มีปัญหากับ อารมณ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชมทรัพย์, 8 พฤศจิกายน 2019.

  1. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    เมื่อวานช่วยวัดตัดหญ้าจนดึกจึงมีโอกาสคุยสอบถามเรื่องการภาวนากับพระท่านที่เป็นอาจารย์ เป็นการส่วนตัว ได้โอกาสสอบถามเรื่องการภาวนาเล่าสภาวะที่เคยลงถึงธาตุรู้แต่ภาวนาอย่างไรก็ไม่เคยรวมถึงขนาดนั้นอีก ท่านว่าใช่คนที่เจอจิตแล้ว ให้ดูที่เดิมนะ เคยเจอแล้วยังไงก็ต้องเจออีก มันอยู่ตรงนั้นแหละไม่หายไปไหน ไม่ต้องอยากเจอ ไม่ต้องอยากให้สงบ

    “ไม่ต้องเอากิเลสไปละกิเลสทีละตัวนะ ละยังไงก็ไม่หมด”

    เพราะ “ถ้าเห็นจิต แล้วกายก็ไม่เกี่ยวอารมณ์ก็ไม่เกี่ยวเลย ให้ดูที่จิตแบบที่หลวงปู่ดูลย์สอน คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ให้หยุดคิดถึงรู้ แล้วให้อยู่ตรงนั้นเลย” โอ้ยนั่นสุขยิ่งกว่าอะไรแล้ว



    ข้อความจดจำมาอาจตกหล่นบ้าง ยกมาเผื่อว่าใครจะนำไปเป็นอีกแนวทางปฏิบัติหรือข้อธรรมเทียบเคียงให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนตัวรับข้อธรรมมาพิจารณาอยู่แต่ยังไม่เข้าใจครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    แบบนี้มีประโยชน์ครับ
    แต่มีข้อสนทนาชวนพูดฝากไว้เล่นๆครับ

    ปกติถ้าภาวนาได้ จนเห็นตัวจิตได้แล้ว
    เรียกว่าเห็นเป็น ดวงๆ ก้อนๆ กลมๆ
    แสดงว่าช่วงนี้ มีกำลังสมถะเป็นตัวนำ
    และมันก็จะแสดงให้เห็นกระบวนการ
    ข้างหน้า ซึ่งการเห็นข้างหน้าก็คือ
    การที่ตัวจิตมันส่งตัววิญญานการรับรู้
    ต่างๆบวกกับสัญญาในตัวมันเองออกไปปรากฏให้เห็นตามแต่ภูมิธรรมและ ความสามารถเดิม ที่เคยมีในจิตมาก่อน
    ในช่วงเวลานั้นนั่นเองครับ
    นึกภาพเปรียบว่า

    เรากำฝ่ามือ(เทียบได้คือตัวจิต)
    แล้วฝ่ามือเราเหมือน
    โปรเจกเตอร์ที่ฉายแสงออกไปจากฝ่ามือไป
    ปรากฏเป็นภาพต่างๆ
    ให้เห็นด้านหน้าได้นั่นเอง
    แต่ภาพที่ไปปรากฏนั้น
    แท้จริงมันมีแหล่งที่มา หรือมีอะไรก่อน
    ที่จะทำให้เกิดภาพเหล่านั้นอยู่หรือไม่ครับ ?
    ลองคิดดีๆครับ
    แสดงว่ามันยังมีอะไรอยู่เบื้องหลัง
    ของข้อมูลที่ผ่านโปรเจกเตอร์ออกไป
    ปรากฏให้เห็นไหม ?

