เพื่อการกุศล หลวงพ่อกวย ชุตินธโร "พระหนุมาน ย้อนยุค รุ่นมนต์พระกาฬ" เพื่อสบทบทุนสร้างโบสถ์วัดหนองเฒ่า หน้า 85

รับทราบครับ

 

สวัสดีครับคุณ๑๖โสฬส ที่จะจัดการให้ รบกวนฝากบอกท่านอาจารย์ชุมพลด้วยครับว่าผมได้ทำตามที่ท่านแนะนำแล้วเมื่อเช้านี้ทั้งเรื่องฝากตัวกับครูอาจารย์,ทำน้ำมนต์และขอขมาแม่ครับ ปล ไม่อยากโทรฯไปรบกวนท่านบ่อยนักครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณครับที่คุณลืมจัง ได้เข้ามาตอบเเทนให้
หากท่านใดมีประสบการณ์นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

เรื่องรูปวัดถุมงคลเดี๋ยวขอถ่ายรูปก่อนนะครับจะมาอัพเดทให้ชมว่ามีอะไรบ้าง ส่วนท่านใดสามารถจับพลังได้ลองจับพลังกันดูครับ วันนี้ผมจะกลับไปเปิดลังเพราะจะต้องนำท่านท้าวเวสสุวรรณขึ้นโต๊ะบูชาหลังจากที่นำท่านร่วมไปขอบารมีครูอาจารย์ตามที่หลวงพ่อกวยท่านเคยมาบอกไว้ เเละจะมีตะกรุดมนต์พระกาฬอีกสามสีดอก ที่เพื่อนสมาชิกได้ฝากร่วมขอบารมีครูอาจารย์ จะได้จัดส่งให้ผู้ร่วมบุญได้นำไปใช้หาประสบการณ์ซะที ช่วงนี้ทำอะไรจะช้าไปหน่อยถึงสำหรับผม สำหรับท่านที่รอพระชุดเรียญทำน้ำมนต์นี้อีกไม่กี่วันครับจะเเจ้งเปิดจองที่กระทู้นี้ ขอปรึกษาทางวัดเเละพระอาจารย์นักรบกับท่านพระอาจารย์ชุมพลก่อนครับ ส่วนท่านใดที่ติดตามหนังสือพระตามท้องตลาดคงจะทราบกันดีอยู่เเล้วครับในเรื่องราคาที่เปิดให้บูชา แล้วผมจะเร่งนำวัตถุมงคลชุด เหรียญทำน้ำมนต์ มาแจ้งให้ทราบเพื่อร่วมบุญกันนะครับ

 

เรียนคุณ๑๖โสฬส ขอรายละเอียดหน่อยครับ ในเฟสบุ๊คมีแผ่นพับออกแล้ว อยากได้บูชาไวๆครับ

 

กำลังเร่งถ่ายรูปให้อยู่ครับ ข้อมูลที่ copy มานี้เข้าใจว่าเอามาจากทางเฟสนำมาจากหนังสือ ซึ่งข้อมูลในหนังสือมีบางส่วนผิดพลาดครับ ผมกำลังปรึกษากับทางวัดอยู่เรื่องข้อมูลที่ถูกต้องจะนำมาให้รับทราบกันแต่ขออัพเดทการเสกพระรอข้อมูลไปพลางๆก่อนครับ

 

ผมลืมอัพเดทครั้งที่นำพระไปขอบารมีท่านพระอาจารย์ชนินทร์ ชนินโทให้ร่วมอนุโมทนาบุญกันครับ พอดีวันนี้ท่านพระอาจารย์ชุมพลท่านทักมาเลยนึกได้ว่ายังไม่ได้อัพเดท

วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ นำพระชุดเหรียญทำน้ำมนต์นี้ไปขอบารมีท่านพระอาจารย์ชนินทร์ที่สำนักปฏิบัติธรรมรัศมีพรหมโพธิโก ในวันไหว้ครูบาวงสรวงเทวดา ๘ ทิศ ซึ่งครั้งนี้พระอาจารย์ชนินทร์ท่านเมตตาวัดหนองเฒ่ามากและได้ให้นำพระชุดเหรียญทำน้ำมนต์นี้เข้าร่วมพิธีไหว้ครู บวงสรวงเทพเทพเทวดาอันเชิญครูอาจารย์ในสายของพระอาจารย์ชนินทร์เองเเละได้เมตตาเชิญหลวงพ่อกวยเเละครูอาจารย์ในสายหลวงพ่อกวยมาร่วมทำพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลให้ด้วยในครั้งนี้ไปพร้อมกับวัตถุมงคลของทางสำนักปฏิบัติธรรมเอง ดังนั้นจึงนำเรื่องราวมาถ่ายทอดเเละนำรูปมาอัพเดทเพื่อให้ทุกๆท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันในครั้งนี้ครับ

 

