แก้ไขความเข้าใจผิดของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว(บางคน)และเรื่องนิพพานอนัตตา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้, 13 พฤศจิกายน 2014.

  1. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ผมมีสัมผัสพิเศษ ไม่ต้องมโนรมณ์ สรุปคือใช่ ใช่ไม่ใช่

    <IMG src='http://lordholnapult.altervista.org/images/Zhk4_GIF02.gif' width=350>
     
  2. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ที่ผมเข้ามาเพราะเห็นคุยกันเรื่องจิต เรื่องใจ เรื่องความคิด เรื่องสติกัน
    แต่ไม่เห็นว่าจะมีใคร อธิบายรู้จริงกันได้เลย
    ก็แค่นั้นครับ
     
  3. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    เชื่อคอม หรือครับ ไม่สามารถเชื่อตนเองได้งั้นสิ
     
  4. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    wlotuss กลายแก้ว จิตยิ้ม [​IMG]
     
  5. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ถ้าสอนถึง ให้ถึง พระนิพพาน แล้วคุณบอกพระนิพพานไม่ไช่ธรรม
    แล้วพระนิพพานมีประโยชน์อะไรล่ะครับ ถ้าพระนิพพานไม่ไช่ สัพเพธัมมา
     
  6. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    หรือพระนิพพานเป็นเมืองแก้ว มีพระพุทธเจ้าประทับอยู่ แบบที่เห็นในมโนมยิมธิ หรือเป็นกายธรรมล่ะครับ
     
  7. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ถ้าน้าจร เมื่อถึงพระนิพาพาน สิ้นอาสวะกิเลสแล้ว จะเข้าใจได้เอง
     
  8. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    อย่ามโนสิ คิดหรือว่า จิตทะลุจักรวาลของคุณ ถึงนิพพานแล้ว
    เพราะการสิ้นอาสวะ ที่คุณเข้าใจนั้นว่าเป็นพระนิพพาน
    ความเข้าใจนั้นเข้าใจแล้ว ว่าแต่คุณเถอะ เข้าใจตัวเองได้หรือยัง
    หรือยังมโนคิดว่า ตนเองพาสาวๆขึ้นสวรรค์ได้ แล้วยังมากล่าวว่าผู้หญิงหาคนดีไม่มีเลย อยู่เหมือนเดิม หรือครับ คุณคิดแต่อยากได้ความจริงใจจากผู้หญิง แต่คุณกลับไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงสักคนเลย กลับมาอ้างว่าตนเองใจกว้างรักผู้หญิงได้ทุกคนไม่สนหน้าตา

    ผมว่าคุณเก่งมากนะเรื่องมโน
     
  9. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ============

    ว่าจะไม่กลับมาตอบแต่เกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดจนกลายเป็นเครื่องปิดกั้นปัญญาของท่าน

    ตัวรู้ที่ผมกล่าว กับตัวรู้ที่ท่านกล่าวถึงมันคนละตัวกัน

    ตัวรู้ของท่านมันแค่แบบปุถุชนรู้ ส่วนตัวรู้ของผมมันรู้แบบพระอรหันต์รู้ ที่ผมบอกว่าต้องรักษาและทำให้ต่อเนื่องเพราะผมยังไม่ใช่ออรหันต์ หรือคุณเป็นอรหันต์แล้วครับ ส่วนของผมนี้ทำได้แค่เคยทรงอารมณ์ ที่นี้ ความเป็นอรหันต์ เขาไม่ได้เอาแต่เคยทำได้ หรือทำได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่รู้แบบอรหันต์นี่ มันต้องรู้ทุกขณะจิตที่ต้องรู้จริง รู้ทันด้วยปัญญา ถ้าท่านทำได้เหมือนที่ผมกล่าวมา นี่ก็แสดงว่าท่านก็เป็นอรหันต์บุคคล ผมจะได้กราบท่านสักสามครั้งครับ

