!!!แร่ธาตุกายสิทธิ์+เหล็กไหล วัตถุศักดิ์สิทธิ์ อิทธิคุณธรรมชาติ ที่มีฤทธิ์มีอำนาจในตัว!!!

เหล็กไหลภูเขาควายต้นธาตุ (เนื้อเกล็ดเพชร)
ตระกูลเหล็กไหลที่สูงกว่าแร่ภูควาย นานนับหลายสิบปีกว่า 30 ปี ที่เรื่องราวของเหล็กไหลชนิดนี้ได้เกิดขึ้นเป็นตำนานเล่าขาน และหายสาบสูญไปเหลือไว้แต่ตำนาน เชื่อพันธุ์แห่งเหล็กไหลยังคงอยู่ หลังจากที่ตัวแม่ซึ้งแล้วในคำสอนแห่งธรรม ยอมสิโรราบพ่ายแพ้แก่อริยสงฆ์ (อรหันต์)แห่งยุค ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตำนานแร่เหล็กไหลแห่งถ้ำนี้จึงถูกปิดตายเหลือเพียงตำนนาน แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ ว่าเชื้อพันธุ์ของเหล็กไหลทรงจาวตาลที่มีฤทธิ์ อำนาจ ปาฏิหาริย์ ยังคงอยู่ เหล็กไหลทรงจาวตาลเป็นเหล็กไหลชั้นสูง และเคยได้สนทนาธรรมกับเถระปรมาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานจนไหลหยดย้อยเป็นทรงจาวตาลมอบให้แก่อาจารย์ใหญ่ และนี่คือลูกหลานในตระกูลเหล็กไหลที่เคยแสดงฤทธิ์อำนาจให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วแก่สามเณรจันดีในสมัยนั้น เหล็กไหลภูเขาควายถ้ำนี้ เป็นการไหลหยดตัวเองเป็นก้อนขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง เหมือนมีชีวิตที่อิสระ เป็นการไหลหยดที่ไม่มีการตัด การหักใดๆ แต่ด้วยพลังอำนาจของตัวเองก็ยังคงรักษาไว้ในสัณฐานเดิมของเชื้อพันธุ์แม่คือ จาวตาล และสัณฐานหลากหลาย พลังงานสุดแรงเกิด นี่คือตำนานแห่งเหล็กไหลจากถ้ำนี้ ในดินแดนอาถรรพ์ แห่ง "ภูเขาควาย " ชุดนี้เป็นเนื้อแร่เกล็ดเพชร ซึ่งจะมีผิวคล้ายเกล็ดเป็นเหลี่ยมเพชรทั่วทั้งชิ้น มีความเหนียว มัน เหมือนตังเม มีสีดำผสมน้ำตาลเข้ม เพราะการเกิดและหลุดออกมาเองในครั้งแรกๆ มีสัณฐานไม่แน่นอนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ที่มีผิวคล้ายเกล็ดงู เป็นมัน เหล็กไหลตระกูลนี้เมื่อใช้สัมผัสไปนานๆ จะแปรเป็นสีทอง หายากยิ่ง
(((ไม่ใช่แร่ภูควาย แต่เป็นเหล็กไหลภูเขาควายชั้นสูงกว่า เรียกเต็มปากว่า เหล็กไหลแห่งตำนาน เนื้อเกล็ดเพชร ต้นธาตุ หายาก และไม่มีที่ไหนแล้ว!!! ชิ้นนี้เหลี่ยมเพชรขนาดใหญ่ สวยงามมาก สีสันเป็นยางมะตอย เหนียวข้น ชิ้นขนาดใหญ่ หายากแน่นอน!!! การทับถมเป็นชั้น จนเป็นลูกขนาดใหญ่มาก และกลมเป็นปริมณฑล พลังงานรอบด้าน ปกติราคาสูงหลายพันบาท พิเศษกระหน่ำลดราคาสมนาคุณ แร่ธาตุกายสิทธิ์ต้นธาตุ ที่หาสุดยากมากๆ)))

XXXบูชาแล้วXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479​

 

เหล็กไหลภูเขาควายต้นธาตุ (เนื้อเกล็ดเพชร)

(((ไม่ใช่แร่ภูควาย แต่เป็นเหล็กไหลภูเขาควายชั้นสูงกว่า เรียกเต็มปากว่า เหล็กไหลแห่งตำนาน เนื้อเกล็ดเพชร ต้นธาตุ หายาก และไม่มีที่ไหนแล้ว!!! ชิ้นนี้เหลี่ยมเพชรขนาดใหญ่ สวยงามมาก สีสันเป็นยางมะตอย เหนียวข้น ชิ้นขนาดใหญ่ หายากแน่นอน!!! การทับถมเป็นชั้น จนเป็นลูกขนาดใหญ่มาก และกลมเป็นปริมณฑล พลังงานรอบด้าน ปกติราคาสูงหลายพันบาท พิเศษกระหน่ำลดราคาสมนาคุณ แร่ธาตุกายสิทธิ์ต้นธาตุ ที่หาสุดยากมากๆ)))

