ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ติดตามท่าน นบ มาตั้งแต่สมัคร ขออนุญาติเรียนถาม ครับ
1 นิมิตร ดวงแก้วใส แกนในเปลวไฟเทียน
2 นิมิตร แท่งสี่เหลื่ยมผืนผ้า วางแนวตั้ง ขนาดประมาณเมล็ดข้าวเปลือก แสงสว่างจร้า
3 นิมิตร คล้าย ดวงจันทร์ ขึ้น15คำ่
ขอความกรุณา แถลงเพื่อประโยชน์แด่ข้าพเจ้า และท่านทั้งหลาย ที่อาจถึงทาง3แพ่งแห่งนี้ ว่าควรมีแนวทาง ในการพิจารณา ต่อไปอย่างไร
ขอบพระคุณครับ

 

เด่วมาตอบให้ครับ
กำลังขับรถบนเขาอยู่ครับ
แต่บอกนัยยะให้ก่อนว่า
นิมิตนี้คล้ายตอนที่
ท่านที่สำเร็จระดับจิตธาตุ
ซึ่งเป็นอาจารย์ท่านหนึ่ง
ของผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ ตอนที่
ท่านยังไม่ตรัสรู้ครับ(^_^)

 

มิมิตดวงแก้วใสเปลวเทียนขอบออกน้ำเงิน
ตามด้วยออกชมพู หรือไม่ก็ฟ้าอมน้ำเงินอย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ปลายเปลวเทียนเกือบ
ชนดวงแก้วและเปลวเทียนเรียวได้ส่วนคล้ายหยดน้ำ
ท่านว่าสัมผัสภายในบวกทาน เพื่อนำปัญญามาให้เกิด...

นิมิตคล้ายแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า แสงสว่างจร้าเป็นวงที่พื้น
และสว่างจร้าขึ้นบน ท่านว่าทำบุญทำทาน
โดยไม่หวังผล ไม่ว่าระดับใดหรือภพภูมิใดๆ
พาลพาไปให้เกิดดวงตาเห็นธรรม...

นิมิตคล้ายจันทร์ ที่บ้างก็เหมือนมีใบหน้าตาโตๆมองมา
ท่านว่าสร้างเมตตาหนุนนำจากภายในไปภายนอก
ช่วยเหลือสงเคราะห์โดยไม่หวังผลอะไร
จะได้พันธ์มิตรฝ่ายป้องกันคอยหนุนนำเป็น
กำลังระหว่างทางครับ...
ปล.ประมาณนี้ หากผิดพลาดขออภัยด้วยครับ..

 

ก่อนหน้านี้ โพสขอบคุณ ท่านnopphakan แล้ว โพสหาย 2รอบแระ
PM กะเปิดไม่ได้ งง
ขอความกรุณา ท่านnopphakan
ชี้เป้า ลิ้ง เพื่อหา ความรู้ วิชาว่าด้วยเรื่องจิตธาตุ ครับ
เนื่องด้วย ผมยังใหม่ สับสน ไม่สามารถเข้าใจ และจัดระเบียบ การเจริญธรรม
ในลำดับต่างๆ
ขอบพระคุณครับ
beelis01@gmail.com

 

ถ้าพิมพ์คำว่า อนุโมทน า ระบบจะลบโดยอัตโนมันติค่ะ สามารถใช้ปุ่มอนุโมทน า ด้านขวามือแทนได้ค่ะ

 

