เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ที่แน่ๆ "จิตจักรวาล" ไม่ใช่ธรรมขั้นโลกุตรที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน

 

_ขอฝากเตือนทุกคนไว้_
...ห้ามนำเรื่องราวเหล่านี้ออกสู่สาธารณชนเด็ดขาด
...ให้ทุกคนไปฝึกสมาธิ ทำปัญญาให้แจ้ง อนาคตทุกท่านจะได้ทำงานช่วยพระพุทธศาสนาแน่นอน
"อย่าอยากเด่นจะเป็นภัย"

 

รู้ไว้ว่า...
นาคา แปลว่า เรือน
นาคา คือ พญานาค
พญานาค คือ เจ้าของเรือน

...ปัจจุบันนี้เจ้าของเรือนกำลังเก็บกวาด ระวังกันให้ดี คนมีศีลมีธรรมล้วนปลอดภัย เพราะ พญานาครักษา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้อง เทวดาคุ้มครอง คนมีธรรม

 

ไม่ต้องส่งข้อความมาห้องสนทนาส่วนตัวนะ...เราใช้ไม่เป็น ตอบในนั้นไม่เป็น เราเรียนมาน้อย
เราโง้โง่...เข้าใจนะ

 

_ท่านจิตยิ้ม_

...ลดการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ของท่านลงบ้างนะ เพราะทุกครั้งที่ท่านติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตเราจะกระเพื่อม
...เอาเวลาไปฝึกสมาธิตนเองให้มากจะดีกว่า เร่งปฏิบัติพัฒนาจิตตนเองให้มาก

 

"จิตจักรวาล" คือ สิ่งใด?

จิตจักรวาลนี้ คือรูปธรรมทางพลังงานที่เป็นแก่นแท้


คำว่า "อย่ายึดติดรูปลักษณ์ใด ๆ เพราะมันคือ มายา" และเหตุที่กล่าวว่าเป็นมายาก็เพราะว่ามันเป็น "เงา" หรือเปลือกนอกของแก่นแท้ที่แสดงให้เห็นว่ามีตัวตนแก่นแท้อยู่จริง ๆ ถ้าไม่มีตัวตนแก่นแท้อยู่จริง ๆ แล้ว มันจะปรากฎเงาหรือมายาของแก่นแท้ให้สัมผัสรู้ดูเห็นไม่ได้

๑.เงาหรือมายาของแก่นแท้ที่ตั้งอยู่หรือดำรงอยู่อย่างยาวนาน เรียกสรรพสิ่งนั้นว่า "วัตถุหรือตัวตน"

๒.เงาหรือมายาของแก่นแท้ที่เกิดอยู่ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามหรือชั่วขณะ เรียกเงามายาของแก่นแท้นั้นว่า "ปรากฎการณ์"

การได้รับโอกาสให้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ก็คือ การมาสู่เป็นคนสองมิติ

เดิมนั้นจิตวิญญาณมีคุณสมบัติทางพลังงานของจิตวิญญาณ หรือ "จิตละเอียด" แต่มีการแบ่งภาคมวลทางพลังงานของจิตวิญญาณออกมาส่วนหนี่ง เพื่อให้ทำหน้าที่เป็น"จิตหยาบ"แทนจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ ในอันที่จะทำหน้าที่เป็นคนสองมิติ

กิเลสและตัณหาที่เกิดขึ้นในสภาวะจิตหยาบนี่เอง ที่มันมีเหตุสืบเนื่องมาจากการหลงมิติ โดยหลงเข้าใจไปว่าทุกถ้วนทั่วสรรพสิ่งล้วนเป็นตัวตนที่แท้จริงและมีอยู่จริงเสมอ เมื่อหลงเข้าใจผิดกันจึงเป็นผลให้ความไม่สวยงาม งามไม่งาม ดีไม่ดี เหมาะไม่หมาะ พอใจไม่พอใจหรือแง่มุมของการปรุงแต่งอื่น ๆ อีกมากมายก็เลยเกิดขึ้นตามมา

ถ้าสภาวะจิตมีการปรุงแต่งเป็นความรู้สึกใด ๆ เกิดขึ้นย่อมเท่ากับว่า หยุดไม่ได้เสียแล้ว ในอันที่จะห้ามมิให้เกิดสภาวะแห่งตัณหา นั่นคือ ความอยาก ความไม่อยาก และความลังเล โดยไม่รู้ว่าตนเองอยากหรือไม่อยากกันแน่

เพราะกิเลสในจิตใจมนุษย์ ล้วนเกิดจากการหลงมิติแห่งมายาของสรรพสิ่ง โดยเมื่อปรุงแต่งมันเป็นกิเลสเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องหาหนทางทำกิเลสของเจ้าให้เป็นรูปธรรมด้วยการสั่นสะเทือาความอยาก ไม่อยาก ซึ่งบอกได้ด้วยอารมณ์ที่หลากหลายของมนุษย์นั่นเอง

ภพชาติแรกจิตยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา พอมองเห็นสิ่งใดรอบตัว ก็จะมีเพียงแค่การรับรู้ว่า แลเห็นอะไร หรือสิ่งใดเท่านั้น จะไม่ใส่รหัสการปรุงแต่งใด ๆ เข้าไปอีก ซึ่งมนุษย์เรียกกันว่า "การรับเอา"

เดิมทีจิตของมนุษย์จะทำหน้าที่แค่เพียง "รับรู้" เท่านั้น แต่ถ้าหากปล่อยจิตใจให้เลยเถิดไปถึงขั้น "รับเอา" อำนาจในตนเองอันเกิดจากปัญญาญาณจะถูกปิดมิติลงทันที

การรับรู้แล้วไม่รับเอาโดยไม่มีการปรุงแต่งของจิตหยาบเกิดขึ้น จะช่วยให้มนุษย์หยุดสร้างกิเลสตัณหาได้

ถ้ามนุษย์จะปฏิบัติตนดังกล่าวนี้ได้ หมายความว่า มนุษย์จะต้องฝึกตนเองให้เป็นผู้มีสติเสียก่อนเท่านั้น

มีกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นสัจธรรมหรือ
ความจริงที่จริงแท้ ที่มันต้องเป็าของมันเช่นว่านั้นเสมอ สั่นคือประโยคศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวว่า

อนัตตาล้วนเป็นผู้สร้างอัตตาเสมอ และสรรพสิ่งที่มีอัตตานั้นมีอยู่ทั่วไปทุกแห่งหน ซึ่งสรรพสิ่งที่มีอัตตานั้นมีทั้งที่มนุษย์สัมผัสรู้ดูเห็นได้และไม่ได้! สรรพสิ่งนันล้วนเป็น "อนัตตา" ทั้งสิน

สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตานี่เอง ที่ล้วนเป็นผู้สร้าง"อัตตา" คือ ความมีตัวตน ให้เกิดขึ้น โดยจะซ่อนเร้นสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาแต่เดิมซึ่งยังมิได้หายไปไหนเอาไว้ภายในเปลือกนอกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยพล้งอำนาจของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตานั่นเอง

หมายความว่า ถ้าสรรพสิ่งใดที่มีอัตตาหรือมีความเป็นตัวตนทั้งสิ้นนั้น สรรพสิ่งนั้นจะต้องมีอีกสรรพสิ่งหนี่งที่เป็นอนัตตาเป็นแก่นแท้เร้นอยู่ข้างในเสมอ

ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมะของเราคือ อณู ถ้าเป็นความรู้ใหม่ในแนววิทยาศาสาตร์ค่ะ

 

ท่านจิตยิ้ม...จากวันนี้ไปไม่ต้องอธิบายต่อแล้ว...พอแล้ว เอาเวลาไปเร่งฝึกฝนจิตตนเองจะดีกว่า เวลามีน้อย คนที่เป็นสมาชิกเวปพลังจิต ณ.ปัจจุบันนี้ ล้วนมีหน้าที่ตนเองทั้งสิ้น สมาชิกทุกคนล้วนเข้าใจ ไม่ต้องไปหวังให้คนภายนอกเข้าใจ ยิ่งอธิบายยิ่งมีคนปรามาส มันมีแต่โทษ...อย่าทำ

 

ท่านจิตยิ้ม...ปฏิบัติแล้วติดขัดตรงไหน สงสัยตรงไหนก็ถามมาได้ เราจะเข้ามาตอบให้ จะแก้ไขให้
คนที่แนะนำท่านได้มีใครบ้างเราก็ได้บอกไว้แล้ว ถ้าทั้งสองคนเข้ามาตอบท่านแทนเรา นั่นคือคำตอบเรา..เข้าใจนะ

 

...ไอ้ตัวป่วนZa มาด้อมๆมองๆอะไร555+ อาจารย์ท่านจะคอย อย่ามานานนักนะ ถ้ายังอยากให้เราอยู่ต่อ

 

ในกระทู้ผม
ท่านให้กรรมฐานมา ผมไม่ทำ ผมผิดยังไงครับ
ในเมื่อผมรู้ว่าผมทำกรรมฐานที่ท่านให้ไม่ได้ เพราะผมไม่มีความสุขกับกรรมฐานที่ท่านให้

แล้วท่านก็มาโกรธผมอีกที่ผมไม่ทำ
และมาเคี่ยวเข็ญให้ทำ

ผมไม่ได้ป่วนนะ

แต่ผมเข้าใจว่าท่านรู้สึกว่าท่านมีภาระ ท่านเลยต้องรีบเร่งทำอะไรสักอย่าง เพราะท่านรู้สึกว่าภัยจะมาแล้ว ท่านมีความรีบร้อนทำให้ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า รู้สึกเหมือนไฟลนก้น อยู่ไม่สุข เลยไปเคี่ยวเข็ญคนอื่นให้เร่งให้ทำอะไรให้สำเร็จ

