แก้ไขความเข้าใจผิดของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว(บางคน)และเรื่องนิพพานอนัตตา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้, 13 พฤศจิกายน 2014.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ที่นี้ ยังสามารถอธิบายเรื่องนิพพานได้อีกว่า


    นิพพาน แท้จริง สภาพของนิพพานนั้น เที่ยง [มองที่ความเที่ยงและไม่เที่ยง ยังไม่ต้องไปมองที่อัตตาหรืออนัตตา] ทำไมนิพพาน จึงเที่ยง เพราะเป็นสภาพธรรมดาของมัน คือนิพพานมีสภาพว่าง นิพพานมีสภาพของความห่างไกลทุกข์ นิพพานมีสภาพบรมสุข นิพพานมีสภาพแห่งความหลุดพ้นทุกข์ เป็นนิรันดร์ จักไม่เสื่อมถอยกลับไปทุกข์อีก นี่คือความเที่ยงแห่งแดนพระนิพพาน

    ส่วนการที่จิตเข้าไปสู่สภาวะนิพพานนั้น ขอกล่าวย้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว่า พึงวางกำลังใจให้ถูกต้องอย่างนี้คือ
    ขอให้วางกำลังจิตให้เป็นจิตอรหันต์คือ เป็นกำลังจิตที่ว่างเปล่าปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น เมื่อกล่าวแบบนี้ อันความเอาจิตเข้าไปยึดมั่นในความเที่ยงของสภาวะแห่งแดนนิพพาน นี่ก็ไม่มี คือรู้ทั้งรู้ว่าสภาพแห่งแดนนิพพานมีสภาพเที่ยงอย่างไร แต่อารมณ์จิตของพระอรหันต์นี่ท่านไม่เอาจิตท่านเข้าไปยึดมั่นในความเที่ยงหรือไม่เที่ยง ท่านปล่อยวางเป็นปรกติ ดังนั้น จิตทั้งหลาย ต้องแยกให้ออกนะครับ วางกำลังจิตให้ถูกต้องนะครับ

    หรือกล่าวแบบสรุปให้เหลือแก่นแท้แห่งพระสัทธรรมได้ว่า

    สรรพสิ่งใดๆทั้งฝ่ายโลกิยะก็ดี ฝ่ายโลกุตระก็ดี จะเที่ยงหรือไม่เที่ยงก็ดี ก็เรื่องของมัน
    จิตพรอรหันต์นั้นไซร้ ละปล่อยวางหมดสิ้นแล้ว ในความเที่ยงและไม่เที่ยงทั้งปวง
    ละปล่อยวางหมดสิ้นแล้วใน ความเป็นอัตตาและอนัตตาทั้งปวงครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  2. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ชนใดน้อมรับ คำว่า นิพพานคือนิพพาน ตามเจตนาของครูบาอาจารย์

    นิพพานจะเป็นอะไร อย่าไปสนใจ นิพพานเป็นเรื่องของปลายทาง

    ขอให้ทำหน้าที่ของต้นทาง ระหว่างทาง ให้ดีที่สุด เดินไปตามมรรค ตามธรรม

    เพราะเนื้อธรรมของผู้ถึงปลายทางทั้งหลาย ไม่มีเฉพาะคำว่า นิพพานคือนิพพาน

    เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ระวังจะเจอรุกฆาตตต
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ผมว่าคุณ tjs ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่พอสมควรนะครับ
    การกระทำเพื่อมุ่งจะเอาสภาพสภาวะนิพพาน ว่าง ๆ อะไรก็ตาม
    ตามนัยที่กล่าว แสดงให้เห็นว่า กำลังถูกตัณหาทั้ง ๓ ชักนำให้หลงไขว่คว้าอะไรอยู่นั่นเอง

    ย้อนกลับมาเห็นความมีตัณหาแทนจะดีกว่า
    นั่นแหละประเด็นใหญ่เลยทีเดียว
     
  4. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ พวกปลาไหลดิ้นได้ น่ะสิ
    ก็เป็นทิฏฐินึงใน 62 แบบ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ใน
    พรหมชาลสูตร นั่นเอง ทิฏฐิเหล่านี้ พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ

    ทิฏฐิที่ว่านี้คือ

    อมราวิกเขปิกทิฏฐิ ๔
    ดูพระสูตร [๑๑] พ. ภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ที่มีทิฏฐิไม่แน่นอนตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาข้อใด ก็จะตอบแบบดิ้นได้ไม่ตายตัวว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่ ด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ
    ๑. เพราะเขาไม่รู้จริง และเกลียดกลัวการพูดเท็จ เห็นว่าถ้าตอบแน่นอนตายตัว ก็อาจเป็นการกล่าวเท็จซึ่งจะมีผลเสียถึงตนได้
    ๒. เพราะเขาไม่รู้จริง และเกลียดกลัวการมีอุปาทาน เห็นว่าถ้าตอบแน่นอนตายตัว ก็จะเป็นการมีอุปาทานในคำตอบนั้น ซึ่งจะมีผลเสียถึงตนได้
    ๓. เพราะเขาไม่รู้จริง และเกลียดกลัวการซักถาม เห็นว่าถ้าตอบแน่นอนตายตัว จะถูกผู้มีปัญญาชำนาญการโต้วาทะ ซักไซ้ไล่เลียงสอบสวน ในคำตอบนั้น ตนก็ไม่อาจจะโต้ตอบ และจะมีผลเสียถึงตนได้
    ๔. เพราะเขาเป็นคนโง่งมงาย แม้แต่ความเห็นของตนที่มีอยู่ ก็ไม่กล้าตอบยืนยันความเห็นนั้นให้แน่นอนตายตัว

    สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ที่มีทิฏฐิไม่แน่นอนตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในข้อนั้นๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว ก็ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง หรือด้วยเหตุทั้ง ๔ ประการ ดังกล่าวมานี้เท่านั้น

    http://www.navy.mi.th/newwww/code/special/budham/tps/tps0901.htm
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    นิพพานก็คือนิพพาน ไม่เป็นอื่น

    จิตอรหันต์ที่เสวยนิพพาน ก็เป็นเรื่องของจิตอรหันต์ที่เสวยนิพพาน
    จิตอรหันต์ที่เสวยนิพพานได้ต้องเป็นจิตที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นใดๆอีก แม้ความเป็นนิพพานจิตอรหันต์ก็ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นด้วยเช่นกัน มีแต่ปล่อยวางปล่อยวางหมดสิ้นเท่านั้น ครับ สาธุ
     
  6. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200

    เคย ยก มาแสดงในความเห็น ของกระทู้อื่นแล้ว
    เพราะมีหลายคนยังไม่รู้
     
  7. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    สองคน ข้างบน เค้าแย้งนายน่ะ คุณก็ไปตอบสนทนากับเค้าสิ

    เอ้อ ตรงนี้อย่าเพิ่งเดี่ยวไมโครโฟน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ความไม่วางใจมันยังมีอยู่ จึงเฝ้าอธิบายขยายความในสิ่งที่ตนเขียนไว้เองอยู่เรื่อย ๆ

    พะวง สงสัย ไม่วางใจ ลองดูครับ
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ท่านที่อ่านภาษาธรรมผมไม่เข้าใจ นี่แปลกมาก

    เพราะส่วนมากที่อ่านภาษาธรรมที่ผม เข้าใจนั้น บุคคลเหล่านั้นรวมทั้งกระผม ไม่ได้ฉลาดหรือเก่งอะไรมากมายเลย แต่กลับสามารถอ่านแล้วเข้าใจ

    มันก็แปลกครับ คนที่ไม่เข้าใจ กลับเป็นยคนฉลาดและเก่งกว่าผมอีก แปลกจังครับ อะไรหนอมันปิดไว้ ไหนว่าบรรลุธรรมแล้วทำไมไม่เข้าใจภาษาง่ายๆ หรือเข้าใจผิดไปก็มี สงสัยผมคงพูดไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรม

    อย่างผมนั้นยอมรับว่า ยังไม่ใช่ผู้บรรลุธรรม เป็นได้แค่เพียง ผู้บรรลุทำ คือผู้ที่บรรลุได้ด้วยทำ คือด้วยการปฏิบัติ คือทำจนบรรลุ บรรลุทะลุตู้ผนังตู้พระไตรปิฏก ทำเอาคนฉลาดคนอื่นเดือดร้อน ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ

    ไหนๆก็คุยเรื่องนี้กันแล้ว ก็ไม่ควรจะออกนอกเรื่องนะครับ แลกเปลี่ยนความรู้กันครับ สาธุ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===================

    เหตุใดจึงมองอย่างมิจฉาทิฏฐิละ
    ทำไมม่มองว่า ผมสามารถกล่าวเรื่องนี้ได้เป็นสิบเป็นร้อยหน้ากระดาษ
    เพราะอะไร เพราะผมไม่วางใจ หรือเพราะเข้าใจทะลุปรุโปร่ง รู้แจ้งนานาประการ บ้างละ แต่ก็ถูกของท่านครับ อย่าเพิ่งไปคิดว่าคนนั้นดีหรือรู้จริงอย่างนั้นอย่างนี้
    เพราะมันคงหาไม่ได้ครับ

