หมดแล้ว ร่วมสนุกปีใหม่ รับล็อกเก็ตหลวงปู่คำพันธ์จัดสร้างเอง หน้า 21

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย siriphan2009, 25 ตุลาคม 2014.

  1. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    วัตถุมงคลหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระพุทธมหาปฐวีธาตุ, ปฐวีธาตุ, พระผงรูปเหมือนเตารีด เพื่องานบูรณะกุฏิรับรอง และก่อสร้างพระมหาเจดีย์ "พระรัตนะบรมธาตุเจดีย์ศรีพนมโฆสะปัญโญ"

    ผมได้เคยบูชาวัตถุมงคล 3 สิ่งนี้มาจำนวนหนึ่ง จากพระอาจารย์กินเรศผู้เป็นพระอุปฐากหลวงปู่ จึงอยากนำวัตถุมงคลนี้มาให้ร่วมบุญกันเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา น้อมถวายบุญนี้แด่พระรัตนตรัยอันมีหลวงปู่คำพันธ์เป็นที่สุด

    ท่านที่ร่วมบูชาในช่วงนี้ จนถึงวันที่ 4 พ.ย. 57 จะนำปัจจัยนี้ไปร่วมทอดกฐินที่วัดธาตุมหาชัยด้วยครับ ซึ่งที่วัดจะมีงานทอดกฐินในวันที่ 6 พ.ย. 57 และจะยังคงให้ร่วมบุญต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง แล้วถึงจะปิดการร่วมบุญในครั้งนี้ครับ


    ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาหรือบูชาวัตถุมงคลได้ โดยการโอนเงินเข้า
    บัญชี นายสิริพันธุ์ ใจเพ็ชร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาบางกระบือ
    เลขที่บัญชี 018-240743-7

    หลังจากโอนเงินแล้ว โทรแจ้งจำนวนเงินที่โอนและแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งพระ ได้ที่ มือถือ 086-995-4424, 086-661-1665 หรือแจ้งมาทาง PM ก็ได้ครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 60 บาท


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030870.JPG
      P1030870.JPG
      ขนาดไฟล์:
      130 KB
      เปิดดู:
      348
    • P1030881.JPG
      P1030881.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.8 KB
      เปิดดู:
      340
    • P1030885.JPG
      P1030885.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.3 KB
      เปิดดู:
      248
    • P1030886.JPG
      P1030886.JPG
      ขนาดไฟล์:
      91.5 KB
      เปิดดู:
      319
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2014
  2. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    [​IMG]

    ประวัติหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร )

    อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม



    [​IMG]


    พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) อายุ ๘๘ พรรษา ๕๘ (พ.ศ.๒๕๔๖) อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุ
    มหาชัย บ้านมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ผู้เรืองธรรม มีปฐวีกสิณเป็นเอก เล่นแร่แปรธาตุจนดังสนั่น ชื่อเสียงเลื่องลือ
    ๒ คาบฝั่งโขง เป็นสมัญญานามที่ผู้คนต่างรู้จักดีถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าลุ่มน้ำโขง”


    อัตโนประวัติ

    หลวงปู่คำพันธ์ มีนามเดิมว่า คำพันธ์ ศรีสุวงค์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๘ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๒ ปีเถาะ
    ณ บ้านหมู่ที่ ๔ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายเคน และนางล้อม ศรีสุวงค์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
    ทั้งหมด ๒ คน ท่านเป็นบุตรคนโต มีชื่อตามลำดับดังนี้

    ๑. พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (คำพันธ์ ศรีสุวงค์)
    ๒. นายพวง ศรีสุวงค์ (ถึงแก่กรรม)

    และมีน้องร่วมมารดา แต่ต่างบิดากันอีก ๔ คน คือ
    ๑. นางสด วงษ์ผาบุตร (ถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗)
    ๒. ด.ช.บด แสนสุภา (ถึงแก่กรรม)
    ๓. ด.ญ.สวย แสนสุภา (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นางกดชา เสนาช่วย (ถึงแก่กรรม)

    วัยเด็กเป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยโยมบิดา-โยมมารดาทำนา อุปนิสัยเป็นคนเรียบง่าย เรียบร้อย พูดน้อย จบการศึกษาภาคบังคับ
    ป. ๔จากโรงเรียนบ้านโพนคู่ ต.พุ่มแก อ.นาแก จ.นครพนม


    การบรรพชา-อุปสมบท

    วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ปี) ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองหอย ต.นาแก อ.นาแก
    จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากได้บรรพชาแล้วก็ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม
    แบบโบราณ ในขณะเดียวกันก็ได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐานควบคู่ไปด้วย

    หลังจากบรรพชาได้ ๓ พรรษา ได้ออกเดินธุดงค์ทรงกรดไปที่จังหวัดเลย พร้อมกับพระภิกษุ ๒ รูป คือ พระภิกษุบุญ
    และพระภิกษุวัน ได้พบกับชีปะขาวคนหนึ่งชื่อว่าครุฑ ได้ศึกษาแนวทาง การปฎิบัติจากชีปะขาวอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนหน้าที่จะได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานนั้น เคยได้รับความรู้เรื่องกัมมัฏฐานมาจาก พระอาจารย์เสาร์ ซึ่งท่านไปอบรมประชาชนที่วัดโพนเมือง จ.อุบลราชธานี

    ท่านอาจารย์เสาร์ให้แนวทางในการ ปฏิบัติกรรมฐานไว้ว่า ให้กำหนดลมหายใจออก ท่านอาจารย์เสาร์ได้ให้ข้อคิดต่อ
    ไปอีกว่า “ร่างกายของคนเรานั้น เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง มันทำงานอยู่ตลอดเวลา ลมหายใจเข้า-ออกนั้น มีความสำคัญมาก
    ถ้าลมไม่ทำงานคนเราจะตายทันที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดลมหายใจ ” นอกจากนั้นท่านอาจารย์เสาร์ยังได้ย้ำอีกว่า
    “ให้คนเราตีกลองคือขันธ์ ๕ ให้แตก” ซึ่งก็หมาย ความว่า ท่านให้ทำความเข้าใจขันธ์ ๕ให้จงดีให้เข้าใจตามสภาพที่เป็นจริง........


    [​IMG]


    หลวงปู่ได้ศึกษาภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติกับหลวงปู่เสาร์ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่คำพันธ์ ก็ได้นำเอาแนวทาง
    การปฎิบัติของอาจารย์ทั้ง 2 มาเป็นแนวทางปฎิบัติกัมมัฎฐาน

    หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่จังหวัดเลยเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นได้เดินธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงรายประมาณ 3-4 เดือน
    โยมบิดาได้เสียชีวิตลง หลวงปู่จึงได้เดินทางกลับมาทำบุญงานศพบิดา และได้เดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆในเขตจังหวัดนครพนม
    สกลนคร อุดรธานี หนองคายและข้ามไปฝั่งลาวประมาณ 3-4 เดือน แต่ไม่ได้จำพรรษา แต่กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านเดิมอยู่
    ประมาณ 3 ปี และญาติโยชาวบ้านก็นิมนต์ท่านให้เข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเพื่อโปรดญาติโยมชาวบ้านบ้าง หลังจากออกพรรษา
    แล้ว หลวงปู่ก็ออกเดินธุดงค์ต่อ จนอายุถึง 40 ปี จึงหยุดเดินธุดงค์ แต่ก็พยายามศึกษาปฎิบัติธรรมกัมมัฎฐานมาโดยตลอดจนถึง
    ปัจจุบัน

