ร่วมทำบุญบูชา ชุดเก่าตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EI 3031 3445 5 TH

    พี่ภาคภูมิ EI 3031 3446 9 TH

    พี่สายเมธี EI 3031 3447 2 TH

    พี่ณธพรหม EI 3031 3448 6 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)

    ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้
    ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป

    ด้วยเหตุนี้
    พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักขโมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)

    เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท

    อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา

    ท่านว่า
    เจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน

    ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่า
    กินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก

    ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง ***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น

    ### วิธีใช้

    - ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย

    คาถาอาราธนา
    ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเทถา สัตถิระ สามะทัมสะริปุโรตะ นุตอะทูวิกะโลโตคะสุโนปันสัม ณะระจะชา วิโทพุธสัมมา สัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ) ร่วมทำบุญบูชา 900 บาท


    73150693-522245141908596-3124382089848291328-n.jpg
    72430561-493077137942647-9155337525798109184-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีหลายคนแนะนำเรื่องค่าส่งกับเครื่องมงคล อยากจะให้ยุบรวมไปบัญชีเดียว ให้เหลือบัญชีเดียวก็พอ เพราะบางคนโอนมาเสียค่าธรรมเนียมซ้ำยังต้องโอนถึงสองครั้ง บางคนก็โอนรวมไปบัญชีใดบัญชีหนึ่งทีเดียวซึ่งผมไม่ได้มีแจ้งเตือนและต้องตามเช็คเวลาการโอนซึ่งทำได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เรื่องนี้จริงๆก็พูดอยู่เรื่อยๆและค้างๆคาๆมานานมากแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้ผมจะยุบรวมเอาไว้นะครับเพื่อความสะดวก ต่อไปก็โอนรวมกันไปเลยบัญชีเดียว
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ผมแก้ไขรายละเอียดการโอนในกระทู้หน้าแรกไว้ให้แล้วนะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สายเมธี EI 3031 5580 4 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 3031 5581 8 TH

    พี่พรหมพล EI 3031 5582 1 TH

    พี่ณธพรหม EI 3031 5583 5 TH

    พี่สุรวุฒิ EI 3031 5584 9 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พิรอด

    เครื่องรางของขลังในสมัยโบราณมากมายหลายชนิด หนึ่งในนั้นอันเป็นที่นิยมกันมากในหมู่ผู้ชายชาตรีคือ “แหวนพิรอด” อนึ่งคนสมัยก่อนมีนิสัยรบทัพจบศึกสงครามอยู่บ่อยครั้งต้องมีการต่อสู้กับข้าศึกจึงมีผู้ประดิษฐ์คิดค้นของขลังชนิดนี้ขึ้นมาโดยอาศัยว่าจะทำให้คงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า ป้องกันตัวจากข้าศึกศัตรู

    แหวนพิรอดแต่เดิมนั้นหาได้ไม่ยากนักมีอยู่ถมไปตามสำนักต่างๆ แต่ละอาจารย์ท่านก็สานออกมาให้ลูกศิษย์ลกหาประชันวิชากันอยู่บ่อยๆ แต่มาในปัจจุบันเริ่มหาผู้ถักและมีวิชาอาคมปลุกเสกเลขยันต์แหวนพิรอดไม่ค่อยจะเหลือแล้วจึงถือว่าเป็นของหายากมากๆ ยิ่งอาจารย์เก่าที่ท่านไม่อยู่บนโลกนี้แล้วก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ถึงปัจจุบันจะมีคนถักเป็นแต่ก็ใช่จะขลังเช่นเดียวกับคนสมัยก่อนถักขึ้นมา

    ในเงื่อนต่างๆที่เราได้เรียนจากลูกเสือ ผมก็เรียนมานะแถมไม่ได้เรื่องอีกต่างหาก เงื่อนชนิดหนึ่งชื่อว่าเงื่อนพิรอด เป็นเงื่อนที่ง่ายๆใครๆก็ทำได้ใช้ต่อเส้นเชือกหรือมัดห่อสิ่งของ ผูกอะไรต่อมิอะไร ซึ่งเงื่อนพิรอดนี้เป็นตัวอย่างง่ายๆในการผูกเงื่อนแหวนพิรอดที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น

    อุปเทห์ว่าแหวนพิรอดใช้ป้องกันตัว เป็นของขลังที่มีคุณทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี ศาตราอาวุธฟันแทงไม่เข้า สวมใส่แล้วอึดทึกอดทนมากขึ้น ป้องกันคุณผีและคุณคน ป้องกันคุณไสยศาสตร์ต่างๆ


    พิรอด คืออะไร ?
    จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า พิรอด น. ชื่อแหวนชนิดหนึ่ง ถักด้วยผ้ายันต์หรือด้ายดิบเป็นต้น ใช้เป็นเครื่องราง.

    พันเอกพระสารสารขันธ์ ท่านให้ความหมายแหวนพิรอดว่า "ชื่อ พิรอด มาจากภาษาสันสกฤตว่า วิรุทธ หรือ พิรุทธ แปลว่า อันขัดกันอยู่ อันได้รับการต่อต้านหรือขัดขวาง อันตรงกันข้ามเมื่อพิจารณาจากลายที่ถัก ก็ใช้ขัดกันแบบเงื่อนลูกเสือที่เรียกกันว่า เงื่อนพิรอด ก็ดูจะสมกับชื่อในภาษาสันสกฤตอยู่มาก เงื่อนพิรอดนั้นเป็นเงื่อนที่ใช้กันมาแต่โบราณนานมาก หลักฐานที่พอจะชี้ให้เห็นเป็นตัวอย่างได้ก็คือรูปสลักหินโบราณของพวกขอม จะเห็นว่าผ้าคาดเอวตรงด้านหน้าทำเป็นเชือกผูกเป็นเงื่อนพิรอดอย่างนี้เหมือน กัน เงื่อนชนิดนี้ยิ่งดึงยิ่งแน่น"

    ความเป็นมาของแหวนพิรอดนั้นยากที่จะสืบเสาะหา บางท่านกล่าวว่า อาจจะมาจากชื่อคนว่า “พิรอด” เป็นผู้สร้างขึ้นหรือ แหวนหลวงพิรอด นั่นเอง แหวนพิรอดนั้นเชื่อว่าแต่เดิมพัฒนาอาวุธคู่กายของนักมวยที่เรียกว่าสนับแขน ด้วยเหตุว่าการชกต่อยกันจะมีการต่อสู้ในระยะประชิด อาจมการกอดปล้ำกันเมื่อใส่สนับแขนที่ทำด้วยด้ายดิบลงยางรักแล้วแข็งมีความคมทำให้เมื่อถูกโดนจะเจ็บปวดจึงทำให้ศัตรูไม่กลายกอดปล้ำ

    เมื่อได้แหวนพิรอดมาแล้วจะโยนเข้ากองไฟ หากไฟไหม้แหวนพิรอดนั้นถือว่าใช้ไม่ได้ต้องทำอันใหม่ที่ไฟไม่ไหม้ และการนำไปใช้เมื่อต้องไปทำศึกสงครามให้ถือแหวนพิรอดนี้แล้วบริกรรมด้วย “มะอะอุฯ” และถ้าจะให้เป็นตบะเดชะในสงคราม

    ทำให้ข้าศึกครั่นคร้าม ให้บริกรรมด้วยคาถา “โอม ยาวะ พะกาสะตรีนิสิเหฯ” เงื่อนพิรอดนั้น จัดเป็นเงื่อนสำคัญที่ใช้ในการต่อเชือกหรือการผูกโยงเพื่อความมั่นคง แน่นหนาอย่างวิชาเชือกคาดสายหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ที่ต่อยุคมายังหลวงปู่ธูปวัดแค นางเลิ้ง กทม. ซึ่งพระเกจิอาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ทรงคุณวิทยาสูงส่งเฉพาะด้านมหานิยมก็เข้ม ขลังขนาดอมตะ ดาราอย่าง คุณ มิตร ชัยบัญชายังนับถือเป็นลูกศิษย์ซึ่งวงการผู้นิยมเครื่องรางก็ทราบกันดี โดยเชือกคาดสายหลวงปู่ขันนั้นเวลาคาดต้องขัดเป็นเงื่อนพิรอด มีคาถากำกับว่า "พระพิรอดขอดพระพินัย" และเวลาแก้เชือกก็มีคาถาว่า "พระพินัยคลายพระพิรอด" อันจะเห็นได้ว่าศาสตร์การใช้เงื่อนพิรอดนั้นยังสืบมาถึงเครื่องคาดอย่าง เชือกหรือการ ผูกตะกรุด พิสมรซึ่งต้องรวมถึงเครื่องรางโบราณอีกชนิดที่ปัจจุบันไม่ค่อยมีเกจิอาจารย์ สร้างก็คือ "ผ้าขอด" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องพิรอดด้วยโดยผ้าขอดนั้นจะเป็นการขัด "พิรอดเดี่ยว" เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเรื่องผ้าขอดในยุคเก่า ๆ เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อกวย ชุตินธโร จังหวัดชัยนาท เป็นต้น ในส่วนเครื่องรางผ้าขอดสายวัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็มีชื่อเช่นกันแต่เป็นฆราวาส ที่ชื่อว่า เฮง ไพรวัลย์ ลอยเรืออยู่ท่าน้ำวัดสะแกบางคนเรียก ว่า อาจารย์เฮงเรือลอยก็มี


