เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 สิงหาคม 2016.

  1. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จ่อหายนะทั้งทางโลก ทางธรรม จัดไป ^_^
    เมื่ออำนาจแห่งพระสัทธรรมถูกริดรอนทำลาย ด้วยอามิสทายาทและโมฆะบุรุษอสัตบุรุษ

    มารก็มีพลังมากเกินพอที่จะแทรกจิตใจคน

     
  2. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ภายใน300ปี ต่อจากนี้ มีเฮแน่ ! ^_^ แต่ทว่า! ถ้าเป็นแบบนี้ เอาให้พ้นปี ต่อปีไปก่อนดีกว่า ว่าจะรอดไหม?
    received_254944579478669.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  3. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จับตาดูให้ดีๆ " มรณะ ๔ " ในเหตุแห่งกาลมรณะ ไม่มีคำว่าบังเอิญแม้แต่ครั้งเดียว ในศาสนาพุทธ

    จากเล็กไปใหญ่

    ○ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้นั้นบังเอิญตายเอง !! ○
    ^_^ แบบนี้ไม่มี


    ธารน้ำแข็งหิมาลัยแตก เชื่ออาจมีชาวอินเดียเสียชีวิต 150 คนในน้ำท่วมครั้งใหญ่.
    .
    .
    ในเวลานี้เชื่อว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 150 คนเสียชีวิตหลังธารน้ำแข็งภูเขาหิมาลัยเกิดแตกออกและ
    DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้(7 ก.พ)ว่า เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่รัฐอุตตราขัณฑ์ทางตอนเหนือของอินเดียในวันอาทิตย์(7) เจ้าหน้าที่อินเดียออกคำประกาศเตือนภัยหลายเขตทางตอนเหนือในวันนี้(7) หลังพบว่าธารน้ำแข็งเทือกเขาหิมาลัยเกิดแตกออกมาและไหลทะลังลงด้านล่างทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักเป็นวงกว้างในรัฐอุตตราขัณฑ์
    ..
    ผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้แชร์วิดีโอคลิปถึงสภาพน้ำท่วมเป็นวงกว้างเกิดขึ้นในหุบเขา
    ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวว่า เป็นภาพความน่ากลัวอย่างเสมือนจริงเกิดขึ้นในเขตคาโมลี (Chamoli) รัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งเป็นภาพธารน้ำแข็งกำลังไหลทะลักลงสู่เบื้องล่างผ่านช่องหุบเขา
    .
    และวิดีโอคลิปชิ้นที่ 2 แสดงกระแสน้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากผ่านโขดหินในแม่น้ำ Dhauli Ganga พร้อมกันนี้ผู้โพสต์กล่าวเตือนคนที่อยู่บริเวณนั้น
    .
    เจ้าหน้าที่อินเดียให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ได้ทำการอพยพผู้คนออกมาจากจุดที่ใกล้แม่น้ำที่ได้รับผลกระทบจากธารน้ำแข็งที่พวกเขาเห็นระดับน้ำเพิ่ม
    .
    ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่กล่าวว่า พวกเขาวิตกว่าคนงานจากโปรเจกต์พลังงานจากน้ำที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจะถูกกระแสน้ำท่วมพัดพาไป รวมไปถึงชาวบ้านคนอื่นๆที่อาศัยใกล้กับแม่น้ำ
    .
    “พวกเราไม่รู้เลยว่าในเวลานี้มีคนสูญหายมากน้อยเพียงใด” ซานเจย์ ซิงห์ รานา (Sanjay Singh Rana)ชาวบ้านที่อาศัยในหมู่บ้านไรนี (Raini village)ที่อยู่ตอนบนของแม่น้ำแสดงความเห็น
    .
    และเสริมต่อว่า “มันมาเร็วมากจนทำให้ไม่มีเวลาเตือนคนอื่นๆ” เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า “ผมรู้สึกว่าแม้แต่พวกเราอาจถูกพัดพาไปได้”
    .
    ซึ่งภาพจากวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าเขื่อนไม่สามารถแบกรับน้ำหนักของมวลน้ำไว้ได้
    .
    ด้านโอม ปราเกช( Om Prakesh) หัวหน้าเลขาธิการประจำรัฐอุตตราขัณฑ์ แสดงความเห็นถึงตัวเลขที่คาดว่าจะสูญเสียว่า “จำนวนตัวเลขที่แท้จริงยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่เชื่อว่ามีราว 100 – 150 คนที่เกรงว่าจะเสียชีวิต”
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าถึงกำแพงฝุ่นที่มาพร้อมกับหินและมวลน้ำคล้ายกับหิมะถล่มตกลงมาสู่เบื้องล่างลงแม่น้ำ Dhauli Ganga ที่ห่างกว่า 500 กิโลเมตรไปทางเหนือของกรุงนิวเดลี
    .
    ทางด้าน อโศก กุมาร์ (Ashok Kumar) หัวหน้าตำรวจรัฐอุตตราขัณฑ์แถลงต่อนักข่าวว่า มีไม่ต่ำกว่า 50 คนกำลังทำงานอยู่ที่เขื่อนโปรเจกต์พลังงานน้ำ Rishiganga (Rishiganga Hydroelectric Project) เกรงว่าอาจจะเสียชีวิตถึงแม้จะมีคนอื่นๆได้รับการช่วยชีวิตออกมา กุมาร์ยังกล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่อินเดียได้ระบายน้ำออกที่เขื่อนอื่นๆเพื่อทำการรักษาระดับน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาจากแม่น้ำอลกนันทา( Alakananda )ที่ล้นตะลิ่ง
    .
    หนังสือพิมพ์ อินเดียน เอ็กซเพรส (Indian Express)รายงานว่า บางส่วนของธารน้ำแข็งนันทาเทวี( Nanda Devi glacier) ได้เกิดแตกออกมาในเช้าวันอาทิตย์(7) เกิดขึ้น 2 วันหลังก่อนหน้าเกิดหิมะถล่มที่ธารน้ำแข็งแห่งนี้
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เขากำลังเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและได้หารือร่วมกับมุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ตรีเวนทรา ซิงฮ์ ราวัต( Trivendra Singh Rawat )แล้ว
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า กองทัพอากาศอินเดียอยู่ในการเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือปฎิบัติการกู้ภัย รัฐบาลอินเดียกล่าว ส่วนรัฐมนตรีมหาดไทยอินเดีย อมิต ชาฮ์ (Amit Shah) กล่าวว่า ทีมภัยพิบัติได้ถูกนำส่งทางอากาศเข้าไปในพื้นที่ และกำลังทหารอินเดียถูกส่งเข้าไป ส่วนเฮลคอปเตอร์กองทัพร่วมช่วยค้นหาทางอากาศ
    .
    รัฐอุตตรประเทศที่ติดกันถูกสั่งเตือนภัยเตรียมความพร้อม
    FB_IMG_1612703413587.jpg FB_IMG_1612703410931.jpg
     
