ความจริงเกี่ยวกับ ตรีมูรติ

เรียน ผู้ดูแลระบบ

ผมขอความกรุณาให้ลบกระทู้นี้ทิ้งด้วยนะครับ เพราะพิจารณาแล้วว่า ไม่เกิดผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย อาจส่งผลกระทบต่อทั้งทางโลกและทางธรรมได้ในแง่ลบ และขอร้องทุกๆ ท่าน ได้โปรดทำใจเป็นกลางหรืออุเบกขากับเรื่องนี้เสีย ส่วนเรื่องราวที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงเพราะความขัดเคืองใจ ก็ขออโหสิกรรม ณ ที่นี้ด้วยเทอญฯ

 

คุณ eddy ครับ ผมว่ากระทู้นี้มันตั้งแต่เดือนสิบ ปีที่แล้ว
แล้วคุณไปรื้อฟื้นออกมา ให้เว็บมาสเตอร์ลบ คุณนี่เป็นคนยังไง

ผมว่าหลายๆ คนเขาลืมกระทู้นี้ไปแล้วด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงผมก็เขียนไปตามความจริง คุณไปขุดออกมาหาเรื่องกับผมหรือเปล่า

แน่จริงไปตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่า ผมท้าให้คุณพิสูจน์กับผม ว่าพลังจักรวาลอันไร้สาระของคุณ มันช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย
อะไรก็ตามที่มีแล้วทำให้เกิดปัญญา ตัดกิเลสได้ ไม่ทุกข์ร้อนได้ สิ่งนั้นควรมี
แต่อะไรก็ตาม มีแล้วโง่ขึ้น สิ่งนั้นควรทิ้งไปนะครับ

ความรู้ที่คุณมี เมื่อมีแล้วมันทำให้คุณโง่ขึ้นก็ควรตัดมันไป
ความรู้สึกที่คุณมี มีแล้วมันทำให้โง่ขึ้นก็ตัดมันไป

พิจารณาหน่อยนะครับ เอ็ดดี้

 

คุณขันธ์

ผมได้ไม่รื้อประเด็นกระทู้นี้ขึ้นมาเลย ด้วยสัตย์จริง แต่มันดันมาปรากฎอยู่หน้าแรก บรรทัดที่สาม คอลัมภ์กระทู้ทั่วไป เมื่อสองวันก่อน ผมเองก็ไม่รู้ว่าใครมีเจตนาที่ไปดันมันขึ้นมา หรือว่ามันวนของมันเองอัตโนมัติ คุณก็มีสิทธิ์ในการลบกระทู้นี้ไม่ใช่หรือ ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของกระทู้นี้ คุณก็มีสิทธิ์ที่จะลบกระทู้นี้ไม่ใช่หรอ ก็ขอความกรุณาลบด้วยแล้วกัน จักขอบพระคุณอย่างสูง ส่วนคำแนะนำก็ขอน้อมรับไว้พิจารณา

 

ทุกบริษัท ข่ายทิฏฐิ ก็ล้วนมีการรุก และรับ ย่อมมีการแข่งขัน ประชัน

คุณขันท์ ก็แค่ทำหน้าที่ ขุนผลนำทัพ ก็เหมือนกับ หมอสอนศาสนาอื่นๆ
ก็มี ก็ทำเหมือนกัน

นี้ก็เป็นการแสดงแค่ในกระทู้ เป็นการสู้บนฐานของ คติ ความคิดล้วนๆ
ไม่มีการเบียดเบียนด้วยกาย ด้วยวัตถุที่รุนแรง

คนที่เข้ามาอ่านก็แค่ใช้ความคิด รบ รุก รับ ไปตามแต่กำลังของตน

เราว่า ก็เป็นธรรมอยู่นะ

คือ ที่เราสนับสนุน ก็เพราะเราเกรงว่าเราจะเพลี้ยงพล้ำไปมากกว่านี้
พุทธบริษัทโดนรุกล้ำอยู่นะ ต้องให้ความยุติธรรมแก่เราด้วย
วัดหลายวัดของพุทธ ก็มี องค์ มากมาย เข้าไปยึดครอง

