เรื่องเด่น ปิดรับบริจาค ร่วมถวายเครื่องทรงจักรพรรดิ และ ตุงสุริยัน-จันทรา ณ.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง และพระธาตุอินแขวนประเทศพม่าในวันอาสาฬหบูชา

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 24 พฤษภาคม 2017.

  1. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    20161007_162733.jpg Golden-Rock2.jpg
    ขอเรียนเชิญญาติธรรมทุกท่าน ร่วมถวายเครื่องทรงจักรพรรดิ ณ.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง และ ร่วมถวายตุง เงิน-ทอง(สุริยันจันทรา) ที่พระมหาเจดีย์พระบรมธาตุอินแขวน ประเทศพม่าในวันอาสาฬหบูชา

    วันที่ 8 กรกฎาคม 2560 เพื่อน้อมถวายเป็น
    พุทธบูชา-ธรรมบูชา-สังฆบูชา


    เนื่องด้วยทางพระมหาเจดีย์จะมีพิธีถวายผ้าห่มพระในช่วงเช้าพรรษา ทางคณะจึงได้ติดต่อไปเพื่อถวายเครื่องทรงจักรพรรดิแด่พระพุทธรูปรอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง เพื่อถวายคู่กับผ้าห่มพระประธานในช่วงเข้าพรรษา และถือโอกาสในวันอาสาฬหบูชานี้ ถวายตุงสุริยัน-จันทราที่พระบรมธาตุอินแขวน โดยมีพระคุณเจ้าเป็นตัวแทนหมู่พระภิกษุสงฆ์รับเครื่องบูชาทั้งหมดในครั้งนี้ เพื่อเป็นสักขีพยานและถวายเป็นสมบัติของพระศาสนาสืบต่อไป


    ท่านสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพ(ตุงสุริยัน-จันทรา) หรือ (เครื่องทรงจักรพรรดิ) ตั้งแต่บัดนี้ถึงต้นเดือนกรกฎาคม ติดต่อสอบถามได้ที่ 090-9861646 (คุณโต) ท่านสามารถเดินทางไปเองและนัดพบกันที่ลานอธิษฐานพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ในวันที่8(วันอาสาฬบูชา



    เจ้าภาพเครื่องทรงจักรพรรดิชุดละ 4000บาท(ถ้าท่านเจ้าภาพต้องการพลอยสีอื่นๆ สามารถ สั่งตามต้องการได้ มีสีแดง-เขียว-เหลือง-ฟ้า-ม่วง-ชมพู ตามสีประจำวันเกิด
    IMG_20170526_195235.jpg IMG_20170526_195551.jpg IMG_20170526_195838.jpg IMG_20170526_200112.jpg IMG_20170526_200435.jpg IMG_20170526_200754.jpg IMG_20170526_195023.jpg

    เจ้าภาพตุงสุริยันจันทราคู่ละ 4000บาท
    1495527861856.jpg
    ร่วมเป็นเจ้าภาพได้ที่
    ธนนท์ คุณานพรัตน์
    2400-65-2224
    ธ.กรุงเทพ

    ธนนท์ คุณานพรัตน์
    012-3-77903-7
    ธ.กสิกรไทย



    ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่จะได้เดินทางไปประเทศพม่าเพื่อถวายเครื่องบูชาอันเป็นมหามงคลยิ่งของปี2560 การเดินทางปีที่แล้วที่คณะจัดเป็นช่วงออกพรรษา แต่ปีนี้เราจะถวายก่อนเข้าพรรษาเพื่อให้ตรงกับวันอาสาฬหบูชา และครั้งนี้ได้รับโอกาสพิเศษในการถวายทานอันปราณีตจากทางพระมหาเจดีย์ โดยมีตัวแทนพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้รับ เพื่อความสมบูรณ์ บริบูรณ์ยิ่งๆขึ้นในการถวายทาน (ปกติจะไม่มีตัวแทนสงฆ์ ครั้งนี้พระอาจารย์นเรศ จะเดินทางไปกับคณะด้วย) ขอกราบโมทนากับทุกๆท่านที่เป้นเจ้าภาพ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ

    พระพุทธรูปสร้าง.JPG
    พิธีห่มผ้าพระพุทธรูปช่วงเข้าพรรษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2017
  2. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    รายนามเจ้าภาพตุงสุริยัน-จันทรา
    1.
    2.noinae/line

    3.ตะวัน/lineตุง1คู่-ผ้าไตรจีวร1ชุด
    4.ท่านทูต/คุณกนกวรรณ
    5. น.ส ยุวรินทร์ สิริธนันต์ชัย และ คุณ คุณากร ภูรีเสถียร

    6.พระอาจารย์ณรงค์เดช
    7.สุเมธ คุ้มวงษ์/line


    8.คุณคมสันต์ ปรมาภูติ /k/line
    9. คุณนกUSA/line

    10.คุณเลิศฤทธิ์ อรุณรุ่งวิเชียร/line-Puay Lertlit
    11. kaekae/line
    12.

    13. คุณวีระและครอบครัว

    14. นาย ชนสิทธิ์ สิริธนันต์ชัย
    15.คุณธนิตพงศ์
    16.คุณธนิตพงศ์
    17.คุณธนิตพงศ์
    18.คุณธนิตพงศ์
    19.คุณธนิตพงศ์
    20คุณธนิตพงศ์
    21.คุณธนิตพงศ์
    22.คุณธนิตพงศ์
    23.คุณน้อย volvo/new/line
    24.คุณเล็ก/line
    25.
    26.
    27.
    28.
    29.
    30.