  4. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    นั่งสมาธิแผ่เมตตาแก่ผู้ล่วงลับ ด้วยก็จะดี

    ต่อไปนี้ก็เริ่มหัดแผ่เมตตาจิต แผ่ความรักให้กับคนและสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากผู้แสวงหาที่เกิดทั่วไป คนเคยรักก็แผ่เมตตาและความรักให้เขาไป ถ้าจิตเราบริสุทธิ์เราก็รักเขาเมตตาเขาเสมอ

    เขาจะเกลียดเราทำร้ายเราก็ช่างเถิด นั่นเพราะกรรมที่ทำกับเขาไว้ จงให้อโหสิกรรม อภัยทาน ไม่ก่อกรรม ต่อเวร ผูกเวร

    จิตที่ตั้งไว้ดีแล้วย่อมนำสุขมาให้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ถ้าใช่มันจริงๆ เหล่าปฎิสัมภิทา ผู้ทรงปาฎิหาริย์ ๓ มาปรากฎตนแน่นอน!

    ถ้าไม่ใช่ระดับปฎิสัมภิทา ๔ สู้ไม่ได้หรอก!

    ไม่ถึงเวลาไม่ยอมปรากฎสินะท่าน !

    °°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
    ในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

    มีหลายคลิป! ในตุรกี ซาอุ และพื้นที่ใกล้เคียง !

    จับตาดูพื้นที่ บริเวณรอบข้างรัศมี 1-2000 Km. หรือใกล้ไกลกว่านี้ให้ดีๆ

    ปฎิปักษ์ศัตรูของผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องที่นี้ มีกี่เปอร์เซนต์
    การเสียหาย ถล่มทลาย การเสียชีวิตกระทันหันของบุคคลสำคัญระดับโลกต่างๆ ด้วยวิธีอลังการงานสร้าง

    ☆☆เป้าหมายหลัก ชาวต่างศาสนิก ต่างลัทธิ ถ้ามีการสูญเสีย

    เป็นที่ ฉนวนกาซ่า Gaza city ถูกต้องไหม ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย ลักษณะคล้ายคลึงกันมาก "กับสภาวะที่เกิดขึ้นที่ หนองแคสระบุรี "

    ต้องสงสัยในการเข้าถึง ใคร? ถ้าสามารถเข้าถึง ก็ขอให้โง่ ทึบ ไม่รู้เรื่อง ไม่มีปัญญาในการลำดับความคิดในการจัดการ ในสิ่งที่ปรากฎและเป็นไป

    ☆ อหังการวิเศษมาร ☆

    hqdefault-1.jpg





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2021
  6. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    lightning storm Gaza city

    หรือ lightning strom ในโซนโลกอาหรับ ทั้งหมด ฯ ถ้าท้องฟ้าออกโซนสีดำม่วง ให้ค้นหาที่มา รวบรวมเก็บสถิตินำมาพิจารณาตรวจสอบ

    ●○● เน้นไว้เลยสีท้องฟ้า ม่วง ดำ หรือ แดงกล่ำ ●○●

    ว่าอาจจะมีผู้ใช้ หรือเข้าถึง ☆ อหังการวิเศษมาร ☆
    คุณลักษณะของผู้เข้าถึง ชั่วสุดกู่ ครบเซ็ท มีตัณหาความทะยานอยากมาก มีกิเลสหนา มีความอยากยิ่งใหญ่ และเคร่งในคำภีร์เท่านั้น ! ปลาซิวปลาสร้อยทั่วไป ที่มีไม่น่าตกใจและน่าเป็นห่วง สักเท่าไหร่ ! ยังไงๆก็ควรพึงระวังเอาไว้ ไม่ประมาท เพราะพวกนี้เห็นคนนอกศาสนาและลัทธิไม่เป็นคน เห็นเป็นแค่ชาวนรกเพียงเท่านั้น!

    แท้จริงแล้ว จิตพวกนี้ตั้งไว้ผิดเมื่อตาย จึงถึงนรกและสัตว์ติรัจฉานเป็นอันมาก

    "ด้วยความไม่รู้ตัว จึงคิดว่าตนเองเลิศเลอ"

    คุณสมบัติแห่งการเข้าถึง ฉบับเต็ม ลักษณะนิสัยใจคอ สามารถทำอนันตริยกรรม ๕ ได้โดยไม่มีความลังเลใจ ยิ่งชั่วมากเท่าไหร่ยิ่งเข้าถึงได้มาก

    คล้ายกับระบบRanDomคัดสรรเลือกคนที่คู่ควร !

