ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24

อิตาลี

หลังจากฝนตกหนัก และน้ำท่วม แผ่นดินจมและหลุมยุบขนาดใหญ่ หมู่บ้านของ San Felice Circeo

 

Clima Extremo 24

ซาอุดีอาระเบีย

พายุเซลล์ขนาดใหญ่ เข้าสู่ซาอุดิอาระเบีย ในตะวันออกกลาง

 

แจ้งเตือน: เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5 + จำนวน 16 ครั้ง ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา



การแจ้งเตือนได้ลงทะเบียนการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 16 ครั้ง 5+ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ที่นี่เราจะออกจากรายการแผ่นดินไหวล่าสุดที่บันทึกไว้:

แผ่นดินไหวในอิหร่าน
ขนาด 5.0
ความลึก 14 กม

แผ่นดินไหวในแปซิฟิกใต้
ขนาด 5.3
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในทะเลแคริบเบียน
ขนาด 6.1
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์
ขนาด 5.6
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย
ขนาด 5.0
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในปาปัวนิวกีนี
ขนาด 5.3
ความลึก 232 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในจีน
ขนาด 5.0
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในอิหร่าน
ขนาด 6.3
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในอิหร่าน
ขนาด 5.3
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวบนเกาะจงรักภักดี
ขนาด 5.0
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในทะเลแคริบเบียน
ขนาด 5.4
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในทะเลแคริบเบียนขนาด 5.6
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในทะเลแคริบเบียน
ขนาด 5.2
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในอิหร่าน
ขนาด 5.0
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในทะเลแคริบเบียน
ขนาด 5.0
ความลึก 10 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวในช่องแคบไต้หวัน
ขนาด 5.6
ความลึก 10 กิโลเมตร

เราจะดำเนินการต่อ informamdo .......

https://www.climaseveromundial.com/...mDbDWCe4QAnGTW8lT6u7foU#.W_tTGQ_CNBY.facebook

 

La nueva era de la tierra - respaldo

วันหลังจาก MANANA ?????

วันนี้เกิดพายุทอร์นาโด 3 แห่งในอิตาลีในเวลาเดียวกันนี้เกิดขึ้นไม่ได้
2018/11/25

 

La nueva era de la tierra - respaldo





พยานบอกว่ามีเรือหลายพันลำติดอยู่ในทะเล Azov เนื่องจากเหตุการณ์ ระหว่างรัสเซียและยูเครนเรือจำนวนมาก ซึ่งมองดูจากระยะไกลดูเหมือนเกาะ ในตอนกลางของทะเล

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว ขอแสดงความเสียใจกับผู้ชายหน้าหล่อทุกคนค่ะ!! #ใครหล่อต้องขออภัย เมื่อล่าสุด ผลวิจัยชี้ปัญหาของผู้ชายหน้าหล่อ #ยิ่งหล่อยิ่งเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ผู้ชายหน้าตาดีที่มีหัวหน้าเป็นผู้ชายเหมือนกันมักจะมีปัญหา Stereotypes (เหมารวม) เหตุเจ้านาย-หัวหน้างานเพศชายรู้สึกเป็นภัย-ถูกข่ม-ถูกคุกคาม ระบุชัด #ยิ่งหน้าตาดียิ่งมีแนวโน้มที่หัวหน้าผู้ชายจะตัดสินใจไม่รับเข้าทำงาน หรือรับแต่จะถูกผลักไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีนัก

ในทางกลับกัน ผลวิจัยพบว่า #ปัญหาดังกล่าวไม่เกิดขึ้นในหมู่ผู้หญิง #ผู้หญิงสวยกลับชอบอยู่กับคนสวยด้วยกัน

Source : unlockmen - https://bit.ly/2OVSd3I

อนึ่ง ผลวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดย University College London’s School of Management และ University of Maryland ซึ่งได้ทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับการทำงานในบริษัท โดยแบ่งการวิจัยเป็น 4 สถานการณ์ใน 4 บริษัทที่แตกต่างกัน พบว่า ...

ในกลุ่มชายล้วนนั้น ผลของการตัดสินใจคัดเลือกพนักงานว่าจะให้เข้ามาทำงานหรือไม่นั้น #มีผลโดยตรงกับความหล่อของหน้าตาผู้ชายที่เข้ามาสมัคร ยิ่งหน้าตาดี ยิ่งมีแนวโน้มที่หัวหน้าผู้ชายจะตัดสินใจไม่รับเข้าทำงาน หรือรับแต่จะถูกผลักไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะหัวหน้าชายมักจะรู้สึกว่าผู้ชายหล่อเป็นภัยชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้สูญเสียความยิ่งใหญ่ของตัวเองไป หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ไม่ชอบขี้หน้าแบบไม่มีสาเหตุนั่นเอง

โดยเรื่องนี้ Sun Young Lee ศาสตราจารย์ผู้เป็นหนึ่งในทีมวิจัยชิ้นดังกล่าวระบุว่า #ผลเสียของการคัดเลือกพนักงานจากหน้าตาของหัวหน้านั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นอุปสรรคที่ทำให้บริษัทไม่ได้ร่วมงานกับตัวเลือกที่ดีที่สุด #เพราะความลำเอียงส่วนตัวเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา ดังนั้นบริษัทและ HR จึงควรหาวิธีแก้ไขในการนำเสนอผู้สมัครโดยลดปัจจัยที่ทำให้เกิดการเหมารวมแบบนี้ เช่น การไม่ให้หัวหน้าชายลงมามีผลกับการคัดเลือกคนจนกว่าจะได้แสดงผลงานหรือเข้ารอบลึกๆ ไปก่อน #เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เห็นผลงานและตัวตนก่อนเห็นหน้าตาผู้สมัครชาย เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ผลวิจัยชิ้นนี้กำลังจะถูกตีพิมพ์ใน Organisational Behavior and Human Decision Processes เร็วๆ นี้ ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดงานวิจัยชิ้นนี้มาจากการบ่นของ Rob Lowe ดาราและผู้กำกับหน้าหล่อชาวอเมริกัน ผู้โด่งดังและกวาดรางวัลในฐานะนักแสดงระดับโลกมากมายจากภาพยนตร์เรื่อง The West Wing

เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ New York Times ในปี 2014 ว่า #ความหล่อของเค้าเป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะดูเหมือนว่าผู้คนจะมีกำแพงกับตัวแสดงที่หล่อ คิดว่าชีวิตคนหล่อมันไม่เศร้าแบบนั้นหรอก มันไม่ฉลาดขนาดนี้หรอก และการแสดงบทบาทก็จะทำได้ยาก เพราะมันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ตัวเค้าจึงชอบที่จะแสดงในบทบาทอื่นๆ มากกว่าคนหล่อนั่นเอง.