    รายนามเจ้าภาพเครื่องทรงจักรพรรดิ
    1.คุณมี่/line/สีแดง
    2.
    พระอาจารย์นเรศ/สีเหลือง
    3.pongpang/line/pink
    4.ท่านทูต/คุณกนกวรรณ/สีเขียว
    5.คุณพันธ์ทิพ วิมลรัตน์/สีฟ้า
    6.คุณpan/line/สีแดง
    7. คุณคมสันต์ ปรมาภูติ/line/สีแดง

    8. คุณยุ-Swissland/สีชมพู
    9.พี่แสงและคณะ สีแสด


    10. คุณเลิศฤทธิ์ อรุณรุ่งวิเชียร /line- Puay Lertlit /สีชมพู
    11.
    12.สุเมธ คุ้มวงษ์/line/สีฟ้า
    13.คุณวีระและครอบครัว/สีแดง

    14.คุณhappiness/line /สีเขียว
    15.kaekae/line/สีแดง
    16.คุณคณัสนันท์และครอบครัว/สีเขียว
    17. น.ส ยุวรินทร์ สิริธนันต์ชัย และ คุณ คุณากร ภูรีเสถียร /สีเขียว
    18.นาง ฉัตร์กัญญา สิริธนันต์ชัย /สีฟ้า
    19.นาย ชนสิทธิ์ สิริธนันต์ชัย/สีแดง
    20.คุณธนิตพงศ์/ม่วง/new
    21.คุณธนิตพงศ์/ม่วง/new
    22.คุณธนิตพงศ์/ม่วง/new
    23.คุณธนิตพงศ์/แดง/new
    24.คุณธนิตพงศ์/ชมผู/new
    25.คุณธนิตพงศ์/ส้ม/new
    26.คุณธนิตพงศ์/ฟ้า/new
    27.คุณธนิตพงศ์/ฟ้า/new
    28.คุณน้อย volvo/new/line
    29.คุณmanote-pink
    30.คุณone-zee-purple
    31.คุณฝน/line-green

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2017
  3. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    หินสีทอง นี้ คือ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ้ก์ทิโย ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัวฤๅษี ตั้งอยู่ที่ เมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญ ของ ประเทศพม่า

    พระธาตุอินทร์แขวน หินสีทอง อัศจรรย์แห่งสมดุล ประเทศพม่า
    พระธาตุอินทร์แขวน บนยอดเขาพวงลวง อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต ลักษณะเด่นของ พระธาตุอินทร์แขวน คือ เป็น หินสีทอง ขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร รูปร่างไม่ได้ผิดแปลกจากหินทั่วไป แต่อัศจรรย์ใจตรงฐานที่ตั้ง อยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ ท้าทายแรงดึงดูดของโลก ทำท่าเหมือนจะหล่น แต่แท้จริงแล้วไม่ไหวเอนสักนิด ช่างเหลือเชื่อ ถือเป็นการวางน้ำหนักที่สมดุล โดยมีธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์

    Golden-Rock.jpg

    พุทธตำนานเล่าว่า ฤๅษีติสสะ เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระเกศาจากพระพุทธเจ้า ที่ทรงมอบให้ไว้เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้งมาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์ แต่ฤๅษีติสสะกลับซ่อนไว้ในมวยผม เมื่อเวลาล่วงเลย ถึงคราวที่ฤๅษีติสสะจะต้องละสังขาร จึงตั้งใจไว้ว่าจะนำพระเกศาไปบรรจุไว้ในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้าย “ศีรษะของเขา” ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) จึงช่วยแสวงหาก้อนหินดังกล่าวจากใต้มหาสมุทร และนำมาวางไว้บนภูเขาหิน

    Golden-Rock2.jpg


    พระธาตุอินทร์แขวน นับเป็น1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ คนเกิดปีนี้น่าหาโอกาสไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต

    Golden-Rock3.jpg

    Golden-Rock4.jpg


    Golden-Rock5.jpg

    พระธาตุอินทร์แขวน หินสีทอง

    Golden-Rock6.jpg

    Golden-Rock7.jpg

    พระธาตุอินทร์แขวน หินสีทอง

    Golden-Rock8.jpg

    …………………………………………

    พระธาตุอินทร์แขวน หินสีทอง อัศจรรย์แห่งสมดุล ประเทศพม่า

    ที่มา : http://www.travelet.com
     
  4. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ?temp_hash=760901b9f13d87d79c61868cd40a0fbb.jpg
    9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์รอบเจดีย์ชเวดากอง : 9 wonders of Shwedagon Pagoda
    นอกจากความยิ่งใหญ่ของมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว ยังมีเจดีย์น้อยใหญ่พระพุทธรูปอีกมากมายที่อยู่ในบริเวณเทือกเขาเชียงกุตระ ถ้ายังไม่เคยรู้ วันนี้ผมขอนำเสนอเกี่ยวกับ 9 พระพุทธรูปและพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รายรอบเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งชาวเมียนมาร์เชื่อว่า 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริง
    ................................................................................................................


    Pa damya Myetshin ta wagu /

    1.Tawagu wish-Fulfilling Buddha

    พาดัมญามิดชิ่นพญา ตั้งอยู่ในช่องด้านหลังบันไดทางทิศตะวันออก พื้นที่ส่วนนี้จำกัดเฉพาะผู้ชาย แต่หากสตรีสนใจจะสักการะเคารพบูชาก็สามารถทำได้ผ่าน CCTV ตามธรรมเนียมท้องถิ่นเชื่อว่ามีทับทิมที่มีพลังวิเศษอยู่ภายใน พระเนตรของพระพุทธรูปนั้นเสมือนดวงตาของมนุษย์จริง ด้วยเหตุนี้พระทาวากูจึงรู้จักกันในชื่อพระพุทธรูปเนตรทับทิมเสมือนจริง (พาดัมญามิดชิ่นพญา) ในอดีตช่วงที่กษัตริย์พม่าหรือมอญครองราชย์ จะห้ามเจ้าชายหรือรัชทายาทขึ้นมาไหว้พระพุทธรูปนี้ เพราะเกรงว่าจะก่อกบฎ เนื่องจากเชื่อกันว่าพระพุทธรูปพาดัมญาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่หากขออะไรไปแล้วก็จะได้สำเร็จเสร็จสมดังที่ปรารถนา

    2.The Weitzer Zawgyi Pagoda (Pagoda of Wizards and Necromancers)

