เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    S__91594808.jpg

    พระยอดธงหลวงพ่อยิ้ม วัดธรรมยาน ครับ
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    วันเสาร์พรุ่งนี้นะครับ หลวงพ่อท่านเจ้าคุณท่านจะมีอายุครบ 69 ปี

    S__91594754.jpg
     
  3. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดีครับพี่วรรณและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านเข้ามาติดตามข่าวสารหลวงพ่อครับเหมือนเดิมครับ
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702


    พระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พทฺธญาโณ) กล่าวสัมโมทนียฯ วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2560
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    พระจักรพรรดิ์ยอดธง.jpg IMG_20170930_170258.jpg IMG_20170930_170346.jpg IMG_20170930_170442.jpg IMG_20170930_170448.jpg IMG_20170930_170548.jpg IMG_20170930_170611.jpg IMG_20170930_170640.jpg IMG_20170930_170649.jpg

    พระยอดธงจักรพรรดิ์ยังเหลือเนื้อโลหะชุบทองและเนื้อสัมฤทธิ์ในที่วัดและที่บ้านซอยสายลมอยู่ครับ
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702


    เจริญพระกรรมฐาน , มุทิตาสักการะท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล
    วันเสาร์ที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐ ท่านคุณพระราชภาวนาโกศล พระสงฆ์วัดท่าซุง ญาติโยม ร่วมกันเจริญพระกรรมฐาน ภายในวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร หลังจากนั่งกรรมฐานเสร็จแล้ว พระสงฆ์จัดเตรียมสถานที่ บริเวณด้านหน้าห้องกระจกพระศพหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากนั้น
    พระบุญมา กล่าวนำขอขมา ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล พระครูปลัดสมนึก เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ถวายพานขอขมา คุณเยาวลักษณ์ เป็นตัวแทนญาติโยม ถวายพานขอขมา จากนั้น ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล กล่าวสัมโมทนียกถา แก่ญาติโยม



    จากเพจมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
    https://www.facebook.com/search/top/?q=มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

    S__91594754.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2017
  7. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดีครับพี่วรรณและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านเข้ามาติดตามข่าวสารหลวงพ่อครับเหมือนเดิมครับ
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
  9. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดีครับพี่วรรณและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านเข้ามาติดตามข่าวสารหลวงพ่อครับเหมือนเดิมครับ
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    ฌาณค้าง

    IMG_20170930_165921.jpg IMG_20170930_165952.jpg IMG_20170930_170017.jpg IMG_20170930_170045.jpg

    (จากหนังสือบันทึกของชาโดว์ เล่ม 2 หน้า 55 - 58)
     
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702


    วีดีโอคลิปซีรีย์ '๑๐๐ ความประทับใจ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อ' ตอนที่ ๒๒ (สัมภาษณ์พระปลัดวิรัช โอภาโส เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์ ตอนที่ ๑๐)

    พระปลัดวิรัช โอภาโส ท่านเจ้าอาวาส วัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์ เล่าถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในหลายๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งหลวงพี่วิรัชได้รับความเมตตาอย่างมากจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานในการอบรมสั่งสอน'แบบนิ่มๆ' (เมื่อเทียบกับการสอนแก่ลูกศิษย์คนอื่นๆ) และนั่นคือ..อีกหนึ่ง'ความประทับใจ'ที่หลวงพี่วิรัชมีต่อองค์หลวงพ่อ..

    ****************************************************************************************************************************************

    คลิปและคำบรรยายนำมาจากเพจธัมมวิโมกข์ออนไลน์ตามลิงค์ด้านล่างครับ

    https://www.facebook.com/thammavimokonline/?fref=ts
     
  12. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดีครับพี่วรรณและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านเข้ามาติดตามข่าวสารหลวงพ่อครับเหมือนเดิมครับ
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702

    S__48152597.jpg
     
  14. thongchat

    thongchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +2,195
    โอนเงินร่วมทำบุญกฐินกับหลวงพี่โอเป็นเงิน 500 บาท
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    138558.jpg

    ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    IMG_20171003_132354.jpg IMG_20171003_132253.jpg IMG_20171003_132319.jpg
    ไม่ใช่สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 นะครับแต่เป็นสมเด็จองค์ปฐมที่เคยแจกเมื่อครั้งกระทู้เดิมครบหนึ่งพันหน้า หล่อโดยโรงงานป้าเนียร