เราก็โต้บ้าง นี้แค่ความคิดเองนะ

 

ท่านเลาปัง

ท่านยังไม่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้มีจริงหรือ? ในเมื่อจิตท่านมาทางสุขวิปัสโก ข้าขอนอบน้อม และขอให้ท่านได้ไปถึงฝั่งหมาย แต่หากท่านจะพิสูจน์ตามคำร้องนี้เพื่อสิ่งนี้ ท่านจะลองปฏิบัติดูไหม? แล้วท่านจะเข้าใจอะไรอีกเยอะมากทีเดียว

ขอให้ท่านขึ้นครูกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้กระทำในโบถส์ หรือพระวิหาร หรือห้องพระที่บ้านที่มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประธานอันเหมาะสม ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านต้องมีพระพุทธรูปอยู่ในบ้านของท่านแน่นอน

ก่อนเริ่มพิธี ขอให้ท่านตั้งจิตอธิฐานดังนี้

ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ขอถวายเครื่องบริขารเหล่านี้ อันประกอบด้วย ผ้าไตร ดอกบัว และปัจจัยนี้ (เงินหนึ่งสลึง) แก่องค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า ขอบรมครูองค์พระศาสดาทรงโปรดสั่งสอน และโปรดชี้ทางแสงสว่างเพื่อให้ถึงฝั่งหมาย ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญฯ

1) พนมมือด้วยดอกบัว ผ้าไตรตั้งที่ข้อพับ เหรียญสลึงวางไว้บนผ้าไตร
2) ตั้งจิตเป็นสมาธิ และกล่าวคำอธิฐานข้างต้น
3) เริ่มสวดมนต์และออกเสียงคำว่า นะโม ๆ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อยๆ เร็วๆ ดังๆ

จนกว่าจิตท่านจะเปิดรับพุทธญาณ (แต่หากเป็นไปได้ควรมีครูบาอาจารย์ควบคุม) หากท่านมีบารมีเพียงพอและมีปัญญาญาณเห็นพระอริยะสัจจสี่รู้แจ้งแล้ว จึงจะเข้ากระแสนี้ได้

หากเสียงเริ่มเปลี่ยนไป ก็อย่าได้กังวล ตั้งสติ วางดอกบัว และผ้าไตรลง จากนั้น ให้นั่งสมาธิและสวดต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปและเสียงสวดเงียบสงบลง เป็นอันเสร็จพิธี

พระญาณบารมีนอกจากจะได้จากวิปัสสนาภาวนาแล้ว ยังมาจากพุทธญาณบารมีที่จะช่วยเสริมให้ท่านมีศักยภาพมากไปด้วยอภิญญา ซึ่งจะเป็นอาวุธเสริมในการขจัดกิเลส ยามใดก็ตามที่ต้องการข้ามโครตภูมิเพื่อไปยังศาสตร์ของพระอริยะเจ้า ซึ่งเหมาะกับเหล่าสาวกภูมิเยี่ยงท่าน

จากนั่น ให้ท่านเข้าณานสมาบัติให้บ่อยขึ้น ภายใต้ความว่างแห่งนี้จะพรั่งพรูไปด้วยปัญญาญาณ ซึ่งเป็นอาวุธที่ล้ำเลิศ แล้วท่านจะล่วงรู้ทุกสรรพสิ่งและบรรลุถึงฝั่งหมายตามที่ท่านต้องการ องค์พระศาสดายังต้องใช้ญาณหยั่งรู้จากสิ่งนี้เพื่อสั่งสอนกับบัวสี่เหล่าเลย หากได้ผลเยี่ยงใดก็ขอแจ้งให้ทราบด้วยครับ

