หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

งานครบรอบวันมรณภาพ ของหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี กำหนดการตามนี้เลยครับ..

12 เมษายน 2557
เวลา 19.00 น. สวดเจริญพระพุทธมนต์ และแสดงพระธรรมเทศนา

13 เมษายน 2557 (วันมหาสงกรานต์)
เวลา 07.00 น. ร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์
เวลา 08.00 น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ และร่วมรับประทานอาหาร
เวลา 10.00 น. ทอดผ้าป่าสามัคคี และสรงน้ำพระ


แต่ตอนนี้คงไม่มีช่องทางการโอนปัจจัยไปร่วมบุญครับ เพราะบัญชีที่วัดยังไม่ลงตัวเนื่องจากยังไม่มีเจ้าอาวาสครับ..

 

สาธุ..วันอาทิตย์นี้ท่านใดว่างเชิญร่วมสดับฟังพระธรรมเทศนา ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร กันนะครับ
ที่หอประชุม อาคารศูนย์การแพทย์(ตึกใหม่) ชั้นที่ 22 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ถนนพระราม 6
งานเริ่มเวลา 17:00น.-19:00 น. มีโรงทานอาหาร และเครื่องดื่ม ไว้บริการฟรี.. ครับ.. สาธุ

หลวงปู่ท่อนท่านจะมารับศรัทธาญาติโยมคราวละหลายๆวัน ที่อาคารเหนือ(ตึกเก่า) ชั้น13 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ทุกเดือนครับ

และทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่2 ของทุกเดือน มีเทศนาที่อาคารศูนย์การแพทย์(ตึกใหม่ ติดถนนพระราม 6)ครับ.. ใครต้องการกราบทำบุญ และชื่นชมบารมีพระอริยสงฆ์เพชรน้ำหนึ่งภาคอีสาน ก็ขอเชิญได้ตามกำหนดการดังกล่าวนะครับ.. สาธุ

 

พระขุนแผนทรงพล เนื้อผง เกศา หนึ่งใน 16 องค์ครับ.. ท่านครูบากฤษดาจัดสร้าง หลวงปู่พิศดูร่วมอธิษฐานจิต..

ขุนแผนพิมพ์ทรงพลนี้สร้างปี 2552 โดยท่านครูบากฤษดา ชุดนี้ก็น่าจะสร้างไล่เลี่ยกันกับพระอุปคุตเกศาครับ ภายในจะบรรจุเกศา ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่พิศดู ครูบากฤษดา และเกศาครูบาอาจารย์ต่างๆด้วยครับ หลวงปู่พิศดู และท่านครูบากฤษดาร่วมกันอธิษฐานจิต และเข้าพิธีพร้อมกับพระกริ่งธัมมะจารีครับ.. จัดเป็นชุดที่หาดูยากเช่นกัน..
องค์พระค่อนข้างใหญ่ครับ ขอบล่างกว้างประมาณ 3 ซ.ม. สูงเกือบ 5 ซ.ม.

 

เล่าให้ฟังเพลินๆนะครับ..

ตะกรุดท่านพ่อผุด ที่คลี่พิสูจน์ และใช้แป้งโรยเพื่อให้เห็นพระยันต์ชัดเจน เพื่อการศึกษา..
​

เมื่อวันก่อน คณะของเราได้ผ่าพิสูจน์ ตะกรุดในตำนาน ตะกรุดท่านพ่อผุด วัดวังเวียน ซึ่งมีอายุร่วม 100 กว่าปี เป็นสมบัติประจำบ้าน (ที่หัก ชำรุด ซึ่งจะนำไปทำชนวน มวลสารต่อไป)

ที่แท้พบว่า คือยันต์ตะกรุดมหาระงับ คล้ายกับตำรับประดู่โรงธรรม กรุงเก่า
คือเดิมทีจากที่หลายคนเข้าใจว่ายันต์ในตะกรุดของท่านพ่อผุด จะต้องเป็นยันต์พระเจ้าปิดไฟ ยันต์พระเจ้าห้ามอาวุธ หรือไม่ก็ยันต์ตะกรุดมหาโจรแค่นั้น แต่ทว่าตะกรุดดอกที่ผ่านี้เป็นยันต์มหาระงับ ซึ่งทำให้เปิดโลกทัศนคติใหม่ ของผู้สนใจศึกษาวิชา ตำรับตำราตะกรุดของสายวัดวังเวียน เป็นอย่างยิ่ง




ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน ท่านคงมีวิชาตะกรุด หลายแขนง ท่านจึงได้จารพระยันต์ในตะกรุดแต่ละดอกแตกต่างกันไป
ซึ่งก็พอสันนิจฐานได้ว่า ท่านพ่อผุด น่าจะสืบวิชามาจากสายวัดประดู่โรงธรรมด้วย และแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งตามประวัติที่เล่าขาน ผมก็เคยได้ยินมาว่า ท่านทั้งสองเป็นสหธรรมมิกกัน
เนื่องจากยันต์ตะกรุดพระเจ้าปิดไฟ หรือพระ(พุทธ)เจ้าห้ามอาวุธนั้น ก็มีอยู่ในตำราของหลวงปู่ศุขด้วยเช่นกัน
ต่อมาตำรายันต์ที่ใช้ลงตะกรุดของท่านพ่อผุด ซึ่งมีทั้งยันต์พระเจ้าปิดไฟ ยันต์พระเจ้าห้ามอาวุธ ยันต์ตะกรุดมหาโจร ฯลฯ และตำราการสร้างพระปิดตาเนื้อผงยา ท่านพ่อผุดก็ถ่ายทอด และมอบให้หลวงปู่เปี๊ยก วัดวังเวียน เป็นผู้สืบทอดต่อ ต่อมาหลวงปู่เชย อมโร เขาเจ้าหลาวก็ได้รับถ่ายทอดวิชา และตำราตะกรุด และตำรับตำราต่างๆนั้น มาจากหลวงปู่เปี๊ยกอีกทอดหนึ่ง
ซึ่งตะกรุดมหาระงับนี้ หลวงปู่เชยเองก็เคยสร้างอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากตะกรุดมีขนาดค่อนข้างยาว ซึ่งครูบาอาจารย์อย่างหลวงปู่เชยท่านสร้างของก็เพื่ออยากให้คนได้ใช้ ของบางอย่างถ้าหากมีขนาดใหญ่ หรือยาวเกินไป ท่านกลัวคนไม่กล้าใช้ครับ จึงไม่ค่อยได้สร้างตะกรุดมหาระงับออกมาเท่าไรนัก..
หลวงปู่เชย ท่านเคยนำตำราเก่าแก่ของท่านออกมาให้ดู และอ่านอักขระในยันต์เหล่านั้นให้ลูกศิษย์ฟังอีกด้วย เพื่ออยากให้ลูกศิษย์ของท่านสนใจ และขอเรียนสืบทอดวิชาต่อจากท่านบ้าง ซึ่งที่ผมจำได้แม่นยำนั่นก็คือ ยันต์มหาระงับ ที่ขึ้นต้นด้วย " โอมระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน..." หลวงปู่เชยบอกว่า ท่านอยากจะให้ทำเป็นผ้ายันต์ไว้แจกลูกศิษย์เอาไปติดบ้าน ติดรถ ติดตัว เพื่อคุ้มครองจากอุบัติเหตุ และระงับเหตุร้ายต่างๆ แต่ด้วยความที่ลูกศิษย์ชะล่าใจ หลวงปู่เชยจึงละสังขารไปก่อน (น่าเสียดาย..)

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ตำราคาถาปลุกตะกรุด ของท่านพ่อผุด ที่หลวงปู่เชย พระอริยเจ้าแห่งเขาเจ้าหลาว ได้ถ่ายทอดให้กับคุณพ่อของผม ซึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า.. " โอมระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน โอมชิดมหาชิด..." และบทที่ว่า " นะปิดตา โมปิดใจ พุทปิดปาก... "
ก็ล้วนมาจากคาถาในยันต์ตะกรุดมหาระงับทั้งสิ้น.. เพราะฉะนั้นจึงอาจสรุปข้อสันนิจฐานได้ว่า ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน พระปรมาจารย์ด้านวิทยาคมเข้มขลังอันดับ 1 ผู้ครองใจชาวเมืองจันท์มานานนับร้อยปี ท่านก็ยังเป็นผู้สืบสายวิชา มาจากสำนักประดู่โรงธรรม แห่งพระนครศรีอยุธยาด้วยผู้หนึ่ง อย่างไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว..

