นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

หลวงปู่ลุน ธมฺมธโร วัดป่าเลไลย์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม

 

บูชารูปท่านแนบสำเนาตำราท่านมา ที่ปรึกษาสัมผัสดูอ่านตำราท่านหลังรูปแล้ว

"อ่านดูแล้ววิชาจากโบราณจริง... "

 

ตอนแรกที่ปรึกษาบอก สีของแหวนจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามดวง สงสัยจะจริงครับ ตอนนี้โยมบิดาท่านนำไปใส่แล้วชมใหญ่เลยว่าสวย

ช่วงผมติดขัดจะออกคล้ำ ๆ ไม่สวยว่าง่าย ๆ พอผ่านช่วงติดขัดไปก็ออกชมพู นาค ๆ เหมือนเดิม โดยไม่ต้องไปขัดอะไรแปลกดี ตอนแรกนึกว่าเพราะโดนน้ำเวลาล้างหน้าล้างมือ

พอ QC มาบอกเลยชัดเจนว่าเราไม่ได้คิดไปเอง

อาจสงสัยแล้วแหวนตัวอย่างสำคัญอย่างไร สำคัญมากครับ เพราะเป็นการทดสอบชนวนลับในตำนาน ซึ่งรอ ผมเปิดจองทางการจะมาเฉลยให้ฟังครับ ว่าแหวนตัวอย่างสำคัญอย่างไร อะไรคือชนวนสำคัญของสีเนื้อ ซึ่งจะมีเฉพาะในเนื้อพิเศษนะครับ

ส่วนเนื้อชนวนรุ้ง จะเน้นชนวนแผ่นจารต่าง ๆ จะไม่ผสมชนวนลับครับ แต่ขลังเท่ากันเพราะจะเสกพร้อมกันครับ ครูบาอาจารย์ท่านจะดึงพลังให้เสมอกันแน่นอนตามที่เห็นในรุ่นที่ผ่าน ๆ มา (ครูบาอาจารย์ระดับนี้หายากนะครับ แก๊งค์เซลแมนยังไม่เจอเลย)


วันนี้ผมจะได้เม็ดเงินมาอีก ครึ่ง กก. ซึ่งจะทำให้เนื้อสวยกว่าเดิมแน่นอนจะกลับดำได้เงางามขึ้น

 

ความรู้เรื่องการปรับธาตุ

บทความนี้ถือเป็นการเกริ่นนำ เพื่อเข้าสู่โครงการแหวนก็ว่าได้ครับ แต่ผมอยากให้เป็นถึงความสำคัญของการปรับธาตุในหลายลักษณะ โดยจะขอเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ได้อ้างอิงหรือพาดพิงถึงใครทั้งสิ้น สำหรับท่านใดที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ก็ถือว่าตามองค์ความรู้ของแต่ละท่านพึงพิจารณาเอาครับ

ทำไมธาตุในร่างกายจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง

ธาตุในร่างกายคนเราถ้าเป็นปกติ ก็จะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอยู่ โดยจะมีดังนี้

• ธาตุดิน > เป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น เนื้อ กระดูก ผม เล็บ หนัง ขน
  
• ธาตุน้ำ > เป็นน้ำในร่างกายทั้งมวล เช่น น้ำเหลือง เลือด
  
• ธาตุลม > เป็นกระแสของการหมุนเวียนในร่างกาย โดยเราหายใจเอาอากาศเข้าไป แล้วออกมา ในขณะที่อากาศเข้าไป ก็จะเป็นการนำลมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ธาตุต่างๆ มีการเคลื่ยนไหว สำหรับนักปฏิบัติกรรมฐาน บางท่านอาจเคยได้ยินว่า ถ้าสามารถกำหนดให้ลมหายใจวิ่งเข้าทั่วกายได้ เป็นธาตุลมที่แผ่ออกไปทั่วอณูของร่างการ เป็นต้น
  