สำหรับความเสื่อมของพุทธบริษัท ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยนี้ สมัยพุทธกาลก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วด้วยปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ใยท่านต้องไปกังวลกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น จงทำจิตเราให้อยู่กับปัจจุบันไม่ดีกว่าหรือ หากไปถึงฝั่งหมายได้แล้ว ก็อย่าลืมนำพาผู้ด้อยโอกาสกว่าให้ถึงฝั่งหมายด้วย แล้วอย่าลืมยกระดับจิตตัวเองให้เป็นพุทธแท้ ก็นับว่าประเสริฐยิ่งแล้วละท่าน

 

แปลกดี ท่าน eddy แต่เราก็พอได้ยินวิธีนี้มาเหมือนกัน

แต่ไม่ค่อยสันทัด ท่านช่วยบอกได้ไหมว่า วิธีนี้มาจากข่ายทิฏฐิใดกันแน่

เพราะดูเหมือนคุณจะยก พลังจักรวาล เป็นภูมิ

แต่วิธีที่คุณเล่า ดูเหมือนเราจะเคยเห็นทำกันอยู่บ้างในวัด ดูเหมือนจะภาคใต้

ก็โปรดชี้แจงที่มาสักนิดนะครับ

 

คุณเล่าปัง

วิธีนี้มีกันมานานแล้ว ครูบาอาจารย์ระดับอริยะเจ้าเป็นผู้สั่งสอนและถ่ายทอดมาให้เฉพาะ ส่วนใหญ่จะปกปิดกัน แค่ได้รับรู้กันบ้างแต่ไม่บอกวิธีการให้รู้ ไม่ได้เกี่ยวกับพลังจักรวาล แต่เป็นวิถีแห่งกลไกแบบพุทธล้วนๆ ต้นกำเนิดที่อยุธยาครับ ไม่ใช่ทางใต้ ผมบอกได้เลยว่าหลังจากคุณสำเร็จด้วยวิธีนี้แล้ว พระญาณบารมีแห่งพระอรหันต์เจ้าจะมาเป็นครูบาอาจารย์ที่ไม่มีตัวตนมาคุมให้ในเบื้องต้นก่อนยกระดับครูไปเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ขอให้คุณสำเร็จโดยไว

 

คุณเล่าปัง

ผมว่าดูอาจไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องอภิญญาญาณ หากจะสอบถามผมในเรื่องนี้ ขอทางเมล์ น่าจะดีกว่านะครับ ขอยุติเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้

 

ได้ เราจะไม่สาวความเพิ่ม
เพื่อไม่เสียจุดยืน

 

เอามันตรงนี้เลย เดี๋ยวแจมด้วย ไม่ต้องทำปกปิดหรอก ของจริงมันก็พูดตรงไหนก็ได้ ไม่ใช่ขายยาเสพติดจะได้ต้องไปกลัวใครเห็น ใครได้ยิน

 

อย่าหาว่า มาขัดจังหวะเลย เป็นพวกเดียวกับ ระเบิดจิตอีกแล้ว
ผมทำมาปฏิบัติมาไม่รู้กี่ขนานแล้ว ไอ้ตำราพวกนี้ ขอโทษนะ มันหลอกแต่เฉพาะคนจิตอ่อน
ถ้าเราลองมองลึกไปถึงสภาวะจิต ที่ควบคุมตนเองไม่ได้ ได้ยินเสียงประหลาดขึ้น นี่แสดงว่า จิตนี้ไหลไป ตามกระแสจิตจะเข้าไปสู่ภวังค์
พอตกภวังค์ปั๊บ มันไปเรื่อยแล้วคราวนี้ ภวังค์คือ ที่พักแห่งอวิชชา เมื่อจิตเข้าสู่ภวังค์ พอไปเจออะไร อะไรมาก็ไหลไปเรื่อย

แบบนี้ไม่ใช่ พุทธะ มัน เปรต มันพวกกิเลส ตัวผมนี้ฝึกพวกนี้ทีไร มันไม่เห็นจะเป็นสักที ก็สติมันรู้มันเด่นอยู่ตรงหน้า ทำอะไรก็รู้แล้วมันจะไปเป็นอะไรแบบไร้สาระได้อย่างไร