    "สภาวะแท้จริงแห่งการเข้าถึง จะต้องเต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ ความอาฆาตพยาบาท และเบียดเบียน หล่อเลี้ยงจิตใจ มีอุปกิเลสครบ ๑๖ ประการ เป็นเครื่องพึงพิงอาศัย "

    ส่วนบุคคลที่เห็นคนเป็นคนมีศรัทธาเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนา ก็ได้เกิดในพระพุทธศาสนา ต่อไป

    แค่เจอสัทธรรมปฎิรูป กับโมฆะบุรุษอามิสทายาทอลัชชี อสัตบุรุษ ก็อ่วมอรทัยแล้ว ยังต้องมาเจอกับ อสัทธรรม อหังการวิเศษมารอีก มันจะไหวรึ!

    ล่าสุด เด็กทารก 9 เดือน ก็ถูกข่มขืน นี่น่าจะเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งว่า มารเลือกลงมาแทรกจิตใจ ผู้อาศัยในประเทศไทย เป็นหลัก

    ที่อื่นในโลกมีการกระทำทารุณกรรมเด็กทารกเพศหญิงอย่างนี้ ที่มีอายุน้อยกว่านี้อีกหรือไม่

    ทั้งนี้เพื่อการตรวจสอบ " สภาวะมาร "

    FB_IMG_1612713209425.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2021
  7. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ●●● โย อปฺปทุฎฺฐสฺส นรสฺส ทุสฺสติสุทฺธสฺส
    โปสสฺส อนงฺคณสฺสตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ
    สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต ●●●

    บุคคลใด ย่อมประทุษร้ายต่อนรชน ผู้ไม่ได้ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ผู้อันบุคคล พึงเลี้ยงดู ผู้ไม่มีกิเลสดุจเนิน บาป ย่อมกลับถึง บุคคลนั้น ผู้เป็นพาล นั่นเอง เหมือนธุลีอันละเอียด ที่เขาซัดทวนลม ฉะนั้น ดังนี้


    " ความสุขใจที่สามารถรับ นั้นมีความสงบระงับ ได้โดยจิตที่อบรมดีแล้ว นำสุขมาให้ "

    พึ่งจะเข้าใจ พระมหากรุณาธิคุณต่อสัตว์โลกที่สมควรยึดถือเอาเป็นแบบอย่างในการปฎิบัติตน

    จากสิ่งที่กระทบเข้าสู่ผัสสะอายตนะ ทุกอย่างล้วนไม่มีอยู่จริง ไม่ยึดมั่นถือมั่น

    ไม่มีความร้อนใดๆ จะแผดเผาจิตใจดวงนี้ของเรา ได้อีกแล้ว แม้เนื้อหนังเอ็นกระดูกนี้จะบุบสลายไปก็ตาม



    เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)


    เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อารา เมฯ

    ตัตตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะวะโต ปัจจัสโสสุงฯ

    ภะคะวา เอตะทะโวจะ เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเส วิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ

    วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ กะตะเม เอกาทะสะ?

    (๑) สุขัง สุปะติ (๒) สุขัง ปะฏิพุชฌะติ (๓) นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ (๔) มะนุสสานัง ปิโย โหติ

    (๕) อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ (๖) เทวะตา รักขันติ (๗) นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ (๘) ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ

    (๙) มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ (๑๐) อะสัมมุฬฬะโห กาลัง กะโรติ (๑๑) อุตตะริง อัปปะฏิวิชฌันโต พรหมมะโลกูปะโค โหติฯ

    เมตตายะภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ

    ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏิฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ

    อัตถิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ

    อัตถิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ

    อัตถิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    กะตีหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    กะตีหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    กะตีหาการเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุติฯ

    สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    กะตะเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?



    (๑) สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ

    อิเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    กะตะเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ



    (๑) สัพเพ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ

    อิเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    กะตะเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขะณายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิยายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขินายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตารายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑๑) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติฯ



    อิเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ



    สัพเพสัง สัตตานัง ปีฬะนัง วัชเชตวา

    อะปีฬานะยะ อุปะฆาตัง วัชเชตวา

    อะนุปิฆาเตนะ สันตาปัง วัชเชตวา

    อะสันตาเปนะ ปะริยาทานัง วัชเชตวา

    อะปะริยาทาเนนะ วิเหสัง วัชเชตวา

    อะวิเหสายะ สัพเพ สัตตา อะเวริโน โหนตุ มา เวริโน สุขิโน โหนตุ มา ทุกขิโน สุขิตัตตา โหนตุ มา

    ทุกขิตตาติ อิเมหิ อัฏฐะหากาเรหิ สัพเพ สัตตา เมตตายะตีติ เมตตา ตัง ธัมมัง เจตะยะตีติ

    เจโต สัพพะพะยาปะทะปะริยุฏฐาเนหิ มุจจะตีติ เมตตา จะ เจโตวิมุตติ จาติ เมตตาเจโตวิมุตติฯ



    เมตตา พรหมมะวิหาระภาวะนา นิฏฐิตา.





    เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่แปล)



    ข้าพเจ้าได้ฟังมาอย่างนี้ว่า ในสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นอารามของท่านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถีฯ ณ โอกาสนั้นและรพผู้มีพระภาคตรัสเรียกพระภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายฯ พระภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตอบรับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญฯ พระผู้มีพระภาคได้ประทานพระดำรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย (คนผู้เจริญเมตตาภาวนาเป็นประจำ) หวังได้แน่นอน (ที่จะรับ) อานิสงส์ ๑๑ ประการ ของเมตตาเจโตวิมุติ ที่ตนต้องเสพ (ทำให้ชำนาญ) แล้ว ทำให้เจริญขึ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว สั่งสม (ด้วยวสี ๕ ประการ) ดีแล้ว ทำให้บังเกิดขึ้นด้วยดีแล้วฯ อานิสงส์ ๑๑ ประการ (ของเมตตาเจโตวิมุติ) คืออะไรบ้าง? (อานิสงส์ ๑๑ ประการ ของเมตตาเจโตวิมุติ คือ)

    (๑) นอนหลับเป็นสุข

    (๒) ตื่นเป็นสุข

    (๓) ไม่ฝันร้าย

    (๔) เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย

    (๕) เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย

    (๖) เทวดาทั้งหลายเฝ้ารักษา

    (๗) ไฟ ยาพิษ หรือ ศัสตรา ไม่กล้ำกราย (ในตัว) ของเขา

    (๘) จิตเป็นสมาธิเร็ว

    (๙) ผิวหน้าผ่องใส

    (๑๐) ไม่หลงตาย

    (๑๑) ยังไม่บรรลุคุณธรรมเบื้องสูง ก็จะบังเกิดในพรหมโลก

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนผู้เจริญเมตตาภาวนาเป็นประจำ หวังได้แน่นอนที่จะได้รับ อานิสงส์ ๑๑ ประการของเมตตาเจโตวิมุติ ที่ตนส้องเสพ ทำให้ชำนาญ แล้วทำให้เจริญขึ้นแล้ว ทำให้มากแล้ว สั่งสม ด้วยวสี ๕ ประการดีแล้ว ทำให้บังเกิดขึ้นด้วยดีแล้วฯ

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) มีอยู่

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปเจาะจง บุคคล มีอยู่

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปในทิศที่มีอยู่ฯ

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปโดยไม่เจาะจง (บุคคล) มีกี่อย่าง?

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) มีกี่อย่าง?

    เมตตาเจโตวิมุติ ที่แผ่ไปในทิศ มีกี่อย่าง?



    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) มี ๕ อย่าง

    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) มี ๗ อย่าง

    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปในทิศมี ๑๐ อย่างฯ



    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) ๕ อย่างมีอะไรบ้าง?

    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปไม่เจาะจง (บุคคล) ๕ อย่าง คือ



    (๑) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

    (๒) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

    (๔) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ

    (๕) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัยเถิดฯ



    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) ๗ อย่าง มีอะไรบ้าง? (เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปโดยเจาะจง (บุคคล) ๗ อย่าง คือ)



    (๑) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปในทิศ ๑๐ อย่าง มีอะไรบ้าง? (เมตตาเจโตวิมุติที่แผ่ไปในทิศ ๑๐ อย่าง คือ)

    (๑) ประเภทที่ ๑

    (๑) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๒) ประเภทที่ ๒



    (๑) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอปาณะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๓) ประเภทที่ ๓



    (๑) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอภูตทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๔) ประเภทที่ ๔



    (๑) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอบุคคลทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๕) ประเภทที่ ๕



    (๑) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอผู้มีอัตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๖) ประเภทที่ ๖



    (๑) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอสตรีทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๗) ประเภทที่ ๗



    (๑) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอบุรุษทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๘) ประเภทที่ ๘



    (๑) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอพระอริยเจ้าทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๙) ประเภทที่ ๙



    (๑) ขอปุถุชนขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอปุถุชนทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๑๐) ประเภทที่ ๑๐



    (๑) ขอเทวดาขอผู้มีอัตตภาพทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอผู้มีเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๑๑) ประเภทที่ ๑๑



    (๑) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    (๑๒) ประเภทที่ ๑๒



    (๑) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศบูรพา (ตะวันออก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๒) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศปัจจิม (ตะวันตก) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๓) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอุดร (เหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๔) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศทักษิณ (ใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๕) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๖) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๗) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๘) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๙) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องล่าง จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ

    (๑๐) ขอสัตว์วินิปาติกะทั้งหลายทั้งปวง ในทิศเบื้องบน จงอย่ามีเวรต่อกันและกัน จงอย่าเบียดเบียนกัน จงอย่ามีทุกข์ จงมีสุข ประคับประคองตนให้รอดพ้นภัย เถิดฯ



    เมตตาเจโตวิมุติแผ่ไปสู่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงด้วยอาการ ๘ นี้ คือ

    ด้วยการเว้นการบีบคั้น ไม่บีบคั้นสัตว์ทั้งปวง ๑

    ด้วยการเว้นการฆ่า ไม่ฆ่าสัตว์ทั้งปวง ๑

    ด้วยการเว้นการทำให้เดือดร้อน ไม่ทำสัตว์ทั้งปวงให้เดือดร้อน ๑

    ด้วยการเว้นการย่ำยี ไม่ย่ำยีสัตว์ทั้งปวง ๑

    ด้วยการเว้นการเบียดเบียน ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งปวง ๑

    ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้ไม่มีเวร อย่าได้มีเวร ๑

    จงเป็นผู้มีสุข อย่ามีทุกข์ ๑

    จงมีตนเป็นสุข อย่ามีตนเป็นทุกข์ ๑

    จิตชื่อว่า เมตตา เพราะรัก ชื่อว่า เจโต เพราะคิดถึง ธรรมนั้น ชื่อ วิมุติ เพราะพ้นจากพยาบาท และ ปริยุฏฐานกิเลสทั้งปวง จิตมีเมตตาด้วย เป็นเจโตวิมุติด้วย เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เมตตาเจโตวิมุติฯ

    เมตตาพรหมวิหารภาวนา

     
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ⊙ผู้ชนะที่แท้จริง⊙

    ปัญหา อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ ได้ทราบว่าพราหมณ์ผู้ร่วมนามสกุลภารทวาชหลายคน ได้จากเรือนไปบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าก็โกรธ จึงตรงไปด่าบริภาษพระผู้มีพระภาคถึงพระเวฬุวัน แต่พระผู้มีพระภาคทรงนิ่งเสีย ไม่ได้โต้ตอบ ฝ่ายพราหมณ์เมื่อเห็นพระผู้มีพระภาคทรงนิ่ง ก็ดีใจประกาศว่าเราชนะท่านแล้ว เราชนะท่านแล้ว?

