัวอย่างจากที่เผยแพร่ในเน็ตนะครับ

เครดิต
https://www.myamulet.com/products_detail/view/7129714

ตำรับการสร้างยาจินดามณี หรือยาวาสนา ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดั้งเดิมนั้นเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์อย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยา แยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับยาพรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆ ในเบื้องต้นของของตำราว่า

“จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป้นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย ”

นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่าสมุนไพร ชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสาน สมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสัดส่วนว่าส่วนไหนใช้เท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วก็เอาเครื่องยามาประสม กันมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสตหนึ่ง

การจัดพิธี ท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยม ให้จัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วย ผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลง ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุ และฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกัน

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาจะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ภาวนาตลอดระยะเวลาการปั้นเม็ดยา และยาที่ปั้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์อีกอย่าง น้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร


นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ

เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง 8 ตำลึงทองแล

 

จะเห็นได้ว่าสรรพคุณนั้นล้ำเลิศสุด ๆ มีเป็นมหาระงับ มหาลาภด้วย

ตอนนั้นผมกับพรรคพวกก็ไปบูชามาที่วัดดังที่เอาตะกรุดนั่นล่ะครับ

ผู้สร้างก็ได้บรรยายสรรพคุณไว้ ดังเช่น กินแล้วถอนยาสั่งได้ แก้คุณไสยได้ และสูตรก็ครบถ้วน

ปัญหาสูตรครบถ้วนคืออะไร ??

พระท่านเล่า ก็ไปเรียนสืบจากวัดต้นตำรับมา หากนับรุ่นก็น่าจะรุ่น 3-4 ได้ ทีนี้เขาเล่ามีการอั้นตำรา (อีกล่ะ) คือบอกสูตรมาไม่ครบ ถามว่ารู้ได้ไงไม่ครบ ท่านบอก ก็ไปเรียนจากอีกท่านที่เรียนจากต้นตำรับวิชามา ถึงรู้สูตร 2 ที่ไม่ตรงกัน ขาดตัวยาไปตัวนึง(พอเอามาเทียบสูตรกันนะ)

สูตรของที่นี่เลยครบ ตัวยาแพง ๆ ก็เช่น อำพันทอง หรืออ้วกปลาวาฬ และนอแรด (เห็นว่าราคาเป็นแสน)

เราก็ดีใจว่าได้ของดีครบสูตร บูชามา ก็มาลองกินดู ก็คึกดีนะครับ ขนาดเช่ายกกลุ่ม แล้วไปเสกต่อ

ข้อสังเกตุยิ่งเสกมากยิ่งขลังมาก ถึงว่ามีการนำตัวยาไปทำเป็นพระเครื่องห้อยกันเลย

วันเวลาผ่านมาสรรพคุณได้ตามร่ำลือหรือไม่อันนี้ไม่ออกความเห็น เพราะเลิกสนใจกันหมดแล้ว55

จนผมสงสัยเอ๊ะแล้วในตำนานที่ร่ำลือขนาดพลิกชะตา มหาระงับ ล้ำเลิศนั่นคงต้องเอาจากต้นฉบับในตำนานแล้วล่ะครับ แต่ราคาก็แพงเกินเอื้อม...

จนผู้รู้แนะนำ แม้เราไปหาของในตำนานไม่ได้ ก็เอาจากศิษย์สายตรงสืบทอดวิชาก็ได้

ก็เลยได้รับตัวยาจินดามณีเป็นผง ซึ่งผู้ให้รับรองว่าจากศิษย์ใกล้ชิดต้นตำรับยาในตำนานเลย

ความขลังไม่ต้องพูดถึง แต่สมัยนี้คงไม่กล้าเอามาลองกินดูแน่ครับ55

 

ผงยาจินดามณีที่เห็น คือผงที่จะนำมาผสมสร้างพระนะครับ เพราะเป็นของเก่าแล้วมีอายุน่าจะเกิน 30 ปีของแท้ๆและครบสูตร บวกกับพลังจิตของผู้เสกครบเครื่องนั้นหายาก

ผมต้องการสรรพคุณด้านป้องกันโรคภัย มหาระงับ มหาลาภและเสริมดวงชะตาซึ่งครูบาอาจารย์หลายท่านก็นำมาผสมสร้างพระกัน

จากที่ได้คุยกับพี่ที่มอบผงมวลสารให้ ตามที่อาจารย์เขาบอก ผมอัศจรรย์ใจในตะกรุดของอาจารย์เขามาก ขนาดเสกเดี่ยวๆ นะครับ คือฆราวาสเสกล่ะ

อย่างรุ่นพี่เขาเองก็มีของดีมากมาย ชนิดที่พระเครื่องผมเองได้แต่มองน้ำลายหยดแหมะ ๆ ดังที่เขาเล่าเขาออกพระสมเด็จแท้ ๆ ไปองค์นึงซื้อบ้านเดี่ยวได้เลย ผมเองก็ไปบ้านเขาแล้วตอนรับผงมวลสาร

เขายังใช้ตะกรุดของอาจารย์เขาเลยครับ ผมถาม "พี่ได้นำไปเสกเพิ่มไหม??"

