เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 9 สิงหาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ต้องบอกว่า "อาบเหงื่อต่างน้ำ" เพราะว่าต้องนำเสนอผลงานของชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ในแนว "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" ให้กับคณะกรรมการของกระทรวงวัฒนธรรมตัดสิน เพื่อชิงรางวัล ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบเที่ยวชุมชน ยลวิถี ซึ่งคัดเลือกจาก ๒๒๘ ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านมาถึงรอบ ๓๐ ชุมชนแล้ว รอบนี้เป็นรอบสุดท้ายซึ่งจะตัดสินว่า เราจะติด ๑ ใน ๑๐ หรือไม่ ?

    คราวนี้การนำเสนอนั้น ผ่านทางระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ ซึ่งพวกเราเองก็ยังไม่เคยใช้นอกสถานที่มาก่อน จึงมีปัญหา ก็คือว่า พอผู้นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวห่างจากโทรศัพท์นิดเดียว คณะกรรมการก็ไม่ได้ยินเสียง พอดีกระผม/อาตมภาพ "ลางสังหรณ์" ดี จึงนั่งประจำการอยู่ตรงนี้ พอเห็นว่าเสียงใครไม่เข้าก็บรรยายแทน ต้องบอกว่าผ่านไปแบบทุลักทุเล ค่อนข้างจะเหงื่อตกกันอยู่นิดหน่อย

    ถ้าให้ตนเองประเมินผลงาน ก็คืออยู่ที่ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากว่าเขาตัดสินกันที่ ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้วผ่าน ของเราก็คงคาบเส้นห้อยต่องแต่ง..! แต่ว่าเป็นเรื่องอะไรที่สนุกมาก เพราะว่าถ้ามีปัญหาหน้างาน จะเป็นการทดสอบว่าเราแก้ปัญหาเป็นหรือไม่ ?

    ส่วนใหญ่แล้วงานทุกประเภท ต่อให้เตรียมตัวมาดีขนาดไหนก็ตาม มักจะมีปัญหาในระหว่างหน้างานเสมอ ดังนั้น..บุคคลที่ทำงานจึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจ นึกถึงด้านที่แย่ที่สุดเอาไว้ก่อน ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นในลักษณะอย่างนั้น แล้วเราจะแก้ไขอย่างไร

    ในการนำเสนอวันนี้ กระผม/อาตมภาพประมาณการขั้นต่ำไว้ ๒ แบบ แบบแรกก็คือไฟฟ้าดับ..! ซึ่งก็ไม่ต้องห่วง เพราะว่าใช้โน้ตบุ๊กในการเปิดระบบซูมออนไลน์ ซึ่งสามารถทำงานต่อไปอีกได้เป็นชั่วโมง อีกประการหนึ่งก็คือฝนตกหนัก จนไม่สามารถที่จะนำเสนอพื้นที่ท่องเที่ยวทางด้านภายนอกได้เลย ซึ่งถ้าหากว่าเป็นตรงจุดนี้ก็ต้องบอกว่าย่ำแย่กันไปหมด

    แต่ก็โชคดีที่ว่า "เทวดาฟ้าดินมักจะเห็นใจวัดท่าขนุน" ช่วงไหนที่มีงานก็มักจะพยายามเว้นให้ แต่ว่าหลังงานนี่ต้องเก็บของให้ทัน หรือว่าต้องหนีให้ทัน..! ไม่อย่างนั้นก็จะต้องชดเชยกับสิ่งที่ตัวเองทำไป ก็คือต้องเปียกฝน แล้วแทบทุกงานของวัดท่าขนุนก็จะเป็นอย่างนี้ จนกระทั่งญาติโยมหลายท่านที่ช่างสังเกตใช้คำว่า "งานของหลวงพ่อวัดท่าขนุน เลิกงานแล้วต้องหนีให้ทัน..!" เพราะว่าบางทีก็ฟ้ามืดมารอบวัดเลย เว้นไว้เฉพาะที่วัด เป็นวงกลมอยู่แค่จุดเดียวเท่านั้น..!

    ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า การที่เราทำบุญ สร้างความดี และอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง ตลอดจนเทวดาทั้งหลายเป็นประจำ ก็ทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นถือว่ามีบุญสัมพันธ์ต่อกัน สามารถที่จะช่วยเหลือเราได้ในบางส่วนที่ไม่เกินกฎของกรรม
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    อีกส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่มหาเสริฐ (พระมหาอุตรา อุตฺตโร) ถามเองว่า "ทำอย่างไรจะให้การนำเสนอเนื้อหาข้อมูล และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ลื่นไหลแบบหลวงพ่อบ้าง ?" ตรงจุดนี้ถ้าหากว่าไม่ถาม กระผม/อาตมภาพก็นึกไม่ถึงว่า ถ้าอยู่ ๆ เราไปถามปลาว่า "ว่ายน้ำอย่างไรได้ลื่นไหลเหลือเกิน ?" ปลาคงคิดอยู่นานว่าจะตอบอย่างไร ? ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน

    ท่านรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แนะนำว่า "อยากพูดเก่งให้พูดบ่อย ๆ อยากทำงานเก่ง ให้ทำงานบ่อย ๆ อยากเขียนหนังสือเก่ง ให้เขียนหนังสือบ่อย ๆ" ก็คือการขยันหมั่นฝึกซ้อม เป็นตัววิริยพละ ก็คือกำลังความเพียรในอินทรีย์ ๕ และพละ ๕ นั่นเอง

    แต่คราวนี้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เราต้องคำนึงถึง อันดับแรกเลยก็คือ สมาธิต้องทรงตัว ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว จิตใจของเราวุ่นวาย ปัญญาก็ไม่สามารถที่จะลำดับความก่อนหลังเร็วช้าของงานได้ คราวนี้ก็จะมั่วไปหมด แล้วท่านที่สมาธิไม่ทรงตัว จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร ?

    ถ้าหากว่าเป็นหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยแนะนำคาถาท่านปู่พระอินทร์ไว้ให้ ท่านที่เคยใช้จะเรียกสั้น ๆ ว่า คาถาสะหัสสะเนตโตฯ ตัวคาถาว่า สะหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจักขุง วิโสทายิ มาตอนหลังอาตมภาพได้รับเพิ่มเติมมาว่า ให้ต่อด้วย อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำว่า เป็นคาถาช่วยทิพจักขุญาณอย่างหนึ่ง ก็คือทำให้ทิพจักขุญาณของเราคล่องตัว ชัดเจน แจ่มใส

    อีกประการหนึ่ง ท่านบอกว่าช่วยให้เรียนดี ถ้าหากว่าเป็นเด็กนักเรียน เมื่อถึงเวลารับข้อสอบมา ท่านให้คว่ำข้อสอบไว้ก่อน ตั้งใจน้อมขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด ขอให้ทำข้อสอบนี้ได้ถูกต้อง และถูกใจกรรมการที่ตรวจด้วย แล้วก็ตั้งนะโม ๓ จบ ว่าคาถา ๓ จบ ถ้าพลิกคำถามขึ้นมา อ่านแล้วยังตอบไม่ได้ทั้งหมด ให้คว่ำลงใหม่ ว่าคาถาอีก ๗ จบ คราวนี้ รู้สึกอยากจะตอบว่าอย่างไร ให้เขียนไปตามนั้น ไม่ต้องไปใส่ใจว่าตรงตำรา หรือไม่ตรงตำรา เขียนไปตามนั้นเลย

    อาตมภาพเป็นคนขี้เกียจ ถึงเวลาตั้งนะโมฯ เสร็จ ก็ใส่ไป ๑๐ จบเลย..! ผลไปเห็นชัดที่สุดตอนสอบนักธรรมชั้นเอก เพราะว่าปีนั้นหมอเขาบอกว่าอาตมภาพตับอักเสบ แม้แต่แรงจะนั่งก็ไม่มี ต้องฉันน้ำหวานตามที่หมอแนะนำจนขวดกองเป็นภูเขา มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ตับอักเสบ แต่เป็นมาลาเรีย..! แต่ก็หลังจากนั้นหลายปีแล้วถึงได้รู้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ในเมื่อไม่ได้อ่านหนังสือเลย แล้วการเรียนนักธรรมชั้นเอกสมัยนั้นก็ลำบากมาก เพราะว่าหนังสือสูงเป็นศอก แต่ออกแค่ ๗ ข้อ..! บางเล่มอย่างมหาสติปัฏฐานสูตร อ่านแทบตาย อาจจะไม่ออกเลย หรือไม่ก็วิสุทธิ ๗ เล่มหนาเป็นเซนติเมตร อ่านไปทั้งเล่มไม่ออกเลยก็มี แต่ตรงที่เราไม่อ่าน..อาจจะออก ก็เลยต้องใช้วิธีนี้

