ติดตามสถานะการณ์

ถามว่าผมกลัวพระเจ้าไหม โดยปรกติใครก็คงต้องกลัว เพราะใครๆ ก็มักจะรักตัวเอง กลัวการเดือดร้อน แต่จากที่ประสบกับเรื่องต่างๆ แล้ว ผมเห็นว่าการที่มีท่านน่าจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษยชาติมากกว่า ทั้งผู้เปยวจะ ก็นำชื่อไปใช้เพื่อสนองตัณหาของเขา นำชื่อไปใช้สังหารชีวิต ทำให้เกิดการประหัตประหาร กันไปทั่ว ผมเลยคิดว่าถ้าผมจากโลกนี้ไปผมจะพาพระเจ้าองค์นค้ไปด้วย เคยมีผู้บอกว่า ผมมีพลังเทพมหาศาล แต่ใช้ไม่เป็น จะเขาพบว่าวิญญาณผมมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งคือการรวมจิต กับดวงจิตต่างๆ ได้ ดังนั้นถ้าจะรวมดวจิตเพิ่มมาอีกหนึ่ง และหยุดตความเลวร้ายในโลกนค้ได้ก็คงต้องทำ

 

โปรรัสเซีย - Pro Russia


เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(19 พ.ย) ประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีแอร์โดอันขึ้นเวทีกลางเมืองอิสตันบูล แถลงถึงความสำเร็จการวางระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติผ่านใต้ทะเลดำจากรัสเซียเข้าตุรกีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นเฟสสำคัญของโครงการระบบท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีม(TurkStream)ที่ทางรัสเซียต้องการส่งพลังงานเข้าสู่ตลาดยุโรปผ่านทางตุรกี


เอพีรายงานเมื่อวานนี้(19 พ.ย)ว่า ในพิธีที่ถูกจัดขึ้นในเมืองอิสตันบูลเมื่อวันจันทร์(19) ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประกาศยืนยันว่า งานในเฟสใต้น้ำของการวางระบบท่อส่งก๊าซก๊าซเติร์กสตรีม(TurkStream)จากรัสเซียผ่านใต้ทะเลดำเข้าสู่ตุรกีได้เสร็จสิ้นแล้ว พร้อมชี้ว่างานส่วนสุดท้ายที่สำคัญของโปรเจกครั้งประวัติศาสตร์ได้ลุล่วง.....

 

โปรรัสเซีย - Pro Russia


สำนักงานอวกาศรัสเซียในวันพุธ (14 พ.ย.) เผยโฉม “ยานอวกาศแห่งอนาคต” เป้าหมายคือวันหนึ่งจะนำพามนุษย์อวกาศมุ่งสู่ดาวอังคารด้วยความรวดเร็ว


ปัจจุบันยานอากาศลำนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาที่ศูนย์วิจัย Keldysh ของรัสเซีย ซึ่งกำลังเร่งมือสร้างเครื่องยนต์แรงขับนิวเคลียร์อยู่ “วันนี้ ศูนย์ Keldysh กำลังพัฒนายานอวกาศซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ชุดพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แสงอาทิตย์ หรือแบตเตอรี่โซลาร์ในปฏิบัติการ” โฆษกของรอสคอสมอสระบุ


ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศรายนี้ประมาณการว่าด้วยระบบนิวเคลียร์ บางทีมนุษย์อาจใช้เวล่เพียงแค่ครึ่งปีในการเดินทางสู่ดาวอังคาร “การเดินทางสู่ดวงจันทร์จะใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ในขณะที่เที่ยวบินสู่ดาวอังคารจะกินเวลาประมาณ 7 ถึง 8 เดือน” คอสลาคอฟกล่าว


รอสคอสมอสเคยทดสอบทางภาคพื้นในระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ไปแล้วหลายรอบ เชื่อว่าประสบความสำเร็จ และสำนักงานอวกาศแห่งนี้มีแผนสร้างต้นแบบเครื่องยนต์นิวเคลียร์ชั้นเมกะวัตต์ขึ้นมาซึ่งจะถูกใช้สำหรับเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่ห้วงอวกาศลึก

 

China Xinhua News


พบเกือบทุกยี่ห้อ！จีนจับพ่อค้าถุงยางปลอมไร้คุณภาพ ชี้ส่งขายโรงแรม-ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กเป็นหลัก

.

เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียงได้จับกุมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงยางอนามัยปลอมรวม 17 ราย โดยเจ้าหน้าที่พบของกลางที่ผลิตเสร็จแล้วและกำลังอยู่ในระหว่างการผลิตจำนวน 5 แสนกว่าชิ้น ทั้งยี่ห้อ ดูเรกซ์โอกาโมโต Jissbon แบรนด์ถุงยางอนามัยยักษ์ใหญ่ของจีน เป็นต้น คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านหยวน

.

ผู้ต้องหาได้สารภาพว่าราคาส่งของถุงยางอนามัยเหล่านี้อยู่ที่ชิ้นละ 1-2 หยวนเท่านั้น และหลักๆ แล้วจะขายให้กับลูกค้าที่เป็นโรงแรมและซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก-กลาง และเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ

.