• ธาตุไฟ > เป็นความร้อน ความอบอุ่น พลังงาน ในร่างกายเราทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ร่างกายในของสิ่งมีชีวิต จะมีธาตุทั้งสี่ประกอบกันขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่โดยตลอดเวลา แม้กระทั้งเวลาที่เรานอนหลับ เมื่อครั้งถึงเวลาที่กายนี้ดับลง ธาตุทั้งสี่ที่ประชุมกัน ก็เป็นอันต้องแยกกันไปคนล่ะทิศทาง สลายคืนสู่ธรรมชาติ เหลือเพียงจิตดวงเดิมที่จะต้องเดินทางไปสู่ร่างใหม่ต่อไป หากยังไม่หลุดพัน แต่สำหรับคนปกติ ถ้าธาตุไม่สมดุลกันล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น โดยความเป็นไปได้หลักเลยคือ การเจ็บป่วย ซึ่งโดยสาเหตุใดบ้างทำให้ธาตุไม่สมดุลกัน มีดังนี้

• โรคภัยไข้เจ็บ >> อันเป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้ธาตุเสียสมดุล
  
• สภาวะจิตไม่คงที่ฉับพลัน >> จะเกิดบ่อยๆ คืออาการตกใจ หรือผวา ตื่นกลัวจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อจิตมีการสะเทือน ธาตุในกายก็จะถูกกระทบไปด้วยเช่นกัน
  
• สถานที่ >> ในกรณีจะเกิดได้ในกรณีที่คนมีจิตอ่อน หรือตื่นตกใจผวาง่าย มีเซ้นส์ผัมสัมไว เวลาเดินทางไปในสถานที่อันอาจมีพลังงานบางอย่าง ก็จะส่งผลต่อธาตุในกายได้
  
• วัตถุสิ่งของ >> สำหรับในที่นี้ผมขอพูดถึงในแนวทางของเครื่องราง และวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีพลังงาน ในบางคนชอบสะสมของเก่าโบราณ หรือเครื่องราง ก็จะได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะวัตถุแต่ละชิ้นมีพลังงานอยู่เป็นของเฉพาะอย่าง ถ้ามองในรูปแบบของเครื่องราง จากการที่ผมได้อ่านกระแสพลังงาน จึงยืนยันได้ว่าพลังงานในวัตถุนั้นมีอยู่จริง ซึ่งก็สามารถกระทบกับกับธาตุในกายเราได้ อย่างบางคนใส่เครื่องราง หรือพระเครื่องมาตลอดเป็นเวลาหลายปี เวลาถอดออกจะมีอาการหวิวๆ บ้าง เพราะธาตุเราไปผูกเกี่ยวกับพลังงานของวัตถุไปแล้ว
  
• วัตถุสายพราย >> สำหรับในกรณีนี้ถือเป็นสำคัญ เพราะในคนสมัยนี้ชอบเล่นสายพรายกันมาก เป็นที่นิยมมาแต่โบราณกาล ในกลุ่มที่เล่นสายพรายจะมีคำพูดถึงเข้ามาเสมอคือ เวลาได้สายพรายมาใหม่ๆ จะมีอาการบ้างเล็กน้อย นั้นเรียกกว่า การปรับธาตุ เพราะธาตุในคนคนเรา กับ พราย จะมีความต่างกัน จะให้เชื่อมกันได้ต้องมีการปรับกันเล็กน้อย โดยอาการของการปรับธาตุมีมากมาย เช่น จะรู้สึกมึนๆ หัวบ้าง อาเจียนบ้าง มีการวูบวาบในการบ้าง เป็นต้น

แนวทางในการรักษาธาตุในกายให้สมดุล (จากประสบการณ์)

• การพักผ่อนให้เพียงพอ >> เป็นการรักษาแบบพื้นฐานที่สุดเมื่อเกิดอาการธาตุเสียสมดุล
  
