พระอรหันต์ที่ไม่มีเมตตามีอยู่มั้ยคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 24 มกราคม 2018.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตามหัวข้อกระทู้ค่ะ
     
  2. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    อรหันต์หมดการปรุงบุญแล้วนี่
     
  3. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ผมคิดว่า พระอรหันต์ ทุกท่านมีพรหม วิหาร 4 เหมือนกันหมด ทุกท่าน หากกริยาที่ท่านแสดงออก ไม่มีเมตตา คงจะเป็น กุสโลบายธรรม ให้แก่บุคคล มากกว่า
     
  4. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631
    ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ ท่านมีเมตตาทั้งนั้นครับ
    แต่จะแสดงออกมาแตกต่างกันไป
    แต่ที่แน่ ๆ คือ ถ้าเพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์สูงสุดเท่าที่เขาพึงจะได้
    ท่านจะทำ ไม่ใช่เพื่อตัวท่านเอง แต่เพื่อประโยชน์ของคนอื่น

    เช่น พระพุทธเจ้าท่านมีเมตตาไม่มีประมาณ
    แต่พระองค์ท่านก็ทรงสั่งลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ
    เพราะเห็นว่าพระฉันนะมีทิฐิมานะมาก เพราะว่าตนเคยเห็นคนสนิทของพระพุทธเจ้ามาก่อน
    ถ้าปล่อยไว้ ท่านจะไม่มีทางบรรลุธรรมได้
    พระพุทธเจ้าท่านจึงทรงสั่งลงพรหมทัณฑ์
    คือ ห้ามไม่ให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดพูดคุยกับพระฉันนะ ไม่ให้สั่งสอน ไม่ให้เจรจาด้วยใด ๆ ทั้งสิ้น
    จนเป็นเหตุให้พระฉันนะบรรลุธรรมได้ในที่สุด

    จะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้าท่านมีเมตตามาก
    แต่คนที่เห็นบางทีก็อาจจะไม่เข้าใจ
    คิดว่าท่านไม่มีเมตตา แต่ที่จริงแล้ว เมตตาท่านมาก
    เพราะถ้าท่านไม่สั่งลงพรหมทัณฑ์ พระฉันนะก็อาจจะยังไม่บรรลุธรรมก็ได้

    จะเห็นว่าวิธีทำให้บุคคลแต่ละคนบรรลุธรรมนั้น
    หรือได้รับประโยชน์สูงสุดเท่าที่เขาจะพึงทำได้
    พระองค์จะทรงมีวิธีแตกต่างกัน

    อย่างเช่น ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงพาพระนันทะ ไปดูนางฟ้า ไปดูสวรรค์
    เพราะพระองค์ทรงทราบว่าจริตของพระนันทะไปในทางนั้น
    ซึ่งเป็นเหตุให้ท้ายที่สุด พระนันทะก็สามารถบรรลุธรรมได้

    ซึ่งทั้ง 2 วิธีที่ท่านทำก็เพราะเมตตาของท่านทั้งนั้น
    แต่มีวิธีแตกต่างกันเพราะบุคคลที่ท่านสอนมีจริตนิสัยแตกต่างกันนั่นเอง
     
  5. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    รู้มั้ยว่าพระอรหันต์ทำอะไรบ้าง เผื่อไม่รู้ผมจะบอกให้ก็แล้วกัน นี่เรื่องพื้นๆเลยนะเนี่ยไม่ต้องไปเปิดพระไตรปิฎกอ่านให้ยุ่งยาก แค่ศึกษาพุทธประวัติบ้างก็พอแล้ว
    1.สั่งสอนธรรมแก่ฆราวาส ดังเช่นที่พระพุทธเจ้าได้กระทำ พระอรหันต์องค์อื่นๆก็ทำด้วยเช่นกัน
    2.ปฏิบัติเจริญกรรมฐานอยู่เสมอ(นั่งสมาธิ เดินจงกรม เข้าฌานสมาบัติ)
    3.รักษาศีล
    4.ออกบิณฑบาตร และบางทีก็รับกิจนิมนต์ เพื่อการโปรดสัตว์

    ทั้ง 4 ข้อนี้ ทำแล้วได้บุญหมดเลยนะครับ แต่พระอรหันต์ไม่ได้ทำเพื่อหวังเอาบุญ แต่ทำเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป


    คุณ bigtoo เป็นสมาชิกเว็บพลังจิตมานานถึง 6 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนก้าวหน้าช้าจังเลยนะครับ
     
  6. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ความเมตตาคือ สงเคราะห์ให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ นั้นก็ถือว่าเป็นหัวใจของพระอรหันต์
    ผมพูดตามที่ศึกษาพระพุทธองค์ท่านทรงโปรดสัตว์อยู่เป็นนิจ ถือเป็นกิจก็ว่าได้
     
  7. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    กำจัดกิเลศ กำจัดอกุศลมูลเหตุแห่งทุข
    เมื่อยังไม่ละขันธ์ กองขันธ์ทั้งหลายก้ยังคงมีอยู่ ยังคงเป็นอนัตตา มีอยู่ประกอปกันขึ้นอันไม่เป็นตัวตนแต่ประกอปขึ้นด้วย แต่ไม่ใช่ปุญญาภิสังขารและอปุญญาภิสังขารคือไม่มีเจตนาเพื่อบุญและบาป แต่มีจิตเป็นกุศลจิต มีสัญญาอาการเช่นเดิมแต่ไม่มีกิเลศเกาะเกี่ยวในสัญญษชักนำให้ทยานอยาก มีเวทนา เช่นเดิม มีวิญญานรับรู้เช่นเดิม มีรูปกายเช่นเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือปราศจากกิเลศ
    ขอยกกรณีที่พระพุทะเจ้าท่านปลงสังขารปรินิพพานแล้วระหว่างทางท่านเดินทางเพื่อไปสถานที่ปรินิพพานท่านก้ยังต้องทนต่อทุขเวทนา จึงได้ให้พระมหาจุนทะแสดงโพชฌงค์แก่ท่านเพื่อคลายต่อเวทนา
    พระอรหันท่านมีเมตตาแน่นอนครับเพราะอกุศลจิตไม่เกิดแล้วเกิดแต่ธรรมฝ่ายดีและกลางเท่านั้น
    แต่เมื่อละขันธืแล้วก้ไม่มีทั้งสิ้นครับบุญบาป
     
  8. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    แต่สมาธิก็ดี สติก็ดี วิมุติก็ดี ก็เป็นกุศลธรรมในจิต เพราะฉะนั้นจึงมาถึงธรรมะคือสิ่งที่บังเกิดขึ้น
    มีอยู่ในจิต ก็ได้แก่ เจตสิก ในอภิธรรมที่แสดงไว้ ธรรมะที่บังเกิดขึ้นในจิต จึงได้ตรัสสอนให้ตั้ง
    สติกำหนดดูอกุศลธรรมก่อน ซึ่งมาจำแนกเป็นนิวรณ์ ๕ ซึ่งบังเกิดขึ้นอยู่ในจิตสามัญทั่วๆ ไป
    เป็นฝ่ายอกุศล และเมื่อตรัสสอนให้ตั้งสติกำหนดดูนิวรณ์ ๕ ดั่งนี้แล้ว จึงได้ตรัสสอนต่อไปให้
    กำหนดดูขันธ์ ๕ ขันธ์เป็นที่ยึดถือทั้ง ๕ ก็เพราะว่าอกุศลเป็นส่วนนิวรณ์นี้ก็อาศัยขันธ์ ๕ นี่แหละ
    บังเกิดขึ้น หรือว่าอาศัยกายเวทนาจิตนี่แหละบังเกิดขึ้น ที่ตรัสมาแล้วคือ กาย เวทนา จิต