    พุทธดำรัสตอบ “ชนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าชนะทีเดียว แต่ความอดกลั้นได้ เป็นความชนะของบัณฑิตผู้รู้แจ้งอยู่ ผู้ใดโกรธ ตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลผู้โกรธแล้ว เพราะการโกรธตอบนั้น บุคคลไม่โกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ย่อมชื่อว่าชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติ สงบอยู่ได้ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือ แก่ตนและแก่ผู้อื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย คือของตนและของผู้อื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่า เป็นคนเขลา ดังนี้”

    อสุรินทกสูตรที่ ๓ ส. สํ. (๖๓๖)


    เราก็ว่าเราลืม ไปแล้ว ไม่ใส่ใจไปแล้วน๊า ^_^ ไม่อยากจะทบทวนความทรงจำเลย ผับผ่าสิ !


    " ไม่มีอุปสรรคใหญ่และน้อยใด ที่จะสามารถขว้างกั้นเส้นทางของเราได้อีกแล้ว "

    " บัดนี้เราได้เป็นผู้แผ่เมตตาจิตให้แก่มารทั้งปวง "

    " มารยิ่งมารับส่วนบุญมาก ยิ่งส่งเสริมบุญญาบารมี "

    จีวรขาวตัดเรียบร้อย บาตรและบริขารอื่น
    กำลังทยอยปรากฎ

    ตอนนี้เอาช้างนาฬาคีรี พันเชือก หมื่นเชือก ก็มาดึงมาขวางไว้ไม่อยู่ไม่ได้ตลอดกาล

    ●●●ขอแผ่เมตตาจิตให้แก่มารและคนเขลาทั้งปวง●●●


    ฝากถึง : พ่อพระเอกใหญ่ที่ตายตอนจบ

    อภิมหาบิ๊กเซอรไพรส์: coming soon สงสารเลย! ไม่อยากทำ ไม่อยากประจานใครจริงๆ เรื่องราวที่แม้แต่พ่อพระเอกใหญ่ก็ยังไม่รู้ อีกมาก หรือถ้ารู้ก็เป็นการวางแผนร่วมกัน ^_^ ผัวผีเมียผีนี่มันสมกัน ดั่งกิ่งทองใบหยกจริงๆ ขนาดผูกรักสมัครใคร่กันจนปานจะกลืน มันยังโกหกตลบตะแลงตะแคงชั่วกันได้ ไอ้ผัวโง่ก็ซวยชะตาขาดไปด้วย



    จะทำอะไรก็รีบทำนะ จะได้เอาสมองไปคิดเรื่องอื่น ถ้ารีบตายไปตายที่อื่น หมดโปรแล้ว ^_^ ไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดเสนียดจัญไร เพราะง่ายมาก

    เห็นว่าเราไม่คิดทำร้าย ทำร้ายแล้วสินะ จึงเก่งกล้าสามารถ ^_^

    ผลกรรมยังไม่สิ้นสุด อย่าพึ่งรีบตีตนหนีไปก่อนไข้ อย่ารีบด่วนดีใจไปก่อนเหตุ ^_^

    ไม่มีใครเขาอยากยุ่ง หรือ อยากโง่ที่จะมากลายเป็นเครื่องมือให้ใครอีกฝ่ายหรอก คนฉลาดๆเขามีสติปัญญาคิดเองได้ โดยไม่ต้องชักชวนใคร เหมือนเราขนาดมีสหธรรมิกมาร่วมแจม ด้วยความหวังดี เรายังตะเพิดออกไป เพื่อปกป้องเขาเหล่านั้น แต่คนชั่วคนไม่ดี ย่อมพยายามสร้างกรุ๊ปสร้างกลุ่ม เพื่อเที่ยวหาเรื่องราวฉาวโฉ่ ถึงขนาดยอมตัดแขนตัดขาตนเองเพื่อทำสำออย จะเอาโทษผู้อื่นให้ได้ ไม่รู้ว่าถูกเลี้ยงดูปลูกฝังมาอย่างไร ขนาดพ่อแม่บุพการีของตนเองก็ด่าทอ สาปแช่ง พ่อแม่คนอื่นหรือจะเหลือ

    สังเกตุได้โดยง่าย เขาด่าทอพาดพิง บุพการีของเรามาด้วยความเท็จ เราก็ไม่เคยด่าทอบุพการีของเขาตอบ แม้แต่ในใจก็ตาม ยิ่งโคตรสงสาร เวทนาเพราะไม่ใช่ฐานะ

    แต่พวกนี้สามารถลงอรรถวาจาทางพยัญชนะ ในการดูแคลน ด่าทอ บุพการีของตนเองและผู้อื่นได้อย่างไม่มีความละอายแก่ใจอย่างหน้าตาเฉย

    ใครหนอ? ด่าทอบุพการีสาปแช่งแม่ตนเอง อยู่เป็นเนืองนิตย์?