ยันต์ตะกรุดมหาระงับ เป็นยันต์ใหญ่ ประกอบด้วยบทพระคาถาบทสำคัญๆประชุมกันเอาไว้มากมาย ที่ผูกสร้างขึ้นมาโดยพระปรมาจารย์ ในสำนักประดู่โรงธรรม เพื่อใช้ในการปกบ้านป้องเมือง อันเป็นพระยันต์ที่มีบันทึกในตำราพิชัยสงคราม พระคณาจารย์ยุคโบราณมักจะลงให้แก่ เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ แม่ทัพนายกอง ผู้คุมคนจำนวนมาก ยอดขุนพลในสมัยก่อน มักจะใช้ตะกรุดนี้ใส่ ออกรณรงค์สงคราม และปล้นค่ายของศัตรู อานุภาพของตะกรุดตำรานี้ สามารถสะกดทัพ เป็นมหาจังงังใหญ่ หรือสะกดคนให้หลับได้ทั้งบ้าน และเป็นมหาแคล้ว มหาคลาด กำบังตน ประสิทธิยิ่งนัก แม้ปืนผา หน้าไม้ ยิงมาดังห่าฝนก็มิถูกต้องตัวต่อผู้มีตะกรุดนี้เลย
ทั้งยังช่วยระงับคดีความ เรื่องเลวร้ายต่างๆได้ดียิ่งอีกด้วย ภูตผี ปีศาจ สัตว์ร้าย ก็มิอาจกล้ำกลายได้ สามารถทำน้ำมนต์ อาบ รด แก้สรรพเคราะห์ อุบาท คุณไสย สิ่งไม่ดีทั้งหลายให้หายสิ้นได้ ฯลฯ ถือเป็นตำราตะกรุดสุดยอดอันดับ 1 ในแผ่นดินอีกตำรับหนึ่ง ที่ตีค่าไว้ควรเมือง ที่พระคณาจารย์ทั้งหลายต่างสนใจใคร่จะศึกษาและหาทำไว้ใช้กันนักแลฯ

แม้กาลต่อมา จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังมีพระคณาจารย์ผู้จัดสร้างตะกรุดตำรานี้ออกมาอยู่เสมอ เท่าที่ทราบ พระคณาจารย์ที่สร้างตะกรุดมหาระงับ จนมีชื่อเสียง และสร้างประสบการณ์ได้อย่างมากมาย จนเป็นที่กล่าวขาน และเสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวางตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ก็มีมากมาย อาทิ.. หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อสมภพ วัดสารีโข หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม ... ฯลฯ

แม้แต่ในการสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี พระยันต์มหาระงับนี้ ยังเป็นหนึ่งในพระยันต์สำคัญที่ต้องลงใส่แผ่นโลหะ และขอให้องค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี เมตตาอธิษฐานจิตให้เพื่อนำไปเป็นชนวนในการหล่อพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์อีกด้วย..

​

 