    ส่วนในบุคคลที่
    เน้นทางด้านปัญญามากกว่าสมถะ
    แล้วมาถามว่า
    ตัวจิตรูปร่าง หน้าตาเป็นอย่างไร?
    ก็จะมองไม่เห็นตัวจิตทางนามธรรม
    (เปรียบได้กับฝ่ามือ หรือตัวเครื่องโปรเจกเตอร์)
    เหมือนที่ทางบุคคลที่มีสมถะเป็นตัวนำ

    กิริยาแบบนี้ เปรียบให้เข้าใจได้ว่า
    เหมือนการที่ถอยออกมาเป็นอะไรซักอย่าง
    (ที่ปกติทางสมถะจะไม่เห็น เพราะจะเห็นเฉพาะตัวโปรเจกเตอร์ และเห็นตอนที่โปรเจกเตอร์ทำงานส่งภาพไปแล้ว) แล้วเข้าไป
    แกะดูการทำงานของเครื่องโปรเจกเตอร์
    ภายใน ว่าเป็นอย่างไร ทำงานอย่างไร
    ดูว่าข้อมูลต่างๆ(ที่ทางสมถะเห็นเป็นภาพภายนอก) มีที่มาที่ไปอย่างไร

    ดังนั้น
    หากสังเกตุ ไม่ว่าจะหนักทางสมถะ
    ที่เห็นได้เป็นภาพมาปรากฎภายนอก
    และไม่ว่าหนักทางปัญญา
    ที่เห็นได้จากการแกะ
    เครื่องโปรเจกเตอร์เพื่อดูภายในเครื่องนั้น
    ก็จะเห็นข้อมูลได้เหมือน แต่คนละมุมครับ

    และถ้าสังเกตุต่อไปอีก จะพบว่า
    ไม่ว่าหนักทางใดก็ตาม
    ก็จะยังเป็นการเข้าไปเห็น ไปรู้
    ได้เห็นได้รู้ จากโปรเจกเตอร์นี้อยู่
    ซึ่งก็ขึ้นกับว่าเครื่อง
    มันจะเก็บข้อมูลอะไรเอาไว้ครับ
    ดังนั้น การเข้าไปเห็นไปรู้แบบนี้
    แม้ว่าจะแสดงให้เห็นเป็นภาพได้
    จึงยังไม่ การรู้ใหม่อะไร เป็น
    เพียงแค่การได้เข้าไปรู้ ฐานข้อมูลเดิมๆ
    ที่ได้เคยเก็บเอาไว้เท่านั้นเอง

    สรุป จะต้องหา สมดุลย์
    ทางสมถะ และ ทางปัญญา
    ตรงนี้ให้เจอด้วยตนเอง
    เราก็จะเข้าใจกระบวนการทำงาน
    ต่างๆของมันได้เอง โดยที่ไม่เผลอ
    ไปเข้าใจผิดว่า ในทางที่ตนเองเน้นหนัก
    อยู่ตอนนี้นั้น และด้วยกระบวนการทำงานปกติของมันนั้น เป็นการเกิดเครื่องรู้
    เกิดองค์ความรู้อะไรครับ

    แล้วต่อไปก็จะพบได้เองว่า
    ไม่ว่าหนักสมถะไป
    หรือหนักปัญญามากไป
    มันก็ยังเป็นกระบวนการปรุงแต่ง
    อย่างหนึ่งของจิตอยู่ หรือพูดง่ายๆ
    ว่ามันเป็นโปรแกรมการทำงาน
    ปกติของมันอย่างนี้ที่ได้ถูกวางไว้แล้ว

    เมื่อเข้าใจได้ถึงขั้นที่รู้ว่าแท้จริงมันคือกระบวนการปรุงแต่งทั้งหมด
    ผลที่ตามมา ก็คือตัวจิตมันถึงจะคลาย
    ตัวเองได้ตามธรรมชาติของมันเอง
    ความเบาสบายของกายก็จะตามมาเอง
    ในเวลาใช้ชีวิตปกติครับ