    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ขอแจ้งนะครับ รายการที่จะฝากเลี่ยมต่อไปรบกวนบอกผมล่วงหน้านิดนึงว่าจะฝากอะไร กรุณาอย่าโอนเงินมาทันที เพราะบางทีร้านเลี่ยมปิดผมก็ต้องส่งเงินกลับไปอยู่บ่อยๆ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พรุ่งนี้จัดส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกันนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เกษมธิดา EI 3031 6043 8 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 3031 6044 1 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 3031 6045 5 TH

    พี่พรหมพล EI 3031 6046 9 TH

    พี่ภิญโญ EI 3031 6047 2 TH

    พี่พรเทพ EI 3031 6048 6 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ว่าด้วยฤาษี

    ตำนานพ่อแก่ หรือพระฤาษี ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในแวดวงศิลปะแขนงต่างๆ ล้วนนิยมเคารพนับถือบูชา เนื่องด้วยเกิดจากความเชื่อที่ว่า ในอดีต พ่อแก่หรือพระฤาษีได้เป็นผู้นำเอาศิลปะ แขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้องรำทำเพลง หรือแม้แต่การร่ายรำ นาฏศิลป์ต่างๆ มาถ่ายทอดให้แก่มนุษย์ได้รับรู้ความงาม ความอ่อนช้อยของศิลปะ รู้จักความอ่อนโยน รู้จักรัก รู้จักเมตตา และการให้อภัย ก่อให้เกิดความสุขแก่มวลมนุษยชาติ ดังนั้นศิลปิน หรือผู้เกี่ยวข้องในศิลปะทุกแขนง ในประเทศไทยจึงได้เคารพบูชาพ่อแก่ หรือครูฤาษีว่าเปรียบดังบรมครูแห่งศาสตร์ของการแสดง เมื่อได้บูชาแล้วจะก่อให้เกิดศิริมงคล มีความเจริญก้าวหน้าในด้านการงาน มีเสน่ห์ เมตตามหานิยมในตัว

    ความเป็นมาของพ่อแก่,พระฤาษี หรือบางครั้งก็เรียกกันว่า ครูฤาษี ถือเป็นบรมครูแห่งศาสตร์ของการแสดง ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระฤาษีมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 108 องค์ ปางเสมอเถรถือว่าเป็นปางที่มีฤทธิ์มากที่สุดในบรรดาทั้ง 108 องค์ คำว่า ฤาษี มาจากคำว่า ฤาษิ แปลว่า ผู้เห็นด้วยความรู้พิเศษอันเกิดจากฌาน ซึ่งสามารถแลเห็นอดีตปัจจุบัน และอนาคตได้ บางครั้งก็เรียกพ่อแก่หรือฤาษีว่า "ตฺริกาลชฺญ" แปลว่า ผู้รู้กาลทั้งสาม นอกจากนี้พระฤาษียังถือว่าเป็นผู้ประทานสรรพวิชาความรู้ ทั้งมวลแก่มนุษยชาติ เนื่องด้วยตำราทางโหราศาสตร์ และตำราทางเทววิทยา กล่าวไว้สอดคล้องกันว่า พระพฤหัสบดีถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นอาจารย์แห่งสรรพวิชาความรู้ทั้งมวล

    ความเป็นมาของ"วันครู"เนื่องด้วยพระอิศวรมหาเทพ ร่ายพระเวทให้ฤาษี 19 ตน ป่นเป็นธุลี แล้วห่อด้วยผ้าสีแก้วไพฑูรย์ ประพรมด้วยน้ำอมฤต บังเกิดเป็นเทวราช มีสีกายดั่งแก้วไพฑูรย์ มีวิมานบุษราคัม ทรงกวางทองเป็นพาหนะ รักษาเขา พระสุเมรุด้านทิศตะวันตก มีร่างกายแสดงด้วยสัญลักษณ์ของฤาษีจึงมีปัญญาบริสุทธิ์ เฉลียวฉลาด พูดจาไพเราะเสนาะหู เป็นอาจารย์แห่งสรรพวิชาความรู้ทั้งมวลรวมถึงเป็นอาจารย์ของเหล่า เทพเทวดา จึงให้ถือว่าวันพฤหัสบดีอันแสดงด้วยสัญลักษณ์ของฤาษีเป็นวันครูจึงมีการไหว้ครูกันในวันนี้ ซึ่งมีสืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน



    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ใครชอบสายภูติ ผู้เป็นภูติรับใช้พระเจ้าที่คอยทดสอบกำลังใจมนุษย์และคอยเล่าเรื่องราวต่างๆของมนุษย์...รวมไปถึงถ่ายทอดความเป็นไปของคนๆนึงต่อพระเป็นเจ้า เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันรอบเย็นนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา บรมครูเบิกชีวิตเหรียญเบิกไพรสวามีสังกาลา(เวตาลถวายพร,ผงกาลกินวิชา)
    " เมื่อใดที่สวามีสังกาลาปรากฏ พลังธรรมชาติอันมหาศาลจะมาบรรจบกัน ณ บัดนี้ "

    สวามีสังกาลาหรือภีมะสังกรนั้นพ่ออาจารย์ท่านจะเรียกสองนามนี้สลับกันไปแต่ความหมายคือองค์เดียวกัน โดยสวามีสังกาลานั้นเป็นหนึ่งในบรมครูสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านให้ความเคารพอย่างสูง และมักจะเชื่อมต่อกระแสญาณ ตลอดจนเชิญครูลงแฝงอยู่เสมอๆ ด้วยท่านมีรัศมีกายสีดำทมิฬดุจห้วงนภายามรัตติกาล พ่ออาจารย์ท่านว่าบรมครูท่านนี้คือนามธรรมอันยิ่งใหญ่นั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์ในห้วงความมืดมิดซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปรากฏแสงสว่าง เช่นนั้นท่านจึงถือว่าองค์ภีมะสังกรนั้นเป็นครูต้นของท่านเพราะท่านเป็นต้นตอสัจธรรมก่อนการกำเนิดแสงสว่างและสร้างจักรวาล ท่านว่าครูองค์นี้มีอานุภาพมากแม้ลมหายใจที่ท่านปล่อยออกมายังลุกโชนแปลบปลาบสว่างจ้าดุจฟ้าแลบก็ไม่ใช่ไฟบรรลัยกัลป์ก็ไม่เชิง ท่านว่าโดยปกติรูปสวามีสังกาลานั้นจะมีอาถรรพ์มาก ด้วยถ้าไม่เดือดร้อนหรือเข้าตาจนหนักมากจริงๆก็ยังไม่ต้องพึ่งบารมีครูองค์นี้ เพราะตัวของท่านนั้นจะถูกปลุกขึ้นมาเมื่อโลกตกสู่กลียุค ดุจธรรมชาติทั้งหลายจมสู่ความมืดมิดซึ่งจะกระตุ้นความชั่วร้ายต่างๆทุกรูปแบบให้ย่างกรายออกมาสร้างปัญหา ด้วยสวามีสังกาลานั้นเป็นเวลาแห่งความมืดนิรันดร์อันเป็นจุดเริ่มต้นของแสงสว่างเมื่อใดที่สวามีสังกาลาปรากฏ พลังธรรมชาติอันมหาศาลจะมาบรรจบกัน ณ บัดนี้ เพื่อสร้างเสริมกำลังให้ผู้ศรัทธาและปัดเป่าความมืดทั้งหมดในชีวิตให้พ้นไปในทันทีเพื่อจุดประกายแสงสว่างของชีวิตให้รู้แจ้งเห็นชัดในทุกกิจทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตใครที่มารเยอะ สวามีสังกาลานี้เป็นองค์ครูสายปราบมารที่ทรงกำลังมาก ทั้งยังบำบัดทุกข์และโรคทั้งหลายด้วยทรงมีมหากรุณายิ่งกว่าเทพทั้งปวง ซ้ำยังเป็นที่พึ่งสูงสุดของผู้ที่ต้องการอำนาจพิเศษเหนือธรรมชาติต่างๆบรรดามี ด้วยมีสิทธิ์เหนือชีวิตและความตายสามารถชุบชีวิตที่สิ้นสูญให้ฟื้นกลับคืนมาใหม่ได้อันล่วงอำนาจของมหาเทพทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าคนที่กำลังทุกข์กำลังเจ็บปวดกับวิถีชีวิตก็ดีด้วยบารมีครูท่านเปี่ยมความกรุณาดังนี้ท่านย่อมชุบและฟื้นคืนชีวิตทั้งหลายให้ดีขึ้นทันตา ด้วยหน้าที่ของท่านคือเปลี่ยนชีวิตที่มัวหมองนั้นให้กลายเป็นจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ เช่นนั้นท่านจึงอยู่เหนือกฏแห่งกรรมมีฐานะพิเศษที่วัฏจักรหรือสังสารวัฏไม่สามารถทำอะไรท่านได้และมีฐานะพิเศษสูงสุดด้วยว่าเป็นยอดและเป็นผู้นำของเหล่าเทพ,มหาเทพ,มหาฤาษี,โยคี,นักสิทธิ์ทั้งปวงดุจว่าท่านเป็นทั้งมหาโยคีและเป็นจอมราชาของมุนีและทวยเทพไปพร้อมๆกัน เพราะคุณธรรมของท่านนั้นสูงส่งและถึงซึ่งฐานะและทิพยสภาวะทุกระดับชั้นนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงให้ความสำคัญมากว่าหากจะสร้างรูปสวามีสังกาลานั้นจะมีคุณมากเป็นเงาตามตัวด้วยว่าตรีโลกนี้จะหาผู้มีฐานะพิเศษเช่นสวามีสังกาลานั้นหาอย่างไรเสียก็ไม่มีวันเจอ