    ขอให้ทางด้านครูบาอาจารย์เขาส่งรายชื่อไปสอบตามปกติ ถึงเวลาเข้าห้องสอบ ก็ทำอย่างที่ว่า ก็คือคว่ำข้อสอบลง นึกขอบารมีพระ ขอบารมีครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะท่านปู่พระอินทร์ให้สงเคราะห์ ว่าคาถารวดเดียว ๑๐ จบ แล้วก็ลุยเขียนไปเลย

    ตรงจุดนี้ เราต้องยอมน้อมใจเชื่อทั้งหมดจริง ๆ คำว่า "เชื่อทั้งหมด" ก็คืออย่าไปค้าน เพราะว่าอาตมภาพค้านมาทีหนึ่งว่า บาลีตัวนี้ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากว่านักธรรมชั้นเอก นักธรรมชั้นโท สมัยก่อนเข้าบาลีเยอะมาก ในเมื่อรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ ก็ไปแก้ตามที่ตนเองต้องการ ปรากฏว่ากระแสพลังที่รู้สึกว่าพุ่งผ่านตัวเราลงมาเพื่อช่วยให้เขียน ขาดหายไปเฉย ๆ จนกระทั่งยอมน้อมใจกราบขอขมาพระ ทำตามที่ความรู้สึกนั้นบอก ปรากฏว่าสามารถต่อติด และทำข้อสอบต่อได้อีก

    ด้วยความที่ตนเองเป็นคนความจำดี ก็จำเอาไว้ว่าเราตอบอะไรไป แล้วมาเปิดตำราดู เห็นแล้วใจหาย..! เพราะว่าถ้าเขาจับว่าทุจริตนี่ ไม่สามารถจะแก้ตัวได้เลย เนื่องจากว่าเหมือนตำราทุกตัวอักษร..! อย่างกับเปิดตำราลอกเอา ก็เลยเห็นผลและแนะนำให้คนอื่นใช้ตาม แล้วถ้าหากว่าสถานการณ์แบบนี้ ก็คือเราไม่ได้มีสมาธิที่ทรงตัวขนาดนั้น แต่ถึงเวลาจำเป็นต้องใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็ให้ใช้คาถาบทนี้เข้าช่วยได้

    ประการที่สองก็คือ เรื่องที่เราบรรยาย เราต้องรู้จริง อย่างที่กระผม/อาตมภาพย้ำกับพวกนักศึกษา ตลอดจนกระทั่งท่านทั้งหลายอยู่บ่อย ๆ ว่า เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง หรือถ้าท่านที่ฟังเทป ฟังเสียงที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบันทึกธรรมะเอาไว้ ก็จะได้ยินเสมอว่า ฟังแล้วจำ จำแล้วคิด คิดแล้วนำไปปฏิบัติให้ได้ด้วย

    ดังนั้น...เราต้องเข้าใจในเนื้อหาอย่างแจ่มแจ้ง สามารถย่อได้ ขยายได้ตามที่เราต้องการ ถ้ามีเวลามาก สามารถลากยาวครบตามเวลา ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงได้ ถ้าไม่มีเวลา เนื้อหามากขนาดนั้น ย่อลงมาเหลือแค่ ๑๐ หรือ ๑๕ นาที ก็ต้องให้ได้ใจความครบถ้วนด้วย
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ประการต่อไปก็คือ ต้องลำดับงานตรงหน้าให้ถูก ว่าอะไรก่อนอะไรหลัง ถ้าหากว่าพวกเราสังเกต ในวันนี้ที่บรรยายเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ก็คือ จากที่ไกลมาใกล้ แต่ละสถานที่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ? และมีความสำคัญในการท่องเที่ยวอย่างไร ? จนกระทั่งไปจบลงตรงศูนย์รวม ก็คือร้านค้าชุมชนที่เรานำเสนอสิ่งต่าง ๆ ตรงนั้นมากที่สุด