    พ.ศ. ๒๔๗๘ อายุ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และเริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม
    พ.ศ. ๒๔๘๒ อายุ ๒๔ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรม เวลานั้นเหลือน้องผู้หญิง ๒ คน ซึ่งยังเล็กมาก จึงได้ลาสิกขาบทออกไปเลี้ยง
    ดูน้อง
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี ได้กลับเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ชัย บ้านพุ่มแก ต.พุ่มแก
    อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับนามฉายาว่า “โฆสปัญโญ” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีปัญญาระบือไกล”
    และได้ออกไปจำพรรษาที่วัดป่าเป็นเวลา ๓ พรรษา


    ต่อมาก็ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานพร้อมเป็นครูสอน พระปริยัติธรรมด้วยที่วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่
    ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้นำญาติโยมประมาณ ๕ ครอบครัว จากบ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก มาสร้างบ้านและวัดใหม่
    ที่โนนมหาชัย และให้ชื่อบ้านว่า “บ้านมหาชัย” ในปัจจุบันนี้ ได้สร้างวัดธาตุมหาชัย (เดิมชื่อวัดโฆษการาม) จนเจริญรุ่งเรือง
    ตราบถึงปัจจุบัน


    การศึกษา

    พ.ศ. ๒๔๗๒ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านโพนดู่ บ้านโพนดู่ ต.พุ่มแก อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๗๙ อายุ ๒๒ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๙ อายุ ๓๑ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    เมื่อหลวงปู่สอบได้นักธรรมเอกได้แล้ว หลวงปู่ก็ได้พยายามศึกษาพิเศษ เช่น เรียนหนังสืออักษรธรรม อักษรขอมได้
    เป็นอย่างดี และยังทรงพระปาฎิโมกข์ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย


    การศึกษาพิเศษ

    - ได้ศึกษาอักษรธรรม อักษรขอม อักษรไทยน้อย อ่านเขียนได้คล่องแคล่ว และมีความชำนาญมาก

    - ทรงจำพระปาฏิโมกข์ได้แม่นยำ เป็นพระผู้สวดพระปาฏิโมกข์ในวันทำสังฆกรรมอุโบสถ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๐ เรื่อยมา


    ความชำนาญการ

    - มีความชำนาญการแสดงพระธรรมเทศนาโวหาร บรรยายธรรม เทศนาธรรม และเทศนาธรรมแบบปุจฉาวัสัชนา ๒ ธรรมาสน์
    จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเขตอีสานเหนือ ยากที่จะหาพระธรรมกถึกรูปอื่นเสมอเหมือนในสมัยนั้น

    - มีความชำนาญการเทศนาธรรม ทำนองแหล่ภาษาอีสาน มีความสามารถในการประพันธ์กลอนแหล่ทำนองอีสานได้
    เช่น กลอนอัญเชิญพระเวสสันดรเข้าเมือง, พระเวสสันดรทรงพบพระประยูรญาติ, พระเวสสันดรลาป่า, นางมัทรีเดินป่า เป็นต้น

    - เป็นพระวิปัสสนาจารย์ใหญ่สาย พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
    ให้การอบรมวิปัสสนากรรมฐานประจำที่วัดป่ามหาชัย วัดส้างพระอินทร์ และวัดภูพานด่านสาวคอย

    - มีความชำนาญการด้านนวัตกรรม การออกแบบก่อสร้างเสนาสนะ ทั้งงานไม้ งานปูน โดยเป็นผู้นำในการก่อสร้างกุฏิสงฆ์
    ศาลาการเปรียญ และพระธาตุมหาชัย (การก่อสร้างครั้งแรกๆ ท่านทำเองทั้งหมด เพราะสมัยนั้นไม่มีช่างผู้ชำนาญการ
    และเงินงบประมาณก็มีไม่เพียงพอ)


    งานการศึกษาพระปริยัติธรรม

    พ.ศ. ๒๕๓๒ หลวงปู่ได้ตั้งสำนักเรียนวัดพระธาตุมหาชัย ทั้งแผนกธรรม-บาลีขึ้นจนสามารถมีลูกศิษย์สอบนักธรรม
    ได้เป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และมีลูกศิษย์สามารถสอบเปรียญธรรมได้ทุกปี ปีละหลายๆ รูป ทำให้การศึกษาแผนกธรรมบาลี
    อำเภอปลาปากดีขึ้นตามลำดับ

    พ.ศ. ๒๕๓๔ หลวงปู่ได้จัดตั้งทุนมูลนิธิการศึกษาพระปริยัตธรรม แผนกธรรม-บาลีขึ้นที่วัดธาตุมหาชัย ตำบลมหาชัย
    อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมและมอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุ สามเณร ที่มีความรู้ความสามารถสอบ
    นักธรรมชั้นตรี โท เอก ได้ และสามารถสอบเปรียญธรรมได้

    หลวงปู่ยังให้ทุนการศึกษาแก่ลูกศิษย์ที่ไปเรียนต่ออีกด้วย งานการศึกษาสงเคราะห์
    พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่ได้จัดตั้งกองทุนมูลนิธิการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ยากจน ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ในเขตอำเภอปลาปาก
    และทุกอำเภอในเขต จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 10 เดือนมกราคมของทุกๆ ปี หลวงปู่คำพันธ์จะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน
    ทุกอำเภอๆ ละ 9 ทุน และมอบทุนให้เป็นค่าอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนต่างๆ ด้วย

    พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่คำพันธ์ได้สร้างโรงเรียนมัธยมขึ้นที่บ้านนกเหาะ ตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
    ตั้งชื่อโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ว่า ธรรมโฆษิตวิทยา มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี และหลวงปู่คำพันธ์ยังได้เป็นผู้ อุปถัมภ์โรงเรียนแห่งนี้
    มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

    พ.ศ. ๒๕๓๘ หลวงปู่คำพันธ์ได้ขออนุญาตสร้างโรงเรียนสุนทรธรรมากรและในปัจจุบันนี้ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่
    ให้ชื่อว่า โรงเรียนมัธยมมหาชัยธรรมากร เพราะตั้งอยู่ ที่บ้านโนนศรีชมภูทางแยกเข้ามาบ้านมหาชัยหลวงปู่ก็ให้การอุปถัมภ์ในทุกวันนี้
    และได้จัดบรรพชา สาเณรภาคฤดูร้อนเป็นประจำ


    งานการเผยแพร่

    พ.ศ. ๒๕๓๒ หลวงปู่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยพระธรรมฑูตฝ่ายกำกับการพระธรรมฑูตอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๓๓ หลวงปู่ได้ร่วมมือกับคณะสงฆ์และทางราชการออกไปอบรมประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตการปกครอง
    และร่วมกับหน่วยงานของราชการทุกหน่วยงานออกไปอบรมตามโครงการหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของอำเภอปลาปาก
    และยังได้ติดตาม พระธรรมฑูตจากส่วนกลางออกเยี่ยมเยียนประชาชนในเขต อำเภอปลาปากโดยสม่ำเสมอมาตลอดทุกปี


    ตำแหน่งงานปกครอง

    พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นเจ้าอาวาสวัดโฆษการาม (วัดธาตุมหาชัย ในปัจจุบัน)
    พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นเจ้าคณะตำบลมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา ธรรม-บาลี
    พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปลาปาก


    สมณศักดิ์

    พ.ศ. ๒๕๑๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๒๐ พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๒๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ราชทินนาม “พระสุนทรธรรมากร”