    ไม่งั้นก็จะเผลอไปติดสุข ติดสบาย
    แล้วเผลอคิดว่า เป็นการรู้ เป็นองค์ความรู้
    ที่เป็นผลจากช่วงที่กำลัง
    เข้าไปรู้รายละเอียดโปรเจกเตอร์
    หรือ ติดสุข ติดสบาย จากการได้เห็น
    ภาพจากจอโปรเจกเตอร์แล้วเข้าใจ
    ว่ารู้ได้ อย่างคาดไม่ถึงครับ

    ปล. การจะวัดผลที่ได้นั้น
    ให้ดูกิริยาที่เกิด ตอนที่เรา
    ใช้ชีวิตประจำปกติครับ
    ถ้ายังไม่เกิด แสดงว่ามันต้องมี
    มุมอะไรที่เรายังมองเห็น
    หรือเข้าไม่ถึงอยู่ครับ

    ฝากไว้พิจารณา
    เป็นแง่คิด ทิ้งไว้ในอีกมุมครับ
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ "ทรีอินวัน" มันผสม คอฟฟี่เมท ซึ่งกรรมวิธีในการผลิตมัน แผลง ๆ อยู่นะ
    +++ พรรคพวกเล่าให้ฟังว่า "เคยไปดูที่โรงงาน ผลิตคอฟฟี่เมท"
    +++ มันใช้ น้ำมันพืชผสมกับอย่างอื่น ฉีดเป็นฝอย ผ่านความร้อนที่ 400 องศา
    +++ แล้ว ตกลงมาเป็น คอฟฟี่เมท มันบอกว่า
    +++ ให้ลองถาม คนที่เป็นมะเร็งว่า "ชอบกินคอฟฟี่เมท" หรือเปล่า
    +++ ว่าง ๆ ลุงแมวลองไปถามคนที่เป็น มะเร็ง ดูนะ
    +++ ส่วนผมเอง ไม่ใช้คอฟฟี่เมทมาหลายปีแล้ว เลยไม่ไดถามใครเลย
     
  4. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    คนคนนี่เป็นตุ๊ดรึเปล่า ใช้คำลงท้าย เดี๋ยวผม ครับ เดี๋ยวค่ะ ดิฉัน รึมันมี2เพศ ในตัวเดียว
    แบบนี้พระพุทธเจ้าท่านไล่ให้หนีไปไกลๆ จากพระศาสนานะ
     
  5. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    OK. เข้าใจละ แมงกะตุ๊ดอีกตัว ทำไมพวกตุ๊ดมันชอบเข้ามาวุ่นวายกับ พระศาสนา เยอะจังนะ ทั้งที่พระพุทธเจ้าท่านก็ห้ามตลอด พวกนี้มันก็ยังเล็ดลอดเข้ามาอยู่ได้
     
  6. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ความเห็นที่รวมลงเป็นธาตุรู้ ไม่เห็นเป็นดวง เป็นมโนภาพครับ เห็นเป็นธาตุมีแต่รู้ล้วนๆ เป็นอิสระ พอกระเพื่อม ก็ปรุงยิบๆแย็บๆออกมาเป็นสัญญาสังขาร มีอายตนะปรากฏถึงเริ่มได้เรื่องได้ราวครับ มีความเห็นประมาณนี้ครับ ถ้าผมมีความเห็นผิดบกพร่องตรงไหนก็ช่วยแลกเปลี่ยนแนะนำกันด้วยความยินดีครับคุณนพ
     
  7. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    เหนเปนคุงเสขะ ของ พี่เกิดฯ อะนะ

    เลยขอ ส แยบ....