เพราะหากเป็นผมเองก็คงเสกเพิ่ม เราจะมั่นใจในอาจารย์ฆราวาสได้แค่ไหน ??

พี่เขาตอบ "ไม่เลยครับ นอกจากเจออาจารย์ก็ขอให้ลงเพิ่ม"

และเขาใช้ตะกรุดของอาจารย์เขาเองมา 20 กว่าปี

ด้านราคาต้องยอมรับว่าแพงมาก สร้างน้อยเพราะอาจารย์เขาอายุมากแล้วเป็นนิ้วล็อคด้วย และเสกก็ไม่ใช่ง่ายๆ แบบที่เราพบ คือซื้อเครื่องบวงสรวงมาครบสูตร เรียกว่าทำกี่ดอกก็ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม

เสกกันทีเป็นเดือนๆ

ปัญหา ในสายหลักวิชาเขา ที่ยุคใหม่ ๆ ทำ อาจารย์เขาบอกเอง ว่า "อักขระไม่ครบ" คือการร่ำเรียนวิชาอาคมของไทย คงเพราะค่านิยมกลัวศิษย์ล้างครู เวลาสอนจึงสอนกันไม่หมด หรือเพราะทดสอบปัญญา

ดังนั้นเราเน้นของเก่าจะดีที่สุด...

 

พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี จนมีผู้นับถือในการปฏิบัติ ไม่เรี่ยไร ไม่ออกวัตถุมงคลที่วัด คือมีศิษย์มาสร้างให้ด้วยใจบริสุทธิ์ และศิษย์ก็จัดการให้บูชาเอง เรียกว่าหลวงพ่อปฏิบัติธรรมอธิษฐานให้อย่างเดียว

จนสร้างวัด สาธารณประโยชน์โดยเฉพาะโรงพยาบาลมาได้ นับว่าหายากยิ่ง

สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานหรือแจกก็มีอภินิหารมากมาย

ศิษย์บางท่าน เรียกว่านำทองคำ 9 บาทสร้างพระให้ท่านแจก หรือนำทองคำ 9 บาทสร้างพระออกองค์ละหมื่น จนสร้างโรงพยาบาลได้

ศิษย์มาประมูลกันราคาสูงมาก ผมได้แต่มองน้ำลายหยดแหมะ ๆ 555

ไม่ต้องสงสัยความเป็นพระอริยเจ้าของท่านครับ

ในภาพ ผงบดจากข้าวก้นบาตรท่านถือว่าเป็นมงคลยิ่ง หนึ่งในมวลสาร รุ่นพระเจ้าครอบไตรภพ...

 

ตอนนี้จะเข้าพฤศจิกายนแล้ว ดังเล่าตอนเสกรุ่นมณีรัตนมงคลเสร็จผมได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่ทุก ๆ ปีจะไปหาท่าน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อดูดวง55

คำทำนายของท่านที่ฟังมา 10 กว่าปี ก็ตรงหมด

ตอนนี้คำทำนายที่ท่านทายไว้สำหรับเดือนพฤศจิกายนเริ่มเห็นชัดมาล่ะ

ตอนนำพระให้ท่านสัมผัสกระแส ท่านก็แนะนำให้สร้าง พระเจ้าครอบไตรภพด้วย

ผมก็ว่าจะได้ทำเหรอเพราะค้างคามายาวนาน บวกกับการมีนิมิตต่างๆ ก็ต้องค่อยๆ ปะติดปะต่อ

ทีนี้ จะมีเรื่องราวอย่างไรจะค่อยๆ เล่าครับ...