ตะกรุดของ "ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน อ.ท่าใหม่ จันทบุรี " ซึ่งเป็นตะกรุดที่หายากมาก ๆ และกรรมวิธีการสร้างยุ่งยากสลับซับซ้อน ใครมีตะกรุดท่านพ่อหรือพระปิดตาพ่อผุดไว้เชื่อกันในหมู่นักเล่นพระเครื่อง เครื่องรางของขลังกันว่าเป็นนิรันตรายไม่ตายโหง มหาอุด ระดับสุดยอด แม้แต่กระสุนดินปืนยังด้าน ลูกปืนไม่อาจวิ่งออกจากปากกระบอก พระปิดตาและตะกรุดท่านส่วนใหญ่จะอยู่ในแวดวงนักนิยมเสาะหาและอยู่ในคอผู้มีอิทธิพล เจ้าพ่อ นักการเมือง ตลอดจนเสือปล้นในสมัยก่อน
ท่านพ่อผุดเป็นพระยุคเดียวกันกับหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตะกรุดท่านพ่อผุดที่พบเห็นมีการถักเชือก พอกผงยา บางดอกพันทับด้วยผ้ายันต์สีแดง สีเหลือง หรือสีขาว นับว่าหายาก พุทธคุณไม่เคยแพ้ใครในบรรดาตะกรุดดังของเกจิอาจารย์ทั้งหลาย การหมุนเวียน เปลี่ยนมือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ เพราะใครมีก็ต่างหวงแหน
การทำตะกรุดของท่านพ่อผุด วัดวังเวียน เมื่อจารและปลุกเสกเสร็จ ท่านจะโยนเข้ากองไฟ ถ้าดอกไหมไม่ละลาย ดอกนั้นผ่าน แต่ถ้าตะกรุดดอกไหนละลาย ถือว่าใช้ไม่ได้ ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น จากนั้นจึงเอามาถักพันด้วยสายสิญจน์ พอกด้วยผงยา และพันทับด้วยผ้ายันต์อีกชั้นหนึ่ง แล้วจึงถักเชือกหุ้ม ลงรักน้ำเกลี้ยง ถือเป็นสุดยอดของตะกรุดยอดคงกระพัน ยอดมหาอุด ยอดแห่งการแคล้วคลาด มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยก่อน หากใครมีตะกรุดของท่านพ่อผุดเพียงดอกเดียว เวลาเกิดเหตุร้าย หากจับมือรวมกลุ่มกันไว้นับสิบคน ยี่สิบคน อานุภาพของตะกรุดก็สามารถคุ้มครองได้ทั้งหมด หรือแม้แต่ตะกรุดดอกเดียว ตัดแบ่งกันไปหลายๆท่อน ก็ยังมีพลังใช้คุ้มครองได้เป็นอย่างดี..

ส่วนผงที่ท่านใช้พอกตะกรุด กับสร้างพระปิดตา ก็เป็นผงตัวเดียวกัน ปัจจุบันไม่ว่าพระปิดตาคลุกรัก และตะกรุด ล้วนหาได้ยากมาก และสนนราคากันสูงลิ่ว ตั้งแต่หลายหมื่น ไปจนถึงหลักแสน..

 

คลี่ตะกรุดดังเมืองเพชร...มีทั้งหนุมาน ทศกัณฐ์ นางมณโฑ​

 

สุดยอดครับพี่ประพัฒน์ ตะกรุุดนี้เป็นตะกรุด มหานิทรา หรือตะกรุดยมสลักเกล้า ของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี
เก่า ดูง่าย สวยสมบูรณ์มากๆเลยครับ เป็นสุดยอดตะกรุดที่ หาชมได้ยากยิ่งกว่าตะกรุดโสฬสมงคลของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงเสียอีกครับ.. เป็นตะกรุดที่นักสะสมตะกรุดต่างไฝ่ฝัน ด้วยความที่หาตัวจริงแบบนี้ไม่ได้ วิธีพิสูจน์ก็ต้องคลี่ดูสถานเดียวครับจึงจะมั่นใจได้ 100% ครับ

 

เมื่อวานผมกับแฟนได้ไปกราบและฟังบรรยายธรรมจากท่านครับ

 

เสื้อกู้ภัยตัวใหม่ของผม ผมได้เอาเข้าพิธีพุทธาภิเษกวัดเขาน้ำซับ แล้วก็พิธีบวงสรวงพระอุปคุตกับหลวงปู่ เพื่อนผมให้ยืมตราปั๊มยันต์ธรรมจารี ผมยืมเขามาปั๊มที่เสื้อกู้ภัยเพื่อเป็นศิริมงคลและวันนั้นท่านพระอาจารย์หนึ่ง ท่านเมตตาเสกและเขียนยันต์ให้เสื้อกู้ภัยของผมที่ด้านในเสื้อ
งานล้างป่าช้าที่ผ่านมา กู้ภัยทุกๆคนต้องเอาเสื้อเจิมปั๊มยันต์จีน 8เซียนที่ท่านประทับทรงท่านทำให้กู้ภัยทุกๆคน พอมาถึงตาผม 8เซียนท่านไม่ทำ ท่านไม่กล้าปั๊มไปที่เสื้อ ที่ผมสังเกตุเห็น8เซียนท่านก้มทำความเคารพไปที่เสื้อผม เหมือนท่านรู้ ศพไร้ญาติที่อยู่ตามป่าช้า อยู่ในป่ารกๆ8เซียนท่านจิ้มปักธงลงไป จิ้มตรงไหนเจอศพตรงนั้นเลย แสดงว่าท่านต้องรู้ว่าเสื้อกู้ภัยของผมผ่านพิธีมาแล้วครับ แล้วที่ท่านไม่เจิมและแสดงความเคารพ ในความคิดผมท่านคงแสดงความเคารพในบารมีธรรมของท่านพระอุปคุตกับองค์หลวงปู่ครับ