    งานสาธารณูปการ

    พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นประธานสร้างอุโบสถ วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นประธานสร้างหอระฆัง วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    พ.ศ. ๒๔๙๕ หลวงปู่ได้นำญาติโยมชาวบ้านหนองหอยที่พากันติดตามหลวงปู่มาได้สร้างวัดขึ้นที่หมู่บ้านมหาชัย
    ใช้ชื่อวัดว่า วัดโฆษการาม บ้านมหาชัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นประธานนำชาวบ้านมหาชัยสร้างวัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นประธานสร้างพระคู่บ้านมหาชัย “พระพุทธศักดิ์สิทธิ์”
    พ.ศ. ๒๕๑๔ หลวงปู่ได้เป็นประธานนำญาติโยมชาวบ้านมหาชัยสร้างธาตุขึ้นภายในวัดซึ่งมีลักษณะ ทรงแปดเหลี่ยม
    สูง 15 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยพระองค์เอง
    พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นประธานสร้างอุโบสถ วัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นประธานสร้างกำแพงล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นประธานสร้างกุฏิสงฆ์
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นประธานสร้างวัดป่ามหาชัย (อรัญญคาม) และในปีเดียวกันนั้นเองหลวงปู่ได้ขอพระราชทาน
    พระบรมราชานุญาตให้นำพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานไว้ที่หน้าพระอุโบสถวัดโฆษการาม
    พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นประธานสร้างกุฏิสงฆ์หลังใหม่อีกหลังหนึ่ง และหลวงปู่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อวัดโฆษการาม
    เป็นวัดธาตุมหาชัย จนถึงปัจจุบัน และในปีเดียวกันนั้นหลวงปู่ได้เป็นประธานสร้างศาลาการเปรียญ-หอสมุดภายในวัด
    พ.ศ. ๒๕๒๙ หลวงปู่ได้สร้างหอพระไตรปิฎก หอระฆัง
    พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “โรงเรียนธรรมโฆษิตวิทยา”
    พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “ โรงเรียนธรรมากรวิทยา”
    พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นประธานสร้างพระธาตุมหาชัยครอบองค์เดิม
    พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นประธานสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ณ วัดส้างพระอินทร์ “พระพุทธการุณ”
    พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “โรงเรียนมหาชัยวิทยาคม”
    พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นประธานสร้างตึกผู้ป่วย โรงพยาบาลปลาปาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030905.JPG
      P1030905.JPG
      ขนาดไฟล์:
      107.5 KB
      เปิดดู:
      2,757
    • 169-cbe4.jpg
      169-cbe4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.7 KB
      เปิดดู:
      2,882
    • _1_957.jpg
      _1_957.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      4,158
  3. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    ลักษณะนิสัยทั่วไป

    พระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นพระมหาเถระ ที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เยือกเย็น มีความเมตตา กรุณาต่อศิษย์
    ตลอดถึงญาติโยมทุกคนที่เข้าหาท่าน ใครก็ตามที่มีปัญหา หรือมีความทุกข์เข้าหาท่าน จะได้รับการต้อนรับจากท่านอย่างดียิ่ง
    เสมอกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อครูบาอาจารย์ และพระเถระที่อาวุโสกว่า หลวงปู่จะแสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ
    โดยไม่เคยจะแสดงอาการ แข็งกระด้างใดๆเลย ด้วยเหตุนี้หลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของ ศิษยานุศิษย์และญาติโยมโดย
    ทั่วไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว หลวงปู่ก็ยังเป็นพระเถระที่มีความตั้งใจมั่นคง หนักแน่นอีกด้วย


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    จะเห็นได้จากการที่ท่านตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้ว จะต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ คงเป็นเพราะ ความตั้งใจจริง
    และความตั้งใจมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลวงปู่ทำสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี และรวดเร็ว เกิน ความคาดหมายทุกประการ ตัวอย่างเช่น
    พระธาตุมหาชัย, อุโบสถวัดธาตุมหาชัย, กำแพง ล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย และกุฏิสงฆ์หลังใหม่ ๒ หลัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละอย่าง
    ล้วน แต่ใช้ค่าก่อ สร้างจำนวนมากทั้งสิ้น เมื่อญาติโยมที่มีความเคารพนับถือในตัวหลวงปู่ทราบ ต่างก็มีจิตศรัทธา ช่วย กันสละ
    กำลังทรัพย์มาช่วยในรูปของกฐินบ้าง ผ้าป่าบ้าง จนงานก่อสร้างดัง กล่าวสำเร็จรวดเร็วเกินคาด อีกประการหนึ่ง โดยอุปนิสัยแล้ว
    หลวงปู่ท่านถือการ ปฏิบัติกัมมัฏฐานเป็นประจำนับตั้ง แต่อุปสมบทพรรษาแรก จนกระทั่งมรณภาพ


    การสร้างวัตถุมงคล

    นอกจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ด้านวัตถุมงคลก็โด่งดังยิ่งนัก แต่เริ่มเดิมทีหลวงปู่คำพันธ์ หาได้สนใจจัดสร้างไม่
    ท่านนั่งปลุกเสกสร้างวัตถุมงคลไปแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ รุ่น เพื่อนำปัจจัยไปพัฒนากิจการด้านการศึกษา การศาสนา การสังคม
    และวัฒนธรรมพื้นถิ่น

    วัตถุมงคลรุ่นแรกเป็นเหรียญรุ่นหยดน้ำ สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ต่อมาในช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ ทางวัดธาตุมหาชัย
    กำลังพัฒนา หลวงปู่คำพันธ์จึงได้สร้างอิทธิมงคลขึ้น ชื่อชุด “มหาชัยมงคล” เป็นพระสมเด็จปรกโพธิ์หล่อ และล็อกเกตอุดผงตะกรุดทองคำ
    ซึ่งท่านได้ทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกมหามนตราศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคลนี้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุนมูลนิธิสังฆศาสน์
    และเป็นทุนพัฒนาวัดธาตุมหาชัย

    รวมทั้ง เหรียญรุ่นมหาปรารถนา สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นเหรียญรุ่นสุดท้าย ซึ่งกองทัพบกสร้างขึ้น
    และได้ขอบารมีให้ท่านปลุกเสก

    ในจำนวนวัตถุมงคลที่สร้างและออกในนามหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย ทุกรุ่น จะพบว่า ยันต์ด้านหลังเหรียญที่พบมาก
    ที่สุด คือ “ยันต์สมปรารถนา” ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นยันต์เฉพาะตัวของหลวงปู่คำพันธ์ก็ว่าได้

    ส่วนที่มาของยันต์นั้น หลวงปู่คำพันธ์ได้มาจากจารึกบนแผ่นศิลา ใต้ฐานองค์พระธาตุพนม ซึ่งค้นพบหลังจากพระธาตุพนมล้มลง
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยหลวงปู่คำพันธ์กล่าวไว้ว่า “ภาษาจารึกเป็นภาษาสวรรค์” ทั้งนี้ หลวงปู่ได้นำมาปรับแต่ง และเขียนยันต์ขึ้นใหม่
    เพราะท่านศึกษาอักษรธรรมอีสาน อักษรขอม อักษรไทยน้อย อ่านเขียนได้คล่องแคล่ว และมีความชำนาญมาก โดยใช้ชื่อว่า “ยันต์สมปรารถนา”

    ส่วนพระคาถาที่หลวงปู่คำพันธ์ใช้ในพิธีอธิษฐานจิต ปลุกเสกมหามนตราศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคล คือ “คาถาพระพุทธเจ้า”
    โดยบริกรรมว่า “ทิตะ ศิรา ทันนันฑะ โลกะ ลิลากะ ละลาสติโป จะติโห คะหะตะเน”