ให้บูชาเพียง 1,600 บาท (รวมจัดส่ง)
​

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>​

ขอจองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

ผมขอบูชาดวงแก้วนาคา (เพชรพญานาค) วรรณะสีชมพู

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

แก้วมณีโชติธรรมชาติ (แก้วลาวา) แก้วแห่งนาคราช เนื้อน้ำผึ้งใส สีชา
ผู้ใดครอบครองบูชาอยู่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง
การเกิดกลียุคมนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง โลกมนุษย์จะพบภัยพิบัติต่างๆ ที่ไม่เคยพบ เคยเห็นมาก่อน จากโรคระบาดที่ร้ายแรงเพิ่มขึ้นมากมาย มาคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ให้ล้มตายจำนวนมาก บุคคลที่แขวนพระแก้วมณีโชติหรือมีดวงแก้วมณีโชติ จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายและภัยพิบัติธรรมชาติ ตำนานพระแก้วมณีโชติครั้งหนึ่งสมเด็จหลวงปู่โต พรหมรังสี ได้มานิมิตบอก เปิดเผยเรื่องราวพระแก้วมณีโชติพระแก้วกายสิทธิ์ที่เทวดาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า และมีมาครั้งโบราณกาลมากกว่าพันปี
เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระ พุทธองค์ทรงจาริกเทศนาธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ ทรงเสด็จจาริกผ่านมายังดินแดนเมืองฮอด ณ ปัจจุบัน ทรงประทานพระเกศาธาตุและพระพุทธบาทอันสมควร ทรงเล็งด้วยพระพุทธญาณว่าต่อไปที่แห่งนี้จะเป็นที่อุดมในธรรม ภายหน้าเมื่อตถาคตปรินิพพานได้ ๑๐๐ ปี ณ ที่แห่งนี้จะเกิดนครใหม่ที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธ ศาสนาอย่างมากมีนามว่า ทิพย์มหานคร เมืองนี้ปรากฏพระเถระองค์หนึ่งนามว่า พระธรรมราช เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ศักดามาก เป็นที่เคารพนับถือของเหล่ามนุษย์และพญานาตลอดจนเทวดาทั้งหลาย พระ ธรรมราชคิดว่าพระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ต้องให้คนทั้งหลายระลึกถึงพระ พุทธคุณ จึงคิดจะสร้างพระพุทธรูปองค์เล็กจำลองเป็นรูปของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเหล่ามนุษย์ แต่จะสร้างด้วยทองคำหรือเงินก็จะทำให้มนุษย์เกิดความโลภทำอันตรายต่อรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ความคิดนี้รู้ไปถึงมหาพรหมผู้มีนามว่า ชินนะปัญจะระ ท่านจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาว นำเอาแก้วมณีโชติที่ถือเป็นแก้วกายสิทธิ์อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตมาถวายให้พระธรรมราช พระธรรมราชจึงให้ช่างแกะสลักในเมืองช่วยกันแกะเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าช่างแกะสลักไม่สามารถที่จะแกะสลักแก้วมณีโชติได้ พวกช่างปรึกษากันด้วยจนปัญญา ความนี้ทราบถึงพระอินทร์จึงสั่งให้เทวดาประจำวันทั้ง ๗ องค์ แปลงร่างเป็นมนุษย์ลงมารับอาสาแกะสลักแก้วมณีโชติเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ด้วยการแกะสลักเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กใช้ติดกาย และองค์ใหญ่สูงครึ่งคืบไว้ประจำบ้านเมือง เพียงใช้เวลา ๗ วันแกะได้ ๘๔,๐๐๐ องค์
เมื่อ สร้างเสร็จแล้วพระธรรมราชจึงประชุมกับเจ้าเมืองและชาวเมือง เพื่อจัดงานทำบุญฉลองสมโภชพระแก้วมณีโชติ ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระและพระอินทร์จึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมาร่วมในงานฉลอง ด้วยเมื่อถึงเวลาพระธรรมราชเป็นผู้เจริญพระพุทธมนต์ ชีปะขาวทั้งสองเจริญทิพย์มนต์บูชาพระพุทธเจ้า และมีการจุดบ้องไฟเป็นพุทธบูชานับได้ ๑๐๘ กระบอก ชาวเมืองพร้อมใจกันจุดบ้องไฟ เมื่อจุดบ้องไฟติดพวกช่างแกะสลักทั้งเจ็ดและชีปะขาวทั้งสอง ก็กระโดดขึ้นนั่งบนหัวบ้องไฟ บ้องไฟได้พาเอาร่างชีปะขาวและช่างแกะสลัก สูงขึ้น สูงขึ้น จนหายเข้ากลีบเมฆไปในที่สุดชาวเมืองจึงรู้ว่าเทวดาแปลงร่างมาเป็นช่างแกะสลักและชีปะขาว จึงพากันส่งเสียงแซ่ซ้อง สาธุ สาธุ กึกก้องอึงคะนึงไปทั่วทั้งเมือง ท่านมหาพรหม ชินนะปัญจะระจึงประพรมน้ำพุทธมนต์ อวยพรอวยชัยโดยบันดาลให้ฝนทิพย์ตกลงมาทั่วเมือง เสร็จงานแล้วชาวเมืองช่วยกันขุดหลุมลึก ๗ ศอก ๕๖ หลุม นำเอาพระทั้งหมดใส่ไห ๕๖ ไห ฝังในหลุมและกลบอย่างดี พระธรรมราชขอให้พญานาคชื่อ พญาศรีเสน เป็นผู้เฝ้ารักษาไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำที่แห่งนี้
ศาสนาตถาคตผ่านไป ๒๕๐๐ ปี พระแก้วมณีโชติจะถูกนำขึ้นมาให้มนุษย์สักการบูชากราบไหว้ เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของคนดีมีศีลธรรม ที่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า มนุษย์ที่ได้ครอบครองพระแก้วมณีโชติจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง มีความสุขสมบูรณ์ เจริญด้วยโภคทรัพย์ เทวดาปกปักษ์คุ้มครองรักษา เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี ตามพุทธพยากรณ์
สมเด็จโตผู้นิมิตพบท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระเมื่อครั้งธุดงค์ไปที่กำแพงเพชร ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระได้สอนคัมภีร์ธรรมศาสตร์ และพิธีการปลุกเสกพระเครื่อง ทำให้พระสมเด็จของท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือระบือนามไปทั่วทิศ พร้อมทั้งบอกเล่าตำนานพระแก้วมณีโชติ และบอกให้สมเด็จโตไปเอาพระแก้วมณีโชติมา ๕ ไหเก็บรักษาไว้ ในภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยทำนุบำรุงพระ พุทธศาสนาอยู่ครบ ๕๐๐๐ ปี สมเด็จโตพร้อมศิษย์จึงเดินทางมาที่เมืองทิพย์ มหานครและได้พบกับพญานาคผู้รักษาพระแก้วมณีโชติ พญานาคได้พ่นไฟพิษเข้าใส่ สมเด็จโตจึงภาวนานึกถึงท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระ ไฟพิษของพญานาคไม่สามารถทำอันตรายได้ สมเด็จโตบอกพญานาคว่าท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระใช้มาจริงไม่ได้พูดเท็จ จึงมอบพระแก้วมณีโชติให้สมเด็จโต ๕ ไห สมเด็จโตนำเอามาเก็บไว้ที่กุฏิท่านโดยให้วิญญาณผู้หญิงเป็นผู้เฝ้าดูแล ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ไหของสมเด็จท่าน ด้วยเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณของหญิงสาวนั้น ที่ชอบปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น ก่อนสมเด็จโตจะมรณภาพ ท่านได้นำเอาไหทั้ง ๕ ใบไว้บนเพดานโบสถ์วัดระฆังโดยไม่มีใครรู้ จะอย่างไรก็ตาม ตำนานแก้วมณีโชตินั้นมีอยู่จริง มีความแปลก มหัศจรรย์ในสินแร่ธรรมชาติ และเป็นดวงแก้วจากธรรมชาติสร้างสรรค์ ด้วยความบริสุทธิ์ จึงมีเจตสิกที่มีอำนาจ มีพลังงาน มีฤทธิ์เข้าถือครองดูแลรักษา สีสันดั่งเพชรนาคา "เพชรพญานาค" ความหมายของสีบังเกิดด้วยภูมิจิตภูมิธรรมแห่งเจตสิก
แก้วมณีโชติ ที่ต่างสีสัน เกิดจากการไหล และเย็นตัวลงอย่างฉับพลัน บางก้อนค่อยๆเย็นตัวลง บางก้อนเย็นตัวลงในทันที เฉดสีที่แตกต่างอาจจะเกิดขึ้นในธรรมชาติ ที่มีส่วนหลอมละลายสายแร่เข้าไปด้วย ก้อนแก้วบางชิ้นโดนลาวาที่ร้อนจัด จะเกิดความใสมาก บางชิ้นมีแร่ สมุนไพร นานาชนิด จึงมีสีเข้มข้น แก้วมณีโชติไม่ได้เกิดแต่เฉพาะในแม่น้ำ ลำธาร เท่านั้น แต่ยังเกิดในหุบเหว ในถ้ำ ป่าเขา ที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนด้วย บางท่านเคยเข้าถ้ำ เห็นเศษแก้ว สีต่างๆเข้าใจว่าเป็นขวดน้ำอัดลมแตก แต่ความเป็นจริง เป็นแก้วชนิดหนึ่งที่มีอายุมาก เพียงแต่เราไม่เห็นแกนก้อนใหญ่ๆเท่านั้นเอง ซึ่งต้องขุดหาลงไปลึกมาก บริเวณแหล่งพลอยที่ลื่อชื่อ มักพบสายแร่ และเศษแก้วประเภทนี้อยู่มาก เกิดจากการหมุนเวียนของดิน ฟ้า อากาศ ทำให้แตกออก แล้วกระจายไปทั่ว เศษแก้วมงคลหลากสีนี้ นำมาบูชารอยพระบาทพระพุทธเจ้า สำหรับก้อนที่เป็นเม็ด แตกหลุดธรรมชาติ มีความสวยงาม สีสันสดใส บางดวงมีเจตสิกเข้าถือครองดูแล ในเนื้อแก้วจึงมีทั้งเสี่ยนแก้ว และดวงธรรมคล้ายฟองอากาศ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ไม่เท่ากัน แก้วบางชิ้นจะเห็นว่าถูกหินปูนคลุม ขณะเย็นตัว บางชิ้นฝังในแหล่งหินปูนขาวใต้พื้นถ้ำ ดินบริเวณนั้นจะมีความศักดิ์สิทธิ์ นำมาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคล และมักเกิดในถ้ำที่มีน้ำผ่าน
สีชา (สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเศร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก ) แต่ตามความเป็นจริงแล้วในการบูชาแก้วแห่งนาคา ต้องอยู่ในศีลในธรรมเป็นที่ตั้งด้วย

XXXบูชาแล้วXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479
​

 

จองครับ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ
ชุดแรกที่โอน จะช้าหน่อยนะครับ รถซ่อมเสร็จ จะรีบจัดส่งครับ

 