 

Strange Sounds



จำภูเขาน้ำแข็งสี่เหลี่ยมในแอนตาร์กติกาได้หรือไม่? เห็นได้ชัดว่าธรรมชาติยังไม่ตัดสินใจที่จะหยุดตรงนั้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับเมฆสี่เหลี่ยมเหนือ์, อังกฤษ, สหราชอาณาจักร 24 พฤศจิกายน
ภาพ © ทอมโลว์

 

Rodrigo Contreras Lopez

ตอนนี้; น้ำท่วมรุนแรงใน # Medellínโคลอมเบีย 26/11 # วิดีโอ # น้ำท่วม #rain # Balcázar

 

Rodrigo Contreras Lopez








ปรากฏการณ์แปลกๆในท้องฟ้าของเดนเวอร์ #usa #วิดีโอ #ภาพ#สัญญาณผ่าน twitter https://twitter.com/alertarojanot/status/1066724047747190784?s=19

 

Rodrigo Contreras Lopez

ภาพที่น่าทึ่ง; ทะเล , ในเกาะหลีเป๊ะของ #ประเทศไทย #วิดีโอ #ภาพ

 

Rodrigo Contreras Lopez



ปรากฏการณ์ที่ พระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง # Solesในประเทศบราซิล SP #video #imagemes via Kiosk Pelican # sun

 

Rodrigo Contreras Lopez


ตอนนี้พายุซุปเปอร์เซลล์แห่งความน่ากลัวเข้าสู่ซาอุดิอาระเบีย ตะวันออกกลาง 25/11 #วิดีโอ #พายุ

 

ตร.สหรัฐฯ ยิง ‘แก๊สน้ำตา’ สกัดคาราวานผู้อพยพจากเม็กซิโก-สั่งปิดด่านพรมแดนหลายชั่วโมง
เผยแพร่: 26 พ.ย. 2561 11:52 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้อพยพที่พยายามจะข้ามรั้วกั้นพรมแดนที่เมืองตีฮัวนา (Tijuana) เพื่อข้ามไปยังฝั่งสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.
รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยิงแก๊สน้ำตาสกัดกลุ่มผู้อพยพจากอเมริกากลางซึ่งเดินทางผ่านเม็กซิโกมาถึงชายแดนสหรัฐฯ พร้อมสั่งปิดด่านซึ่งมีประชาชนผ่านเข้าออกคับคั่งที่สุดนานหลายชั่วโมงเมื่อวันอาทิตย์ (25 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมให้ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยเหล่านี้ข้ามมายังแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ง่ายๆ

ด่านพรมแดน ซาน อีซิโดร (San Ysidro) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองตีฮัวนาของเม็กซิโกกับนครแซนดีเอโกถูกปิดไปนานหลายชั่วโมง ก่อนจะเปิดให้ผู้คนและยานพาหนะเข้าออกได้อีกครั้ง โดยพรมแดนจุดนี้เริ่มทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากคาราวานผู้อพยพหลายพันคนเดินทางมาปักหลักกันอยู่ที่สนามกีฬาแห่งหนึ่งในเมืองตีฮัวนา และเมื่อวานนี้ (25) ตำรวจเม็กซิกันได้เข้าสกัดการชุมนุมประท้วงจนทำให้ผู้อพยพจำนวนหนึ่งวิ่งกรูกันมาที่พรมแดนสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเข้าสกัดผู้อพยพกลุ่มนี้ โดยมีเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายสหรัฐฯ และเม็กซิโกบินวนสังเกตการณ์อยู่เหนือเส้นพรมแดน

รัฐบาลเม็กซิโกยืนยันว่าสามารถควบคุมด่านพรมแดนเอาไว้ได้แล้ว หลังจากมีผู้อพยพประมาณ 500 คนพยายามข้ามไปยังฝั่งสหรัฐฯ “โดยใช้ความรุนแรง”

ทางการจังโก้ยังขู่ด้วยว่า ผู้อพยพอเมริกากลางที่พยายามหนีเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายจะต้องถูก “เนรเทศ” ทันที

หลายสัปดาห์มานี้ ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับคาราวานผู้อพยพหลายพันคนซึ่งกำลังมุ่งหน้ามาขอลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่เป็นชาวฮอนดูรัสที่หนีความยากจนและเหตุรุนแรงในบ้านเกิด

ผู้อพยพเหล่านี้ยืนยันจะปักหลักอยู่ที่เมืองตีฮัวนาต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในสหรัฐฯ

ผู้อพยพหลายร้อยคนซึ่งมีเด็กและสตรีอยู่ด้วยได้เดินขบวนประท้วงอย่างสงบเมื่อวานนี้ (25) โดยป่าวร้องสโลแกน “เราไม่ใช่อาชญากร! เราคือคนทำงานหนัก” แต่เมื่อเข้าไปใกล้พรมแดนสหรัฐฯ ก็ถูกเจ้าหน้าที่เม็กซิโกขัดขวางและสั่งให้รอจนกว่าจะได้รับอนุญาต

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปผู้อพยพบางส่วนเริ่มแสดงอาการฉุนเฉียวและวิ่งกรูไปที่รั้วกั้นพรมแดน จนเกิดเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งมีสารวัตรทหาร ตำรวจแซนดีเอโก และตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียให้การสนับสนุนอยู่

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ทวีตข้อความชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันจำเป็นต้องยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้ผู้อพยพซึ่งขว้างปาสิ่งของเข้าใส่พวกเขา

ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ในที่เกิดรายงานว่ามีผู้อพยพหลายคนติดอยู่กลางวงล้อมของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเม็กซิโก หญิงคนหนึ่งล้มลงไปนอนหมดสติกับพื้น และเด็ก 2 คนร้องไห้กระจองอแงท่ามกลางกลุ่มควันของแก๊สน้ำตา

“พวกเขาต้องการให้เรารออยู่ในเม็กซิโก แต่ผมรอไม่ได้แล้ว ลูกสาวตัวเล็กๆ ของผมกำลังป่วย และผมไม่มีเงินซื้อนม” โจเซฟ กาเซีย วัย 32 ปีจากฮอนดูรัส ให้สัมภาษณ์

ทรัมป์ ได้ส่งทหารกว่า 5,000 นายไปยังพรมแดนเม็กซิโกเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยป้องกันชายแดน และยังออกมาขู่เมื่อวันเสาร์ (24) ว่าอาจสั่งปิดพรมแดนในจุดนี้เสีย

ด้านกองบัญชาการเหนือแห่งสหรัฐฯ (US Northern Command) แถลงวานนี้ (25) ว่ามีการส่งสารวัตรทหารไปตรึงกำลังที่ด่าน ซาน อีซิโดร และให้วิศวกรกองทัพติดตั้งเครื่องกีดขวางเพิ่มเติม

ข้อมูลจากองค์กรกำกับการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างแห่งสหรัฐฯ ( US General Services Administration - GSA) ระบุว่า ใน 1 วันจะมีรถยนต์ราว 70,000 คัน และประชาชนราว 20,000 คน ข้ามจากเม็กซิโกมายังสหรัฐฯ ผ่านทางด่าน ซาน อีซิโดร

ดันแคน วูด ผู้อำนวยการสถาบันเม็กซิโกแห่งศูนย์วิจัยวิลสันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า การปิดด่านพรมแดนถือเป็นมาตรการตอบสนองที่ “เกินกว่าเหตุ” และอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นมูลค่านับล้านๆ ดอลลาร์

ผู้แทนสหรัฐฯ และเม็กซิโกได้ร่วมหารือวานนี้ (25) เกี่ยวกับแผนที่จะกักคาราวานผู้อพยพเอาไว้ในเม็กซิโก จนกว่ากระบวนการพิจารณาคำขอลี้ภัยจะเสร็จสิ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ที่ต้องการลี้ภัยจะแสดงเจตจำนงขณะเดินทางเข้าสหรัฐฯ หรือหลังจากที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายไปแล้ว















https://mgronline.com/around/detail/9610000117750

 

วาฬ 145 ตัวเกยตื้นตายบนชายหาดห่างไกลในนิวซีแลนด์ เผยแพร่: 26 พ.ย. 2561 12:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – วาฬนำร่องมากถึง 145 ตัวเกยตื้นตายบนหาดหนึ่งในเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งของนิวซีแลนด์ ทางการเผยในวันนี้ (26)

การเกยตื้นครั้งนี้ถูกพบโดยนักปีนเขาคนหนึ่งเมื่อค่ำวันเสาร์ (24) บนเกาะสจ๊วตแลนด์ ห่างจากชายฝั่งเกาะเซาท์ไอส์แลนด์ไปทางใต้ราว 30 กิโลเมตร

ครึ่งหนึ่งของวาฬกลุ่มนี้ตายอยู่ก่อนแล้ว และด้วยสภาพอาการของวาฬส่วนที่เหลือและสภาพพื้นที่อันห่างไกลและยากจะเข้าถึง จึงได้มีการตัดสินใจการุณยฆาตพวกมัน

“น่าเศร้าที่ความเป็นไปได้ในการส่งวาฬส่วนที่เหลือลอยกลับไปช่างต่ำเหลือเกิน” เร็น เลพเพนส์ ผู้จัดการปฏิบัติการของหน่วยงานอนุรักษ์บนเกาะสจ๊วต กล่าว

“ด้วยตำแหน่งอันห่างไกล การขาดเจ้าหน้าที่ในละแวกใกล้เคียง และสภาพทรุดโทรมของวาฬทำให้สิ่งที่มีมนุษยธรรมที่สุดที่จะทำได้คือการการุณยฆาต”

“ถึงอย่างนั้น มัยก็ยังเป็นการตัดสินใจที่น่าปวดใจเหลือเกิน”

มันเป็นหนึ่งในการเกยตื้น 4 ครั้งที่ถูกพบบนชายฝั่งแดนกีวี่ในช่วงสุดสัปดาห์

เหตุวาฬเกยตื้นเป็นเรื่องค่อนข้างปกติบนชายฝั่งนิวซีแลนด์ โดยหน่วยงานอนุรักษ์ตอบสนองต่อเหตุการณ์เช่นนี้เฉลี่ย 85 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ตัวเดียว

เมื่อวันอาทิตย์ (25) วาฬเพชฌฆาตดำ 10 ตัวเกยตื้นที่ชายหาด 90 ไมล์บีชเหนือสุดของเกาะนอร์ทไอส์แลนด์

วาฬสเปิร์มตัวหนึ่งซึ่งเกยตื้นบนอ่าวดับเลสเบย์ที่อยู่ใกล้เคียงตายลงเมื่อค่ำวันเสาร์ (25) ในขณะที่ซากวาฬสเปิร์มเล็กตัวหนึ่งถูกพบที่เมืองโอไฮวาบริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะนอร์ทไอส์แลนด์

เหตุผลชัดเจนที่ว่าทำไมวาฬและโลมาถึงเกยตื้นยังไงไม่มีใครทราบ แต่ปัจจัยที่เป็นไปได้อาจเกี่ยวกับการป่วย ความผิดพลาดในการนำร่อง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ น้ำลงกะทันหัน การถูกนักล่าไล่ล่า หรือสภาพอากาศเลวร้าย

https://mgronline.com/around/detail/9610000117756

 