    เมื่อจะสร้างสวามีสังกาลานั้นครูท่านอยากจะเปลี่ยนชีวิตผู้บูชาให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดท่านจึงขอให้พ่ออาจารย์ทำรูปท่านแบบฤาษีเบิกไพรโดยหันหน้าท่านเข้าหาป่า(พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้เคล็ดดุจครูหันหน้าเข้าหาภัยทั้งหมดของเราเพื่อเบนเราออกไป) เพราะท่านเปรียบว่าไพรหรือป่านั้นเป็นสถานที่ซึ่งมีอาถรรพ์มากที่สุด การเบิกไพรก็คือเปิดทาง เปิดป่า เบิกเอาภัยและอาถรรพ์ทั้งหลายออกไปให้พ้นชีวิตและทางเดินของตัวเจ้า ช่วยเบิกทางแผ้วถางเส้นทางที่เราจะเดินมุ่งไปไม่ให้ปัญหาต่างๆปรากฏออกมา ยิ่งชีวิตใครที่เข้าตาจนหรือหาทางออกไม่ได้นั้นท่านว่ายิ่งเหมาะที่จะอาราธนา เพราะอาถรรพ์สวามีสังกาลาเบิกไพรนี้ท่านจะเปิดทางออกไปสู่ชีวิตใหม่ ให้เราได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆชักพาสวัสดิมงคลมาเปลี่ยนทางเดินชีวิต ซ้ำจะช่วยกำจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย หากวันหนึ่งถึงคราวจนไม่พ้นตัวจะเพลี่ยงพล้ำจริงๆกับสิ่งใดๆพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เธอจำคำเราเอาไว้ให้มั่นเมื่อถึงครานั้นด้วยบารมีของสวามีสังกาลานี้จะมีคนเข้ามาอุ้มมาช่วยเหลือเธออย่างทันท่วงทีแม้ในเรื่องนั้นจะถึงกาลที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ตาม ท่านว่าครูท่านกำหนดให้ทำให้ปั้นหุ่นเทียนตามนี้เพื่อหวังใจว่าผู้ได้บูชาจะเจริญก้าวหน้ามีชีวิตที่ราบรื่น มีกิจการที่จะดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัดไร้ซึ่งอุปสรรคทุกๆสิ่ง ให้ชีวิตนั้นไร้ปัญหาโดยครูท่านจะปัดเป่าให้ รูปอาถรรพ์สวามีสังกาลาเบิกไพรนี้เป็นสายครูที่ท่านหวงแหนอย่างยิ่งเพราะชีวิตนึงนั้นท่านว่าครูท่านเปิดให้ทำได้ครั้งเดียว ซ้ำรูปนี้ยังมีอาถรรพ์มากประหนึ่งครูอาจารย์(สวามีสังกาลา)ประทับอยู่กับผู้บูชาตลอดเวลา ท่านว่าสุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้เลยไม่ว่าจะคุ้มดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ ป้องกันคุณคนคุณผี ส่งเสริมชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า...จะขออะไรครูก็อยู่ที่ปากของเรา

    เบิกไพรคือเปิดทางถอนอาถรรพ์ ไอ้วิชาและอาถรรพ์ต่างๆนี่ที่ขึ้นชื่อว่าทำให้ซวย ให้ทำมาหากินยาก มีความเป็นอยู่ยากลำบาก มีการป่วยไข้ไม่สบาย ท่านว่าคนเราถ้าไปโดนคนกลั่นแกล้งก็ดี หรือจะภูติผีเทวดามิจฉาทิฏฐิเหล่านี้ ลองโดนเข้าไปแล้วมันทำมาหากินอะไรไม่เจริญทั้งสิ้น แม้จะเจอของดีแก้ไขได้แต่ไอ้ตะกอนของวิชาและอาถรรพ์ตลอดจนคำสาปแช่งทั้งหลายมันก็ยังมีละอองเหลือติดอยู่ในกายเรา ค่อยๆสะสมๆให้หนาขึ้นไปรอวันที่จะแผ่ความร้อนจุดไฟขึ้นมาเผาตัวเอง พวกคนที่มีละอองเหล่านี้ในตัวให้สังเกตุเลยว่าชีวิตจะแปลกๆทำอะไรก็ไม่มีความคล่องตัวเหมือนคนอื่น จะมีเหตุๆต่างๆให้เสียทรัพย์บ้าง บางคนก็สามวันดีสี่วันไข้มีวิปริตต่างๆมีความเป็นอยู่ไม่ปกติ เช่นนี้จึงจำต้องพึ่งครูที่จะช่วยเราเบิกทางและถอนอาถรรพ์นั้นตลอดเวลาติดอยู่กับตัวเราเพื่อเปิดทางให้เราเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ท่านว่าที่จะถอยหลังกลับเป็นไม่มีดังนี้

    เมื่อจะสร้างสวามีสังกาลาให้สมบูรณ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านมีความปรารถนาไม่อยากจะเห็นผงวิเศษที่ลบถมขึ้นจากมหายันต์ชั้นสูงที่สืบทอดกันในหมู่กษัตริย์แม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพสูญหายไป ประกอบกับท่านพิจารณาว่าถึงเวลาอันดีที่ทำเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำผงนี้ขึ้น ซึ่งในเรื่องของฤกษ์ยามที่ลงจะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดตามสายวิชาเพื่อทำผงโดยพ่ออาจารย์ท่านก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลบผงนี้ประกอบไปด้วยราชาฤกษ์เเละเพชฌฆาตฤกษ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจำทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันผงทั้งสองนั้นประกอบไปด้วย
    - ผงยันต์เกราะเพชรพระเจ้าสูตรพิชัยสงคราม ผงที่เกิดจากพระยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ หาผู้สืบทอดและทำได้ยาก เนื่องจากเป็นมหายันต์ชั้นสูงที่ทำให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ผงนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีพุทธคุณสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ผงนี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจเรา ไม่ใช่แต่เพียงให้ดีทางด้านคุ้มครองทั้งยังเป็นเมตตาและมหาอำนาจชั้นเลิศตามสูตรยันต์พิชัยสงครามอีกด้วย ในส่วนตัวพ่ออาจารย์จะเรียกผงนี้ว่าผงแหพันชั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะเวลาเสกต้องทำให้มีพุทธคุณสมกับชื่อผงที่ว่าแหพันชั้นนั้น ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใคร่จะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ปรารถนาไว้จะไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย ผงนี้ท่านว่าลงยากเพราะพระยันต์นั้นต้องชักถักคล้ายรูปร่างแห ดุจแหตาถี่ที่จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งแหฟ้าตาข่ายดินที่ดักจับสิ่งใดไว้ได้แล้วต้องพันธนาการไว้ไม่ให้รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น การเสกผงนี้ก็เช่นกันต้องทำให้ได้เฉกเช่นนั้น ความยากจึงไม่ได้อยู่ที่การลงการเชิญครูเพียงอย่างเดียวเพราะท่านเน้นพระพุทธคุณในทุกด้านให้ปรากฏในทุกทิศทางที่ผงนี้สถิตย์อยู่
    - ผงมหาจักรอนันตคุณ เป็นผงซึ่งก็จัดเป็นมหายันต์ตามสูตรพิชัยสงครามโดยแท้เช่นกันที่ต้องเลือกฤกษ์และเวลาลงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ผู้บูชาไปใช้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ซึ่งพ่ออาจารย์กล่าวว่ามหายันต์สูตรนี้มีดีทุกด้านไม่ต่างกับชื่อเลยนั่นคือนันตคุณ คือมีคุณเป็นอเนกอนันต์นั่นเองสุดแต่ใจของผู้ใช้จะพึงปรารถนาแต่ที่แน่ๆนั่นคือ เด่นทางด้านเสริมสิริมงคลชื่อเสียงและเกียรติยศให้ปรากฏแก่ผู้บูชา ท่านว่าหากเราเองมีชื่อเสียง เป็นคนมีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมแล้วแม้จะทำอะไรไม่ต้องเอ่ยปากทุกสิ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา ท่านว่าได้แบบไวด้วยไม่เหนื่อยด้วย ซึ่งการเสกนั้นท่านต้องตั้งธาตุหนุนธาตุตั้งนิมิตเสกให้มหาจักรนี้พัดหมุนไปได้ตลอดเวลา ถือเคล็ดที่ว่านอกจากดีมีคุณเป็นอนันต์ตามใจผู้ใช้แล้ว ยังเปรียบเสมือนกงจักรศาสตราเทพอาวุธแห่งองค์พระนารายณ์ที่ใช้ตัดและทำลายได้ทุกสิ่ง ไม่ใช่ตัดแต่เพียงเคราะห์กรรมเท่านั้นยังตัดทุกข์โศกโรคภัยและใช้ป้องกันเทพยดาอันธพาลทั้งหลายไม่ให้มากลั่นแกล้งได้อีกด้วย
    โดยปกตินั้น
    ผงทั้งสองนี้ท่านจะหวงแหนมากเพราะถือว่าเป็นเครื่องสูงของสูงและทำยากซ้ำพุทธคุณจะแผ่ซ่านออกมาทั้งสิบทิศและยังมีอานุภาพแฝงไว้อีกประการหนึ่งด้วยในผงเกราะเพชรพระเจ้านั่นคือการสะท้อนย้อนกลับโดยฉับพลันทันที เรียกได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีผงนี้ติดตัวหากมีผู้ประสงค์ร้ายหรือคิดไม่ดีนั้น อานุภาพของผงนี้จะสะท้อนผลร้ายกลับไปร้อยเท่าพันทวี พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ นอกจากกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยีและเสนียดจัญไรทั้งหลายแล้วยังดีทางมหาสะท้อนอีกด้วยแต่เป็นมหาสะท้อนสูตรพิชัยสงครามท่านเลยถือโอกาสเสกเพิ่มมนต์พระกาฬลงกำกับไปด้วยโดยถือว่าจะเสริมและเติมให้เต็มให้เป็นมหาสูตรของท่านโดยเฉพาะ