(แร่เหล็กไหล-เทวาสถิตย์) ต้นธาตุแร่เหล็กไหล
ธาตุเหล็กไหลสายพันธุ์ต้นธาตุ รวมเหล็กไหลหลากหลายสายพันธุ์ จัดเป็นธาตุที่เหนือธาตุในตัว จนมีเทพเทวาเข้ามาจุติยึดธาตุขันธ์แร่วิเศษ มีฤทธิ์ มีอำนาจ และมีการรักษาธาตุให้คงความแกร่ง มีพลังงานปราณ จนสามารถจับต้องแล้วรู้สึกได้ในทันที หากสังเกตจะเห็นว่าเป็นก้อนแร่ที่มีสายแร่มาก เห็นชัดเจนคือ แร่ทองแดง แร่เงิน แร่ทอง สังกะสี สนิมเขียว แร่เหล็กไหลตระกูลสีเพลิง ที่อาศัยในพื้นที่พระอาทิตย์ส่องกระทบถึง และแร่อื่นๆอีกมาก ลักษณะการรวมตัว จะเป็นเสี่ยนแหลมๆ ไขว้สลับไปมา จนเป็นปึกหนาแน่น แล้วมีแร่เหล็กไหลตระกูลต่างๆ เช่น เหล็กไหลเขียวหัวเป็ด วรรณะแก้ว ถือว่าเป็นเหล็กไหลชั้นสูง เหล็กไหลสีเงินยวง ถือว่าเป็นเหล็กไหลชั้นสูง เหล็กไหลเพลิง (เลือด) ถือว่าเป็นเหล็กไหลชั้นสูง ที่มีฤทธิ์มีอำนาจร้อนแรง ถ้าดูด้วยตาเนื้อคุณจะเห็นสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด และอาจจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต หรือ (จะมีความเปลี่ยนแปลงของชิ้นแร่) ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงนามสมมุติที่เราเรียกกันว่า เหล็กไหล ความจริง ฤทธิ์ อำนาจ อภิญญา ของผู้ที่ดูแลแร่นี้ จะบอกชื่อที่ครอบครองเองว่าท่านชื่ออะไร เป็นกายสิทธิ์ประเภทไหน และค้ำคูณชีวิตคนเราได้อย่างไร ความเป็นโลหะธาตุเหนือธาตุ ไม่มีที่สิ้นสุด เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นี่คือวัฏจักรของแท้ที่แร่สอนให้รู้ บางครั้งหาคำตอบไม่ได้ แม้เพียงรู้งูๆปลาๆ ก็ยังเกิดการผิดพลาด ความจริงถ้าคุณเป็นท่านหนึ่งที่นิยมในสายสมาธิปฏิบัติ และเปิดใจพยายามจะเข้าใจกายสิทธิ์ เหนือธาตุ แร่เหนือแร่ สำหรับชิ้นนี้ไม่ควรพลาด และรับรองไม่มีให้เห็นที่ไหน ที่ใดอีก แล้วคุณจะเห็นว่าเขามีอานุภาพเป็นหนึ่งในโลกธาตุ ในโลหะธาตุวิเศษ เพียงแค่บูชาท่าน ก็รับรู้ถึงอำนาจ ของแร่ชิ้นนี้ แร่ชิ้นนี้เป็นแร่ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน เป็นแร่เหนือตำนาน (ไม่มีตำนานบันทึกให้รับรู้) นอกจากเขาจะมาในนิมิต สำหรับผู้ฝึกดีแล้ว เขาสามารถรู้ธรรม และเป็นต้นธาตุที่ดึงดูดพลังโลหะวิเศษต่างๆมาหาคุณ ที่เราๆท่านๆ ตั้งชื่อและเรียกกันว่า เหล็กไหล
(((อานุภาพ พลังงานแห่งเทพ ที่ให้สัมผัสได้ เป็น แม่แร่ ที่หลากหลายสีสัน ด้วยสายแร่ตระกูลเหล็กไหล หลากหลายวรรณะ มีอิทธิคุณมากมาย จากซาก จากรังอ่อน ก่อตัวเป็นปึกแผ่นหนาแน่น มีความหนักหน่วงหลายเท่าตัว และเนื้อเป็นมันวาว แม่เหล็กดูดติด ชิ้นนี้มีแร่สีเงินมาก)))

เหล็กไหลพระธาตุนิลพัท
การกำเนิดมักฝังในลำธารรอบภูเขาซึ่งไม่น่าเชื่อว่าพื้นลำธารจะเป็นรังใหญ่ทั้งผืนน้ำ คือดินบริเวณนั้นจะเกาะตัวเป็นก้อนหินมหึมาหนักเป็นตันฝังอยู่ในน้ำในลำธาร และเนื้อของกายสิทธิ์ชนิดนี้จะเยิ้มๆเหมือนยางมะตอย เป็นตัวเชื่อมตัวประสาน ความจริงเป็นเชื้อแร่เหล็กไหลชั้นดี ประเภทเหล็กไหลเจ้าป่า และพระธาตุที่มีวรรณะน้ำตาลเข้มและอ่อน สัณฐานกลม ที่ผู้รู้มักจะเรียกว่า "พระธาตุนิลพัท" ส่วนสมอง หรือเลือด จะเป็นกายสิทธิ์ทั้งฝ่ายบุญญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ เหล็กไหลพระธาตุนิลพัท ถ้าหลุดออกมาเป็นเม็ดจะมีความสวยงาม มันวาว มาก และถ้าอยู่ในธรรมชาติแบบนี้ สามารถเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้อย่างปาฏิหาริย์ บางครั้งท่านที่มีพลังจิต สามารถอัญเชิญได้คล้ายพระธาตุเสด็จเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับบารมีที่สั่งสมมา และต้องมีความเกี่ยวเนื่องกันด้วย อาจจะเคยสร้างเจดีย์ สร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนาไว้ จึงจะสามารถอัญเชิญธาตุชนิดนี้ให้ปรากฏแบบปาฏิหาริย์ที่เรียกกันว่า "พระธาตุเสด็จ" บางชิ้นบางก้อนก็มักจะพบพระบรมสารีริกธาตุวรรณะเพชรใส สัณฐานเมล็ดพันธุ์ผักกาดประทับฝังอยู่ ตำนานธาตุกายสิทธิ์กล่าวถึงเมื่อครั้งพระอรหันตสาวกเอตทัคคะผู้มากด้วยฤทธิ์ มีพระโมคคัลลานะเถระเป็นที่สุด ได้เคยใช้ฤทธิ์สั่งสอนอบรมพญาสมิงเหล็กให้เข้าถึงซึ่งธรรมเป็นส่วนใหญ่ และเป็นไปได้ว่าเหล็กไหลตระกูลต่างๆขึ้นชื่อว่าเป็นพญาสมิงเหล็กที่ได้เจริญรอยตามพระอรหันต์ผู้เป็นครูบาอาจารย์ เมื่อสำเร็จธรรมก็ได้นำไปสั่งสอนเผ่าพันธุ์ลูกหลานของตนเองให้คงอยู่และสร้างสมบารมีเพื่อสืบพระพุทธศาสนาต่อไป
((สังเกตเนื้อเคลือบด้านนอกจะเป็นน้ำแร่ลาวา หรือน้ำเหล็กไหล มีสีเงินเคลือบคล้ายปรอท เท่าที่พบก้อนแร่ที่มีปรอทมากๆจะเป็นตัวประสานให้เนื้อแน่นและละเอียดอีกด้วย ชิ้นนี้จะผุดมาเองโดยฤทธิ์ปรอทที่ออกหากินน้ำค้างในตอนเช้าและสามารถจะฝังลงในดินเองได้มหัศจรรย์มาก เหมือนหินเคลื่อนตัวได้ไม่อยู่กับที่ การบูชาควรสักการะด้วยเครื่องหอม เช่น ดอกไม้ เพราะจัดเป็นธาตุสำเร็จเช่นพระธาตุ))
​

XXXปิดรายการXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479​

 