    เจดีย์วิศะซอวจี จะอยู่ใกล้พระประจำวันเสาร์ และอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเจดีย์หลัก สร้างขึ้นโดย Dow Oo ของ Sint Oo Dan Street กรุงย่างกุ้ง ความมหัศจรรย์ของเจดีย์นี้เชื่อว่าถูกสร้างจากพลังเหนือธรรมชาติ บางคนเชื่อว่าความเจริญก้าวหน้าจะมาถึงหากมาทำสมาธิที่นี่เป็นประจำ

    Shin Saw Pu / Shin ma htee


    3.Shin Saw Pu
    พระพุทธรูปชินซอวพู อยู่ใกล้หัวมุมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สร้างโดยพระนางเชงสอบู กษัตริย์หญิงเพียงองค์เดียวของอาณาจักรมอญ แห่งราชวงศ์หงสาวดี พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในผู้ที่บูรณปฏิสังขรณ์จนเจดีย์ชเวดากองมีรูปทรงดังปัจจุบัน พระพุทธรูปนี้อยู่ใกล้กับ ระฆังมหาคันธร ของเจ้าราชบุตรสิงคุ ทางหัวมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเจดีย์ชเวดากอง พระพุทธรูปองค์นี้เชื่อว่าสามารถบันดาลให้สมความปรารถนาและสร้างความมหัศจรรย์ให้เกิดกับงาน


    4.Shin Ma Hti Buddha

    พระพุทธรูปฉิ่นมาชีประดิษฐานทางทิศเหนือห้องสวดมนต์ของเจดีย์เนืองดอวจี เชื่อกันว่าพระสงฆ์ฉิ่นมาชีสร้างเจดีย์นี้มาประมาณ 1000 ปีที่แล้ว ตามตำนานเล่าว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นเมื่อพระเกศธาตุของพระพุทธเจ้ามาถึงในครั้งแรก โดยตปุสสะและภัทลิกะสองพี่น้องวานิช ต่อมาพระเจ้าโอกกลาปะ ได้สร้างเจดีย์ชเวดากองแบบจำลองไว้บริเวณนี้ อีกตำนานบอกว่าตปุสสะ ผู้พี่ได้รับพระเกศธาตุอีก 1 เส้น เมื่อเดินทางไปอินเดียอีกครั้ง จึงได้อัญเชิญมาไว้บริเวณนี้และสร้างเจดีย์องค์เล็กอีก 1 องค์ แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนทางโบราณคดี ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดคือ เจดีย์เนืองดอวจีสร้างเพื่อเป็นแบบจำลองโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของเจดีย์ชเวดากอง เมื่อตอนพระนางเชงสอบูบูรณปฏิสังขรเจดีย์ชเวดากองเมื่อศตวรรษที่ 15



    Shin Izza Gawna / Buddha's hair relic

    5.Shin Itzagawna Buddha

    พระพุทธรูปฉิ่นอิทซ่ากาวน่า : ฉิ่นอจาโกวนา พระพุทธรูปนี้อยู่ทางด้านทิศใต้ของเจดีย์เนืองดอวจี พระพุทธรูปจะมีพระเนตรทั้งสองข้างที่มีขนาดแตกต่างกัน เนื่องจากความเชื่อที่ว่าผู้สร้างเจดีย์นี้ อจาโกนาได้รับการเปลี่ยนถ่ายดวงตาจากโคและแพะอย่างละข้างด้วยพลังวิเศษ เพื่อทดแทนดวงตาที่สูญเสียไปของเขา

    ตามตำนานอจาโกนาเป็นพระภิกษุสงฆ์จากพุกามยุคต้นที่มีประการณ์ในการเล่นแร่แปรธาตุ เขาพยายามที่จะหาหินอาถรรพ์ ซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นทอง ในการทดลองของตัวเอง เขาใช้หินโลหะจุ่มลงในกรด แต่ผลที่ได้กลับล้มเหลว เพื่อยอมรับความผิดพลาด เขาจึงยอมไถ่โทษโดยการควักดวงตาทั้งสองข้างออกต่อหน้ากษัตริย์ แล้วจึงโยนหินอาถรรพ์ลงไปยังหลุมส้วม ความประหลาดใจจึงบังเกิด เพราะส่วนประกอบสุดท้ายที่จะทำให้กลายเป็นหินอาถรรพ์คืออุจจาระ ด้วยต้องการแสดงอำนาจหินในมือ เขาจึงให้สามเณรไปซื้อตาคู่ของวัวหรือแพะ แต่สามเณรสามารถหาได้เพียงตาแพะและตาวัวอย่างละข้าง ด้วยความช่วยเหลือของหินอาถรรพ์ พระภิกษุจึงสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งจากดวงตาทั้งสองที่หามาได้ แต่กระนั้นก็ทำให้ดวงตาของเขาแตกต่างจากคนอื่น จึงเรียกกันว่า Ajagona หรือ รามกระทิง

    6.Sandawdwin Pagoda

    เจดีย์ซ่านดอววิน คือเจดีย์ที่พระเกศธาตุของพระพุทธเจ้าได้รับการสรง เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเหนือบ่อน้ำที่พระเกศธาตุของพระพุทธเจ้าจะถูกสรงก่อนที่จะประดิษฐานในเจดีย์ชเวดากอง
    ตามตำนานคนส่วนใหญ่เชื่อว่า พระเกศาทั้ง 8 เส้นของพระพุทธเจ้าได้นำมาสรง ก่อนที่จะขึ้นประดิษฐาน และยังมีการสลักภาพบนผนัง ระหว่างใบไม้และดอกไม้ ยังมีพี่น้องสองวานิช คือตปุสสะและภัลลิกะ ที่ได้รับพระเกศธาตุศักสิทธิ์จากพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งที่ถวายข้าวสตุก้อนและข้าวสตุผง วิหารศักสิทธิ์สร้างขึ้นเหนือบ่อน้ำพุที่ใช้เพื่อทำความสะอาดพระเกศา ต่อมาประดับตกแต่งด้วยงานกระเบื้อง กล่าวกันว่าน้ำในบ่อน้ำพุได้รับการหล่อเลี้ยงโดยน้ำจากแม่น้ำเอยาวดี (อิรวดี)