• การเจริญสมาธิภาวนา >> เป็นการปฏิบัติเบื้องต้นในการแก้ไขอาการที่ธาตุเสียสมดุล โดยในการเจริญภาวนานี้ บางคนอาจคิดว่าเป็นเพียงแค่ความสงบเท่านั้น แต่ในมุมของผมเอง จะเน้นที่การภาวนาให้เข้าถึงฐานของจิตและฐานของใจ เพื่อเชื่อมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีนอกและใน ทั้งหมดเป็นเพียงความว่าง
  
• การอาบน้ำมนต์ >> ในกรณีที่ธาตุเสียสมดุล จากการโดนกระแสพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็น การอาบน้ำมนต์ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่คนทั่วไปนิยมกัน
  
• การใช้ธาตุกายสิทธิ์ >> สำหรับธาตุกายสิทธิ์ผมเคยให้ข้อมูลไปแล้วจะช่วยในลักษณะไหน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะแนะนำเป็นเหล็กไหล โดย ที่จะปรับธาตุโดยตรงเลยคือ เหล็กไหลกลืน ส่วนเหล็กไหลชนิดอื่นก็สามารถทำได้ โดยการกำหนดกำที่มือ แล้วดึงกระแสของเหล็กไหลเข้าตัว สำหรับเหล็กไหลที่ผมยอมรับในเรื่องการปรับธาตุอีกชนิดคือ ปรอทจักรพรรดิ์
  
• การปรับประชุมธาตุ >> สำหรับวิธีการนี้จะเป็นวิธีการของนักกรรมฐานจะใช้กัน โดยรายละเอียดสามารถหาได้ตามสื่อออนไลน์ ในการปรับประชุมธาตุนี้ในการกำหนดภาวนาอธิฐานเพื่อทำการขอคืนธาตุสู่ธรรมชาติ แล้วอธิฐานให้ธาตุมาประชุมเพื่อ Reset ระบบของร่างกายใหม่ เป็นการยึดเวลาการเสื่อมสลายของกายนี้ออกไป เพื่อจะได้มีเวลาทำประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่นในอนาคต

สำหรับจุดมุ่งหมายในการปรับธาตุนี้ในความคิดของผม โดยหลักแล้วจะหมายถึงการรักษาโรคภัยที่เกิดขึ้นกับกายของเรา ดังนั้นไม่ว่าจะมีวิธีการใด แบบใด หรือวัตถุใดในการช่วยปรับธาตุก็ตาม ผมขอให้ทุกคนพึ่งระลึกไว้เสมอว่า การที่เรายืนมีลมหายใจได้อยู่ในทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัว แล้วปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสของกองทุกข์กองกิเลสไปวันๆ โดยไม่คิดว่า ชีวิตของคนเรานั้นสั้นยิ่งนัก ดังนั้นจึงควรหมั่นมีสติระลึกรู้อยู่ว่า กายนี้มันไม่ใช่ของเรา ลูกเมียพี่น้องก็ไม่ใช่ของของเรา เงินทองทรัพย์สมบัติเมื่อเราตายไปมันก็เป็นของคนอื่นอยู่ดี จะมัวมาหลงไปกับมายาของชีวิตไปเรื่อยๆ แบบนี้เพื่อสิ่งใดกัน ต่อให้มีวัตถุที่จะช่วยปรับธาตุ หรือยาอายุวัฒนะ ก็จะไม่เป็นประโยชน์ใดๆ เลย ถ้าหากผู้ใช้ไม่เข้าถึงสัจธรรมของชีวิตที่แท้จริง

 

แท่งเงินแท้เป็นชนวนหล่อแหวน โดยได้รับคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ว่าให้นำไปขอให้

1.ครูบาอาจารย์ระดับสูงยิ่งพระอริยเจ้ายิ่งดียิ่งบารมีท่านมากเท่าไรยิ่งแรงเท่านั้น

2. อายุยืนยาวนานสุขภาพแข็งแรงยิ่ง 90 ปีขึ้นไปหรือ 100 กว่าปียิ่งดี

3. ขอท่านอธิษฐานทางสุขภาพร่างกายและเพิ่มบารมี รักษาโรคภัย

และได้นำเม็ดชนวนทองแดงที่ได้มาด้วยไปอธิษฐานด้วยกัน

ชนวนต่าง ๆ เป็นเคล็ดมีเงิน มีทอง...