    เรื่องปล่อยวางก็เหมือนกัน ที่ท่านกล่าวมานั่นก็เป็นของปุถุชน ปล่อยวางแบบพระอรหันต์ท่านอย่าคิดว่ามันง่าย ของจริงมันต้องทำได้ทุกขณะจิตเช่นกัน

    สิ่งที่ท่านเข้าใจมันอาจไม่ใช่สิ่งที่ผมเจตนากล่าวให้ฟังอาจเข้าใจไปคนละอย่างเพราะพื้นฐานทางปัญญาเราต่างกัน เราอาจจะรู้เหมือนกัน แต่ความเข้าใจอาจต่างกัน เพราะปฏิบัติมาต่างกัน ปฏิเวธผลที่ได้รับก็ต่างกัน ถ้าท่านสงสัยไม่วางใจหรือมีข้อสอบถามผมก็ยินดี จะแสดงความเห็นอธิบายให้ได้ครับ ยินดีครับ สาธุ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    การศึกษาตำรับตำรา ฟังธรรม อ่านศึกษามาเหมือนกัน ก็อาจจะรู้เหมือนกันหรืออาจจะแตกต่างกันบ้าง

    แต่การปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง นั้นแหละคือของจริงที่ต้องทำให้เกิดเพราะการแค่รู้นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่การปฏิบัติเพื่อให้รู้จริง คือต้องอาศับการปฏิบัติ เพราะเป็นของจริง
    ส่วนการรู้แจ้งนั้นอาศัยปฏิเวธที่ให้ผลเป็นเครื่องยืนยันว่าเมื่อปฏิบัติแบบนี้เช่นนี้แล้วผลย่อมเป็นอย่างนี้ปรากฏเป็นประจักพยานนั่นเอง อุปมาดังว่า

    ปริยัติ รู้จำ
    ปฏิบัติ รู้จริง
    ปฏิเวธ รู้แจ้ง

    ครับ สาธุ
     
  12. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ที่ผมพูดว่าตัวรู้ นั้น มันไม่มีตัวครับ มันคือธาตุรู้ ในคือลักษณะการรับรู้เป็นเครื่องรับรู้ครับ
    แล้วเรื่องการปล่อยวางที่ผมแสดงให้อ่าน คุณเข้าใจมากกว่าที่เขียนให้อ่าน ได้มั้ยล่ะ
     
  13. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ก็คุณบอกเองไม่ไช่หรือครับว่าจะทำให้แจ้ง
    มีตัว จะเป็นผู้กระทำ อะไรสักอย่าง ให้แจ้ง
    แล้วคุณยกเหตุผลว่า มันไม่ถาวร มันไม่แจ้ง มันยังไม่ขาวรอบ มันยังไม่หมดจด
     
  14. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ก็เพราะต้องรักษา ของคุณนั่นแหล่ะ คือตัวขวางคุณในการเข้าถึง การหลุดพ้น
    ก็ผมบอกว่า ไม่ต้องรักษา ไม่มีสิ่งที่ต้องรักษา ไม่มีผู้รักษา จะง่ายกว่ามั้ยครับ
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    คุณก็อย่าไปยึดติดในบัญญัติของผู้อื่นสิ แม้บัญญัติของตนเองก็ต้องไม่ยึดติดเช่นกัน

    เพราะเมื่อเราปฏิบัติธรรมจนเห็นความจริงแล้ว บัญญัติใดๆก็มีความจริงของมันเป็นเช่นนั้น

    แต่เพราะเราเข้าถึงความจริงแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะเข้าไปยึดมั่นในบัญญัติเหล่านั้น

    บัญญัติเหล่านั้นเป็นเพียงสมบัติของโลกก็เท่านั้น ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปยึดมั่นอะไรครับ สาธุ

    จากที่เคยถามว่า นิพพาน เกิดที่ใด ถามเพื่ออะไร เพราะไม่เข้าใจ หรือเพราะต้องการทบทวนสิ่งที่ตนรู้หรือเข้าใจหรืออื่นๆ