รังโคตรเหล็กไหลงอก
โคตรเหล็กไหลงอกเป็นเหล็กไหลชั้นรองลงมา หรือที่เรียก กันว่าเหล็กไหลน้ำรอง ซึ่งต่างกับเหล็กไหลโกฏิปี เหล็กไหลเจ้าป่า และ เหล็กไหลเพลิง อันเป็นเหล็กไหลชั้นหนึ่งหรือเหล็กไหลน้ำหนึ่งที่ มีอิทธิฤทธิ์มากและเป็นกายสิทธิ์ที่ต้องใช้วิชาอาคมในการเชิญหรือในการตัด และผู้ที่จะตัดได้ก็ต้องเป็นผู้ที่มีวิชาเท่านั้น ส่วนเหล็กไหลงอก จัดเป็นพวกโคตรเหล็กไหลที่ไม่ต้องใช้วิชาในการตัด แต่ต้องทำการขอจากเจ้าป่าเจ้าเขา ไม่เช่นนั้นจะโดนอาถรรพณ์ทำร้ายจนทำ ให้ชีวิตวิบัติในทุกๆ ด้าน
เหล็กไหลงอกหรือโคตรเหล็กไหลงอกถือว่าเป็นโคตรเหล็กไหลชั้นเยี่ยม หรือเป็นโคตรเหล็กไหลชั้นหนึ่งในบรรดาโคตรเหล็กไหล หลายๆ ชนิด แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือโคตรเหล็กไหลงอกที่เขาอึมครึมและ เขากะอางค์ จังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งตามถ้ำในเขตชายแดนไทยพม่าและในป่าลึกของพม่า อีกทั้งเหล็กไหลงอกที่เกาะล้านพัทยาและเหล็กไหลงอกที่เมืองลอง จังหวัดแพร่ที่เรียกว่า"ตับเหล็กเมืองลอง"
เหล็กไหลงอกนั้นเป็นโคตรเหล็กไหลที่มีลักษณะการงอก ไปมาเหมือนเม็ดไข่ปลาสีดำมันปนเขียว รูปร่างแปลกตา ดูสวยงาม บางชิ้นทอสีเป็นสีรุ้งอย่างน่าอัศจรรย์เหล็กไหลงอกมักพบตามเพดานถ้ำ บางครั้งฝังอยู่ในดินก็มี แม้ว่าเหล็กไหลงอกจะเป็นเหล็กไหลน้ำรอง แต่ก็มีอิทธิอานุภาพที่สูงส่งเช่นกัน เพราะเป็นของที่มีเทพยดารักษา โดยมากมักเป็นญาณของพระฤาษีที่ทรงตบะแก่กล้าและมีดวงวิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขามากมายรักษาอยู่ ทั้งเทพ คนธรรพ์และพญานาคก็มี เพราะเหล็กไหลชนิดนี้ถือเป็นกายสิทธิ์สำคัญอย่างหนึ่งสามารถช่วยบรรเทาภัยพิบัติจากแม่ธาตุ
ความน่าอัศจรรย์ของเหล็กไหลงอกคือสามารถงอกหรือขยาย ขนาดตัวเองให้โตขึ้นได้ หาก เป็นองค์เหล็กที่อยู่ตามธรรมชาติแล้วมี การงอกที่เหมือนกับหินงอกหินย้อยทั่วไปก็ดูไม่น่าอัศจรรย์แต่อย่างใด แต่ถ้านำเหล็กไหลงอกหรือโคตรเหล็กไหลงอกนี้มาเลี่ยมใส่ไว้ใน กรอบพลาสติกอย่างมิดชิดแล้วปรากฏว่ายังสามารถขยายขนาด หรืองอกเพิ่มจนดันกรอบให้แตกออกมาได้ย่อมนับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ อย่างเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นเรื่องจริง เพราะมีหลายท่านที่เลี่ยมองค์ เหล็กไหลงอก คล้องคอไว้ แล้วต้อง เอาไปเลี่ยมกรอบใหม่ เนื่องจาก องค์เหล็กขยายขนาดและงอกเพิ่มขึ้นจนดันกรอบเก่าแตก แต่ทั้งนี้ การที่องค์เหล็กไหลงอกจะงอกขยายขนาดได้มากเท่าไรนั้นก็ต้อง ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของคนผู้นั้นด้วย หากผู้ที่รับเอาองค์เหล็กไป แล้วหมั่นบูชาสวดมนต์ปฏิบัติกรรมฐาน แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศล ให้แก่โคตรเหล็กไหลงอก องค์เหล็กไหลงอกก็จะงอกขยายขนาด
การงอกของโคตรเหล็กไหลนั้นจะงอกเพิ่มในจุดต่างๆที่ ไม่ซ้ำกัน โดยจุดที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีสีสันที่ดูสดใสและสามารถขยาย ขนาดขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนจุดที่งอกนานแล้วจะมีสีเข้ม ยิ่งถ้านานวันไป ความเงามันอาจลดลงได้ และถ้าหากละเลยการสวดมนต์ทำสมาธิแล้ว การงอกอาจใช้เวลานานมาก ตรงกันข้ามกับการได้ปฏิบัติทำสมาธิแผ่เมตตาจิตซึ่งจะมีผลทำให้องค์เหล็กงอกและขยายตัวเร็วขึ้นกว่าหลายเท่าตัว การงอกของโคตรเหล็กไหลงอกนั้นถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง เพราะถือว่าหากผู้ใดมีเหล็กไหลงอกซึ่งงอกไปมาสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แสดงว่าบุคคลผู้นั้นต้องโฉลกหรือกำลังจะมีโชคชีวิตย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นนิจศีล ทำการค้าขายย่อมมีความเจริญรุ่งเรือง นอกจากองค์เหล็กไหลงอกจะสามารถงอกเพิ่มขึ้นได้แล้วยังสามารถเปลี่ยนสีได้
เมื่อเอาไปให้ครูบาอาจารย์ที่มีสมาธิจิตส่งพลังจิตประจุลงไป ในองค์เหล็กไหลจะสังเกตได้ว่าองค์เหล็กจะมีการเปลี่ยนสีทันทีจากสีดำ กลายเป็นสีเขียวเข้ม หรือบาง ครั้งอาจทอสี เป็นสีเหลือบรุ้งขึ้นมา การเปลี่ยนสีนี้พบว่ามีขึ้นในเหล็กไหลเกือบทุกชนิดทั้งในเหล็กไหลน้ำหนึ่งและเหล็กไหลน้ำรอง อันแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาตอบรับ ระหว่างพลังจิตกับองค์เหล็กไหล
โคตรเหล็กไหลงอกมีพุทธคุณหลายอย่าง แต่ที่เด่นชัดคือ ในด้านป้องกันชีวิต ป้องกันภัยจากศาสตราวุธและอุบัติภัยได้ ดัง กรณีตัวอย่างของพรานป่าที่คล้ององค์เหล็กไหลงอกติดตัวไว้ขณะ ออกไปล่าสัตว์ ยังส่งผลให้ยิงปืนไม่ออกทำให้ไม่สามารถล่าลัตว์ได้ ต้องอาราธนาเอาองค์เหล็กออกจากตัวเสียก่อนจึงออกป่าล่าสัตว์ ยิงปืนโดยไม่ด้านไม่ขัด สามารถใช้ปืนยิงได้ตามปกติทุกประการ แสดงให้เห็นว่าเทพที่สถิตย์อยู่กับองค์เหล็กนั้นไม่ต้องการให้ผู้ใดทำบาปและผิดศีลข้อปาณาติบาต เพราะองค์เหล็กย่อมคุ้มครองชีวิต ทุกชีวิตเสมือนกันหมดนอกจากท่านจะคุ้มครองเราแล้วท่านยังมีเมตตา จิตสั่งสอนเราไม่ให้ไปเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น นอกจากนี้โคตรเหล็กไหล งอกยังดีทั้งด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ สามารถป้องกันภูตผีปีศาจ และคุณไสยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอและสัตว์มีพิษ ต่าง ๆ และหากใครถูกแมงปอง ตะขาบ หรือแมลงสัตว์กัดต่อยก็ สามารถฝนด้านหลังของเหล็กไหลงอกแล้วนำผงที่ได้มาทาแผล เพราะ นอกจากจะช่วยดูดพิษจากบาดแผลแล้วยังทำให้หายปวดได้
โคตรเหล็กไหลงอกจะเสพน้ำผึ้งเป็นอาหาร เมื่อหยดน้ำผึ้ง ลงไปบนโคตรเหล็กไหลที่ยังคงมีพลังชีวิตอยู่ ไม่นานนักนํ้าผึ้งที่หยดลงไปจะเปลี่ยนเป็นสีขาวดุจน้ำนมและแห้งไปในที่สุดอย่าง น่าอัศจรรย์มาก องค์โคตรเหล็กอื่นๆ ก็เสพน้ำผึ้งเช่นกัน แม้จะไม่ได้ แสดงปาฏิหารย์ให้เห็น แต่น้ำผึ้งก็จะหมดรสหวานไป โคตรเหล็กไหล เป็นเหล็กไหลชั้นรอง ไม่กินฟอสฟอรัสและดินปืน แต่ก็สามารถกิน พลังงานไฟฟ้าได้เหมือนกัน ซึ่งหากว่า เป็นโคตรเหล็กไหลงอกก้อนใหญ่ หรือมีโคตรเหล็กรวมอยู่ที่เดียวกันมาก ๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยากับไฟฟ้า ภายในบ้านได้ โคตรเหล็กไหลงอกจึงเป็นกายสิทธิ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พอ พบได้ในปัจจุบัน และมีครูบาอาจารย์หลายท่านนิยมเอามวลสารของ โคตรเหล็กไหลงอกมาผสมทำเป็นพระเครื่องทรงอิทธิฤทธิ์