    “ยันต์สมปรารถนา” ของหลวงปู่คำพันธ์ มีความพิเศษกว่ายันต์ของพระเกจิอาจารย์รูปอื่นๆ คือ เขียนด้วยอักขระขอม และอักขระธรรม
    อีสาน ซึ่งปกติแล้วการเขียนยันต์ทั่วๆ ไปจะใช้อักขระเดียวเท่านั้น อักขระที่ใช้เขียนยันต์มี ๖ ภาษา ได้แก่ อักขระขอม อักระธรรมล้านนา
    อักขระธรรมอีสาน อักขระมอญ อักขระพม่า และอักขระสิงหล ซึ่งเมื่อเทียบเคียงแล้ว จะพบว่าอักขระทั้ง ๖ ภาษา (ถ้ารวมไทยด้วย ๗ ภาษา)
    บางตัวเขียนคล้ายกันมาก เช่น ก.ไก่ ย.ยักษ์ และ ว.แหวน เป็นต้น ที่เป็นเช่นนี้ เพราะการประดิษฐ์อักษรไทยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
    ในสมัยสุโขทัยนั้น ประยุกต์หรือปรับปรุงมาจากอักษรมอญ และขอม ซึ่งมีการใช้อักษรมาก่อน


    มรณภาพ

    พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) ได้ละสังขารอย่างสงบในกุฏิจำพรรษา ด้วยโรคชราภาพ
    ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายอย่างแทรกซ้อน หลังจากอาพาธมานานหลายปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖
    เวลาประมาณ ๐๑.๕๙ น. ณ วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุได้ ๘๙ พรรษา ๕๙ สร้างความสลดโศกเศร้าให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิด
    ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง วันนี้...หลวงปู่คำพันธ์ พันธุ์ไม้มีแก่นในตัว ไม่โอ้อวด ไม่ยึดติด
    ท่านสิ้นใจแต่ไม่สิ้นธรรม


    [​IMG]


    ขอขอบคุณ ข้อมูล จาก กระดานสนทนาเว็บไซต์ "ศิษย์หลวงปู่คำพันธ์"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.7 KB
      เปิดดู:
      2,420
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8 KB
      เปิดดู:
      2,454
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8 KB
      เปิดดู:
      2,414
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.4 KB
      เปิดดู:
      2,659
  4. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    พระพุทธมหาปฐวีธาตุ

    [​IMG]


    พระพุทธปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นี้เป็นของวัดสร้างเอง ส่วนใหญ่เรียกว่าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อดินหรือเนื้อเกสร แต่หลวงปู่ท่านเรียกว่า “พระพุทธมหาปฐวีธาตุ” ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรก็หมายถึงพระพิมพ์นี้ทั้งนั้น พุทธมหาปฐวีธาตุนี้สามารถอธิฐานแช่น้ำทำน้ำมนต์ได้ด้วย

    หลวงปู่คำพันธ์ ท่านกล่าวไว้ว่า มีองค์นี้แล้วเหมือนมีหลวงปู่อยู่ด้วย น้ำมนต์ก็จะศักดิ์สิทธิ์ดุจดั่งหลวงปู่ทำให้เองเลย ดังนั้น พระพุทธมหาปฐวีธาตุจึงนับได้ว่าเป็นพระอีกพิมพ์หนึ่งในไม่กี่พิมพ์ที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านโปรดปราน

    ประมาณปี 31 หรือ 32 มีศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่ง เข้ากราบหลวงปู่ร่วมกับคณะครูและผู้บริหารประมาณ 5-6 คน เพื่อถวายสังฆทาน หลวงปู่หยิบพระผงสีดำจากย่ามให้คนละองค์
    ท่านบอกว่า นี่คือสมเด็จมหาปฐวี ดิน 9 บัง ด้วยความไม่รู้ จึงถามหลวงปู่ไปว่า ดิน 9 บัง เป็นดินที่ลี้(ซ่อน,บัง) 9 ครั้งหรือครับหลวงปู่ หลวงปู่หัวเราะแล้วตอบอย่างอารมณ์ดีว่า 9 บัง
    หมายถึง ดิน 9 จากห้วย 9 ห้วย (ห้วย หมายถึง ห้วยหนอง หรือหนองน้ำ หรือแหล่งน้ำ) ซึ่งสรุปแล้วสมเด็จมหาปฐวีเป็นสมเด็จที่หลวงปู่นำดินจากแหล่งน้ำที่ศักดิ์สิทธ์ 9 แห่ง มากดเป็นพิมพ์พระสมเด็จนั้นเอง

    พุทธลักษณะเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับบนอาสนะมีฐานผ้าทิพย์ปางมารวิชัยประทับใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ บริเวณพระศอและใบหน้าด้านหลังเป็นรัศมีเส้นวงกลม อันหมายถึงพระปัญญาญาณที่สว่างไสว สงบและเต็มไปด้วยบุญญาและบารมีแห่งธรรมะ เส้นขอบองค์พระคู่ขนานกับองค์พระเว้าเป็นซุ้มและกนกทำให้พุทธศิลป์โดยรวมขององค์พระมีความงดงามและลงตัว

    ด้านหลังองค์พระประทับด้วยพระยันต์ "นะปัดมหาสูญนิพพาน" ที่หลวงปู่คำพันท่านว่า มีความศักดิ์สิทธิ์และมีความหมายอย่างยิ่ง มีคุณค่าอันยิ่งใหญ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ หลวงปู่ท่านเรียกยันต์ตัวนี้ว่า “ยันต์ นะ ปัดมหาสูญนิพพาน” ผู้ใดมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ จะไม่มีวันตกต่ำ และจะมีชีวิตที่สูงยิ่งขึ้น เมื่อบูชา และอาราธนาใช้ แต่บุคคลนั้นต้องตั้งอยู่ในความดี

    กล่าวได้ว่า วัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์เหมาะสมกับผู้ที่เจริญด้วยความดี ไม่ว่าจะยากจนแสนเข็ญหรือร่ำรวยล้นฟ้า ทุกคนสามารถเป็นคนดีได้เปรียบเสมือนผู้กับผู้เจริญรอยตามพระธรรม สามารถเข้าถึงพระนิพพานแห่งธรรมะได้ สิ่งนี้คือความหมายของ “ยันต์ นะ ปัดมหาสูญนิพพาน” ของหลวงปู่

    ฉะนั้นหากผู้ใดมี “พระพุทธมหาปฐวีธาตุ” โปรดจงระลึกไว้เสมอว่า ท่านมีวัตถุมงคลที่เปี่ยมพร้อมไปด้วยพุทธศิลป์ที่งดงาม และพุทธคุณอันสูงล้ำค่าแห่งองค์พระทั้งดีในและดีนอก คือ มวลสารที่นำมาใช้สร้างถูกคัดกรองมาอย่างดีจากสถานที่ ที่หลวงปู่ท่านบอก รวมถึงการได้รับการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยแล้ว จึงถือได้ว่า เป็นของดีอันสุดวิเศษจริง ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 035.jpg
      035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99 KB
      เปิดดู:
      3,642
    • 081.jpg
      081.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.5 KB
      เปิดดู:
      2,700
  5. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    [​IMG]


    ประสบการณ์ของ "พระพุทธมหาปัฐวีธาตุ"