ถ้าจะถึงระดับจิตธาตุได้นั้น ในระดับนี้ไม่สามารถที่จะฝึกได้นะครับ ไม่ต้องไปเสียเวลาถามให้ยุ่งยากครับ
เพราะส่วนตัวถามมาแล้ว ๔ ท่านระดับสุดยอดความสามารถทั้งนั้น
ท่านก็พูดเหมือนๆกันหมดครับ เพียงแต่บางท่านจะเน้นเดินปัญญาไปเลย
บางท่านก็อาจสอนเทคนิคคอลเทอมให้ ขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าใช้งานเราด้วยครับ
และระดับจิตธาตุสามารถไปถึงได้ด้วยการวาง
การคลาย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญครับ
และตรงนี้มันมีวาระด้วยนะครับ
เรียกว่า จิตสามารถคลายตัวเองได้โดยธรรมชาติแทบจะทั้งวันของมันเอง
เรียกว่า มีทั้งกำลังสมาธิและปัญญาทางธรรมมากพอที่จะทำให้จิต
คลายจากความยึดมั่นถือมั่นเรื่องต่างๆได้
จนจิตคลายตัวเองได้โดยธรรมชาติครับ
นั่นหมายความว่า นอกจากเราจะต้องมีกสิณยืนพื้น(ซึ่งตรงนี้เฉพาะของคุณ
Nai4530ให้ฝึกกสิณแสงสว่างหรือกสิณสีเขียวอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ)
พอทำได้ ใช้งานได้แล้ว กองอื่นๆที่เหลือมันจะขึ้นมาได้เองครับ พอทำได้แล้ว
เป็นทุนและการฝึกตรงนี้ ต้องเน้นปั่นปฏิภาคนิมิตอย่างเดียวนะครับ
อย่าไปสนเรื่องอื่นๆทุกๆกรณี พอซักพักถ้าเริ่มนำไปใช้งานเพื่อบุคคลอื่นๆ
เด่วอากาศธาตุ วิญญานธาตุมันก็จะตามได้ของมันเอง ซึ่งความจริงมันก็รวม
ความว่างไว้อยู่ แต่ในทางปฏิบัติมันอาศัยความว่างเป็นฐาน และอากาศกับ
วิญญานจะทำงานพร้อมกัน และทั้ง ๓ อย่างมันก็ทำงานพร้อมๆกัน จึงแทบ
ที่จะแยกกันแทบไม่ได้ครับ บางทีหลายๆคนก็เรียกการฝึกแนวๆนี้ว่าวิชา
เดินธาตุโบราณ ซึ่งระดับสุดท้ายก็คือระดับจิตธาตุอย่างที่ได้เล่าให้ฟัง
ไปก่อนหน้านั่นนั่นหละครับ...
ถ้าจะฝึกแบบนี้ ให้ไปที่เฟสนะครับ ค้นหาชื่อ โพธิ ธรรมญาณ จะเจอท่าน
หนึ่งที่ห่มจีวรสีฝาดๆหน่อยนั่นหละ เป็นเป้าที่ดีสุดแล้วครับ
ท่านนี้จะสอนได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องความสามารถไม่เป็นสองรองใครใน
ประเทศนี้หรอกครับ..ที่ดีคือท่านยังแนะนำและสอนอยู่ ทั้งแบบมิจฉาฯ
ที่จำเป็นจะต้องฟิตหน่อยเพื่อให้เกิดผล พอทำได้แล้วค่อยเปลี่ยนมาเป็น
แบบสัมมาฯที่จะต้องทิ้ง ต้องวางเพื่อไปถึงระดับจิตธาตุครับ...
กสิณกับวิชาเดินธาตุถึงในระดับรองสุดท้ายส่วนตัวไม่ได้เรียน
กับท่านที่เป็นมนุษย์ครับ เป็นการเรียนกับครูบาร์อาจารย์สายตรง
ทางภพภูมิทั้งนั้นครับ..ถ้าเป็นเรื่องกสิณยังไงลองวัดดวงดูนะครับ
ส่วนเรื่องวิชาเดินธาตุโอเคอยู่ ท่านที่มาสอนรับรู้ ข้าพเจ้าท่านทราบแล้วครับ..
ส่วนกสิณถ้าจะฝึกให้สำเร็จให้ตั้งเป้าไว้อย่างนี้คือ
๑.เพื่อเรียกของเก่า และ ๒.เพื่อมุ้งเน้นใช้งานสำหรับประโยชน์ทางธรรม
และช่วยเหลือสงเคราะห์บุคคลอื่นๆหรือมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์บุคคลอื่นๆ
ที่ไม่ใช่ประโยชน์ตน โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น..
ให้ไปค้นใน Youtube พิมพ์คำว่า ปฏิสัมภิทาญาน จะเห็นหลวงพ่อ
ท่านหนึ่ง ในชุดนั้นจะมี ๖ ตอน โพสต์โดยคุณ nueng2027
ฟังดีๆตอนที่ ๓ หรือ ๔ หรือ ๕ นี่หละครับ
ทริคจะเป็นตอนที่ท่าน พูดเสียงเบาๆลงหน่อย และเสียงโทนเดียวกัน
จับทริคให้ดีๆนะครับ...นั่นคือท่านที่สอนเทคนิคคอลให้เข้าถึง
ผลสำเร็จในกรรมฐานกสิณ จนนำมาใช้งานจนถึงทุกวันนี้เช่นกัน
วัดดวงดูนะครับจำไว้นะครับ ถ้าท่านมาต้องห้ามขี้เกียจ ห้ามอู้
และต้องสม่ำเสมอนะครับ ต้องวางระเบียบการฝึกให้ดีๆด้วยครับ
ถ้าผ่านท่านนี้ได้ เด่วเรื่องเทคนิคการใช้งาน
จะเป็นพระมหาฤาษีท่านต่างๆจะมาสอนต่อให้เองครับ
ถ้ายังตั้งเป้าไว้แบบเดิม ส่วนเป็นท่านใดนั้นไม่สามารถ
บอกได้ครับ..
ปล.ตั้งเป้าไว้ดีๆนะครับ หรือถ้าไม่มีท่านใดมา
ก็เรียนกับท่านในเฟสที่ได้แนะนำไว้
ยังไง ปรับพื้นฐานเรื่องระบบหายใจไว้ให้ดีๆนะครับ
หรือถ้าบางที ถ้าวาระมาถึงจริงๆถ้าได้เจอตัวกันเป็นๆ
คุณอาจจะทำได้เลยโดยไม่ต้องฝึกก็ได้นะครับ
ใครจะไปรู้ เหมือนๆในนี้หลายๆคนที่เคยเจอกัน
แต่บางคนไม่สดวกนำไปใช้งานในเกิดประโยชน์
กับคนอื่นๆ จึงได้แต่รับรู้พลังไปเล่นๆ เอาไว้ดูผีแก้เซง..
แก้ขัด ดีกว่าไม่มีอะไรทำ พอให้รู้ว่า เห้ย!
มันมีจริงนะ ทำได้จริงนะ (นินทา ๕๕๕).
ปล.ประมาณนี้หละครับ เส้นทางตรงที่แนะนำแบบ
ขับรถต้องระวังหลับในแล้วครับ

 