    Boe Boe aung/Labamunni

    7.Boe Boe Aung

    วิหารเจ้าโบโบ่อ่อง อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเจดีย์ชเวดากอง โบโบ่อ่องผู้สร้างเชื่อว่าเขามีพลังเหนือธรรมชาติ และใช้พลังอำนาจนั้นสร้างวิหารขึ้นมา สำหรับโบโบ่อ่องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงตอนต้นของศตวรรษที่ 19 จากพลังเหนือธรรมชาติของเขา ชาวเมียนมาร์หลายคนเชื่อกันว่าเพราะพลังทำให้เขามีชีวิตยืนยาว และปัจจุบันเขายังมีชีวิตอยู่ คอยดูแลคนที่ศรัทธาในตัวเขา

    8.Kukusandha Buddha:เล่เพ็ดเล็ด

    พระพุทธรูปที่อยู่ภายในอารามแห่งความศรัทธาทางทิศตะวันออก ความแตกต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่นอยู่ที่พระหัตถ์ขวาหงายขึ้นแทนที่จะคว่ำลง พระพุทธรูปองค์นี้มีหลายชื่อ เช่น Latpetlet (Latpatlet) Buddha , Shwe Let Hlan Buddha , Yadana Labamuni Buddha and Shwe Let Pyan Buddha

    (Lapatlet ในภาษาพม่าหมายถึงการหงายมือขึ้น)

    Pya Dar Shin

    9.Pyadashin Buddha Image

    พญาดาชิน พระพุทธรูปทองเหลืองตั้งอยู่ทางทิศใต้ถึงทิศตะวันออกบริเวณอารามแห่งความศรัทธาของเจดีย์ชเวดากอง ระหว่างวิหารและพระพุทธรูปประจำวันอังคาร มีความเชื่อกันว่า ลูกปาระทะ (Pyadashin หรือหินศักดิ์สิทธิ์) ที่ประดิษฐานอยู่ในพระเศียรของพระพุทธรูป ทำให้พระนลาฎยื่นออกมาเล็กน้อย

    แต่สำหรับบางท่าน อาจบอกว่าเจดีย์ซานดอววินในลำดับที่ 6 ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็น 1 ใน 9 สิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่รายรอบพระเจดีย์ แต่พวกเขากล่าวว่า วัดธรรมเจดีย์ และธรรมปาล คือ 1 ในสิ่งมหัศจรรย์นั้น โดยวัดนี้จะอยู่ใกล้วิหารหลักทางทิศตะวันออก และหันหลังให้กลับวิหารโบโบอ่อง ภายในวัดนั้นจะมีพระพุทธรูป 2 องค์ ทางเข้าจะมีราชสีห์และเสือเฝ้า ซึ่งแตกต่างจากวัดอื่นๆทั่วไปที่มีจะมีสิงห์คู่หรือสัตว์ในตำนานเฝ้าอยู่ คนพื้นเมืองเชื่อกันว่าสามารถมองเห็นรังสีสะท้อนของเพชรที่อยู่บนยอดเจดีย์ชเวดากองด้วยเพียงตาเปล่า ซึ่งหากขยับเพียงก้าวเดียวก็จะเห็นเปลี่ยนเป็นสีต่างๆทั้งแดง ส้ม ขาว เขียว ฟ้า ซึ่งเพชรด้านบนยอดขององค์พระธาตุเจดีย์ได้รับประทานมาจากพระเจ้าธรรมเจดีย์ แห่งราชวงศ์หงสาวดี (ผมสัมผัสมาแล้ว จริง)

    นี่เป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมได้อ่านมาเจอจึงนำมารวบรวมและแปลในแบบฉบับของตนเอง เพื่อให้ทุกท่านที่ได้ไปจะได้แวะชมให้ครบ ชมแบบให้รู้ว่ามีสถานที่ใดที่น่าจะแวะไปบ้าง เพราะบางทีข้อมูลที่ได้รับก็มีแต่เดิมๆ ไปทั้งทีนอกจากความยิ่งใหญ่ที่จะได้สัมผัสแล้ว ก็ไมม่ควรจะพลาดสถานที่สำคัญและมหัศจรรย์รอบๆพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองด้วย

    เนื่องจากแปลเองและภาษาอังกฤษก็ยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ถ้าหากข้อมูลส่วนใดผิดพลาดก็ขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ...สวัสดี

