แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ถ้าหนาวมาก 'ให้เดินจงกรม' ปลุกเร้าธาตุไฟแก้หนาว : หลวงปู่ชอบ ฐานสโม


    หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร (วัดถ้ำสหายฯ จ.อุดรธานี) เล่าถึงแนวทางที่องค์ " หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ให้พระเณรและแม่ชีในวัด ได้ปฏิบัติในฤดูหนาวไว้ดังนี้

    หลวงปู่ชอบท่านจะไม่ให้พระเณรเถรชีในวัดก่อไฟผิงแก้หนาว ท่านจะให้ลูกศิษย์แก้หนาวโดยการเดินจงกรมให้มากๆ เพื่อปลุกเร้าธาตุไฟอบอุ่นร่างกาย เว้นไว้แต่พระเณรเถรชีรูปนั้นๆ มีอาพาธรบกวนธาตุขันธ์ ท่านจึงจะอนุญาตให้ก่อไฟผิง

    องค์ท่านเทศน์สอนลูกศิษย์ว่า ถ้ามัวแต่พากันมานั่งสุมหัวผิงไฟมันก็จะสุมหัวคุยกันตามประสากิเลสกิโลมันจะพาคุย เรื่องที่คุยกันก็มีแต่เรื่องกิเลสตัณหาลามก คุยกันแล้วก็ไม่พากันทำความเพียรเดินจงกรมภาวนา พอดึกค่อนคืนก็ง่วงเหงาหาวนอน ต่างคนต่างคลานเข้ามุ้ง ไปนอนกอดอีสาดอีหมอนทิ้งวันทิ้งคืนไปเฉยๆ

    เอะอะขึ้นมาพออากาศหนาวนิดๆ หน่อยๆ มันก็จะพากันเตรียมก่อไฟผิงอย่างเดียว มัวแต่ห่วงร้อนห่วงหนาวอยู่อย่างนี้ เวลาไปอยู่ในป่าในเขาเจออากาศที่มันเย็นหนาวมหาโหดแล้ว มันจะไม่พากันแข็งกระด้างค้างตายกันหรือ ต้องฝึกฝนตนเองให้อยู่ได้กับทุกสภาพอากาศซิ ฝึกตนเองให้อยู่กับร้อนให้เป็นอยู่กับเย็นให้ได้ ถ้าอยากอยู่สบายจริงต้องอยู่กับทุกข์ให้เป็นเอาทุกข์เวทนานั้นแหละมาฝึกฝนจิตใจของตนเองให้เข้มแข็ง

