วัตถุมงคลสายอธุยา สุพรรณบุรี..หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสละ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อื่นๆ

ได้โอนเงิน เมื่อ ๒๗มค. เวลา๑๐.๕๒น.เป็นค่าบูชาพระ ๖รายการที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

- หลวงพ่อจง ตระกรุดเก่า ยุคปี 2507 นานๆพบที พันเชือกเดิมๆจากวัด
ขอทราบราคาครับ

 

- หลวงพ่อจง ตระกรุดเก่า ยุคปี 2507 นานๆพบที พันเชือกเดิมๆจากวัด
...ขออนุญาติปิดนะครับ ตามที่ตกลงกันทางโทรศัพท์ นะครับ...
(ส่วนที่อยู่เดียวผมส่งให้อีกทีนะครับ)

 

เหรียญครูบาอินทวงศ์ วัดอินทขิล

อ.ป่าซาง จ.ลำพูน รุ่นแรก ปี ๒๕๑๑

เนื้อทองแดงเดิมๆ ครูบาอินทวงศ์ ท่านหนึ่งของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้านับถือ และเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิวิชาให้กับ ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย (พระครูบวรสุขบท ชาตะสุโข) เป็นเหรียญประสบการณ์อีกเหรียญหนึ่งของเมืองป่าซาง ชมก่อนครับมาแบบเดิมๆครับผม

ของดีมีประสบการณ์


ราคา..1,850..บาท พร้อมส่ง

 

เหรียญเม็ดแตง

ลงยา หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต

ราวๆปี 2522

ราคา...1850 บาท ไม่พบบ่อย นิยมนะ

 

อภินิหาร หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
วันอังคารที่ 07 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 10:33 น. อ้อ .อภินิหาร หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ เกจิอาจารย์ดัง เข้มขลังพุทธคุณ ผู้สืบสายวิชา หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว


ภาพและเรื่องโดย โพธิญาณ

เมื่อเอ่ยถึง วัดกลางเหนือ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ก็ต้องนึกถึง หลวงพ่อเหมือน สุวณฺณรตฺตโน (พระครูสกลวิสุทธิ์) เพราะท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังเรืองพุทธาคม มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

สำหรับอัตโนประวัติของท่านนั้น ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2407 ณ บ้าน ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก วัดกลางเหนือ มากนัก ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรเศษๆ หลวงพ่อเหมือน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เป็นเด็ก จนกระทั่งต่อมาในปี พ.ศ.2428 จึงได้ทำการอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดกลางเหนือ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม สำหรับพระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์ และพระอุปัชฌาย์ของท่านนั้นก็ยังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากไม่มีปรากฏเป็นหลักฐานให้เห็น แม้กระทั่งโยมบิดา-มารดาก็ไม่ทราบว่าชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน รู้แค่เพียงว่า เมื่อท่านอุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า สุวณฺณรตฺตโน

สำหรับการสืบค้นประวัติและความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์เก่านั้น บางองค์แทบจะหาประวัติไม่ได้เลย เนื่องจากไม่ได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ข้อมูลค่อนข้างจะมืดมน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

หลังจากที่ท่านอุปสมบทแล้ว มีคำบอกเล่าว่า ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดกลางเหนือ ซึ่งเป็นวัดที่ร่มรื่นเงียบสงบ มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านหน้าวัด ถนนหนทางด้านหลังวัดยังไม่มีเหมือนปัจจุบันนี้ ท่านได้เล่าเรียนและศึกษาพระธรรมวินัย ปริยัติธรรม อย่างสนใจ นอกจากนี้ท่านยังร่ำเรียนวิชาไสยศาสตร์เวทมนต์ด้วย ภายหลังท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อกลัด วัดบางพรหม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ร่ำเรียนวิชามหาอุด การทำผ้าเช็ดหน้ามหานิยม เชือกถักคาดเอว นอกจากนี้เท่าที่ทราบท่านยังได้เล่าเรียนเพิ่มเติม วิชาการทำผงอิทธิเจมหาราช ปถมัง ธงค้าขาย และคาถาเมตตามหานิยม