    องค์นี้เป็นของกัลยาณมิตรท่านนึงนำไปชุบทองคำขาวมาแล้วพกไว้บูชากับตัวเสมอครับ
     
  17. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
  18. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดีครับพี่วรรณและเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านเข้ามาติดตามข่าวสารหลวงพ่อครับเหมือนเดิมครับ
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702
    เฉลยปมปริศนา "บั้งไฟพญานาค"

    ".....เมื่อตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้นำข้อมูลและแผนผัง "7 จุดชมบั้งไฟพญานาค" ของ "นพ.ฐาปนันท์ มหิศนันท์" มาให้อ่านกันไปแล้ว

    ทั้งนี้ เพื่อผู้อ่านจะได้นำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลและแผนผัง ตามที่ผู้เขียนได้ศึกษา และใช้เวลาเดินทางสำรวจทั่วประเทศ เป็นเวลา 20 กว่าปี ปรากฏมีรอยพระพุทธบาทอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงกับตำแหน่งที่ปรากฏ "บั้งไฟพญานาค" โดยแต่ละปีจะปรากฏขึ้นประมาณ 3-7 ลูก

    ......มากกว่า 90% ของจำนวนลูกบั้งไฟพญานาคในแต่ละปี จะพบที่จังหวัดหนองคาย หน้าวัดไทย, และบ้านน้ำเป อำเภอโพนพิสัย, วัดอาฮง อำเภอบึงกาฬ, วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่, และอ่างปลาบึก อำเภอสังคม ซึ่งปรากฏว่าตรงกับตำแหน่งที่มี "รอยพระพุทธบาท" ปรากฏอยู่ด้วยทุกหนทุกแห่ง...!!!

    และทุกคนที่ได้ศึกษาประวัติ "พญานาค" จะรู้จักในนาม "พญาศรีสุทโธนาคราช" เป็นส่วนใหญ่ แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นมีใครเคยเอ่ยนามถึง "พญาสุกขหัตถีนาคราช" ผู้พิทักษ์ลุ่มน้ำโขง ซึ่งกั้นเขตแดนระหว่างไทยกับลาว บริเวณเมืองบริคำไซ อยู่ตรงข้ามกับ อำเภอโพนพิสัย

    ...1. แผนผังจุดที่เกิด "บั้งไฟพญานาค" ริมแม่น้ำโขง ระหว่างจังหวัดเลย - หนองคาย - นครพนม

    bungfai05.jpg

    ...2. แผนผังจุดที่เกิด "บั้งไฟ" ริมแม่น้ำโขง ณ บ้านตามุย อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี จะเห็นว่ามี "รอยพระพุทธบาท" ทั้งสองฝั่งโขง

    bungfai23.jpg

    รายชื่อรอยพระพุทธบาท (กรุณาดูควบคู่กับแผนที่)
    ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ทางฝั่งประเทศลาว


    ๑. วัดพระพุทธบาทโพนฉัน เมืองท่าพระบาท แขวงบริคำไซ (ตรงข้าม อ.โพนพิสัย)
    ๒. พระพุทธบาทบ้านสุละ (รอยเกิบ) แขวงจำปาศักดิ์ (ตรงข้ามผาแต้ม จ.อุบลฯ)

    รายชื่อรอยพระพุทธบาท (กรุณาดูควบคู่กับแผนที่)
    ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ทางฝั่งประเทศไทย


    ๑. วัดพระพุทธบาท ต.พระบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย (ใกล้วัดหินหมากเป้ง - หลวงปู่เทสก์)
    ๒. พระพุทธบาทกุญชร บ.ห้วยไฮ้ ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ๓. วัดสร้างฤาษี บ.ศูนย์กลาง ต.ด่านศรีสุข อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ๔. วัดพระพุทธบาทนาหงส์ บ.พระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาหงห์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
    ๕. วัดพระพุทธบาทผาจ่อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย


    ๖. พระพุทธหัตถ์คู่ถ้ำฝุ่น หน่วยพิทักษ์ป่าถ้ำฝุ่น อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๗. พระพุทธบาท วัดถ้ำศรีวิไลย์ บ.โนนสว่าง ต.หนองแข็ง อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    ๘. พระพุทธบาท วัดถ้ำศรีธน (สว่างอารมณ์) ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.หนองคาย
    ๙. พระพุทธบาท ภูควายเงิน อ.ปากคาน จ.เลย
    ๑๐. พระพุทธหัตถ์ วัดป่าดานเทพนิมิต ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย


    ๑๑. พระพุทธบาทหลัง วัดถ้ำจันทร์ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย
    ๑๒. พระพุทธบาทถ้ำแคน ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย
    ๑๓. วัดพระพุทธบาทเวินปลา ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
    ๑๔. พระพุทธบาท วัดป่าภูจ้อมก้อม ต.นากลางโพธิ์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
    ๑๕. พระพุทธบาท วัดท่าล้ง บ้านท่าล้ง (ใกล้ผาแต้ม) ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี


    .....รอยพระพุทธบาทที่กล่าวถึงนี้ มีหลายแห่งที่ปรากฏอยู่ใน ตำนานพระธาตุพนม (อุรังคนิทาน)ซึ่งเป็นหลักฐานการบันทึกไว้เหมือนกับ ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ทางภาคเหนือ จึงขอนำเรื่องราวใน ตำนานพระธาตุพนม มากล่าวไว้พอสังเขป ดังนี้



    เส้นทางที่พระพุทธเจ้าเสด็จ
    เลียบแม่น้ำโขง ระหว่างไทย - ลาว

    .....ตามประวัติ พระธาตุพนม ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จไปที่ พระธาตุพนม พระองค์ได้เสด็จไปที่เวียงจันทน์ก่อนคือ "ดอนกอนเนา" (วัดโพนพระเนา) และ "หนองคันแทเสื้อน้ำ" (พระธาตุหลวง) ในเมืองเวียงจันทน์

    พระพุทธบาทโพนฉัน (ริมแม่น้ำโขง) ฝั่งประเทศลาว


    phupa02.jpg

    .....แล้วพระพุทธองค์ได้ไปประทับที่ โพนจิกเวียงงัว (ธาตุบุ หนองคาย) และ ภูเขาลวง (พระธาตุบังพวน หนองคาย) แล้วไปฉันเพลที่ใกล้ “เวินหลอด” คนทั้งหลายจึงเรียกที่นั่นว่า “เวินเพล” (สมัยก่อนเรียก "บ้านโพนเพล" ปัจจุบันเพี้ยนไปเป็น "บ้านโพนแพง" แล้ว) เมื่อฉันเพลแล้ว พญาสุกขหัตถีนาคราช เนรมิตเป็นช้างถือดอกไม้มาขอรอยพระพุทธบาท

    พระองค์ได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ที่แผ่นหินใกล้ริมแม่น้ำ ชั่วเสียงช้างร้องได้ยิน บัดนี้เรียกว่า“พระบาทโพนฉัน” (บางครั้งเรียก "โพนสัน") แขวงบริคำไซ ประเทศลาว (ตรงข้ามกับ บ้านโพนแพง อ.รัตนวาปี สมัยก่อนเรียกกันว่า "โพนเพล - โพนฉัน")

    พระบาทเวินปลา (ริมแม่น้ำโขง) จ.นครพนม

    bungfai40.jpg

    .....แต่นั้นพระองค์ก็เสด็จไปสู่เมืองศรีโคตบอง (นครพนม) มีพญาปลาตัวหนึ่งได้เห็นพระรัศมีของพระพุทธเจ้า จึงมาวนเวียนขอรอยพระพุทธบาทไว้สักการบูชา พระพุทธองค์จึงทรงพระเมตตาอธิษฐานรอยพระพุทธบาท ไว้บนก้อนหินในน้ำที่นั้น คนทั้งหลายจึงเรียกที่นั้นว่า “พระบาทเวินปลา” มาเท่ากาลบัดนี้

    พระธาตุอิงรัง สุวรรณเขต ประเทศลาว

    .....ต่อจากนั้นพระพุทธองค์ก็เสด็จมาทางอากาศ ประทับแรมที่ ภูกำพร้า (พระธาตุพนม) หนึ่งคืน ตอนเช้าจึงเสด็จไปอิงต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงรัง สุวรรณเขต ประเทศลาว) แล้วเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมืองศรีโคตบอง

    ครั้งนั้น เจ้าเมืองศรีโคตบองมีนามว่า พระยาศรีโคตบูร ได้เห็นพระศาสดาเสด็จมาดังนั้น จึงทูลอาราธนาให้พระองค์เข้าไปรับบิณฑบาตในพระราชฐาน เมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ ทรงรับข้าวบิณฑบาตแล้ว ก็ส่งบาตรให้พระยาศรีโคตบูร เพื่อเสด็จมาประทับที่ใต้ต้นรังดังเดิม