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ใช้แรงงานคนไม่กี่คนในการทำ ทั้งบรรจุภัณฑ์และขั้นตอนการทาน้ำมันหล่อลื่นก็ใช้แรงงานคนทำกันเองง่ายๆ ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความสะอาด แต่แม้คุณภาพสินค้าจะแตกต่าง แต่หน้าตาของถุงยางเหล่านี้กลับดูเหมือนของจริงอย่างมาก ยากที่ผู้บริโภคทั่วไปจะดูออก ทั้งนี้ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายความจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 21) ศาลชั้นต้นในรัฐแคลิฟอร์เนียยับยั้งคำสั่งประธานาธิบดีเป็นการชั่วคราว ในการจำกัดสิทธิการลี้ภัยของผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย : สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า ศาลชั้นต้นในรัฐแคลิฟอร์เนียยับยั้งคำสั่งประธานาธิบดีเป็นการชั่วคราว ในการจำกัดสิทธิการลี้ภัยของผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย โดยคำสั่งดังกล่าวระบุให้ ผู้ขอลี้ภัยต้องยื่นคำร้อง ณ จุดที่จัดไว้ในบริเวณเขตพรมแดนเท่านั้น ขณะที่ระบบปัจจุบันให้สิทธิอยู่อาศัยแก่ผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ระหว่างรอการพิจารณาจากศาล โดยไม่คำนึงถึงการปฏิบัติตามกฎหมายขณะข้ามพรมแดน


ทั้งนี้ นาย Jon Tigar, U.S. District Judge of the U.S. District Court for the Northern District of California (ผู้ถูกเสนอชื่อแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี Obama) ระบุว่า ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างเงื่อนไขในประเด็นที่สภาคองเกรสได้ห้ามไว้อย่างชัดเจน


นอกจากนี้ นาย Lee Gelernt, ทนายจาก American Civil Liberties Union กล่าวเสริมว่า การออกคำสั่งดังกล่าวจากประธานาธิบดีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไร้มนุษยธรรม


อย่างไรก็ดี Justice Department และ the Department of Homeland Security เคยแถลงร่วมกันถึงเหตุผลสนับสนุนคำสั่งประธานาธิบดี ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย โดยสิทธิในการขอลี้ภัยไม่ควรถูกนำมาใช้ประโยชน์ โดยกลุ่มคนที่ไม่เคารพกฎหมายและคำแถลงจากประธานาธิบดีซึ่งคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง อนึ่ง ร้อยละ 20 ของผู้อพยพในปัจจุบันได้รับสิทธิที่ลี้ภัย โดยมีคำขอที่ค้างและรอจากพิจารณาอยู่กว่า 7 แสนคดี


Source: BOTSS


- https://www.cnbc.com/2018/11/20/imm...-bars-us-from-enforcing-trump-asylum-ban.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 21) พาณิชย์ เผยส่งออก ต.ค. ขยายตัว 8.7% จากตลาดคาดโต 3.5-4.0%, 10 เดือนแรกโต 8.19%: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนต.ค.61 โดยภาพรวมการส่งออก ขยายตัว 8.7% จากตลาดคาดเติบโต 3.5-4.0% คิดเป็นมูลค่า 21,757.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการนำเข้า ขยายตัว 11.23% มีมูลค่า 22,037.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 279.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


สำหรับการส่งออกในช่วง 10 เดือนปี 61 (ม.ค.-ต.ค.61) ขยายตัว 8.19% มีมูลค่า 211,487.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 14.78% มูลค่า 208,928.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,558.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนต.ค.61 กลับมาขยายตัวที่ 8.7% โดยขยายตัวเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) ที่ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ตลาดสหรัฐฯ และจีนยังกลับมาขยายตัวหลังจากที่หดตัวเล็กน้อยในเดือนก่อนหน้านี้


สำหรับการส่งออกสินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 12.2% โดยสินค้าเกษตรสำคัญขยายตัวเกือบทุกรายการ สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ น้ำตาล ขยายตัว 77.8% ข้าว ขยายตัว 28.2% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัว 18.5% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขยายตัว 15.6% และผักผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 10.6% ส่วนการส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ขยายตัว 6.8% สินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ขยายตัว 29.1% ทองคำ ขยายตัว 240% อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัว 21.1% เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ ขยายตัว 33.7%


น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับการส่งออกไปยังตลาดสำคัญส่วนมากปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการส่งออกไปตลาดหลักขยายตัว 7.1% เช่น ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัว 7.2% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง, รถยนต์และส่วนประกอบ, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เครื่องนุ่งห่ม, อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น อย่างไรก็ดี สินค้าที่สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศ เช่น เครื่องซักผ้า และโซลาร์เซลล์ ยังคงหดตัวต่อเนื่อง, ตลาดญี่ปุ่น ขยายตัว 18.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน ตลาดจีน กลับมาขยายตัว 3% หลังจากที่หดตัวในเดือนก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดศักยภาพสูง ขยายตัว 13.2% แต่ตลาดศักยภาพรอง หดตัวที่ 3.7%


ส่วนผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่มีต่อการส่งออกไทยในเดือน ต.ค.นั้น เมื่อหักลบกันแล้วทั้งในส่วนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จะพบว่าประเทศไทยได้รับผลประโยชน์มากกว่า โดยผลลบจากการมาตรการทางตรงของสหรัฐฯ ที่ทำให้การส่งออกสินค้าโซลาร์เซลล์ เครื่องซักผ้า เหล็ก และอลูมิเนียมจากไทย เป็นผลลบเนื่องจากแม้การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงไป 45 ล้านดอลลาร์ แต่ไทยยังได้ประโยชน์จากการส่งออกสินค้าห่วงโซ่อุปทานไปจีน เพิ่มขึ้น 26 ล้านดอลลาร์ รวมกับผลบวกจากการส่งออกสินค้าไทยที่ทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ เพิ่มขึ้นอีก 165 ล้านดอลลาร์ เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เครื่องจักรและส่วนประกอบ


"เมื่อหักลบกันแล้ว ในเดือนนี้ถือว่าไทยยังได้กำไรจากสงครามการค้าอยู่ที่ 146 ล้านดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ดี ในระยะยาว มองว่าน่าจะมีแต่เสียประโยชน์ เพราะสงครามการค้าได้สร้างความไม่มั่นใจแผ่ไปถึงตลาดทุน คนไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพ และความปั่นปวนในตลาด" น.ส.พิมพ์ชนก ระบุ


ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดว่าการส่งออกในปี 61 จะยังขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเป็นสำคัญที่ยังเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 เช่น สหรัฐฯ ที่การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน เป็นผลดีต่อการส่งออกของไทยในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค และการเติบโตของภาคธุรกิจที่ยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษี ส่วนตลาดยุโรป จีน และญี่ปุ่น เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงบ้างจากปัจจัยภายในประเทศ ขณะที่ตลาดอาเซียน มีแนวโน้มการขยายตัวสูงและเป็นอีกหนึ่งตลาดศักยภาพที่มีบทบาทสูงต่อภาพรวมการส่งออกของไทยในระยะหลัง