แก้วมณีโชติธรรมชาติ (แก้วลาวา) แก้วแห่งนาคราช เนื้อน้ำผึ้งใส สีชา
ผู้ใดครอบครองบูชาอยู่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง
การเกิดกลียุคมนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง โลกมนุษย์จะพบภัยพิบัติต่างๆ ที่ไม่เคยพบ เคยเห็นมาก่อน จากโรคระบาดที่ร้ายแรงเพิ่มขึ้นมากมาย มาคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ให้ล้มตายจำนวนมาก บุคคลที่แขวนพระแก้วมณีโชติหรือมีดวงแก้วมณีโชติ จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายและภัยพิบัติธรรมชาติ ตำนานพระแก้วมณีโชติครั้งหนึ่งสมเด็จหลวงปู่โต พรหมรังสี ได้มานิมิตบอก เปิดเผยเรื่องราวพระแก้วมณีโชติพระแก้วกายสิทธิ์ที่เทวดาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า และมีมาครั้งโบราณกาลมากกว่าพันปี
เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระ พุทธองค์ทรงจาริกเทศนาธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ ทรงเสด็จจาริกผ่านมายังดินแดนเมืองฮอด ณ ปัจจุบัน ทรงประทานพระเกศาธาตุและพระพุทธบาทอันสมควร ทรงเล็งด้วยพระพุทธญาณว่าต่อไปที่แห่งนี้จะเป็นที่อุดมในธรรม ภายหน้าเมื่อตถาคตปรินิพพานได้ ๑๐๐ ปี ณ ที่แห่งนี้จะเกิดนครใหม่ที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธ ศาสนาอย่างมากมีนามว่า ทิพย์มหานคร เมืองนี้ปรากฏพระเถระองค์หนึ่งนามว่า พระธรรมราช เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ศักดามาก เป็นที่เคารพนับถือของเหล่ามนุษย์และพญานาตลอดจนเทวดาทั้งหลาย พระ ธรรมราชคิดว่าพระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ต้องให้คนทั้งหลายระลึกถึงพระ พุทธคุณ จึงคิดจะสร้างพระพุทธรูปองค์เล็กจำลองเป็นรูปของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเหล่ามนุษย์ แต่จะสร้างด้วยทองคำหรือเงินก็จะทำให้มนุษย์เกิดความโลภทำอันตรายต่อรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ความคิดนี้รู้ไปถึงมหาพรหมผู้มีนามว่า ชินนะปัญจะระ ท่านจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาว นำเอาแก้วมณีโชติที่ถือเป็นแก้วกายสิทธิ์อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตมาถวายให้พระธรรมราช พระธรรมราชจึงให้ช่างแกะสลักในเมืองช่วยกันแกะเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าช่างแกะสลักไม่สามารถที่จะแกะสลักแก้วมณีโชติได้ พวกช่างปรึกษากันด้วยจนปัญญา ความนี้ทราบถึงพระอินทร์จึงสั่งให้เทวดาประจำวันทั้ง ๗ องค์ แปลงร่างเป็นมนุษย์ลงมารับอาสาแกะสลักแก้วมณีโชติเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ด้วยการแกะสลักเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กใช้ติดกาย และองค์ใหญ่สูงครึ่งคืบไว้ประจำบ้านเมือง เพียงใช้เวลา ๗ วันแกะได้ ๘๔,๐๐๐ องค์
เมื่อ สร้างเสร็จแล้วพระธรรมราชจึงประชุมกับเจ้าเมืองและชาวเมือง เพื่อจัดงานทำบุญฉลองสมโภชพระแก้วมณีโชติ ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระและพระอินทร์จึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมาร่วมในงานฉลอง ด้วยเมื่อถึงเวลาพระธรรมราชเป็นผู้เจริญพระพุทธมนต์ ชีปะขาวทั้งสองเจริญทิพย์มนต์บูชาพระพุทธเจ้า และมีการจุดบ้องไฟเป็นพุทธบูชานับได้ ๑๐๘ กระบอก ชาวเมืองพร้อมใจกันจุดบ้องไฟ เมื่อจุดบ้องไฟติดพวกช่างแกะสลักทั้งเจ็ดและชีปะขาวทั้งสอง ก็กระโดดขึ้นนั่งบนหัวบ้องไฟ บ้องไฟได้พาเอาร่างชีปะขาวและช่างแกะสลัก สูงขึ้น สูงขึ้น จนหายเข้ากลีบเมฆไปในที่สุดชาวเมืองจึงรู้ว่าเทวดาแปลงร่างมาเป็นช่างแกะสลักและชีปะขาว จึงพากันส่งเสียงแซ่ซ้อง สาธุ สาธุ กึกก้องอึงคะนึงไปทั่วทั้งเมือง ท่านมหาพรหม ชินนะปัญจะระจึงประพรมน้ำพุทธมนต์ อวยพรอวยชัยโดยบันดาลให้ฝนทิพย์ตกลงมาทั่วเมือง เสร็จงานแล้วชาวเมืองช่วยกันขุดหลุมลึก ๗ ศอก ๕๖ หลุม นำเอาพระทั้งหมดใส่ไห ๕๖ ไห ฝังในหลุมและกลบอย่างดี พระธรรมราชขอให้พญานาคชื่อ พญาศรีเสน เป็นผู้เฝ้ารักษา
ศาสนาตถาคตผ่านไป ๒๕๐๐ ปี พระแก้วมณีโชติจะถูกนำขึ้นมาให้มนุษย์สักการบูชากราบไหว้ เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของคนดีมีศีลธรรม ที่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า มนุษย์ที่ได้ครอบครองพระแก้วมณีโชติจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง มีความสุขสมบูรณ์ เจริญด้วยโภคทรัพย์ เทวดาปกปักษ์คุ้มครองรักษา เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี ตามพุทธพยากรณ์
สมเด็จโตผู้นิมิตพบท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระเมื่อครั้งธุดงค์ไปที่กำแพงเพชร ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระได้สอนคัมภีร์ธรรมศาสตร์ และพิธีการปลุกเสกพระเครื่อง ทำให้พระสมเด็จของท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือระบือนามไปทั่วทิศ พร้อมทั้งบอกเล่าตำนานพระแก้วมณีโชติ และบอกให้สมเด็จโตไปเอาพระแก้วมณีโชติมา ๕ ไหเก็บรักษาไว้ ในภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยทำนุบำรุงพระ พุทธศาสนาอยู่ครบ ๕๐๐๐ ปี สมเด็จโตพร้อมศิษย์จึงเดินทางมาที่เมืองทิพย์ มหานครและได้พบกับพญานาคผู้รักษาพระแก้วมณีโชติ พญานาคได้พ่นไฟพิษเข้าใส่ สมเด็จโตจึงภาวนานึกถึงท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระ ไฟพิษของพญานาคไม่สามารถทำอันตรายได้ สมเด็จโตบอกพญานาคว่าท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระใช้มาจริงไม่ได้พูดเท็จ จึงมอบพระแก้วมณีโชติให้สมเด็จโต ๕ ไห สมเด็จโตนำเอามาเก็บไว้ที่กุฏิท่านโดยให้วิญญาณผู้หญิงเป็นผู้เฝ้าดูแล ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ไหของสมเด็จท่าน ด้วยเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณของหญิงสาวนั้น ที่ชอบปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น ก่อนสมเด็จโตจะมรณภาพ ท่านได้นำเอาไหทั้ง ๕ ใบไว้บนเพดานโบสถ์วัดระฆังโดยไม่มีใครรู้ จะอย่างไรก็ตาม ตำนานแก้วมณีโชตินั้นมีอยู่จริง มีความแปลก มหัศจรรย์ในสินแร่ธรรมชาติ และเป็นดวงแก้วจากธรรมชาติสร้างสรรค์ ด้วยความบริสุทธิ์ จึงมีเจตสิกที่มีอำนาจ มีพลังงาน มีฤทธิ์เข้าถือครองดูแลรักษา สีสันดั่งเพชรนาคา "เพชรพญานาค" ความหมายของสีบังเกิดด้วยภูมิจิตภูมิธรรมแห่งเจตสิก
แก้วมณีโชติ ที่ต่างสีสัน เกิดจากการไหล และเย็นตัวลงอย่างฉับพลัน บางก้อนค่อยๆเย็นตัวลง บางก้อนเย็นตัวลงในทันที เฉดสีที่แตกต่างอาจจะเกิดขึ้นในธรรมชาติ ที่มีส่วนหลอมละลายสายแร่เข้าไปด้วย ก้อนแก้วบางชิ้นโดนลาวาที่ร้อนจัด จะเกิดความใสมาก บางชิ้นมีแร่ สมุนไพร นานาชนิด จึงมีสีเข้มข้น แก้วมณีโชติไม่ได้เกิดแต่เฉพาะในแม่น้ำ ลำธาร เท่านั้น แต่ยังเกิดในหุบเหว ในถ้ำ ป่าเขา ที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนด้วย บางท่านเคยเข้าถ้ำ เห็นเศษแก้ว สีต่างๆเข้าใจว่าเป็นขวดน้ำอัดลมแตก แต่ความเป็นจริง เป็นแก้วชนิดหนึ่งที่มีอายุมาก เพียงแต่เราไม่เห็นแกนก้อนใหญ่ๆเท่านั้นเอง ซึ่งต้องขุดหาลงไปลึกมาก บริเวณแหล่งพลอยที่ลื่อชื่อ มักพบสายแร่ และเศษแก้วประเภทนี้อยู่มาก เกิดจากการหมุนเวียนของดิน ฟ้า อากาศ ทำให้แตกออก แล้วกระจายไปทั่ว เศษแก้วมงคลหลากสีนี้ นำมาบูชารอยพระบาทพระพุทธเจ้า สำหรับก้อนที่เป็นเม็ด แตกหลุดธรรมชาติ มีความสวยงาม สีสันสดใส บางดวงมีเจตสิกเข้าถือครองดูแล ในเนื้อแก้วจึงมีทั้งเสี่ยนแก้ว และดวงธรรมคล้ายฟองอากาศ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ไม่เท่ากัน แก้วบางชิ้นจะเห็นว่าถูกหินปูนคลุม ขณะเย็นตัว บางชิ้นฝังในแหล่งหินปูนขาวใต้พื้นถ้ำ ดินบริเวณนั้นจะมีความศักดิ์สิทธิ์ นำมาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคล และมักเกิดในถ้ำที่มีน้ำผ่าน
สีชา (สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเศร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก ) แต่ตามความเป็นจริงแล้วในการบูชาแก้วแห่งนาคา ต้องอยู่ในศีลในธรรมเป็นที่ตั้งด้วย