 

หลวงปู่ท่านนี้เป็น 1 ในครูบาอาจารย์ที่เชิญบารมีพระอุปคุตไงครับ จึงไม่ต้องสงสัยความสุดยอดของท่าน

อายุท่าน 91 ปีแล้วผมทราบจากชาวบ้านวันนี้เอง เรียกว่าคนเล่าอายุ 65 ยังแข็งขาไม่ดีกันแล้ว แต่หลวงปู่สิ แข็งแรงกว่าเราอีก

ท่านยังคุ้นหน้าผมทักทายนิดหน่อย ได้ถวายสังฆทานท่านด้วย

แล้วขอท่านอธิษฐานชนวน ท่านได้หยิบแต่ละอย่างพิจารณาเช่นเม็ดทองแดง แท่งเงิน แล้วถามรายละเอียด ก็เลยขอท่านลงด้าน รักษาโรค เพิ่มสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเหมือนหลวงปู่

ท่านอธิษฐานได้ยาวนานยิ่ง สมบูรณ์แบบ ที่ปรึกษาพิจารณาแล้วได้แต่กล่าวว่า "สุดยอด ๆ ๆ "

 

หลวงปู่ท่านนี้อายุ 108 ย่างเข้า 109 ปีแล้ว ไม่ต้องบรรยายความเป็นสุดยอดของท่าน

กระแสจิตดุดัน ห้าวหาญบารมีสุด ๆ นับเป็นโชคดีอย่างยิ่งได้ท่านปิดท้าย

แน่นอน ผมก็ทำบุญถวายของบำรุงท่านก่อนอย่างแรก แล้วก็เรียนขอความเมตตากับท่าน ท่านก็พิจารณาชนวนแต่ละอย่างละเอียด แล้วเมตตาทำให้เต็มที่

จึงนับว่าได้ทำตามเคล็ดถูกต้องครบถ้วนกระบวนความในตำราแหวนมหาชะตาสรณคมนา......

เดี๋ยวผมจะนำแท่งเงินแท่งหนึ่งไปถวาย อ.อ่างตอบแทนที่เมตตาเม็ดชนวนทองแดง และจะไถ ชนวนอื่น ๆที่ อ.อ่างไปเดินสายเสกสายระยองมาเพิ่ม 555 แหวนเราได้มีชนวนทั่วประเทศ...

 

ยันต์ 4 ลูกหนี้ลงปลุกธาตุ (พยุงธาตุ) ลงใส่ใบลานก็ดี ทองก็ดี (โลหะ) แช่ไว้กับน้ำขมิ้นส้มป่อย มนต์รวมกัน นำติดตัว พ้นจากโรคพยาธิทั้งปวง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ได้อยู่ดีมีสุข ปกธาตุ (ปรับธาตุร่างกาย หากเจ็บป่วยก็หาย) คนเฒ่าก็ดี เด็กก็ดี ให้เอาแช่น้ำ อาบน้ำ....

ผู้ใดได้อาบน้ำก็ดี จะมีผิวพรรณ วรรณงดงาม หาโรคาพยาธิไม่ได้ อยู่ดีมีสุข

ยันต์นี้จารตามตำราของปู่ฤาษีวาโย ผู้มอบวิชาตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4

ได้ขอครูบาอาจารย์อายุ 80-90 ปีที่สุขภาพแข็งแรงทรงอภิญญาและเป็นพระอริยเจ้าอธิษฐานแล้ว

แผ่นยันต์นี้เป็นเงินแท้ 99.99 % นะครับขนาด 5 นิ้ว แผ่นนึงเกือบ 900 บาทเลย ไม่ใช่แผ่นเงินร้านสังฆภัณฑ์แผ่นละ 30-40 บาทนะครับ

 

หลายท่านสอบถามการเปิดจองแหวน ผมรอตามงานหุ่นปั้นแหวนก่อนครับ เขารับประกันความสวยงาม