    ผงกาลกินวิชา
    ผงสำคัญนี้เป็นผงหลักที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมวิชาหน้ากาลกินวิชาขึ้นมาโดยเฉพาะ ท่านว่าเจ้าตัวหน้ากาลนั้นเป็นอสูรที่มีลักษณะดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลมโตถลน จมูกใหญ่ ปากกว้างเห็นฟันบนและมีเขี้ยว ไม่มีริมฝีปากล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะสวมเครื่องประดับศีรษะลักษณะเป็นกระบังหน้าเรียกเกียรติมุขหรือหน้ากาลซึ่งกาลนั้นก็พ้องกับเวลา เป็นอำนาจอันอยู่ในการควบคุมของสวามีสังกาลา
    กาลหรือหน้ากาลมีความหมายเดียวกับเวลา เป็นผู้ซึ่งกลืนกินสรรพสิ่งทั้งมวล จึงมีคติว่ากินได้ทุกอย่างจึงเป็นผู้ครอบครองเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนั้นผงนี้ยังเสมือนสิ่งคุ้มครองปกปักรักษามิให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาสู่ตัวเราและยังนำเกียรติยศมาสู่เราด้วย เพราะเกียรติมุขนั้นหมายถึงหน้าอันมีเกียรติ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีอาถรรพ์มากเพื่อให้ชีวิตและลมหายใจของเขาที่เกิดขึ้นจากการเรียกสูตรลบยันต์มอบพลังให้กับเราล้างอถรรพ์ในชีวิตเรา ทั้งหน้ากาลยังได้ชื่อว่าหิวกระหายเป็นนิจกินอย่างไรก็ไม่อิ่มอันเป็นเคล็ดสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ได้เปรียบ กินคนอื่นไปเรื่อย กินไม่รู้จบเพราะเป็นผู้กลืนกินเวลาทุกขณะในโลก เวลาอันเดินหน้าไปเรื่อยๆที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ จึงเป็นดั่งผู้ควบคุมกาลเวลาและครอบครองเหนือทุกสิ่ง ด้วยผงนี้จะเปลี่ยนอารมณ์เราในวันที่ร้อนให้เย็นลง ให้ชีวิตเราเคลื่อนไปสู่จุดที่สูงที่สุดและดีที่สุดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกลับสิ่งร้ายให้กลายเป็นดีสามารถล้างอาถรรพ์ไม่ดีต่างๆ ป้องกันสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตาทำให้มีราศีมีชื่อเสียงมีเกียรติยศ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าหน้ากาลนี้มีฤทธิ์มากแม้เหล่าราชาอสูรตลอดจนเทพนพเคราะห์อย่างพระราหูก็ยังกลัวจะถูกหน้ากาลกลืนกินดังนั้นจึงเป็นเคล็ดว่าใครที่มีผงนี้อยู่กับตัวเทพอสูรทั้งหลายจะเกรงกลัวเรา นพเคราะห์ทั้งหลายจะไม่เล่นตลกกับชีวิตเรา
    ผงกาลกินวิชานั้นจะกินวิญญานกินความชั่วร้ายและอุบาทว์จัญไรทั้งหมด ที่จะมาทำร้ายเราให้โทษกับเรา จะกินคุณไสยในอากาศกินวิชาที่ไม่ดีทั้งพวกฝ่ายต่ำและของอุบาทว์เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เกื้อหนุนเรา ทั้งคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของกันคุณไสย และยังมีคุณสะกดให้คนหลงเชื่อหรืออยู่ในอำนาจของเราเชื่อฟังเราทุกอย่าง จะให้คนหลงรักเราก็ได้ ให้พ้นจากถ้อยความและสิ่งที่ถูกคนกระทำให้ร้ายก็ได้ ท่านว่าแล้วแต่จะอธิษฐานใช้กันเลย

    เวตาลถวายพร
    เวตาลนั้นเป็นบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่เกิดจากนางอทิติ เมื่อเกิดมาก็เป็นภูติคอยถวายงานตามรับใช้พระศิวะ(ครูพระสยม)เป็นเจ้า โดยเวตาลนั้นในมือขวาจะถือไม้เท้ามือซ้ายถือหอยสังข์ ขณะเมื่อมาปรากฏตัวจะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีเขียวทั้งชุดบางทีก็นั่งมาบนเสลี่ยงมีเหล่าศิวะสาวกคอยหาม บางคราวก็ขี่ม้ามีภูติบริวารถือคบเพลิงส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องแวดล้อมโดยรอบ
    เวตาลนั้นปกติจะอาศัยอยู่ในป่าช้ากับครูพระสยมเมื่อท่านลงมาบำเพ็ญตบะในป่าช้า
    ตัวเวตาลเขาจะมีญาณหยั่งรู้ในกาลทั้งสามคืออดีตปัจจุบันและอนาคต หยั่งรู้แม้แต่จิตใจและน้ำใจผู้คนอันซุกซ่อนของแต่ละคน ถึงได้ชื่อว่าเป็นอมนุษย์วิเศษด้วยเป็นลูกของพระเทพบิดรแม้เป็นอมนุษย์แต่กลับได้รับการยกย่องในหมู่ภูติผีและเทพเจ้าทั้งปวงเพราะตัวมีฤทธิ์ที่เกิดจากการหยั่งรู้ทั้งมีปัญญาและคุณธรรมครบถ้วน เขาจะยอมพ่ายแพ้และยกย่องความเพียรพยายามของผู้ที่ขอร้องเขา เขาจะช่วยเหลือคนดีต่อต้านคนเลวเสมอ เช่นนั้นผู้มีวิชาทั้งนักสิทธิ์,ฤาษี,วิทยาธรอันมีฤทธิ์มาก แม้มากฤทธิ์แต่ทุกคนก็อยากได้เวตาลมาเป็นข้ารับใช้ เหมือนที่เวตาลคอยรับใช้พระศิวะเจ้า เพราะทุกคนรู้ดีว่าเรื่องใดที่อับจนต่อให้มีฤทธิ์อย่างไรก็หาทางออกไม่ได้ แต่เวตาลนั้นมีปัญญามากมักจะมีทางออกให้ทุกคนเสมอ
    ซ้ำเวตาลยังเป็นดั่งฑูตที่คอยบอกเล่าเรื่องที่พบเห็นพูดคุยกับองค์พระศิวะโดยตรง ท่านจะคอยบอกคอยเล่าเรื่องของคนที่ท่านจับตามองทั้งชีวิตของเขากับองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำรูปเวตาลนั้นก็ต้องใช้กิ่งไม้ที่เวตาลเคยเกาะจึงจะมีอาถรรพ์มากดุจได้ตัวเวตาลจริงๆ ท่านจึงได้นำกิ่งตะเคียนที่ขึ้นในป่าช้าอันเวตาลเคยเกาะ...มาแกะเป็นรูปเวตาลเกาะกิ่งไม้ห้อยหัวลง และรูปเวตาลอาถรรพ์นี้ครูพระสยมได้เมตตาทำให้โดยสร้างขึ้นจากอนุภาคของเวตาล(พ่ออาจารย์ท่านว่าครูมาทำให้ทั้งหมดเลย)จึงถือว่าใครมีเวตาลนี้ก็ดุจดั่งมีภูติรับใช้ ที่เราไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องดูแลอะไรเขาเลย วันดีคืนดีเขาจะมาบอกเล่าพูดคุยกับเราเกี่ยวกับอดีตของเรา เกี่ยวกับอนาคตความเป็นไปของโลก หรืออาจจะบอกถึงปัญหาและทางออกในชีวิตเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอทั้งสิ้น
    เมื่อชีวิตเราถึงคราวเข้าตาจน อับจนหนทาง ลำบากยากแค้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานบอกกล่าวเวตาลแล้วปัญหาจะผ่านพ้นไปง่ายๆ***ดุจผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายก็ยังต้องการครอบครองเวตาล แม้ครูพระสยมก็ยังโปรดที่จะพูดคุยกับเวตาลอยู่เสมอๆ ท่านว่าจะขอโชคขอลาภขอความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงานก็ยังได้สมดั่งใจหวังหรือจะอธิษฐานขอทางความรักกด็ได้
    เวตาลถวายพรนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า
    โดยปกติเมื่อเวตาลพูดคุยหรือพอใจกับผู้ใดเขาก็จะถวายพรให้กับคนนั้น ไม่ว่าความปรารถนาใดๆย่อมจะส่งผลทันตา ซ้ำผู้มีรูปอาถรรพ์เวตาลอยู่กับตัวนั้นยังจะรอดจากคำสาปทั้งมวล ทั้งบรรดาอมนุษย์ทั้งหลายมียักษ์,กุมภัณฑ์,รากษส,ปีศาจ,แม่มด,หมอผี.. ตลอดจนสัตว์โลกประเภทอมนุษย์เดียวกันนี้จะสิ้นฤทธิ์เดชเมื่ออยู่ใกล้รูปราชาเวตาลทั้งสิ้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าพรของเวตาลนั้นไม่ใช่ของเล่น เพราะเขาสามารถอวยพรแม้ในชีวิตหลังความตายของเราได้ สามารถนำความสำเร็จให้เราเป็นดั่งราชาของเทวโลกในจักรวาลใดจักรวาลหนึ่งได้ เช่นนั้นพรของเวตาลจึงไม่ใช่ของเล่น พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปเวตาลถวายพรนี้ขอแค่หมั่นพูดคุยกับเขา บอกเล่าความทุกข์ของชีวิตเราก็พอ แต่ขอให้จำไว้ว่าจงพูดความจริงกับเวตาล อย่าโกหกเวตาลโดยเด็ดขาด แล้วเรื่องราวของเรานั้นก็จะรู้ถึงครูพระสยมทันที ซ้ำเวตาลยังจะแแก้ไข้และให้พรแก่ชีวิตเราตามสมควรด้วย

