บริวารพุทธภูมิ ถาม : หลวงพ่อคะ คนเป็นพุทธภูมิจำเป็นไหมที่จะต้องมีคนรักเยอะ ๆ ตอบ : ไม่ต้อง อยู่คนเดียวก็ได้ ถาม : แล้วพวกที่มีแฟนคลับเยอะ ๆ พวกสาวก ลูกศิษย์ อะไรพวกนี้ ตอบ : นั่นเขาตามมาเอง เห็นความดีก็เลยอาสาจะมาขอติดตามกัน ถาม : บางคนเขาก็บอกว่าตามเก็บบริวาร สร้างบริวาร ตอบ : ถ้าใครคิดอย่างนั้นก็แสดงว่ายังห่างไกลพุทธภูมิ เขาไม่ต้องไปสร้าง คนถ้าเห็นดีเห็นงามเขาตามมาเอง ถาม : แล้วอย่างพวกดาราที่มีแฟนคลับมาก ๆ ตอบ : เขาก็ต้องเคยสร้างบุญสร้างกรรมกันมา ถ้าไม่เคยสร้างเวรสร้างกรรมกันมา เขาจะมีแฟนคลับได้อย่างไร เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๒ สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
ภูเขาบุญ คือ กองบุญใหญ่ที่หลวงปู่ดู่อาราธนาบุญของพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาประดิษฐานที่นี้ หลวงปู่ท่านเมตตาต้องการสงเคราะห์วิญญาณที่อยู่ที่นั่น รวมทั้งที่ผ่านไปผ่านมา จะได้อนุโมทนาเอาจากกองบุญอันนี้ เพราะการตั้งจิตแผ่เมตตาย่อมให้ผลเป็นคราว ๆ ไป แต่การทำอย่างนี้(ตั้งภูเขาบุญ) วิญญาณเหล่านั้นไม่ต้องรอคนแผ่เมตตาให้ เขาสามารถโมทนาบุญเอาได้ตลอด จะได้เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้คลายทุกข์ยากลงบ้าง ในสมัยหลวงปู่ดู่มีชีวิต ท่านจะอธิษฐานซ้ำเข้าไปเรื่อย ๆ เรียกว่า เพิ่มพูนภูเขาบุญให้แน่นหนามั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไป นอกจากนี้ ท่านยังส่งเสริมให้ลูกศิษย์กรรมฐาน เมื่อเวลาปฏิบัติดี ๆ ก็ช่วยกันอธิษฐานบุญสมทบเข้าไปอีกเรื่อย ๆ จึงนับเป็นหนทางทำบุญอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าด้วยบุญบารมีของหลวงปู่ ภูเขาบุญแห่งนี้จะอยู่ไปตราบนานเท่านาน การอธิษฐานจิตตั้งภูเขาบุญนั้น ต้องเริ่มจาก ๑.ทำจิตของเราให้เป็นสมาธิ ให้สว่าง หรือมีปีติอื่น ๆ เช่น ขนลุก กายโปร่งเบา ฯลฯ เพื่อให้การอธิษฐานได้ผลสัมฤทธิ์เต็มที่ (แปลว่าต้องทำตอนจิตมีกำลัง) ๒.ต่อไปก็ระลึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอท่านเมตตาอัญเชิญบุญบารมีพระพุทธเจ้า ตั้งเป็นภูเขาบุญ (กรณีที่มีภูเขาบุญอยู่แล้ว เช่นที่วัดสะแก ก็เปลี่ยนเป็นอธิษฐานสมทบกองบุญเดิม) ซึ่งขั้นนี้แล้วแต่ผู้ปฏิบัติ หากเห็นแสงสว่างที่ลงมาที่ภูเขาบุญก็จะเกิดปีติและความเลื่อมใสยิ่งขึ้นไปอีก หากไม่เห็น ก็ให้น้อมจิตเลื่อมใส แล้วกำหนด (สมมติ) เป็นแสงสว่างลงมาที่กองบุญ สิ่งที่ควรทราบเพิ่มเติมก็คือ ก.การอธิษฐานบุญบารมีพระพุทธเจ้า (และครูบาอาจารย์) มาตั้งเป็นภูเขาบุญ ใช้ในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าในบริเวณนั้นมีวิญญาณมาก และยากที่ให้บุญคราวเดียวจะคลายทุกข์เขาได้ จึงจำเป็นต้องตั้งกองบุญเป็นการถาวร (อยู่ได้นานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังจิตของผู้อธิษฐานด้วยเหมือนกัน) ข.ในขณะอธิษฐาน ก็ให้วางจิตด้วยเมตตาและกรุณาในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย เสร็จแล้วก็วางจิตด้วยอุเบกขาว่า สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ใครรับได้หรือไม่ได้ ก็สุดแต่กรรม เราก็ทำหน้าที่ของเราเท่านั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ค.การอธิษฐาน สามารถทำซ้ำ ๆ ในโอกาสอื่น ๆ ได้อีก เพื่อให้กองบุญอยู่มั่นคง ยาวนาน ง.สิ่งที่ต้องตระหนักก็คือ การอธิษฐานจิตตั้งกองบุญนั้นยังเป็นขั้นของการปรุงแต่ง เพียงแต่เป็นการปรุงแต่งเพื่อพัฒนาคุณภาพจิต กล่าวคือสร้างความชำนาญในการทำภาวนา(ความตั้งมั่นของจิต)ประการหนึ่ง แล้วยังจะช่วยสร้างเสริมเมตตาจิตอีกประการหนึ่งด้วย ที่มา http://chantingbook.blogspot.com/2017/07/blog-post_81.html