In Pics&Clip: สุดเหลือเชื่อ!! นักโบราณคดีฝรั่งเศสค้นพบ “มัมมี่อียิปต์โบราณเพศหญิงอายุ 3,000 ปี” ถูกเก็บในสภาพดี ภายในสุสานเมืองลักซอร์ เผยแพร่: 25 พ.ย. 2561 19:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ – นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสและทีมนักโบราณคดีชาวอียิปต์ค้นพบมัมมี่เพศหญิง “ตูยา” (Thuya) ที่อยู่ในสภาพดี ถูกเก็บภายในโลงหินโบราณที่มีการประดับประดาด้วยภาพเขียนสีสันอย่างสวยงาม เชื่อว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี ซึ่งภายในสุสานเมืองลักซอร์ (Luxor) กลางหุบเขาแห่งกษัตริย์ ยังมีการค้นพบรูปเคารพ อูชับติซ (ushabtis) ราว 1,000 ชิ้น ทำจากไม้ ดินเหนียว และเซรามิกเคลือบเงา อยู่ด้านใน

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(25 พ.ย)ว่า มีการค้นพบครั้งใหม่เกิดขึ้นที่สุสานเมืองลักซอร์ (Luxor) กลางหุบเขาแห่งกษัตริย์ ทางใต้ของอียิปต์ โดยโลงศพหินโบราณเป็น 1 ใน 2 ที่ถูกค้นพบเมื่อต้นเดือนนี้โดยนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ศาสตราจาย์ เฟรเดริค โคลิน(Professor Frederic Colin) ที่ร่วมมือกับทีมนักโบราณคดีชาวอียิปต์ในอัล-อัสซาซิฟ เนโครโปลิส (Al-Assasif necropolis) ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์

ซึ่งพบว่าโลงศพหินโลงแรกได้ถูกเปิดออกก่อนหน้า และทำการศึกษาโดยเจ้าหน้าที่ แต่การค้นพบในวันเสาร์(24) เป็นครั้งแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดโลงศพหินที่ไม่ได้เคยเปิดมาก่อนต่อหน้าสื่อมวลชนทั่วโลก

และนักข่าวต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า มีมัมมี่เพศหญิงชื่อ “ตูยา” (Thuya) ที่ถูกเก็บรักษาอยู่ในสภาพดีถูกเก็บไว้ภายใน 1 ใน 2 ของโลงศพหินโบราณ อ้างอิงจากแถลงการณ์กระทรวงโบราณคดีอียิปต์ แต่ทว่า เนวีน อาเรฟ (Nevine Aref) โฆษกกระทรวงแถลงว่า ยังต้องมีการทำงานต่อไปเพื่อสืบหาเอกลักษณ์บุคคลที่แท้จริงของมัมมี่ที่เพิ่งถูกค้นพบนี้

ในขณะที่รัฐมนตรีโบราณคดีอียิปต์ คาเลด อัล – อานานี(Khaled al-Anani) ประกาศว่า “หนึ่งในโลงศพหินโบราณทีถูกค้นพบมีลักษณะเป็นโลงศพของนักบวชอียิปต์โบราณ ซึ่งมีอายุย้อนไปในยุคราชวงศ์ที่ 17 ส่วนอีกโลงมีอายุนับตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 เป็นต้นมา” และเสริมต่อว่า “ทั้ง 2 โลงได้ปรากฎพร้อมกับการเก็บรักษามัมมี่อยู่ด้านใน

โดยกระทรวงโบราณคดีอียิปต์ชี้ว่า โลงศพหินเก่าแก่นี้เป็นของ “Thaw InkhetIf” ซึ่ง RT สื่อรัสเซียชี้ว่า ตัวโลงหินประดับประดาด้วยภาพเขียนสีสวยงาม และภายในโลงหินมีโหลใส่อวัยวะอยู่ด้านใน สื่อรัสเซียยังชี้ว่า สุสานแห่งนี้เป็นของนักบวชชาวอียิปต์โบราณและภรรยา ซึ่งเป็นผู้ดูแลการประกอบพิธีทำมัมมีประจำวิหารแห่งมุต (Temple of Mut) ในคาร์นาค(Karnak)

ซึ่งนอกเหนือจากมีการค้นพบโลงหินโบราณภายในหลุมฝังศพแล้ว ยังมีการพบรูปปั้น และรูปเคารพเกี่ยวกับพิธีศพที่เรียกว่า อูชับติซ(ushabtis)ราว 1,000 ชิ้นทำจากไม้ ดินเหนียว และเซรามิกเคลือบเงา อยู่ด้าน

“ทางเราค้นพบหลุมฝังศพใหม่แรเมซีสพร้อมกับภาพเขียนสี ซึ่งเป็นการแสดงภาพของราชินีอาโมส-เนเฟอร์ทาริ( Ahmose-Nefertari) และพระราชโอรสของพระนาง ฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 1 (Amenhotep I)” รัฐมนตรีกระทรวงโบราณคดีอียิปต์แถลง

เดอะการ์เดียนชี้ว่า ทั้งนี้ต้องใช้เวลา 5 เดือนในการนำซากทับถมด้านบนออกไปเพื่อที่จะเปิดเผยให้เห็นถึงสุสานที่มีความงามตั้งแต่เพดานเป็นภาพเขียนสีแสดงให้เห็นถึงครอบครัวของนักบวชผู้เป็นเจ้าของ



































https://mgronline.com/around/detail/9610000117616

 

น่าจะให้ลาออก และใช้ ม44 แต่งตั้งคนที่เหมาะสม และยอมเปิดบัญชีมาทำแทน

MOREMOVE

#ซาวเสียงกันหน่อย คิดเห็นอย่างไรบ้างคะ!!?? หากกรรมการสภามหาวิทยาลัยลาออกยกชุด เหตุ 'ไม่โอเค' ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยังยืนยันให้ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สิน-หนี้สิน แม้ที่ประชุมสภาฯจะจี้ ปปช.ชัดเจนว่า #ไม่ต้องการแสดงทรัพย์สินเพราะไม่สะดวกและยุ่งยากซับซ้อนเกินไป