อัพเดทตารางวัตถุมงคลหลวงพ่อกวย วัดหนองเฒ่าครับ
และขอเเจ้ง EMS ล่าสุดที่ทางวัดส่งวัตถุมงคลให้นะครับ


ao6963 ET 5665 0678 5 TH

sepultura ET 5665 0671 0 TH

นำทาง ET 5665 0672 3 TH

duckfaire ET 5665 0674 5 TH

taoreedman ET 5665 0673 7 TH

หลังจากนี้ไปในตารางอัพเดทผมจะลบรายชื่อที่ได้ทำการส่งให้เเล้วในตารางออกนะครับและขออภัยสำหรับท่านที่ได้รับวัตถุมงคลไปแล้วแต่ผมไม่ได้อัพเดทให้ด้วยครับ

 

ผมเองได้รับตระกรุดทั้ง 5 ดอกครบถ้วนแล้วครับ ทั้งตระกรุดพระกาฬ และตระกรุดนวคุณ

และขอขอบคุณในน้ำใจไมตรี เป็นอย่างสูงด้วยครับ คุณหนุ่ม16โสฬส ที่ได้มอบพระปิดตาเศียรบายศรี และพระปิดตามหาบูรพา อันเป็นสิ่งมหามงคล แก่ผมและครอบครัวครับ ขอบพระคุณ และอนุโมทนาสาธุบุญ ด้วยครับ

 

เเจ้ง EMS เพิ่มเติมครับ


ธนารักษ์ ET 5665 0676 8 TH

รท.เฉลิมชัย ET 5665 0679 9 TH

 

๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ หลวงตาในสายหลวงปู่สำเร็จลุน อธิษฐานจิตเสกเดี่ยว

๘ ธันวาคม มุ่งหน้าสู่จังหวัดชัยภูมิระยะทางประมาณ 600 กว่าโล ถึงชัยภูมิเวลา11 โมงเช้า เมื่อแวะพักนิดหน่อยก็ออกเดินทางไปหาที่พักสงฆ์ เนื่องจากไม่มีแหล่งข้อมูลใดๆเลยว่าที่พักสงฆ์ที่จะไปกราบขอบารมีนี้อยู่ตรงไหน ผมได้ข้อมูลคร่าวๆมาจากเพื่อนคนนึงว่าหลวงตาท่านนี้เก่งมากท่านเป็นอาแท้ๆของน้องคนหนึ่งที่เขารู้จัก บวชตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มชอบปลีกวิเวกอยู่ตามป่าเขา ธุดงค์มาน่าจะประมาณ30กว่า พรรษาเห็นจะได้ (จากคำบอกเล่า) เลยถามเขาว่าหลวงตาท่านเก่งด้านไหน น้องเขาบอกว่าเก่งทุกด้านเจอครูอาจารย์ในป่าเยอะที่สอนและถ่ายทอดวิชาให้ ท่านเคยทักน้องคนที่เป็นหลานท่านว่า พ่อจะหมดอายุไข ในช่วงวันที่เท่านั้น เท่านี้ให้ระวังเรื่อง นั้นๆแต่เขาไม่เชื่อ สุดท้ายพ่อก็ต้องจากไปและตรงตามคำที่หลวงตาท่านได้ทำนายทายทักเอาไว้ ท่านอ่านเขียนเรียนพระเวทย์มาหลายภาษาเช่นธรรมอีสาน ขอม ล้านนา พม่า และอะไรอีกจำไม่ได้ครับ เรื่องเพียงเท่านี้ยังไม่ทำให้ผมอยากไปขอบารมีท่าน เพราะไกลมาก อีกอย่างนึงคือไม่รู้จักท่านไม่รู้ประวัติท่าน แต่จากคำบอกและความรู้สึกของตัวผมเองรวมถึงคำบอกเล่าว่าหลวงตาท่านสำเร็จธาตุ การหุงปรอทสายหลวงปู่สำเร็จลุน จึงทำให้ผมอยากรู้ว่าในสายหลวงปู่สำเร็จลุนยังมีผู้หุงปรอทและสำเร็จธาตุอีกหรือ ณ ปัจจุบัน (สำเร็จหรือไม่นั้นลองพิจารณาดูครับ ผมพูดเท่าที่มีข้อมูลและจากการที่ได้สนธนากับหลวงตาจึงรู้ว่าท่านสำเร็จ) จึงตั้งใจไปกราบขอบารมีโดยขอข้อมูลจากน้องเขาคร่าวๆแล้วไปหาพิกัดเอาดาบหน้า พอถึงเวลาจะติดต่อน้องเข้าเพื่อถามพิกัดที่แน่นอนก็ติดต่อน้องเขาไม่ได้แถวนั้นไม่มีสัญญาณครับแห้งแล้งพอสมควร ดังนั้นเมื่อติดต่อน้องเขาไม่ได้ตอนไปถึงชัยภูมิตรงแหล่งใกล้ที่สุดของที่หมายก็ไล่ถามชาวบ้านว่าที่พักสงฆ์ลักษณะแบบนั้น แบบนี้อยู่บริเวณไหน ถามจนได้เรื่องจึงหันหัวรถย้อนกลับไปอีกทาง บังเอิญติดต่อน้องเขาได้พอดีจึงไปตามทางที่เขาบอกมา ขอบอกว่าต่อให้มี gps ก็ไม่คิดว่าจะหาเจอเพราะไม่มีสัญญาณต้องวิ่งผ่ากลางหมู่บ้านเลยเข้าป่าเข้าไร่ข้ามเขาดินลูกรังตามทางน้ำไหล (เป็นถนนดินแดงที่ถูกน้ำกัดเซาะเมื่อครั้งหน้าฝน) รถค่อยๆคลานไปแบบช้าๆโยกซ้ายที โยกขวาที ตลอดเส้นทางเกือบหกกิโล จนสุดท้ายก็เห็นเพิงหลังคาสังกะสีจึงไปจอดรถและเดินเข้าไปถาม อ้าว! ไม่เห็นมีใครอยู่จะใช่หรือป่าวเนี่ย เดินดูสักพักก็เห็นจีวรพระสีกลัก จึงก้มลงกราบนมัสการและเรียนท่านให้ทราบว่าผมมาขอบารมีหลวงตาเพื่ออธิษฐานจิตวัตถุมงคล ท่านพยักหน้ารับและไปนั่งที่เพิงตามรูปถ่ายนี้ และได้สนทนากับท่านตั้งแต่เที่ยงครึ่งจนถึงห้าโมงเย็น