ไอ้พวก ระเบิดจิตอะไรนี่เหมือนกัน นี่มันทำให้คนตกภวังค์ พอตกภวังค์มันก็ ตามน้ำเลย

แล้วที่บอกว่า ขึ้นครูพระพุทธองค์ อันนี้ประสาทหนักเข้าไปใหญ่ พระพุทธองค์ท่านไม่ต้องการหรอก ค่าครู ท่านสอนว่าใครปฏิบัติตามท่าน แม้อยู่ไกลก็เหมือนใกล้ ท่านสอนคนฟรี ท่านไม่ต้องการค่าครู จำเอาไว้

หลักแห่งพระพุทธองค์ ท่านชี้ไปที่การมองเห็นไตรลักษณ์ ซึ่งใครเห็นได้ นับว่าเป็นปรมัตถบารมี และ หากใครไม่เห็น แต่ประำำพฤติ มีสติด้วยหลักกาลมสูตร ย่อมไม่พาตัวเองไปที่ต่ำ

แต่ใครทำอะไรตามกันมา ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไร้เหตุไร้ผล ชื่อว่า ทำตามๆกันมา นั่นแหละ พระพุทธองค์ห้าม

 

อ้าว เฉลย ซะแล้ว

แบบพุทธะก็ฟังคุณขันท์นะครับ

ส่วนผมขอแนววิทยาศาสตร์สักหน่อย

การบริกรรมก็ดี การหายใจเร็วๆก็ดี การทำอะไรรี่ๆลุกลี้ลุกลนก็ดี

น้ำตาลในเลือดจะถูดเผาผลาญอย่างรวดเร็ว

เมื่อนั้น แขนขาจะเบา ทั่วสรรพรางกายจะคล้ายเหน็บชาแต่ไม่ใช่
เป็นเหมือนอาการซาบซ่าน แต่ก็ไม่ใช่ซายซ่านตัวเดียวกับปิติในสมาธิ
ของนักสมถะ และอาจมีอาการปากสั่น ตัวสั่นได้

ส่วนนี้คนนั่งสมาธิไม่เป็นจะ
คิดเอาไปเทียบแล้วคิดว่านั้นคือสมาธิ -- กำลังจะตายไม่ว่า
มีอีกนะ เคยได้ยินบางอาจารย์สอนให้ลูกศิษย์กล้าตายไปเลย
ก็ถ้าเชื่อก็มีสองแนว แต่แนวใหญ่นี้ ผมว่า เสียเนื้อสมอง

(คนที่โทสะจริตลองทำได้ ทำแป๊ปเดียวจะเริ่มปากสั่นตัวสั่น ก็หยุดนะครับ
ถือว่าได้ทดลองแล้ว)

ถ้าทำไปเรื่อยใจจะหวิวๆ อันนี้คุณขันท์ใช้คำว่าจิตเบา ใครจิตเบาก็เอาละ
เห็นผีก็ได้ เห็นเทพก็ได้ ตัวกลายเป็นผีเองก็ได้ คือ โดนหมู หมา กา ไก่เข้าสิง
ได้ แต่เรียกว่าวิบากดีกว่าเนอะ บางคนก็เรียกกรรมเก่า ก็มั่วกันไป ที่แน่ๆ
คือ เสียหาย

แต่ส่วนใหญ่พอทำอีกนี้ คนทำเอง หรือ เจ้าของที่สอนเองจะกลัวตายละ
ดังนั้นอาการสั่น อาการพบวิญญาณอะไร คราวนี้ปรุงแต่งเองล้วนๆ ก็มี