    ทำไมต้องไปสงสัยในความรู้ไม่รู้ วางไม่วางในจิตผู้อื่นด้วยละ ทำไมไม่เฝ้าดูที่จิตตนละจะ๊ สาธุ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ผมยินดีคุยหรือเสวนากับทุกท่าน ไม่ใช่แค่ท่านนั้นสองคนครับ

    แต่อย่างที่กล่าวไป หากอ่านสิ่งที่ผมกล่าวไว้ หากท่านเข้าใจท่านก็จะทราบคำตอบได้เองครับ

    ขอเจริญในธรรม ครับ สาธุ
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===============

    ขอขยายอีกว่า

    ถ้ามองแบบโลกิยะ มองได้ดังนี้
    1อันไหน ไม่เที่ยงอันนั้นเป็นทุกข์ อันนั้นเป็นอนัตตา
    2อันไหน เที่ยง อันนั้นเป็นสุข อันนั้นเป็นอัตตา [แต่ความจริงในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เที่ยงทุกอย่างไม่เที่ยงทั้งนั้นครับ]

    ถ้ามองแบบโลกุตระ มองได้ดังนี้และมองได้เป็นเพียงสิ่งเดียวคือ
    ไม่มีอะไรเที่ยง หรือไม่เที่ยง ไม่มีอะไรทุกข์หรือไม่ทุกข์ ไม่มีอะไร เป็นอัตตา หรืออนัตตา มีแต่เพียงความปล่อยวาง มีแต่เพียงความไม่ยึดมั่นเพียงภาวะเดียวเท่านั้น ไม่มีสภาวะอื่น อันเป็นสภาวะที่จิตต้องไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดนั่นเองครับ

    ขอถามทุกท่านว่าเวลานี้ท่านกำลังใช้อะไรมองปัญหาเหล่านี้ ท่านมองแบบไหน และท่านคิดตามอย่างไร ท่านใช้ปัญญาเข้าไปกลั่นกรองปัญหาอย่างไร ผลสรุปคือท่านได้อะไร เป็นผลครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเป็นกรณีศึกษาอันหนึ่ง

    มีคน ๆ นึง จัดเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบสมองมาก
    ทำวิจัยและรู้การทำงานของระบบสมองเป็นอย่างดี

    วันหนึ่งเกิดป่วยกระทันหันด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก
    เธอเล่าว่า รับรู้ได้ตั้งแต่แรกเริ่มของอาการที่เลือดเริ่มไหล
    แผ่ซ่านไปกดทับสมองซีกซ้าย ซึ่งเป็นสมองส่วนวิเคราะห์
    ความรับรู้แยกแยะตัวเธอเองกับสิ่งแวดล้อมค่อย ๆ เริ่มเลือนลาง
    จนแยกไม่ออกในที่สุด รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติล้วน ๆ
    ผนังห้องที่เธอยืนพิง ตัวเธอ สิ่งแวดล้อมกลายเป็นเนื้อเดียวกันหมด

    เธอบอกว่ามหัศจรรย์ใจมาก เธอไม่เคยพบมาก่อน มันเป็นความงดงาม
    และเธอก็สรุปว่า สิ่งที่ปรากฏกับเธอนั้นคือ นิพพาน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
    เธอนอนป่วยอยู่บนเตียง เป็นอัมพาตครึ่งซีกอยู่ ๘ ปี มีแม่คอยดูแล
    เธอมีความสุขกับสิ่งนั้น เซลสมองซีกซ้ายเริ่มสร้างใหม่อีกครั้ง

    ในที่สุดเธอก็กลับมาเป็นปกติ กลายมาเป็นนักบรรยายที่มีชื่อเสียงระดับโลก
    บรรยายเรื่อง ภาวะนิพพาน เขียนหนังสือด้วย

    เรื่องนี้มันสอนอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน
     
  14. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ขอถามต่อครับ ที่ว่า นิพพาน อะไรนิพพานครับ กาย ใจ สติ จิต เวทนา อวิชชา
    แล้วกิเลสตัณหา มันอยู่ตรงไหน ของ กาย ใจ สติ จิต เวทนา อวิชชา ครับ
    ถ้าคนเราที่ถึงพระนิพพานตอนมีชีวิตอยู่ อะไรที่ถึงนิพพานครับ
    แล้ว อวิชชา นี่ มันอยู่ตรงไหน ของ กาย ใจ จิต สติ เวทนา ครับ
     
  15. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    แสดงว่าเธออธิบายเรื่องพระนิพพานได้หรือครับ งั้นก็เก่งกว่าพระสิครับ เพราะพระที่เมืองไทยยังไม่กล้าอธิบายเรื่องพระนิพพานเลยครับ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =================

