ธรรมะไร้กาลเวลาทั้งทางโลกทั้งทางธรรม

จะกำเอาอะไรอีกล่ะลุงแมว..

ไหนว่า ปล่อยวาง ไหนว่า สิ้นยึด..

แล้ว จะ กำ เอา อะ ไร..

 

ถ้ากล่าวตามสมมุติได้ถูกต้อง
เป็นลำดับ ก็จะไปสู่ความสิ้นสมมุติ
เป็นวิมุติได้ คือความไม่มีอะไร
แต่มีอยู่

 

วิมุต เป็นสภาวะอย่างไร?

 

สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์
พอเราไม่ศึกษาบัญญัติ มันกะทำให้งงๆ

 

ใบ้ให้หน่อยละกัน

"วิมุติ" ไม่มีอาการมาจ๊ะจ๋า พยักหน้าเข้าใจๆ..

ทางที่จะทำให้ถึงวิมุติ ก็ไม่ใช่ศึกษาสิ่งภายนอก..

ถ้ายังแสวงหาความรู้ภายนอก นั่นไม่ใช่มรรคแน่นอน

 

ถ้าเราปฏิบัติอย่างเดียว มันก็รู้อาการและสภาวะ แต่ ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร..

จึงต้องมีปริยัติ เป็นแนวทางตรวจสอบ แต่ไม่ใช่เอาปริยัติมาเป็นใหญ่..

 

บัญญัติไว้เพื่อความสงเคราะห์เข้ากันได้ตามธาตุ

 

มันจะไปวิปสารตอนท้ายๆอันไหนสงเคราะห์ได้
สงเคราะห์ไม่ได้

 

ของแข็งบางอย่างก็มีน้ำปน
บางอย่างก็ไม่มีน้ำปน

ของแข็งที่มาจากน้ำ
ละลายแล้วหรือยังไม่ละลาย
เรียกน้ำได้ทั้งหมด

ถ้าของแข็งที่ไม่ได้มาจากน้ำ
เรียกน้ำไม่ได้ครับ

 

ที่เรียกว่าน้ำแข็งก็เพราะ
บ่งบอกถึงลักษณะของน้ำครับ
ว่าน้ำอยู่ในสภาพใด

 

พระศาสดาตรัสว่า.. รูป ร่าง กาย ประ กอบ ด้วย ดิน น้ำ ไฟ ลม

ก็หมายความว่า..อะไรที่เป็นรูปร่างให้จับต้องได้ ประกอบด้วยธาตุทั้ง4

หรือโยมเห็นแย้งกับศาสดา ถ้าโยมเห็นแย้งกับศาสดาโดยที่โยมไม่ได้พิสูจน์รู้ด้วยตนเอง..

งั้นที่โยม ประพฤติ ปฏิบัติอยู่ ก็ยังเป็นสีลัพพตปรามาส หรือ เอา ศาสดาอื่นมาปน น่ะสิ..

 

แล้วทำไมไอน้ำที่ตก ตอน เช้าๆ เรียก หมอก..

ไม่เรียกน้ำ

 

แล้วอย่างอื่นทำไมไม่เรียกให้ตรงกับลักษณะ

อย่างเช่น..

เอาปลานิลไปแช่ห้องเย็น พอเอาออกมาทำไมไม่เรียกปลานิลแข็งล่ะ

 

รู้สึกเย็นนี้กะธาตุไฟใช่ป่าวครับเพลงบอกมา

 

ธาตุสี่ที่ไม่ใช่ร่างกาย
ท่านตาบอดมองไม่เห็นหรือครับ

 

ปลานิลแช่แข็ง
ปลานิลแช่ยังไม่แข็ง
เอาปลานิลไปแช่จนแข็ง
ก็เรียกตามลักษณะของปลานิล
เอาปลานิลไปแช่เย็นยังไม่แข็ง
ก็เรียกปลานิลแช่ตู้เย็น
เรียกตามลักษณะปลานิลถูกแช่ครับ

 

หูก็ไม่ได้บอด
น้ำหมอกท่านไม่เคยได้ยินหรือครับ
เรียกน้ำเฉยๆก็สื่อสารไม่รู้เรื่องกันพอดี

 

goog goog ลงสนามมาคุยกับ ไร้คม ที..

น่าจะมวยถูกคู่ น่าจะสูสี

 

แล้วเจ้านี้ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ..

ศึกษาคนละตำรามาเหรอ?

หรือ คนละศาสดา?