จากนั้นจะมาเปิดจอง 3 วันครับ เพื่อสรุปยอดขนาดไซส์แล้วส่งงานช่างทันทีจะให้เสร็จภายในเดือนนี้ละครับ

ชนวนจะมาเปิดเผยเรื่อย ๆ ครับ ที่ทุกท่านเห็นไม่ว่าเป็นแผ่นทองคำแท้แบบหนา แผ่นเงินแท้ แท่งเงินแท้ เรียกว่าทุ่มทุนเต็มที่ครับ เป็นเคล็ดมีเงินมีทอง

และชนวนทองแดงต่าง ๆ ก็นำเสกเต็มที่เรียกว่าจะไม่ใช้โลหะที่ไม่ปลุกเสกกันเลย เพื่อผสมเนื้อหาออกมาให้เป็นเนื้อในตำนานกันครับ

ชนวนจะมาเปิดเผยเรื่อย ๆ โปรดคอยติดตามครับ

ชนวนโลหะสายใต้ซึ่งการหล่อแหวนจะไม่ใช้รูปพระครับ จะเป็น เหรียญฆรวาสต่าง ๆ เหรียญครูหมอ...บางชิ้นเรียกว่าเสกมาแล้ว 2 ปี 72 วาระก็มี เสกทั้งพระและฆราวาส เสกสายอิสลามก็มี

ผมจะหาให้ครบทั่วประเทศเลยโดยจะไม่ใช้ชนวนรูปพระเพราะเรามาหล่อแหวนไม่ใช่หล่อพระพุทธตามเคล็ด

 

แผ่นทองคำแท้แบบหนา ขนาด 3 x 3 นิ้ว เรียกว่าราคาก็เกินทองครึ่งบาทไปแล้ว

จารโดยครูบาไชย ผู้เป็นปรมาจารย์ ตามเล่าไปวันนั้นท่านมาหาที่ปรึกษาที่กุฏิ โดยนัดผ่านเจ้าอาวาสให้มาแจ้งที่ปรึกษาว่าจะมาหา

พอมาหาแล้วที่ปรึกษาขอท่านจารที่ศาลา ท่านบอกไม่ได้ต้องจารหน้าขันครูเท่านั้น

ที่ปรึกษาจึงพาไปที่ขันครูใหญ่ของท่าน

ครูบาไชยบอกกล่าวครูบาอาจารย์แล้วจรดเหล็กจารแบบรวดเร็วจนแทบถ่ายรูปไม่ทัน

ตามภาพจะเห็นว่าจารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

โดยด้านหน้าท่านกล่าวว่า "ลงวิชายักษ์ 4 ตาให้แล้ว"

ที่ปรึกษา งง ถามว่า "ครูบาทราบได้ไงพวกเราจะทำแหวนแนวยักษ์"

ครูบาไชยกล่าวว่า "ครูบาอาจารย์บอกมา ข้างบนเขารู้กันหมดแล้ว ชุดนี้ดีมากทำเสร็จแล้วบอกให้มามนต์ (เสก)ให้ด้วยนะ"

ด้านหลังจารยันต์คุม ธาตุ 4 ตามแผ่นเงิน เพื่อจะได้เน้นด้านสุขภาพร่างกายให้เต็มที่

 

ดูคลิปได้ครับแผ่นจารนี้ดีทางใด

ที่ปรึกษากล่าวว่า "ทุกครูบาอาจารย์ลงมาในแนวทางเดียวกัน"

คือเราเจาะจงชัดเจนว่าเอาด้านใด ไม่ใช่เอามาแบบมั่ว ๆ ไม่มีหลักการ

 

พรุ่งนี้จะไปรับชนวนจาก อ.อ่างสายตะวันออกมาเพิ่มเติมครับ ได้ครบทั่วประเทศ

ส่วนงานแกะหุ่นแบบแหวน กำลังแกะอยู่ครับ ก็ต้องรอไป 55

 

ที่มา จาก เฟสครับ

 

อิสลามก็เสกได้เหรอครับแล้วเขาลงด้านใหนเหรอ????