#การยื่นบัญชีทรัพย์สินต้องมีการกรอกรายละเอียดที่ยุ่งยาก หากมีความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจอาจทำให้มีปัญหาเป็นคดีอาญาตามมา อีกทั้งยังทำให้ภรรยาและบุตรเกิดความยุ่งยากไปด้วย นอกจากนี้ยังเห็นว่า สภามหาวิทยาลัยไม่ได้ทำหน้าที่เชิงบริหารแต่ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย อนุมัติเรื่องวิชาการต่างๆ #การปราบคอรัปชั่นก็ควรไปตรวจสอบในที่ที่มีการทุจริตจำนวนมากเป็นหลัก แต่ต้องไม่ใช่การตรวจสอบแบบเหวี่ยงแห

Source : prachachat - https://bit.ly/2DVw7NO

อนึ่ง ต่อกรณีที่ ปปช.ได้พิจารณาข้อเสนอของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่เสนอให้ ปปช.ทบทวนตำแหน่งนายกและกรรมการสภาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ปปช. โดย ปปช.พิจารณาขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป 60 วัน มีผลวันที่ 31 มกราคม 2562 ล่าสุด นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยมหิดลได้ประชุมหารือเรื่องนี้อย่างเคร่งเครียด และเห็นพ้องกันว่า ...

#กรรมการสภาฯเห็นความสำคัญของกฎหมาย แต่การกรอกเอกสารยื่นบัญชีทรัพย์สินทำให้เกิดความไม่สะดวกและค่อนข้างยุ่งยาก หาก ปปช.ไม่มีการแก้ไข #ก็พร้อมลาออกเพราะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง การเลื่อนเวลาออกไปอีกหรือปรับรายละเอียดไม่เกิดประโยชน์ #แม้จะมีการปรับรายละเอียดหรือขั้นตอนการยื่นไม่ให้ยุ่งยากก็ยังยืนยันที่จะขอลาออก.

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 25) สรุปบทเรียนดราม่า D&G | ตกม้าตายเพราะตะเกียบคู่เดียว และคำพูดไม่คิดเพียงเสี้ยววิของผู้ก่อตั้ง - แบรนด์หรู D&G ได้สร้างดราม่ากับคนจีนผ่านโฆษณาตัวล่าสุด ทำให้แฟชั่นโชว์ต้องถูกยกเลิก ตามมาด้วยการตอบโต้ด้วยคำหยาบคายของผู้ก่อตั้ง และทำให้ชาวจีนแห่ออกมาบอยคอตเลิกใช้อย่างถาวร

มันเกิดอะไรขึ้นกับดราม่านี้กันแน่?

Brand Inside มองว่า สิ่งที่น่าติดตามมากกว่าดราม่า คือ การสูญเสียความไว้ใจในแบรนด์ครั้งนี้ จะทำให้ D&G ระส่ำระสายในด้านรายได้เพียงใด เพราะอย่าลืมว่า “จีน” คือตลาดใหญ่ของการบริโภคแบรนด์หรู คิดเป็น 1 ใน 3 ของโลกเลยทีเดียว

จากโฆษณาสุดเหยียด ถึงคำพูดสุดรังเกียจชาวจีน

กรณีดราม่าล่าสุดของแบรนด์หรู DOLCE & GABBANA (โดลเช่ แอนด์ กาบบาน่า) หรือ D&G จนนำไปสู่การยกเลิกงานแฟชั่นโชว์ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

เรื่องราวเริ่มต้นมาจากการโฆษณาเหยียดเชื้อชาติและเหมารวมการกินอาหารของชาวจีน โดยปัญหาหลักๆ ของโฆษณาชิ้นนี้คือ

- มีนักแสดงหญิงชาวเอเชียในโฆษณากินอาหารอิตาลี เช่น พิซซ่า สปาเก็ตตี้ โดยใช้ “ตะเกียบ” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ชาวจีนไม่ได้ใช้ตะเกียบกับอาหารทุกชนิด การใช้ตะเกียบในโฆษณาชิ้นนี้

- ชาวจีนจึงถือเป็นการเหมารวมและเหยียดเชื้อชาติของตน
ในโฆษณายังมีการใช้เสียงพากย์ของผู้ชายที่กำกับหญิงเอเชียคนนี้ โดยคอยบอกว่าจะต้องกินอาหารอิตาลีอย่างไรให้ถูกต้อง

- นอกจากนั้น ในโฆษณายังมีการออกเสียงชื่อแบรนด์แบบผิดๆ เสมือนว่าเป็นการล้อเลียนชาวจีนเวลาพูดภาษาอังกฤษอีกด้วย

ดราม่านี้คงจบลงอย่างไม่เลวร้ายมากนัก หากแบรนด์ D&G หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือออกมายอมรับสารภาพผิดตรงๆ กับโฆษณาที่ได้ทำลงไป

แต่การณ์กลับเป็นว่า กระแสดราม่าถูกจุดให้ลุกโชนอย่างต่อเนื่อง เมื่อ Stefano Gabbana เจ้าของแบรนด์ออกมาตอบโต้ด้วยคำพูดหยาบคายและดูถูกชาวจีน เช่น

- “ที่โฆษณาชิ้นนี้มันถูกลบออกไปจากโซเชียลมีเดียของจีน ก็เพราะว่าออฟฟิศของฉันมันโง่และกลัวชาวจีนยังไงล่ะ แต่ถ้าเป็นฉันนะ ฉันไม่มีทางลบมันออกแน่นอน”

- “และต่อไป ถ้าฉันต้องไปให้สัมภาษณ์ที่ไหนในโลกก็ตาม ฉันจะบอกว่าประเทศที่มันห่วยแตกที่สุดในโลกคือประเทศจีน และฉันก็มีความสุขดี ถ้าไม่ต้องมีลูกค้าอย่างพวกเธอ (ชาวจีน)”

- “ประเทศจีนมันก็แค่พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว ตัวเหม็น งี่เง่า และเป็นมาเฟีย”

แน่นอนว่า จากโฆษณาสุดเหยียดมาจนถึงคำพูดสุดรังเกียจของผู้ก่อตั้งย่อมนำไปสู่ดราม่าสุดยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากจะยกเลิกแฟชั่นโชว์ที่เซี่ยงไฮ้ (มีดาราชาวไทยไปร่วมด้วย คือใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ เมาเร่อ) กระแสดราม่ายังนำไปสู่กระแสเลิกใช้แบรนด์ D&G ในประเทศจีนอย่างกว้างขวาง