ที่ผมว่า
สับสนไม่สามารถเข้าใจ และจัดระเบียบ การเจริญธรรม ในลำดับต่างๆ
เข้าใจแล้วครับ คือ ที่ปฎิบัติอยู่ ให้แบ่ง เป็น 3 วิชา หมวด
ลำดับแรก ให้แยกฝึก แบบชัดเจนหมวดไปให้ถึงที่สุด
-วิชา กสิณ ไปให้ถึงใช้งานได้จริง
สถานะ ปัจจุบัน
ของเก่า มาครบทั่ง10ครับ แต่ติดเรื่องการปั่นปฏิภาคนิมิต คือจิตยังเข้าไปกำหนด
อะไรไม่ได้ ปฏิภาคนิมิตจะปั่นเอง อัตโนมัติ จิตทำได้เพียงเฝ้าดู ประคองอยู่ไม่ต่ำกว่า อุปจาระ
จบแล้ว2ชุด กะลังปั่นชุด3
-นิมิตกรอบสี่เหลี่ยม พื้นหลังดำ มีลายเส้นลายไฟแนวตั้งหลายเส้นเป็นระเบียบ
ตรงกลาง รูปครึ่งตัว ลพ ฤษ
-นิมิต มือ ลักษณะ แบมือ มีลูกแก้วสีเขียวเข้มเกือบดำ เงามันเลื่อม ไม่มีแสงในตัว
อาโล ปกติ ดวงสว่างทรงกลมไร้เส้นขอบ มีนำเงินแพรวพราว กะจะมีดวงสีดำทรงกลมไร้เส้นขอบ
เรืองแสงริมขอบ ขนาดเล็ก มากกว่า10ดวง ล้อมดวงอาโล
-วิชา เดินธาตุโบราณ ไปให้ถึงใช้งานได้จริง
สถานะ ปัจจุบัน
ร่างกายปั่นป่วน คุมอุณหภูมิไม่สเฐียร ร้อน หนาว เย็นในจิต แปรเปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อย
นิมิตDVDเรืองยาว ส่องจิต ดวงเล็กสว่าง เดินทางรักษาไต และในหลอดเม็ดเลือด
กำหนดรู้ และดู อย่างเดียว
-วิชา ว่าด้วยเรื่องจิตธาตุ-ธรรมกาย ประคองตามไปแล้วรวม 3 วิชา
ด้วยการวาง การคลาย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
สถานะ ปัจจุบัน
-ขณะเจริญ อาโลกสิณ ปกติ ดวงสว่างทรงกลมไร้เส้นขอบ
มีนำเงินแพรวพราวตรงกลาง อยู่กลางจอ
กะปรากฎ รูปมานพโปร่งแสง ลายเส็นสีคล้ายทองแดง อยู่ด้าน ขวาบน
และรูป ธรรมกายนั่ง มุมมองจากด้านบน โปร่งแสง ลายเส็นสีขาว สักครู่
สีเริ่มเปลี่ยนจากด้านบนลงล่าง จากขาวเป็นเขียวมรกต ปรากฎที่ซ้ายล่าง

-อธิษฐานจิต ขอเห็น จิตเดิม
กำหนดอารมณ์ หยุด ว่าง กะปรากฎ นิมิต จิตเดิมให้เห็น

หลักการตามนี้ ถือเป็น โรดแม็บ ได้ป่าวครับ
ผิดถูกยังไง ขอได้โปรดชี้แนะ ท้วงติง เฆี่ยนตี ได้นะครับ
ในรายละเอียด กะค่อยๆศึกษาไป เดินหน้าบ้าง ติดหล่มบ้าง กะว่ากันไป
แล้วแต่วาระ, กรรม ได้เท่าไร กะเท่านั้น หละครับ

สถานะ ปัจจุบัน สีเขียว แจงให้ท่าน nopphakan ทราบ
เพื่อเป็นกำลังใจ ว่าสิ่งที่ท่านมอบและปราถนาแด่ผม ไม่สูญปล่าวครับ
และเป็นกรณีศึกษาแด่ เราท่าน ทั้งหลายที่อาจ ติดขัดคล้ายคลึงกัน ทราบ


สุดท้าย ต้องขอกราบขอบพระคุณ ท่าน nopphakan
และบรรพจารย์ เป็นอย่างสูง

 

เด่วเสริมให้อีกนิดเดียวก็จะใช้งานได้แล้วหละ
เอาอย่างนี้นะครับ
พลังงานกสิณพอได้แล้วนะครับ
ให้ดึงขึ้นมาบนมือก่อนทีละกอง
ให้มาหมุนบนฝ่ามือทั้ง ๒ ข้างก่อน
เล่นๆไปเรื่อยๆก่อนไล่ไปจนครบ..
และก็มาฝึกเพิ่มความหนาแน่นตอนนั่งสมาธิ
ทำมือเป็นสามเหลี่ยมไม่ต้องชนกัน ความหนา
แน่นจะเพิ่มได้เองแล้วค่อยๆขยายมือให้กว้าง
ในลำดับต่อมาเพื่อฝึกขยายวงพลังงานของมัน

แต่ช่วงนี้พลังงานมันจะไม่เหมือนสมัยก่อน
ตามรูปในเนทแล้วเพราะแกนโลกมันเอียง
พลังงานกสิณจึงรวมกับพลังงานภายนอก
เวลาสังเกตุจะยากหน่อย
พอดึงขึ้นมาบนมือแล้ว ให้หัดส่งพลังงานออกไป
ในวัตถุ และในเวลาปกติ ให้ใช้มือนั่นหละ
ไปดึงพลังงานจากภายนอกเข้ามาอีกเช่นกัน
และให้หัด ถ่ายเทพลังงานส่วนเกินให้เป็นนิสัย
ด้วยการไปยืนเหยียบหญ้าหรือบนพื้นดิน
กำหนดให้พลังงานส่วนเกินจงออกจากร่างกายข้าพเจ้า
จนร่างกายโปร่ง โล่ง เบา
ตัวจิตจะได้ชินกับการ ดึง ดูด และถ่ายเทครับ
ตรงนี้จะไปสัมพันธ์กับการใช้งานได้จริง
ในโหมดวิชาเดินธาตุได้ของมันเองอัตโนมัติ
ซึ่งอารมย์ตอนใช้งาน มันจะรวมทั้งกสิณทั้งโหมดวิชาเดินธาตุ
ไปในคราวเดียวกัน ตรงนี้พอเข้าใจเนาะ
และจะแก้อาการปั่นป่วนของร่างกายเราได้ด้วย

