ฆ่าด้วยวาจากับใจ - การุณยฆาต ถาม : การฆ่าพ่อแม่หรืออนันตริยกรรม จำเป็นหรือไม่ครับที่จะต้องฆ่าด้วยกายอย่างเดียว หรือวาจากับใจ ก็สามารถทำได้ด้วย ? ตอบ : ทำได้..เช่นเกลี้ยกล่อมว่า “พ่อ...ตายแล้วสบาย รีบตายเถอะ” ในบาลีเขาเรียกว่า มรณสังวัณณา แปลว่า สาธยายคุณประโยชน์ของความตาย แล้วอีกฝ่ายหนึ่งยอมตาย พระก็โดนอาบัติปาราชิกเท่ากับที่ฆ่าผู้อื่นด้วยมือตนเอง ถาม : ครั้งที่แล้วหลวงพ่อพูดถึงการตายของคนใกล้ตัวสองคน หลวงพ่อได้กล่าวถึงจิตสุดท้าย โยมสงสัยว่าถ้าอย่างคนที่ตายด้วยวิธีการุณยฆาต จะมีโอกาสไปสู่ภพภูมิที่ดีมากกว่าไหมคะ เพราะในจิตสุดท้ายเขาไม่มีทุกขเวทนากัน ? ตอบ : ต้องดูว่าจิตสุดท้ายของเขาเกาะอะไร ไม่ใช่ดูว่ามีทุกข์หรือไม่มีทุกข์ สภาพจิตเกาะอะไรก็ไปอย่างนั้น ถาม : อย่างในเนเธอร์แลนด์จะอนุญาตให้ทำการุณยฆาตได้ ถ้าหมอลงความเห็นว่ากำลังจะตายภายในระยะเวลาอันใกล้มาก ๆ แทนที่จะปล่อยให้ทรมาน หมอก็จะฉีดยาให้ค่อย ๆ หลับไป ถ้าเราขอตายแบบนี้ เป็นการละเมิดกฎแห่งกรรมไหมคะ ? ตอบ : ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายอย่างหนึ่ง ก็คงต้องทำต่อเนื่องไปอย่างน้อย ๕๐๐ ชาติ..! จำเอาไว้ว่าในเรื่องของวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ เอามาเกี่ยวข้องกับศีลธรรมไม่ได้ เพราะว่าเป็นคนละส่วนกัน Euthanasia หรือ Mercy Killing เป็นค่านิยมของต่างประเทศเขา ส่วนใหญ่ที่ทำอย่างนั้นเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ ก็คือถ้าอยู่ต่อไปจะสิ้นเปลืองมาก เพราะว่าลูกหลานต้องจ่ายเงิน แบบบ้านเราที่เข้าโรงพยาบาลเอกชนคืนหนึ่งตั้งสามสี่หมื่นบาท ในเมื่อเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ วิธีคิดแบบฝรั่งก็คือ ทำกำไรให้มากที่สุด ขาดทุนให้น้อยที่สุด ก็ปล่อยให้ตายไปดีกว่า จะได้หมดเปลืองน้อย ในเมื่อเป็นส่วนของทางโลกที่โยงกับผลได้ผลเสียของทางเศรษฐกิจ ก็เลยเอามาปนกับเรื่องของศีลธรรมไม่ได้ เพราะว่าเป็นคนละประเด็นกัน ถาม : ถ้าเราขอตายแบบนี้ จะยังมีโอกาสเข้าพระนิพพานได้ไหมคะ ถ้ายังระลึกถึงพระนิพพานได้ ? ตอบ : ถ้าความสามารถเท่ากับพระโคธิกะก็ได้ แต่คาดว่าคงไม่มีอย่างพระโคธิกะท่านอีกแล้ว พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ วัดท่าขนุน) เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ ที่มา : www.watthakhanun.com