    สมกันจริงๆ กิ่งทองใบหยก ผีเน่ากับโลงผุ เสพสังวาส เสร็จสุขสมใจ แล้วไปเที่ยวหาเรื่องด่าทอคนอื่นไปทั่ว

    พวกมึงเล่นผิดคนแล้ว ^_^



    นี่ขนาดยัง ยังไม่ได้ต่อสายด่วน คนนามสกุล"อยู่บำรุง"ให้เลยนะ ว่าไปพาดพิง ด่าทออะไรเขาไว้ ไหนจะ"คำชโนด"อีก แชทลับ คลิปเสียง รูปภาพสุดชั่วอนาจารอีกเยอะแยะ ที่โยนลงกรุไปแล้ว เพราะความสงสาร เห็นใจและให้อภัย และไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น คือไม่ตั้งใจ แต่อาชญากรทำอะไรเอาไว้จะต้องทิ้งหลักฐานเอาไว้เสมอ

    ถ้าเป็นคนซื่อคนตรง เขาจะเชื่อในผลของบาปกรรมว่ามีอยู่จริง โดยไม่ต้องดิ้นรนอะไรๆเลย มีแต่คนที่ไม่เชื่อในผลของบาปกรรมเพียงเท่านั้นแหละ ที่จะพยายามสร้างเรื่องอื้อฉาว ชาติชั่ว ชั่วร้ายเลวทรามแก่ผู้อื่นให้มากที่สุด

    วันๆหนึ่ง พวกมึงทั้งคู่ ก็คงร้อนจิตร้อนใจ เพลิงกรรมมันเผาไหม้ อยู่เป็นนิจอย่างนี้แหละ ต่อไปจนวันตาย

    "ที่สำคัญตายโหงด้วยกันทั้งคู่ "

    โคตรซวยเลย ช่างน่าเวทนา T_T


    ⊙โจทนาสูตร⊙

    ถ้าเป็นเรื่องจริง จึงควรเดือดร้อน ไม่เป็นเรื่องจริง ไม่ควรเดือดร้อน


    {○} ดีชั่วอย่าคาดหวัง ความจริงเผยก็รู้เอง {○}

    ปล.จากอดีตมือสังหารชั่วๆที่สามารถฆ่าคนได้อย่างไม่กระพริบตา และไม่ต้องการฟังเหตุผลใดๆหรือสิ่งใดให้ระคายหู ขัดใจ ขัดหู คือตายสถานเดียวแบบล้างโคตรล้างตระกูล ปัจจุบัน แม้แต่มดหรือยุงก็ยังไม่อยากฆ่าหรือทำร้ายมัน ไม่แม้แต่จะคิดร้ายกับผู้ใด






    FB_IMG_1610641294344.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2021
  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    Thang you สำหรับสีดำ ที่ฉาบทา ถ้าไม่มีสีดำทาล่ะแย่เลย ^_^ ขอดำเข้ม ดำสนิทหน่อยนะ พอดีมันมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาน่ะ เดี๋ยวคนอื่นเขามองเห็นทางเดินทางสว่าง รอดพ้นไปก่อนจะเหงาอีก เข้าใจนะ พวก"ไส้เดือน" เสนียดจัญไร

    5_5


    บางทีบางเรื่อง ก็ต้องเร่งสภาวะกรรม

    ถ้าดีจริงก็ว่าดี ถ้าชั่วจริงก็ว่าชั่ว

    ไม่เข้าข้างตนเอง หรือใครทั้งนั้น

    ไม่ชอบคาราคาซัง ^_^ จัดหนักจัดเต็มไปเลย เรื่องทางโลกเน่าๆยังจัดการไม่ได้ จะไปจัดการเรื่องทางโลกุตระได้อย่างไร

    ใครเริ่มเดินหมากในกระดานก่อน เป็นผู้แพ้ รีบๆคิดวางแผนปรึกษากันให้ดีๆแล้วเดินกันให้จบนะ ถ้าเดินไม่จบ อาจจะลงมาจบให้เอง ^_^ ล่ะ 5_5 ชอบกันจังเลยนะ เรื่องคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วนี่


    เชื่อไหมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รู้ล่วงหน้ามาตลอดว่าจะผลุบๆโผล่ๆมา และเชื่อไหมว่า เห็นแค่ ต้นข้อความ ก็ไม่เคยอ่านจบเลยแม้แต่ข้อความเดียว อ่านเพียงไม่เกิน 4-5 บรรทัดเพียงเท่านั้น เพราะรู้ขันธสันดานหยาบของคน

    ดูแค่อักษร ที่สื่อออกมาก็เพียงพอที่จะรู้และชี้ชัดได้แล้วว่า ชั่วโดยพิสดาร ชั่วแบบไม่รู้ตัวและแบบรู้ตัว จนไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆมาเปรียบเปรยได้

    อ่านแล้วก็ เกิดเวทนาสงสาร กรรมของสัตว์ ที่แม้แต่จิตใจตนเองยังไม่สามารถขัดเกลาให้ขาวสะอาดได้ และยังชักชวนผู้อื่นให้มีจิตใจสกปรกไปกับตนเองอีกด้วย


    เชิญตั้งม๊อบ ก่อม๊อบได้ตามสบาย ระยะนี้ เขาฮิตกัน ^_^


    Nice day .

    received_486967605797512.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2021
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด ที่ตัวบุคคลนะ

    แต่ไม่ชอบ กาย วาจา ใจ ที่ทุจริต ที่แสดงออกมาน่ะ! มีคนอื่นอีกมากมายหลายคน เขาเอือมระอา รู้หรือเปล่า

    เลยลงมาโปรดสัตว์ ^_^ พอเท้อ พ่อแก้วแม่แก้วเอย พ่อทูนหัว แม่ทูนกระหม่อม พ่อกำลังม้า แม่ช้างสาร ^_^

    จะเอานรกขุมไหนถึงจะพอใจ กรรมในชาตินี้ ยังไม่พอที่จะตอบโจทย์ชีวิตอีกเหรอ!

    มาเป็นเปรตสัมภเวสี ฯขอส่วนบุญ ร่อนเร่เกาะกระดานเว็บบอร์ดไปเรื่อย
     
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    เว็บบอร์ดเค้าก็ใจดีนะ ปล่อยให้คนบ้ามั่วในกระทู้:)

    รับยาที่ ช่องOne:)
     
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เราก็บ้าเหมือนกัน บ้าความเป็นพระเอกใหญ่ (อาถรรพ์ผีพระเอกเข้าสิง)

    ดันเผลอบ้าตามไปด้วย อินดราม่ามากจนวางแผนจะโดดใส่ บ้านอยู่บำรุงให้ แล้วตอนนั้น แค้นแทน



    เกือบละ โชคดี ละครจบก่อน!