เป็นเรื่องปกติที่ท่านจะสอบถามถึงเรื่องวัตถุมงคล ที่มาที่ไปว่าใครสร้างและสร้างทำไม เป็นพระอะไร ท่านก็ชวนคุยไปสอนธรรมไป ลองภูมิสอบจิตไป สารพัดครับครั้งนี้ ท่านอ่านใจผมออกทุกความคิดไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไร ท่านดักทางไว้หมด แม้กระทั่งผมเห็นว่าเย็นมากแล้วหน้าหนาวมืดไวมาก หลวงตาจะเสกพระชุดนี้ให้หรือป่าวนะ(คิดในใจ) ท่านก็พูดสวนมาว่า ฉันดื้อจะให้ฉันทำอะไรที่ฉันไม่อยากทำน่ะฉันก็ไม่ทำนะ (ท่านขึงขังมาก) ผมก็ได้แต่ตอบท่านว่า “ครับ” “ครับหลวงตา” ไม่กล้าคิดอะไรต่อ เลยก็ขอทราบประวัติการธุดงค์ การเรียนศาสตร์ต่างๆจากพระในป่า ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟัง เลยได้ความรู้มากระดับหนึ่ง สุดท้ายจริงๆจะเอ่ยปากขอท่านให้ช่วยอธิฐานจิต ท่านบอกว่า “ ไม่ ฉันมันดื้อ” คำเดียวสั้นๆ ฮ่าๆๆๆ ท่านว่าจะให้ทำอะไรฉันไม่ทำ ขอยังไงก็ไม่ทำ ผมก็เลยปล่อยวางละคิดแค่ว่าแค่ได้มากราบพระสุปฏิปันโน มาฟังธรรมที่ท่านได้สอนสั่งก็เป็นบุญโขแล้ว


ผมมองท่านท่านก็ยิ้มเหมือนท่านพอใจอะไรสักอย่างแต่ผมไม่รู้ตัวเองเลย อยู่ๆท่านก็บอกให้ผมนั่งสมาธิ นั่งเดี่ยวนี้เลย นั่งต่อหน้าท่านนี่แหละ ผมก็นั่งตามที่ท่านบอก น่าจะประมาณ 30 นาทีเห็นจะได้ เพราะมองเวลาดูนาฬิกาตอนนั้น ๑๗.๓๐ พอดี (ตอนท่านให้นั่งประมาณ ๑๗.๐๐) ลืมตาขึ้นมาท่านถามว่ารู้สึกอะไรมั้ยที่นั่งนั่นน่ะ ก็บอกเล่าท่านไปครับ สุดท้ายก็ขอกราบนมัสการลาท่านกลับ จึงเอ่ยปากขอท่านอีกครั้งหนึ่งครั้งนี้ท่านหน้าไม่ดุเหมือนครั้งแรกที่ขอ แต่ครั้งนี้ท่านบอกว่าให้กลับเอาไปทำเองพระที่ไหนก็ทำได้ทำไมต้องเป็นฉัน เธอก็ทำได้ทำเองสิ ท่านพูดมาแบบนี้ไม่ทำให้ผมใจเสียหรือท้อถอย ผมเรียนให้ท่านทราบว่าการที่มาขอบารมีหลวงตาครั้งนี้เพราะอะไรผมถึงมา และทำไมต้องมาขอหลวงตา มีเหตุผลอย่างไร ผมก็เรียนตามตรงให้ท่านทราบ ท่านก็ตอบว่าจิตใจเธอดีนะ เดี่ยวฉันไปทำให้ ให้รักษาแบบนี้ไว้เวลาจะทำอะไรให้นึกถึงฉันฉันจะช่วย ผมก็ถามตามความสังสัยว่าถึงผมไปอยู่ที่อื่นหลวงตาก็ตามไปช่วยหรอครับถ้าผมนึกถึง ท่านพยักหน้า ผมได้ฟังก็ปิติมากจนน้ำตาร่วงครับ เป็นอารมณ์ปิติแบบบอกไม่ถูก หลวงตาท่านบอกว่าให้ผมรักษาอารมณ์นี้ไว้ วันนี้นอนที่นี่ไหม อยากให้นอนสักคืนอากาสดีนะ หรือถ้าวันนี้ไม่นอนพักกับท่านให้วันหน้ามาหามาพักกับท่าน เป็นความกรุณามากสำหรับผม อย่างที่เกริ่นมายืดยาวแล้วกว่าท่านจะเมตตาอธิษฐานจิตให้ท่าน สอบจิต สอบอารมณ์เยอะมากแต่สุดท้ายพอท่านรู้ว่าจะเดินทางกลับแล้วท่านก็ได้เมตตาเสกพระชุดเหรียญทำน้ำมนต์นี้ให้แบบหาที่สุดประมาณมิได้ เป็นบุญของผมและทางวัดหนองเฒ่ามากที่ท่านได้เมตตาอฐิษฐานจิต