กระแสเลิกใช้ D&G ถาวรในหมู่ชาวจีน #boycottdolcegabbana

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระแสดราม่า D&G กระจายออกไปในโลกออนไลน์ของจีน มีรายงานว่า เว็บไซต์โซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนอย่าง Weibo มีการพูดถึงการบอยคอตหรือยกเลิกใช้แบรนด์ D&G ถึง 18,000 ครั้ง (จนถึงขณะนี้เชื่อว่ากระแสตัวเลขบอยคอตน่าจะสูงกว่านี้อีกมาก)

กระแสรุนแรงขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ผู้บริโภคชาวจีนทั่วไปเท่านั้นที่ออกมารับกระแสการเลิกใช้แบรนด์ D&G เนื่องจากมีดาราคนดังของจีนแห่ออกมายกเลิกการสนับสนุนและใช้งานแบรนด์ D&G อย่างเช่น จาง จื่ออี๋ หรือจางซี่ยี่, หลี่ ปิงปิง, หวัง เสี่ยวหมิง และดอนนี่ เยน ฯลฯ

- สุดท้ายแล้ว 2 ผู้ก่อตั้งของ D&G คือ Stefano Gabbana และ Domenico Dolce รวมถึง IG ของแบรนด์ที่ออกมาขอโทษ

- นอกจากนั้น D&G ก็พยายามจุดกระแสใหม่ เพื่อกลบกระแสด้วยแฮชแท็ก #DGLOVESCHINA แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เพราะไฟความโกรธยังคงปะทุอยู่ทั่วสังคมทั้งออนไลน์และออฟไลน์

- ต้องบอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ก่อตั้ง D&G มีประเด็นทางสังคมในเรื่องการเหยียด เพราะในปี 2015 ผู้ก่อตั้งของ D&G ทั้ง 2 คน เคยออกมาแสดงความเห็นต่อต้านการรับลูกบุญธรรมของชาวเกย์ โดยให้เหตุผลว่าครอบครัวในความหมายแบบกระแสหลัก (ชาย-หญิง) คือประเพณีที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งหลังจากมีความเห็นลักษณะนี้ ได้เกิดการประท้วงที่หน้าร้านของ D&G ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญต่อไปของดราม่าครั้งนี้คือ การก้าวผิดของ D&G กับชาวจีน จะส่งผลต่อแบรนด์อย่างไรบ้าง?

1 ใน 3 ของการบริโภคแบรนด์หรูของทั้งโลกมาจาก “จีน”

อ้างอิงข้อมูลจากรายงานของ McKinsey ในปี 2017 ที่ระบุว่า พลังของการบริโภคแบรนด์หรูทั่วโลกมาจากชาวจีนถึง 1 ใน 3 คิดเป็นมูลค่าถึง 5 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์

การบริโภคแบรนด์หรูของชาวจีนมีพลังสูงมาก เรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลก ลองดูอย่างแบรนด์หรู Louis Vuitton ที่ UBS รายงานว่า 20% ของรายได้ในครึ่งปีแรก 2018 ของแบรนด์มาจากชาวจีน

ชัดเจนว่า อันเนื่องมาจากดราม่าครั้งนี้ ในระยะสั้นแล้ว D&G จะสูญเสียพลังจากการบริโภคจากชาวจีนอย่างแน่นอน แต่ต้องรอดูว่าในระยะยาว D&G จะออกมาแก้เกมอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ บทเรียนจากดราม่าครั้งนี้น่าจะบอกอะไรไม่น้อยสำหรับ D&G โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการทำโฆษณา เพราะแบรนด์ที่ปลุกปั้นกันมาหลายทศวรรษ ไม่ควรจะมา

ตกม้าตาย เพราะไม่ได้ทำความเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญและอ่อนไหวที่สุดแห่งยุคสมัยของเรา

ส่วนเรื่องการตอบโต้ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ ที่โหมกระพือให้กระแสดราม่าลุกโชนไปอย่างรวดเร็วในครั้งนี้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเรียนรู้ เพื่อที่จะจัดการและควบคุมให้ได้ในอนาคต เชื่อว่ารายได้ที่หดหายไปในครั้งนี้ น่าจะเป็นเสียงเตือนให้กับผู้ก่อตั้ง D&G ให้มีสติในการตอบโต้กับผู้บริโภคไม่มากก็น้อย

โดย Thongchai Cholsiripong

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/drama-dolc...aBpa6KobDaB8y9PynAv6iHIoKnOag-j6wlBXPY3s9Dtro

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 26) มารู้จักกับว่าที่ผู้นำคนต่อไปของสิงคโปร์ “เฮง สวีเกียต” ผู้มาแทน “ลี เซียนลุง” : ลี เซียนลุง ได้ประกาศทายาททางการเมืองคนต่อไป ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้หน้าที่ตำแหน่งที่ได้รับผิดชอบของเขาถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

อย่างที่ทราบกันว่าสิงคโปร์นั้น พรรคกิจประชาชน หรือ PAP เป็นพรรครัฐบาลที่บริหารสิงคโปร์มายาวนานนับแต่ได้รับเอกราช แต่คำถามคือหลังจากการที่ ลี เซียนลุง ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใครที่จะเป็นผู้นำของสิงคโปร์ต่อจากเขา ซึ่งมีการคาดเดาต่างๆ กันไป เช่น ชาน ชุนซิง รัฐมนตรีพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ฯลฯ

แน่นอนว่าการสืบทอดอำนาจต่อในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่มากของประเทศสิงคโปร์ และมีความสำคัญต่อทั้ง ลี เซียนหลุง และพรรคกิจประชาชนอีกด้วย แต่ล่าสุด ลี เซียนลุง ได้ประกาศคนที่จะสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเหมือนว่าตัวเขาเองอาจลงตำแหน่งก่อนเวลาอันควรด้วย ซึ่งตัวเขาเองจะหมดวาระของนายกรัฐมนตรีนี้ในปี 2021

พรรคกิจประชาชนได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการบริหารพรรคชุด ได้เสนอให้ Heng Swee Keat หรือ เฮง สวีเกียต วัย 57 ปี ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเป็น รมว.การคลังของสิงคโปร์ รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่แทน ซึ่งเหมือนเป็นว่าที่นายกคนต่อไปสิงคโปร์