    ฝ่ายเจ้าเมืองเมื่อรับเอาบาตรจากพระพุทธองค์แล้ว ก็ยกขึ้นเหนือพระเศียรทำความปรารถนาพุทธภูมิ แล้วจึงนำบาตรไปถวายพระองค์ที่ประทับอยู่ พระพุทธองค์ทรงรับบาตรแล้วเสด็จกลับมาทางอากาศที่ภูกำพร้า เพื่อกระทำภัตกิจ ณ สถานที่นั้น

    เมื่อพระยาศรีโคตบูรได้ทอดพระเนตรพระพุทธองค์เสด็จไปทางอากาศดังนั้น ก็ทรงปีติยกพระหัตถ์ขึ้นประนมทอดพระเนตรพระศาสดาจนสุดสายตา จึงคำนึงในพระทัยว่า อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ดังนี้แล้ว จึงเสด็จกลับคืนสู่พระราชนิเวศน์

    ต่อจากนั้น พระศาสดาก็ได้พยากรณ์ว่า หลังจากตถาคตปรินิพพานไปแล้ว พระมหากัสสป จะนำพระอุรังคธาตุ มาบรรจุไว้ที่นี้ ตรัสดังนี้แล้วจึงเสด็จไปสู่เมืองหนองหารหลวง แล้วประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร

    แล้วจึงเสด็จต่อไปที่ ดอยแท่น (พระธาตุภูเพ็ก) แล้วไปทรมานพญานาคที่ ภูกูเวียน ได้ประทานรอยพระพุทธบาทไว้ ณ พระพุทธบาทบัวบก, พระพุทธบาทบัวบาน, พระพุทธบาทผาแดง (อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี) เป็นต้น

    ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึงแหล่งโบราณคดีบนเทือกเขาภูพาน (ภูกูเกวียน) นี้ว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคชื่อ สุวรรณนาคราช และ พุทโธปาปนาคราช ซึ่งแต่เดิมหนีจาก หนองแส (ตาลีฟู) มาตามลำน้ำโขง แล้วมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งเรื่องนี้ยังมีปรากฏอยู่ใน "ตำนานพระธาตุเชิงชุม" อ.เมือง จ.สกลนคร อีกว่า

    ในขณะนั้น พญาสุวรรณนาคราช ผู้มีเกล็ดเป็นทองคำก็สำแดงตัวให้ปรากฏ ถือน้ำเต้าทองคำอันเต็มด้วยน้ำหอมอันเป็นทิพย์บอกว่า

    “ข้าพเจ้าคือ "สุวรรณนาคราช" เป็นผู้เฝ้าพิทักษ์รอยพระพุทธบาทอยู่ที่ภูน้ำรอดนี้”

    ดังนี้แล้วจึงเอาน้ำหอมรดสรงอภิเษก เจ้าภิงคาร ให้เป็นพระยาเสวยเมืองมีชื่อว่า พระยาสุวรรณภิงคาร แล้วพระบาทท้าวเธอจึงพาไพร่พลสร้างเมืองขึ้น ณ ที่นั้นเรียกว่า "เมืองหนองหารหลวง" สืบมา

    (หมายเหตุ : พระธาตุเชิงชุม เดิมชื่อ "ภูน้ำรอด" เมืองหนองหารหลวง คือ เมืองสกลนคร ในปัจจุบันนี้)

    ขอเล่าเรื่องต่อไปอีกว่า ต่อมาเมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้มาประทับรอยพระพุทธบาท ณ พระธาตุเชิงชุม แล้วจึงได้เสด็จกลับคืนมาประทับที่ ภูกูเวียน ทรงเปล่งรัศมีให้เข้าไปในเมืองนาคปู่เวียน ขณะนั้น สุวรรณนาคราช ได้เห็นพระรัศมี จึงออกมาจากแม่น้ำขึ้นไปสู่บนยอดเขา แล้วพ่นพิษออกมาเป็นควัน เขาลูกนั้นก็มืดมัวไปทั้งสิ้น

    พระพุทธองค์จึงทรงเนรมิตเป็นเปลวไฟ ทำให้สุวรรณนาคราชกระเด็นไปในน้ำปู่เวียน เปลวไฟได้ผุดแต่พื้นน้ำขึ้นมาไหม้เมืองนาค ตลอดไปถึงหนองบัวบาน ซึ่งเป็นที่อยู่ของ พุทโธปาปนาคราช นาคทั้งหลายมาล้อมภูกูเวียนนั้นไว้ แล้วพ่นเปลวไฟขึ้นไปหาพระพุทธองค์