    เรื่องที่ ๑

    เด็กนักเรียนถูกแทงไม่เข้า
    เด็กนักเรียนคนนี้เป็นลูกชายของพี่อู๊ด และพี่อู๊ดก็เป็นพี่ชายของอาจารย์อ๊อด (รังสรรค์ ธนะรัชต์)
    เรื่องมีอยู่ว่า พี่อู๊ดได้บูชาพระเครื่องของหลวงปู่คำพันธ์มาองค์หนึ่งได้เลี่ยมให้ลูกชาย แขวนคอจนประสบอุบัติเหตุถูกแทงไม่เข้าในวันหนึ่ง คือลูกชายพี่อู๊ดเพิ่งเลิกโรงเรียน กำลังเดินเข้ากลุ่มพรรคพวกกลับบ้านก็เป็นอันได้ประจันหน้ากับกลุ่มนักเรียน โรงเรียนคู่อริ จึงตีกัน ลูกชายพี่อู๊ดรูปร่างอ้วนใหญ่ หนีไม่ทัน ถูกแทงที่ท้องล้มลง คนแทงก็ทิ้งมีดไว้ด้วย ไม่เอากลับคืน แทงแล้วก็แตกฮือวิ่งหนีไปลูกชายพี่อู๊ดจุกแอ่ก พูดไม่ออก ในขณะที่เสื้อขาดเป็นรอยมีดจิ้มที่พุง และมีดก็พับงอตกอยู่ข้างๆอย่างน่าอัศจรรย์ รอดตายมาได้โดยปาฏิหาริย์ลูกชายพี่อู๊ดแขวนพระพุทธปฐวีธาตุห้าเหลี่ยมอยู่เพียงองค์เดียว


    เรื่องที่ ๒

    อภินิหารของพระพิมพ์นี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องย้ำว่าได้ยินมาจากปากหลวงปู่เองในขณะที่ท่านอารมณ์ดี และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นหลายปีดีดักแล้ว
    ท่านเล่าว่า
    “มีครูสตรีคนหนึ่ง บ้านอยู่กรุงเทพฯ มาสอนหนังสือที่นครพนม วันหนึ่งจะเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ได้เอาเงินเดือนที่เพิ่งรับมาใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วถือขึ้นรถบัสไป ระหว่างทางโจรก็แสดงตัวลุกขึ้นทำการปล้นอยู่บนรถโดยสาร ปล้นเรียงตัวมาเรื่อยๆ ครูสตรีก็ตกใจ ถอดทั้งแหวน ทั้งกำไล ทั้งนาฬิกา ทั้งสร้อยคอ ทั้งพระพุทธมหาปฐวีธาตุ ใส่รวมไว้ในกระเป๋าถือ เมื่อโจรมาถึงก็เปิดกระเป๋าเอามือควานลงไปหาทรัพย์สิน ควานแล้วก็ถอนมือเปล่ากลับออกมาโดยไม่ได้เอาอะไรเลย โจรก็ดีนะยังรูดซิบปิดกระเป๋าให้ด้วย
    พอปล้นจนพอใจคือครบทุกคนแล้วก็ยังสงสัยกลับย้อนมาที่ครูสตรีคนนี้อีก เปิดกระเป๋าอีกรอบหนึ่งล้วงมือลงไปค้นหาของ แล้วก็ไม่ได้อะไรและรูดซิปปิดกระเป๋าให้อีก” หลวงปู่ยิ้ม อารมณ์ดี เวลาเล่าเรื่องก็ทำมือประกอบไปด้วย
    “มันแปลกดีนะที่โจรไม่เอาอะไรไปเลย ทั้งที่ทรัพย์สินทุกอย่างก็อยู่ในนั้น
     
  6. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    ปฐวีธาตุ (ธาตุกายสิทธิ์) แห่งลุ่มแม่นำโขง

    [​IMG]


    ปฐวีธาตุ (ธาตุกายสิทธิ์) แห่งลุ่มแม่นำโขง

    กายสิทธิ์ คือคำที่ใช้เรียก จิตของผู้ทรงอภิญญาที่ฝึกฝนจิตจนกระทั่งได้ฌาณสมาบัติเมื่อสิ้นอายุขัย แต่ยังต้องการบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไปในโลกมนุษย์ (หรือเพราะต้องทำหน้าที่บางประการ) จึงต้องละจากสังขารเดิมแล้วเข้าอาศัยในบางสิ่ง เช่น รัตนชาติ (กายสิทธิ์ จึงไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้ทรงอภิญญา)

    ธาตุกายสิทธิ์ เป็นธาตุที่มีพลังและอิทธิฤทธิ์ในตัวเองโดยธรรมชาติแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เหล็กไหล ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุดิน มีกายสิทธิ์เข้าไปถือครองส่วนใหญ่จะเป็นกายสิทธิ์ภาคดำ (มิจฉาทิฐิ) จึงมักจะดุร้ายมักจะให้โทษแก้ผู้ถือครองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเหล็กไหลแล้ว กายสิทธิ์อาจถือครองในหินหรือรัตนชาติ (หินที่มีค่า เช่น หินเขี้ยวหนุมาน เพชร เป็นต้น)

    ธาตุกายสิทธิ์ จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส คือก้อนกรวดใต้น้ำที่ท่านเจ้าคุณนรฯ บอกให้คุณปลัดโกศล หลานชายท่านฯ นำมาจาก อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ห้ามเก็บจากที่อื่นเนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ท่าน และได้อธิษฐานจิตให้พร้อมทั่งได้อธิบายให้คุณปลัดโกศลฟังว่า "ก้อนกรวดนี้ขลังมาก สามารถที่จะคุ้มครองป้องกันนิวเคลียร์ และป้องกันไฟได้" เป็นของสิ่งแรกที่ท่านได้อธิษฐานจิตโดยการนั่งหันหน้าเข้าหาสิ่งของนั้น เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านจะละสังขารท่านได้เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านไว้ว่า "ช้างเผือกเกิดขึ้นทางฝั่งโขง สามารถเสกปฐวีธาตุได้เหมือนเฉกเช่นเดียวกับท่าน"

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครองซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูงอีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษจึงกล่าวได้ว่ามี อิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด

    สำหรับการบูชาปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์นั้น ท่านว่าถ้าท่านไม่ได้นำติดตัวไปไหนมาไหน หลวงปู่ท่านสั่งว่าให้นำปฐวีฐาตุแช่ลงในน้ำสะอาดซึ่งภาชนะนั้นต้องสะอาดด้วย จากนั้นก็ให้ตั้งบูชาไว้ในที่สูงหรือที่อันควร เพื่อที่จะได้น้ำนั้นเป็นน้ำมนต์ เพื่อจะนำน้ำนั้นมาดื่มกินหรือประพรหมบ้านเรือนก็เป็นมงคลยิ่ง และในวันพระหลวงปู่ท่านให้เอาน้ำอบ น้ำหอมและดอกมะลินำมาใส่บูชา และท่านให้น้อมรำลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ แล้วตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า " หิตะหิรา มันทะโล กะสิลา กะละลาสะติโสจะถิโห คะนะตะเน " ท่านให้ว่า 3 จบ แล้วให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่คำพันธ์ หมู่เทพยาดา และพระยานาคที่รักษาปฐวีธาตุอยู่แล้วอธิษฐานเอาในสิ่งที่ปรารถนา ด้วยจิตที่มุ่งมั่นต่อพระรัตนตรัย และเดชานุภาพของปฐวีธาตุจักบันดาลให้เกิดความสำเร็จในไม่ช้า

    “ปฐวีธาตุ” หรือ “พระเพชร”แห่งลุ่มแม่นำโขง หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
    ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้ร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย จึงได้เกิดการตามหาพระรูปนั้นหลังจากที่สิ้นท่านเจ้าคุณนรฯ ไปแล้ว