 

เพื่อนผมเคยชวนไปทำบุญ เก็บศพไร้ญาติเหมือนกัน เเต่ใจไม่กล้าสักที
ตอนนี้ก็ไม่กล้าเหมือนเดิมครับ ขอโมทนากับคุณตั้มด้วยครับ ที่นำเรื่องดี ๆ
มาเล่าให้ฟัง สาธุ

 

สาธุครับพี่Nattawut8899 เก็บศพไร้ญาติไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ ได้พิจารณาอสุภกรรมฐานไปในตัวด้วยครับ สู้ๆครับ

 

ชุดเล็กๆ พุทธคุณใหญ่ ครับ

 

ขออนุญาติรอชมครับพี่

 

สุดยอดน้องตั้ม พี่เคยได้ยินเวลาเก็บศพไร้ญาติกับล้างป่าช้ามีประสพการณ์แปลกๆเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับมาเล่ามามายได้ยินก็อดคิดๆไม่ได้ว่าจิงเปล่าต้องพิสูจน์แต่555555ปอดแหกครับเพราะว่าเคยเจอมาบ้างแล้ว กกลัวววววค๊าบบบบบบบ

 

สาธุ.. ขอโมทนาด้วยนะครับ.. เป็นบุญหลายๆครับ ที่ได้ฟังธรรมของพระอรหันต์ แถมปัจจัยที่ได้ร่วมบริจาคท่านยังนำไปสร้างพระมหาเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของเทพเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ผลบุญนี้จะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติ ตราบถึงที่สิ้นสุดแห่งความทุกข์ครับ.. สาธุ

 

สุดยอดๆๆ ขอบคุณท่านตั้มที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะครับ..

วันบวงสรวงพระมหาอุปคุต และองค์หลวงปู่พิศดู ที่ริมทะเล บนหน้าผาอ่าวคุ้งกระเบน วันนั้นท่านพระอาจารย์หนึ่ง เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาน้ำซับมาเป็นเจ้าพิธีกรรมครับ..








ภาพบางส่วน.. ในพิธีบวงสรวงพระมหาอุปคุต และองค์หลวงปู่พิศดู เทพยาดา ครูบาอาจารย์.. ในวันเพ็ญพุธ เพื่อสมโภชน์วัตถุมงคลต่างๆ ก่อนจะนำไปแจกจ่าย..

 

เมื่อสักครู่นี้ มีพี่สมาชิก pm มาบอกว่า มีประสบการณ์ หนุมานมหาฤทธิ์จะเล่าให้ฟัง ไว้รอติดตามต่อไปนะครับว่า พี่เขามีประสบการณ์อะไร ถ้าผมทราบแล้วจะนำมาถ่ายทอดต่อนะครับ..