    "เชื่อเถอะไม่มีใครที่จะสามารถรักมันและเคยรักมัน และรักมัน มีจิตใจที่บริสุทธิ์ที่หวังดีต่อมัน ทำเพื่อมัน ได้เทียบเทียมเท่ากับเรา"

    "☆เกิดมาพึ่งเคยเจอ ไม่อยู่ออกไปทำงาน 3 วัน กลับมา ชั้นท้องกับเขาแล้ว เขาเป็นพระมหาโพธิสัตว์ ไม่ใช่สัตว์นรกติรัจฉานอย่างแก☆ "

    เมื่อวานซืนก่อนไปยังมาแก้ผ้าชวนเล่นXxX ผ่านหน้าจออยู่เลย ดีนะกูไม่หลวมตัวไปด้วย ได้แต่เออออห่อหมก บำบัดความใคร่ให้มัน

    วันต่อมาชวนกูเล่นอีก กูเซย์โน กูไม่เคยยินดี ขัดใจตลอดและ เพราะเริ่มรู้แกว
    ถ้าจะให้นับ แทบทุกวัน ที่ได้รู้จักกัน

    โคตร สตั้น รุ่งขึ้น พระเอกเปิดฉากทวงเงินในกระดานแชท แช่งชักหักกระดูก โชว์แมน

    ไปรู้จักตอนไหนจ๊ะ! ^_^ หลังไมค์เขาส่งข้อความมาบอกมาแจ้งเตือนถึงพฤติกรรม อยู่นะจ๊ะ คนที่คุณไม่รู้ อย่าระแวงจนไปเกะกะระรานเขาไปทั่วเด้อ ! หัดมียางอายกันบ้างทั้งคู่
     
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เราก็บ้าเหมือนกัน บ้าความเป็นพระเอกใหญ่ (อาถรรพ์ผีพระเอกเข้าสิง)

    ดันเผลอบ้าตามไปด้วย อินดราม่ามากจนวางแผนจะโดดใส่ บ้านอยู่บำรุงให้ แล้วตอนนั้น แค้นแทน



    เกือบละ โชคดี ละครจบก่อน!


    "เชื่อเถอะไม่มีใครที่จะสามารถรักมันและเคยรักมัน และรักมัน มีจิตใจที่บริสุทธิ์ที่หวังดีต่อมัน ทำเพื่อมัน ได้เทียบเทียมเท่ากับเรา"

    "☆เกิดมาพึ่งเคยเจอ ไม่อยู่ออกไปทำงาน 3 วัน กลับมา ชั้นท้องกับเขาแล้ว เขาเป็นพระมหาโพธิสัตว์ ไม่ใช่สัตว์นรกติรัจฉานอย่างแก☆ "

    เมื่อวานซืนก่อนไปยังมาแก้ผ้าชวนเล่นXxX ผ่านหน้าจออยู่เลย ดีนะกูไม่หลวมตัวไปด้วย ได้แต่เออออห่อหมก บำบัดความใคร่ให้มัน

    วันต่อมาชวนกูเล่นอีก กูเซย์โน กูไม่เคยยินดี ขัดใจตลอดและ เพราะเริ่มรู้แกว
    ถ้าจะให้นับ แทบทุกวัน ที่ได้รู้จักกัน

    โคตร สตั้น รุ่งขึ้น พระเอกเปิดฉากทวงเงินในกระดานแชท แช่งชักหักกระดูก โชว์แมน โดยไม่รู้ว่านางเอก ไปทำอะไรไว้และมีสัญญาใจทำอะไรไว้บ้าง และเกี่ยวพันกับใครบ้าง หมดไปกับมันเท่าไหร่ เตรียมการลงทุนอะไรเพื่อมันบ้าง ใครเป็นคนมาขออยู่ด้วย คำพูดสุดท้าย " อยู่ด้วยได้ไหม " ยังอยู่ในใจกูเสมอ กูตอบไปว่า" ได้ " กูจะดูแลเอง "

    สรุป พลิกลิ้น มีผัวมีท้องกระทันหัน ผัวทางใจ ผัวบำบัดความใคร่ อย่างกูเลยตกกระป๋อง ^_^

    โคตรฮา ..สารคดี ผัวเมียละเหี่ยใจ


    ไปรู้จักตอนไหนจ๊ะ! ^_^ หลังไมค์เขาส่งข้อความมาบอกมาแจ้งเตือนถึงพฤติกรรม อยู่นะจ๊ะ คนที่คุณไม่รู้ อย่าระแวงจนไปเกะกะระรานเขาไปทั่วเด้อ ! หัดมียางอายกันบ้างทั้งคู่


    พฤติกรรมต่อมา ตามเช็คตามสืบประวัติว่ากูเคยรักใคร เคยมีใครมาก่อน พยายามหว่านล้อมเพื่อดรีมทีม มาเพื่อดิสเครดิตกู คนที่เขารู้ทันเขาไม่ยุ่งด้วย ก็มี

    สนุกปลอมเฟสเอารูปภาพคนอื่นมาหลอกกูก็มี ว่ารักอย่างนั้น รักอย่างนี้ สุดท้ายกูไล่ตะเพิดหนี พวกมึงคิดว่ากูดูไม่ออกเหรอ ^_^ บร้า กูไม่หน้า_ ห_ ขนาดนั้น