    เอาจิตไปละจิต อีกแสนโกฏิกัป ก้
    ตายเปล่า

    เพราะ จิต ตัสมันเอง เปนอาหาร
    ให้กับตัวมันเอง พระศาสดา บัญ
    ญัติว่า "วิญญานาหาร"

    ดังนั้น การปรารภ จิตเปนอิสระ
    ต่อให้เปน อรหันต์ ย่อมกล่าว ผิด
    ธรรม(บัญญัติ) ด้วยความซื่อ ไม่มี
    ทางรู้จริงเรื่องจิต จึงจัดเข้าเปน
    ปาปมุติ หมดฐานะ พูดได้จริงแค่
    ที่เหนผิดอยู่

    ทำไมเหนผิดเรื่อง จิต แล้ว เปน
    อรหันต์

    ก้มันคนละเรื่องกับ การเหนกิเลส
    อาสวะ ตามจริง ซึ่งเปน ธรรมฝ่าย
    ปฏิบัติ

    อายตนะปรากฏ คุงเสขะ ดูอยู่แค่นั้น
    ก้เท่ากับ ประครองจิตไว้ อนุโลมลง
    ไปไม่ถึง ตัณหา อุปาทาน

    ภาวนาอีกล้านกัป ก้ ตายเปล่า

    ภาษาหลวงตา ท่านจะ ว่า ภิกษุที่
    เอาแต่ ประครองสมถะ ว่า ngo
    กว่า มหานอนตาย

    แล้วท่านยกตัวอย่าง อสุภะท่านแน่ว
    ท่านเลน เอะใจ จัด สุภะ เข้ามาสลับ
    ปิติ ....จึงอ้าว มหานอนตาย นี่.....
     
  8. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ปล.ลิง...

    กรณีที่ คุง เสขะ เปน ฆราวาส ก้อย่า
    ซื่อ จน เซ่อ ไปหา สมถะกองอื่นมา
    "สับปิติ"

    ฆราวาส ไม่มีฐานะจะไป ทำ สมถะ
    ให้เมื่อยตุ้ม เพราะ วาสนาใรการสอน
    มัน ตราหน้าอยู่แล้วในการเปนฆรา
    วาส(เพศที่ไม่สามารถ สอนธรรม
    คนอื่นได้)

    ดังนั้น หาก จิตนิ่ง จิตอิสระ เหนอย่าง
    นั้นเมื่อไหร่ อย่า ทำสมถะเพิ่ม

    ให้ ถอยเกียรมหา ลงไป สมาทานสีล
    หรือ ทาน แบบเด็กๆ ดู....

    แล้วจะเหน ทิฏฐิที่เหนผิดกระซิบ
    หลอกว่า แน่ววววววววแว้วววววว
     
  9. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021

    พี่นิวรณ์ความจริงสมถะที่ว่านี่จะถือว่าติดก็ได้ครับ ไม่ใช่ว่าติดเพราะถึงสภาวะได้เสมอหรือคงอยู่ในสภาวะนั้นๆได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่ติดใจในความสงบที่เคยถึง ทำให้จิตโหยหาถึงสภาวะนั้นตลอดหาหนทางต่างๆนาๆให้ถึงผล


    พิจารณาไปๆนั้นน่าจะต้องเกิดจากเหตุ


    เหตุที่พี่ว่าน่าจะถูก ถึงเหตุ-ผลครับ เมื่อถอนอุปาทานตัณหาแล้ว ก็ไม่ต้องประครองไม่ต้องเข้าต้องออกอะไรอีก


    พอตั้งสุภะหรือตาเห็นสุภะจิตก็ไหลไป ตั้งสติไม่ได้ ฐานของจิต สติสมาธิไม่มีกำลังใช่ไหมครับ


    สภาวะจิตปัจจุบัน ไม่ได้ติดสุข เห็นทุกข์จมในทุกข์น่ะครับ
     
  10. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ครับ
     
  11. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ม่ายฉ่าย สมาธิ ไม่มีกำลัง จิ

    หลวงตา ตอนติดสมถะ สมาธิท่าน ทะลุจักวาล !!!

