สวดมนต์แล้วสมาธิอยู่ไม่นิ่ง

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย hokiiz, 16 กรกฎาคม 2013.

  1. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    ผมหัดสวดมนต์มาได้ประมาณ 1เดือนถึง2เดือนแล้ว ครับ
    ผมเป็นคนชอบสวดมนต์บทยาวๆ เช่น ยอดพระกัณฑ์ ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร คาถาชินบัญชร แต่ผมมีปัญหาก็คือ เวลาสวดมนต์ สมาธิผมจะไม่อยู่นิ่งๆ เดียวคิดไปเรื่องเรียนบ้างละ เรื่องทำงานบ้างละ เรื่องครอบครัวอีก มันทำให้ผมลำคาญใจมากๆเลยละครับไม่รู้จะทำยังไงดี ใครก็ได้ช่วยผมที แล้วแบบนี้ผมจะได้บุญหรือเปล่าก็ไม่รู้
     
  2. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ ถูกผิดพิจารณาด้วยปัญญานะครับ

    การสวดมนต์เป็นการฝึกสมาธิขั้นต้น ก่อนทำการสวดมนต์ต้องทำให้มีสมาธิได้ระดับหนึ่งก่อนสำหรับผู้ที่เริ่มสวด เพื่อให้มีความพร้อมในการสวดมนต์ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคลว่าจะเลือกวิธีใด เช่น มองพระพุทธรูปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้สติจับอยู่ที่องค์พระพุทธรูป เป็นต้น การสวดมนต์มีทั้งการดูตัวอักขระจากหนังสือในขณะทำการสวดหรือสวดแบบไม่ต้องดูหนังสือสวดมนต์

    การสวดมนต์ที่ดูตัวอักขระจากหนังสือ ส่วนใหญ่จะเหมาะกับผู้ที่ยังสวดไม่คล่องหรือจำไม่ค่อยได้

    การสวดมนต์แบบไม่ต้องดูหนังสือหรือใช้ความจำ เหมาะกับผู้ที่ความจำดีหรือสวดเป็นประจำจนเกิดความเคยชิน

    จากทั้งสองแบบเหมือนกับว่าคนที่สวดมนต์แบบไม่ต้องดูหนังสือน่าจะมีสมาธิมากกว่าคนที่ต้องกางหนังสือออกเพื่อสวดตามตัวอักขระ ถ้าแรกๆใช่ เนื่องจากว่าเป็นการจำสิ่งใหม่ๆสติจะมีความสนใจในการจำ จึงทำให้มีสมาธิ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จิตเกิดความเคยชิน รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่เกิดความท้าทาย เป็นผลทำให้จิตคิดไปถึงสิ่งอื่นแทน ถ้าสังเกตุจะพบว่าขณะที่จิตเราคิดเรื่องอื่นอยู่นั้น ปากเราก็ยังสวดมนต์อยู่ สวดตามจังหวะเหมือนเดิมทุกประการ พอนึกได้ทีจิตก็กลับเข้ามาที แต่สำหรับกับบุคคลที่ต้องกางหนังสือดูเค้าจะต้องใช้สมาธิอย่างมากในการที่จะต้องใช้สายตามองดูตัวอักขระไปพร้อมกับการใช้สติสะกดคำและอ่านไปด้วยในเวลาเดียว รวมถึงท่วงทำนองในการสวดด้วย

    วิธีแก้ จะต้องทำให้จิตรู้สึกท้าทายกับธรรมมะที่เป็นสิ่งใหม่ๆเสมอ เพื่อให้จิตไม่เกิดความเบื่อหน่าย เช่น หาบทสวดที่ยากในการท่องจำ หรือฝึกจิตให้คิดในเรื่องของกุศลกรรมที่ได้หลังจากการสวดมนต์ ว่าสวดมนต์เพื่ออะไร พยายามคิดให้ลึกและกว้าง