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมจะผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเล็งเห็นความสำคัญของการส่งออกในกลุ่มอาเซียน และ CLMV มากขึ้น ซึ่งอาจช่วยทดแทนการส่งออกที่หดตัวลงในภูมิภาคอื่นๆ ได้ ขณะเดียวกันจะพยายามเพิ่มบทบาททางการค้าของประเทศไทยในฐานะที่จะเป็นประธานอาเซียนในปี 62 เพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาคต่อไป พร้อมทั้งเตรียมรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน เพื่อให้การส่งออกของไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในปี 62


"ยังคาดว่าส่งออกปีนี้จะโตตามเป้าที่ 8% เราได้เตรียมกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมการส่งออก การค้า และการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปี 62 โดยเชื่อมั่นว่าสินค้าของไทยมีความหลากหลาย และความสามารถในการแข่งขันในระดับสูง จะเป็นโอกาสในการเร่งผลักดันการส่งออก และสนับสนุนให้การส่งออกไทยมีความยืดหยุ่น รับมือความผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกได้ดีขึ้น" น.ส.พิมพ์ชนก ระบุ


อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าการส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะสามารถทำได้ราว 22,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งจะทำให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ที่ระดับ 8%


Source -อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/นิศารัตน์/รัชดา

http://www2.ops3.moc.go.th/

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Nov 21) นักวิชาการจี้รัฐผลิตแรงงาน : นักวิชาการคาดอีก 10 ปี จ้างงานในอีอีซีเพิ่ม 2 แสนตำแหน่ง แนะ เร่งยกระดับแรงงานรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี-ความต้องการของนายจ้าง หลังผลสำรวจพบช่องว่างทักษะแรงงานที่นายจ้างต้องการ หวั่นการลงทุนระลอกใหม่ ใช้เทคโนโลยี เอไอ เครื่องจักรทันสมัยแทนแรงงานในพื้นที่กระทบเป้าการลงทุนในอีอีซี

ในภาพรวม "ทีดีอาร์ไอ"แนะเตรียมความพร้อม รองรับแรงงานแฝง-ต่างด้าวที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนตำแหน่ง การพัฒนาทักษะแรงงานให้รองรับกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เป็นประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลทั้งในเรื่องจำนวนและคุณภาพของแรงงาน โดยในการสัมมนา TRF-ASEAN Public Forum จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ซึ่งในเสวนาหัวข้อย่อยเรื่องการพัฒนาและเชื่อมโยง EEC กับ AEC ในหัวข้อแรงงานใน EEC ได้มีนักวิชาการหลายคนแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจโดยมีสาระสำคัญดังนี้

นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความต้องการแรงงานในอีอีซีในระยะ10 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งของภาครัฐและเอกชนซึ่งจากการคาดการณ์ ขั้นต่ำความต้องการแรงงานจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 -2 แสนตำแหน่ง โดยจากแบบจำลองที่มีการคำนวณพบว่า ภายใน 10 ปี จะมีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น 196,328 ตำแหน่ง แบ่งตามระดับการศึกษาได้เป็นระดับ ม.3 หรือต่ำกว่า 29,366 ตำแหน่ง คิดเป็น 15% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด

ส่วนระดับ ม.6 หรือเทียบเท่า 11,768 คน หรือคิดเป็น 6% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด ระดับวิชาชีพ (ปวช.-ปวส.) 85,006 คน คิดเป็น 43.3% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด ระดับปริญญาตรี 65,323 คน คิดเป็น 33.3% ของความต้องการแรงงานทั้งหมด ระดับสูงกว่าปริญญาตรีจำนวน 4,865 คน คิดเป็น 2.5% ของความต้องการแรงงานทั้งหมดในอีอีซีกังวลช่องว่างทักษะแรงงาน

ทั้งนี้ การคาดการณ์การจ้างงานในอีอีซี จะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ น่ากังวลก็คือช่องว่างระหว่างทักษะแรงงานกับความต้องการของนายจ้างในประเทศไทยยังมีอยู่มาก โดยหากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วได้แก่ ประเทศสวีเดน เยอรมนี สิงคโปร์ ฟินแลนด์ มีสัดส่วนแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง ในระดับ 43-54% โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 48.1% ขณะที่สัดส่วนแรงงานที่ทักษะสูงในไทย มีสัดส่วนเพียง 14.4% ซึ่งถือว่าน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก

ขณะที่การสำรวจความต้องการ และการขาดแคลนแรงงานปี 2559 ของกระทรวงแรงงานจากสถานประกอบการ ในฐานข้อมูลของประกันสังคมจำนวน 17,582 แห่ง ผลการสำรวจความพอใจของนายจ้างต่อทักษะแรงงานและคุณภาพแรงงานที่มีการสำรวจโดยหน่วยงานต่างๆ รวมถึงหอการค้าต่างประเทศ ก็พบว่าคะแนนความพอใจที่สำรวจจากผู้ประกอบการชาวต่างชาติไม่ดีนัก ขณะที่ผลการสำรวจที่ให้นายจ้าง ระบุถึงระดับความรุนแรงของปัญหาที่เกิดจาก ช่องว่างระหว่างทักษะแรงงานและความพอใจของผู้ประกอบการผลสำรวจบอกว่า ในหลายสาขาอุตสาหกรรมที่เป็นสาขาที่เราต้องการให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซีมีความรุนแรงถึงระดับ 6 จาก 10 ระดับได้แก่ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ สุขภาพ โลจิสติกส์ เป็นต้นแรงงานเงื่อนไขความสำเร็จอีอีซี

นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า ส่วนจุดอ่อนในเรื่องการผลิตแรงงานทักษะสูงให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม และความต้องการของผู้ลงทุนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้ขาดความสำเร็จในอีอีซี เพราะหากมี ช่องว่างทักษะแรงงานมากเกินไปและไม่สามารถที่จะสร้างแรงงานใหม่ให้มีทักษะสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือไม่สามารถเพิ่มทักษะ (Upskill) แรงงานที่มีอยู่ก็จะทำให้เป้าหมายการพัฒนาอีอีซีไปไม่ถึง ฝั่งฝัน การลงทุนของภาคเอกชนที่รัฐบาล ตั้งเป้าหมายว่าจะถึง 5 แสนล้านบาท ก็อาจจะต้องหาร 2 หรือเหลือแค่ 2 แสนกว่าล้านบาทเท่านั้น และการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นภาคเอกชนสามารถที่จะเลือกรูปแบบ การลงทุนที่เป็นการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรเต็มรูปแบบมากกว่าจะเพิ่มการจ้างแรงงานจากคนในพื้นที่ "

ความต้องการแรงงานที่จบสาขาวิชาชีพระดับ ปวช.-ปวส. จะเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมและบริษัทที่มีการลงทุนในพื้นที่อีอีซีมากที่สุดโดยมีสัดส่วนถึง 43.3% ซึ่งทำให้เห็นความชัดเจนว่ารัฐต้องให้ความสำคัญกับการเร่งสร้างทักษะแรงงานในสาขาวิชาชีพ โดยต้องเร่งการสร้างทักษะที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบกรถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะหากไม่สามารถทำได้ โอกาสที่การลงทุนในอีอีซีจะเป็นการลงทุนที่เน้นการนำเอาระบบอัตโนมัติ เครื่องจักรทันสมัย เช่น เอไอ หุ่นยนต์ มาแทนการใช้ แรงงานก็จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นและอาจกระทบกับเป้าหมายการจ้างแรงงานในอนาคตได้"นายเกียรติอนันต์กล่าว แนะรับมือแรงงานต่างด้าว

นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการ วิจัย ด้านการพัฒนาแรงงาน ฝ่ายการวิจัยทรัพยากรมนุษย์และพัฒนาสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานในอีอีซี ณ สิ้นปี 2560 จำนวน 716,429 คน และคาดว่า ในปี 2570 จะมีการจ้างงานรวมในพื้นที่อีอีซี รวม 847,183 คน แบ่งเป็นสาขาต่างๆ ที่สำคัญ เช่นยานพาหนะและอุปกรณ์ 139,312 คน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 112,088 คน ผลิตภัณฑ์โลหะ 97,966 ผลิตเครื่องจักร และเครื่องกล 65,402 คน สาขาเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี 30,036 คน ยานพาหนะและอุปกรณ์ รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะ และอุปกรณ์ 97,559 คน

ทั้งนี้ จำนวนแรงงานในอีอีซีในอีก 10 ปี ข้างหน้าจะมีจำนวนแรงงานแฝงที่มาจาก จังหวัดอื่นๆ อีกประมาณ 1 แสนคน เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีแรงงานแฝงอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2.8 แสนคน คิดเป็น 20-30% ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งจำนวนแรงงานที่จะหลั่งไหล เข้ามาตามการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่อีอีซีมองว่าเรื่องของจำนวนแรงงานจะ ไม่ขาดแคลน

นายยงยุทธ กล่าวว่า แรงงานในพื้นที่ อีอีซีจะต้องมีประเด็นสำคัญในการฝึกทักษะฝีมือแรงงานหรือเพิ่มทักษะแรงงานตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการผลิตหรือ การ Reskills ฝีมือแรงงาน และการวางแผนการจัดการแรงงานต่างด้าวในสาขาที่เรามี ความต้องการแรงงานฝีมือมาใช้ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลมีการประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญในการวางแผน การพัฒนาอีอีซีในระยะต่อไป

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

The Public Post


สาวบราซิลล็อคโจรกระจอกที่จะมาปล้นจนต้องร้องขอชีวิต (วิดีโอ)

https://www.publicpostonline.net/19487

 

The MATTER


BRIEF: เปิด 'ฉากพระ' ไทบ้านฯ เทียบหลวงพี่แจ๊ส เพื่อตั้งคำถามว่า มาตรฐานอยู่ตรงไหนก่อนเสนอรื้อระบบเซ็นเซอร์ 'หนังโรง'

.

สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย นำคลิปฉากพระเคาะโลงศพของคนรักที่จากไป ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง 'ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2' ถูกห้ามฉายจากคณะกรรมการตรวจพิจารณาเนื้อหาของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยอ้างเหตุผล "พระมีพฤติกรรมไม่เหมาสม" มาฉายให้กับสื่อมวลชนดู เทียบกับคลิปฉากพระต่างๆ ในภาพยนตร์ 'หลวงพี่แจ๊ส 5.0' อีก 3-4 ฉาก

.

ทั้งพระเล่นมุกสองแง่สองง่าม พระจ้องหน้าอกหญิงฉาว ฯลฯ เพื่อตั้งคำถามถึงมาตรฐานในการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ไทย และเรียกร้องให้ยกเลิกระบบการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

.

บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง กล่าวว่า ที่เรานำภาพยนตร์ 2 เรื่องมาฉากเทียบให้ดู ไม่ได้ต้องการบอกว่าหลวงพี่แจ๊สฯ ไม่ดี แต่อยากตั้งคำถามถึงมาตรฐานการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้มีการเซ็นเซอร์เรื่องใดด้วยซ้ำ

.

ปรัชญา ปิ่นแก้ว อีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ก็บอกว่า ไม่อยากพูดเรื่องดุลยพินิจอีกแล้ว แต่อยากตั้งคำถามถึงระบบการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่ต่างกัน ถ้าฉายออนไลน์-ไม่มี ฉายโทรทัศน์-ให้แต่ละช่องดูกันเอง แต่ถ้าจะฉายในโรงภาพยนตร์-มีคณะกรรมการกลางเข้ามาดู

.

"ระบบเช่นนี้ต้องเปลี่ยนไป เพื่อพิทักษ์สิทธิของคนทำหนังและคนดูหนัง มันไม่ควรจะมีใครมากลั่นกรองหนัง" ปรัชญากล่าว

.