    แต่มัน "นิ่งเกินจริง" ท่านเอะใจ เลยจับผลิก ( ซึ่งก็ต้อง
    มี ศิลป หากไปผลิก ผิดจังหวะ ปลาร้าย จะพาขึ้นรถตู้
    ไปแบบ อะเวสะโก(นามสมมติ) )

    นะ

    ดีนะ ที่ไม่เอา อะไรยกขึ้นมาแหย่ ปากโผม..เรื่อง
    ฆราวาส(ตราบาป ชี้ สอนคนไม่ได้) แต่ไม่แยบ ก็จะ
    ขอ แผลม ฆราวาส สอนไม่ได้ แต่ สั่งได้ หากสั่ง
    แล้วไม่ทำตาม บางสมัยอาจหัวขาด จับลงอาญา
    ประจำวันไปโน้น.....

    ที่ฆราวาส สอนไม่ได้ เพราะ การ เข้าถึงซึ่งความจริง
    (บรรลุธรรม) จะต้องอาศัย สัธทาที่ถูกฝา อันเกิดจาก
    การตามสังเกตุ วิชา จรณะ สัมปันโน ... ซึ่งตรงนี้
    เพศที่รองรับได้มีแต่ ภิกษุ(แม้น ที่ ทุศีล การเห็น
    สมณะ จึงเป็น มงคล)

    การจะไปตามคอยดู ศีล วิชา จรณ ฆราวาส แล้ว
    เห็นจริง ของจริงได้ เป็นอฐานะ แค่ ข้าวสามมื้อ
    ก็ไปไม่รอดแล้ว

    นะ

    พี่เสขะ ของพี่เกิด อย่ารอ พี่เกิดอยู่ อย่าไปประครอง
    จิตให้นิ่งเกินจริง ข้าวสามมื้อ กิน อิ่ม นอนอุ่น แค่นี้
    ฆราวาสก็ เฮีย!ดีๆ นี่เองแล้ว ดังนั้น พึงทราบว่า

    แค่ สัมมาทิฏฐิ เห็นจิตไม่ใช่เรา กายไม่ใช่เรา รู้ซื่อๆ
    ด้วยจิต ตั้งมั่น(เห็นทุกขสัจจ กิจในอริยสัจจ) เดี๋ยว
    สัมมาที่เหลือทั้งหก จะ ปรากฏเป็น "สามัญผล" เอง
    ไม่ต้องไปคอย นั่งปั้น ถวิลหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2019
  12. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ครับผม
     
  13. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ร้อยละร้อย

    พอ เอา สัมมทิฏฐิ นำหน้า .....

    พวก เจ้าหนี้จะกระซิบทวง ....จงใช้ จงใช้
    ( ไหนหละ มรรคผล ที่ละหน้าที่ ฆราวาส
    หน้าที่ ลูก ไปถือ บวช กี่ชาติแล้วเนี่ยะ
    ....นานเป็น อสงไขยละนะลูกกกกก )

    เราไปใจร้อน จะรีบ เอาธรรมไปอวดแม่

    เรียบร้อย สัปปายะ พาทำ สัปปาแยะ แทะ
    สมถะ เอาเทวดา เล่นแร่แปรธาตุ ไปอวดแม่
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ไม่ถ้าถือว่าสิ่งที่พูดมา บกพร่องตรงไหนนะครับ ตอนนี้เป็นมโนภาพอยู่ เพียงแต่มโนภาพ ก็มาจาก ตัวกระแสวิญญานที่ส่งออกมาจากตัวจิตแล้วสร้างขึ้นมาให้เห็นนั่นหละครับ.
    เพียงแต่ตอนนี้ มันสร้างจาก สัญญาต่างๆ หรือข้อมูลต่างๆ
    ที่มีเก็บไว้ในตัวจิตนั่นเอง ข้อมูลอาจเป็นได้ทั้ง
    ด้านปัญญาและความสามารถก็ได้ครับ
    แต่ยังถือว่าเป็นข้อมูลเดิมๆที่เคยมีมาอยู่เดิมในจิตครับ