ซึ่ง หลวงพ่อกลัด วัดบางพรหม ในอดีตที่ผ่านมา ท่านเป็นระดับเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในแถบลุ่มแม่น้ำแม่กลองในยุคนั้นด้วย ต่อจากนั้นท่านก็ได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงพ่อยิ้ม วัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่ง หลวงพ่อยิ้ม องค์นี้ท่านเชี่ยวชาญและเก่งกล้าทางด้านคาถาอาคมเป็นอย่างมาก วัตถุมงคลของท่านมีชื่อเสียงและเข้มขลังด้วยพลังพุทธคุณ ใครมีไว้ครอบครองถือว่าโชคดี เพราะปัจจุบันหาค่อนข้างยาก

หลวงพ่อเหมือน ท่านใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนเวทมนต์คาถาอยู่เป็นเวลาหลายปี ด้วยความมุ่งมั่นขยันหมั่นเพียร ถึงแม้บางครั้งจะมีอุปสรรคบ้าง แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ ท่านเล่าเรียนวิชาต่างๆ จนมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในวิชาเหล่านั้น ซึ่งภายหลังท่านอุปสมบทได้ 5 พรรษา ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดกลางเหนือ

ในสมัยที่ หลวงพ่อเหมือน มีชีวิต เท่าที่ทราบจากการเล่าขานสืบต่อๆ มาว่า ท่านเป็นพระที่มีจริยาวัตรงดงาม ให้การต้อนรับผู้คนด้วยความเป็นกันเองไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ บางรายต้องการให้ท่านเมตตาประพรมน้ำมนต์ หรือต้องการให้ท่านช่วยเหลือขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ท่านก็เมตตาขจัดปัดเป่าให้

หลวงพ่อเหมือน นอกจากท่านได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้มขลังเรืองเวทวิทยาคม เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปแล้ว ทางด้านการพัฒนาท่านก็มีผลงานอยู่มากมาย โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ไม่เฉพาะแต่ด้านปริยัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์-สามเณรเท่านั้น ท่านยังได้บุกเบิกก่อตั้ง โรงเรียนสกลวิสุทธิ์ ขึ้นภายใน วัดกลางเหนือ เพื่อให้กุลบุตร-กุลธิดาได้เล่าเรียนหนังสือกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ โรงเรียนสกลวิสุทธิ์ ที่ท่านสร้างขึ้นในสมัยนั้นยังคงเป็นที่ให้การศึกษาของกุลบุตร-กุลธิดาตราบเท่าทุกวันนี้

หลวงพ่อเหมือน ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสด้วยความทุ่มเท และพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ จนกระทั่งถึงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2503 ท่านก็มรณภาพลงอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ แก่บรรดาศิษยานุศิษย์และชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก สิริอายุรวมได้ 96 ปี 9 เดือน พรรษาที่ 75

วัตถุมงคล หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ ปัจจุบันเท่าที่สอบถามและพูดคุยกับชาวบ้านในละแวกนั้น ก็ได้รับคำยืนยันว่า หายากมาก หรือหาแทบไม่เจอ เพราะสร้างจำนวนจำกัด ชาวบ้านคนใดที่มีไว้ครอบครองจะหวงแหน และเก็บไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไปในภายภาคหน้า จึงเป็นเหตุทำให้วัตถุมงคลของ หลวงพ่อเหมือน ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยได้พบเห็นกันเลย
ฉะนั้น ใครเจอะเจอเหรียญ หลวงพ่อเหมือน ที่ไหน แล้วคว้าเก็บเอาไว้ได้เลย

ปัจจุบันถึงแม้ว่า หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ ท่านจะมรณภาพละสังขารไปนานหลายปีแล้วก็ตามที แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่าน ก็ยังเป็นที่กล่าวขานและกล่าวนามของท่านอยู่เสมอ บางวันบรรดาศิษยานุศิษย์ และท่านที่เคารพนับถือก็มักจะเดินทางมากราบไหว้ รูปหล่อจำลองของท่านบริเวณริมน้ำแม่กลอง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าวัดที่มีความแปลกตาไม่เหมือนที่อื่น คือ เป็นรูปหล่อจำลองในลักษณะท่ายืน มือขวาถือคบเพลิง มือซ้ายถือไม้เท้า ซึ่งบางท่านที่เห็นแล้วอาจจะเกิดความกังขาว่า ทำไมถึงสร้างลักษณะเช่นนี้