ด้านธนิตย์ จิตนุกูล นายกสมาคมฯ บอกว่า จะเสนอไปยังผู้เกี่ยวข้องให้แก้ไขกฏหมายที่ออกมาควบคุมภาพยนตร์ที่จะฉายในโรง โดยอยากให้ใช้ระบบเดียวกับที่จะฉายในโทรทัศน์ คือให้ตรวจพิจารณากันเอง และหลังจากนี้ จะเดินสายจัดงานเสวนาเรื่องอิสรภาพของคนทำสื่อ เพื่อจุดกระแสเรื่องนี้ต่อไป เพราะปัจจุบันเป็นยุค 4.0 แล้ว จะใช้ระบบเดิมๆ มาควบคุมไม่ได้

.

.

#Brief #TheMatter

 

มหากรุณาโพธิยาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์


般若波羅密多心經 ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร.


觀自在菩薩

พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

行深般若波羅密多時

กาลที่ได้ทรงปฏิบัติเข้าถึงปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง

照見五蘊皆空

ทรงเห็นว่าธรรมชาติของขันธ์ทั้ง ๕ นั้นล้วนว่างเปล่า

度一切苦厄

(จึงจะสามารถ) ก้าวข้ามพ้นทุกข์ทั้งหลายได้

舍利子

สารีบุตร

色不異空, 空不異色

รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่างไม่ต่างจากรูป

色即是空, 空即是色

รูปคือความว่าง ความว่างก็คือรูป

受想行識, 亦復如是

รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นเช่นนั้นแล

舍利子

สารีบุตร

是諸法空相: 不生不滅

ธรรมทั้งหลายมีความว่างเป็นลักษณะ ไม่เกิด ไม่ดับ

不垢不淨, 不增不減

ไม่มัวหมอง ไม่บริสุทธิ์ ไม่เพิ่ม ไม่ลด

是故空中無色

เพราะเหตุว่าในความว่างนั้นไม่มีรูป

無受想行識

ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ

無眼耳鼻舌身意,

ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

無色聲香味觸法,

ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฐฐัพพะ ธรรมารมณ์

無眼界乃至無意識界,

ไม่มีจักษุธาตุ ไม่มีแม้ มโนธาตุ

無無明, 亦無無明盡;

ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปของอวิชชา

乃至無老死

และไม่มีความแก่ ความตาย

亦無老死盡

ไม่มีความสิ้นไปของความแก่ ความตาย

無苦集滅道

ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

無智亦無得, 以無所得故

ไม่มีญาน ไม่มีความบรรลุ เพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ

菩提薩埵, 依般若波羅密多故

พระโพธิสัตว์ เหตุเพราะได้อาศัยปรัชญาปารมิตานี้

心無罣礙, 無罣礙故,

จึงเป็นผู้มีจิตปราศจากอุปสรรคความติดข้อง ด้วยเหตุที่จิตไม่มีอุปสรรคความติดข้องใดๆ

無有恐怖; 遠離顛倒夢想

จึงไม่มีความสะดุ้งกลัว ไกลเสียจากความวิปลาส ความคิดเพ้อฝัน

究竟涅槃

มีพระนิพพานเป็นที่สุด

三世諸佛

พระพุทธเจ้าทั้ง ๓ กาล (อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต)

依般若波羅密多故

เหตุเพราะได้อาศัยปรัชญาปารมิตานี้

得阿耨多羅三藐三菩提

จึงแจ้งในอนุตตรสัมมาสัมโพธิ

故知般若波羅密多

เพราะเหตุนั้นจึงควรทราบว่าปรัชญาปารมิตานี้

是大神咒, 是大明咒

เป็นมหาศักดามนตร์ เป็นมหาวิทยามนตร์

是無上咒, 是無等等咒

เป็นอนุตตรมนตร์ เป็นอสมสมมนตร์

能除一切苦, 真實不虛.

สามารถระงับทุกข์ทั้งปวงได้ โดยสัจจะจริงแท้

มิได้หลอกลวง

故說般若波羅密多咒, 即說咒曰:

จึงได้กล่าวปรัชญาปารมิตามนตร์ ดังนี้


揭諦, 揭諦, 波羅揭諦, 波羅僧揭諦, 菩提, 薩婆訶.

คเต คเต ปารคเต ปารสังคเต โพธิ สวาหา.


ภาพ : พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตตว์.

มหากรุณาพุทธาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์ แคแถว นครปฐม

.

 

ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง.


พระอวตํสกสูตร หฤทัยธารณี

華嚴經心陀羅尼


จากพระพุทธาวตังสกะ มหาไวปุลยสูตร

大方廣佛華嚴經 ฉบับแปลของพระมหาสมณศึกษานันทะ


นม: สมนฺต พุทฺธานามฺ อปฺรติหต ศาสนนามฺ

โอม กินิ กินิ ตถาคต อุทฺธว ศานฺเต วรเท

อุธม อุธม ตถาคต อุทฺธว หูมํ ผฏฺ สวาหา


ธารณีมนต์บทนี้ ตรัสโดยพระสมันตภัทรพุทธะ

หรือพระอาทิพุทธ (มิใช่พระสมันตภัทรโพธิสัตว์)


กล่าวว่า หากบุคคลใดสาธยายธรณีมนต์นี้หนึ่งครั้ง

ก็เท่ากับสาธยายพุทธาวตังสกะมหาไวุลยทั้งสามชุด

ที่เก็บรักษาไว้ในนาคมณเฑียรทั้งหมด


ที่มีจำนวนโศลกเท่ากับละอองธุลีในตรีสหัสมหาโลกธาตุสิบแห่งรวมกัน และมีจำนวนปริเฉทเท่ากับละอองธุรีในจตุรทวีปหนึ่งครั้ง


หากยึดถือปฏิบัติจักมีอานิสงส์มหาศาล สามารถยังให้รู้แจ้งสรรพธรรม และบรรลุพระโพธิญาณอย่างรวดเร็ว