    ปัณฑ์ จันทร์แก้ว
    ท่านเจ้าภาพได้โปรดแจ้งชื่อนามสกุลด้วยนะครับ เพราะจะจารึกชื้อท่านและครอบครัวไว้บนตุงทั้งคู่ และสามารถจารึกชื้อของผู้ที่ร่วงรับไปแล้วไว้บนตุงด้วยเพื่ออุทิศบุญเจาะจงให้เชื่อกันว่าสามารถเปลื่ยนภพภูมิของดวงวิญญานให้ไปภพภูมิที่สูงขึ้น สาธุๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2017
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ?temp_hash=ed0d7c7fcb6faf6f5e7e6a21ad48ccde.jpg
    ที่มาและอานิสงส์แห่งการถวายตุง
    ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปเมืองไพสาลี พระเจ้าพิมพิสารจัดการบูชาใหญ่ มีการปราบพื้นที่ทั้ง ๒ ฝั่ง ๘ โยชน์ โรยดอกไม้ ๕ สี แค่เข่า แล้วก็พากันจัดฉัตรให้มีการบูชากันหนัก ฉะนั้นเวลาที่พระพุทธเจ้าทรงเหยียบพื้นธรณีเมืองไพสาลีเป็นครั้งแรก เกิดฝนตกหนัก บรรดาพระสงฆ์นั่งประชุมกันว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์จริงๆ บรรดาเพื่อนทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้านี่เราอยู่กับท่านมาปีเศษ ยังไม่เคยเห็นองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ แสดงปาฎิหารย์อย่างคราวนี้ เป็นอัศจรรย์มาก ต่างคนต่างชม เวลานั้นพระพุทธเจ้าเสด็จอยู่ในพระมหาวิหาร อาศัยความเป็นทิพย์ของโสตประสาท สมเด็จพระบรมโลกนาถฟังพระคุยกันก็เข้าใจ ฟังรู้เรื่องหมด
    สมเด็จพระบรมสุคตจึงมาพิจารณาว่า เราไปเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง จะมีประโยชน์กับพวกเธอบ้างไหม ? ก็ทราบว่าเมื่อคุยจบ เล่าเรื่องนี้จบ อานิสงส์จบ บรรดาท่านที่ฟังอยู่ทั้งหลายเหล่านั้น อย่างน้อยจะได้พระโสดาบันถึงอรหันต์ เมื่อเห็นว่าประโยชน์มี องค์สมเด็จพระชินศรีก็เสด็จไป เมื่อเข้าไปใกล้ถึงที่นั่นแล้ว บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายก็ปูอาสนะ คือปูผ้าอาราธนาองค์สมเด็จพระประทีปแก้วประทับนั่ง โดยจริยาของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ต้องทำตาม
    ท่านรู้ทุกอย่างแต่ก็ต้องถามว่า เธอนั่งคุยกันเรื่องอะไร บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายก็กราบทูลให้ทรงทราบ สมเด็จพระบรมโลกนาถจึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย การที่เขาปราบทางให้ราบเรียบก็ดี ๘ โยชน์ โรยดอกไม้ ๕ สีก็ดี กั้นร่มก็ดี เวลาเหยียบ แผ่นดินฝั่งโน้น ฝนตกก็ดี อันนี้ไม่ใช่บารมีที่ตถาคตบำเพ็ญบารมีมาดีเต็มแล้วเป็นพระพุทธเจ้า แล้วก็ไม่ใช่อานุภาพของเทวดาหรือพรหม หรือนาคบันดาล แต่ว่าเป็นผลความดีในกาลก่อนของตถาคตที่ทำบุญนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่ามีผลมาก เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าดำรัสอย่างนี้แล้วก็ทรงหยุดอยู่ ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้นแล้ว บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายที่อาราธนาองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ให้ดำรัสเรื่องราวความเป็นมา
    ท่านจึงตรัสว่าในกาลก่อนนี้ท่าน (ยังเป็นพระโพธิสัตว์ กำลังบำเพ็ญเพียรสร้างบารมีอยู่) ได้เกิดที่เมืองตักสิลา เป็นพราหมณ์ มีชื่อว่า สังขะ มีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า สุสิมะ ต่อมาเมื่อสุสิมะ โตอายุ ๑๖ ปี ก็อยากจะเรียนไตรเพท เพราะพราหมณ์เขาถือว่าเรียนไตรเพทแล้ว ถ้าจบเป็นพราหมณ์ชั้นดี
    พ่อก็บอกว่ามีพราหมณ์เป็นเพื่อนของพ่ออยู่ใน เมือง เขาเก่งมาก ก็พาเขาเข้าไปหาเพื่อนของพ่อที่เป็นพราหมณ์ เพื่อนของพ่อที่เป็นพราหมณ์ก็ดีมาก รู้ว่าเป็นลูกของเพื่อนก็เต็มใจสอนด้วยความเต็มใจ ท่านสุสิมะเรียนไม่ช้าไม่นาน เรียนจบเร็ว มีความฉลาดมาก เพื่อนของพ่อดีใจมาก รักมาก แต่ว่า ท่านสุสิมะ เป็นคนมีปัญญาสูง มีบารมีเต็ม เมื่อเรียนไตรเพทจบ ก็มาใคร่ครวญว่า ความรู้ที่เราเรียนนี้มันได้แต่ในเบื้องต้น กับท่ามกลางความเห็นเท่านั้นเอง เห็นเบื้องต้นกับท่ามกลาง แต่ไม่เห็นที่สุด (เบื้องต้นคือการเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา ท่ามกลางคือการเกิดเป็นพรหม แล้วที่สุดนั้นหมายความว่า หนีจากการเกิดต่อไปคือนิพพาน วิชาของพราหมณ์ไม่มี)
    ท่านสุสิมะ พิจารณาใคร่ครวญแล้วใคร่ครวญอีก แต่มันไม่ถึงที่สุด มองไม่เห็นที่สุดว่ามันจะไปจบชีวิตเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าไอ้เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่มันน่าเบื่อ เราไม่ควรจะเกิด แก่ เจ็บ ตายต่อไป มันควรความรู้ที่เรียน ควรจะพ้นจากการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย จึงเข้าไปหาอาจารย์ ท่านลุงครับ ความรู้ที่ศึกษานี่ ผมมองเห็นแต่เบื้องต้นกับท่ามกลาง แต่ก็ไม่เห็นที่สุด พอจะเข้าใจไหมครับ ที่สุดพอจะสอนผมได้ไหม ท่านพ่อบุญธรรมหรือท่านลุงบอกว่า ฉันก็เห็นแค่นั้นเหมือนกัน เห็นได้แค่เบื้องต้นกับท่ามกลาง ที่สุดก็มองไม่เห็น ท่านสุสิมะ ก็ถามว่า ใครครับที่จะเห็นท่านพ่อ ท่านเพื่อนของพ่อก็บอกเลยว่า ฤาษีในป่า ฤาษีในป่าเห็นที่สุด ท่านสุสิมะ ก็ลาไปหาฤาษีในป่า
    แต่ความจริงพราหมณ์เขาคิดว่าเป็นฤาษี แต่ความจริงเป็น พระปัจเจกพุทธเจ้า เวลานั้น พระปัจเจกพุทธเจ้ามาก เพราะมันเป็นเวลาว่างจากพระพุทธเจ้า เมื่อสิ้นศาสนาพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ก็มีพระปัจเจกพุทธเจ้า บรรลุขึ้นมา ไปหาพระปัจเจกพุทธเจ้า ถามถึงที่สุดแห่งการปฎิบัติให้พ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระปัจเจกพุทธเจ้า บอกคณะของเรามี คณะของเราทุกคนนี่ศึกษาถึงที่สุดด้วยกันทั้งหมด แล้วเมื่อศึกษาถึงที่สุดแล้ว ต่อไปขึ้นชื่อว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มี มีแต่ความสุข มีชีวิตอยู่ก็มี ความสุข ตายไปแล้วก็พ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต่อไป