ลืมเล่าให้ฟังเรื่องการหุงปรอทที่หลวงตาท่านได้เมตตาเล่าให้ฟัง ท่านได้เรียนวิชาการทำปรอทนี้มาจากป่าตอนธุดงค์จากอาจารย์ในป่าแต่ทำไม่สำเร็จ( ทำไม่สำเร็จอย่างไรนั้นผมไม่กล้าถามครับ รู้แต่ว่าจะเรียกปรอทจะทำให้เป็นตัวนั้นยากมากท่านบอกแบบนี้) ตอนที่ท่านทำ ท่านทำหลายครั้งมากก็ยังไม่สำเร็จสักทีท่านก็ได้เลยตามหาอาจารย์ที่สอนและถามท่าน อาจารย์ท่านเห็นว่าหลวงตามีความมุมานะพยายามทำจนคล่องท่านก็บอกว่ามันจะไปสำเร็จได้อย่างไรเล่าก็ยังไม่ได้บอกเคล็ดให้ ที่ให้ไปทำนั้นเพราะต้องการให้เรียนรู้วิธี การฝึกจิตและหมั่นเพียร ครั้งนี้มาฉันจะบอกวิธีให้ซึ่งหากบอกเคล็ดไปก่อนจะทำไม่สำเร็จ และเมื่อทำสำเร็จเหลวงปู่สำเร็จลุนจะมาบอกขั้นตอนการทำต่อจากที่ฉันได้แนะไปแล้วต่อให้การทำครั้งต่อไปให้ติดต่อหลวงปู่สำเร็จลุนทางนิมิตถามท่านเอาถึงขั้นตอนสุดท้าย หลังจากนั้นท่านก็ทำได้สำเร็จตามครูท่านถายทอดมาให้ตั้งแต่นั้นมา

อีกเรื่อง สีผึ้งสาริกา (ท่านเรียกแบบนี้)

หลวงตาท่านได้เล่าให้ฟังว่ากว่าท่านจะทำสีผึ้งนี้ได้ใช้เวลหามวลสารนานเอากาล มวลสารที่ได้มานั้นมานั้นท่านได้มาจากตอนธุดงค์บ้างพระใกล้ชิดท่านที่เป็นลูกศิษย์นำมาถวายบ้าง พูดง่ายๆว่ากว่าจะได้ครบก็หลายปีทั้งไทยลาวพม่าเขมร พอครบท่านก็นำมาหุงตามวิธีการที่เรียนมาจากครูอาจารย์ในป่า (สายหลวงปู่สำเร็จลุนเช่นกัน) ท่านบอกท่านหุงแค่เพื่อลองวิชาว่าเป็นจริงหรือไม่เพียงเท่านั้น ตอนท่านทำสีผึ้งท่านก็ทำพิธีหุง ๗เสาร์ ๗อังคาร ฯลฯ พอทำได้แบบนี้แล้วก็ถือว่าเสร็จในขั้นตอนแรก ขั้นตอนต่อไปท่านก็นำไปเสก(นานเท่าไรไม่ได้ถามครับ) อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง มีวันหนึ่งท่านนั่งเสกสีผึ้งจนมีฝูงนกบินมาล้อมท่านนอกวงสายสิณจ์(ตอนทำท่านล้อมสายสิญจ์) แล้วก็บินหายไปสักพักก็จะมีนกมาบินวนเข้ามาใหม่อยู่หลายครั้ง เมื่อไรที่มีนกเอี้ยงสาริกาบินลงมาจับหม้อสีผึ้งนี้ถือว่าสำเร็จและนกตัวนั้นต้องยอมให้ท่านจับแบบไม่กลัวไม่ตะกายบินหนีหรือต้องไล่จับนั้นถือว่าใช้ได้ และท่านก็นำไปทำในขั้นตอนต่อไป ในขณะที่หลวงตาท่านเสกสีผึ้งในขั้นตอนนี้นั้นหลวงปู่สำเร็จลุนท่านได้เมตตามาแนะและมาช่วยหุงและท่านก็บอกให้นำไปให้ฆาราวาสเสกต่อ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันที่ผมเอาพระชุดเหรียญทำน้ำมนต์นี้ไปขอบารมีหลวงตา ท่านบอกว่าท่านยังไม่ได้ไปเอาสีผึ้งกลับมาเลย หลายปีแล้ว ผมเลยถามว่าทำไมหลวตาถึงไม่เอามาล่ะครับ ท่านบอกว่าก็รู้ว่าสำเร็จแล้วจะเอามันมาทำอะไรล่ะ ทุกวันนี้ของนั้นยังอยู่ที่บ้านฆาราวาสครับแต่ที่ไหนไม่ทราบได้ ฆาราวาสท่านนี้เคยบวชอยู่กับหลวงตาๆสมัยที่ท่านออกจากป่ามาใหม่ๆ เรื่องราวที่ผมได้รับฟังท่านเล่ามาในเวลาเพียง ๔-๕ ชั่วโมงก็มีประมาณนี้ครับ