มารู้จักกับ เฮง สวีเกียต

เฮง สวีเกียต อายุ 57 ปี จบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในด้านบริหารรัฐกิจ จาก John F. Kennedy School of Government อีกด้วย

โดยตำแหน่งระดับประเทศที่เขาได้รับคือการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์ หรือ MAS และได้รับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิคจากนิตยสาร The Banker ด้วย ก่อนที่ในปี 2011 จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรงศึกษาธิการ และล่าสุดตำแหน่งที่เขาได้รับคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

การที่เขาได้เป็นตัวแทนของพรรคในช่วงเวลาที่พรรคกิจประชาชนได้คะแนนเสียงอย่างสูงนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าการสืบต่อตัวแทนต่อจากลี เซียนลุง นั้นจะมีความราบรื่นอย่างแน่นอน

เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำคนต่อไป

Bilveer Singh อาจารย์จาก National University of Singapore ได้กล่าวว่า เฮง สวีเกียต มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูง และนอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาได้เป็นตัวเลือกอันดับ 1 คือการที่เขาเองเคยได้เป็นเลขาส่วนตัวของอดีตผู้นำอย่าง ลี กวนยู ด้วย

ยังรวมไปถึงคาแรกเตอร์ของ เฮง นั้นมีความผสมผสานของสองผู้นำสิงคโปร์คือ ลี เซียนลุง และ โก๊ะ จ๊กตง อีกด้วย โดยเขาเป็นผู้ที่รับฟังปัญหาต่างๆ และพยายามอธิบายในสิ่งที่ง่ายที่สุด รวมไปถึงการที่พยายามหาจุดร่วมทางการเมืองในเรื่องสำคัญๆ อีกด้วย ยิ่งในปัจจุบันสังคมสิงโปร์มีความหลากหลายมากขึ้น

ส่วนการทำงานระหว่าง ชาน ชุนซิง ซึ่งเป็นตัวแทนอีกคนที่อาจได้เป็นนายกสิงคโปร์ Mustafa Izzuddin นักวิเคราะห์การเมืองจาก The Institute of Southeast Asian Studies มองว่าทั้ง 2 คนจะสามารถทำงานได้เข้ากันอย่างแน่นอน และคาดว่าเขาอาจได้เป็นตัวแทนหลังจาก เฮง สวีเกียต หมดวาระ

โดย Wattanapong Jaiwat

Source: Brandinsode.asia

https://brandinside.asia/lee-hsien-...l2jKTuoL7NzQ3SluK5lHt8e4ra5fP3uO2UuDwu7j33UTc

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 26) ผู้นำ EU เตือนรัฐสภาอังกฤษผ่านข้อตกลง Brexit ขู่ไม่มีแผนสองหากปฏิเสธ : กลุ่มผู้นำจากสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาเตือนนักการเมืองอังกฤษว่า อังกฤษจะไม่ได้รับข้อตกลงที่ดีกว่านี้ หากอังกฤษปฏิเสธข้อตกลงที่ทาง EU ได้อนุมัติไปเมื่อวานนี้ เพราะฝั่ง EU ไม่มี "แผนสอง"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวโดยมีเป้าหมายที่นักการเมืองอังกฤษ ซึ่งได้ขู่ที่จะปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ กล่าวว่า "ผู้ที่คิดว่าการปฏิเสธข้อตกลงนี้จะทำให้มีข้อตกลงที่ดีกว่า คงต้องรู้สึกผิดหวังกลับไปเมื่อปฏิเสธไปได้ไม่กี่วินาที"

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ มองว่าการที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปนั้นเป็นช่วงเวลาอันน่าเศร้า ขณะเดียวกันเขาก็เสริมว่า ตนไม่คิดว่าอังกฤษจะกลายเป็นประเทศที่สาม (ประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก EU) เหมือนกับประเทศที่สามประเทศอื่น ๆ

ด้านนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวเสริมว่า "นี่เป็นข้อตกลงเดียวที่เป็นไปได้"

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อวานนี้ที่ประชุม 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติปฏิญญาว่าด้วยความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU หลังจากที่สหราชอาณาจักรแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า

หลังจากที่เจรจากันเป็นเวลานานถึง 20 เดือน ในที่สุดกลุ่ม EU ก็ได้ลงมติอนุมัติข้อตกลง Brexit ในการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ของ EU เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ข้อตกลง Brexit ฉบับนี้จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษ โดยคาดว่ารัฐสภาอังกฤษจะลงมติข้อตกลงดังกล่าวในช่วงต้นเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยนายโดมินิค แรบ อดีตรัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit กล่าวว่า ข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับ EU จะไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ และรัฐบาลจะต้องเสนอข้อตกลงทางเลือกอื่น หากอังกฤษตกอยู่ในสถานการณ์ที่แยกตัวออกมาโดยไม่มีการบรรลุข้อตกลงกับ EU

นายแรบได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่นางเมย์สามารถบรรลุข้อตกลงกับ EU เกี่ยวกับร่างข้อตกลง Brexit แต่สร้างกระแสความไม่พอใจต่อสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

นายแรบระบุว่า เขาไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับคำสัญญาที่พรรคอนุรักษ์นิยมให้ไว้แก่ประชาชนในการเลือกตั้งปีที่แล้ว

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรจะสิ้นสุดการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีนาคม 2562 แต่ระยะเวลาเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจะดำเนินไปจนถึงเดือนธันวาคมปี 2563 ในระหว่างนี้ อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎระเบียบของ EU แต่อังกฤษจะไม่มีสิทธิออกเสียงหรือลงคะแนนต่อมติ โดยช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจะยาวนานเพียงพอที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคต รวมถึงการเจรจาข้อตกลงทางการค้าแบบถาวรระหว่างอังกฤษและ EU ได้

นายโดนัลด์ ทัสค์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า สหภาพยุโรปและอังกฤษจะยังคงเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันไปจนถึงวันสุดท้าย และวันต่อไปหลังจากนั้น