ส่วนการรักษาพอเราคล่องในการดึงพลังงานแล้ว
ให้กำหนดพลังงานนั้นๆไปยังตำแหน่งที่รักษาในร่างกาย
อวัยวะที่มีการส่งถ่ายอะไรที่เป็นน้ำ ให้ใช้กสิณน้ำ
รอบหนึ่งไม่ควรเกิน ๒ นาที เช่น ไต เบาหวาน (เพียวๆน้ำ ๕ รอบ)เป็นต้น
อวัยวะใดที่มีการส่งถ่ายลม ให้ใช้ กสิณไฟ เช่นส่วนเกินที่ ปอด
ท้อง อวัยวะช่วงล่าง (ไฟ ๓ รอบ) รอบละไม่เกิน ๒ นาที
และให้ปิดด้วยกสิณน้ำทุกครั้ง..ห้ามใช้ดินบริเวณสมองกับคน
ที่แพ้ธาตุไฟเป็นอันขาด...เพราะจะให้เอ๋อๆได้..
ถ้ารักษาหู ให้วางมือทั้งสองข้างไว้ข้างหู
แล้วปรับกระแสพลังงานระหว่างมือทั้งสองข้างให้เท่ากัน ประมาณนี้
ที่เหลือลองๆทำและสังเกตุดู แต่จำเอาไว้ว่า ต้องปิดด้วยน้ำทุกครั้ง..
ยังไงให้ลองผิดลองถูกดูด้วยจะได้อะไรมากกว่า
และอย่าลืมเคลียตัวเองให้โปร่งโล่งทุกครั้ง
ด้วยการถ่ายเทพลังงานอย่างที่บอก



ทีนี้ข้อสุดท้ายอาโลกสิณนั้น ให้เปลี่ยนมาเป็น
แบบลืมตาแทน ให้มองผ่านเหนือระหว่างคิ้ว
ออกไปในอากาศในมุมสุง
จะกำหนดเห็นภาพอะไรก็ดูว่า
เริ่มจะเห็นได้ไหม ไม่ต้องไปเข้าสมาธิอฐิษฐานจิตแล้วนะ
ให้ใช้สภาวะการใช้งานนี้ไปเลย
ให้ฝึกทำตอนลืมตานี่หละครับ
ส่วนภาพที่ปรากฏได้แค่ไหนก็แค่นั้น
จะรู้ได้แค่ไหนก็แค่นั้น...
เด่วมันจะพัฒนาได้เองตามลำดับ
ตามแต่การคลาย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญของเรา
ที่กล่าวมานี้คือ ขั้นตอนสู่การ
นำไปใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน..
น่าจะได้เริ่มเห็นประโยชน์แล้วหละตอนนี้(^_^)

 

รายงาน ครับ

ให้ดึงขึ้นมาบนมือก่อนทีละกอง
ให้มาหมุนบนฝ่ามือทั้ง ๒ ข้างก่อน
เล่นๆไปเรื่อยๆก่อนไล่ไปจนครบ..
และก็มาฝึกเพิ่มความหนาแน่นตอนนั่งสมาธิ
ทำมือเป็นสามเหลี่ยมไม่ต้องชนกัน ความหนา
แน่นจะเพิ่มได้เองแล้วค่อยๆขยายมือให้กว้าง
ในลำดับต่อมาเพื่อฝึกขยายวงพลังงานของมัน


ลองแล้วครับ สัมผัสพลังงาน ความร้อนได้
แต่ยังไม่มีความหนาแน่น ถ้านำวัตถุมงคล
ไว้ในฝ่ามือ จะได้ความแตกต่าง ชัดเจน ครับ


ให้หัดส่งพลังงานออกไป
ในวัตถุ และในเวลาปกติ ให้ใช้มือนั่นหละ
ไปดึงพลังงานจากภายนอกเข้ามาอีกเช่นกัน


แฮะๆ (ทามมะเปง) ขอคำชี้แนะครับ


ทีนี้ข้อสุดท้ายอาโลกสิณนั้น ให้เปลี่ยนมาเป็น
แบบลืมตาแทน ให้มองผ่านเหนือระหว่างคิ้ว
ออกไปในอากาศในมุมสุง
จะกำหนดเห็นภาพ


ตาที่สาม ติดตั้งเรียบร้อย ครับ
ยังไม่เห็นภาพ แต่เป็นวงม่านมิติ ชัดเจน ครับ
(แบบลืมตา)



กราบขอบพระคุณ

 

พลังงานบนฝ่ามือจะคล้ายๆลูกบอลถ้าเมื่อก่อนนะครับ
และลูกหมุนที่หมุนๆได้นั้น จะมีเอกลักษณ์ที่ทำให้ทราบ
ได้ว่า นี่คือ กสิณกองอะไร แต่ปัจจุบันเป็นยุคที่ข้างบน
ทำงานร่วมกันไม่แยกเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งส่งผลให้ใช้งาน
ได้ดีขึ้น ง่ายขึ้น ได้ผลดีขึ้น บวกกับแกนโลกเอียง
เมื่อซักปีก่อน ทำให้ลักษณะลูกบอลที่เคยกลมๆสังเกตุได้ง่าย
มันเปลี่ยนไปเนื่องจากมีกระแสทางด้านพลังงานภายนอกมาร่วม
ด้วยแบบอัตโนมัติ ตรงนี้ค่อยๆทำไปก่อนครับ
อาจจะต้องอาศัยการนั่งสมาธิแล้วทำร่วมด้วยครับ..

ส่งจะส่ง ดึง ดูดได้ จะมาหลังจากที่รวมเป็นก้อนบนฝ่ามือได้
ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเช่นกันครับ
ไม่แน่ว่า อาจจะต้องเจอบททดสอบ
จากภาคส่วนภพภูมิด้วยนะครับ
จำไว้ ให้ยอมตามอย่างเดียวพอ..

ส่วนวัตถุมงคลยังไม่ต้องรีบร้อนไปจับ ไปโดนครับ..
เพราะเรายังจัดการพลังงานเบื้องต้นไม่ได้
แม้ว่าเราจะรับรู้ได้ก็ตาม เด่วไปเจอพลังงาน
ที่บรรจุโดยพระมหาฤาษี พลังงานที่บรรจุ
จะย้อนเข้าตัวทำให้แขนเราจะชาได้
ถ้าชาจะเป็นหลักสัปดาห์กว่าจะหาย
ดังนั้นสร้างภูมิต้านทานด้วยการจัดการ
พลังงานบนฝ่ามือของเราให้ได้ก่อนครับ...