หลังจากกราบลาหลวงตาท่านผมก็ออกเดินทางไปกราบหลวงปู่จันทร์ วัดป่าหนองยางต่อ เวลานั้นที่ออกเดินทาง ๑๘.๐๐น พอดีอากาศบนเขาดีมากโปร่งโล่งครับ ถ้าไม่จำกัดเรื่องวันเวลาที่จำกัดจะขอนอนพักที่พักของหลวงตาสักคืนนึง ท่านบอกกำชับผมมาว่าอย่าเปิดเผยว่าท่านอยู่ที่ไหนนะ ท่านหนีมาอยู่ที่นี่เพราะเบื่อความวุ่นวาย ดีที่ผมให้หลานท่านติดต่อท่านล่วงหน้าเอาไว้ครั้งที่หลานท่านมากราบหลวงตาจึงได้มีโอกาสมาขอบารมีท่านครับ
ปัจจุบันท่านออกจากป่ามาได้หลายปีแล้วเพราะสังขารไม่เที่ยงอยู่ในป่าไม่ไหวไม่สะดวกในหลายๆอย่าง ทุกวันนี้ท่านอาพาทท่านก็ไม่เคยไปหาหมอรักษา ได้แต่ฉันยาสมุนไพรเหมือนสมัยที่อยู่ตามป่าครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอลงรูปที่ถ่ายมาได้แค่ 4 รูปตามที่เห็นนะครับ ท่านเอ่ยปากไม่อนุญาตใดๆที่จะเปิดเผยเรื่องของท่านแต่ผมก็ขอท่านมาแค่เกริ่นเรื่องราวให้ทุกๆท่านได้รับรู้กันไว้ และเพื่อเป็นประวัติการเสกพระของวัดหนองเฒ่าต่อไปครับ

 

๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ ขอบารมีหลวงปู่จันทร์วัดป่าหนองยาง อธิษฐานจิตเสกเดี่ยว (ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นมนต์พระกาฬ คงได้พิสูจน์พุทธคุณ)