เขากล่าวเสริมว่า "สิ่งที่รอเราอยู่ข้างหน้าคือกระบวนการอนุมัติอันยากลำบาก เช่นเดียวกับการเจรจาเพิ่มเติม"
นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่าย EU แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า "ขณะนี้เป็นเวลาที่ทุกคนต้องแสดงความรับผิดชอบ"

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา

- EU backs Brexit deal as UK PM faces battle to win support from Westminster
http://www.xinhuanet.com/english/eu...E4zTkX3xfz_yBWZNUGA_OohyELUBzZM6Nke6-QFaDzT4Q

- Key points in the EU-UK Brexit agreement
https://abcnews.go.com/Internationa...3gT4hKimb_v6agAMQQ2kfA0wRg6eleG3GfKXjFtYkUNFQ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 26) สังคมสูงวัย ร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มใช้แรงงานหุ่นยนต์มากขึ้น ยังรวมไปถึงแรงงานต่างชาติด้วย : ปัญหาแรงงานที่ขาดแคลนรวมไปถึงค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มที่จะใช้แรงงานจากหุ่นยนต์และระบบเครื่องจักรมากขึ้น นอกจากนี้การขึ้นราคาอาหารยังเป็นทางออกสุดท้ายของเหล่าร้านอาหารด้วย

ปัญหาสังคมผู้สูงวัยในญี่ปุ่นเริ่มที่จะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทุกขณะ ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกันบ้างแล้ว ซึ่งร้านอาหารหลายๆ ร้านเริ่มที่จะใช้แรงงานจากหุ่นยนต์หรือแม้แต่เครื่องจักรที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยลดภาระการทำงานของพนักงาน

ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นเริ่มใช้เครื่องจักรที่ช่วยอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นเครื่องม้วนซูชิ เครื่องทอดเทมปุระแบบอัตโนมัติ หรือแม้แต่เครื่องตวงข้าวสวย โดยเครื่องจักรเหล่านี้สามารถลดความวุ่นวายในการทำอาหารประเภทเหล่านี้ นอกจากนี้ยังได้อาหารที่ได้ความแน่นอนอีกด้วย เนื่องจากไม่ต้องเสี่ยงว่าคนปั้นข้าวปั้นจะทำได้ไม่ดี หรือคนทอดเทมปุระจะทอดแล้วไม่สุก ฯลฯ

มูลค่าตลาดของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 213,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ต้องปรับตัวเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ค่าจ้างพนักงานที่สูงขึ้น และรวมไปถึงแรงงานชาวญี่ปุ่นที่หายากมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก หรือแม้แต่ภาคบริการอื่นๆ ที่เน้นการใช้แรงงานเป็นหลัก

ปัญหาแรงงาน

สมัยในอดีตร้านอาหารในญี่ปุ่น การที่ใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรช่วยทำงานคือต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายบางอย่างเพื่อทดแทนค่าวัตถุดิบที่สูงขึ้น เช่น ร้านซูชิสายพาน โดยการมีสายพานนั้นเพื่อลดการใช้แรงงานเนื่องจากค่าวัตถุดิบอย่างปลาทูน่ามีราคาสูง แต่ปัจจุบันการที่ใช้ระบบเหล่านี้นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าวัตถุดิบ แต่เนื่องจากแรงงานหายากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ

ยังรวมไปถึงปัญหาค่าแรงของชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายๆ ร้านอาหารเริ่มจ้างพนักงานที่เป็นชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเราจะสังเกตุจากเชนร้านอาหารหลายๆ ร้านเริ่มมีการจ้างแรงงานต่างประเทศมาเป็นลูกจ้างบ้างแล้ว

แม้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นจะจ้างพนักงงานที่เป็นชาวต่างชาติเพื่อที่จะควบคุมต้นทุนแล้ว แต่ก็จะพบกับอีกปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของทักษะฝีมือของแรงงานที่ยังไม่สามารถสู้ชาวญี่ปุ่นได้ รวมไปถึงต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกด้วย

ขึ้นราคาอาหาร ทางออกสุดท้ายจริงๆ

นอกจากนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นนอกจากจะพบกับปัญหาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการบริโภคของชาวญี่ปุ่นที่เริ่มลดลงเนื่องจากหลายๆ สาเหตุรวมกัน เช่น เงินเฟ้อต่ำ อัตราการบริโภคที่ลดลงตามเศรษฐกิจ ซึ่งดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BoJ อยู่ดี ทำให้ร้านอาหารเหล่านี้ตกอยู่สภาวะกลืนไม่ออกคายไม่เข้าในการขึ้นราคา ถึงแม้ว่าต้นทุนจะเริ่มสูงขึ้นก็ตาม

โดยเชนร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Yoshinoya ซึ่งเป็นเชนร้านข้าวหน้าเนื้อชื่อดัง ประธานของบริษัทได้กล่าวว่าจะยังไม่มีราคาในตอนนี้

ที่อื่นเริ่มใช้เหมือนกัน

ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้นที่เริ่มนำหุ่นยนต์หรือแม้แต่เครื่องจักรที่ช่วยทำอาหาร โดยในสหรัฐเริ่มมีการใช้เครื่องทำซูชิโรล ซึ่งทำได้ดีกว่าพนักงานในร้านทำเสียด้วยซ้ำ ลดการสูญเสียวัตถุดิบลงไปได้มาก หรือแม้แต่ในจีน ร้านสุกี้เริ่มที่จะมีการใช้หุ่นยนต์ด้วยแล้วเช่นกัน เพื่อที่จะลดภาระของพนักงานทั่วๆ ไป

อย่างไรก็ดีหลายๆ ร้านก็ยังยืนยันที่จะใช้พนักงานเหมือนเดิมเนื่องจากเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นมองว่ามนุษย์สามารถปรับตัวได้ดีและยังมีคุณค่าในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทักทายลูกค้า หรือการทำอาหารบางอย่างที่ต้องใช้ความละเอียดละออ ซึ่งหุ่นยนต์หรือระบบเครื่องจักรยังไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้

โดย Wattanapong Jaiwat

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/ageing-soc...rH_V54XqkJonZgAu7RCnWFwG-VLw4w2LK1xMcaL0WA3R4