ส่วนการเดินทางไปยัง วัดกลางเหนือ ค่อนข้างจะสลับซับซ้อนสักหน่อย เพราะวัดนี้อยู่ท่ามกลางสวนผลไม้ ประเภทลิ้นจี่ ส้มโอ มะม่วง ขนุน มะพร้าว ฯลฯ ถ้าเริ่มต้นจากตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา ไปทางอุทยาน ร.2 พอถึงตลาดบางน้อยก็ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง แล้วเลี้ยวขวาขึ้นไปตามถนนที่สองข้างทางปกคลุมไปด้วยสวนลิ้นจี่ สวนส้มโอ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ถึง วัดกลางเหนือ อยูทางด้านขวามือ

อีกทางหนึ่งมาทางจังหวัดราชบุรี เลาะริมแม่น้ำแม่กลองเรื่อยมา พอถึงป้อมตำรวจซึ่งเป็นทางสี่แยกก็ให้ขับรถวิ่งตรง เพียงชั่วครู่ก็เห็นวัดกลางเหนืออยู่ทางด้านซ้ายมือ ถ้าเดินทางไปไม่ถูกให้สอบถามชาวบ้านแถวนั้นดูก็ได้ เพราะส่วนใหญ่จะรู้จัก วัดกลางเหนือ ซึ่งมี หลวงพ่อเหมือน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในย่านลุ่มแม่น้ำแม่กลองเป็นอย่างดี

เรื่องราวและอภินิหารของ หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ นั้น เท่าที่ทราบมีมากมายไม่สามารถจะนำมาบรรยายได้หมด ที่นำมาบอกกล่าวเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น

ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณชาวบ้านใกล้เคียงวัด และผู้เฒ่าผู้แก่ที่เมตตากรุณาให้ข้อมูลมาพอสังเขปมา ณ โอกาสนี้ด้วย

( ที่มา : ย่อจาก ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1085 เดือนมกราคม 2555 อภินิหาร หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม? ภาพและเรื่องโดย โพธิญาณ )



พระกลีบบัว


หลวงปู่เหมือน วัดกลางเหนือ



หาชมยากมากครับ


ของดีราคาถูก


...1,xxx บาท

เช่าแล้ว

 

เหรียญหล่อโบราณในตำนาน ที่หาชมยากมาก

หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์

หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ คนอยุธยา ยิ่งเป็นแถบ มหาราช บางปะหัน จะทราบกันดีว่าท่านเป็นเกจิยุคโบราณ เป็นพระอาจารย์ใหญ่แถบนั้นหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติท่านก็นับถือหลวงพ่อม่วงมาก แม้แต่ก๋งจาบ สุดยอดฆารวาสอีกองค์หนึ่งของอยุธยาผู้สืบสายวิชาสายวัดประดูทรงธรรม ยังต้องพายเรือมาเรียนวิชา เป้นประจำ ข้อมูลอันนี้มิได้แต่งเขียนมาให้ท่านเวียนหัวและขายของ เพราะผมมิได้ขาย แต่เอามาให้ท่านได้เชยชมกัน หลายท่านตีเป้นที่โน่น ที่นี่ ความจริงแล้วเหรียยหล่อสองหน้าแบบนี้ จำลักษณะให้ดีครับ มีที่นี่ที่เดียวคือ วัดโบสถ์ แห่งอำเภอมหาราช แห่งนี้ และยิ่งเป้นการยืนยันซ้ำเข้าไปอีก เพราะว่ามีการทำรูปเหรียญหล่อแบบนี้ออกมาอีกหลายครั้ง โดยการปั๊ม เชื่อมหู (ของเก่าจะเป็นหล่อโบราณ) จัดสร้างโดยพระครูประจักษ์สุตคุณ ประมาณปี 2495 ซึ่งท่านมีความนับถือในบารมีแห่งองคืหลวงพ่อเป้นอย่างมาก จึงได้จัดสร้างขึ้นมา หลวงพ่อม่วงท่านเป้นพระอาจารย์ใหญ่ในแถบมหาราชนี้ และเหรียญหล่อของท่านได้จัดสร้างขึ้นจาการประมาณการของคนท้องถิ่น น่าจะประมาณ 2450 ปลายๆ ถึง 2460 ต้นๆ เหรียญลักษณะนี้มีอีกหลายสำนัก แต่ไม่เหมือนกันในรายละเอียด ถือเป็นเหรียญที่หาชมของจริงยากยิ่งครับ ส่วนมากที่พบไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่อื่น อย่าถามว่าคนท้องถิ่นนับถือท่านมากขนาดใหน เอาเป้นว่า นับถือท่านกันมาเกินร้อยปี จากรุ่นสู่รุ่น


