เพราะรู้ตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย คลายกำหนัด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชมทรัพย์, 19 เมษายน 2016.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    โห จะนอนกับเมียตนเอง มันกลายเป็น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไปแล้วเหรอเนี่ย.....จะนอนกับเมียตนเอง...เนี่ย มันจะเป็น อกุศลกรรมไปได้ยังไง อ่ะ...
    แล้วเมียผม ก็ไม่ได้ ขัดข้องอะไร ...จดทะเบียนก็จด มีลูกมาแล้วสองคน ..อยากบิวส์อารมณ์ มาฟิสเจอริ่ง กับเมียตนเองเนี่ย....จะเป็นอกุศลกรร ม ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ.....ช่วยอธิบายความผิด ทั้ง ทางโลก และทางธรรม มาให้ชัดเจนหน่อยสิ

    แต่ถ้าคุณยังไม่มีเมียเป็นของตนเอง ก็ขอให้งดออกความคิดเห็น นะครับ

    ที่เรียกว่าเมียได้ ต้องมีลูกด้วยกันมาก่อนนะครับ...แต่งกันอยู่ด้วยกัน ยังไม่มีลูกด้วยกัน...อันนี้ ไม่เรียกว่าเมียนะครับ...มีเปล่า คุณน่ะ เมียน่ะ
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมไม่ได้เป็นพระ เด้อ
    ผมพยายามปรุงอารมณ์ เพื่อนอนกับเมีย.....มันเป็นกาม ด้วยหรือครับ
    พากัน เข้าใจอะไรๆ ผิดกันรึเปล่าครับ
    อีกอย่าง คนที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก อยู่ตัวคนเดียวเนี่ย...จะมาเข้าใจ คนที่เขามีลูกมีครอบครัวหรือครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2016
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ผมพยายามปรุงอารมณ์ เพื่อนอนกับเมีย

    เพื่อ แล้วสินะ หุๆ ต่อไป ถ้าเกิดเสพกามแล้ว

    เสพกามแล้ว ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้เสพกิเลส เสพกาม ไม่ได้เป็นกามใดๆ เป็นความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ก็เอาที่สบายใจ ครับ
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เสพกาม เครๆ....เอาที่สบายใจละกัน งั้น กินข้าวกินน้ำ นอนเพราะง่วง เข้าห้องน้ำ ท่องเที่ยว ก็เสพกามเหมือนกัน ละกัน อาบน้ำ ทาแป้ง แต่งตัว ไส่เสื้อผ้า แปรงฟัน
    เลือกกิน ก็เสพกาม เครๆ ล้วนกามภพ หายใจเนี่ยก็เสพกาม อยากสงบก็เสพกาม อยากหนีจากความวุ่นวาย ก็เสพกาม

    แล้ว เสพกามแบบนี้ มันผิดตรงไหน เนี่ย จะนอนกับเมียตนเองเนี่ย ผิดศีลข้อสามมั้ยครับ มันผิดศีลข้อสามมั้ยครับ หรือผิดศีลข้อไหนครับ..ช่วยตอบหน่อย
     
  5. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819


    เวลาที่เราเกลือกกลั้วกับกามฉันทะ ก็เป็นนิวรณ์เต็ม ๆ คุณเอาไปปนกันไม่ได้ คนละประเด็นกัน

    ตกลง คุณเข้าใจหรือยังนะครับ

    ทางโลก กับ ทางธรรม


    นิวรณ์(อ่านว่า นิ-วอน) (บาลี: nīvaraṇāna) แปลว่า เครื่องกั้น ใช้หมายถึงธรรมที่เป็นเครื่องปิดกั้นหรือขัดขวางไม่ให้บรรลุความดี ไม่เปิดโอกาสให้ทำความดี และเป็นเครื่องกั้นความดีไว้ไม่ให้เข้าถึงจิต เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ปฏิบัติบรรลุธรรมไม่ได้หรือทำให้เลิกล้มความ ตั้งใจปฏิบัติไป
    นิวรณ์มี 5 อย่าง คือ