 

ที่มี คือเหรียญวิชาชาตรี ต้นกำเนิดมากจากอิสลามครับ

และเหรียญสายเขาอ้อ ก็มีโต๊ะสายอิสลามเสกด้วย ส่วนวิชาไม่ทราบได้ครับ แต่ที่เห็นของอืนเช่นตะกรุดก็ป้องกันคุณไสย ไล่ญิน กันผีครับ

 

วิชายักษ์ 4 ตาคืออะไรที่ท่านปรมาจารย์ลง ท่านบอกสุดยอด

โดยปกติมีวิชายักษ์ 3 ตาคือมองเห็นทั้ง 3 โลก

4 ตาแรงขึ้นไปอีก คือมองเห็น 4 ทิศคุ้มครองเจ้าของ

และยักษ์ไม่ค่อยป่วยไข้

ที่ปรึกษาบอกลงมหาระงับไว้ด้วยทั้งแผ่นเงินและทอง โดยมีเทคนิคการลงให้ดูไม่ออก ป้องกันหัวหน้าเซลจอมโวมาแอบดูวิชา

 

สาธุ

 

วันนี้ไปพบที่ปรึกษา นำแท่งเงินไปฝากให้ อ.อ่าง พร้อมไถเม็ดทองแดงชนวนมาเพิ่มครับ เพราะสาย อ.อ่างกับที่ปรึกษาไปเสกที่ระยองมาเพิ่ม มีครูบาอาจารย์เด็ด ๆ หลายท่านลงให้ ที่ปรึกษาการันตีความสุดยอด บางท่านก็มีทศกันแต่ก็ยังได้ลงเสกเพิ่มมาให้

น้ำเต้าในภาพคือหัวใจกลอง เนื่องจากตอนนี้กำลังสร้างกลองใบใหญ่ที่วัดใหม่ ไว้ตีเป็นพุทธบูชาและตีเป็นสัญญาณต่าง ๆ คล้าย ๆ ระฆังประจำวัด

แน่นอน จะมีการบรรจุหัวใจกลอง ซึ่งผมได้นำแผ่นทองคำ เงินและธาตุกายสิทธิ์ต่าง ๆ ไปเสกเพิ่มเมื่อวานนี้มาบรรจุด้วยขอทุกท่านอนุโมทนาบุญร่วมกันเพราะใช้ยอดค่าบูชาชุดมหาปราบนี่ละครับ มาจัดหาและบรรจุ

 

ยักษ์ 4 ตา วิชาลับในตำนาน

จริง ๆ ที่ปรึกษาจะห้ามเสมอเรื่องโชว์การถ่ายแผ่นจาร ตำรา เพราะตอนพระขรรค์สรี๋กัญไชย พอโชว์ตำราเท่านั้นละ มีคนมาขอเรียนจากท่านเลย เนื่องจากตำราที่เขามียังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เท่าของที่ปรึกษา

โดยปกติ ที่ปรึกษาบอก สายครูบาข่ายไม่เคยไปเอาตำราจากที่ไหนมีแต่ที่อื่นมาเอาตำราจากที่นี่ เรียกว่าสมชื่อครูบาหลวง (ครูบาใหญ่) คือสร้างศิษยืเป็นสุดยอดมาหลายท่านรวมถึงท่านปรมาจารย์เรา

ยิ่งผมได้เล่าเรื่องความแสบของหัวหน้าเซลแมนที่ทำซะแสบถึงใจ กะมารผจญอีก ยิ่งต้องระวังการโชว์แผ่นจาร ตำราให้มากล่าสุดทราบข่าวแก๊งคืเซลแมนไปแว้งงับหลายคนที่ช่วยเหลืออีกยิ่งยืนยันความแสบของมัน

มาคุยเรื่องยักษ์ 4 ตากันครับ

ท่านเล่าว่าหลายที่มีวิชายักษ์ 3 ตาคือ มองเห็นทั้ง 3 โลก แต่ยักษ์ 4 ตาก็พึ่งได้ยินเรียกว่าเป็นวิชาสำคัญได้