ด้านล่างนี้เป็นข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม

วัดโบสถ์ (มหาราช) ตั้งอยู่เลขที่ ๕๓ บ้านไทย หมู่ที่ ๔ ตำบลมหาราช สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๒๒๐ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๔๘ ไร่ ๘๖ ตารางวาพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี อุโบสถกว้าง ๗ เมตรยาว ๑๕.๕๐ เมตร ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๒๔ เมตร เป็นอาคารไม้ หอสวดมนต์กว้าง ๘.๕๐ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร เป็นอาคารไม้ กุฎีสงฆ์ จำนวน ๗ หลัง เป็นอาคารไม้สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๕วัดโบสถ์แห่งนี้มีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง นามว่าหลวงพ่อม่วง ในปี พ.ศ. ๒๔๓๕ หลวงพ่อม่วงได้เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติวิปัสสนารักษาศีล ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดเก่งในทางคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

ด้านล่างนี้เป้นข้อมูลของ อาจารย์เมธี ไทยนิกร อีกผู้หนึ่งที่ล้วงลึกเรื่องราวของเกจิอาจารย์แบบ ลงพื้นที่จริงทำจริง และท่านทำด้วยความมุ่งมั่นครับ

อนึ่ง เพื่อความเข้าใจอันดี จึงขอแทรกไว้ตรงนี้สักเล็กน้อยว่า หลวงพ่อม่วง วัดประดู่ทรงธรรม เป็นคนละองค์กับ หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ อดีตเจ้าคณะแขวงนครใหญ่ (หรือ อ.มหาราช ในปัจจุบัน) ทั้งยังเป็นคนละรุ่นกันอีกต่างหาก เนื่องจาก หลวงพ่อม่วง องค์หลัง เพิ่งจะถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2475 (ขณะมีอายุราว 105 ปี) แต่ หลวงพ่อม่วง องค์แรกเข้าใจว่าน่าจะวายชนม์ไปตั้งแต่ก่อน พ.ศ.2420 ดังกล่าวแล้ว

มูลเหตุที่ทำให้ใครบางคนสับสนนั้น น่าจะเนื่องมาจาก หลวงพ่อกลั่น ก็ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ หลวงพ่อม่วง องค์หลัง ซึ่งขอเรียกว่า หลวงพ่อม่วงเล็ก เพื่อความเข้าใจอันดี เพราะมีคำบอกเล่ากันสืบมาว่า หลวงพ่อกลั่น ได้ไปศึกษาวิชากรรมฐานกับท่านองค์นี้ หลังจากที่อุปสมบทแล้วเป็นประจำ ซ้ำยังมีเค้าเงื่อนที่ชวนให้เชื่อว่า ก่อนหน้านั้น หลวงพ่อม่วง เล็ก ก็เคยมาเล่าเรียนกับ หลวงพ่อม่วง ใหญ่ ที่ วัดประดู่ทรงธรรม (รุ่นไล่เลี่ยกับ หลวงพ่อศรี) หรือหากจะพูดอีกทีก็คือ หลวงพ่อม่วง เล็ก เป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อม่วง ใหญ่ ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีความสัมพันธ์ทางใดทางหนึ่งกับ วัดประดู่ทรงธรรม อยู่ดี เรื่องที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ก็คือกรณีของ อาจารย์จาบ สุวรรณ ลูกศิษย์ของท่าน หลวงพ่อม่วง เล็ก ซึ่งมาเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานประจำสำนัก วัดประดู่ทรงธรรม แต่กระนั้นก็ยังเทียวไปเทียวมาระหว่างวัดที่ว่าเป็นประจำ (โดยใช้เรือต่อเป็นทั้งพาหนะและที่พักอาศัย คล้ายกับกรณีของ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ที่ดูเหมือนจะชอบอยู่เรือมากกว่าอยู่เรือน)