 

บรรยายจากภาพ ตะกรุดยมสลักเกล้าของ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน บ้างก็เรียกไมยราพสะกดทัพก็มี รอยจารที่ปรากฎในตะกรุดนี้เป็นเนื้อราวบางส่วนของมหากาพย์เรื่องรามเกียรต์ ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด ตอนนี้เป็นตอนต่อจากท้าวมาลีวราชว่าความ เรื่องมีว่า ทศกัณฐ์มีความแค้นเทวดาที่เป็นพยานให้แก่พระราม จึงทำพิธีปลุกเสกหอกกบิลพัทที่เชิงเขาพระสุเมรุ และทำพิธีเผารูปเทวดา พระอิศวรจึงมีเทวบัญชาให้เทพบุตรพาลีมาทำลายพิธี จนสำเร็จ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทศกัณฐ์คิดว่า ตนทำพิธีใดก็ถูกทำลายหมด เป็นเพราะพิเภกบอกการแก้กลต่อข้าศึก จึงจะออกไปรบโดยหมายจะฆ่าพิเภกด้วยหอกกบิลพัท พิเภกรู้ว่าทศกัณฐ์คิดว่าตนบอกกลลวงไปทำลายพิธีเผารูปเทวดาและชุบหอกกบิลพัท และจะตามมาฆ่าทิ้งเสีย ก็ทูลบอกแก่พระราม พระรามให้พระลักษณ์คอยเฝ้าดูแลพิเภก ขณะที่พระรามกำลังสู้รบกับทศกัณฐ์ ฝ่ายทศกัณฐ์รบพลางก็คอยมองหาลู่ทางจะสังหารพิเภกไปด้วย เมื่อมีช่องทางทศกัณฐ์ก็พุ่งหอกกบิลพัทหมายสังหารพิเภก พระลักษณ์ปัดพิเภกไปหลบอยู่ข้างหลัง พระลักษณ์จึงต้องหอกกบิลพัทสลบไป พิเภกทูลพระรามให้หาต้นยา สังกรณีตรีชวา ที่อยู่ภูเขาสัญชีพสัญญี มูลวัวพระอิศวรที่ถ้ำอินทกาลมาแก้ไข พร้อมแม่หินบดยาที่เมืองบาดาล และลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์หนุนนอน พระรามจึงให้หนุมานไปหายาพร้อมแม่หินและลูกหิน หนุมานก็ไปหามาได้ทุกอย่างแล้ว ยกเว้นลูกหินบดยา หนุมานจึงไปเมืองลงกา และร่ายพระเวทย์ให้เหล่ายักษ์หลับ และลอบเข้าไปในปราสาทของทศกัณฐ์ เพื่อไปนำลูกหินบดยา เห็นทศกัณฐ์นอนอยู่กับนางมณโฑ ก็เลยได้โอกาศแกล้งผูกเกล้าผมนางมณโฑไว้กับเศียรทศกัณฐ์ พร้อมกับเขียนคำสาปไว้ที่หน้าผากทศกัณฐ์ว่า หากจะแก้ผมให้หลุดต้องให้นางมณโฑตบหัว 3 ที พอทศกัณฐ์ตื่นขึ้นมา เห็นผมนางมณโฑผูกติดกับเศียรตน และหินบดยาหายไป ก็รู้ว่าศัตรูมาสะกดแล้วลักหินบดยาไป และไม่ว่าจะทำอย่างไรผมก็ไม่หลุด จึงให้เสนาไปนิมนต์ พระฤาษีโคบุตรมาช่วยหาวิธีแก้ผมให้ ฤาษีเห็นคำสาปที่เขียนไว้ ก็บอกให้ทำตามคำสาป ดังนั้นพอนางมณโฑตบหัวทศกัณฐ์ 3 ครั้งผมนั้นก็หลุด..
ด้วยที่มาที่ไปของตอนหนึ่งในเรื่องรามเกียรต์นี้ หลวงพ่อกุนท่านจึงได้สร้างตะกรุดดังกล่าวขึ้น ด้วยการเขียนรูปหนุมาน ผูกผมทศกัณฐ์ กับนางมณโฑ ล้อมด้วยอักขระเลขยันต์ต่างๆอีกมากมาย ด้วยขั้นตอนการทำที่สลับซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งต้องใช้ความเพียรอย่างสูง จึงทำให้ตะกรุดตำรานี้มีอานุภาพอย่างวิเศษสุดไม่แพ้ตะกรุดของสำนักใดๆเลย