4 ตาคือมองเห็นทุกทิศ เรียกว่าดีทาง เตือนภัย หลบเลี่ยง มองเห็นล่วงหน้า

โดยปกติยักษ์จะมีฤทธิ์อยู่แล้ว จึงเป็นวิชาสำคัญ ๆ มาก

 

เรื่องลี้ลับในตำนานของท่านปรมาจารย์

ที่คุยวันนี้ได้คุยถึงเรื่องวันก่อนที่ท่านปรมาจารย์จารแผ่นชนวนทอง ่เงินมาเพียบ

จากนั้นก็คุยกับที่ปรึกษาแบบลับ ๆ ที่ปรึกษาก็ดีใจหาย ส่งรูปมา update ยั่วผมตลอด 555

พอสะดวกจึงได้เล่าให้ผมฟัง ที่ท่านปรมาจารย์ฝากเตือนผมมาในหลาย ๆ เรื่อง เรียกว่าตอบคำถามให้เสร็จสรรพ ผมแค่รอตอนเสกแหวนไปดำหัวคาระท่านตามนัดหมาย

ทีนี้ เราคุยกันว่า ท่านสมเป็น 1 ในปฐพีจริง ๆ

ที่ปรึกษา ก็เล่าว่า "หลวงพี่ไม่ค่อยชมใครหรอก สมัยก่อนครูบาข่ายก็ให้ไปเรียนกับครูบาไชยท่านตลอด"

ที่ปรึกษาเล่า ย้อนเวลาไปในอดีตสมัยท่านเรียน มัธยม ก็ไปอยู่กับครูบาไชย

วันนึงตอนหลังที่พักท่านมีสระน้ำ คลอง ครูบาไชยแหย่ที่ปรึกษา "อยากเห็นอะไรไหม เดี๋ยวให้ดู"

ที่ปรึกษาว่า "อะไรเหรอครับ"

ครูบาไชย "เดียวจะมีปลากระโดดขึ้นมาจากคลองแล้วจะมีแมวมางับเอาปลาไป"

ไม่นานที่ปรึกษาบอก มีจริง ๆ ปลากระโดดขึ้นมา แล้วมีแมววิ่งมาจากไหนไม่รู้มางับเอาปลาไป

"สังข์ทองชัด ๆ วาจาสิทธิ์จริง ๆ "

5555 จบเรื่องแรก.....

ต่อมา ครูบาไชยมาแหย่ "อยากเห็นไกรทองไหม"

555 ที่ปรึกษาว่า"ขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

ครูบาไชย ก็ให้ที่ปรึกษาหล่อเทียนเอง (ถ้าเอาเทียนมาให้เองอาจเล่นกล)

จากนั้นเอาเทียนที่ปรึกษาที่หล่อมา จุดเทียน พันเชือก โยนลงในคลอง

แช่น้ำซักพักยกขึ้นมา ตัวเทียนเปียก แต่เปลวไฟไม่ดับครับ

"ลองลงไปในน้ำดูสิ เอาเทียนลงไปด้วย" ครูบาบอก

ที่ปรึกษาว่า "ไกรทองชัด ๆ แบบนี้"

ที่ปรึกษาก็ลงไปดำน้ำ ถือเทียนไปด้วย ผมถามเป็นไงครับ

"เทียนไม่ดับ เหมือนเราติดไฟฉาย"

พอขึ้นมาจากคลอง เทียนก็ติดปกติ

555 ไกรทองชัด ๆ ท่านว่า สมกับครูบาข่ายสั่งเสียไว้ว่าให้ไปหาครูบาไชย

"ยังมีอีกเยอะเกี่ยวกับท่าน ไม่อยากจะเล่า อาตมายังดูท่านไม่ออกเลยทุกวันนี้"

หัวหน้าเซลแมนมารผจญพออ่านถึงตรงนี้ คงน้ำลายสอ ไม่น่าออกลายเลย 555