คัดจากพระอวตํสกสูตรหฤทัยธารณี

พระวิศวภัทร เส็กก่วงโต้ว แปลครับ

 

ปมชายแดนใต้


เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 Mr.salin mutlu sen เอกอัครราชฑูตคณะผู้แทนถาวรตุรกีประจำ OIC และคณะ ที่เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตรวจเยี่ยมการดำเนินกรรมวิธีในการออกสัญชาติให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ณ ศูนย์พัฒนาและฝึกอาชีพ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44


Mr.salin mutlu sen กล่าวเกี่ยวกับการมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปสาระสำคัญคือ

1. ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาภายในประเทศ

2. ปัญหาการก่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่สงคราม

3. OIC ไม่สนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และชื่นชมการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะโครงการพาคนกลับบ้าน

4. ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เกี่ยวกับศาสนา เพราะรัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และดูแลประชาชนไทยพุทธ และไทยมุสลิมอย่างเท่าเทียมกัน

5. ให้ประชาชนไทยมุสลิมรักประเทศของตนเอง เคารพสิทธิพี่น้องทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิมอย่างเท่าเทียมกัน และให้ประชาชนไทยมุสลิมศึกษาหลักคำสอนทางศาสนาควบคู่ไปกับการศึกษาสายอาชีพ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ

 

นสพ.บูรพา


เศรษฐกิจวันนี้..


ขายเครื่องสำอางตลาดนัด

จากวันละ8,000 เดี๋ยวนี้800


ร้านไอติมเก่าแก่ชื่อดังกว่า50ปี

บ่น....ไม่มีลูกค้าเลย


ข้าวมันไก่เจ้าเดิม

ที่เคยขายดี ทุกวันนี้

ขายได้วันละไม่ถึงหมื่น


ก๋วยเตี๋ยวชื่อก้องโคราช

รสชาติมาตรฐานคงเส้นคงวามาตลอด

ปัจจุบัน ยอดขายทั้งวัน5พันยังไม่ถึง


ต้มเลือดหมูเจ้าเด็ดที่ว่าแน่ๆ

ยอดขายหายไป50%


อีกเจ้า...ข้าวหน้าเป็ด

สูตรเด็ดขายดีมาแต่ไหน

จากยอดขาย8พัน9พันไม่ขาด

ทุกวันนี้4-5พันขายยันสว่าง


ถามราดหน้าที่คุ้นเคย

ว่าเป็นเหมือนกันมั้ย คำตอบที่ได้

ยอดก็หายไม่เหมือนเก่าเท่าไหร่นัก


ไปตลาดถามแผงหมูว่าเป็นไง

เฮียหันมาบอกไม่ได้ดีเหมือนเก่าๆ

ทั้งห้างใหญ่ขายแข่ง ทั้งตลาดนัด

เงียบสงัดทั้งตลาด อย่างกับป่าช้า


สู้ไม่ไหวบางคนท้อ ขอไปก่อน

คืนห้องคืนตึก ปิดกิจการ


โคราชเวลานี้...สาหัส

เงียบสงบ จริงๆ


ที่ว่าเด็ดที่ว่าเก่าแก่มานมนาน

ถ้าสายป่านไม่ยาว...ไปนานแล้ว


ที่อื่นเป็นไงบ้างครับ

เล่าสู่กันฟังบ้างนะ


- สิริทัศน์ สมเสงี่ยม (ผู้เขียน)

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว เป็นปัญหา (ใหญ่) ที่ภาครัฐต้องจัดการให้ได้เท่านั้นจริงๆ #เกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชนโดยตรง (เพราะกรณีแบบนี้มีให้เห็นทั่วประเทศ) อย่างกรณีล่าสุดที่ต้องยอมรับว่าแอดมินเห็นใจพ่อค้าแม่ขายสุดๆ #ราชการสร้างที่ให้ชาวบ้านขายแต่ไหงไม่มีคนซื้อ แม่ค้าพ่อค้า #ตลาดนัดทุ่งกระต่ายขัง จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดรนทนไม่ไหว โวยลั่น สูญงบฯ 20 ล้านสร้างศูนย์โอท็อปแต่เงียบเหงาไร้คนซื้อ ร้องถาม #คุ้มค่ากับงบฯที่เสียไปหรือไม่!!???


#แอดมินจับแพะชนแกะ เพราะบ้านเรากำลัง (แห่) จัดระเบียบทางเท้า โดยไล่ที่ไม่ให้มี 'แผงลอย' ขายเอิกเกริกเกะกะขวางทางคนสัญจรไปมาบนฟุตบาท #ตรงนี้มีข้อดีและน่าสนับสนุน แต่ ... นอกจากไล่ที่ของผู้ค้าแผงลอยซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเค้าเป็นหนึ่งในพลเมืองประเทศและได้รับความเดือดร้อนแล้ว ทางที่เหมาะที่สุดที่ภาครัฐต้องเสริมเข้าไป (ไม่ใช่สักแต่ไล่ที่) ก็คือ #หาพื้นที่เอาไว้ให้พวกเขาได้ทำมาหากินกันต่อไป และไม่ใช่แค่สักแต่หาที่ว่างแล้วผลักให้ไปขายแบบส่งเดชตามมีตามเกิด ภาครัฐต้องประเมินความเสี่ยงการลงทุน-สนับสนุนในเบื้องต้น-ส่งเสริมประชาสัมพันธ์พื้นที่จนทำให้ 'ตลาดใหม่' ขายได้ด้วย จึงจะสัมฤทธิ์ผลแบบยั่งยืน มิเช่นนั้นเมื่อที่ใหม่ขายไม่ได้ เขาก็ต้องกลับมาทำกินที่เดิมที่มั่นใจว่าขายได้ชัวร์ๆ ไม่งั้นก็เปลี่ยนอาชีพ-อดตาย