    ท่านสุสิมะ ก็ขอศึกษา บรรดาพระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้เป็นอาวุโสก็บอกว่า ศึกษาได้ นี่ไม่หวง ใครอยากจะศึกษา ศึกษาได้ ก็ขอเรียนเดี๋ยวนั้น ท่านบอกเรียนเดี๋ยวนี้ไม่ได้หรอก เพราะแต่งตัวไม่เหมือนกัน คนจะเรียนวิชานี้ต้องแต่งตัวเหมือนกัน ถ้าแต่งตัวไม่เหมือนกันเรียนไม่ได้ ทั้งนี้เพระอะไร เพราะว่า สุสิมะศึกษาวิชาของพราหมณ์ แต่งตัวแบบพราหมณ์ ท่านพระปัจเจกพุทธเจ้า ถือว่าเป็น ความรู้ที่ต่ำ และพราหมณ์ทะนงตน ว่าเป็นพวกพรหม เป็นเพศที่สูง เป็นตระกูลที่สูง มานะมันยังมีอยู่ ท่านจึงแก้มานะ ว่าต้องแต่งตัวเหมือนกัน ดูซิว่าเขาจะยอมหรือไม่ยอม แต่ความจริง พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็คล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้านะ อย่าลืม มีกำลังสูงกว่าพระอรหันต์มาก เป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่ง แต่ว่าไม่สอนใครเป็นสาธารณะ ต้องการเฉพาะคนที่ศรัทธาไปหาท่าน
    เมื่อท่านสุสิมะ ฟังแล้วก็ตั้งใจ เอ้า ! บวชก็บวช แต่งตัวเหมือนกัน ท่านก็ปลงผม นุ่งสบง ห่มจีวรเหมือนกัน ท่านพระปัจเจกพุทธเจ้า จัดหามาให้ แล้วก็ตั้งใจศึกษา ในที่สุดไม่ช้า ใช้เวลาไม่กี่วันท่านก็บรรลุเป็น พระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ว่าการเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น เป็นไม่นานอีกเหมือนกัน อยู่ไม่นาน ไม่สักกี่วันนัก ก็เห็นจะประมาณสักเดือนเห็นจะได้มั้ง ท่านก็ต้องนิพพาน ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าท่านบอกกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทำให้อายุสั้นจะต้องนิพพานมาถึงท่าน ท่านก็ต้องนิพพาน กรรมประเภทนั้นก็คือ อำนาจของอกุศลกรรมที่มีโทษปาณาติบาต มาตั้งแต่ครั้งอดีตชาติ มันก็มาตามท่าน
    ท่านพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงนามว่า สุสิมะ นิพพานแล้ว บรรดาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย กับชาวเมือง (เมืองไพสาลี นะ) พากันทำการฌาปนกิจเผาศพท่าน แล้วก็สร้างสถูป สร้างเจดีย์เหมือนกับรูปบาตรคว่ำ บรรจุกระดูกของท่าน ต่างคนต่างไหว้บูชาในเวลานั้น
    ปรากฏว่า สังขพราหมณ์ เห็นลูกชายไปนานก็คิดถึง ก็ไปหาเพื่อน ถามกับเพื่อน ลูกชายอยู่รึเปล่า เพื่อนก็บอกว่าเขาเรียนจบแล้ว เขาไม่พอใจ เขาไม่เห็นที่สุด เขาขอไปเรียนกับฤาษีในป่า ท่านก็ไปที่เมืองไพสาลี ไปจากเมืองตักสิลา ไปเมืองไพสาลีนะ คิดว่าคนแถวนั้นอาจจะรู้เรื่องบ้าง เห็นเขาชุมนุมกันมีการบูชาทำประทักษิณเวียนเทียนพระสถูปก็เข้าไปถาม คิดว่าคนแถวนั้นคงได้ข่าวลูกชายเราบ้าง ก็ไปถามว่า นี่พ่อทั้งหลาย แม่ทั้งหลาย ได้ยินข่าวสุสิมะมานพนี่บ้างไหม คนทั้งหลายเหล่านั้นทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ เขากำลังเวียนเทียนพระสถูปของท่าน อ้อ ! สุสิมะ น่ะรึ ท่านสุสิมะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าตั้งแต่ยังหนุ่ม เด็กมาก อายุประมาณ ๑๖ - ๑๗ ปี แต่ความดีของท่านมีมาก แต่กรรมบางอย่างทำให้ท่านต้องนิพพานเสียแล้ว
    พวกข้าพเจ้ากำลังเวียน เทียนกับท่านนี่ ทำฌาปนกิจเสร็จก็ทำสถูปใช้เครื่องประดับ แล้วก็เวียนเทียนบูชาความดีของท่าน สังขพราหมณ์ได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้เสียใจ เสียใจมากทำยังไงล่ะ เขาบูชากันนี่ท่านเดินทางไม่มีอะไรมาเลย ก็เลยเอาผ้าขาวม้าของท่านที่ติดมานั่นล่ะ ไปกอบทรายข้างนอกใส่ผ้าขาวม้า ห่อมาก็โปรยปรายทาง ทำให้ทางข้างๆ พระสถูปนั้นราบเรียบ คือขนทรายมา ใช้ผ้าขาวม้าห่อ ไม่มีอะไร ใช้ผ้าขาวม้าจนทางเรียบพอใช้ได้ จะให้มันดีเหมือนถนนนั้นไม่ได้ แล้วไปเอาต้นไม้ที่มีดอกมาปลูกข้างๆ พระสถูป แล้วก็เอาน้ำมารดต้นไหม้ แล้วก็มันไม่มีอะไรทำ ธงก็เอาผ้าฉัตร ผ้าขาวม้านี่ทำธงขึ้นไปปักบนยอด มีร่มอยู่คันหนึ่ง เข้าไปกางบนยอดพระสถูป อย่านึกว่าพระสถูปแหลมเปี๊ยบจะดี นี่ไม่ใช่นะ เป็นรูปบาตรคว่ำขึ้นไปได้
    องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา จึงได้ตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกขเว ดูกรภิกษุทั้งหลาย คถาคตทำบุญเล็กน้อยเท่านี้ เป็นปัจจัยให้ได้การบูชาในสมัยนี้ คือที่พระเจ้าพิมพิสาร บูชาก็ดี พระเจ้ามหาลิ เจ้าเมืองไพสาลี บูชาก็ดี นาค คนธรรพ์ เทวดา พรหม บูชาเป็นการใหญ่ ยกฉัตรกันทั่วจักรวาลก็ดี เป็นบารมีในสมัยที่ตถาคตเกิดเป็น สังขพราหมณ์ บูชา ท่านสุสิมะ พระปัจเจกพุทธเจ้าจึง กล่าวเป็นอย่า งๆ ว่า
    การที่เขาปราบพื้นที่ให้เรียบ ๘ โยชน์ คือ ฝั่งนี้ ๕ โยชน์ ฝั่งโน้น ๓ โยชน์ รวมเป็น ๘ โยชน์ นั่นล่ะ อานิสงส์มาจากการเกลี่ยทราย เอาทรายมาโปรยปราย ทำให้ทางข้างๆ พระสถูปเรียบพอใช้ได้ มันไม่เรียบเหมือนถนน แต่ทำให้เป็นหลุมเป็นบ่อ ก็ไปทำให้มันเต็มนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นทางเรียบดี ท่านบอกอานิสงส์นี้เป็นปัจจัยเขาปราบทางให้เรียบ ๘ โยชน์ ที่ตถาคตจะเดินไปแล้วก็อาศัยที่เอาต้นไม้ดอกมาปลูกข้างๆ สถูป เป็นการบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่มีนามว่า สุสิมะ ก็เป็นเหตุให้ ๒ ฝั่ง เขาเอาดอกไม้ ๕ สี มาโปรยปรายในระหว่างทาง สูงประมาณเข่าที่เราตถาคตเดินไป
    การที่เขาจัดฉัตรให้แก่ตถาคตก็ดี คือร่มให้กับบรรดาพระสงฆ์ก็ดี เพราะอานิสงส์ที่ตถาคตจัดร่ม เอาไปกางไว้บนยอดพระสถูป
    การที่เขาจัด ธงทิว ปักเรียงรายตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั้ง ๒ ฝั่ง แล้วเทวดาและพรหมและนาค จัดธงแก้วมณีแก้วประพาฬ ธงวิเศษนั้นก็อาศัยผ้าขาวม้าที่เราไปทำธงบนยอดพระสถูป
    การที่ตถาคต เหยียบเมืองไพสาลี เป็นวาระแรกที่เขาถึงแล้วฝนตกใหญ่ก็เป็นปัจจัยจากการนำเอาน้ำมารดต้นไม้ที่ เป็นไม้ดอก เป็นปัจจัยให้ฝนตกใหญ่
    เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสเล่าเรื่อง นี้จบ บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายทั้งหมดที่ปุถุชนก็บรรลุพระโสดาบันบ้าง สกิทาคามี และอนาคามี และอรหันต์บ้างเป็นแถว
    ฟังของท่านแล้วก็จำให้ ดี การบำเพ็ญกุศลบุญราศีสักเล็กน้อยมันมีอานิสงส์มากอย่างนี้ แต่ว่าเราจะต้องบูชากันด้วยศรัทธาแท้ ขอพวกท่านทั้งหลายที่มีความดี จงรักษาความดีเหมือนเกลือรักษาความเค็ม อย่าให้ความดีถอยไป