ส่วนพระเครื่องปกติไม่ต้องจับครับ
ถ้ายังต้องจับ ยังต้องแตะที่วัตถุยังถือว่าห่างไกล
สำหรับโหมดใช้งานครับ
อายเค้าครับ ส่วนตัวไม่พาทำหรอกครับ
มันเบสิคเกินไป และไม่ใช่ระดับใช้งานจริงๆครับ
เด่ว จัดก้อนพลังงานได้เมื่อไร
จะแนะนำแบบที่ไม่ต้องไปแตะให้เองครับ..

ตาที่สาม การเห็นเป็นวงได้เป็นระดับเริ่มต้นที่
ดีแล้วครับ ต่อไปจะเห็นเป็นขอบก่อน และจะพัฒนา
เป็นสีมาให้เห็นร่วมด้วย..ตรงนี้มาถูกทางแล้ว
ค่อยๆเป็นค่อยๆไปอีกเช่นกันครับ
ตาก็จะมาพร้อมๆกับ ระดับ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
ที่ลดลงนั่นหละครับ และจะมาพร้อมกับหูพิเศษครับ...(^_^)
พวกตานี้ ปกติจะไม่มาแบบฟูลออฟชั่นนะครับ(หมายถึง
ถ้าจะเริ่มใช้งาน)เพราะไม่งั้น อาจจะทำให้เราเพี้ยนได้
ถ้าไปเจอระดับที่มีฤิทธิ์มากแล้วแสดงแบบเต็มตัวครับ...(^_^)
ทั่วไปถือว่ามาถูกทางแล้วหละครับ ไม่มีอะไรน่าห่วง

ปล.ประมานนี้ครับ (^_^)

 

ก่อนอืน ต้องกราบขอบพระคุณ ทจขกท.ท่าน nopphakan,
และทุกๆท่านที่มารวมตัวให้ ความรู้ต่างๆ ในที่แห่งนี้

วันนี้ ผมกะจะถือโอกาศ ขออนุญาติ เรา ท่านทั้งหลาย โปรดพิจารณา
เรื่อง ของเก่า
เรา ท่านทั้งหลาย ที่ได้มีโอกาศ ชนของเก่าแล้ว กะจะมองว่า เป็นเรื่องไม่ยาก
แต่สำหรับท่าน ที่ยังไม่มีโอกาศชนของเก่า กะจะมองว่า ยากหรือไกลตัว
ผมกะอยู่ใน ฐานะ ไก่อ่อนสอนขัน แต่กะอดห่วง เรา ท่านทั้งหลาย
ที่ยังไม่มืโอกาศชนของเก่า จะหมดกำลังใจ ถ้อถอย หรือเลิก หยุดพัก
ไปเลย
ยังก่อน ประตูทางเข้า มิได้มีทางเดียว เรา ท่านทั้งหลาย เป็นผู้ศึกษา
แนวทางปฎิบัติมาดีแล้ว ทั้งสิ้น มิฉะนั้น คงไม่มาพบกันในที่แห่งนี้
แต่ที่ไม่ชนของเก่า อาจเป็นเพราะ ไม่ตรงกับของเก่าที่เรามี หรือจะว่า
อย่างไรกะตาม มันกะลงที่ มีเหมือนไม่มี อยู่ดี ใช่เหมือนไม่ใช่ อยู่ดี
วันนี้จะขอให้ท่าน ที่เจริญ อานาปา จนถืง ณาน4 แล้วยังไม่ชนของเก่า
เจริญ กสิณ แล้ว กำหนดรูป พระ หรือ ดวงกสิณ ไม่ปรากฎนิมิต
ทำมากะนานแล้ว หลายเดือน หลายปีแล้วยังไม่ชนของเก่า จนแบื่อหน่าย
อยาก หยุด เลิก เพราะรู้สึกว่า ไม่พัฒนาสักเท่าไร
ยังก่อน ลองใหม่ครับ กลับไปทบทวน เรื่อง เกียวกับ อรูปณานทั้งหมด
ตั้งแต่ต้น จน ปิติ นิมิตต้น นิมิตปลาย ว่ารูปร่างลักษณะเป็น อย่างไร
แล้วมาเริ่ม ที่เจริญ อานาปา ให้ถึงที่สุด เมือจิตตกลงสู่ อุปจาระ
ให้พืจารณา ที่หน้อจอของท่าน ว่าจะประมวลเข้า นิมิตต้น ของกสิณกองใด
ทรงอารมณ์ อุปจาระ ภาพหน้าจอ ไม่จำเป็นต้องมีรูปทรง แต่ขอให้อยู่ใน
ลักษณะความหมายแห่ง กสิณ นอกนั้นไม่เอา ปัดออก
เมื่อพิจารณาแล้ว ว่าน่าจะอยู่เกี่ยวข้องกะกสิณกองใด กะเลือกคำภาวนา
กองนั้น ขึ้นมาแทน คำภาวนา ของอานาปา ที่ท่านใช้
ที่เหลือ กะ ใช้ผู้ดู ดูอย่างเดียว ว่าไปตามแนว อานาปา ไม่นานนัก
จะเรื่มเข้า ปิติ ของกสิณ ใหม่ คล้ายของ อานาปา จนเข้าสู่ ณานตามลำดับ
ระหว่างนี้ ท่านกะ ใช้ผู้ดู ดูอย่างเดียว(ถ้าจะพิจรณา กะให้เข้าไตรลักษณ์)
ไม่นานนัก กะชนของเก่า
ผมเอาใจช่วยอยู่ นะครับ เป็นแนวที่ผมทำมา ลองดู ก่อนจะท้อถอยนะครับ
ขอให้ท่าน สมความปรารถนา ดังที่ตั้งใจ ไว้เทอญ
สวัสดี

ปล.ผิดถูกอย่างไร ขออโหสิกรรม ตลอดทุกกรณื

 

พูดได้ดีครับ (^_^)

 

รายงาน

ส่งจะส่ง ดึง ดูดได้ จะมาหลังจากที่รวมเป็นก้อนบนฝ่ามือได้
ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเช่นกันครับ
ไม่แน่ว่า อาจจะต้องเจอบททดสอบ
จากภาคส่วนภพภูมิด้วยนะครับ
จำไว้ ให้ยอมตามอย่างเดียวพอ..

