สงสัยมากครับ การแยก-รูป-นาม-จะแยกไปเพื่ออะไร..ในเมื่อ..

แถมให้

 

เห็นด้วยเลยครับ ส่วนตัวเห็นว่าสรุปกระทู้นี้ได้ตามนี้ครับ ส่วนท่านใดไม่จบ ก็สุดแท้แต่น๊ะครับ

 

ถ้าตามที่ไล่อ่านๆมา มีความเห็นว่า..

ควรวางความเชื่อทั้งหมดลงชั่วคราวก่อน หมั่นเคลียร์ใจให้เป็นปกติก่อน ใจที่เป็นปกติย่อมจะไม่มีความหนักใจหรือเคร่งเครียดใดๆ ณ เวลานั้น ถ้าหากว่ายังหมกมุ่นอยู่ในความคิด ใจจะไม่ผ่อนคลายไม่โล่งไม่โปร่ง นี่เป็นข้อสังเกตเบื้องต้นข้อแรกนะครับ

หมั่นเคลียร์ใจให้เป็นปกติบ่อยๆ เรื่องศึกษาพุทธวจนะ สั่งสมสุตะ เชื่อว่าศึกษากันมาจนได้แนวทางในเบื้องต้นพอสมควรแก่เหตุแล้ว ตอนนี้มีแต่ต้องมาเข้าใจในกริยาที่เป็นนามธรรมนั้นให้ได้จริงๆ ตามความเป็นจริงจริงๆ ครับ ถึงจะเรียกว่าเข้าถึงได้จริง ไม่ใช่แค่เข้าใจ กริยาเช่น ใช่แล้ว ใช่เลยอะไรแบบนี้จะยังไม่ใช่การเข้าถึงที่แท้จริง

ให้สังเกตว่า เวลารู้จักอะไรขึ้นมาสักอย่าง มันยังเป็นการเอาไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานบางอย่างที่เราเผลอมีตั้งไว้ในใจอยู่แล้วหรือเปล่า อาจจะแบบไม่ทันรู้ตัวก็ได้ครับ ลองสังเกตกันดูเอง

ถ้าเข้าถึงจริงๆ จะมีแต่ อ๋อ..มันเป็นแบบนี้นี่เอง คือหายสงสัยหายข้องใจ คือที่เคยสงสัยๆ เขาพูดอะไรกัน ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย มันจะเก็ท เห็นกริยาแล้วมันเก็ทตามได้ ระลึกถึงคำพูดที่เขาพูดนั้นขึ้นมาได้ อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

จะต่างกับที่ว่า พอเกิดรู้เกิดเห็นอะไรขึ้นมาแล้ว คิดในใจหรือโพล่งออกมาว่า นี่ไง ใช่เลย ตรงเป๊ะเลย มันจะคนละแบบกันครับ ตรงนี้คงต้องค่อยๆ ลองสังเกตเอาเอง แต่ถ้ายังไม่มาถึงจุดที่ว่านี่ ก็จะยังยากที่จะเข้าใจอยู่ดี อย่างเก่งก็แค่คาดคะเนไปเรื่อย ใช้วิจารณญานว่าไปเรื่อยน่ะครับ เดี๋ยวก็ว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา คือมันใช้วิจารณญานไปเรื่อยมันก็เลยว่าออกไปแนวๆนั้นหมดครับ

 

แหม ....เกือบเข้าเป้า !! แล้วฮับ

" วิธีการพิจารณาของแต่ละคนแตกต่างกันตามจริตและสัญญา "

ประโยคเนี่ยะ มันมี สักกายทิฏฐิแทรกตัวแฝงอยู่ ทำให้ ปรารภ ธรรมผิด

" วิธีการพิจารณา จะแปรไปตามสัญญา จึงทำให้เห็นว่า เกิดความแตกต่าง "

ส่วน จริต กับ คน อันนั้น สักกายทิฏฐิ มัน ขรำ ขรี้แตk ขรี้แตน นักภาวนา
ภาวนามาขนาดนี้ ยัง เผลอเพลินในขันธ์ ไม่เลิก

ปริยัติเนี่ยะ ทั้งพระพุทธองค์ และ พระสารีบุตร แนะว่า ให้กระทำไว้ในใจ
ให้แยบคาย จนกระทั่งเข้าไป รู้ อรรถ ของ ธรรม ที่กระทำไว้ในใจให้
แยบคายนั้น( โยนิโสมนสิการ ) ....จึงชื่อว่า รู้ธรรมนั้น