    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม คือพระรูปนั้น ท่านได้ทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับตำราการอธิษฐานจิต“ ปฐวีธาตุ” มาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มโดยได้มีชายผู้หนึ่งได้นำมาถวายให้ท่านตามคำสั่งเสียของบิดาก่อนตาย โดยบิดาของชายผู้นั้นได้สั่งกำชับบุตรชายไว้ว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันธ์แต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งตำราเล่มนั้นเขียนด้วย “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

    หลวงปู่คำพันธ์ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพำยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม แต่ก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ “ปฐวีธาตุ” ของท่านจะต้องได้มาจากอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น จะใสหรือขุ่น ใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ นอกจากนี้ในตำรายังได้ระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือ คาถาอาคมไม่ได้เลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.4 KB
      เปิดดู:
      3,642
  7. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    มูลเหตุของการอธิษฐานจิตปฐวีธาตุ


    สืบเนื่องจากในช่วงก่อนปี 2500 บ้านเมืองยังเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ทำให้เหล่าทหาร ตำรวจและข้าราชการต่างๆ มาขอของดีจากท่านเอาไว้คุ้มตัว ท่านจึงได้ให้เหล่าทหารและชาวบ้านไปเก็บหินในแม่น้ำโขงมาให้ท่านอธิษฐานจิต ท่านบอกว่า ท่านเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรเช่นเดียวกับปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯ แล้วเสกหนุนธาตุต่างๆตั้งให้เป็นองค์พระและธาตุปฐวีคือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกปฐวีธาตุของท่านว่า “ พระเพชร “
    ลป.คำพันธ์ ท่านเก่งในการคุมธาตุสี่ น้ำ ดิน ลม ไฟ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่ว ลป.โต๊ะฯ ก็อีกรูปหนึ่ง เมื่อท่านนำ ”ปฐวีธาตุ” มาเสกก็จะเรียกธาตุ 4 ทีละธาตุแล้วรวมธาตุเป็นหนึ่ง เสกบรรจุลงในก้อนปฐวีธาตุนั้น เมื่อนำมาใช้ธาตุสี่ในตัวเราก็จะผสานกับปฐวีธาตุนั้น สรรพคุณสุดแท้จะอธิษฐานเอา ในเวลาอธิษฐานปฐวีธาตุหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ” หลวงปู่คำพันธ์ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของปฐวีธาตุของท่านว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุเย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยอันเกิดจากรังสีความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้


    การบูชาปฐวีธาตุ

    หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก แล้วตั้งนะโม 3 จบ สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้
    “ หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน ” ( 3 จบ )
    แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง
    การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านเป็นสิริมงคลนัก กันภัยนานาชนิด

    หมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุพลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่าน

    ปฐวีธาตุต่างกับพระเครื่องอย่างไร
    ปฐวีธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่านั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะเข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร

    พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้
    เมื่อปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลัง งานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้
    นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุเมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็นล้าน ๆ ปี
    ครูบาอาจารย์ผู้มีจิตอัศจรรย์เข้าถึงหลักธรรมชาติอย่างถ่องแท้จึงมักทำปฐวีธาตุให้ศิษย์ อาทิ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส
    ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันเคยบอกว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย"
    และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก

    ขอขอบคุณพระเครื่อง amulet เอื้อเฟื้อข้อมูล
     
  8. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ

    ตลอดชีวิตของคน “ทำ” พระเป็น ย่อมรู้แน่แก่ใจว่าเครื่องมงคลชิ้นใดที่ตนได้ “บรรจุคุณ” ไว้อย่างเต็มที่ที่สุด หรือทราบชัดว่า ของสิ่งใดที่ทรงไว้ซึ่ง “อานุภาพ” อย่างถึงที่สุด แล้วมักเก็บงำของนั้นไว้เป็นอย่างดี ไม่ใคร่ตกถึงมือใครง่ายๆ ดังเช่นของสิ่งอื่นทั่วไป เช่น หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ยากที่ใครจะได้ตะกรุดธาตุหก, หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ยากที่ใครจะได้พระพรหมผง และสำหรับหลวงปู่คำพัน ใครจะเอาปฐวีธาตุก็ยากนัก คงเป็นเพราะท่านเหล่านั้นเกรงว่าผู้รับจะไม่รู้ถึงคุณค่าของของนั้น หรือไม่ก็กลัวผู้รับไปจะเปลี่ยนใจเป็นโจรในภายหลัง ซึ่งจะยากแก่การปราบปราม

    ผมก็เดาได้แค่นี้แหละ ในศักดิ์สิทธิ์ฉบับก่อนโน้นที่เคยกล่าวถึงของป้องกันนิวเคลียร์ได้มีหลายท่าน จ.ม. ไปถามผมว่ากันอย่างไรได้ระเบิดตกลงมาตรงหน้ายังกันได้หรือ? โถ ! ถ้าถึงขนาดนั้นอย่าว่าแต่คนแขวนเลย พระก็คงจะป่นนะครับ ที่ผมบอกว่าป้องกันได้นั้น หมายถึง กัน “กัมมันตภาพรังสี” ต่างหาก เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศไทยไม่ถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ดังเช่นที่ญี่ปุ่นเคย ดอก แต่กัมมันตภาพรังสีที่ฟุ้งกระจายไปในชั้นบรรยากาศมันจะมากับอากาศที่หายใจ กับเมฆ กับฝน และแม่น้ำ ลำธารต่างๆ ฝุ่นรังสีย่อมปนเปื้อนอยู่ทั่วไป มงคลวัตถุที่ท่านผู้ทรงคุณทั้งหลายเจริญภาวนาให้ จะมีอานุภาพทำลายกัมมันตภาพรังสีเหล่านั้นให้มีสภาวะเป็นกลางไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ไม่ใช่ระเบิดตกลงหลังคาบ้านแล้วไม่ตายครับ นั่นเป็นความเชื่อของผมโดยส่วนตัว ใครจะเชื่อก็ไม่ว่า ใครไม่เชื่อก็ไม่ว่าเป็นของธรรมชาติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนสัตว์โลกอยู่เป็นนาน คนเชื่อก็มีคนไม่เชื่อก็มี สำมะหาอะไรกับผม

    คนไม่เชื่อหยุดอ่านก่อนได้เพื่อความสบายใจ ส่วนคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างเชิญอ่านต่อไป เพราะผมจะเข้าเรื่องสำคัญ ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งในใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้สร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย ปรารภนี้เป็นที่น่าสนใจ ใครที่รู้ต่างก็ออกแสวงหาพระผู้เสกปฐวีธาตุเป็น คำว่า “เป็น” ของท่านเจ้าคุณนรฯ คงหมายถึงทำได้มากจนแพร่หลายไปในหมู่ชนได้ ไม่ใช่ทำเพียงแค่ก้อนสองก้อนก็จบหากันอยู่นาน ก็ระแคะระคายว่ามี พระทางจังหวัดนครพนมรูปหนึ่ง ท่านทำปฐวีธาตุ ได้ เอ ! หรือท่านจะ “รับมุข” ที่ท่านเจ้าคุณนรฯพูด ทว่า เมื่อเช็คกับผู้รู้ท่านหนึ่ง ท่านว่า พระเถระรูปนั้นทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯเสียอีก จึงออกสืบเสาะจนได้ความว่าเป็น หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ หลวงปู่คำพันทราบถึงวิธีการอธิษฐานปฐวีธาตุได้อย่างไร มันมีที่มาอย่างนี้ครับกลับไปหลายสิบปีก่อน ครั้งหลวงปู่คำพันยังเป็นพระหนุ่ม ๆ มีผู้เฒ่าที่ครอบครองตำราสำคัญอยู่ นัยว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ครั้นชายชราใกล้ถึงที่สุดแห่งอายุขัย ก็ได้สั่งกำชับบุตรชายว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันแต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น สั่งความได้ไม่นานก็ลาโลกนี้ไป บุตรชายก็ทำตามสั่งทุกประการ นำตำราไปมอบให้หลวงพ่อคำพัน เมื่อท่านเปิดอ่านก็ปรากฏว่าตัวอักษรในนั้น เป็น “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เมื่ออ่านไปเรื่อยจึงทราบว่าหนังสือนั้นเป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาตุ” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