    คาถาบูชา
    โอม สวามีสังการายะ ภีมะสังกร สังกาลีเยบีมาร์สังการาชายะ สังการาชามา นะโม นะมะ

    ### สำหรับท่านที่จะบูชาองค์สวามีสังกาลานี้ก็ให้ส่งรายละเอียดเรื่องปัญหาที่ติดขัดในชีวิตแนบไว้ด้วย ให้บ่งบอกด้วยว่าชีวิตตัวเองมีปัญหาอะไรขาดอะไรต้องการอะไรปรารถนาอะไร พ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวให้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านให้คติมาเพียงข้อเดียวสำหรับผู้ที่จะบูชานั่นคือขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดีแล้วจะได้ดี ปัจจัยร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กพิการที่ด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา บรมครูเบิกชีวิตเหรียญเบิกไพรสวามีสังกาลา(เวตาลถวายพร,ผงกาลกินวิชา) บูชา 4,000 บาท

    74522314-981300435536271-2994604005117657088-n.jpg 73390635-2409039409191508-6900979432022867968-n.jpg
    74426901-1216573538538629-6520814374662176768-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2019
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีคนถามมาหลายคน อันนี้แนะนำว่าบูชาได้ทุกแบบทุกคนนั่นแหละแต่จะยิ่งดียิ่งแรงกับคนที่เหมือนชีวิตติดหล่มอาศัยเพียงกำลังหรือแรงบุญวาสนาตนเองฉุดไม่ขึ้นไปต่อไม่ได้ คือติดแบบไม่มีปัจจัยอะไรมาหนุนมาดันเราขึ้นไปแค่กำลังของตัวเองพยายามยังไงก็ไม่พ้นหลุมวิบากกรรมนั้น...อันนี้ก็พอพูดได้แค่คร่าวๆ ก็เอาที่คิดและรู้สึกกันด้วยตัวเองว่าตัวเราเป็นแบบไหน ใช่หรือไม่ใช่ยังไงนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    บอกได้เลยว่าเวลาพ่ออาจารย์ท่านออกเหรียญหล่อฤาษีตั้งแต่พระทุรวาสคนก็จ้องกันมาตลอดมีไม่พอให้คนจองจริงๆ วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะครับอันนี้จะเป็นรายการเล็กๆแต่ถ้าพลาดก็เสียดายแทน
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ณธพรหม EI 3031 6257 5 TH

    พี่ศิระ EI 3031 6258 9 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    SAM-45271.jpg SAM-4528.jpg SAM-4531.jpg SAM-4532.jpg
    สุระปัดคำนี่เป็นหนึ่งสิ่งที่ทุกคนรอและเชื่อว่าเป็นยอดของขลัง ถึงมีตังมียอดสั่งตลอดมาก็ไม่มีของให้ ใครจะเชื่อว่าตะกรุดดอกเล็กๆดอกละหมื่นจะมีคนรอคิวต่อแถวซื้อเหมือนแจกฟรี ยิ่งคนใช้ยิ่งบอกเล่าสืบต่อกันไปว่าเป็นยอดของปาฏิหาริย์ แต่ใครจะหาอีกก็ไม่มีของให้....หากแต่มีของที่ใช้แทนกันได้เลยและต้องบอกว่ายอดดีเหมือนกันซ้ำต้องใช้แผ่นเงินสุระปัดคำที่มีอาถรรพ์มากมาทำวิชาสร้างให้ได้เป็นตะกรุดที่สมบูรณ์เสมอกัน...ดังนั้นสิ่งนี้จะเป็นอะไรบอกได้แค่ว่าใครไวใครได้ เพียงหลักร้อยเท่านั้น คนที่รอมาหลายปีตั้งแต่สุระปัดคำหนแรกที่ออกมาเกินงบ พอเก็บเงินได้ทักมาก็ไม่มีของแล้ว หนนี้จะได้ใช้กันแล้วจะรู้ว่าเสด็จแม่ยั่วเมืองนั้นแรงแค่ไหน
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลูกอมมหากำเนิดเสด็จแม่ยั่วเมือง(เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ)

    เห็นถามกันเข้ามาก็เลยขออนุญาติพ่ออาจารย์นำมาให้เปิดจองกัน ***แต่ต้องย้ำไว้ก่อนว่าชุดลูกอมนี้นอกจากเสน่ห์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านจะเน้นเรื่องกันกระทำ กันคนกลั่นแกล้งและล้างอาถรรพ์ ดับล้างอันตราย ฉุดช่วยดึงชีวิตที่ตกต่ำตลอดจนพลิกวิกฤติฟื้นฟูรากฐานชีวิตเสริมเข้าไปด้วย

    สืบเนื่องจากตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์)นี้ เป็นตะกรุดที่สร้างได้ยากมากถึงมากที่สุด และมีเหลือให้บูชาเพียงหลักสิบดอกเท่านั้นหมดแล้วหมดกันไม่มีอีก เพราะสถานะของพ่ออาจารย์ในตอนนี้ไม่สามารถลงให้เต็มวิชาได้เเบบสมัยก่อนเเล้วนั่นเอง ตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์)นี้ดีอย่างไร ก่อนจะไปพูดถึงตรงนั้น ต้องบอกกล่าวว่านี่เป็นตะกรุด 2 กษัตริย์ โดยถือเคล็ดว่าใช้แผ่นทองแดงแทนแผ่นนาคฝังใจด้วยเม็ดเงินที่พ่ออาจารย์เทหล่อจากแผ่นเงินสุระปัดคำดั่งร่างเดียวกันไม่รู้แตกไม่รู้แยกเป็นสอง เป็นคติทางวิชามหาเสน่ห์ที่ล้ำลึกในโสตหนึ่ง

    ในกระบวนการวิชาทางมายาศาสตร์ทั้งหลาย ที่พ่ออาจารย์พลท่านถนัดที่สุดคือวิชาในฝ่ายของเทววิทยา ดังนั้นการลงตะกรุดมหายันต์เสด็จแม่ยั่วเมือง(วิชาสุระปัดเพ็ญจันทร์) ก็เป็นการจารพระรูปพระศรีมหาอุมาเทวีปางบูชาลึงค์เต็มสูตร ซึ่งในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาทำชนิดตะกรุดลูกอมไว้ด้วย***เพราะท่านพิจารณาเห็นว่าต่อไปตะกรุดนี้จะหายากคนจะถามกันเยอะ ประกอบกับค่าบูชาที่สูงค่าบางคนก็ยากจะแตะต้อง ท่านจึงเสกตะกรุดลูกอมแม่ยั่วรอเวลาเอาไว้

    วิชาลงตะกรุดแม่ยั่วเมืองซึ่งปางนี้เป็นปางที่พระมหาอุมาเทวีได้เกิดมหากรุณาแลเมตตาเเก่สรรพชีวิตที่ตกทุกข์ได้ยากจึงต้องทำหน้าที่เพื่อก่อเกิดสรรพชีวิตทั้งมวล เป็นปางที่ปลุกพระศิวะเจ้าให้ออกจากญาณสมาบัติ เพื่อการสร้างสรรค์สรรพชีวิตบนโลกที่หยุดชะงักไปจะได้ดำเนินต่อไปตามวัฏจักรกลไกธรรมชาติ