การแจ้งธรรมที่กระทำไว้ในใจ พร้อมทั้งการเข้าไป "เห็น" อรรถรส
จนเกิดการ แจ้งธรรมนั้น สภาวะที่รู้ว่าได้แจ้งธรรมนั้น จึงชื่อว่า สุตตมัยปัญญา
ซึ่ง สาวกจะต้องใช้ สุตตมัยปัญญา สำเร็จธรรม แจ้งธรรมด้วยการ "ฟัง"

สาวกมี จินตมัยยปัญญาไม่ได้ ( มีปัญญาจากการไม่สดับจากผู้ใด ไม่ได้ )
หากทำได้ ก็จะเกิด สัพพัญญแทรกกลางพระพุทธศาสนา แทรกโลกธาตุ

การสำเร็จสุตตมัยปัญญา เป็น ภาวนามัยปัญญาของสาวก นั้นๆ

หากไม่ใช่แบบนี้ อกัตญญูบุคคล แน่นวล

ดังนั้น แยกรูป แยกนาม กระทำไว้ในในให้ดีๆ ..... หากกระทำไม่ได้
ก็ขอให้ เกาะ พุทธวจน ไป เป็นทุนใน การเกิดมาเป็นคนครั้งหน้า
จะได้มีโอกาสเกิดมาพบพระพุทธศาสนา แล้ว ลุ้นอีกที ว่าจะยังไง

 

ไม่เห็นด้วย หลอกฮับ

หากมัวแต่ไป สนใจแต่วิธีทำ อานาปานสติ หายใจทิ้ง

ปัญญาเป็นส่วนผล หนะใช่ แต่เป็น ผลงานขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

จึงไม่ใช่ให้ไปเน้น การเกิดผลงาน เพราะ พระพุทธองค์ทรงทำไว้แล้ว

หน้าที่ของสาวก คือ กระทำในใจให้แยบคาย แล้ว เข้าไปเห็นตาม ทำให้ถูกฐานะ

ไม่ใช่ อกตัญญุ ปราบมะแอ้ม สาสดา ............เฮีย ส่งมา...............

 

ที่คุณโพสต์มาทั้งหมดนั้นใช่เลยครับ ก็ผมแค่นำแผนที่ ปริยัติ มรรคมีองค์8-ปฏิจจะสมุปบาท-ตามคำสอนของ ศาสนาพุทธเรามาให้คนดู..แค่ปริยัติ
และผมสอนวิธีปฏิบัติลงไปด้วย-เราสามารถปฏิบัติตามได้เลย ตรง-ลัด-สั้น ไม่ต้องอ้อมไปดูหรือ แยก รูป -นาม อะไรเลยครับทำได้ทันที ละนันทิ ละนันทิ-..เมื่อจิตคุณพร้อม มีสมาธิ เพียงพอ คุณก็จะเห็น เกิด-ดับ ได้เลยโดยตรง-ไม่ต้องมานั่งละนันทิแล้ว เพราะจิตคุณเกิดสมาทิเพียงพอที่จะดู อาณาปานสติ-ทรงอยู่กับ สติปัฏฐานสี่ ไปเองทั้งชีวิตไงครับ
(อาาปานสติบริบูรณ์ ทำให้ สติปัฏฐานสี่บริบูรณ์ ทำให้โพฌงค์7บริบูรณ์ ทำให้ วิชา วิมุตติ หลุดพ้น )..

 

คุณ..nouk...

ถามหน่อยครับ- ทำไมหลวงตามหาบัว-ถึงไม่เคยนำ วงจรปฏิจจะสมุปบาท มาสอนพระ เณร ญาติ โยมเลย เพราะอะไรครับ?
..ทั้งที่ วงจรปฏิจจะสมุปบาทนี้-เป็นนหัวใจของ ศาสนาพุทธ..ทีเดียว..เพราะอะไรครับ

 

..เล่าปัง..

.." สังเกตว่า การภาวนาแต่ละคน จะต้อง อาศัย ฉันทะธรรม เป็นปัจจัย
ไปพิจารณา "กาย"(การประชุมกันของธรรม) ที่เกิดบ่อยๆ (ถี่ๆ ) เพื่อจะได้
มีจิตวนอยู่ใน เนขขัมวิตก อะฮับ"..

..ตรงชัดเจนเลย อาจารย์ สาธุครับ-ผลที่แยกรูป-นาม เพราะตรงนี้ แต่ก็แค่วิธีการหนึ่ง-เท่านั้นเองในการปฏิบัติ..ละกามโดยใช้สมาธิ..แต่มันเป็น "หินทับหญ้า" นะครับ
..อาจารย์ ตทังคประหาร..หินทับหญ้าครับ..