    แต่มาถึงตอนนี้ได้ทรงจำแนกใหม่จาก ๓ ข้อ กายเวทนาจิตนี้เป็น ๕ ข้อ โดยเป็นรูป เป็น
    เวทนา เป็นสัญญา เป็นสังขาร เป็นวิญญาณ โดยที่ทรงเรียกกายในข้อหนึ่งของสติปัฏฐาน
    มาเป็นรูป เวทนาก็คงเรียกชื่อเป็นเวทนาเหมือนอย่างเดิม มาถึงจิตก็ตรัสจำแนกอาการของ
    จิต เป็นสัญญา เป็นสังขาร เป็นวิญญาณ เป็นวิธีสำหรับที่จะให้กำหนดดู กาย เวทนา จิต ธรรม
    ให้ละเอียดยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะในข้อจิต ข้อที่ ๓ ของสติปัฏฐาน การดูจิตก็คือ ดูสัญญา
    ดูสังขาร ดูวิญญาณ จำแนกอาการของจิตออกไปเป็น ๓ ในขันธ์ ๕ ก็รวมเป็นขันธ์ ๕ ซึ่งขันธ์
    ๕ นี้แหละที่เป็นวิบาก ซึ่งทุกคนเกิดมาก็มีขันธ์ ๕ มา เริ่มตั้งแต่ถือกำเนิดมาจนถึงปัจจุบัน เป็น
    แต่เพียงว่าได้มีความเติบใหญ่สมบูรณ์ขึ้นจากทีแรกที่เริ่มก่อตัว เป็นขันธ์ ๕ ที่บริบูรณ์ เป็นรูป
    เป็นเวทนา เป็นสัญญา เป็นสังขาร เป็นวิญญาณ อย่างเต็มที่ ดั่งที่ทุกคนมีอยู่ เป็นตัววิบาก
    และตัววิบากนี้เองที่ตรัสว่าเป็นอัพยากตาธรรมา คือธรรมะที่เป็นอัพยากฤต ไม่ยืนยันว่าเป็น
    กุศลหรือเป็นอกุศล คือเป็นกลางๆ

    กิเลสทั้งหลายก็อาศัยขันธ์ ๕ นี้แหละบังเกิดขึ้น คือเกิดขึ้นที่ขันธ์ ๕ ดับไปก็ดับไปที่ขันธ์ ๕
    กุศลธรรมทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นที่ขันธ์ ๕ ดับไปที่ขันธ์ ๕ เป็นคราวไปๆ เป็นต้นว่า
    เมื่อกามฉันท์บังเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นที่ขันธ์ ๕ ที่รูป ที่เวทนา ที่สัญญา ที่สังขาร ที่วิญญาณ และ
    เมื่อดับไปก็ดับไปที่ขันธ์ ๕

    ฝ่ายกุศลธรรมก็เหมือนกัน การที่จะปฏิบัติธรรมะ เช่นว่าทำสติ ทำสมาธิ ก็อาศัยขันธ์ ๕ นี่แหละ
    ทำขึ้น สติก็เกิดขึ้นดับไปที่ขันธ์ ๕ ฉะนั้นก็ต้องเข้าใจว่า ทั้งกุศล ทั้งอกุศล เกิดดับทั้งนั้น ยกตัว
    อย่างเช่นว่ากามฉันท์เกิดขึ้นดังกล่าว ก็มาทำสติปัฏฐาน เจริญสติที่ไปในกาย พิจารณาให้เห็นว่า
    ที่ตั้งของกามฉันท์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สวยงาม เมื่ออสุภสัญญาปรากฏขึ้น กามฉันท์ก็ดับ และเมื่อ
    กามฉันท์ดับ สติกับอสุภสัญญานั้นก็ดับ เพราะว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในการที่จะทำลายกามฉันท์
    ได้แล้ว กามฉันท์หมดไปแล้วก็หมดหน้าที่ ก็ดับ

    ยกมาบางส่วนจากสัมมาสติ ของท่านสมเด็จญาณ
     
  9. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578

    สาธุอนุโมทนามิ ค่ะ ได้ความชัดเจนขึ้นมากทีเดียว
     
  10. Khobkhoon

    Khobkhoon ''พระองค์เดียว''

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2018
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    มี : ตัว ปลอม ไม่ มี เมตตา
    มี : พระอรหันต์ จริง พ้น ความ เมตตา (หมายถึง มีเมตตาถึงขั้นปล่อยวาง จนเป็นความว่างไม่มีเหลืออะไร..อีก ทั้ง ทุกข์ สุข โลภ โกรธ หลง นิ่ง เฉย เพราะ มนุษย์ไม่ค่อยมีศีลหรือมีศีลรุ่งริ่งกระท่อนกระแทนเหมือนผ้าขาด เตือนให้ทำดีไม่ค่อยเชื่อหรือเชื่อบ้าง เชื่อน้อย บางองค์มุ่งมั่นสอนสั่ง บางองค์ไม่สอน เพราะไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก เหมือนสอนม้า มี 4 จำพวก ม้าตัวที่ 4 ไม่สอนตัดเลย) (ไม่ต้องเชื่อก็ได้ให้ฟังเทศนาธรรมหลวงพ่อหลายองค์ก็จะเข้าใจเอง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...