    หลวงปู่คำพัน ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น คำว่าโปร่งแสง หมายถึง แสงสามารถลอดทะลุผ่านได้ ไม่ใช่โปร่งใส ถ้าโปร่งใสจะหมายถึงมองทะลุเห็นภาพอีกด้านได้ ซึ่งคงไม่มีกรวดชนิดใดเป็นเช่นนั้นแน่ หรือถ้ามีคงหายากสุดๆ และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพัน เป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่น มาถวายท่าน อธิษฐานแทนก็ตาม มันก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ ด้วยท่านมีข้อแม้กับปฐวีธาตุว่า ต้องอยู่ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น ส่วนจะใสหรือขุ่นจะใหญ่หรือเล็กท่านไม่เอามาเป็นประมาณ ผมเองก็เพิ่งทราบว่า ไม่เพียงท่านเจ้าคุณนรฯ หรือหลวงปู่คำพันเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุได้ พระมหาเถระผู้ทรงคุณสูงสุดคือ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ก็ทำปฐวีธาตุ แต่ง่ายดายมาก ด้วยการให้ศิษย์เก็บเอากรวดที่ข้างกุฏิท่านนั่นแหละมาอธิษฐาน หาง่าย แต่หายาก “หา” แรกง่าย เพราะเอากรวดข้างกุฏิไม่ต้องไปไกล “หา” หลังยาก เพราะของไม่มี คนอยากได้ก็ฝันไปก่อนรวมทั้งผม ไม่เพียงหลวงปู่ขาวเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก็ทำ ทำจริงๆนะ มีคนใกล้ชิดที่เชื่อถือได้ได้รับจากมือหลวงปู่ดูลย์มาจริงๆ ก็น่าแปลกที่ท่านเหล่านั้นสามารถ ทราบได้ว่า กรวดธรรมดาหากกำหนดจิตให้เป็นของมีพลังงาน ด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้ละก็ย่อมมีอานุภาพสุดจะประมาณ ขนาด กันนิวเคลียร์ได้ก็แล้วกัน

    หลวงปู่คำพันบอกว่า ในตำราระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือคาถาอาคมไม่ได้เลย จึงหมดสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ก็ทำเป็น ปฐวีธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่น ผมไม่ทราบว่าท่านอธิษฐานจิตในการป้องกันอย่างไร แต่ของหลวงปู่คำพันท่านอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่าน เรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” ตั้งแต่ผมเขียนหนังสือแบบ เป็นล่ำเป็นสันมา ในเรื่องราวนับร้อยเรื่องที่เขียนนั้นเรื่อง "ปฐวีธาตุที่สุดแห่งขลัง" นี้ผมชอบมากที่สุด ไม่รู้ทำไมชอบ... อาจ เป็นเพราะ...เรื่องลึกลับอย่างนี้ผมชอบเป็นทุนอยู่แล้ว หรืออาจเป็น เพราะ...ผมมีใจเปี่ยมศรัทธาในปฐวีธาตุมาแต่สมัยท่านเจ้าคุณนร ฯ อธิษฐานอยู่แล้ว

    ฤาอาจเป็นเพราะ...หลวงปู่คำพันได้ยก "หนังสือศักดิ์สิทธิ์" ฉบับที่ลงเรื่องนี้ขึ้นอ่านด้วยองค์ท่านเอง อ่านจบแล้วท่านให้ศิษย์โทรศัพท์ทางไกลถึงผม เสียงจากเมืองไกลโพ้นฟาก ฝั่งแม่น้ำโขงแว่วมาตามสายว่า... " เขียนได้ดีมาก หลวงปู่ขอชม ไม่เกินเลยความจริง เล่าอย่างไร ก็เขียนอย่างนั้น " ด้วยปรารภจากหลวงปู่คำพันเพียงเท่านี้ จะซีไรท์ หรือ ประกาศนียบัตรใด ๆ ผมก็ไม่ปรารถนาแล้วครับ

    การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่” เหนือกว่าวัตถุมงคลทั้งปวงของท่าน สมัยก่อนที่ คุณอำพล เจน อนุญาตให้บริเวณบ้านเป็นสนามลองพระอยู่นั้น ได้มีการหยิบยกเอาปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันชนิดไม่ถูกแบบมาทดสอบให้เห็นจริง โดยระบบ “ยิง” ซึ่งเป็นระบบพิสูจน์ให้เห็นจริงกันได้จะจะตา คุณอำพล ไม่ได้เป็นคนยิง ผู้ยิงเป็นตำรวจแม่นปืน แต่แม่นปืนก็ยังไม่ชัวร์ จึงต้องเอาปืนจ่อปฐวีธาตุในระยะ “เผาขน” ปากกระบอกปืน ห่างจากปฐวีธาตุไม่เกิน 1 นิ้ว เรียกว่าใครดีใครอยู่ ก่อนจะกดเปรี้ยงลงไป ผลคือลูกปืนแฉลบผ่านองค์ธาตุไปได้อย่างน่าประหลาด ซึ่งในระยะจ่อยิงขนาดนั้น อย่าว่าแต่ปฐวีธาตุเลย ให้ยิงเด็ดหนวดยุงตัวผู้ก็คงไม่พลาด เป็นที่ประจักษ์ว่าคงอานุภาพด้านแคล้วคลาดกันภัยได้จริง แม้ว่าปฐวีธาตุก้อนนั้น จะเป็นชนิดไม่ต้องตามตำราก็ตาม

    ขอขอบพระคุณ ท่าน รณธรรม ธาราพันธุ์

    และข้อมูลจาก ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ : บทความ - เรื่องราวน่ารู้
     
  9. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    รายการที่ 1 ร่วมบุญชุดละ 600 บาท ประกอบด้วย

    1) พระพุทธมหาปฐวีธาตุ เนื้อดินเก้าบัง ครบรอบ 81 ปี จัดสร้างปี 2539 1 องค์
    2) พระผงรูปเหมือนหลังเตารีด ติดจีวร เนื้อผงพุทธคุณ 1 องค์ (เนื้อนี้จัดสร้างไม่มาก ไม่ค่อยได้พบเห็น)
    3) ปฐวีธาตุ แบบขุ่น 1 องค์


    ชุดที่ 1 kiati_sak จองแล้ว

    [​IMG] [​IMG]


    ชุดที่ 2 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 3 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 4 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 5 ชาตรี ช้างน้อย จองแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    มีให้ร่วมบุญ 30 ชุด ผมของลงภาพให้ดูเป็นตัวอย่าง 5 ชุดครับ ลักษณะพระคล้ายกันหมดครับ


    ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาหรือบูชาวัตถุมงคลได้ โดยการโอนเงินเข้า
    บัญชี นายสิริพันธุ์ ใจเพ็ชร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาบางกระบือ
    เลขที่บัญชี 018-240743-7

