เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๕๖ : พระธาตุพระสีวลี

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 13 กันยายน 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,532
    ค่าพลัง:
    +26,369
    56.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๕๖ : พระธาตุพระสีวลี

    พระสีวลีเถรเจ้าเป็นพระอรหันตเจ้าสมัยพุทธกาล ตามประวัติกล่าวว่า ท่านเป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา พระมารดาทรงครรภ์นานถึงเจ็ดปีกับอีกเจ็ดวัน แม้จะทรงครรภ์นานเห็นปานนั้น แต่ความลำบากแม้แต่น้อยหนึ่งก็มิได้มีแก่พระมารดา มิหนำซ้ำพระมารดายังสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยลาภสักการะเป็นอันมาก...

    บุรพกรรมที่ทำให้ท่านต้องอยู่ในครรภ์นานถึงเพียงนั้น กล่าวไว้ว่าในชาติก่อนท่านเป็นพระมหากษัตริย์ ได้ยกทัพไปตีเมืองอื่น ทำการล้อมเขาไว้ตามคำแนะนำของพระมารดา เป็นเวลานานถึงเจ็ดปีกับอีกเจ็ดวัน เขาจึงยอมแพ้ มาในชาตินี้ท่านถึงต้องทนอยู่ในครรภ์พระมารดา เป็นเวลาเท่ากันเพื่อใช้หนี้กรรม...!

    ต่อมาท่านได้ฟังเทศน์จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความเลื่อมใสจึงทูลขออุปสมบท เพียงมีดโกนจรดศีรษะก็ได้โสดาปัตติผล ปลงผมเสร็จก็สำเร็จอรหัตผล เป็นผู้มีลาภสักการะยิ่งกว่าผู้ใด องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงตั้งไว้เป็นเอตทัคคะ คือเป็นผู้เลิศไปด้วยลาภ...

    ความเป็นเลิศในด้านลาภผลของท่านปรากฏชัด ครั้งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ องค์ เสด็จไปเยี่ยมพระเรวัตตะ ณ ป่าไม้ตะเคียน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถามทางจากพระอานนท์...

    พระอานนท์ทูลตอบว่า ทางตรงลำบากด้วยอาหารบิณฑบาต มีแต่อมนุษย์เป็นจำนวนมาก มีระยะทาง ๖๐ โยชน์ ส่วนทางอ้อมสะดวกต่อการบิณฑบาต มีบ้านเรือนเป็นระยะไป แต่หนทางไกลถึง ๑๒๐ โยชน์...!

    องค์สมเด็จพระบรมสุคตตรัสว่า “พระสีวลีมาด้วยหรือไม่...?” พระอานนท์ทูลว่า “มาด้วยพระเจ้าข้า” องค์สมเด็จพระบรมศาสดาจึงมีพระดำรัสว่า “อานันทะ ดูกรอานนท์ ถ้าสีวลีมาด้วย เราจะไปทางตรง...”

    เมื่อองค์สมเด็จพระประทีปแก้วพร้อมด้วยภิกษุทั้ง ๕๐๐ เสด็จไปทางตรง บรรดาเทวดาทั้งหลายก็เนรมิตที่พักเป็นระยะ ๆ ไปตลอดทาง ๖๐ โยชน์ และนำอาหารมาถวายเฉพาะพระสีวลี มีจำนวนมากพอที่จะถวายองค์สมเด็จพระบรมศาสดา และภิกษุทั้ง ๕๐๐ โดยทั่วถึงกัน...

    บุรพกรรมที่ทำให้มีลาภมากนี้ กล่าวไว้ว่า ในชาติหนึ่งมหาชนทั้งหลายตั้งใจถวายทานต่อภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ของทุกอย่างมีครบแล้ว ยกเว้นน้ำผึ้งสดเพียงอย่างเดียว ชนทั้งหลายจึงพากันออกหาน้ำผึ้งสดเป็นการใหญ่...

    พระสีวลีในชาตินั้นเป็นชายตัดฟืน พอดีได้ผึ้งมาหนึ่งรัง ชนเป็นอันมากเหล่านั้นขอซื้อ ให้ราคาถึงหนึ่งพันกหาปณะท่านก็ไม่ขาย แต่ขอร่วมทำบุญด้วย อานิสงส์การทำบุญปิดท้ายมหาสังฆทานด้วยน้ำผึ้งสดรวงเดียวในชาตินั้น บันดาลให้ท่านเกิดมาถึงพร้อมด้วยลาภสักการะทุกชาติ เทวดาที่นำอาหารมาถวาย คือชนทั้งหลายที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนั้นเอง...

    “หลวงพ่อ” เล่าให้ฟังว่า คืนหนึ่งท่านเจริญกรรมฐานอยู่ เห็นประกายสีเขียวนวลสว่างจ้าอยู่บนขื่อ มีเสียงบอกว่าขอมาอยู่ด้วย “หลวงพ่อ” ถามว่าเป็นใคร เสียงนั้นตอบว่า “ผม...สีวลี ครับ”...

    รุ่งเช้าท่านขึ้นไปดูบนขื่อ พบพระธาตุพระสีวลีองค์หนึ่งจริง ๆ จึงเก็บเอามาบูชาไว้... อาตมาได้ยินดังนั้นก็เกิดความ “อยาก” ได้ขึ้นมา อุตส่าห์ไปค้นหาคาถาบูชาพระสีวลีมาท่อง คาถาก็ยาวจัง จึงตัดทอนเอาสั้น ๆ แค่ว่า

    “สีวลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระภิปูชิโต โสระโห ปัจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตังสะทา มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม”

    ท่องไปขอไป ขอให้ได้พระธาตุพระสีวลีมาบูชา เวลาผ่านไปสามเดือน มีผู้นำพระธาตุพระสีวลีมาถวาย จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่ จนอาตมาเห็นว่าได้มากแล้ว ขอแค่นี้ก็พอ...

    อาตมาแบ่งปันพระธาตุพระสีวลีให้แก่นัน (นันทิญา) ๑ องค์ เกียง (มาลินี) ๑ องค์ พี่วิไล (วิไลวรรณ) ๑ องค์ เหลือไว้บูชาเอง ๑ องค์ แต่ไม่นานมานี้ ได้มอบให้กับหัวหน้าสถานีวิจัยเพื่อรักษาต้นน้ำแม่กลองคือ คุณประเดิมชัย แสงคู่วงษ์ไปเสียแล้ว เห็นทีต้องท่องคาถาใหม่อีกตามเคย...

    พระธาตุพระสีวลีเถระมีลักษณะขรุขระ แบบที่ค่อนข้างเรียบมีลักษณะคล้ายเม็ดมะละกอ แบบปานกลางคล้ายเม็ดพุทรา แบบขรุขระมากมีลักษณะคล้ายลูกยออ่อน มีสองสีคือ เขียวแก่แบบใบผักตบ กับเหลืองเหมือนหวายตะค้า ที่อาตมาได้มานั้น สีเหลืองเหมือนหวายตะค้าทั้งสี่องค์...

    หากท่านผู้อ่านท่านใดต้องการพระธาตุพระสีวลีไว้บูชา ก็โปรดทดลองท่องคาถาดู ของอย่างนี้ใครบอกก็อย่าเพิ่งเชื่อ จนกว่าเราจะทำเห็นผลเอง ถ้าท่านมีความอดทนพอ มีสัจจะแน่วแน่มั่นคง คิดว่าในเวลาไม่นาน ท่านก็จะเห็นผลเช่นเดียวกัน... “กับของจริง ต้องทำจริง จึงจะได้ผลจริง”

    ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...