ผู้ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังคือ นายผิว เฉลิมจันทร์ (ปัจจุบันอายุ 94 ปี) หลานของ หลวงพ่อเล็ก (ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงตา เพราะเป็นพี่ของยาย) โดย ลุงผิว คนนี้เล่าว่า เวลาที่ อาจารย์จาบ ไปหา หลวงพ่อม่วง ครั้งใด มักจะใช้บริเวณหน้าบ้าน กำนันเงื้อม (ซึ่งอยู่เยื้องวัดโบสถ์ขึ้นไปเล็กน้อย) เป็นที่จอดเรือทุกครั้ง โดยในระหว่างที่ยังพักอยู่ที่นั่น มักจะไปนั่งกรรมฐานกับ หลวงพ่อม่วง (เล็ก) ในโบสถ์แทบทุกคืน จึงถือเป็นศิษย์ฆราวาสที่ใกล้ชิดกว่าใคร เพราะฝักใฝ่ในเรื่องกรรมฐานเหมือนอาจารย์ไม่ผิด

สำหรับ อาจารย์จาบ ท่านนี้ คงจะทราบกันดีอยู่แล้วกระมังว่า นอกจากจะเป็นตา (แท้ๆ) ของ หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม ซึ่งกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในปัจจุบัน ยังเป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราฯ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแทน วัด (สร้อยฟ้า) ธรรมเสน และใครต่อใครอีกหลายองค์หลายคน

อนึ่ง ไหนๆ ได้เอ่ยถึง หลวงพ่อม่วง (เล็ก) ขึ้นมา ก็น่าจะกล่าวถึงประวัติของท่านสักเล็กน้อยเป็นไร แม้จะน่าเสียดายว่าค่อนข้างมืดมนเลือนรางเต็มที แต่ก็คงจะดีกว่าปล่อยให้สูญหายไปตามกาลเวลากระมัง

ประวัติ (สังเขป) ของท่านมีอยู่ว่า โยมบิดา-มารดาเป็นชาวนา ตั้งบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่บ้านไทย แขวงนครใหญ่ เมืองกรุงเก่า ไม่ไกลจากวัดโบสถ์นัก เกิด เมื่อราว พ.ศ.2371 (แก่กว่า หลวงพ่อกลั่น ประมาณ 20 ปี) ถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2475 ถือเป็นพระเถระประเภท รัตตัญญู (หรือรู้ราตรี) องค์หนึ่งของวงการคณะสงฆ์เมืองกรุงเก่าในสมัยนั้น ที่สำคัญชาวบ้านในพื้นที่ยังนับถือศรัทธาอย่างมาก เนื่องจากไม่เพียงแค่มีตำแหน่งทางการปกครอง สูงถึงระดับเจ้าคณะแขวง (หรือเจ้าคณะอำเภอ) เท่านั้น แต่ปฏิปทาของท่านยังน่าเลื่อมใส โดยเฉพาะในเรื่องความมักน้อยสันโดษ ไม่ยึดติดกับลาภยศหรืออามิสต่างๆ อย่างเช่นกรณีที่ชอบอยู่กุฏิหลังเล็กที่มุงด้วยจาก มากกว่ากุฏิไม้สักหลังใหญ่ เวลาใครไปหาแต่ละทีแทบจะไม่มีที่ให้แขกนั่งพูดคุย

( ย่อจาก ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1041 เดือนกุมภาพันธ์ 2553 )


ราคา xx,xxx บาท พร้อมส่ง

เช่าแล้ว

 

...เมื่อเช้าได้โอนเงิน เป็นค่าบูชาตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ปี 2507 ตามที่ตกลงกันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ การส่งขอให้ส่งมายังที่อยู่ที่เคยแจ้งไว้ใน pm เมื่อส่งแล้ว
ช่วยแจ้งหมายเลข EMS ให้ทราบด้วยนะครับ...

 

วันจันทร์จัดการให้ครับผม

 

ปิดรายการนี้

ส่งราคาด้วยนะครับเสี่ยเบ็น ^^

 

รับทราบครับผม

 

เหรียญหล่อพระพุทธ หลวงพ่อต่วน วัดละหาร ปี 2473

(พิมพ์มีหู) อีกหนึ่งของดีหายากของเมืองนนทบุรี

สร้างเป็นที่ระลึก ในงานสมโภชหลวงพ่อป่าเรไล ณ วัดละหาร ในพิธีมีเกจิดังมากมายในสมัยนั้น เช่น 1.พระโฆษาจารย์เจรฺิญ วัดระฆัง 2. พระอธิการต่วน อุดม วัดละหาร นนทบุรี 3.พระอธิการสิน วัดบางบัวอง นนทบุรี 4. หลวงพ่อโป๊ย วัดมะนาว สุพรรบุรี 5 หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง นนทบุรี 6. หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี 7.หลวงพ่อ ช่วง วัดบางแพรกใต้ นนทบุรี และพระเกจิท่านอื่นอีกมากมาย