    หากเพิ่มกำลังสติทางธรรมให้มากขึ้นและสมาธิ
    หนุนเข้าไปตรงนี้อีก. ต่อไปถึงจะมองเห็น จิตเป็นดวงๆได้ครับ
    แล้วไอ้ตัวสติทางธรรมที่ได้จากการเจริญสตินี้
    มันจะเป็นคล้ายๆฝ่ามือ(พูดเปรียบพอให้เห็นภาพ) ที่คอยมอง
    คอยตามตัวจิตแบบใช้ลูกตาดวงเดียวมองดูอยู่ใกล้ๆ
    นั่นเองครับ. ถ้ามาถึงขั้นที่เล่าให้ฟังตรงนี้
    แล้วถึงค่อยถอยมา เน้นทางปัญญา
    ก็จะไปต่อได้ อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วใน # rep ก่อนหน้าครับ
    ก็จะย้อนเห็นกระบวณการปรุงแต่งของมัน
    ที่เป็นสเหมือนโปรแกรมอย่างหนึ่งได้ทั้งกระบวน
    การในลำดับต่อไปนั่นเองครับ

    ถือว่า เล่าสู่กันฟังครับ
     
  15. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ไว้ถ้าเกิดเห็นจิตเป็นดวงๆขึ้น หรือมโนภาพที่แปลกต่างขึ้น จะมาขอความเห็นอีกครั้งนะครับ

    ครับตอนนี้จิตใจเห็นแต่ทุกข์ของการเกิด การมีร่างกาย เกาะทุกข์จมลงในกองทุกข์ ถ้าไม่หนีอารมณ์ก็ไม่มีสุขเลย คือใจเราไม่มีธรรมในใจจริงๆเลยใช่ไหม ที่เรียกว่าใบลานเปล่า หนอนแทะกระดาษ ใครมีคำแนะนำไหมครับ
     
  16. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    เวลา สนทนาธรรม หากไปเจอ พวกฝุ้งซ่าน

    การภาวนาเราจะล้ม เพราะ การเปรียบ
    เทียบเพื่อเอา ของเล่น ไปอวดแม่

    หลักตัองแม่น

    สิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ....

    สิ่งที่ คุงเสขะ อยากมีไว้อวดแม่ มันก้
    เกิดจากเหตุ

    เหตุที่แท้ พระศาสดา ตรัสกับ สุนัขภิกษุ
    ว่า "สิ่งที่ใช้อวดแม่" เกิดจาก การสิ้นอุป
    ทานสิ้นตัณหา

    สิ่งที่ใข้อวดแม่อันสมควร จะปรากฏ
    เปนสามัญผลเอง เมื่อภาวนาด้วย
    การตามเหนความไม่เที่ยง ทุกขอัน
    เกิดจากการเกิด

    ความสัธทาที่ง่อนแง้น นั่นเอง ที่
    ทำให้ไม่สามารถ ตั้ง สัมมาทิฏฐิ
    นำหน้าแล้วไปยก ผู้อื่นว่าเปนเลิส
    กว่าครูของเทวดาอินพรหมยมยักษ์

    ก้สัธทาง่อนแง้น จะถามหา ความ
    สำเร็จจากไหน จาก สาวกธรรมที่
    พร่องความกตัญญญ ไม่ยกแต่คำ
    ของศาสดา เหรอ

    ออกทะเล


    ปล.ลิง : ความฝุ้งซ่าน เปน ฉาไหน...