    ดังนั้น ในบรรดาเครื่องรางเสน่ห์ทั้งหลายพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวได้เต็มปากว่า จะหาสิ่งใดเหนือกว่านี้ย่อมไม่มีอีกเพราะนี่คือภาวะการสร้างสรรค์จากพลังมหาศักติ(มหาอุมาเทวี) ถือเป็นวิชามหากำเนิดในชั้นแรกเริ่มเพื่อก่อให้เกิดสมดุลย์แห่งกลไกจักรวาล
    - วิชามหากำเนิดนี้ที่ว่าดี คือสรรค์สร้างเเละก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง ที่ว่าไม่มีอยู่ ก็สร้างให้มันมีให้มันปรากฏขึ้นมาได้ ที่ไม่มีความเป็นไปได้ก็พลิกกลับให้มันเป็นจริงได้ ที่อยู่ในวิกฤติก็เปลี่ยนเป็นโอกาสได้ เหมือนพระมหาอุมาเทวีที่ทรงปลุกพระศิวะออกจากญาณสมาบัติเพื่อภาวะการสร้างสรรค์ของโลกจะได้ดำเนินต่อไป ไม่อยู่ในจุดวิกฤติเเละขาดเเคลนอีกนั่นเอง ไม่ต้องบอกเลยว่าการปลุกพระเป็นเจ้าขึ้นมานั้นต้องใช้วิธีไหนอย่างไร เพราะการปลุกนี้คือการปลุกตัณหาโดยตรงโดยเฉพาะ ให้พระศิวะเจ้าตื่นขึ้นเพื่อร่วมรักกับพระนางจึงถือเป็นปางที่สมบูรณ์ไปด้วยมนต์มหาเสน่ห์ในขั้นสูงสุด สูงขนาดที่ดลบันดาลให้จิตใจของพระเป็นเจ้าสูงสุดออกจากญาณสมาบัติได้

    ด้วยการทำลายล้างความชั่วร้ายสถาปนาไว้ซึ่งระบบคุณธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ขจัดคนพาลมิจฉาทิฏฐิ ปกปักรักษาศิษย์เสมือนลูกไม่ให้ถูกข่มเหง รังแก ด้วยอำนาจอย่างเด็ดขาดและเหี้ยมหาญประทานชัยชนะเหนือศัตรูท่านว่าไม่มีใครจะรังแกเราได้เลย เร่งรุดให้เจริญในอำนาจวาสนาบารมีด้วยเกียรติยศอย่างสูงสุด ประทานยศถาบรรดาศักดิ์และความเป็นใหญ่ตลอดจนอำนาจในการปกครอง ด้วยว่าพระนางนั้นคือมารดาแห่งสรรพชีวิตทุกชีวิตคือลูกเสมอกัน ประทานความรักให้เท่าเทียมกัน ดำรงไว้ซึ่งน้ำพระทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา ซ้ำยังช่วยให้มีกำลังใจกล้าหาญ ประกอบด้วยกำลังวังชาอาจชนะมวลศัตรูได้ทั้งสิบทิศ ดำรงค์ตนอยู่ในความยุติธรรมสุจริต และยังเกื้อกูลให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพที่ดีพร้อมบริบูรณ์ อำนวยความสุขในการครองเรือน ยังชีวิตให้อิ่มเอม ผาสุข เปี่ยมสุขด้วยความอุดมสมบูรณ์ คุ้มเกรงให้ออกห่างจากภยันตรายทั้งปวง นั่นคือสิ่งที่แม่ยั่วเมืองสามารถกระทำได้

    เมื่อพ่ออาจารย์ได้นำแผ่นทองแดงมาลงรูปเสด็จเเม่ยั่วเมืองนั้นท่านไม่ลืมที่จะลงศิวลึงค์ไปด้วย ##แต่ในชุดลูกอมนี้ท่านว่าแม่ยั่วก็ดีทางเสน่ห์เป็นที่สุดแล้วท่านจึงลงเสริมให้ครบทางกันกระทำ กันคนกลั่นแกล้งและล้างอาถรรพ์ ดับล้างอันตราย ฉุดช่วยดึงชีวิตที่ตกต่ำตลอดจนพลิกวิกฤติฟื้นฟูรากฐานชีวิตเสริมเข้าไปด้วย ท่านเปรียบตะกรุดดั่งว่านั้นคือหลักหินเป็นเสาแกนกลางของจักรวาล ทุกสรรพชีวิตจะถูกดึงดูดโดยสิ่งนี้เเละก็จะวนเวียนไป โคจรไปตามวัฏจักรของกฏแห่งกรรม เป็นการหมุนเวียนซ้ำเเล้วซ้ำเล่าอยู่เช่นนี้ ที่ต้องลงศิวลึงค์เเละเบิกพระเนตรพระศิวะเจ้าไว้ก็เพื่อจะใช้มหากรุณาธิคุณส่วนนี้ของพระผู้เป็นเจ้าดึงดูดสรรพชีวิตต่างๆที่ผู้ใช้ปรารถนาจะให้มาข้องเกี่ยวติดพัน ดึงดูดให้คนเหล่านั้นสนใจเรา และเปลี่ยนจากที่เราไปสนใจเค้าไปตามติดเค้า เป็นเค้าต้องมาตามติดมาโคจรเข้าหาตัวเราเอง ไม่ว่าจเป็นใครทุกสรรพสิ่งเเละสรรพชีวิตใช้ได้ทั้งหมด ท่านลงอาถรรพ์ศิวะซ่อนรูปเสริมกำลังเข้าไปด้วย ซึ่งวิชานี้แต่เดิมแทบจะไม่มีการถ่ายทอดให้ผู้ใดเพราะเป็นวิชาสืบทอดในสายพระเวทย์ชั้นสูง แต่เดิมนั้นกษัตริย์ขอมเปรียบดั่งร่างอวตารของพระศิวะเจ้า เมื่อจะขึ้นครองราชย์นั้นต้องให้ผู้เรืองวิชามาประจุอาถรรพ์ตัวนี้ไว้กับร่างกาย เรียกว่าอาถรรพ์แห่งราชาหรือพระมหากษัตริย์ก็ได้ เป็นวิชาที่จะทำให้ญาณบารมีขององค์พระศิวะนั้น แฝงซ่อนอยู่ในร่างผู้บูชาโดยตรง เป็นทั้งมหาอำนาจ มหาเมตตา มหาเสน่ห์ มหาปราบ มหากำราบ ครบถ้วนทุกประการ ปลุกดีในตัวสร้างขุมพลังในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านเมตตาลงไว้ให้เพื่อที่ผู้บูชาจะได้มีพลังมีจิตที่ดีภายในก่อนค่อยไปอาราธนาของดีภายนอกใดๆ

    ท่านได้กล่าวไว้ให้คิดสำหรับผู้มีตะกรุดนี้ว่า ให้ถือเสด็จพระอุมาเป็นแม่เพราะโดยศักดิ์เเล้วท่านคือมารดาของจักรวาลหรือจักรวาลชนนีเป็นประธานในหมู่อิตถีเทวีทั้งหลาย เมื่อเป็นลูกของท่านให้ใช้ความรู้สึกรักท่านเเบบรักเเละเทิดทูนมารดาจริงๆ สิ่งใดที่ลูกอยากได้ลูกปรารถนา แม่ย่อมให้ลูก เเม่จะเห็นลูกตกต่ำไม่ได้ แม่จะเห็นลูกลำบากไม่ได้ ลูกอยากได้อะไรเเม้ต้องแลกด้วยชีวิตแม่ก็จะหามาให้ลูกให้ได้ ท่านถือคติแบบนั้น ด้วยมหาศักตินั้นคือพลังงานสูงสุดของจักรวาล ในสามภพหรือไตรดาลคือทั่วทั้งสวรรค์แดนมนุษย์หรือในบาดาล หากปรากฏพระรูปของมหาศักติขึ้นแล้วสรรพชีวิตทั้งหลายย่อมนอบน้อมและเคารพบูชา ด้วยท่านปรารถนาคุณสมบัติสูงสุดที่มนุษย์ใช้เวลาทั้งชีวิตในการแสวงหาและเติมเต็ม เพราะว่าบุคคลที่มีพร้อมทั้งสติปัญญา ความรู้ รูปกาย ทรัพย์สมบัติตลอดจนอำนาจวาสนานั้น คือที่สุดแห่งความบริบูรณ์ที่มนุษย์ควรจะเป็น เรียกว่าเป็นชีวิตในอุดมคติก็เป็นได้ ท่านจึงปรารถนาจะสร้างตะกรุดแม่ยั่วเมืองด้วยมนต์มหากำเนิดขึ้นด้วยการรวมอานุภาพสูงสุดของมหาจักรวาลซึ่งท่านว่าทอดสายตาไปทั่วทั้งสามภพก็หาจะมีซึ่งผู้ใดที่ทรงอานุภาพมากกว่านี้ด้วยว่าเป็นพระแม่สูงสุดของจักรวาลผู้รักและให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งมวลนั่นเอง เพื่อจะเกื้อหนุนดวงชะตา ทำลายสิ่งเลวทรามชั่วร้ายในชีวิต เร่งเร้าให้ผู้บูชามีครบถ้วนบริบูรณ์ในทุกสิ่งที่ปรารถนาหรือต้องการ