    1. กามฉันทะ ความพอใจ ติดใจ หลงใหลใฝ่ฝัน ในกามโลกีย์ทั้งปวง ดุจคนหลับอยู่
    2. พยาบาท ความไม่พอใจ จากความไม่ได้สมดังปรารถนาในโลกียะสมบัติทั้งปวง ดุจคนถูกทัณท์ทรมานอยู่
    3. ถีนมิทธะ ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้กำลังทั้งกายใจ ไม่ฮึกเหิม
    4. อุทธัจจะกุกกุจจะ ความคิดซัดส่าย ตลอดเวลา ไม่สงบนิ่งอยู่ในความคิดใด ๆ
    5. วิจิกิจฉา ความไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย กังวล กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่เต็มที่ ไม่มั่นใจ
    คุณเสพติดกาม เสพติดนิวรณ์ กามฉันทะ



    แล้วคุณรู้หรือยัง ว่าการเบียดเบียนตัวเอง คืออะไร เข้าใจหรือยังนะครับ


    จิตใจเบียดเบียนตัวเอง ติดกามเสพกาม แล้วยังไม่รู้ ผมก็ช่วยบอกได้แค่นี้ละครับ


    ที่เหลือ พิจารณาด้วยตัวเองครับ ^^
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    มีเมีย มีครอบครัว มีลูกยังครับ...จึงมาแย้ง ถ้าไม่เคยมีครอบครัว ไม่เคยมีลูก ก็ โมฆะ ครับ
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เข้าใจดีครับ เรื่องการเบียดเบียนตนเอง....:cool: ว่าแต่ นอนกับเมียตนเองนี่คือ การเบียดเบียนตนเองด้วยเหรอ ครับ พวกกินเหล้าสูบบุหรี่ ทำลายร่างกายกับทำลายจิตใจตนเองสิครับ ถึงเรียกว่า เบียดเบียนตนเอง
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อีกอย่าง กามฉันทะคือ พอใจติดใจ....แต่ผมแค่ปรุงอารมณ์เพื่อจะนอนกับเมีย เนี่ย...ปรุงเพราะไม่ได้พอใจ หรือติดใจ แต่ปรุงเพราะ พยายามให้มัน นอนกับเมียได้....เป็นการเบียดเบียน ตนเอง ตรงไหนครับ....เป็นความผิด กลายเป็นคนไม่ดี ตรงไหนล่ะ
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สรุป การพยายามปรุงอารมณ์เพื่อที่จะนอนกับเมียตนเอง...เป็นกรรม เป็นกายกรรม เป็นอกุศลกรรม เป็นการเบียดเบียนตนเอง เป็นการเสพกาม

    โห...สุดท้ายกลายเป็น คนไม่ดี ในสายตาของ ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย

    คำถามสุดท้าย....แล้วสมมุติสงฆ์ที่ว่ามีศีลมีธรรมดูเป็นคนดีที่ว่าไม่เสพกาม ทำไมยังต้อง ออกบิณฑบาตรอาหารมาฉัน จากคนเหล่าคนที่เสพกาม ที่อยู่นอกวัดกันล่ะครับ

    ผู้ไม่เสพกาม ผู้มีศีลธรรมมากกว่า ต้องออกไปบิณฑบาตรกับคนที่มีศีลน้อยกว่า...อันนี้ ไม่มี นัยยะ อะไร เลยหรือครับ...ห้ามผู้มีศีลมากกว่า ทำอาหารการกิน มาฉันเองเนี่ย

    ไม่มีนัยยะอะไรเหรอครับ
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แนะนำว่า ใช้ google หาความหมายคำว่า บิณฑบาตร