    แต่เปลวไฟนั้นก็พุ่งกลับคืนมาไหม้นาคทั้งหลาย แล้วกลับไปบังเกิดเป็นดอกบัวบูชาพระตถาคตเป็นที่อัศจรรย์ จากนั้นจึงทรงสั่งสอนหมู่นาคเหล่านั้น ให้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมน์ตลอดไป

    และใน ตำนานพระพุทธบาทภูควายเงิน เล่าว่า สถานที่นี้เป็นที่อยู่ของ มลินทนาคราช ผู้เป็นน้องของ
    พุทโธปาปนาคราช คือหลังจากที่ตนเองเลื่อมใสในพุทธศาสนาแล้ว จึงได้ขอให้พระพุทธเจ้าไปโปรดน้องด้วย

    ต่อมามลินทนาคราชได้ฟังธรรมเทศนาแล้ว มีความปรารถนาจะบวช แต่พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้ แล้วได้ประทานรอยพระพุทธบาทลงบนแผ่นหินภูเขา มีบาลีว่า

    “มลินทะนาคราชา ยะจิตโต โคตมะ พุทธเชษฐัง ปาทะวะรัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา”

    เสด็จไปหลวงพระบาง

    .....ต่อจากนั้นองค์สมเด็จพระภควันต์จึงเสด็จไปสู่ ดอยนันทกังรี (หลวงพระบาง) ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางนันทยักษ์ แต่ก่อนมีพญานาคตัวหนึ่ง ๗ เศียร ชื่อว่า “ศรีสัตตนาค” เข้ามาทูลขอให้พระศาสดาทรงย่ำรอยพระบาทไว้

    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคก็เสด็จย่ำพระบาทไว้ ณ ที่นั้น ทรงก้าวพระบาทข้ามตีนดอยข้างขวา แล้วทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์จึงกราบทูลถาม พระศาสดาจึงตรัสว่า

    “..เราเห็นนาค ๗ หัวเป็นนิมิต ต่อไปภายหน้านี้ จักบังเกิดเป็นเมืองมีนามว่า “เมืองศรีสัตตนาค” และที่พญานาคได้ให้ความสวัสดีแก่ พระยาจันทบุรี (เจ้าผู้นครเวียงจันทน์สมัยนั้น) จักร้างเสื่อมสูญไป...”

    ตรัสดังนี้แล้วจึงเสด็จลงไปไว้รอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายที่แผ่นหินอันจมอยู่ในกลางแม่น้ำ ซึ่งคนทั้งหลายไม่สามารถจะมองเห็นได้ แล้วจึงเสด็จไปบนดอยนันทกังรี (ปัจจุบันคือ พระบาทภูสี อยู่ใกล้กับ พระธาตุภูสี หลวงพระบาง) อธิษฐานให้เป็นรอยพระบาททับหงอนนาคไว้

    ซึ่งพญาศรีสัตตนาคได้สมมุติดอยนันทกังรีให้เป็นหงอนแห่งตน เพื่อมิให้ท้าวพญาในเมืองนั้นทำยุทธกรรมกัน จักแพ้พระพุทธศาสนาบ้านเมืองแล้ว พระศาสดาก็เสด็จกลับสู่กรุงสาวัตถี

    เป็นอันว่า เส้นทางที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาตามที่พระอรหันต์บันทึกไว้ใน ตำนานพระธาตุพนม จะสรุปได้ว่าพระองค์เสด็จจากกรุงสาวัตถีมาสู่ เวียงจันทน์ ก่อนแล้วจึงเสด็จมาทางภาคอีสานของไทย ก่อนที่จะกลับก็ได้เสด็จไปประทับรอยพระพุทธบาทที่หลวงพระบาง

    bungfai07.jpg


    .....แล้วก็สรุปได้ว่า "ชื่อ" ของพญานาคราชที่ปรากฏอยู่ในตำนานนี้ ตามที่ได้ตั้งหัวข้อไว้ว่า "ตำนานพญานาค" ที่ถูกลืม บัดนี้ก็ได้นำรายชื่อของท่านมาให้รู้จักเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