    หลังจากโอนเงินแล้ว โทรแจ้งจำนวนเงินที่โอนและแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งพระ ได้ที่ มือถือ 086-995-4424, 086-661-1665 หรือแจ้งมาทาง PM ก็ได้ครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      2,358
    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      2,361
    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.4 KB
      เปิดดู:
      2,328
    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      2,370
    • 07.jpg
      07.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.3 KB
      เปิดดู:
      2,316
    • 08.jpg
      08.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.1 KB
      เปิดดู:
      2,338
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80 KB
      เปิดดู:
      2,330
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.6 KB
      เปิดดู:
      2,332
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      2,283
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.3 KB
      เปิดดู:
      2,365
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2014
  10. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    รายการที่ 2 ร่วมบุญชุดละ 600 บาท ประกอบด้วย

    1) พระพุทธมหาปฐวีธาตุ เนื้อดินเก้าบัง จัดสร้างปี 2535 1 องค์
    2) พระผงรูปเหมือนหลังเตารีด ติดจีวร เนื้อชานหมาก-เกสร 1 องค์
    3) ปฐวีธาตุ แบบขุ่น 1 องค์


    ชุดที่ 1 นายดีเลย จองแล้ว

    [​IMG] [​IMG]


    ชุดที่ 2 tuaang จองแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 3 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 4 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    ชุดที่ 5 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG]
    [​IMG]


    มีให้ร่วมบุญ 30 ชุด ผมของลงภาพให้ดูเป็นตัวอย่าง 5 ชุดครับ ลักษณะพระคล้ายกันหมดครับ


    ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาหรือบูชาวัตถุมงคลได้ โดยการโอนเงินเข้า
    บัญชี นายสิริพันธุ์ ใจเพ็ชร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาบางกระบือ
    เลขที่บัญชี 018-240743-7

    หลังจากโอนเงินแล้ว โทรแจ้งจำนวนเงินที่โอนและแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งพระ ได้ที่ มือถือ 086-995-4424, 086-661-1665 หรือแจ้งมาทาง PM ก็ได้ครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.4 KB
      เปิดดู:
      2,238
    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.3 KB
      เปิดดู:
      2,234
    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.9 KB
      เปิดดู:
      2,244
    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.3 KB
      เปิดดู:
      2,287
    • 07.jpg
      07.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.9 KB
      เปิดดู:
      2,213
    • 08.jpg
      08.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.5 KB
      เปิดดู:
      2,180
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.1 KB
      เปิดดู:
      2,173
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      2,168
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.7 KB
      เปิดดู:
      2,198
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.3 KB
      เปิดดู:
      2,202
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2014
  11. bcbig_beam

    bcbig_beam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +3,246
    ขอร่วมบุญ รายการที่ 1 ชุดที่ 5 จำนวน 1 ชุด
    ขอกราบโมทนาบุญด้วยทุกประการครับ
     
  12. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,378
    ค่าพลัง:
    +13,255
    ร่วมทำบุญรายการที่ 1 ชุดที่ 1 ครับ
     
  13. นายดีเลย

    นายดีเลย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอร่วมบุญ รายการที่2ชุดที่1ครับ
     
  14. Srisumlit

    Srisumlit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +450
    ผมขอร่วมบุญ รายการที่ 1 ครับ 1ชุดไม่เลือกครับแล้วแต่ท่าน โอนเงินแล้วจะ p m ให้ทราบครับ
     
  15. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    รายการที่ 3 ร่วมบุญชุดละ 1,000 บาท ประกอบด้วย

    1) พระพุทธมหาปฐวีธาตุ เนื้อดินเก้าบัง จัดสร้างปี 2535 1 องค์
    2) พระพุทธมหาปฐวีธาตุ เนื้อดินเก้าบัง ครบรอบ 81 ปี จัดสร้างปี 2539 1 องค์


    ชุดที่ 1 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG] [​IMG]


    ชุดที่ 2 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG] [​IMG]


    ชุดที่ 3 ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG] [​IMG]



    ชุดที่ 4 นอกเว็ป ร่วมบุญแล้ว

    [​IMG] [​IMG]



    ชุดที่ 5 จองแล้ว

    [​IMG] [​IMG]



    มีให้ร่วมบุญ 20 ชุด ผมของลงภาพให้ดูเป็นตัวอย่าง 5 ชุดครับ ลักษณะพระคล้ายกันหมดครับ


    ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาหรือบูชาวัตถุมงคลได้ โดยการโอนเงินเข้า
    บัญชี นายสิริพันธุ์ ใจเพ็ชร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาบางกระบือ
    เลขที่บัญชี 018-240743-7

    หลังจากโอนเงินแล้ว โทรแจ้งจำนวนเงินที่โอนและแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งพระ ได้ที่ มือถือ 086-995-4424, 086-661-1665 หรือแจ้งมาทาง PM ก็ได้ครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76 KB
      เปิดดู:
      2,149
    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68 KB
      เปิดดู:
      2,144
    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.4 KB
      เปิดดู:
      2,125
    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      2,123
    • 07.jpg
      07.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      2,197
    • 08.jpg
      08.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.8 KB
      เปิดดู:
      2,148
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.2 KB
      เปิดดู:
      2,185
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.8 KB
      เปิดดู:
      2,122
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.7 KB
      เปิดดู:
      2,116
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70 KB
      เปิดดู:
      2,114
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2014
  16. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    ขอร่วมบุญด้วยครับ
    รายการที่ 1, 2 อย่างละ1ชุด

    ขออนุโมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014
  17. tuaang

    tuaang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    818
    ค่าพลัง:
    +1,634
    ขอร่วมทำบุญ รายการที่ 2 ชุดที่ 2 ครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  18. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    รายการที่ 4 ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ แบบขุ่น ร่วมบุญชุดละ 250 บาท ขนาดประมาณเหรียญบาทเล็ก ชุดละ 4 องค์ครับ
    หมดแล้วครับ


    ชุดที่ 1 minute จองแล้ว

    [​IMG]


    ชุดที่ 2 rt5038 จองแล้ว

    [​IMG]


    ชุดที่ 3 rt5038 จองแล้ว

    [​IMG]


    ชุดที่ 4 จองแล้ว

    [​IMG]


    ชุดที่ 5 โปฐิละ จองแล้ว

    [​IMG]



    มีให้ร่วมบุญ 30 ชุด ผมของลงภาพให้ดูเป็นตัวอย่าง 5 ชุดครับ ลักษณะพระคล้ายกันหมดครับ หมดแล้วครับ


    ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธาหรือบูชาวัตถุมงคลได้ โดยการโอนเงินเข้า
    บัญชี นายสิริพันธุ์ ใจเพ็ชร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาบางกระบือ
    เลขที่บัญชี 018-240743-7

    หลังจากโอนเงินแล้ว โทรแจ้งจำนวนเงินที่โอนและแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งพระ ได้ที่ มือถือ 086-995-4424, 086-661-1665 หรือแจ้งมาทาง PM ก็ได้ครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.6 KB
      เปิดดู:
      2,021
    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.2 KB
      เปิดดู:
      2,039
    • 03.jpg
      03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.7 KB
      เปิดดู:
      1,997
    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.4 KB
      เปิดดู:
      2,016
    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      1,998
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2014
  19. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,850
    รับทราบการจองร่วมบุญของทุกท่านแล้ว ช่วงหัวค่ำจะมาสรุปยอดการจองให้นะครับ โมทนาด้วยครับ
     
  20. minute

    minute เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +368
    ผมขอร่วมบุญทอดกฐินที่วัดธาตุมหาชัย รายการที่ 4 ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ แบบขุ่น ร่วมบุญชุดละ 250 บาท (ชุดที่ 1)
     

แชร์หน้านี้

Loading...