    ทีนี้ในส่วนที่สำคัญที่สุดเลยที่พ่ออาจารย์ไม่สามารถลงได้อีกทำให้ตะกรุดนี้มีให้บูชาเพียงเล็กน้อยนั่นก็คือ
    - เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ หรือก็คือในส่วนของยันต์สุระปัดจันทร์เพ็ญนั่นเอง เเผ่นเงินสุระปัดนี้เปรียบดั่งมหามงกุฏของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เปรียบดั่งมงกุฏของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เคล็ดวิชานี้สร้างสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดขึ้นมา นั่นคือเเผ่นเงินที่อยู่บนหัวนาคตอนบวชนั่นเอง เป็นเเผ่นเงินสมัยก่อนเลยที่พ่ออาจารย์ท่านสวมศรีษะเมื่อเป็นนาคตอนบวชเเล้วท่านเก็บเอาไว้ ซึ่งเเผ่นเงินนี้เปรียบเสมือนมงกุฏของพ่อนาคที่ใส่ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พ่อนาคเป็นประธานในงานอุปสมบท มีเเต่ผู้คนจากทั่วสารทิศมารุมล้อมเเสดงความยินดีดุจดาวล้อมเดือนก็ไม่ปาน พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเเผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญนี้ก็เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะ เป็นพระอาทิตย์ที่ดาวน้อยใหญ่ทั้งหลายต้องโคจรหมุนรอบในเวลากลางวัน เป็นพระจันทร์อันเป็นประธานเเห่งรัตติกาลที่ปกครองดวงดารายามค่ำคืน ถือคติที่ตอนเราเป็นนาคมีคนน้อยใหญ่รุมล้อมเเสดงความยินดีไปมาหาสู่ ที่เคยโกรธเคืองไม่มองหน้ากันก็พูดดีกันก็มากราบกรานเเสดงความเคารพแบบนี้ถือว่าเป็นของดีมีอาถรรพ์เเห่งมายาคติสูงสุด
    แผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญที่พ่ออาจารย์ท่านนำมาเทเป็นเม็ดธาตุวิชาสุระปัดคำฝังในตะกรุดนั้นมีอาถรรพ์มากตามที่ได้กล่าวไว้ แต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด เพราะในสมัยอดีตตกหลายสิบปี สมัยที่พ่ออาจารย์ท่านได้เรียนวิชาแมงวันคำใหม่ๆ ท่านได้ใช้เเผ่นเงินสุระปัดจันทร์เพ็ญที่ท่านเสกไว้เเล้วนี่เเหละมาลองวิชาของท่าน เรียกได้ว่าท่านลงไว้เเบบเต็มสูตรเต็มตำราไม่มีบั่นทอนเลย นั่นคือการลงยันต์บนตัว...เพื่อให้ได้คุณเเห่งกามตัณหาสูงสุดเเละลงให้ตรงตามตำราที่เรียนมามากที่สุด จะเห็นได้ว่าในสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ทำวิชาเเมงวันคำของท่านอีกเลย เพราะว่าท่านไม่สามารถลงให้เต็มสูตรตามตำราได้ เเละยิ่งจะให้ต่อมือหรือให้คนอื่นลงเเทนก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะมั่นใจว่าเข้มขลังเท่าที่ท่านทำ เพราะการวาดการลงอักขระการภาวนาสูตรการเล่นลมหายใจในขณะที่ลงยันต์เเละมีปฏิสัมพันธ์ไปด้วยนั้นเป็นอะไรที่ยากมากทีเดียว
    เมื่อได้เเผ่นยันต์สุระปัดที่ผ่านการลงยันต์เเมงวันคำเเล้ว ท่านก็จะนำมาลงยันต์ประทับหลังต่างหากอีกคำรบหนึ่ง เป็นยันต์ที่ท่านเอาไว้เเช่น้ำมันดีดสาวของท่านเองในสมัยก่อน กล่าวได้ว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่ท่านสำเร็จเเละทดลองใช้ได้ผลมาเรื่อยๆตลอดเเล้วนั่นเอง เมื่อได้เเผ่นพระยันต์สุระปัดคำเต็มสูตรเเล้ว ท่านก็นำมาเสกโดยเน้นเสกเก็บไว้ตลอดในฤกษ์จันทร์เพ็ญ พระจันทร์ขึ้นเต็มดวงไขรัศมีกระจ่างฟ้าเมื่อไหร่เป็นอันต้องเอาออกมาเสกทุกครั้งด้วยการเป่ามนต์เชิญพระจันทร์เข้าตัว 108 คาบ ซึ่งวิชานี้ท่านว่าคนเอาไปใช้จะได้มีเสน่ห์ มีทรัพย์สินดั่งเวลาน้ำขึ้นจันทร์เต็มดวง อุดมสมบูรณ์ปานเชิญพระจันทร์เข้าสถิตย์ในกายตนทีเดียว เวลาไปไหนก็จะมีสง่าราศีดูมีรัศมี มีน้ำมีนวล เมื่อเสกครบดีแล้วท่านได้นำแผ่นเงินบางส่วนมาหลอม
    พร้อมกับใส่ธาตุกายสิทธิ์ต่างๆลงไป เสริมด้วยปรอทสำเร็จของหลวงปู่ละมัย และปรอทกินทองของครูบาศรีอ่อง เทออกมาเป็นเม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำเพื่อจะใช้เป็นหัวใจตะกรุดลูกอมนั่นเอง

    หลังจากนั้นท่านจึงนำดินสองพองมาลงยันต์นะตวัดจันทร์ หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่าพระยันต์ยมบาลใจอ่อน โดยท่านเพียรลบเสร็จแล้วปั้นใหม่ถึง 108 ครั้ง ก่อนที่จะนำมาลบนะพระเจ้า มนต์ขอพรเทวดา มนต์สำเร็จทันใจ และมนต์มหากำเนิดต่อไป ท่านว่าที่ท่านตั้งต้นด้วยนะตวัดจันทร์หรือที่เรียกว่าผงยมบาลใจอ่อนนั้น เพราะว่าแม้แต่ยมบาลเทพผู้รักษากฏเหล็กทรงความยุติธรรมนักหนา ยังได้ชื่อว่าต้องใจอ่อนยอมผ่อนปรนให้กับความต้องการของเรา แล้วนับประสาอะไรกับน้ำใจมนุษย์และสัตว์รอบข้าง ยิ่งองค์พระแม่ยั่วเมืองนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะท่านมีน้ำใจประกอบด้วยเมตตาอยู่แล้วยิ่งใจอ่อนเข้าไปอีก และมนต์บทต่างๆที่ลบถมลงไปนั้นก็คัดมาเฉพาะหัวกะทิ ท่านว่าเพื่อให้ง่ายต่อการขอ การเข้าถึงนั่นเอง ขอแล้วต้องถึง ขอแล้วต้องได้รับความเมตตา โดยท่านได้นำผงลบนั้นมาผสมกับมวลสารคตศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่เคยบดไว้ ทั้งคตไข่งู คตไข่นกในป่า คตไข่ไก่ คตกะโปกเสือ คตปลิง ต่างๆ รวมไปถึงผงวิเศษบูรพาจารย์ต่างๆที่ท่านรวบรวมไว้ เข้ากันกับสีผึ้งของครูที่เป็นมวลสารรุนแรงทางเมตตามหาเสน่ห์ อุดผงฝังไว้ในตะกรุด

    ซึ่งในภายหลัง พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดนี้เเช่ในน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้า(ครูทั้ง4) และเสกจนได้ชื่อว่าสำเร็จและเกิดขึ้นเเล้วในน้ำมัน นั่นคือเเช่และเรียกสูตรเรียกนามตั้งรูปให้จุติปฏิสนธิเป็นเสด็จเเม่ยั่วเมือง ให้ถือกำเนิด ให้เกิดขึ้นมาใหม่เเบบโอปปาติกะกำเนิด ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นเเบบจุติของเทวดาเเละสิ่งลึกลับ เเละซึมซับอิทธิคุณเเละมนต์มหาเสน่ห์ของน้ำมันเสน่ห์ภูติพระเจ้า(ครูทั้ง4)จนเต็มเปี่ยม ท่านกล่าวไว้ว่าในเรื่องของมหาเสน่ห์นี้ไม่ต้องไปพูดไปกล่าวอะไรเเล้ว เพราะเสียเวลาที่จะพูดจะบอก ตะกรุดนี้วิชานี้เราทำเต็มที่ ถ้าไม่ได้ถอดเขี้ยวถอดเล็บมาเอาดีทางธรรมทางพระศาสนาเเล้ว เราจะใช้เองให้มันรู้ไป ทำก็ยากพิธีก็มาก ถ้าไม่ใช่เคยทำไว้สมัยก่อน มาตอนนี้ก็คงทำไม่ได้อีกเเล้ว ถ้าใครหวังจะเอาดีทางโลก ไม่ว่าจะเสวยสมบัติมีความสุขด้วยลาภที่เกิดจากสัตว์สองเท้า(คู่ครอง)หรือปรารถนาโชคลาภวาสนาใดๆวิชานี้ย่อมครอบคลุมทั้งหมด ท่านเสกจนพอ จนท่านออกปากว่าเต็มแล้วตะกรุดนี้มีทุกสิ่งที่มนุษย์ต้องการและควรจะมี

    วิธีบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านให้หากำยานมาจุดถวาย(ในกรณีไม่ได้ใส่ติดตัว) *** รวมถึงหาน้ำหอมน้ำปรุงกลิ่นที่เราใช้กับตัวเองประจำมาฉีดพ่นที่ตะกรุดเสมอๆ(ที่หลอดตะกรุดให้เจาะรูเพื่อพ่นสปรย์น้ำอบน้ำปรุงได้) อยากได้อะไรหมั่นพูดหมั่นขอบอกกล่าวเสด็จแม่มหาอุมาเทวี ตะกรุดนี้ให้ห้อยคอบูชา ไม่ต้องถอดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามไม่มีเสื่อม ให้ห้อยไว้จะยิ่งทวีพลังเเละอานุภาพรุนแรงมากขึ้น