    ถ้าหนาวมากก็อย่านอนขดอี้จู้เป็นครูหมอนกิ่ว ถ้านั่งภาวนาอาการเหน็บชามันก็จะเกิดเร็ว เวทนามันก็จะโหมใจอย่างหนัก ให้เดินจงกรมเอา เดินให้มากๆ เดินให้นานๆ เดินเพื่อปลุกเร้าธาตุไฟ ให้มาช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย หัดมีปัญญาตั้งแต่หนุ่มแต่น้อยสิ เฒ่าชะแรแก่ชราแล้วมันจะได้ไม่โง่เง่าเต่าตุ่น จะได้เอาสติปัญญาที่ตนฝึกฝนอบรมมา ไปบอกสอนคนรุ่นหลังเพื่อสืบทอดปัญญาต่อๆ ไป
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
    วันนี้วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ รำลึก ๒๐ ปี อาจาริยบูชาคุณ “พระอริยเจ้าผู้หลุดพ้นด้วยอิริยาบถเดิน” แห่งวัดป่าเขาน้อย ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ท่านเป็นศิษย์ต้นของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และท่านได้รับโอวาทจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ของเล่น ถ้าทำเล่นจะไม่เห็นของจริง" หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ โดดเดี่ยว ปลีกวิเวก มีจิตฝังลึกลงในธรรมของพระตถาคตด้วยศรัทธา มีเหตุผลมั่นคง ปรารถนาจะบวชตั้งแต่เยาว์วัย ชอบท่องเที่ยวจาริกธุดงค์ทั่วประเทศและต่างประเทศ ไม่ยึดติดหมู่คณะ ไม่ติดสถานที่ ไม่คลุกคลีกับใคร เหมือนนกตัวน้อยๆโผปีกทะยานสู่โลกกว้าง ไม่อาลัยสิ่งใด ๆ ท่านเป็นพระ "เอเกโก ว" ชอบเที่ยวไปผู้เดียว บางทีท่านเดินธุดงค์ถึง ๒ รอบ จากสกลนครไปทางอุบล ลงไปนครราชสีมา แล้วย้อนกลับมาทางอุดรแล้วเข้าสกลตามเดิม
    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ท่านถึงที่สุดแห่งธรรมปี พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๒๔ ที่ถ้ำศรีแก้ว อ.ภูพาน จ.สกลนคร ด้วยอิริยาบถเดิน ขณะกลับกุฏิ ท่านเล่าว่า "คำเทศน์ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเป็นหัวใจอันสำคัญที่นำท่านไปสู่อุดมธรรม" หลวงปู่สุวัจน์ ท่านได้นำพระธรรมที่บรรลุรู้ไปประกาศกังวานไกลถึงต่างแดน เป็นที่เลื่อมใสของชาวต่างชาติ ท่านเป็นพระ "ปาสาณเลขูปโม" คือสลักความดีลงบนแผ่นหิน คือหัวใจอันแข็งแกร่ง ไม่มีใครสามารถลบทิ้งไปได้ ถูกจารึกตลอดอนันตกาล
    พ่อเเม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ได้กล่าวถึงหลวงปู่สุวัจน์ ณ วัดป่าเขาน้อยไว้ว่า “...อาจารย์สุวัจน์นี้นั้น ท่านเป็นพระที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว สมกับชื่อนามของท่านว่า สุวัจน์ แปลว่า ผู้บอกนอนสอนง่าย เป็นภาษาบาลี ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตลอดมา ทั้งภายนอกคือการปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยก็ไม่มีความคลาดเคลื่อน เป็นที่อบอุ่นในองค์ของท่านว่ามีศีลเต็มองค์ ทางด้านจิตใจท่านก็อบรมตลอดมากับครูบาอาจารย์ทั้งหลายจนปรากฎเด่นขึ้นภายในจิตท่าน ถึงกับท่านได้พูดออกมาด้วยความพอใจ ในการตะเกียกตะกายเสาะแสวงหาคุณงามความดี มีมรรคผลนิพพานเป็นสำคัญ”
    • ปฏิปทาองค์หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
    ได้รับฟังจากญาติธรรม ศิษยานุศิษย์ใกล้ชิดองค์หลวงปู่มาสมัยที่ท่านมาอยู่ที่เขาน้อยใหม่ ๆ นั้น ไม่มีอะไรเลย นอกจากกุฏิเล็ก ๆ ๒ หลังเป็นกุฏิชั้นเดียว ห้องเดียว มีลานเล็ก ๆ ตรงกลางหากแต่ลานเล็ก ๆ กุฏิเล็ก ๆ นี้เองที่ใช้เป็นที่แสดงธรรม และสอนกรรมฐานทุกเย็น