๙ ธันวาคม ๒๕๖๐

หลังจากที่ออกเดินจากชัยภูมิมาถึงวัดป่าหนองยางก็เป็นเวลาสองทุ่ม เข้ากราบหลวงปู่แล้วนั่งสนทนากับท่านอยู่พักใหญ่ก็ไปขนลังพระ ท่านถามว่ามึงขนลังอะไรมา (ครั้งก่อนขนมาท่านอาพาทครับไม่เสกให้ ) ท่านบอกว่ามีคนเอาพระมาให้กูเสกเดี๋ยวนี้กูไม่เสกให้แล้ว มันบาปมาถึงกูนี่เพราะกูไปขอบารมีครูอาจารย์กูให้มาช่วยทำ ทำเสร็จมันก็เอาไปช่วยวัดจริงแต่ช่วยท้องมันเองมากกว่าช่วยวัด บางคนกูบอกว่าอย่างเอาไปลองมันก็เอาไปลอง พอลองเสร็จผลมันก็มาถึงกูนี่ ผลมาถึงหลวงปู่ยังไงครับ ก็มันไปลองแรงครูที่กูขอไว้ก็ย้อนกลับมาหากูหมด นี่ไงครูอาจารย์เค้าถึงบอกว่าอย่าไปลอง เขามีไว้ช่วยคนไม่ได้ให้มันเอาไปลองกันๆ กูเลยไม่ทำให้มันแล้ว มีเสี่ยคนนึงเอามาให้กูเสกกูยังไม่เสกให้เลย ผมฟังหลวงปู่ท่านเล่าผมยังแอบหัวเราะไม่ได้ ตอนท่านเล่าท่านน่ารักดีครับ ผมฟังท่านผมก็เรียนท่านว่า ก็พระชุดเดิมที่ผมเคยมาขอบารมีหลวงปู่ตอนหลวงปู่อาพาทไงครับ ที่หลวงปู่บอกว่าไม่เสก หลังปู่หันหลังมาแล้วพูดว่า มึงก็เลยเอามาให้กูเสกใหม่อีกรึ ท่านก็หัวเราะ ผมก็บอกว่าตามแต่หลวงปู่จะเมตตาครับแต่พระชุดนี้ทางวัดหนองเฒ่าเขาตั้งใจสร้างครับจะปิดทองปีหน้าจะออกหารายได้ทำโบสถ์ให้เสร็จ ท่านจำได้ว่าพระอาจารย์ชุมพลอยู่วัดหนองเฒ่า ท่านก็ไม่ว่าอะไร รุ่งเช้าผมตามหลวงปู่เดินบาตร กลับมาพอท่านฉันข้าวเสร็จท่านนั่ท่านก็นั่งคุยเรื่องราวต่างๆให้ฟังตั้งแต่ ๙โมงเช้าถึง ๔โมงเย็น ท่านเมตตามากครับ(แต่เรื่องเสกพระต้องรอดูโอกาสอีกที) ท่านเล่าให้ฟังว่าท่าน พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร./โฆษก ตร. มากราบท่านบ่อย มาทีก็เอาตะกรุดกูไปทีนึง ผมเลยถามว่าท่านเอาไปทำอะไร หลวงปู่บอกว่าท่านเอาไปแจกลูกน้องกูทำให้ไม่ทันต้องสั่งทิ้งไว้นานๆ เขาบอกว่าเขาเอาไปมีประสบการณ์ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อเข้าใจว่าท่านมากราบหลวงปู่บ่อยจริงๆครับผมทราบมาว่าท่านไปกราบหลวงปู่มาหลายครั้งเเล้วและวันที่ผมไปกราบหลวงปู่ล่าสุดหลวงปู่ก็บอกว่าฝากตะกรุดกับผมไปให้ลูกชายท่านให้หน่อย

มาฟังเรื่องหลวงปู่กันต่อผมถามท่านว่าสมัยหลวปู่ยังหนุ่มหลวปู่เคยเข้านิโรธกรรมบ่อยไหม ท่านเล่าว่าเมื่อครั้งที่ท่านออกธุดงค์หลังจากที่หลวงปู่ผางให้ท่านเข้าป่า ท่านเดินธุดงค์ไปเรื่อยไม่มีจุดหมาย เพราะหวังเพียงว่าเข้าป่าอบรมจิตให้เข้มแข็ง วันหนึ่งท่านเดินไปถึงถ้ำน้ำหนาวสมัยนั้นบ้านเรือนยังไม่มีมากมายเหมือนปัจจุบัน ท่านไปจำวัดอยู่ในถ้ำ เช้าเดินบิณฑบาตรลงจากถ้ำเกือบสิบกิโลถึงเจอบ้านโยม ท่านพักที่ถ้ำนี้อยู่นานมากกว่าที่อื่นเพราะเมื่อทำสมาธิแล้วจิตดิ่งลงลึกแบบสงัดเร็วมากที่ชอบที่ถ้านี้ ครั้งแรกที่ทำกรรมฐานจิตมันดิ่งจนอิ่มเอบไปหมดสงบนิ่งแบบนั้นอยู่สามวันสามาคืนโดยไม่รู้สึกตัวว่านั่งนานมาเท่าไรแล้วพอถอนจิตออกถึงรู้ว่านั่งกรรมฐานอยู่แบบนี้ผ่านมาสามวันสามคืนแล้ว เช้าเดินบิณฑบาตรโยมก็ถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่ไม่ได้มาเดินบาตรสามวันแล้วหลวงปู่เปลี่ยนเส้นทางเดินหรือป่าว หลวงปู่ให้ให้คำตอบไปเป็นที่ชัดเจน ครั้งที่สอง ที่หลวงปู่นั่งกรรมฐานจนจิตดิ่งลงแบบเดิมอีกครั้งนี้นานกว่าเดิมคือสิบสองวัน ท่านถอนสมาธิออกมารู้สึกกระชุ่มกระชวยเหมือนคนทั่วไปที่ได้กินเข้ากินน้ำตามเวลา พอมาครั้งที่สามครั้งนี้หลวงปู่บอกว่าเกือบแย่เลย ท่านทรงสังขารนั่งกรรมฐานอยู่ในถ้ำเป็นเวลาถึงยี่สิบสี่วัน พอได้เวลาท่านถอนสมาธิออกมาเห็นว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากคือยี่สิบสี่วัน ครั้งนี้ท่านบอกสังขารท่านเกือบแย่ยืดเท้าไม่ได้ขยับร่างกายไม่ได้หายใจยากขึ้นเพราะการเข้ากรรมฐานลมหายใจจะละเอียดและแผ่วเบาจนเกือบมองไม่รู้ว่ากำลังหายใจ พอลืมตาเริ่มหายใจรู้สึกหายใจยากและลำบากต้องกำหนดจิตและฝึกหายใจอยู่พักใหญ่กว่าจะปกติ อาการขาไม่มีแรงพอกายภาพสักพักให้เลือดลมเดินคล่องก็เป็นปกติ มีอีกหลายๆเรื่องที่ผมขอให้หลวงปู่เล่าให้ฟัง เพราะรู้สึกว่าฟังแล้วชื่นใจ อิ่มเอิม และสนุกในการฟัง