พี่ท่านนึงสอบถามคนในพื้นที่ ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปที่ยังใช้ตะกุดหลวงพ่อกุนอยู่ ปรากฎว่าเป็นจริงในเรื่องที่ อาราธนาตะกรุดใส่คอ สามารถเดินขึ้นไปกินนอนบนบ้านของคนอื่นได้เลย โดยเจ้าของบ้านหลับไม่รู้เรื่องเลย จึงเป็นที่มาของชื่อไมยราพสะกดทัพ บางท่านในพื้นที่เรียกตะกุดจันทร์เพ็ญก็เพราะว่าท่านจะจารในคืนพระจันทร์เต็มดวงตรงกับวันจันทร์ และจะจารในป่าช้า โดยพระจันทร์เต็มดวง 1 ครั้ง ก็จารใน 1 ป่าช้า จารเสร็จแล้วจะลบ และจารซ้ำป่าช้าต่อไป จนครบ 7 จันทร์ 7 ป่าช้า จึงเสร็จ เพราะฉะนั้นตะกรุดดอกหนึ่ง ต้องใช้เวลาทำไม่น้อยกว่า 3 ปี เพราะว่าในปีหนึ่งจะมีพระจันทร์เต็มดวงที่ตรงกับวันจันทร์เพียงไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น เมื่อจารเสร็จก็จะทำยาพอกตะกรุดอีกที แล้วจึงมาปลุกเสกตามตำราจึงเป็นอันเสร็จสมบูรณ์

ตะกรุดตำรานี้จะว่าไปแล้ว พุทธคุณก็ดูคล้ายๆกับตะกรุดมหาระงับ ที่สามารถสะกดคนให้หลับได้ทั้งบ้าน แถมยังสามารถระงับเหตุร้ายต่างๆ และหากดวงชะตาไม่ถึงฆาตจริงๆ ผู้มีตะกรุดนี้ไว้ก็จักไม่ตายด้วยคมอาวุธ ดุจพญาหนุมานทหารเอกของพระราม ผู้ไม่มีวันตาย..

​

 

จริงๆแรงบันดาลใจที่คณะศิษย์สายหลวงปู่พิศดู ได้จัดสร้างหนุมานมหาฤทธิ์ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากได้ศึกษาตำราการสร้างตะกรุดยมสลักเกล้า ของหลวงพ่อกุน วัดพระนอนนี่เอง ประกอบกับเครื่องราง หนุมาน เป็นเครื่องรางที่โดดเด่นในด้านอิทธิฤทธิ์ และทำให้ผู้คนทั้งหลายหันมาศรัทธาในพระเกจิครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ฯลฯ อีกหลายสำนัก ซึ่งครูบาอาจารย์เหล่านี้ก็เคยสร้างหนุมานออกมาเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ใช้ จนเกิดประสบการณ์มากมาย ซึ่งหนุมานในแต่ละสำนักก็ล้วนแต่มีความจุดเด่นเฉพาะของแต่ละสำนักไป การสร้างหนุมานมหาฤทธิ์ขึ้นมานั้น ถือได้ว่าเป็นการรวบรวมจุดเด่นของแต่ละสำนัก หรือรวมกระแสแห่งสภาวะพลังงาน อธิจิตของครูบาอาจารย์ต่างๆ มารวมไว้ในรุ่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ..

พิมพ์ของหนุมานมหาฤทธิ์ พิมพ์นี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่หนุมาน เหาะไปเอาต้นยาสังกรณีตรีชวา ที่อยู่ภูเขาสัญชีพสัญญี โดยการ อธิษฐานขยายร่างให้ใหญ่ เอาหางขดรอบภูเขา แล้วเหาะเอาภูเขายาทั้งลูกกลับมาเพื่อเอายามารักษาพระลักษณ์ที่ถูกหอกกบิลพัท.. ฯลฯ ก่อนจะมาถึงตอนที่สะกดกรุงลงกา และเอาหินบดยาจากทศกัณฐ์ไป ดังที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง

ใต้ฐานยังออกแบบเป็นฐานแบบตุ๊กตาล้มลุก เป็นเคล็ดแสดงถึงลักษณะที่ไม่ตาย ไม่แพ้ ไม่ล้ม ถ้าล้มแล้วจะต้องลุก ที่รอบฐานยังจารึกอักขระหัวใจหนุมาน (หะนุมานะ) และกำลังหนุมาน(นะสังสะตัง) ไว้ด้วย
เท่าที่เราเคยเห็นการสร้างหนุมานนั้นจะนั่งยองจับเข่า หรือถ้าพนมมือก็จะคุกเข่า แต่ถ้ามาคิดดูแล้ว ธรรมชาติของลิงจะไม่คุกเข่าครับ ยิ่งถ้าท่าเตรียมพร้อมต่อสู้จะต้องนั่งยอง
หนุมานชุดนี้ถ้าสังเกตุดูจะเห็นว่านั่งยอง เพราะหนุมานก็เป็นลิง จึงออกแบบให้อยู่ในท่านั่งยองเตรียมพร้อมออกรบ และพนมมืออธิษฐานฤทธิ์ร่ายเวทมนต์ก่อนออกรบไปครับ.. การออกแบบจึงไม่ซ้ำกับที่ใดมาก่อน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คาดกันไม่ถึง แต่ถ้าคิดถึงหลักความน่าจะเป็นจริงแล้ว จึงสมบูรณ์แบบลงตัวทุกประการครับ
ใต้ฐานเจาะรูเพื่ออุดผงหนุมานคลุกผุ่น หนุมานแผลงฤทธิ์ และผงหนุมานจากสำนักต่างๆมากมาย อาทิ หลวงพ่อกวย หลวงปู่สีห์ วัดสะแก หลวงพ่อดิ่ง และสารพัดผงวิเศษที่ดีที่สุดเท่าที่จะหากันมาได้ ฯลฯ
ส่วนโค๊ดที่จะใช้ตอกหนุมานนั้น เป็นโค๊ดรูปตรีศูล อาวุธประจำกายของพญาหนุมานอันเรืองฤทธิ์ ซึ่งอาวุธนี้เป็นของวิเศษเฉพาะตัวเวลาไม่ใช้จะซ่อนไว้อยู่ ถ้าจะใช้งานจึงออกมาเองครับ..
หนุมานรุ่นนี้ตั้งชื่อรุ่นว่า.. " หนุมานมหาฤทธิ์ " สร้างจากเนื้อสัมฤทธิ์เดชเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น โดยได้เททองหล่อในพิธีเททองพระประธานทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ และพระกริ่งสุขังเสติ ของทางสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิแนวหน้าของเมืองอยุธยา อาทิ หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ฯลฯ โดยหล่อหลอมจากชนวนศักสิทธิ์ล้วนๆ และชนวนหนุมานจากวัดต่างๆจำนวนมาก ฯลฯ โดยมีชนวนพระกริ่งธัมมะจารีก้อนก้นเบ้ามาผสมเป็นชนวนหลัก


ที่ผมพยายามรวบรวมข้อมูล และเขียนถ่ายทอดข้อความ เกี่ยวกับหนุมานมหาฤทธิ์ หรือวัตถุมงคลต่างๆก็ดี ที่คณะลูกศิษย์สายหลวงปู่พิศดูได้ช่วยกันจัดสร้างขึ้นมานั้น เพราะอยากให้ข้อมูลเหล่านี้ได้กระจายออกไปกว้างๆ ไม่อยากให้สูญหาย หรือลืมหลงไป เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณครูบาอาจารย์ของเรา และครูบาอาจารย์ต่างๆที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้อง ที่เราได้ไปขอความเมตตาให้ท่านอธิษฐานจิตให้ และอาจเป็นความรู้ใหม่ๆที่จะไปต่อยอดความคิด เสริมจินตนาการของผู้สร้างที่ดีหลายๆท่านในอนาคต เป็นการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม และพิธีกรรมที่ดีต่อไป และที่สำคัญของดีๆที่พวกเราได้ตั้งใจจัดสร้างออกมานั้น พวกเราทุกคนรู้ดีว่า ความตั้งใจที่ทำนี้ไม่เคยสูญเปล่า เพราะผลงานออกมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ จึงอยากให้ทุกท่านที่มีของเหล่านี้ไว้รู้สึกภูมิใจไปด้วยครับ..

หนุมานมีฤทธิ์มาก สามารถย่อตัวหรือขยายตัว มีพลังยกถอนภูเขาได้สบาย



​

 

ของร่วมบุญด้วยคนได้ไหมครับ