บททดสอบ จากภาคส่วนภพภูมิ กะมาเป็นระยะๆครับ ส่วนใหญ่ ตก ไม่ผ่าน
จะมา3ลักษณะ คือ
1 ในฝันหลับลึก ภาพขาวดำ ส่วนใหญ่ ตก (แฮๆๆ) สติธรรมตามไม่ทัน
2 นอนในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ภาพสี เสียง สดใสชัดเจน DVDเดินเรื่อง
พอได้โครงเรื่อง สติธรรมเราจับได้ ตรงไหน กะหยุดเป็น ภาพนิ่งให้ พิจารณา
3 ขณะเจริญ สมถะ นิมิตภาพสี เสียง สดใสชัดเจน DVDเป็นตุ เป็นตะ
โดยมาก เดินเรื่อง พอได้โครงเรื่อง ว่าไม่อยู่ในธรรมที่เจริญอยู่ ไม่สนใจว่าเรื่องไร
ตัดออก ไม่ โสๆๆๆ
สถานะ ลืมตา ทำมือ สามเหลี่ยมปลายนิ้วไม่ชนกัน อโลกสิณ
เห็นดวง อโลกสิณ กลมใส ขนาดเท่า ลูกปิงปอง กำหนด ย้ายที่ได้
มีอุณหภูมิ แต่ความหนาแน่นยังน้อยมาก
ขณะนั่ง ลืมตา หงายฝ่ามือ วางที่เข่าแต่ละข้าง
มือซ้าย ที่ฝ่ามือ มีอุณหภูมิ เห็นดวง อโลกสิณ กลมใส ขนาดเท่า
ลูกหินเด็กเล่น
มือขวา ที่ฝ่ามือ ไม่มีอุณหภูมิ แต่เป็น ลมหมุน เห็นดวงกลมสี ขุ่นใส
ขนาดเท่า ลูกหินเด็กเล่น
รายงานมีเท่านี้ครับ ส่วนเรื่องทดสอบ เล่าไป ท่านอื่นๆจะว่า
ไอ้ขลัวนี่ มันบ้าเป็นตุเป็นตะ เง้อๆ

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ ต้องขอคำ แนะนำ
เหตุเกิดก่อนที่ ผมจะเริ่มขอความรู้ จากท่าน nopphakan ไม่นาน
คือว่า ได้รับข่าวทางTEL ว่าญาติผู้พี่ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
รักษาตัว ที่ รพ. แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ชวนเราไปเยี่ยมด้วยกัน
แต่เราไปไม่ได้ ขอรอดูรายละเอียดก่อนละกัน ระหว่างนั้นกะไม่รู้ว่า
จะช่วยเหลืออย่างไร นอกจาก ช่วงสวดมนต์เย็น กะแผ่กุศลไปหวัง
แบ่งเบา ภาระกรรม ตามประสา ไก่อ่อนสอนขัน
ตั้งแต่รู้ข่าว กะทำให้ทุกวันช่วงสวดมนต์เย็น มีอยู่วันหนึ่ง งานเข้า
ช่วงสวดมนต์เย็น ในช่วงบทสวด ท่านสมเด็จ(ปกติวันละ10จบ)
ประมาณจบที่2ขึ้น3 จิตอยู่อุปจาระขณะสวด ดันไปคิดว่าจะ
ช่วยเขาอย่างไรดีหนอ กะ มโนเกิด เห็นรูปหน้า ญาติผู้นี่ หมุนให้เห็น
ซ้าย ขวา ว่าใช่ เรากะเอา สายสินไปวนไว้ที่ ศีรษะญาติผู้นี่ ในขณะที่
สวดบทสวด ท่านสมเด็จ ไปเรื่อยๆ ประมาณจบที่ 7-8 กะเห็น วิญญาน1ดวง
ลอยออก จากกลางวงสายสิน กะดูอย่างเดียว แล้วกะสวดจนจบการสวดมนต์เย็น
หลังจากจบแล้ว กะไม่ได้สนใจไร
งานเข้าดิ เช้าตื่นมา กามซ้ายขัดๆ เจ็บๆ กะคิดว่านะจะ นอนทับหูฟัง
ปกติ จะหลับไปกับการนอนฟังเทศ ปล่อยไป 4-5 วันค่อยทุเลา
กะลองTEL เช็ค ความเคลื่อนไหวญาติผู้นี่ ว่าเป็นไงบ้าง
กะได้รับข่าว ว่า ย้ายออกจาก รพ.มารักษาตัว บ้านพี่สาวหลายวันแล้ว
อาการ ดีขึ้นตามลำดับ เอ้าจบเรื่องนี้ ไม่สรุป ว่าไร อย่างไร

ไก่อ่อนสอนขัน โดนไปเต็มเขี้ยวเรย ฮ่าๆๆ
เรื่องการรักษาหรือ ช่วยเหลือผู้อื่น ในทางลับ นี่ ละเอียดอ่อนมาก
เข้าใจแล้วว่า ขันธ์5ผู้ให้การรักษา รับบทหนักมาก ท่านทั้งหลายเนี่ย
พรหมวิหาร4 ทะลุทะลวงแล้ว เง้อๆๆๆ สาธุ

ประเด็น นี่คือการ ทดสอบป่าว ครับ
ถ้าใช่กะ เรื่อง รปภ.แหละ ตกแน่ๆ ไม่เคยมีความรู้ไรเลย
ทั้งหมดเป็น ระบบออโต ทั้งน้าน อ่อนจิงจริง
ก็เป็นไปด้วยประการะฉะนี้แล

 

บังเอิญที่จะนำมาลงต่อไปนี้เป็นบทที่ส่วนตัวไป
ถามพระจิตไวมีชื่อท่านหนึ่ง
มาพอดีเมื่อ ๒ ปีก่อนครับ อ่านเล่นๆก่อนนะครับ