    องค์หลวงปู่จะเมตตาญาติโยมมากไม่ว่าจะมากันกี่คน ๒ คน ๓ คน หรือมากกว่านั้นองค์ท่านจะนำทำวัตร แสดงธรรม และปฏิบัติภาวนาทุกวันท่านจะให้ความสำคัญกับการภาวนามากพี่ ๆ เล่าว่า ท่านไม่เคยเบื่อ หรือหงุดหงิดกับความดื้อรั้นขี้เกียจ หรือความเขลาของเหล่าศิษย์เลยท่านคงความเมตตาที่เปี่ยมล้นอย่างสม่ำเสมอ จนแม้แต่คนที่ไม่น่าจะเอาดีในด้านการภาวนา ก็มีหลักในการภาวนาจนได้ ภาวนาเป็น
    องค์หลวงปู่เคารพพ่อแม่ครูบาอาจารย์มากนักและท่านก็เคารพรัก"หลวงปู่บ้านตาด" เป็นนักหนาแม้ในช่วงที่ท่านไปปฏิบัติหน้าที่เป็นธรรมทูตที่อเมริกา ทุกครั้งที่ท่านเดินทางกลับมาเมืองไทย หากองค์หลวงตาอยู่ที่สวนแสงธรรมท่านจะตรงไปสวนแสงธรรม หรือหากองค์หลวงตาอยู่ที่บ้านตาดท่านก็จะเดินทางไปที่บ้านตาดเพื่อกราบองค์หลวงตา ก่อนที่จะกลับไปที่วัดของท่านเอง
    องค์หลวงปู่มักจะพูดน้อย แต่นุ่มนวลท่านมักจะปรารภเรื่อย ๆ ว่าท่านไม่ทนญาติโยมเหมือนองค์หลวงปู่มั่น องค์หลวงปู่ฝั้น และองค์หลวงปู่บ้านตาดแต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เคยมีผู้ตกทุกข์คนไหนที่ดั้นด้นไปกราบหลวงปู่ แล้วหลวงปู่จะไม่เมตตาหลวงปู่จะให้ทั้งที่พัก ทั้งปัจจัย และที่สำคัญ คือองค์ท่านที่เป็นเสมือนหิ้งพักใจและร่มไทรหนา ให้ผู้ทุกข์หนัก ได้พักอาศัย
    แม้ในช่วงหลังมาที่องค์หลวงปู่ประสบอุบัติเหตุเป็ฯอัมพาตครึ่งองค์ทุก ๆ เช้า ท่านจะเมตตาลงมาที่ศาลาโรงฉัน และบิณฑบาตรในรถเข็น เพื่อให้ญาติโยมได้สร้างบุญกุศลโดยทั่วหน้าก่อนฉัน หากสังขารท่านเอื้ออำนวยหลวงปู่จะเมตตาแสดงธรรมสั้น โปรดญาติโยมอย่างสม่ำเสมอหลวงปู่มักจะเน้นให้เราหมั่นอนุโมทนาบุญ เพื่อสร้างเสริมกุศลจิตในใจและอานิสงค์ของการแผ่เมตตาหลวงปู่จะเน้นเราให้สร้างสมความดี ละชั่วหมั่นตรวจสอบตนเอง และปฏิบัติภาวนาอย่างสม่ำเสมอท่านเคยเมตตาสอนว่า"การปฏิบัติภาวนานั้น เราจะเลือกปฏิบัติ เฉพาะเวลาสุขนั้นไม่ได้เราต้องปฏิบัติภาวนาให้ได้ ทั้งในเวลาสุข และทุกข์"หลวงปู่ท่านจะเมตตาทั้งพระทั้งโยมที่ปฏิบัติภาวนายิ่งนักเมื่อไหร่ที่ติดขัดในการภาวนา เพียงแต่โผล่หน้าไปให้ท่านเห็นท่านก็จะเมตตาแก้ไขข้อข้องจิต ข้องใจให้โดยที่เราไม่เคยต้องออกปากโดยที่บางครั้ง เราเองไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเรากำลังติดขัดอยู่องค์หลวงปู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรที่ร่มเย็นเป็นนักหนา
    นอกจากมนุษย์แล้ว องค์หลวงปู่ยังมีเมตตาต่อสัตว์ชนิดต่าง ๆ มากมายท่านมีทั้งปลา นกกะทา ไก่ป่า นกกาเหว่า และอื่น ๆ ท่านรักต้นไม้มาก มักจะหาพันธุ์ไม้แปลก ๆ ต่าง ๆ มาปลูกที่เขาน้อยอย่างสม่ำเสมอ
    องค์หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ได้เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ด้วยสติที่พร้อมบริบูรณ์เมื่อเวลา ๑๓:๑๒ น.ของวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๕
    "..เราคนเดียว เที่ยวรัก เที่ยวโกรธ จะไปโทษใคร
    แก้อะไรใครได้ ก็ไม่เท่าแก้ใจตน เพียงคนเดียว .."
    โอวาทธรรมหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
    -bEQ3ceEPQvKWQ1JnIsVyXktH1dNbwCyI5&_nc_ohc=wgYEL2kztQ8AX_PFg2F&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    https://web.facebook.com/thindham
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,734
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,137
    ค่าพลัง:
    +70,534
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...