    ถ้าไม่รู้ ผมจะบอกให้คร่าวๆนะครับ ว่าพระท่านต้องการ สงเคราะห์ญาติโยม ให้มีโอกาส ทำทาน เป็นบุญ กุศลกรรม ให้กับญาติโยมนั้นเอง เพื่อเป็นการสงเคราะห์ ครับ และอื่นๆ

    แต่ถ้า มองว่าเป็นการไปขอกิน หรืออื่นๆ ก็เป็นกรรมของบุคคลนั้นเอง ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2016
  11. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    แวะเข้ามาดู เห็นในนี้มีคนหลับอยู่ อย่าไปรบกวนปลุกเขาครับ เดี๋ยวเขาตื่น กลายเป็นว่าเราผิดเองที่ไปปลุกเขา เมื่อเขาไม่อยากตื่น ก็อย่าไปปลุกเลย เสียเวลาเปล่า.
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไปสงเคาระห์ ญาติโยม หรือ ไปให้ญาติโยมสงเคาระห์....แบบนี้มันไม่เหมือน ที่พระพุทธเจ้า พาทำ เลยนะ...คุณเคยบวชเป็นพระมั้ย...ถ้าไม่เคย อย่าตอบ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สติปัฏฐานสี่ รู้ตามจริง....ของ กาย เวทนา จิต ธรรม...จึงเบื่อหน่าย คลาย วาง ไปเอง...โดยรู้ตาม สภาวะที่ คลาย วาง นั้นด้วย...
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แล้วลบทำไมล่ะ ข้อความที่ เอกวีร์นิวรณ์..เอาตาทิพย์ไปส่องดูคนอื่น อ้างว่าส่องดูจิตวิญญาณมันเกิดดับ น่ะ..แต่แถว่า ไม่ไช่การส่องเรื่องชาวบ้าน

    ใครเข้ามาในเวป นิวรณ์ ก็จะส่องดู คนคนนั้น แล้วเอาสิ่งที่ตนเห็น บวกกับ ความคิดของตนเอง...แล้วก็ไป ตัดไม้ข่มนาม คนอื่น เพื่อที่จะให้ คนอื่น เขาเกรงกลัว แล้วเกิดศรัทธา ในตัวนิวรณ์ ว่านิวรณ์ พูดอะไรมาถูกหมด

    ใช้ไม้นี้ เองเหรอ นิวรณ์ อภิญญาที่มีเอาไว้ส่องดูชาวบ้านเขาทำอะไรกัน ส่องดูชาวบ้านอาบน้ำ งั้นเหรอ...
     
  15. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    54
    ค่าพลัง:
    +4,023

    หลักธรรมที่หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโตได้วางเอาไว้ ซึ่งหลวงปู่กงมาก็จดจำได้
    อย่างขึ้นใจ คือธรรม ๑๑ ประการ อันได้แก่..




    ๑.การปฏิบัติทางใจ ต้องถือการถ่ายถอนอุปาทานเป็นหลัก


    ๒.การถ่ายถอนนั้น ไม่ใช่การถ่ายถอนโดยไม่มีเหตุ ไม่ใช่ทำเฉย ๆ ให้มันถ่าย
    ถอนเอง


    ๓. เหตุแห่งการถ่ายถอนนั้น ต้องสมเหตุสมผล เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ
    เหตํ ตถาคโต เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ ธรรมทั้งหลายเกิด
    จากเหตุ ธรรมทั้งหลายดับไปเพราะเหตุ พระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้


    ๔. เพื่อให้เข้าใจว่า การถ่ายถอนอุปาทานนั้น มิใช่มีเหตุและไม่สมควรแก่
    เหตุ ต้องสมเหตุสมผล


    ๕.เหตุ ได้แก่ สมมติบัญญัติขึ้น แล้วหลงตามอาการนั้น เริ่มต้นด้วยการสมมติ
    ตัวของตนก่อน พอหลงตัวของเราแล้ว ก็ไปหลงคนอื่น หลงว่าเราสวยแล้ว
    จึงไปหลงผู้อื่นว่าสวย เมื่อหลงตัวของตัวและผู้อื่นแล้ว ก็หลงวัตถุข้าง
    นอกจากตัว กลับกลายเป็นราคะ โทสะ โมหะ