    ...1. พญาศรีสุทโธนาคราช ผู้อารักขา "คำชะโนด" อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    ...2. พญาสุวรรณนาคราช เป็นผู้อารักขา "ภูน้ำรอด" (พระธาตุเชิงชุม) และรักษา "ภูกูเกวียน" (พระพุทธบาทบัวบก)
    ...3. พญาพุทโธปาปนาคราช เป็นผู้อารักขา พระพุทธบาทบัวบาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
    ...4. พญามลินทนาคราช เป็นผู้อารักขา พระพุทธบาทภูควายเงิน อ.ปากคาน จ.เลย
    ...5. พญาสุกขหัตถีนาคราช เป็นผู้อารักขา พระพุทธบาทโพนฉัน แขวงบริคำไซ ลาว
    ...6. พญาปัพพาลนาคราช เป็นผู้อารักขา พระธาตุบังพวน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
    ...7. พญาศรีสัตตนาคราช เป็นผู้อารักขา พระพุทธบาทภูสี เมืองหลวงพระบาง ลาว


    "บั้งไฟพญานาค" ขึ้นตรงตำแหน่ง

    ที่มี "รอยพระพุทธบาท" ทุกแห่ง


    bungfai06_1.jpg

    .....รวมความว่าทำไมจึงมี "บั้งไฟพญานาค" ในวันออกพรรษา โดยเฉพาะจุดที่สำคัญที่อ.โพนพิสัย ท่านผู้อ่านทั้งหลายคงจะได้คำตอบเป็นอย่างดีแล้วว่า มี "รอยพระพุทธบาท" ปรากฏอยู่ทั้งสองฝั่งโขง

    นั่นก็คือ พระพุทธบาทนาหงส์ (ฝั่งไทย) ที่อยู่ตรงข้ามกับ พระพุทธบาทโพนฉัน (ฝั่งลาว) อันมี พญาสุกขหัตถีนาคราช พร้อมหมู่นาคทั้งหลายเป็นผู้อารักขา

    แต่มีบางคนที่ไม่เข้าใจกัน เพราะพลาดไปในเรื่อง "ประวัติศาสตร์" นั่นเอง คนไทยและลาวจึงต้องมานั่งเถียงกันเรื่อง "บั้งไฟพญานาค" บางคนถึงกับปรามาสกันเลยก็มี

    ทั้งๆ ที่ "ตำนานพระธาตุพนม" ก็บอกเอาไว้ชัดเจน แต่ก็ไม่มีใครสนใจอ่านกัน นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าแท้ๆ ที่พระอรหันต์สมัยนั้นท่านอุตส่าห์บันทึกไว้นานนับพันปี

    (หมายเหตุ : ข้อควรสังเกตไว้ด้วยว่า ตลอดแนวริมแม่น้ำโขงทั้งสองฝั่ง มิได้มีบั้งไฟพญานาคทุกแห่ง โดยเฉพาะที่ อ.บุ่งคล้า จ.หนองคาย ผลสำรวจปรากฏว่าไม่มี "รอยพระพุทธบาท" แล้วก็ไม่มีปรากฏการณ์ "บั้งไฟพญานาค" อีกด้วย)

    .....เป็นอันว่า สมควรที่จะได้อนุโมทนาความดีของท่าน "พญานาคราชทั้งหลาย" ทั้งที่รู้จักนามหรือไม่ปรากฏนามก็ดีที่ได้แสดงความเคารพ โดยการบูชาด้วยการถวายต่าง "ประทีปโคมไฟ" หรือที่เราเรียกกันว่า "บั้งไฟ" เนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงสเทวโลกนั่นเอง..สวัสดี ฯ


    ******************************************************************************************************************************************************************************************


    ภาพและบทความด้านบนทั้งหมดนำมาจากกระทู้ "พญาศรีสุทโธ แห่งคำชะโนด กับ ตำนานพญานาค ที่ถูกลืม" ของเวบวัดท่าซุง ตามลิงค์ด้านล่างครับ

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=2407#10








     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2017
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    110
    ค่าพลัง:
    +225,702


    05/10/2017 คนเรือนหมื่นแห่ชม “แต้ว”นาคีรำบวงสรวงบูชาพญานาค ขณะที่บั้งไฟขึ้นแล้วแต่หัวค่ำ หนองคาย-คนนับหมื่นร่วมชื่นชม “ แต้ว” เจ้าแม่นาคี หรือ นณฐพร เตมีรักษ์ รำบวงสรวงบูชาพญานาค เปิดงานบั้งไฟพญานาคโลกที่หนองคาย ขณะที่บั้งไฟพญานาคลูกแรกเกิดเวลา 18.20 น. เป็นชุด 7 ลูก ก่อน



    น้องแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ รำบูชาพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง จ.นครพนม 8 ก.ค. 2560
     

แชร์หน้านี้

Loading...