    คาถาบูชา
    โอม ศรีมหาเทวี สตีมหามาตา อุมาภควดี ศรีมหาทุรคาเทวีมหิทธิกา มหาอิทธิโย เทวะมนุษย์สะยักษ์สะวันทามิ

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดลูกอมนี้ไว้ได้เพียงประมาณหนึ่งกำมือหลักสิบดอกไม่มาก ดังนั้นจึงจะเปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าวิชาเหล่านี้บ้างก็เป็นของสูงสุดที่ทั้งชีวิตยากจะได้เห็น บ้างก็เป็นวิชาที่มีอาถรรพ์มาก มีอานุภาพรุนแรง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นครูท่านรักษษและเลือกคนของท่านเอง ท่านบอกเราแค่ว่าเก็บเอาไว้นานๆก่อนค่อยเอาออกไปเพราะเจ้าของเขาจะมาเอาไปเองจนครบ ดังนั้นตะกรุดลูกอมชุดพิเศษนี้ ท่านจึงเก็บไว้นานหลายปีจนครูมหาศักติให้ท่านนำออกมา

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลูกอมมหากำเนิดเสด็จแม่ยั่วเมือง(เม็ดสำเร็จธาตุวิชาสุระปัดคำ) บูชา 900 บาท

    73357349-417439405621861-5476761151318523904-n.jpg 73504903-1191605237894197-3421036971336663040-n.jpg
    74335862-419457618739836-4571751597192773632-n.jpg
    74634699-685441785275714-1408332420742119424-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2019
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ท่านว่าใครที่รอวิชาแมลงวันคำ รอสุระปัดคำมานานเพราะรู้ว่าเป็นของสูงที่ทำยากหนนี้ก็มารับไปใช้ได้เสมอกัน อย่าดูถูกว่าเล็ก จะเก็บไว้เผื่อลูกเผื่อหลานก็ได้ทั้งสิ้นเพราะวิชาชุดนี้ต่อไปจะไม่มีออกมาอีกด้วยข้อจำกัดที่ท่านทำไม่ได้ในปัจจุบัน แต่ชุดลูกอมนี้จะเน้นเรื่องกันกระทำ กันคนกลั่นแกล้งและล้างอาถรรพ์ ดับล้างอันตราย ฉุดช่วยดึงชีวิตที่ตกต่ำตลอดจนพลิกวิกฤติฟื้นฟูรากฐานชีวิตเสริมเข้าไปด้วย
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ชุดนี้ยอดมาไวมาก มีคนโทรหาผมขอยอดกันเป็นสิบดอกอันนี้แจ้งไว้ก่อนว่าไม่มีของให้เยอะขนาดนั้นนะครับ รายการนี้แบ่งๆกันใช้และก็ขออนุญาติไท่รับโทรศัพท์ใดๆในช่วงเช้า อยากจะให้โอกาสคนจองกันได้ทั่วๆไม่ล๊อคยอดกัน
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้ก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเวตาลมาเล่าว่าแรงมาก อย่าลืมว่าราชาเวตาลนั้นเป็นบุตรในพระกศยปะเทพบิดรไม่ใช่พรายไม่ใช่ผี แต่เป็นคณะศิวะสาวกที่เข้าถึงตัวองค์พระสยมได้ใกล้ชิดที่สุด มีหน้าที่นำเนื้อความต่างๆที่พบเจอถ่ายทอดให้พระเป็นเจ้าฟัง ล่าสุดมีคนเล่าว่าฝันเห็นคนมาเคาะประตูบ้าน พี่แกก็ไม่ยอมเปิดในฝันเห็นใส่ชุดเขียวๆถือไม้เท้าไม่รู้จักกัน เขาก็เคาะอยู่นั้นจนเปิด พอได้คุยกันเค้าชวนเราไปสรงน้ำพระ เค้าว่าช่วงนี้ชีวิตไม่ราบรื่นให้รีบไปสรงน้ำพระสรงน้ำพระเจดีย์ที่ไหนก็ได้เสียไปทำเงียบๆของเราคนเดียวพร้อมกับบอก...(คำขอขมาส่วนตัว) ในฝันพี่เค้าก็ว่าไม่ว่าง ไม่มีเวลา ไม่ไป ชายชุดเขียวก็คะยั้นคะยอว่าต้องไปไม่ไปไม่ได้ พี่เค้าว่าอยู่ดีๆใครก็ไม่รู้มาพูดแบบนี้เราก็อารมณ์ขึ้นจะเข้าไปทุบเขาอยู่แล้ว เค้าก็พยายามบอกกับเราว่าต้องไปให้ได้นะไปทำตามนี้แล้วเค้าก็หายตัวไปเฉยๆ(น่าจะเป็นการแก้เคล็ดส่วนตัวของเขา เพราะพี่เค้าว่าช่วงนี้ชีวิตแย่ลงพยายามรักษายอดขายในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้มันยากพิลึก) พี่เค้าว่าก็ฝันมาแบบนี้ไม่ได้คิดอะไรมาก

    แต่พอตื่นขึ้นมานั่งทบทวนดูแล้วรีบไล่อ่านกระทู้ก็ได้ความตรงกันว่าใส่ชุดเขียวมือถือไม้เท้าน่าจะเป็นเวตาลจำแลงกายมาบอกเราให้ออกไปทำบุญแก้เคล็ดอย่างไรถึงจะตรงและโฉลกกับตัวเองในขณะนี้ เพราะพี่เค้าว่าตัวเค้าไม่รู้จะแก้จะทำอย่างไรจริงๆเพราะสังคมเดี๋ยวนี้มันต้องดิ้นรนมากกว่าแต่ก่อน พอมาคิดถึงที่ฝันก็สังเกตุว่าอารมณ์เราขึ้นสุดๆจะวางมวยเค้าอยู่แล้วแต่เหมือนเขาจะมาเกลี้ยกล่อมให้เราไปแก้เคล็ดของเราแล้วเขาก็หายไป ทั้งๆที่ในมือเขามีไม้เท้าเขาก็ไม่ตีเราทั้งๆที่เราหยาบคายใส่ไปก็มาก พี่เค้าว่าคิดๆดูพ่อเวตาลนี่ต้องใจเย็นและใจดีมากๆถึงรับมือกับอารมณ์เขาได้
    แต่ผมกลับคิดว่าเผลอๆที่เวตาลมาเช่นนี้ เรื่องความทุกข์ของพี่เค้าอาจจะถึงหูครูพระสยมแล้วก็เป็นได้

    พอคิดได้ก็จะออกไปทำตามวิธีที่เวตาลบอกให้เร็วที่สุดก็เผอิญตามองไปเห็นที่ประตู เพราะตรงประตูที่พื้นพี่เค้าเพิ่งเทปูนเอาไว้ใหม่ๆเลยก็เห็นมีรอยเท้าเล็กๆเหยียบปูนที่เพิ่งเทไป เค้าว่าเป็นรอยเท้าไม่ใช่รองเท้า ทีแรกก็คิดว่าเด็กๆหรือใครมาวิ่งเล่นแต่ก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีรอยย่ำมา เหมือนหล่นลงมาจากอากาศแล้วก็ยืนอยู่จุดเดียวตรงนั้น พอมองเข้ามาในบ้านจุดที่เปิดประตูออกไปก็มีรอยเท้าที่เหยียบปูนเปียกเหยียบอยู่ตรงจุดที่เค้าฝันว่าเวตาลเหยียบเข้ามาหยุดคุยกับเค้าอยู่ตรงนั้น พี่เค้าว่าตอนนั้นภาพเหตุการณ์มันแทรกกันขึ้นมาคิดในใจว่าหรือเราไม่ได้ฝัน เอ้ะหรือเราฝัน แล้วทำไมรอยมาอยู่ตรงนี้มาได้ไง ซึ่งรอยเท้าก็อยู่แค่ตรงนั้นไม่มีการเดินเข้าหรือเดินกลับออกไป เหมือนตัวตนของเจ้าของรอยเท้านั้นหายไปได้อย่างไร หายไปทางไหน หายไปในอากาศเฉยๆ แล้วอีกอย่างบ้านนี้พี่เค้าก็อยู่คนเดียวและไม่ใช่ขนาดรอยเท้าเขาทั้งประตูก็ล๊อค...พี่เค้าว่าก็รู้อยู่ว่าพ่อเวตาลมาหาแต่ตอนนี้ไม่มั่นใจว่าเราฝันหรือเรื่องจริง

    พี่เค้าว่าทีแรกฝันก็ว่าประหลาดแล้วเพราะแรงครูเขามาช่วยหาทางออกให้เรา แต่ไปๆมาเห็นกับตาเช่นนี้จึงน่าประหลาดใจกว่าว่าพ่อเวตาลนั้นมีตัวตนจริงๆ ***พ่ออาจารย์ท่านพูดอยู่ติดปากตอนเสกเวตาลว่า เวตาลถวายพรนั้น ที่เราใช้คำว่าถวายพรเพราะเค้าจะมาเคาะให้ถึงหน้าบ้านทีเดียวอันนี้ก็เป็นเรื่องแปลกดีที่มีคนเจอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...