    ๖.แก้ เหตุ ต้องพิจารณากรรมฐาน ๕ คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ด้วย
    สามารถแห่งกำลังของสมาธิ เมื่อสมาธิชั้นต่ำ การพิจารณาก็เป็นญาณชั้นต่ำ
    เมื่อเป็นสมาธิชั้นสูง การพิจารณาก็เป็นญาณชั้นสูง แต่อยู่ในกรรมฐาน ๕


    ๗.การ สมเหตุสมผล คือคันที่ไหนก็ต้องเกาที่นั่นจึงจะหายคัน คนติด
    กรรมฐาน ๕ หมายถึงหลงหนังเป็นที่สุด เรียกว่าหลงกันตรงนี้ ถ้าไม่มีหนัง
    คงจะวิ่งกันแทบตาย เมื่อหลงกันที่นี่ ก็ต้องแก้กันที่นี่ คือเมื่อกำลังสมาธิ
    พอแล้ว พิจารณาก็เห็นความจริง เกิดความเบื่อหน่าย เป็นวิปัสสนาญาณ


    ๘. เป็นการเดินตามอริยสัจ เพราะเป็นการพิจารณาตัวทุกข์ ดังที่พระพุทธ
    องค์ตรัสว่า ชาติปิทุกข์ ชราปิทุกข์ พยาธิปิทุกข์ มรณัมปิทุกข์ ใครเกิด ใคร
    แก่ ใครเจ็บ ใครตาย กรรมฐาน ๕ เป็นต้น ปฏิสนธิเกิดมาแล้ว แก่แล้วตาย
    แล้วจึงได้ชื่อว่า พิจารณากรรมฐาน ๕ อันเป็นทางพ้นทุกข์ เพราะพิจารณาตัว
    ทุกข์จริง ๆ


    ๙. ทุกขสมุทัย เหตุเกิดทุกข์ เพราะมาหลงกรรมฐาน ๕ ยึดมั่นจึงเป็นทุกข์
    เมื่อพิจารณาละได้ เพราะเห็นตามความเป็นจริง สมคำว่า รูปสฺสมึปิ นิพฺพินฺท
    ติ เวทนายปิ นิพฺพินฺทติ สญฺญายปิ นิพฺพินฺทติ สงฺขาเรปิ นิพฺพินฺทติ วิญฺญาณ
    สฺสมึปิ นิพฺพินฺทติ เมื่อเบื่อหน่ายในรูป (กรรมฐาน ๕) เป็นต้น แล้วก็คลาย
    ความกำหนัด เมื่อเราพ้น เราก็ต้องมีญาณทราบชัด ว่าเราพ้น


    ๑๐. ทุกขนิโรธ ดับทุกข์ เมื่อเห็นกรรมฐาน ๕ เบื่อหน่ายได้จริง ชื่อว่า ดับ
    อุปาทานความยึดมั่นถือมั่น เช่นเดียวกับ ท่านสามเณรสุมนะ ศิษย์ของท่าน
    อนุราช พอปลงผมหมดศีรษะ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์


    ๑๑.ทุกข คามินีปฏิปทา ทางไปสู่ที่ดับ คือการเป็นปัญญาสัมมาทิฐิ ปัญญา
    เห็นชอบ เห็นอะไร เห็นอริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค การเห็น
    จริง แจ้ง ประจักษ์ ด้วยสามารถแห่งสัมมาทิฐิ ไม่หลงคติสุข มีสมาธิเป็น
    กำลัง พิจารณากรรมฐาน ๕ ก็เป็นองค์มรรค



    หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
     
  16. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181

แชร์หน้านี้

Loading...