XXXบูชาแล้วXXX
​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479​

 

จองค่ะ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

พระธาตุสีวลี เนื้อเหล็กไหล ศักดิ์สิทธิ์มาก
จากขุนเขาสามร้อยยอด
หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินศักดิ์สิทธ์ที่นิยมในหมู่ผู้ชอบสะสมของแปลกและพวกเครื่องรางของขลัง มานานกว่า 40 ปีแล้ว มีการขอสัมปทานขุดหินเขาสามร้อยยอดออกมาขาย โดยจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น หินดิบที่มีพระธาตุฝังอยู่ นำมาแกะเป็นพระ เจียรนัยเป็นเครื่องประดับต่างๆ ก็มาก มีผู้รู้ทั้งหลายกล่าวกันว่า
พระธาตุส่วนมากที่พบในลักษณะของไข่ในหินนั้น เป็นพระธาตุของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และยังอาจมีพระธาตุของพระสาวกรูปอื่นๆรวมอยู่ด้วย ในแผ่นหินหนึ่งแผ่นจึงอาจเป็นที่รวมของพระธาตุหลายชนิด มีอานุภาพครอบจักรวาล เป็นของมหามงคลสูงสุด ที่ใครได้ไว้นับว่าเป็นโชคลาภมหาศาล
ขุนเขาแหล่งพระธาตุแห่งนี้ มีครูบาอาจารย์ทั้งหลายจาก ทุกภาคของประเทศ นิยมมาอัญเชิญพระธาตุไปประดิษฐาน ณ บ้านเมืองตน ที่เขาสามร้อยยอดนี้ยังเต็มไปด้วยพระธาตุสาวกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พระองคุลีมาล พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร และพระสีวลี ทั้งนี้ยังปรากฏผงพระธาตุสีต่างๆ อีกด้วย หรือที่เรียกกันว่า ผงพระเจ้า เท่าที่ทราบผงพระธาตุที่พบมีสีขาวบริสุทธิ์คล้ายแป้ง
ภายในจะเป็นเกล็ดแก้วสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีสีคล้ายน้ำตาลปี๊บ ผงแต่ละสีจะอยู่แยกกันตามธรรมชาติในถ้ำไม่ปะปนกัน เหมือนมีผู้นำมาแยกเอาไว้ ที่มาของหิน พระธาตุเขาสามร้อยยอดและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จากคำบอกเล่า ชาวจังหวัดประจวบฯ เล่าให้ฟังว่า หินพระธาตุนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะเก้ง ธรรมดา ตัวเดียว มีนายพรานพบเห็นเก้ง ในเขตเขาสามร้อยยอดนี่แหละ จึงทำการขึ้นนกสับไกปืนขึ้นเล็งเตรียมที่จะยิง เมื่อได้จังหวะดีก็เหนี่ยวไกออกไป เสียงแชะ ปรากฏว่าลูกกระสุนปืนด้าน ยิงไม่ออก เก้งรู้ตัวจึงวิ่งหนีไป นายพรานตามมาทันได้จังหวะ ก็ลองยิงซ้ำอีกครั้ง เสียงดังแชะ อีกเช่นเคย ลองยิงเป็นครั้งที่ สาม และสี่ก็เป็นเหมือนเดิม จึงลองหันปากกระบอกปืนไปยังทิศทางอื่น ปรากฏว่าปืนสามารถยิงได้เป็นปกติตามเดิม นายพรานนึกแปลกใจ จึงค่อยๆตามอีเก้งตัวนั้น พบว่าเก้งตัวนั้น เลียน้ำจากโขดหินอันหนึ่งที่มีลักษณะแปลกตา โขดหินที่ว่า มีลักษณะคล้ายไข่ไก่ ไข่เป็ด ขนาดเขื่อง ฝังตัวอยู่ภายในก้อนหินทั้งแท่ง ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดก็เริ่มแพร่สะพัด ระยะแรกเป็นที่รู้กันในเฉพาะกลุ่มพรานป่า ที่นิยมมาแงะเอาหินเขาสามร้อยยอดพกติดตัวป้องกันภัย โดยพลังอำนาจที่ร่ำลือกันมากที่สุดคือ อำนาจทางด้านมหาอุด คงกระพันนั่นเอง
**พุทธคุณ หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด**
คุณสมบัติของหินพระธาตุ เขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมาย แต่หากจะทำการสรุปอานุภาพแห่งหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดแล้วสามารถสรุปได้ ๙ ข้อด้วยกัน คือ
1. ดีทางร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเย็นใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของหากใครได้สัมผัสหินเสมอๆ จะทำให้สงบในใจแก่ผู้นั้น
2. ช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา เรียกว่าเจริญในธรรม
3. เป็นเมตตามหานิยม ทำให้ผู้ที่พบเห็นเราเกิดความรักใคร่อยากช่วยเหลือ
4. ดีทางคุ้มครอง เป็นแคล้วคลาด คือผู้ที่พกพาหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ สามารถรอดตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลย และยังดีทางคงกระพัน คือแม้ว่าต้องผจญด้วยเหตุการณ์อันไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้วก็เป็นคงกระพันรอด ตัวมาได้เสมอ
5. ดีทางโชคลาภ หินพระธาตุเขาสามาร้อยยอด เป็นสื่อนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เรียกว่า ในหินพระธาตุนั้น มีกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงรักษาอยู่ภายในผู้ที่หมั่นนำเอาหินนี้มาสวดมนต์ ภาวนา นำมาพกติดตัวเสมอๆมักได้โชคได้ลาภ
6. ดีทางสมบูรณ์ด้วย สุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตุนี้เป็นสิ่งที่สะสมปราณ ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา ทะเล มานานนับร้อยนับพันปี จึงทำให้มีพลังชีวิตแห่งจักรวาลอยู่ในตัวอย่างสูงส่ง ผู้ที่พกหินนี้หรือมีหินพระธาตุอยู่ใกล้ๆตัวย่อมเป็นผู้ได้รับกระแสพลังปราณ อันลี้ลับ พลอยทำให้สุขภาพสมบูรณ์ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ
7. ดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด จะมีลักษณะเด่นคือ เมื่อนำหินมาเจียรแล้วจะมีลักษณะคล้ายพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด อันเป็นมงคลลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของลายหิน โดยลักษณะดังกล่าว เป็นลักษณะแห่งพลังธรรมชาติที่นำพาความรุ่งเรืองความสำเร็จมาสู่ผู้บูชาดัง นั้นพลังลี้ลับศักดิ์สิทธิ์จากหินเขาสามร้อยยอดจึงเป็นแรงผลักดันอย่างลี้ ลับในการนำพาชีวิตของผู้นั้นไปสู่ความเจริญในหน้าที่การงานและความสำเร็จในชีวิต
8. หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินแห่งญาณทัศนะ ข้อดีในความหมายนี้คือ ผู้ที่พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าปุถุชน สามารถรู้เหตุดีร้อยล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากเทพเซียนที่รักษาหินนั้นจะคอยสอดญาณหยั่งรู้หรือ บันดาลเทพสังหรณ์ให้แก่ผู้นั้น นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับของหินพระธาตุ
9. ค้ำคูณ ดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ คนที่รู้ว่าดวงชะตาตนเองไม่ดีหรือชงกับปีนั้นๆหากได้หินพระธาตุเขาสามร้อย ยอดมาบูชา อำนาจจากอริยะธาตุแห่งหินเขาสามร้อยยอดจะทำการเกื้อหนุนดวงชะตาของท่านไม่ ให้ตกต่ำลงไป ผ่อนหนักเป็นเบาสามารถรอดพ้นจากอำนาจ จากดวงดาวหรือผ่อนปรนภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัว
**ข้อควรปฏิบัติ**
1. เชื่อมั่นในพุทธคุณของหินพระธาตุ อย่าคิดลองของ
2. ไม่ทุบหรือทำลายหินพระธาตุ แต่แกะสลักเพื่อความสวยงามได้
3. ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม
**ความเชื่อในหินพระธาตุ**
หินพระธาตุเขาสามร้อยยอดไม่ใช่หินธรรมดา เป็นหินศักดิ์สิทธิ์มีเทพรักษาและยังถือว่าเป็นธาตุของผู้สำเร็จทางจิต ท่านต่างๆในอดีตที่ผ่านมาแน่นอน ดังนั้นหินดังกล่าวจึงมีศักดิ์ศรีเหนือกว่า วัตถุมงคลโดยทั่วไปมากมายนัก สามารถปัดป้องอุบัติภัยได้
ข่าวเรื่องหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ยิ่งแพร่สะพัดเป็นทวีคูณ เมื่อมีผู้หนึ่งพกหินพระธาตุฯไปโดนกับระเบิด เพื่อนที่ไปด้วยตายทั้งคันรถ เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวคือ ผู้มีหินพระธาตุฯติดตัว เรื่องนี้เป็นที่โด่งดังมากมากในเขตชุมพร เมื่อ สามสิบกว่าปีที่ผ่านมา สรรพคุณของหินพระธาตุฯยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก เมื่อผู้ว่าเมืองประจวบฯยุคนั้น พกหินพระธาตุฯ ไปตรวจราชการ ณ บริเวณที่มีระเบิดชุกชุม จะว่าดวงท่านไม่ถึงฆาตหรือเพราะพลังลี้ลับจากหินพระธาตุฯ ก็แล้วแต่ ตลอดเวลาที่ท่านอยู่ในบริเวณนั้น ไม่มีระเบิดลูกใดปะทุระเบิดขึ้นเลย ทันทีที่ท่านจากไป ปรากฏว่าจุดที่ท่านยืนอยู่นั้นเกิดระเบิดขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สรรพคุณของหินพระธาตุฯ เพิ่มมากขึ้น และเป็นที่รู้จักของนักนิยมเครื่องรางของขลังในเวลาต่อมา
ไม่เพียงแต่การเชื่อถือกันสืบมาว่าหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้น เป็นพระธาตุของพระอรหันต์หลายรูปมาประชุมกัน ณ หุบเขาแห่งนี้ แต่ชาวใต้บางคนยังเชื่อว่านี่คือ เหล็กไหล ธาตุกายสิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย คุณสุริยาทิตย์ นักเขียนท่านหนึ่ง ได้ เขียนเรื่องราวของเหล็กไหลในพระธาตุ ตอนหนึ่งว่า ท่านได้เดินทางลงใต้ ชาวบ้านเขาบอกว่ามีเหล็กไหลติดตัวกัน ท่านก็ขอชม
ปรากฏว่าสิ่งที่ชาวบ้านนำมาอวดนั้น กลับเป็นเม็ดพระธาตุ ดูแล้วเหมือนกับพระธาตุโมคคัลลา คุณสุริยาทิตย์ก็เลยบอกว่านี่มันพระธาตุ ชาวบ้านก็เถียงว่าเป็นเหล็กไหลต่างหาก จนได้ผลสรุปในที่สุดว่า คุณสุริยาทิตย์ ถูกข้างนอก พวกชาวบ้านถูกข้างใน เพราะสันนิษฐานกันว่ามันคือเหล็กไหลในองค์พระธาตุ ศัพท์เฉพาะที่เรียกเหล็กไหลในองค์พระธาตุว่า หัวใจพระธาตุ พระธาตุพระสาวกทุกองค์ หรือของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า มักพบสิ่งที่เรียกว่า หัวใจพระธาตุ หรือแก่นพระธาตุ ซึ่งชาวใต้เขาเชื่อว่า นี่คือเหล็กไหล ลักษณะของหัวใจพระธาตุนั้น แต่ละองค์แตกต่างกัน บางองค์มีสีแดง บางองค์มีสีขาว บางองค์ดำ และมีอีกหลายสีด้วยกัน
**คาถาบูชาพระธาตุสีวลี**
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า
สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ
(บูชาแล้วสามารถอธิษฐานยกเสี่ยงทาย)