ต่อในแนววิทยาศาสตร์ เมื่อใจหวิวๆ ถ้าเป็นคนน้ำตาลในเลือดน้อยเป็นปรกติ
ของสังขาร หรือ กินข้าวมาไม่อิ่ม(อิ่มเพราะน้ำตาลมันพอ) ก็จะน๊อกหมดสติ
แถมสตังค์ก็หมด คือ หมายถึง ฝื้นอีกทีอาจจะแย่ เพราะสมองบอบช้ำเพราะ
ขาดน้ำตาล วิปลาสแบบต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาก็เป็นหนทางไป

ก็ขอให้ระวัง

 

ใครเป็นลูกศิษย์พระพุทธองค์ ทำอะไรรู้ตัว อย่าว่าแต่จะท่องมนต์จนเป็นอะไรไปไม่รู้ตัวเลย
ไอ้ที่รู้ตัวอยู่ตรงนี้ มีกิเลสตรงไหน มีอวิชชาตรงไหน จิตเป็นอย่างไร เวทนาเป็นอย่างไร รู้หมด จิตจะเคลื่อนไปอย่างไร รู้หมด แล้วจะไปหลงได้อย่างไร
แล้วมันจะไม่รู้ตัวได้อย่างไรว่า เป็นอะไร หรือ เหตุเพราะอะไร
อย่าว่าแต่ผีแต่เจ้ามาเลย ใจตัวเองที่เริ่มเปลี่ยนก็เห็น แล้วผีแล้วเจ้า แล้วกระแสจิตเพ้อเจ้ออะไรมันจะมาได้อย่างไร

นี่พูดให้ฟังนะ จะได้ไปฝึกสติกันให้มาก อะไรมามันจะได้ทำอะไรเราไม่ได้
ตัวเองก็จะไม่ทำร้ายตัวเอง

 

หลวงพ่อปัญญาบอกว่า ถ้ากล่าวว่าพระพรหมคือผู้สร้างแล้วใครเล่าสร้างพระพรหม ท่านบอกว่า พรหมเกิดจากคนเขียนคัมภีร์ เหตุนี้คัมภีร์จึงสร้างพรหม เหตุนี้คนจึงสร้างพรหม
ปล. ไม่ได้เอาคำกล่าวท่านมาตรงๆนะครับ เคยอ่านเจอในหนังสือ

 

ก็ลองทำดู ใช่ว่าจะเสียหายอะไร ดีกว่ารู้แต่เปลือกนอก ในเมื่อต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านี้มีจริงหรือไม่ ก็แนะนำให้แล้ว ก็อย่าประพฤติตัวแบบคนมือสองหรือคนจำพวกขอบกระด้งก็แล้วกัน

 

คุณคนอีสาน

อย่ากล่าวพาดพิงถึงพระเถระผู้เจริญ หากท่านเชื่ออย่างไร ก็ให้กล่าวยังงั้น ต้องมีจิตมั่นคงและเชื่อมั่นในตนเอง ในเมื่อพระพรหมเกิดจากพระคัมภีร์ พระยะโฮวา พระอัลลาห์ พระนาบี และพระพุทธเจ้าก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากพระคัมภีร์ด้วยเช่นกันทั้งสิ้น เพียงแต่ได้กระทำสูงส่งผ่านทางพระผู้บริสุทธ์เท่านั้น

 

โปรดอย่ารวมพระพุทธเจ้า เพราะพระองค์มีตัวตนเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ครับ ส่วนพระยะโฮวา พระอัลลาห์ พระนาบี เป็นพระเจ้า ไม่ได้เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใดครับ

 

รู้ได้อย่างไร ว่ามีตัวตนจริง หาข้อมูลหลักฐานมาให้ดูหน่อยซิ พระพุทธเจ้ามีตั้งหลายพระองค์ แต่พระศาสดาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีองค์เดียว คิดให้แยบยลหน่อย เมื่อไรจะกลับบ้านซิที

 

ก็นั้นนะซิครับรู้ได้ไงว่าพระยะโฮวา พระอัลลาห์ พระนาบี มีตัวตน

 

งั้นรับรู้ได้ไงว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริง หรือว่าพระองค์ท่านเป็นเพียงแค่ปุคลาทิษฐาน