ก็สรุปได้ว่าที่ผมถามหลวงปู่ไปว่าหลวงปู่เคยเข้านิโรธกรรมบ่อยไหม ก็ได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อยว่าท่านเข้ายิ่งกว่านิโรธกรรมอีกในสมัยนั้น พอท่านเล่าจบก็เป็นเวลาประมาณบ่ายกว่าๆอยู่ๆหลวงปู่ก็ถามว่าจะนอนกับหลวงปู่อีกคืมมั้ยหรือจะกลับวันนี้ ผมตอบท่านว่ากลับค่ำนี้ครับหลวงปู่มีอะไรให้ผมช่วยหรือป่าว ท่านบอกว่าเออ งั้นไปยกลังมาก่อนเดี๋ยวหลวงปู่จะเสกให้ก่อน(ฟังไม่ผิดครับหลวงปู่ท่านเมตตาเสกให้) ผมเลยกราบเรียนท่านว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายหลังจากที่หลวงปู่เสกเสร็จแล้วต่อไปจะนำพระส่งให้วัดต่อไป หลวงปู่ท่านก็เมตตา ปกติท่านจะให้นำพระตั้งไว้ด้านล่างหน้าพระประธาน แต่ครั้งนี้ท่านบอกให้จัดขันธ์๕ ขันธ์๘ ให้ด้วยผมก็งงว่าหลวงปู่จะให้จัดตั้งขันธ์มาทำอะไรเพราะปกติทุกๆครั้งที่มาขอบารมีท่านไม่เคยตั้งขันธ์ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งครับ เพราะท่านทำให้เต็มที่และพิเศษกว่าทุกครั้งจริงๆนานชั่วโมงกว่าๆ ท่านเชิญหลวงพ่อกวย บอกกล่าวครูอาจารย์เสร็จท่านก็เริ่มเสกพระในขณะที่ท่านเชิญครูอาจารย์เสียงท่านเปลี่ยนเป็นคนละคน(เหตุการณ์แบบนี้เมื่อครั้งหลวงพ่อประทีป วัดผากุบ จังหวัดเชียงรายได้เสกพระชุดนี้ให้ท่านบอกว่าตอนที่เสียงเปลี่ยนคือครูอาจารย์ท่านมาทำให้ท่านถามทางจิตว่าหลวงพ่อ หลวงปู่คือใคร ครูอาจารย์ท่านไม่ตอบเสกเสร็จท่านออกจากการแฝงหลวงพ่อท่านเลย แต่เท่าที่คุยกับพระอาจารย์ชุมพลและ อ เฒ่า ถึงลักษณะเสียงสวดมนต์หรือน้ำเสียงก็ดี อ เฒ่าบอกว่าน่าจะใช่หลวงพ่อกวย เพราะเวลาท่านเสกพระที่ไหนก็ตามหากทำเสร็จท่านกลับเลย ไม่มีคุยไม่พูดจากับใคร ใครถามท่านก็ไม่ตอบเช่นกัน ครั้งรุ่นมนต์พระกาฬชุดแรกที่หลวงปู่จันทร์ท่านเสกให้ หลวงพ่อกวยยังมาถามว่าเสกไหวมั้ย ตอนนั้นหลวงปู่ท่านปวดหลังครับ) และตอนท่านเสกเกิดเรื่องแปลกอย่าหลายครั้ง(แต่เล่าไม่ได้) เอาเป็นว่าหลวงปู่ท่านทำให้ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นมหาอุดคงกระพัน อยู่ยงหนังเหนียว เสริมดวงโชค แคล้วคลาด กันกระทำ และเมตตา จึงเป็นที่แน่ใจได้ว่าหลวงปู่ท่านทำให้เต็มที่ครับ จึงขอนำรูปที่หลวงปู่ท่านอธิษบานจิตปลุกเสกให้มาให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญกันครับ


เรื่องที่ผมลงไว้ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ชวนเชื่อนะครับแต่ลงไว้เป็นบันทึกสำหรับค้นหาข้อมูลในการสร้างพระของวัดหนองเฒ่าและเล่าประสบการ์ที่ได้ยินครูอาจารย์ท่านเล่ามาถ่ายทอดให้ฟัง สิ่งไหนสามารถเล่าได้ก็เล่าให้ฟังสิ่งไหนครูท่านห้ามไว้ผมก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ครับ อย่างน้อยท่านที่ได้ร่วมบุญกับวัดหนองเฒ่าเมื่อนำไปบูชาแล้วจะได้สนิทใจและมั่นใจในพุทธคุณ พระชุดนี้ผมนำเดินสายขอบารมีครูอาจารย์ผู้ทรงคุณหลายๆองค์มาเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเข้าใจว่าพลังพุทธคุณแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบางองค์ที่เคยขอบารมีท่านไว้ก็มรณะภาพไปแล้วก็มี ดังนั้นขอให้มั่นใจได้ว่าเจตนาการสร้างพระของวัดหนองเฒ่าทั้งหมดตั้งใจทำเพื่อสืบสานตำราวิชาแขนงต่างๆของครูบาอาจารย์โดยเฉพาะของหลวงพ่อกวยให้คงอยู่และได้ให้ลูกศิษย์ที่มีทุนทรัพย์น้อยได้มีโอกาสเข้าถึงวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวย ชุตินธโรครับ หลังจากนี้ทางผมจะนำส่งให้ทางวัดเสกมนต์พระกาฬต่อไป ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาเล่าสู่กันฟังครับ

ลืมบอกไปว่าจากรูปที่เห็นสายสิญจ์พันระโยงระยางนั้นไม่ใช่ว่านำสายสิญจ์มาพันรอบลังเฉยๆนะครับแต่เป็นเพราะมีการต่อโยงสายสิญจ์เข้าสู่วัตถุมงคลทุกลังครับ ผมจะไม่นำเเค่สายสิญจ์มาวนลังเท่านั้นครับ

 

เรียนท่านพระครูชุมพลผ่านคุณ๑๖โสฬส ไปรับพระมาจากไปรษณีย์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนสายๆ สวยงามดี จัดการเลี่ยมรูปหล่อกันน้ำใส่ตลับเงินห้อยคอแล้วตามที่ท่านพระครูชุมพลแนะนำ,เหรียญกลมหลังหนุมานก็เลี่ยมเผื่อไว้สับเปลี่ยนห้อยตามภาระกิจสายบู๊บ้างบางวัน กราบขอขอบพระคุณสำหรับรูปถ่ายที่แจกมาให้ครับ เดี๋ยวรอทำบุญงวดหน้าเล็งเหรียญทำน้ำมนต์ไว้แล้วเผื่อโรคบางชนิดที่สายวิทยาศาสตร์เข้าไม่ถึงหรือเผื่อฉุกเฉินไปหาแพทย์ไม่ทันกับเล็งหนุมานไว้บู๊(หรือเสน่ห์)เต็มสูตร กราบขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ชุมพลอีกครั้งและขอขอบคุณคุณ๑๖โสฬสเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งครับ

 

ได้รับตะกรุดมนต์พระกาฬเรียบร้อยแล้วครับ เข้มขลังสมกับคำร่ำลือและการรอคอยครับ

 

แจ้งการโอนแล้วนะคับ(25/12/60 11:07)
2,700
ตะกรุดพระกาฬ เอว 35,36
ผมขออนุโมทนากับพี่ๆทุกท่านนะคับ
ที่อยู่ในการจัดส่ง
นพดล มหาพิษ (085 8312558)
บ้านเลขที่ 3 ซ.อินทามระ 34 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม 10400

 

ขออภัยที่ลงซ้ำแจ้งการโอนคับ
พยายามอยู่หลายครั้งคับเน็ตไม่แรงคับ

 

กราบหลวงปู่จันทร์คับ
เดี๋ยวผมเองก็จะได้ร่วมบุญกับหลวงปู่จันทร์ ต่อคับ. ไม่ได้ไปกราบท่านนานมากเหมือนกันคับ
ได้เห็นรูปท่านผมก็ชื่นใจแล้วคับ
ขอบคุณพี่หนุ่มที่สละเวลาและความเฟนื่อย ที่ให้ได้ร่วมบุญคับ
สาธุคับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

 

ได้รับเเล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

แจ้งการโอนเงินครับ คุณ ๑๖ โสฬส
วันนี้ 26/12/60 เวลา 8.59 น. ผมได้โอนเงินจำนวน 1,300.-บาท (รวมค่าส่ง 100.-บาท)
เข้าบัญชี พระชุมพล ปัญญาธโร 157-2-85351-5 ธนาคาร กสิกรไทย สาขาสุโขทัย
โดยขอจองบูชา
หนุมานเนื้อสำริด 2 องค์ = 600.- บาท
เหรียญทำน้ำมนต์เล็กเนื้อสำริด 2 เหรียญ = 200.- บาท
เหรียญทำน้ำมนต์เล็กเนื้อสัตตโลหะขาว 1 เหรียญ = 200.- บาท
แหวนเนื้อสำริด 2 วง = 200.- บาท
รวมเป็นจำนวนเงิน 1,200.- บาท + ค่าส่ง 100.-บาท = 1,300.-บาท

กรุณาส่งมาที่
นายสมพงศ์ รัตนพรชีวากุล
128/50 ม.2 ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย
อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
(ร้าน ป.พรชัยฯ)
โทร 061-504-4920

 

อ้าว เปิดให้จองหนุมานแล้วเหรอครับ เมื่อไหร่ ตอนไหน