 

ดังผมเล่า ช่วงต้นปีผมได้รู้จักครูบาอาจารย์ท่านนึง อายุ 91 ปี โดยสิ่งดึงดูดคือท่านมาสายหมอธรรม ตรงกับผมร่ำเรียนมา

จึงได้บูชาวัตถุมงคลมา 1 ชิ้นที่พึ่งออกต้นปีนั้น ได้นำขอครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาก็แปลกใจมากในกระแสพลัง ความพิสดารและล้ำลึก คือ มากกว่าการเชียร

จริงอยู่ท่านอายุมากแล้ว ของที่บูชามาก็ของทั่วไปตามท้องตลาด พูดง่ายๆ หลวงปู่แค่เสกให้แต่ก็พิสดารล้ำเลิศมาก

และความน่าสนใจ ครูบาอาจารย์ได้พิจารณาแล้วว่า ท่านสำเร็จวิชาตรงกับที่ผมสนใจ และครูบาอาจารย์หลายท่านทักมา คือวิชาเชิญบารมี "พระเจ้า 5 พระองค์ หรือพระเจ้าครอบไตรภพ..." !!!!! (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ ครูบาอาจารย์ผมบอกมาเช่นนี้ )

ในภาพ เกศาท่าน ดังที่เคยบอก ท่านมรณภาพไปแล้วเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงเป็นเกศารุ่นสุดท้าย หนึ่งในมวลสารครับ...

 

ตำนานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

อ้างอิงเครดิต
http://www.culture.go.th/culture_th/ewt_news.php?nid=5448&filename=index

พระนามของพระพุทธเจ้าใน "ภัทรกัป” นี้ ได้แก่ พระกกุสันโธพุทธเจ้า พระโกนาคมโนพุทธเจ้า พระกัสสโปพระพุทธเจ้า พระโคตโมพุทธเจ้า และพระศรีอาริยเมตไตรโยพุทธเจ้า หรือที่เรียกรวมกันว่า "พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์” ซึ่งพระโคตโมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ในภัทรกัปนี้ ก็คือ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่ได้กล่าวถึงตั้งแต่ต้นนั่นเอง ส่วนองค์ที่ ๑-๓ คือ พระพุทธเจ้าในอดีต และพระศรีอริยเมตไตรโย ก็คือ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคตข้างหน้านี้

โดยสรุป ...

เราอยู่ในยุคพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 นี่เองครับ...

 

ตามความรู้ที่ผมทราบมา คือ ในหลักคาถาอาคม เกือบทุกบทในสายพระ และครูบาอาจารย์หลายท่านก็สอนมา อย่างที่รู้กันคือ นะ โม พุท ธา ยะ

นะคือ พระกกุสันโธพุทธเจ้า

โม คือ พระโกนาคมโนพุทธเจ้า

พุท คือ พระกัสสโปพระพุทธเจ้า

ธา คือ พระโคตโมพุทธเจ้า

ยะ คือ พระศรีอาริยเมตไตรโยพุทธเจ้า

และ บท นะ โม พุท ธา ยะ ยังอาจหมายถึงแม่ธาตุทั้ง 5 ด้วย จึงสำคัญยิ่ง

ตั้งแต่ ปีสองก่อน ผมไปทำบุญครูบาอาจารย์หลายท่าน ก็สอนโดยผมไม่ได้ถามเลย ถึง อำนาจพระเจ้า 5 พระองค์ แรก ๆ ผมยังเฉยๆ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐาน

จนบางท่านตอนผมลากลับ ท่านเดินมาส่งที่รถ ยังย้ำคาถานี้อีก

และเมื่อรำลึกถึง ความรู้สายหลวงปู่โนที่สอนมา ก็เลยนึกออก



อ้างอิง ถ่ายตำราบางส่วนให้ชม ลับสุดยอดจริงๆ นี่คือบทปิดท้ายของหมอธรรมก่อนทำพิธีรักษาคน

คำว่าหมอ คงไม่ต้องบอกนะครับคือรักษา555

ส่วนรักษาอะไรยังไงขอไม่กล่าวถึง เพราะไม่สะดวกออกอากาศ

โดยสรุป นั่นคือหลังบูชาพระทั่วไป อ่านโองการเสร็จ ก็อาราธนาอำนาจพระศรีอาริยเมตไตรมานั่นเอง

ผมมาเข้าใจภายหลังว่า การรักษาคนที่เกี่ยวกับภูติผีปีศาจหรือสิ่งลี้ลับ เราต้องอัญเชิญอำนาจพระโพธิสัตว์นี่เอง เพราะพระศรีอาริยเมตไตรอย่างที่ทราบ ท่านยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่

หากจะอัญเชิญอำนาจพระพุทธเจ้าล้วนๆ ท่านละ ปล่อยวาง มีแต่เมตตาจิตแล้ว คือเหมาะสายธรรมล้วนๆ ไม่เหมาะกับพิธีการดังกล่าวนี่เอง แต่เราก็ต้องอ้างอิงอำนาจท่านก่อน...