    แล้วยังต้องมีเวลาให้บรรดาคณะกรรมการมะรุมมะตุ้มถามคำถามมา ทำอย่างไรที่จะตอบคำถามเหล่านั้นให้ถูกใจคณะกรรมการ ตรงจุดนี้ต้องเป็นประสบการณ์ส่วนตัว จำไว้ว่าทุกหน่วยงานมีความภูมิใจในความเป็นตัวตนของเขา ตอบอะไรต้องอยู่ในลักษณะเอาใจเจ้าภาพเสียหน่อย แล้วทุกอย่างจะดีเอง

    อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าคนอื่นมาถึงวัดท่าขนุน ถึงเวลาจะพูดอะไร ก็ต้องยกยอว่า วัดท่าขนุนดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ในสายตาหรือความรู้สึกของเขา เราฟังเราก็จะรู้สึกว่า เออ..ดี เพราะว่าเขาเห็นว่าเราดี มีความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน ถ้าเขามีข้อขอร้อง หรืออยากจะให้เราช่วยเหลืออะไร ก็รู้สึกว่าน่าช่วยเหลือมากกว่าคนอื่น

    ลักษณะนี้ก็เหมือนกัน คณะกรรมการทั้งหมด คือคณะกรรมการจากกระทรวงวัฒนธรรม ก็ต้องยกเอาผลงานของกระทรวงวัฒนธรรมขึ้นมากล่าว อย่างเช่นว่า ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ถึงได้เกิดการเที่ยวชุมชน..ยลวิถี ของชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนขึ้นมาอย่างทุกวันนี้ เป็นต้น
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ขณะเดียวกัน ก็อย่าไปตั้งความหวังว่าเราตอบไปแล้วจะได้รางวัล ถึงได้บอกกับคณะกรรมการไปว่า ต่อให้ได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล เราก็ยังคงทำงานนี้ต่อไป เพราะว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำ เราทำเพื่อชุมชนของเรา ถ้าหากว่าได้รางวัล ถือว่าเป็นกำลังใจ ถ้าหากว่าไม่ได้รางวัล แปลว่าเรายังไม่ดีพอ เราจะปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปกว่านี้

    เรื่องของการตอบคำถามต้องบอกว่า "โม้เอาอย่างไรก็ได้" ไม่เหมือนกับการที่เราแนะนำสถานที่จริง เพราะว่ากรรมการเขามองเห็นสถานที่จริงว่าเป็นไปอย่างที่เราพูดหรือเปล่า

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตรงจุดนี้ก็คือ ต้องประกอบไปด้วย ประสบการณ์ในการทำหน้าที่ มีสมาธิที่มั่นคงทรงตัว สามารถลำดับงานได้ ว่าอะไรก่อนอะไรหลัง แต่ละอย่างสัมพันธ์กันอย่างไร และท้ายที่สุด ต้องสรุปจบให้เป็น โดยเฉพาะอย่าเกินเวลาเป็นอันขาด ต้องเหลือเวลาให้คณะกรรมการได้ซักถามข้อสงสัยได้ด้วย

    วันนี้ ญาติโยมที่ฟังอยู่ทางบ้าน อาจจะได้ประโยชน์น้อย แต่ว่าหลังงานทุกครั้ง กระผม/อาตมภาพจะสรุปงานลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นประสบการณ์แก่พระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่ทำงานให้กับวัด จะได้รู้ว่างานนี้มีข้อบกพร่องอย่างไร ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นในครั้งหน้า และขณะเดียวกัน การแก้ไขงานนั้น เราแก้ไขกันอย่างไร จะได้มีประสบการณ์ ไม่ถึงกับมือไม้ปั่นป่วนเวลาเราไปเจอปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้อีก

    จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยม ทั้งที่นี่และที่บ้าน ได้ทราบแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...