... หลายแห่งในประเทศเป็นเช่นนี้ ภาครัฐสักแต่ไล่ที่ลูกเดียว ดีหน่อยคือไล่ด้วยหาที่ขายใหม่ให้ด้วย แต่ที่ว่างดันขายไม่ออก ซึ่งเท่ากับเปล่าประโยชน์ คิดใหม่ทำใหม่ใกล้ดีแล้วค่ะ #เป็นกำลังใจให้หน่วยงานรัฐที่ตั้งใจทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง


โดยเรื่องนี้ นางลิ้ง บุญคุ้ม ชาวบ้านในพื้นที่และตัวแทนแม่ค้าตลาดนัดทุ่งกระต่ายขัง ให้ข้อมูลว่า หลังจากหน่วยงานราชการใช้งบฯทำโครงการจัดระเบียบร้านค้ากว่า 30 ร้านบริเวณเชิงเขาทุ่งกระต่ายขัง ตั้งแต่ พ.ย.2558 ผ่านมา 2 ปี ปัจจุบันตลาดฯมีผู้ประกอบการร้านค้าเหลือไม่ถึง 5 ราย เนื่องจากไม่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะซื้อสินค้า #ทำให้เจ้าของร้านค้าบางรายปิดกิจการเพราะขาดทุนต่อเนื่อง จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน #ขอให้ผู้ว่าฯตรวจสอบการใช้งบประมาณว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะร้านค้าอยู่ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ไม่มีรถแวะจอด.

--------------------------------------

อ่านต่อ : https://www.prachachat.net/general/...gnbMG2K5B81TWdNM6M3pHctrZnkHI7kJi1AJmSQxLi-tk

 

倭刀 วอตาว หรือดาบจีนทรงญี่ปุ่น

ดาบญี่ปุ่นนั้นปรากฏในแผ่นดินจีนในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ซึ่งแต่เดิมดาบญี่ปุ่นที่เข้ามาใสแผ่นดินจีนในสมัยซ่งเหนือนั้นเปนดาบทาชิซึ่งบรรดาผู้ดี คนมีรายได้ดีนนั้นหาสะสมเพราะเปนของมีค่าแลเปนเครื่องรางขจัดอวมงคลได้ โดยมีบทกวีที่ชื่อว่า ลำนำดาบญี่ปุ่น หรือ 日本刀哥 เขียนโดย โอวหยางซิว ในบทกวีนั้นระบุว่าดาบญี่ปุ่นนั้นพกแล้วขจัดอวมงคลแลภัยร้ายได้

ต่อมาในช่วงกลางศตวรรษที่15 ราวๆกลางสมัยราชวงศ์หมิงเกิดเหตุการณ์โจรสลัดญี่ปุ่นบุกตามชายฝั่งของจีน ซึ่งทำให้ดาบญี่ปุ่นได้แพร่เข้ามาสู่แผ่นดินจีน ทำให้นักการทหารแลทหารบางคนชื่นชมในตัวดาบญี่ปุ่นถึงกับสร้างดาบล้อทรงดาบญี่ปุ่น ซึ่งต่อมานั้นถูกเรียกว่า 倭刀 วอตาว ที่หมายถึงดาบพวกวาโกะ หรือ ดาบจีนทรงญี่ปุ่นนั่นแล และนอกจากนี้ในช่วงกลางสมัยหมิงปรากฏมีเซนเซย์ผู้สอนเคนจุตสึได้เข้ามาในแผ่นดินจีนแล้วเปิดโดโจสอนวิชาดาบญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ในตำราเตรียมการทหารของเหมาหยวนอี๋ก็ปรากฏสำเนาท่าดาบญี่ปุ่นของสำนักอินริวอีกด้วย

แต่ต่อมาในช่วงสมัยสาธารณะรัฐจีน วอตาว ถูกเปลี่ยนชื่อเปนเหมียวตาวแทน แลดาบชนิดนี้ก็ยังใช้ร่วมสงครามไปจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ปัญหาราคายางตกต่ำขีดสุดนี่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าขั้นสุดแบบลุกลามใหญ่โตทั้งประเทศ ชาวสวนยางหลายรายน้ำตาตก-สิ้นหนทาง ตัดต้นยางแสนรักทิ้งเพื่อปลูกอย่างอื่นที่ได้ราคาสูงกว่า (?) ขณะที่ภาครัฐกำลังกุมขมับ ล่าสุด #ประธานเครือข่ายยางเสนอนายกฯ ใช้ ม.44 แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ #สั่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ยางทำถนนพาราซอยซีเมนต์ หมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร


#ถนนพาราซอยซีเมนต์ 1 กิโลเมตรใช้ยางพารา 3 ตัน (เนื้อยางแห้ง) เป็นราคา 1.8 แสนบาท ทั้งประเทศจะได้ถนนยางพาราซอยซีเมนต์ 84,000 กิโลเมตร โดยจะดูดทรัพย์น้ำยางออกจากตลาด 252,000 ตัน ใช้เงิน 15,120 ล้านบาท #ทำให้เกิดการขายจริง #เกษตรกรได้ขายยางของตัวเองโดยไม่ต้องไปผ่านนายหน้า


Source : thaiquote - https://bit.ly/2PFfBI8


โดยเรื่องนี้ นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวถึงปัญหาราคายางตกต่ำว่า ขณะนี้ปัญหาราคายางต่ำมาก 3 กิโลกรัมไม่ถึง 100 บาท #ไม่เคยปรากฏหมายก่อน


"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก้ปัญหาด้วยการถามผู้แทนเกษตรกร ขอให้หยุดกรีดยาง 1 เดือนแล้วให้ค่าชดเชย 1,500 บาทต่อไร่ต่อเดือน #ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเพราะหากหยุดกรีดยางก็จะไม่มีรายได้" นายอุทัย ชี้แจง