 

พี่เกิดจัดชุดใหญ่
ไฟไหม้ฟาง
กำหนดรู้ด้วยฮับ
ฮิ้ว ฮิ้ว ฮิ้ว

 

อ้าวผิดห้องครับ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ไปวิ่ง

ไปฝึกจับไพ่

 

ไม่ได้เป็นหลวงตา คงตอบความคิดเห็นไม่ได้ค่ะ

 

อยากรู้ก็ต้องทำ พระพุทธองค์ทรงบอกวิธีไว้หมดแล้ว ทำเอง รู้เอง เห็นเอง ถ้าไม่นอกครู... สาธุ

 

เพราะมันคนละทางสิ
เหมือนเราพยายามปีนขึ้นเขาไปบนยอดนะ
ทางขึ้นเขามันมีหลายทาง

หรือเหมือนเราเดินทางไปวัดพระแก้วกรุงเทพ
มันมีถนนหลายสายนะตัดเข้ากรุงเทพ
จากทิศเหนือ ทิศใต้ ตกออก

การภาวนาก็เหมือนกัน

พระพุทธเจ้าถึงได้เทศน์ไว้หลายพระสูตรไง
แต่มุ่งพระนิพพานเหมือนกัน

บางคนเอาสมาธินำหน้าก็มี
บางคนเอาปัญญานำหน้าก็มี

ก็แล้วแต่จริตนิสัยบารมีที่สั่งสมมา

 

แต่ก็มี พวกบ้า ยกพระสูตรมา มั่วไปหมด

ไม่รู้ว่า ตัวเองขับรถอยู่ถนนเส้นไหน?

 

เห็นด้วยครับ

 

ขอบพระคุณและน้อมรับในความปรารถนาดีอย่างจริงใจครับ แต่ผมคงเกิดตายในภพภูมิอีกหลายพันชาติ จึงยังไม่อาจละสักกายะทิฏฐิได้ในเร็ววัน ขอน้อมรับคำอำนวยพรที่ขอให้ผมได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาอีก ขอให้เป็นสมดังที่ท่านอำนวยพรครับสาธุ

 

กั๊กๆๆๆ

จดหมาย เขาเขียน ถึง บุคคลาคลานผิถานหลาย บุคคโล ตรงไหน ไม่ใช่
หาก รับไป ช่วยม่ายล่าย นะฮับ

พระพุทธองค์ มีวิหารธรรมโดยมากเป็น อานาปานสติ แม้นในคืนสุดท้าย
ก็ปรารภ อานาปานสติ แต่ทว่า ......

แม้นพระพุทธองค์เอง หากจะเรียกว่า เป็น พระอรหันต์ประเภทไหน
ก็ต้องเรียกว่า พระองค์ว่า เตวิชโช วิชา3 สำเร็จด้วยอำนาจแห่งกสิณ10
ด้วย อเนญชาภิสังขาร

ลวกเพ่ จะ อานาปานสติไปเรื่อยๆ บรรลุเอง ......"ปัญญาอันยิ่งเอง" ไม่รู้จัก
การกระทำไว้ในใจให้แยบคาย โยนิโสมนสิการ ก็ไม่รู้จัก ...จะไปเอา แสงอรุณ
จากไหน ( ยังเหลือ อีก 2 ทางนะ หาเจอเป่า )

แลกเบอร์โทร พยากรณ์ออกมาจาก กลางอก หทัยวัตถุ หรอ ?


ปล.โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

จดหมาย เขาเขียน ถึง บุคคลาคลานผิถานหลาย บุคคโล ตรงไหน ไม่ใช่
หาก รับไป ช่วยม่ายล่าย นะฮับ

 

ม่ายต้องช่วยหรอกคับ เพียงคำแนะนำดีๆ อย่างที่กล่าวมาแล้ว ก็ขอบพระคุณมากแล้วฮับ

 

มันแปลกตรงนี้ครับ พระสงฆ์ในประเทศไทย ทุกวัด ไม่มีใครเอา วงจรปฏฺจจะสมุปบาท มาสอนเลย..ละนันทิก็ไม่เคยได้ยิน..
ขนาดหลวงพ่อวิริยังค์ เขียนวงจรปฏิจจะสมุปบาท ติดเพดานไว้ที่วัด หอระฆังแท้ๆ..แต่เวลาสอนพระ เณร ญาตืโยม ไม่เคยเอามาสอนเลย..ทุกวัดทั่วประเทศไม่มีเลย โดนตัดตอนหรือทำหมันไปเลยนี่..

 

มีสอนหน่าครับพี่เกิด
แต่ไม่ดัง ไม่ลงยูทูป
ส่วนที่ดังมีแต่พวก ครูกวนกะทิ นอนโรงแก้ว

ปล. เข้าใจพี่เกิดนะ
อกรักแล้วค่อยมาเจอรักแท้
ย่อมตัดพ้อเปงทำมะดา ฮิ้ววว