    พอรู้ข่าวในปัจจุบัน กูจะสละโลกละทิ้ง ลาภยศ เงินทองและสมบัติ เป็นแบบเคร่งด้วยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินทองผลประโยชน์ ก็ร้อนตัวร้อนใจกัน กลัวว่าจะซวย เลยต้องหาพันธมิตรมาร่วมซวยด้วย

    ใครเขาจะเอากับมึง คนที่ฉลาดๆน่ะ คงมีแต่คนโง่ประจบสอพลอเพียงเท่านั้นแหละที่มึงจะไปหลอกเขาได้

    การลงโทษความไม่ซื่อของพวกมึงนี่ แค่นี้ นับว่าน้อยเกินไป

    ด้วยรักและกรุณามีเมตตาจิต

    โปรดสัตว์แค่นี้ พอใจไหมจ๊ะ ^_^ รึจะเอาอีกไหม เดี๋ยวจัดเขียงใหญ่กว่านี้ให้

    เปิดดูไฟล์ 5574447
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2021
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    "เวรกรรมสัตว์โลก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
    received_537644987151690.jpeg
     
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ⊙โจทนาสูตร⊙

    ถ้าเป็นเรื่องจริง จึงควรเดือดร้อน ไม่เป็นเรื่องจริง ไม่ควรเดือดร้อน

    " ผู้ไม่เคยกล่าวเท็จ ในกระดานเว็บบอร์ดและภายนอกการใช้ชีวิต มาโดยตลอด 10 ปี "
    การันตีความเฮีย ^_^ เฮียไม่ลงจริงๆ

    กับปลาซิวปลาสร้อย มาร 5 ที่ชอบกล่าวอยู่เนืองนิตย์ จนเป็นนิสัยกมลสันดานหยาบโดยพฤติกรรม

    มันลงทุนถึงขนาดส่งโทรศัพท์และขยะมาให้ใช้ ตอนนี้อยู่ป่าไหนก็ไม่รู้แล้ว

    โทรศัพท์ติดGps เพื่อทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหว ว่ามีไทม์ไลน์ไปไหนอะไรยังไง มันลงทุนถึงขนาดนั้น 55 สันดานจริงๆ เลยเขวี้ยงทิ้งแบบสะใจ ^_^ จำได้หรือเปล่า ตอนเขวี้ยงทิ้งน่ะ คุยกับใครอะไรยังไง ?

    คนละชั้นกันมาก ความน่าเชื่อถือ และความน่าจะเป็น


    พุทธศาสนสุภาษิต
    อภูตวาที นิรยํ อุเปติ “คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2021
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ถ้าให้ลงเขียงใหญ่ จองกรรมจองเวรกันน่ะนะ แต่กูไม่ทำ
    เพราะกูสงสาร
    อยู่ในประเทศนี้ พวกมึงหนีไม่พ้นหรอก ผู้ที่เขาจะลากคอพวกมึงมี เชื่อกูเถอะ! ว่าเขาตามมึงเจอภายในไม่กี่วัน

    พูดอะไรไว้ทำอะไรที่ไม่ดีไว้ มันก็จะมัดตัวเองทำร้ายตนเองในภายหลัง

    กูทำไม่ลง บอกตามตรง ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2021
  17. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ขอลาพักร้อนก่อนนะ ^_^ จะโพสต์หรือโต้ตอบอะไรทางไหนก็ตามสบาย ทางมวยดูรู้หมดแล้ว คะแนนเอกฉันท์ก็ออกมาแล้วตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นชก ไว้มีเวลาค่อยกลับมาอ่าน

    กรอกแบบฟรอม์การประเมินให้ผ่านนะ แล้ววางแผนการให้เยอะๆ อย่าพลาดอีก !

    อันนี้แค่ ออเดอร์ ^_^ อาหารว่าง เท่านั้นเองนะ
    อยากรู้จริงๆว่าจะแน่สักแค่ไหน ?

    เตือนแล้ว ไม่ฟัง !
     
  18. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    กระทู้นี้กระทู้ " พุทธทำนาย " ไม่ใช่กระทู้ รักสามเส้า ,ชู้รักเรือล่ม, หรือ ผัวเมียละเหี่ยใจ

    พวกมึงอ่านและสะกดเอาไว้ให้เป็น คราวหน้าคราวหลังก็ อย่าเสือกนอกเรื่องอีก !

    ปล.กูอาจจะไม่ใจดีกับพวกมึงเสมอไป ถ้ามึงไปเบียดเบียน ให้ร้ายผู้อื่นเขา โดยความโง่เขลาอวดตนถือดีด้วยความเป็นพาลปุถุชนอย่างพวกมึง
     
  19. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ที่แท้ก็โยม "เสขะ" นี่เองที่เค้าพาดพิงถึง:)

    ไปหลอกอะไรใครไว้เหรอโยม..

    เล่าให้ฟังบ้างสิ..
     
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เดี๋ยวเปิดหัวกระทู้ให้

    ชื่อกระทู้


    ♡○♡ มีใครบ้างเอ่ย?ที่ถูกเราหลอก ถูกเราปล้น ถูกเราจี้ เอาทรัพย์สินเงินทองของมีค่า จนไปถึงขั้นเสียเนื้อพลีตัวพลีกายพลีใจให้กับเราบ้าง♡○♡


    จงปรากฎตนออกมาเถิด จงมาเม้นในกระทู้นี้ ตอบกลับข้อความนี้เถิด ท่านทั้งหลายในเว็บพลังจิตนี้ จงออกมาโจทก์โทษแก่เราเถิด จักจะเป็นพระคุณอันยิ่ง

    เชิญมาร่วมด้วยช่วยกันเถิด ปราบปรามคนชั่ว อภิบาลคนดี อย่าให้คนชั่วหากินในเว็บบอร์ดพลังจิตนี้ด้วยกันเถิด!
    87e2b405107d6d31b9da999cb4b2b6df.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...