    เธอก็เป็นได้แค่นักบรรยาย ที่ได้แค่บรรยาย

    เธอจะไม่ใช่นักบรรยายที่บรรลุธรรม เพราะเธอยังทำไม่บรรลุ

    และต่อให้เธอมีเชื่อเสียงมากแค่ไหน เธอก็ยังไม่พ้นทุกข์ เพราะยังไม่บรรลุธรรมนั่นเองครับ

    ต่างกับพระป่าแก่ๆรูปหนึ่ง แม้ท่านจะไม่ใช่นักบรรยายระดับโลก

    แต่ท่านก็รู้สิ่งนั้นมากกว่าสิ่งที่เธอบรรยายร้อยพันเท่า อันเป็นเพราะท่านบรรลุธรรม คือท่านทำจนบรรลุในนิพพานแล้วนั่นเองครับ

    ท่านนะ่พ้นทุกข์แล้ว แต่เธอละยังไม่พ้นทุกข์ครับ สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  17. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ทิฏฐิ ดิ้นได้ไม่ตายตัว
     
  18. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ความสำคัญคือเธอไปตื่นปรากฏการณ์
    มากกว่าที่จะเห็นอุปาทาน ตัณหาที่เธอมี
    คงเคยศึกษาผ่านหูผ่านตามาบ้าง
    ได้ยินเรื่องพระนิพพาน เลยทึกทักออกไปแบบนั้น
    น่าเห็นใจ เอาไปบรรยายมั่ว ๆ พาคนหลงผิดตาม ๆ กันไปอีก
    พระท่านมีแต่สอนให้ละ (ความเห็นผิด)
    และไม่ได้สอนให้ละ เพื่อไปเสพอะไรต่อด้วย
     
  19. ธรรมแท้

    ธรรมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +200
    เหอๆๆ ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่า ประเด็นของกระทู้คืออะไร
    ได้แต่มุทะลุ อยากโพสต์แสดงคำสอน ของ อาจารย์ "ของกู" อยู่ท่าเดียว

    ศิษย์ประเภทนี้ก็อุปมาเหมือนหมาเห่าเฝ้าอาจารย์ มันก็เห่า โฮ่งๆ ใส่คนที่เข้ามาใกล้อาจารย์ของมัน โดยไม่ได้ดูเลยว่า ใครเขามาทำไม เรื่องอะไร

    อ่านแค่นี้ยังจับประเด็นไม่ได้เลย
    แล้วจะไปเข้าใจคำสอนของครูบาอาจารย์ได้ยังไงกัน

    ประเด็นคือ
    - มีคนที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว(บางคน)แอบอ้างว่า พระพรหมคุณาภรณ์ ไปหาหลวงตามหาบัว และ ตู่ว่า พระพรหมคุณภรณ์ ยอมรับเรื่อง คำเทศน์ของหลวงตามหาบัวเกี่ยวกับพระนิพพาน

    - พระพรหมคุณาภรณ์ ท่านเลยออกมาชี้แจงว่า ที่พวกที่อ้างๆว่า ท่านไปหาและยอมรับน่ะ มันพูดจาไปเรื่อยเปื่อย หรือ แอบอ้าง ซึ่งท่านไม่ได้ไปหา และก็ไม่ได้ยอมรับในคำเทศน์ของหลวงตามหาบัวเรื่องที่ว่านี้

    มันก็แจ้นรีบมาโพสต์ คำสอน อาจารย์ "ของกู" ทันที โดยที่ไม่ได้ดูอะไรให้ถี่ถ้วนเลย

    ไว้ว่างๆ เดี๋ยวจะโพสต์ในประเด็นที่ว่า เป็นกระทู้ใหม่
    เชื่อขนมกินได้เลยว่า มันต้องมา เห่าโฮ่งๆ อีกแน่ๆ

    เราเอาความจริงมาบอก จะฟังไม่ฟังก็แล้วแต่ หรือฟังแต่ไม่รู้เรื่องก็ช่างเถอะ แต่ ใครที่ยังกล่าวตู่ แอบอ้างพระพรหมคุณภรณ์ ว่าไปหาหลวงตามหาบัว ก็รับกรรมไปละกัน

    ถ้าเคารพหลวงตามหาบัว ขอให้นำสอนของหลวงตามหาบัวนั้น มาใช้ปรับปรุงตัวเองบ้างเถิด อย่าดีแต่ ทำตัวเป็นหมาเห่าเฝ้าคำสอนอาจารย์
    อยู่เปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์หรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2014
  20. wlotuss

    wlotuss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +184
    ผมเคยอ่านในหนังสือทำวัตรเย็น เขาบอกว่า นิพพานัง ปะระมัง วะทันติพุทธา แปลว่า ผู้รู้ทั้งหลายกล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง

    แสดงว่าคุณพูดค้านกับตำราหรือครับ หรือตำราสอนผิดครับ อย่าทำไห้ งง สิครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...