นั่นคือหินที่ท่านแบกอยู่

ผมอยากให้ท่านใจเย็น
และคิดให้ดีว่า แต่ละคนมีสติปัญญาต่างกัน ปัญหาต่างกัน
และต้องการวิธีที่ต่างกันในการแก้ไข

อยู่ดี ๆ ท่านจะมาห้ามเขา พอเขาไม่ทำ ท่านก็ไม่พอใจเขา มันยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไรครับ

ส่วนผมใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ อย่าให้คำสอนในนิกายตัวเองทำให้ศาสนาพุทธสับสนพอ เพราะผมยังไม่มีปัญญาทำให้ใคร แจ้งในสัจธรรม

พูดถึงแค่กระทู้ผมนะ

อีกอย่างผมก็ติดตามความเคลื่อนไหวในหลาย ๆ กระทู้อยู่แล้วครับ เดินซอยเดียวกันมันต้องมีเดินสวนกันบ้างแหละ

ถ้าท่านสลายมิจฉาทิฏฐิใครไม่ได้ การไปยุ่งกับเขาก็มีแต่จะทำให้เกิดมานะทิฏฐิล่ะครับ

เหมือนที่มันเกิดขึ้นกะผมเนี่ย

 

ท่านจิตยิ้ม

อีกเรื่องหนึ่ง...วันที่เราถูกคุมจิต มีจิตดวงหนึ่งเป็นเสียงผู้หญิง เราว่าจิตท่านนี่แหละไปแนะนำเรา และมีจิตที่เป็นเสียงผู้ชายสองคน คอยสอนวิธีเรียบเรียงภาษา แนะนำการสื่อสารที่ให้เข้าใจง่ายๆ
...หมายถึงสอนทางจิต จิตสื่อจิต

 

แซวเล่น...ท่านZa ทำเป็นใจน้อยไปได้ เราก็คนปกติอย่างท่านนี่แหละ ก็มีตลกบ้างอะไรบ้าง ยามเล่นก็เล่น แต่เมื่อถึงเวลาเอาจริงต้องให้ตายไปข้าง ใครเล่นคบกับเราไม่ได้นะ...บอกไว้ก่อน
....ก็เห็นว่าคุยกับเพื่อนSheewin ถูกคอก็ไม่อยากรบกวน

 

สบายใจได้ครับ ผมถนัดอยู่ไกล ๆ
ฟังธรรมไกล ๆ ปฏิบัติไกล ๆ เพราะรู้ตัวว่ายังเลวอยู่นั่นแหละครับ

 

เราขอบอกทุกท่านไว้ตรงนี้เลยนะ...ถ้าพระโพธิสัตว์ห้องข้างๆเข้ามาป่วนเราจะหยุดแนะนำทันที..ไม่มีอีกแล้ว

 

ท่านจิตยิ้ม...ห้ามติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์...ถ้าท่านยังติดต่ออยู่ เราก็ไม่มีสมาธิเหมือนกัน

 

อะไรคือธรรม?
ตอบ.. ใจคือธรรม


อะไรที่เรียกว่าเป็นธรรม?
ตอบ... ใจเป็นธรรม



ปฏิบัติธรรม คือ ปฏิบัติใจ
ธรรมดี คือ ใจดี
ธรรมงาม คือ ใจงาม
ธรรมบริสุทธิ์ คือ ใจบริสุทธิ์

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า... ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จที่ใจ
///////////////////////////////////////
..ฝึกฝนใจตนก่อน..
..ฝึกห้ามใจตนก่อน..
เตือนใจตนก่อน...ก่อนเตือนคนอื่น
สอนใจตนก่อน....ก่อนสอนคนอื่น
ตำหนิใจตนก่อน...ก่อนตำหนิคนอื่น
แก้ไขใจตนก่อน...ก่อนแก้ไขคนอื่น
ให้ใจตนดีก่อน...ก่อนให้คนอื่นดี
ใจตนงามแล้วใจจะสอนวาจาใจจะสอนกายตนให้งามเอง...

 

คุณสมบัติของธรรม คือ ยังประโยชน์_ยังความสุข



***ที่สุดแห่งธรรม***
ยังประโยชน์_ยังความสุข
จะยังอยู่ที่ไหน?

 

ศีลอยู่ที่ไหน?
ตอบ: ศีลอยู่ที่ใจ


รักษาศีลรักษายังไง?
ตอบ: รักษาใจให้ดีให้งามให้ไม่มีโทษ

 

เมื่อคืนฝันว่าเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์โลกหมุนตีลังกากลับอีกแล้วค่ะ

 

สนามแม่เหล็กโลกเพิ่มขึ้นมาก..อาจมีเรื่องภัยพิบัติ