แก้วขนเหล็กน้ำตันธรรมชาติ แก้วตัวเมีย
แก้วขนเหล็กเป็นหนึ่งในแก้วโป่งข่าม ๒๔ ตระกูล อิทธิคุณของแก้วขนเหล็กตัน ตามตำราโบราณกล่าวไว้ แก้วลูกใดมีวรรณะดังน้ำข้าวมวก มีเส้นขนบังสอดเกี้ยวขึ้นในลูกแก้ว แก้วลูกนั้นมีค่านักแลฯ แก้วขนเหล็ก เป็นแก้วกายสิทธิ์ที่นับถือกันมานานไม่ต่ำกว่า 400 ปีแล้ว เชื่อว่าเป็นหินที่มีเทวดารักษา มีจิตศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ภายในลูกแก้ว มีอำนาจสูงส่งในการคุ้มครอง ป้องกันอำนาจมืดที่มองไม่เห็น เช่นคุณไสยมนต์ดำ ภูตผีปีศาจ รวมทั้งการคุ้มครองอุบัติภัยต่างๆ ให้โชคให้ลาภ เสริมบารมีให้กับผู้ครอบครอง แก้วขนเหล็กตามความเชื่อคือ จะป้องกันปกป้องเจ้าของ เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวผู้ครองครอง ใครคิดร้าย ทำร้าย ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม แก้วขนเหล็กจะป้องกันไม่ให้ใครทำร้ายเราได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเล่นมนต์ดำ คุณไสย์ ภูติผี ปีศาจ เล่นงานเราในทางมืด แก้วขนเหล็กจะปกป้องคุ้มครองเจ้าของทันที กรณีเป็นคุณไสย์ มนต์ดำ แก้วขนเหล็กจะสะท้อนกลับไปยังผู้เล่นมนต์ดำใส่เรา กรณีผู้ทำร้ายเราด้วยอาวุธ ด้วยสิ่งต่างๆ จะเกิดสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นทำให้ผู้ครอบครองแก้วขนเหล็กปลอดภัย
แก้วขนเหล็กน้ำตัน เรียกว่า "แก้วตัวเมีย" จะดีทางร่มเย็นเป็นสุข เมตตามหานิยม แก้วขนเหล็ก ถ้ามีทั้ง 2 ชนิด คือตัวผู้ (น้ำใส) และตัวเมีย (น้ำตัน) ถ้าอยู่ร่วมกันจะส่งเสริมกัน และทำให้ผู้เป็นเจ้าของบังเกิดความเจริญรุ่งเรือง ปราศจากอันตรายทั้งปวง
(((ชิ้นนี้เป็นโป่งข่ามจากปากหลุมเมืองเถินที่มีชื่อ เนื้อแก้วผสมน้ำผึ้ง หรือแก้วน้ำผึ้ง กับเนื้อแก้วขนเหล็ก)))​

XXXบูชาแล้วXXX
​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479​

 