ของเก่ารุ่นชั้นครู

ราคา 3500 บาท คุณค่าน่าสะสม

ปิดให้คุณนพพร 2553<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9919912", true); </SCRIPT> ครับ

 

จองครับ




[/B][/B]

 

พระกรุ วัดสามปลื้ม


แทบจะเป็นตำนานกันไปแล้วครับ บางท่านไม่เคยเห้นแม้ของจริงๆ ประสบการร์เลื่องลือมาหลายยุคหลายสมัย เนื้อพระเหมาะการศึกษาความเก่าอายุร้อยกว่าปีได้เป้นอย่างดี เพราะเนื้อโซนออกไปทางพระสมเด็จบางขุนพรหม

ราคาสอบถามครับ พระมีซ่อมเล็กน้อยถ้าไม่ซ่อม งามครับ

อนุรักษ์ของเก่าครับ เนื้อจัดสุดๆ


ประกันแท้ 100% เก๊คืนให้สองเท่าของราคาที่เช่าไปครับ

 

พระปิดตาผงคลุกรักหลวงพ่อใหญ่

วัดระเว โคราช

ผู้ที่รู้จักเท่านั้นจึงจะทราบว่าสุดยอดขนาดไน พระปิดตายุคเก่าที่น่าสะสม แห่งเมืองโคราช

สวยๆเดิมๆ ราคา บาทพร้อมส่ง

ปิดให้คุณ may06 ครับ

 

พระกริ่ง หลัง "ปิ" มีจารหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หายากมากๆ

เป็นพระกริ่งในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวิสุทธาจารย์ ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศน์ฯชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น โดยมีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีขนาดความสูง 3.2 เซนติเมตร ฐานกว้าง 1.9 เซนติเมตร ฐานบัวมี 7 คู่ ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์ของพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมา มีจำนวนสร้างมากถึง 10,000 องค์ ประกอบพิธีเททองและพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาว มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย โค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี หรือไม่ได้ตอกเลย ก็เคยพบเห็น เมื่อประกอบพิธีเททองพระกริ่งเสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม)ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระ คณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์ รวมทั้งหลวงปู่ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วย เป็นเวลาทั้งสิ้น1ปีเต็ม แล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวันที่ ๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ เป็นเวลาสามวันสามคืน โดยมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้านั่งปรกปลุกเสกจำนวนกว่า ๔๐ รูป อาทิเช่น ๑. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ๒.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ๓.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ๔.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ๕.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ๖. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ๗.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ ๘.หลวงพ่อถิร์ วัดป่าเลไลยก์ ๙.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ๑๐.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ๑๑.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ๑๒.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ๑๓. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ๑๔.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม ๑๖.หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ๑๗.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต ๑๘.หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ๑๙.หลวงปู่นาค วัดระฆัง ฯลฯ เป็นต้น

เป็นพระกริ่งที่น่าสะสมเป้นอย่างยิ่งครับ

แค่พิธีก็สุดยอด

กระแสเนื้อกลับดำดีจังครับ มีจารหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หายากมากๆ

ราคา...X,XXX.......บาท พร้อมส่ง


ประกันแท้ตลอดชีพพพพ

 

เหรียญเจ้าแม่ทับทิม

อยุธยา ปี 2500

รับวันตรุษจีนครับ

ราคาเบาๆ 850 บาท

 

​

เหรียญหลวงพ่อโด่ วัดนามะตุมยุคแรกๆ

นิยมนะครับ

หายาก นานๆเจอที

1,550 บาท พร้อมส่ง

 

​

เหรียญหลวงปู่ทวด

พ่อท่านไข่ วัดลำนาว นครศรีธรรมราช

เนื้อเงิน หน้ากากทองคำ

สวยๆครับ
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Thumbnails</LEGEND>
</FIELDSET>

 

เหรียญชนะจน นิยมมาก

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว

เนื้อทองแดง บล็อคทองคำ ถ้าเนื้อทองคำต้องมีหกแสนครับ

3,500 พร้อมส่ง
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Thumbnails</LEGEND>
</FIELDSET>