ทั้งนี้ นายอุทัย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า จากการพูดคุยกับสมาชิกฯ #มีการเสนอแนวทางแก้ปัญหาโดยให้รัฐบาลช่วยเกษตรกรโดยตรง ในกิโลกรัมละ 60 บาท เพราะตอนนี้ต้นทุนอยู่ที่ 63.65บาท แล้วให้นายกฯใช้มาตรา 44 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศทำถนนยางพาราซอยซีเมนต์ หมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้ยางพารากิโลเมตรละ 3 ตัน (เนื้อยางแห้ง) เป็นราคา 1.8 แสนบาท ทั้งประเทศก็จะได้ถนนยางพาราซอยซีเมนต์ 84,000 กิโลเมตร โดยจะดูดทรัพย์น้ำยางออกจากตลาด 252,000 ตัน ใช้เงิน 15,120 ล้านบาท ทำให้เกิดการขายจริง เกษตรกรได้ขายยางของตัวเองโดยไม่ต้องไปผ่านนายหน้า


"ทำแบบนี้แล้วตลาดล่วงหน้าจะสั่นคลอน #พ่อค้าคนกลางก็จะดิ้นหาซื้อยางกันทำให้ราคาสูงขึ้น สุดท้ายประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยตรง แต่ถ้า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะใช้แนวทางชดเชยที่เสนอมาซึ่งต้องใช้เงินถึง 20,000 ล้านบาท #เป็นวิธีเก่าที่เงินจะไปตกที่นายทุนแล้วเกษตรกรจะไม่ได้อะไรเลย" นายอุทัย ทิ้งท้าย.

 

ยิ่งภาวนา อัตตายิ่งโต? งานศึกษาพบว่าโยคะและการทำสมาธิอาจทำให้อีโก้สูงขึ้น

• 
  vanat putnark in Pulse

การทำสมาธิภาวนาและการเล่นโยคะเป็นศาสตร์ตะวันออกที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกตะวันตก แนวปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นแนวทางการปฏิบัติของพุทธศาสนา แนวทางที่เชื่อในการลดทอนตัวตน ลดทอนอัตตาของเราลง แต่นักวิชาการทำการทดลองแล้วพบว่า ผลการปฏิบัติสมาธิและการเล่นโยคะกลับมีแนวโน้มจะทำให้อัตตาของเราใหญ่ขึ้นแทนที่จะเล็กลง

นักวิจัยทางจิตวิทยาเริ่มจับตามองกระแสความนิยมการฝึกจิตที่กำลังเฟื่องฟู และค่อนข้างมองเห็นว่า การฝึกจิตดูจะมีความยอกย้อนในตัวเอง คือตามแนวปฏิบัติดั้งเดิมว่าด้วยการลดทอนตัวตนลง แต่ในทางกลับกันการที่ฝึกอะไรจนเก่งขึ้นเป็นทักษะ เราก็มีแนวโน้มที่ตัวตนของเราจะใหญ่ขึ้น การโตขึ้นของอัตตานี้สอดคล้องกับความคิดของนักจิตวิทยาชื่อ William James ที่มองว่าการฝึกทักษะใดๆ ทำให้ตัวตนเราเข้มข้นขึ้น นักจิตวิทยาเรียกว่า self-enhancement ประมาณว่าเราเห็นตัวเองดีกว่าหรือใหญ่ขึ้น เข้าข้างตัวเองขึ้นกว่าปกติ

อืม ยอกย้อนเนอะ การฝึกจิตบอกให้เราลดทอนอัตตา แต่การฝึกความสามารถไปจนถึงความมั่นใจก็อาจทำให้เราหลงอยู่ในอัตตาอีกที…ซับซ้อน มีงานวิจัยสองชิ้นที่พยายามศึกษาผลของการปฏิบัติสมาธิและการเล่นโยคะ ในงานศึกษาจากมหาวิทยาลัย Southampton ก็ใช้แนวคิดเรื่อง self-enhancement และ self-centrality ไปประเมินอาสาสมัครที่เล่นโยคะและปฏิบัติภาวนาเป็นเวลา 15 สัปดาห์ พบว่าทั้ง self-enhancement และ self-centrality มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เทียบกับช่วงเวลาที่ไม่ได้เล่นโยคะ

อัตตาจริงๆ ค่อนข้างวัดยากแต่ตัวงานศึกษามีวิธีวัด self-enhancement ที่ค่อนข้างหลายชั้น เช่น ให้นักเรียนโยคะเทียบตัวเองกับนักคนคนอื่นๆ ในคลาส ให้ทดลองทำแบบทดสอบที่ดูแนวโน้มการหลงตัวเอง และให้ตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับความเคารพตนเอง (self-esteem)

อนึ่ง ผลการศึกษาดังกล่าวอาจจะเป็นประเด็นว่ากระแสการฝึกจิตในตะวันตกอาจฝึกไปในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่อาจนำผู้ฝึกไปสู่เป้าหมายดั้งเดิมได้ เพราะว่าอาสาสมัครทั้งหมดเป็นคนที่เล่นโยคะและปฏิบัติภาวนาในเยอรมัน

ในประเทศตะวันออกหรือแม้แต่บ้านเราเองที่เป็นเมืองพุทธ การปฏิบัติกรรมฐานและเป้าหมายเพื่อลดอัตตายังเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ นักคิดบางคนก็บอกว่า การหลับตาอยู่กับตัวเองบางครั้งแทนที่จะเป็นการพิจารณาความไม่เที่ยงแท้และลดอัตตาลง กลับกลายเป็นการอยู่กับตัวเองและเห็นตัวเองใหญ่โตขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก

qz.com

eprints.soton.ac.uk

psychology.iresearchnet.com

https://thematter.co/pulse/yoga-and-meditation-may-grow-ego/53210/amp

 

ท้องฟ้าอมตะนคร ชลบุรี เวลานี

 

เตือนภัยทุกสถานการณ์


นาสาร สุราษฎร์ธานี น้ำมาเร็วมากครับ ต้นน้ำมาจากของลำพูนเข้าสู่ของฉวางแล้วไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตามภาพที่เห็นคลองฉวาง เทศบาลนาสาร สุราษฎร์ธานี


น้ำป่าไหลหลากเพิ่มขึ้นมาเรื่อย


ฉก.อินทรีดำ. รส.


วันที่ 21 พ.ย. 61 เมื่อเวลา (12:40)


หน.นุ ฉก.อินทรีย์ดำ. รส.