พญาสมิงเหล็ก ใต้ดิน (เหล็กไหลบารมี)
สำหรับเหล็กไหลชนิดนี้ เผ่าพันธุ์คล้ายเหล็กไหลน้ำ และก็หายากด้วยเหมือนกัน เนื่องจากจะฝังใต้ดิน ไหลเลื่อนเคลื่อนตัวเองไปตามดิน มีท่อ มีรูพรุนภายใน แต่ไม่พบเม็ดเล็กๆหรือลูกของมัน เนื่องจากวัฏจักรของเหล็กไหลบารมีหรือสมิงเหล็กเขาจะก่อตัวคล้ายลาวาไหลไปเรื่อยเป็นแผ่น แล้วหลุดแตกหัก แยกอิสระออกมา เป็นชิ้นเป็นก้อน แปลกตา การจะพบเหล็กไหลสมิงเหล็กบารมี ผู้รู้มักจะให้ความสำคัญมาก และต้องมีบารมีพอสมควร เพราะว่าสมิงเหล็กนี้ จะฝังตัวใต้ดินประมาณ1 ศอก หรือลึกกว่านั้น จะพบเห็นกันไม่ได้ง่ายๆนัก ดังนั้นผู้ที่พบจึงต้องฝึกจิตมาพอสมควรจะพบว่าบางครั้งบริเวณนั้นมีฟ้าลงบ่อยๆ ก็จะพบเห็น เนื่องจากการเปิดบารมีของตัวเหล็กนั่นเอง ผู้มีวิชาอัญเชิญอย่างถูกวิธี เหล็กชนิดนี้ก็จะโผล่มาให้เห็นได้ชัดเจน (จึงเรียกเหล็กไหลบารมี) พลังงานของสมิงเหล็กจะหนักแน่น เพราะกำเนิดธาตุดินสูง มีฟ้าลง สายฟ้าฟาด มีพลังธาตุไฟ (เตโชธาตุ) มีมายาในตัวจะเป็นอะไรก็ได้ ตามแหล่งที่พบว่ามีรังขนาดไหน ยิ่งใหญ่มากยิ่งมีพลังแฝงมากจนเวลาจับจะรู้สึกทันทีสำหรับเหล็กไหลบารมี ทางสายใต้มักเอาสมิงเหล็กชนิดนี้ แม้เพียงชิ้นเล็กๆก็มีอานุภาพมากเหลือ และมักจะหักกิ่งฝังด้านหลังองค์เครื่องเพื่อให้เหล็กสร้างบารมีไปในตัว สองสิ่งนี้จะถือว่าเป็นสิ่งที่คู่กันก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ธาตุที่เหนือธาตุอันเกิดจากแม่ธาตุหลักคือ น้ำ และดิน ต่างมีอานุภาพที่ไม่แพ้กัน เหล็กไหลตามความนิยมของมนุษย์ หรือเหล็กไหลชั้นหนึ่งในทางโลกียธรรมนั้น จะต้องมีฤทธิ์มีอำนาจที่สุด คือสีดำ หรือดำจนออกเขียว เพราะดึงดูดหรือการเสพกินดินกากยายักษ์ และไพรดำ สมุนไพรวิเศษมีฤทธิ์ต่างๆ เหล็กไหลบารมีชอบดึงดูดบารมีมาเก็บสะสมเอาไว้ในตัว ซึ่งจะทำให้มีฌานสมาบัติที่แก่กล้าตามไปด้วย จนสามารถที่จะถอดจิตหรือกายทิพย์ ออกจากธาตุขันธ์ตัวเองได้ สามารถใช้ฤทธิ์ในการเนรมิต และแปลงกาย เป็นภาพมายาหลอนต่างๆ ตามแต่จิตปรารถนา ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของสัตว์ป่า (วัวกระทิง ควายกระทิง หรือเสือสมิง) มนุษย์ หรือภูตผีปีศาจและจิตวิญญาณต่างๆ ที่เคยกินเสพเข้าไป เพื่อป้องกันตนเองให้รอดปลอดภัย อันตรายที่จะมาถึงตัว แต่ส่วนมากภาพมายาหลอนนั้น จะต้องอยู่ในรัศมีของขอบเขตที่ธาตุขันธุ์ตั้งอยู่เท่านั้น เหล็กไหลชนิดนี้จึงแสวงหาธาตุที่มีฤทธิ์อำนาจมีพลังงานมาเป็นอาหาร ชื้นรังใหญ่ๆ ชอบที่จะแปลงกายในรูปของควายป่าและวัวกระทิง บางครั้งจึงเรียกเหล็กไหลที่มีบารมีในชั้นนี้ว่า “พญามหิงสาเหล็ก” ถ้าสะสมบารมีธรรมมากขึ้น ปฏิบัติจนสูงขึ้น จนสามารถแปลงกายในรูปของเสือดำ จะเรียกว่า “พญาสมิงเหล็ก” ซึ่งหมายถึง “เจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่” ดุร้ายกว่าสรรพสัตว์ทั้งปวง เพราะมีความอยู่ยงคงกระพันในตัวเอง เปรียบเสมือนเหล็กกล้า จนแทบไม่มีอาวุธธรรมดาใดๆ ที่จะสามารถทำอันตรายได้เลย

แก้วมณีโชติธรรมชาติ (ลาวาภูเขาไฟ) จัดเป็นแก้วแห่งนาคราช สีน้ำเงินเข้มอมม่วง
ผู้ใดครอบครองบูชาอยู่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง
ตำนานแก้วมณีโชตินั้นมีอยู่จริง มีความแปลก มหัศจรรย์ในสินแร่ธรรมชาติ และเป็นดวงแก้วจากธรรมชาติสร้างสรรค์ ด้วยความบริสุทธิ์ จึงมีเจตสิกที่มีอำนาจ มีพลังงาน มีฤทธิ์เข้าถือครองดูแลรักษา สีสันดั่งเพชรนาคา "เพชรพญานาค" ความหมายของสีบังเกิดด้วยภูมิจิตภูมิธรรมแห่งเจตสิก
แก้วมณีโชติ ต่างสีสัน เกิดจากการไหล และเย็นตัวลงอย่างฉับพลัน บางก้อนค่อยๆเย็นตัวลง บางก้อนเย็นตัวลงในทันที เฉดสีที่แตกต่างอาจจะเกิดขึ้นในธรรมชาติ ที่มีส่วนหลอมละลายสายแร่เข้าไปด้วย ก้อนแก้วบางชิ้นโดนลาวาที่ร้อนจัด จะเกิดความใสมาก บางชิ้นมีแร่ สมุนไพร นานาชนิด จึงมีสีเข้มข้น แก้วมณีโชติไม่ได้เกิดแต่เฉพาะในแม่น้ำ ลำธาร เท่านั้น แต่ยังเกิดในหุบเหว ในถ้ำ ป่าเขา ที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนด้วย บางท่านเคยเข้าถ้ำ เห็นเศษแก้ว สีต่างๆเข้าใจว่าเป็นขวดน้ำอัดลมแตก แต่ความเป็นจริง เป็นแก้วชนิดหนึ่งที่มีอายุมาก เพียงแต่เราไม่เห็นแกนก้อนใหญ่ๆเท่านั้นเอง ซึ่งต้องขุดหาลงไปลึกมาก บริเวณแหล่งพลอยที่ลื่อชื่อ มักพบสายแร่ และเศษแก้วประเภทนี้อยู่มาก เกิดจากการหมุนเวียนของดิน ฟ้า อากาศ ทำให้แตกออก แล้วกระจายไปทั่ว เศษแก้วมงคลหลากสีนี้ นำมาบูชารอยพระบาทพระพุทธเจ้า สำหรับก้อนที่เป็นเม็ด แตกหลุดธรรมชาติ มีความสวยงาม สีสันสดใส บางดวงมีเจตสิกเข้าถือครองดูแล ในเนื้อแก้วจึงมีทั้งเสี่ยนแก้ว และดวงธรรมคล้ายฟองอากาศ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ไม่เท่ากัน แก้วบางชิ้นจะเห็นว่าถูกหินปูนคลุม ขณะเย็นตัว บางชิ้นฝังในแหล่งหินปูนขาวใต้พื้นถ้ำ ดินบริเวณนั้นจะมีความศักดิ์สิทธิ์ นำมาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคล และมักเกิดในถ้ำที่มีน้ำผ่าน
สีม่วงพิเศษ จะเป็นสีที่มีพลังฤทธิ์อำนาจแห่งความลึกลับแห่งจิตวิญญาณโอปาติกะ ป้องกันอาถรรพ์การกระทำคุณไสยคุณผีคุณคน การกระทำย้ำยีต่างๆ ผูกพยนต์ ฝังรูปฝังรอย ทำให้เกิดการสลายเสื่อมอานุภาพ ศัตรูหมู่มารต่างสยบไม่กล้าที่จะคิดร้ายกระทำไม่ดี มีอานุภาพแผ่พลังครอบคลุมเป็นปริมณฑลได้ทั้งบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นเจ้าของครอบครองมีจิตสะอาดอยู่ในศีลในธรรมหรือไม่เป็นหลัก ยิ่งที่เป็นผู้ที่ปฏิบัติทางจิตจะยิ่งเปล่งประกายของอานุภาพรัศมีกว้างขึ้น​

XXXบูชาแล้วXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 094 263 3659
Line: 0912355479
​

 

จองครับ

 

โอนเงินจำนวน 550 บาทแล้วค่ะเวลา 9.20 น.
ที่อยู่จัดส่ง
คุณดวงดอม ยัง
140/16 ม.1 หมู่บ้านจิตรณรงค์ 3 ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย
จังหวัดนนทบุรี 11130
ขอบคุณค่ะ

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

รับทราบแจ้งโอน
ขอบคุณมากครับ

 

โอนเงินค่าเหล็กไหล และพระหลวงปู่ใหญ่ให้แล้วครับ
รายละเอียดตาม PM ครับ

 

โอนแล่วครับผม...550 บ. เย็นวันนี้
ที่อยู่เหมือนเดิมครับ...ขอบคุณครับ