ถาม : ถ้าจะทำโน้นนี่นั้นทำอย่างไรครับ(หลายเรื่องมาก)
ห่มเหลืองจิตไว : ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้นะ(หลายนั่นหลายนี่เชิงเทคนิค)
คนที่จะเดินทางมาแบบนี้(เกิดมาไม่เคยคิด)
ท่านจะบอกเนี่ยมันอย่างนี้นะ
ที่เหลือให้ไปลองผิดลองถูกทำเอาเอง
มันไม่มีสอนในตำราหรอก
มันหาเรียนหาอ่านจากตำราไม่ได้
ถึงเวลาท่านจะบอกเองว่าไปทางไหนต่อ
แล้วก็ต้องเดินต่อไปด้วยตัวเอง จบ....
ทริคคือ
และเราก็มาทำของเราไปครับ
ถ้าจะทำก็ทำให้ไป
ไม่ต้องไปอะไรกับอะไร
ทำแล้วก็แล้วไป
ไม่ต้องไปคาดหวังผลหรืออะไร
มันถึงจะเป็นบารมีเวียนกลับ
บารมีมีมามันใช้แล้วก็จะหมดไป
ให้ทำไปแบบไม่อะไรกับอะไร
ถึงจะเป็นบารมีเวียนกลับมาได้
ไม่มีหมดครับ (^_^)

จำไว้เลยครับ สอบได้เรื่องตลก
สอบตกเรื่องธรรมดาครับ...(^_^)
และถ้าจะใช้งานได้อีก
จะต้องผ่านการทดสอบเรื่อง
ความเฉลียวในการใช้งานด้วยครับ
พูดง่ายๆจะมีอุปสรรค์อยู่อย่างหนึ่ง
ก็จะดูว่า เราจะผ่านตรงนั้นจากการ
นำสิ่งที่เรามีมาใช้เพื่อผ่านตรงนั้นอย่างไร
นั่นเองครับ ตรงนี้ตัวใครตัวมันครับ..

ส่วนเรื่องเจตนาแต่ว่า กำลังเรายังไม่พอ
เรื่องปกติครับ แค่ ๔ ถึง ๕ วันน้อยมากครับ..
บางทีเจอหนักๆ ยกแขนไม่ขึ้นเป็นเดือนก็มีนะครับ
ส่วนตัวเคยเจอ เกือบ ๒ เดือนกว่าจะยกแขนขึ้น
เพราะความแสดงส่วนบุคคล เป็นที่ขำกลิ้ง
เกือบตายก็มีครับ ถ้าไม่ได้ข้างบนมาช่วย
ดึงพลังงานตกค้างออก ป่านนี้คงไม่ได้
มานั่งพิมพ์อย่างนี้ครับ..แต่มันคือประสบการณ์ครับ
ที่ต้องแลกมาเพื่อพัฒนายกระดับขึ้นไปเรื่อยๆครับ
ที่สอบๆเนี่ย กว่าจะแค่พอผ่าน แค่พอผ่านนะครับ
ก็โดนทดสอบไปหลายโหลอยู่ครับ (^_^)
แรกๆเนี่ย ตกชนิดที่ว่า
ร้อยห้าสิบเปอร์เซนต์เต็มหละครับ
เรื่องปกติครับ เรื่องจะสอบตก

ส่วนเรื่องความหนาแน่นก็ค่อยๆ
เป็นค่อยๆไปครับ จะใช้ได้
ก็ต่อเมื่อเราพยายามกดมือ
เข้าหากันไม่ได้นั่นหละครับ

ส่วนเรื่องญาติที่เป็นอัมพาตครึ่งท่อน
ที่ส่วนด้านขวาทั้งขาทั้งแขน
ส่วนด้านซ้ายขาเป็นท่อนล่าง
แขนไม่มีแรงเฉยๆ
ถ้าไม่ผิดนะ ส่วนหลังจะ
เป็นมาทางด้านซ้าย
และเหตุน่าจะมาจากศรีษะทางด้านซ้ายครับ
ลักษณะน่าจะเป็นการกดทับเส้น
ไม่ใช่เส้นเลือดแตกนะครับ
ประเด็นนี้ ผิดถูกขออภัย



ปกติแล้วคนที่เป็นแบบนี้ก็จะมี
ดวงจิตวิญญานอยู่ใกล้ๆแบบนี้หละครับ
เรื่องปกติ แต่โดยมากถ้าถึงขั้นนี้
เราจะใช้การอุทิศส่วนกุศลตรงไป
ที่ดวงจิตญาติก่อน จนดวงจิตญาติ
ขยายกำลังบุญตรงนี้ออกไปให้
ดวงจิตที่อยู่รอบๆเอาครับ..
เป็นวิธีการหนึ่งนะครับ
และทำเสร็จเราต้องรีบเคลียตัวเราเอง
ให้โปร่งโล่งเบา ด้วยการอุทิศส่วนกุศล
ออกจากกลางจิตเราด่วนๆครับ
หรือถ่ายเทพลังงานตกค้างออก
อย่างด่วนที่สุดครับ..
และเหตุที่เราทำอย่างนั้น
ก็อาจเป็นเหตุให้แขนขาขวาขยับได้
และแขนซ้ายมีแรงขึ้นมา
และตรงศรีษะด้านซ้ายของญาติเบาขึ้น

ปล.ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ (^_^)
ถือว่าเล่าให้ฟังเล่นๆแล้วกันครับ
บางทริคส่วนตัวกว่าท่านจะบอก
ทำอยู่ ๖ ถึง ๗ เดือนก็มีนะครับ
ท่านถึงจะแนะทริคต่อ
เพราะต้องรอให้กำลังเรามันพัฒนา
ขึ้นมาจากการทำก่อนครับ
ถึงจะบอกได้ และเราจะทำได้เลยครับ
ถ้ารู้ทริคครับ ถึงบางทริคจะนำมาบอก
ในนี้ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ครับ
เพราะถึงบอกไปก็ทำไม่ได้ครับ
ต้องค่อยๆไปค่อยไปครับตามวาระ
ตามเหตุและปัจจัยครับ