    จะด้วยอะไรไม่สำคัญ แต่ ธรรมดาของนิพพาน ย่อมเกิดที่จิต เกิดได้เพราะอาศัยจิตทำให้เกิด จิตต้องเป็นจิตนิพพาน จิตนิพพานเป็นอย่างไร ก็เป็นจิตที่เป็นอิสระจากเครื่องปรุงแต่งทั้งปวง หมดสิ้นในความยึดมั่นใดๆ ปล่อยวางหมดสิ้น ทั้งอวิชา ตัณหา อุปาทาน ทั้งรูป ทั้งนาม ทั้งขันธ์ ทั้งธาตุ วางหมดสิ้น วางด้วยอะไร ด้วยอาการที่เรียกว่าการรู้ทันมีปัญญาประกอบรู้[ตัวรู้ของอรหันต์]หรือจะกล่าวว่าอาศัยสติปัญญาประกอบอยู่กับจิต ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นปัญญาบริสุทธิ์ ที่เกิดแล้ว ทำลายสิ้นภพชาติทำลายสิ้นซึ่งเครื่องปรุงแต่งจิต ครับ สาธุ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ==============

    ผมเข้าใจที่คุณกล่าวมาทั้งหมดครับ อุปมาเหมือนหลวงพ่อสงฆ์ กล่าวกับหลวงปู่บุดดา

    เอาหละในเมื่อคุณกล่าวเฉพาะปฏิเวธ แห่งนิพพานและธรรมธาตุ หรืออมตะธาตุ สิ่งที่คุณพูดมาถูกทั้งหมดครับ เป็นอย่างนั้นครับ สาธุ
     
  17. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ขออธิบายตรงนี้นะในสิ่งที่คุณกล่าวมา ตรงคำว่า ก็เป็นจิตที่เป็นอิสระจากเครื่องปรุงแต่งทั้งปวง ผมขอชี้ในมุมกลับกันว่า ถ้าเครื่องปรุงแต่งทั้งปวงมันมีอยู่เต็มโลกวัฏฏะ คุณมีแค่จิตอันเดียวที่อยากอิสระจากเครื่องปรุงแต่งทั้งปวง และจิตคุณตอนนี้ก็อยู่ท่ามกลางเครื่องปรุงแต่งทั้งปวงอยู่แล้ว คุณจะให้สิ่งใดเป็นอนัตตา ง่ายกว่ากันล่ะครับ

    ระหว่างเครื่องปรุงแต่งทั้งปวง กับ จิตเดียวของคุณ
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอาหละเว้ยเฮ้ย

    เมื่อ มหาโพธิสัตว์น้าจร บรรลุอหันต์ แล้ว มาทำตาม ปณิทาน
    กับ มหาโพธิสัตว์สีชมพู บรรลุอนาคา แล้ว มาทำตาม ปณิทาน

    มาเจรจา สาดธรรมกันว่า ใครรู้ ใครไม่รู้ จะเกิดอะไรขึ้น

    ฮา กระจาย สบาย ก จ [ จ แสตนฟลอร์ " ใจดีๆ ใจใสๆ etc." ] กันไป
     
  19. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ก็แค่อยากให้คุณเข้าใจครับ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ถ้าเราพูดกับพระอรหันต์ต้องระวังให้ดีว่า ท่านพูดสิ่งที่เป็นโลกุตระ เราจะเอาวิถีแห่งคความเป็นโลกิยะไปกล่าวกับท่านไม่ได้ เพราะมันสื่อคนละอย่างกัน ไม่มีทางที่จะเป็นสิ่งเดียวกัน

    ถ้าเขาคุยกันแบบหลวงปู่สงฆ์คุยกับหลวงปู่บุดดา ก็เช่นกัน เราจะเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาคุยกัน เพราะไม่ใช่ท่านพูดผิด แต่เป็นเพราะเรายังไม่รู้ยังไปไม่ถึงปัญญาส่วนนั้นที่พระท่านกล่าวกันครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...