    ครั้งหนึ่ง พระอนุรุธะ เปน อนาคามี
    มีตาทิพย์ซ่องเหนสัตว์ เกิดดับ มาก
    กว่า พันจักรวาล( เหน สัตวล่วงเลย
    โลกธาตุของสมณโคดม เลยไปเหน
    ใน เขตพุทธันดร พระพุทธเจ้าใน
    จักรวาลอื่น นับ พัน)

    เข้าไปถาม พระสารีบุตร

    เฮดหยังข่อยสิ บ่ มีของไปอวดแม่
    ไม่บรรลุจักเถือ

    พระสารีบุตรตอบ

    ฮื้อ! อย่าว่าจะอู้จะอี้ ที่ว่า ส่องเหนสัตว์
    คุยกับเทวดา เหนจิตเปน พวงๆ ห้อย
    สองสลึง นั่นคือ ฝุ้งซ่าน ส่วนการที่
    ยังมีหน้ามาถามถึงมรรค ทั้งที่ มีสรณ
    มั่นคง(ขนาดมั่นคงแล้วนะ) ให้กำหนด
    รู้ กิเลสชื่อ กุกกะกุกกัก***

    หมายเหตุ *** ต้องไปเช็คตำรา แทะ
    ใบลานเสียหาก มี อธิษฐานจะแสดง
    ธรรมภายหน้า หาก อกตัญญู จะมุ่ง
    แต่ ความสำเร็จตน ก้ เอาสันติยัน
    พุทธวจนใส่ลิ้นชักไว้ ไม่ว่ากัน!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2019
  17. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ถ้าทำตามนี้ แล้วจิตเศร้าหมอง จิตไม่มีสุขเลย ?
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ไหนๆ ก้ ไหนๆ แล้วนะ จะ รีรัน อีกรอบ...

    ตั้งแต่ปี 49 คุงเสขะ ก้ ยังติดตัวเดิม

    ป๋ม ฝาดด้วยข้อหา ประจบ สอพล....

    อาสัย เวลา คุงเสขะ ยก พุทธวจน บ้าง
    ยกคำสอน โค..พ่อ..โค..แม่ ครูบาอจ.
    บ้าง

    ที่สำคัญ คือ ตอนเสวนา คุงเสขะ
    ออกอาการชัดว่า ประจบ พอพล...
    เสวนาธรรมด้วยอาการ จ๊ะจ๋า

    ป๋มก้ฝาดเอาครั้งแล้ว ครั้งเล่า
    ว่า ห้ามปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม
    ด้วยอาการ ประจบ สอพล....

    ป๋มไม่ได้มั่ว ยกเอง....

    คุงเสขะ สามารถ ตรวจทาน m150
    พุทธวจน จากพระ150 ได้ในบทว่า
    ด้วยเรื่อง การสดับความจริง การ
    ทรงไว้ซึ่งความจริง การเหนตามจริง
    และ....

    การเข้าถึงซึ่งความจริง ที่ตรัสแก่
    มาลุงกยบุตร

    ซึ่ง สุดท้ายของพระสูตร พระศาสดา
    ตรัสว่า "การเข้าถึงความจริง ไม่สามารถ
    เข้าถึงด้วย การคอยตามอุปฐาก ฯ"

    ...เยินยอ ตัดแปะคำสอน ขอบคุณครับ
    ผมจะรับไปพิจารณา....จ๊ะจ๋า สอพล..!!
     
  19. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ใครเขา ปฏิบัติ เพื่อให้ จิต เปนนั่น มีหนี้
    ละคร้าบ

    เขาให้ ยก เหนจิต เปน สิ่งที่ แปรไปตาม
    เหตุ ตามปัจจัย ....

    ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย จิต ตั้งขึ้นไม่ได้

    เหนแบบนี้ เรียก กำหนดรู้ทุกขสัจจ
    ....กิจในอริยสัจจ

    ไป ตบแต่งจิต ให้อย่างโน้น อย่างนี้
    จัดเปน เวมานิกเปรต มีฤทธิ์เลิสกว่าเทวดา

    กำหนดเหน จิตเปนสิ่งตบแต่ง จะได้
    แค่พรหมโลก หรือ ปรนิมวัสสวัตตี

    กำหนดเหน จิตแปรปรวน .....
    เปนมรรค ประจักษ์ นิโรธน
    บึ๊ดจั๊มบึ๊ด
     
  20. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...