 

ครับผม ทุกอย่างชัดเจน ต่อแต่นี้กะ วิ่งบ้าง เดินบ้าง ไป ไป ไป
ให้ได้หรือใกล้เคียง ตามที่ปรารถนา ตราบเท่าที่ยังมีลม

กราบขอบพระคุณ ท่าน nopphakan และ บรรพจารย์ เป็นอย่างสูง

สู้โว้ย

 

รายงาน

เมื่อวาน ได้รับการถ่ายเท พลังงานจากท่านnopphakan และบรรพจารย์
(ใช่หรือไม่ ผมถือว่าใช่) ต้องขอกราบขอบพระคุณเป็น อย่างสูง
สถานะปัจจุบัน ดวงกสิณแตกตัวออก ล้วมดวงใหญ่ กระจายแต็มห้อง
สามารถเรียกมาดูได้ทุกกอง แยกเป็นแต่ละกองได้ ตามสี ตามลักษณะเด่น
ดึงเข้า ย้ายที่ รวม ได้ปกติ เหลือ ความหนาแน่นไม่ผ่าน
อันนี้กะว่าไป ตามวาระ

แต่ที่เข้าใจยิ่งกว่า และอยากจะบอกให้เป็น กำลังใจต่อท่าน nopphakan
และเราท่าน ทั้งหลาย คือว่า
นับแต่เข้าห้องนี้มา กะพัฒนามาโดนตลอด จนบัดนี้ มีความเข้าใจ
ถึงคำว่าตกต่ำ ตกสูง และ มาอย่างไร ไปอย่างนั้น

ผิดถูก กะขอกราบ ขอ อโหสิกรรมไว้ ณ แห่งนี้
อันว่า จิตเดิม ที่นี้ หมายถึง สภาวะจิตก่อนจุติ มีอะไรมาบ้างไม่ขอพูดถึง
เมื่อจุติในกายแล้ว กะจะเริ่มสัญญาใหม่ แบบโลกๆ เช่นตัวกู ของกู รวบเอา
กองกิเลส ทั้งมวล เห็นว่าดี(แบบโลกๆ)เข้าไว้ จนเป็นนิสัย
ที่นี้เราต้องการจะไป แดนอริยะ กะมีหลายวิธี กะว่ากันไป
แต่ถ้าจะลำดับให้เห็น อีกแนวทาง ระหว่างทางเดิน กะคือ
-ก่อนอื่น เรากะต้องมา ปลดล็อก กองกิเลส ที่สะสมมา ให้กลับสภาพ จิตเดิมให้ได้ ซะก่อน
-ถ้าทำได้ ตายไป กะเรียกได้ว่า มาอย่างไร ไปอย่างนั้น
-ถ้ากลับมา สภาวะจิตเดิมไม่ได้ ตายไป กะเรียกได้ว่า ตกต่ำ
-ถ้ากลับมา สภาวะจิตเดิมได้ แล้วพัฒนาได้ดีกว่าเดิม แต่ยังไม่เข้าแดน แห่ง อริยะ
ตายไป กะเรียกได้ว่า ตกสูง
เฮ้อ เหนื่อย เหมือนกันนะ มนุษย์ เนี่ย 555 โฮโฮโฮ

 

ขอสอบถามครับ ว่าคุณ raming ไปไหนครับ

ผมไม่เจอท่านเข้ามาหลายเดือนเเล้ว

 

ไม่มาโพสแล้วนะ อยู่ในธรรมหรรษา นั่นหละ..
ส่วนหนึ่ง ป๋า แกเบื่อพวกโชว์กล้าม...
แต่ว่าจริงๆทำอะไรไม่ได้ พอเข้าใจเนาะ..
ป๋า เลยจัดไปชุดใหญ่ทิ้งทายแล้วหละ
เลยตั้งกระทู้ห้องนี้มา เพื่อให้ Nopphakan
มาพูดคุยในนี้ เพราะห้องนี้
จะเป็นเฉพาะกลุ่ม พวกติด ลาภ ก้อย เหล้า ยา ปลาปิ้ง
ใบกระท่อม หรือ ใบกัญญา รวมทั้งติด ยศ ติดสรรเสริญ
ไม่มาโพสหรอก เพราะคนอ่านไม่เยอะ ๕๕๕
และที่สำคัญก็ไม่ค่อยมีใครโพสก่อกวน..
ทำลายบรรยากาศ.สามารถพูดคุยกันได้ชิวๆ
สบายๆ ขำๆ แบบปถุชนคนช่างสงสัย
แต่ก็ควรสงสัยให้พอดีๆพอ.

 

คุณ Nai ค่อยๆไปตามวาระนะครับ
เด่วให้ถึงจุดที่บอกก่อน
ส่วนเรื่องการรู้ไม่ต้องห่วงครับ
เด่วมันจะรู้ได้เองหละครับ
เกี่ยวกับเรื่องนามธรรมทั้งหลาย
ไม่ว่าเรื่องอะไร ถึงเวลาอยากจะรู้
มันจะรู้ได้เองครับ..
และที่สำคัญถึงจุดๆหนึ่ง
มันจะรู้เหมือนๆกันหมดครับ
แตกต่างในความละเอียดในการรู้ครับ
รู้จนขี้เกียจจะรู้ จนต้องวางการไปรู้ นั่นหละครับ
แค่ปิ๊งแว๊บเดียวก็เขียนบรรยาย
เป็นหน้าๆไม่จบแล้วครับ
แน่นอนว่า เราคงจะไปเทียบไม่ได้
กับพระสงฆ์นะครับ
เพราะคนละระดับการคลายกิเลสกันครับ
ปล.ก็ตามวาระเช่นกันครับ

 

เคยสอบถามเรื่องเพ่งพระอาทิตย์ กับคุณ raming ครับ

ท่านตอบได้ละเอียดมาก

เเต่พอไปดู โพสสุดท้ายเเล้ว ถึงได้เข้าใจว่าคงไม่ได้เข้ามาเเล้ว