    ความเชื่อและอานิสงส์การตานตุง (ถวายตุง)

    เรื่องการตานตุงหรืออานิสงส์การถวายตุงนี้ ปรากฏในหนังสือสังขยาโลก ตัวอักษรพื้นเมืองในคัมภีร์ใบลานมีว่า... มีภิกษุรูปหนึ่งท่านได้ไปเห็นไม้ตายแห้งท่อน หนึ่งมีลักษณะยาวงามดีมาก ท่านก็นึกที่จะเอาต้นไม้ไปทำ เป็นเสาตุงบูชาไว้ในวัดที่ท่านจำ พรรษาอยู่ แต่บังเอิญท่านมีอันเป็นลมปัจจุบันถึงแก่มรณกรรมลงในทันทีก่อนที่วิญญาณของท่านจะล่องลอยออกจากร่าง ท่านมีจิตประหวัดถึงแต่ไม้ท่อนนั้นจึงทำ ให้ต้องไปปฏิสนธิเป็นตุ๊กแก อาศัยอยู่ที่ไม้ท่อนนั้นได้รับทุขเวทนาเป็นเวลานาน ท่านจึงดลใจให้ชาวบ้านทราบว่า เวลานี้ท่านได้มาเกิดเป็นตุ๊กแกอาศัยอยู่ที่ไม้ต้นนั้น หากพอ พวกชาวบ้านศรัทธาอยากจะให้ท่านพ้นจากกองทุกข์ ก็ขอให้สร้างตุงเหล็ก ตุงทองถวายทานไว้ในพระศาสนา จึงจะช่วยบันดาลให้ท่านหลุดพ้นจากกองทุกข์นี้ได้ เมื่อชาวบ้านทราบเช่นนั้น ก็สร้างตุงเหล็กตุงทอง ถวายไว้ในพระศาสนา พระภิกษุรูปนั้นจึงพ้นจากกองทุกข์ไปเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

    อีกเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏศักราช มีความดังนี้ สิงห์คุตต์อำ มาตย์เอาตุงไปบูชาพระประธานองค์ใหญ่และพระเจดีย์คีรี ครั้นสิ้นอายุจะไปตกนรก พระยายมราชก็แสดงตุงนั้นให้เห็นแล้วกล่าวว่า “เมื่อท่านทำ บุญวันนั้น ท่านยังกรวดนํ้าแผ่กุศลถึงเราและบัดนี้ท่านจงขึ้นไปบนสวรรค์เทอญ”

    และอีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ยังมีนายพรานผู้หนึ่งล่าเนื้อมาตั้งแต่อายุได้ ๑๕ ปีจนถึงอายุ ได้ ๔๘ ปี วันหนึ่งเข้าป่าไปเพื่อจะล่าเนื้อ บังเอิญไปถึงวัดศรีโคมคำ ได้เห็นพระปฏิมากร องค์ใหญ่ และมีการประดับตุงเป็นพุทธบูชา เมื่อยามลมพัดต้องเกิดความสวยงามก็มีใจ พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็จัดแจงหาผ้ามาทำ ตุง แล้วเอาไปบูชาพระประธานองค์ใหญ่นั้น ครั้นนายพรานผู้นี้ตายไป พระยายมราชมิทันได้พิจารณาก็เอาโยนลงนรก ในทันใดนั้น ตุงที่นายพรานเคยทำเพื่อถวายพระประธานองค์ใหญ่นั้นก็พันเอาตัวนายพรานพ้นจากนรกเสีย พระยายมจึงพิจารณาดูแล้วก็บอกนายพรานขึ้นไปบนสวรรค์



    จุดมุ่งหมายในการสร้างตุง
    - ถวายเป็นพุทธบูชา สร้างบุญกุศลให้ตนเองและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้พ้นจากเวรกรรมและได้ขึ้นสวรรค์

    - ประดับประดาศาสนสถาน ศาสนวัตถุ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง

    - เพื่อสะเดาะเคราะห์ ขจัดภัยพิบัติต่าง ๆ ให้หมดไป โดยเฉพาะภัยที่เชื่อว่า เกิดจากภูติผีปีศาจ หรือบาปกรรมทั้งหลาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2017
  6. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนากับคุณณรงค์ชัย สุขประเสริฐ และ ครอบครัว ร่วมเป้นเจ้าภาพ6000บาท สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
     
  7. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนากับคุณธัญดา อุดมเพชรภัณฑ์ และ ครอบครัว ร่วมเป็นเจ้าภาพ4000บาท สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
     
  8. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนากับครอบครัวรักษาเกียรติ ร่วมทำบุญทั้งตุงและเครื่องทรงจักรพรรดิ4000บาท สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. itouch

    itouch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +111
    ข้าพเจ้า นายอรรถวุฒิ ไชยยา,นรินทร์โชติ หมายศูนย์คำ เเละครอบครัว ขอร่วมบุญนี้ด้วยนะครับ เเละขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย...สาธุ!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3371.JPG
      IMG_3371.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      149
  10. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับสาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนากับคุณสุเมธ คุ้มวงษ์ นาย กฤษณะ ชมศาสตร์ น.ส มัตติกา ชมศาสตร์ และ ครอบครัว เจ้าภาพตุง 4000บาท สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนากับคุณคมสันต์ ปรมาภูติ เป็นอย่างยิ่งร่วมบุญ2พระเจดีย์ 8000 บาท สาธุๆๆ
     
  13. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ท่านที่ไม่ประสงส์ออกนาม800บาท กราบโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. eakvega

    eakvega ELEVEn ๑๑

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +1,139
    ###ข้าพเจ้าฯ ขอมีส่วนร่วมในการจัดซื้อ"เครื่องทรงจักรพรรดิ,ตุงสุริยันจันทรา"ถวายให้แก่ (วัดพระธาตุเจดีย์ชเวดากอง และวัดพระธาตุอินแขวน)

    ###ขอเผื่อแผ่บุญกุศลที่ได้กระทำทั้งหมดในครั้งนี้ไปให้แก่ (ยาย จันทร์ ปัญญาตุ้ย -น้องสาวของ- ปู่ สม จิตจันทร์)

    ###ขอท่านทั้งหลายได้โปรดเป็นสักขีพยานและได้โปรดอนุโมทนาสาธุพร้อมกันเทอญฯ

    :::ขอร่วมถวายจตุปัจจัยเป็นจำนวนเงิน ๙๙.๙๙ บาท:::

    ***ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกคนทุกพระองค์ด้วยเทอญฯ***

    cGvaGa.png
     
  15. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนา สาธุๆๆครับ
     
  16. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับหลวงพ่อพระอาจารย์ณรงค์เดชเจ้าภาพตุงสุริยัน จันทนา1คู่4000บาท สาธุๆๆ
     
  17. tharaphut

    tharaphut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,721
    ค่าพลัง:
    +5,211
    ขอร่วมทำบุญร่วมถวายเครื่องทรงจักรพรรดิ และ ตุงสุริยัน-จันทรา ณ.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง และพระธาตุอินแขวนประเทศพม่าในวันอาสาฬหบูชา ได้โอนเงินแล้ว ธนาคารกรุงเทพวันที่ 26 พ.ค. 60 เวลา 11.40 น. จำนวน 20 บาท ข้าพเจ้านายธราภุช โพธิ์แสง และนางทองรวม จันทบัตร และครอบครัวขอร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับ
     
  18. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนาเป้นอย่างยิ่งๆครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เจ้าภาพเครื่องทรงจักรพรรดิชุดละ 4000บาท(ถ้าท่านเจ้าภาพต้องการพลอยสีอื่นๆ สามารถ สั่งตามต้องการได้ มีสีแดง-เขียว-เหลือง-ฟ้า-ม่วง-ชมพู ตามสีประจำวันเกิดถวายพระพุทธรูปศักสิทธิ์รอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง สาธุๆๆ
     
  20. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    กราบโมทนากับคุณยุและครอบครัวSwissland เจ้าภาพเครื่องจักรพรรดิ์4000บาท สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...