    การสวดมนต์อย่าไปคิดถึงเรื่องบุญที่จะได้รับ จะต้องบอกกับตัวเองก่อนว่าเราสวดมนต์เพื่ออะไร สวดเพื่อให้ตัวเองหรือให้ผู้อื่น แล้วค่อยๆเข้ารายละเอียดว่าประโยชน์ของการสวดมนต์ให้อะไรเราบ้าง บางคนสวดมนต์เก่งมากๆ แต่ถามว่าบทสวดที่สวดอยู่มีความหมายอย่างไรบ้าง คนที่สวดแบบใช้ปัญญาคิดไปด้วยก็จะรู้ความหมายเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปหาคำแปล

    เมื่อค้นพบตัวเองแล้ว เราก็จะรู้ว่า จุดบกพร่องที่ตัวเองพบเจออยู่จะแก้ไขได้อย่างไร มันจะเป็นไปตามอัตโนมัติ

    ถูกผิดพิจารณาเองนะครับ ผมก็ศึกษาด้วยตนเอง เกิดปัญหาก็พยายามแก้เอง ขอให้ยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์อย่างศรัทธา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    เป็นธรรมดาครับ ใหม่ๆผมก็เป็นครับ ไม่ต้องกังวลใจไปครับ ทำบ่อยๆแล้วให้สังเกตดูตัวเอง ว่าทำแบบไหนหรือไม่ทำแบบไหนแล้วจิตสงบ เดี๋ยวก็ดีเองครับ

    เมื่อก่อนเคยอ่านมาว่า สวดมนต์เป็นแค่เบื้องต้น แต่ตามประสบการที่ผมทำมานั้น การเจริญพุทธมนต์นั้นก็สามารถทำให้จิตสงบได้ไม่แพ้กับนั่งสมาธิ เพียงแต่ต้องรวมเป็นหนึ่งกับบทนั้นเจริญมนต์ให้ได้ครับ
     
  4. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    ลืมบอกไปครับ ว่าบทสั้นยาวนั้นไม่ใช่เป็นตัวบ่งชี้ว่าจะสงบหรือไม่สงบครับ บางครั้งแค่นะโม ไม่ถึงจบก็ได้ที่แล้วครับ

    ไม่รู้นะผมว่า คุณน่าจะลองเริ่ม ที่บทนะโมก่อน แต่ว่าเอาแบบให้ดื่มด่ำอยู่กับบทนะโมให้ได้ ถ้าจะให้ดีลองเจริญบทนะโมพร้อมกับคำแปลภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจความหมาย ผมว่าจะทำให้รู้สึกซาบซึ้ง และยังก่อให้เกิดความศรัทธามากยิ่งขึ้น

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต : ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    อะระหะโต : ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

    สัมมาสัมพุทธัสสะ : ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง



    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต : ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    อะระหะโต : ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

    สัมมาสัมพุทธัสสะ : ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง



    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต : ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    อะระหะโต : ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

    สัมมาสัมพุทธัสสะ : ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

    สาธุในบุญด้วยครับ
     
  5. ผ่อนกรรม

    ผ่อนกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +400
    ลองตั้งใจว่า ๑ ชั่วโมงนี้ เราจะสวดมนต์

    เราจะไม่สนเรื่องอื่น เรียกว่าตัด

    ตัดปลิโพธ(ความกังวล) ๑๐ อย่าง

    ๑. อาวาสปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับที่อยู่

    ๒. กุลปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับญาติ

    ๓. ลาภปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับลาภ

    ๔. คณปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับหมู่คณะที่ตนต้องรับผิดชอบ

    ๕. กรรมปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับการงาน

    ๖. อัทธานปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับการเดินทาง

    ๗. ญาติปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของญาติ

    ๘. อาพาธปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของตนเอง

    ๙. คันถปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียน

    ๑๐. อิทธิปลิโพธ ความกังวลเกี่ยวกับฤทธิ์ของปุถุชนที่จะต้องคอยรักษาไม่ให้เสื่อม

    แนะนำให้สวดแล้วแปลด้วยและสวดช้าลงหน่อย

    คำแปลจะทำให้เรารู้ความหมายของบทสวดนั้น ๆ

    จะเกิดความศรัทธามากขึ้น ทำน้ำเสียงให้ไพเราะ

    เหมือนว่าเราสวดให้พระพุทธเจ้าท่านฟังด้วยตัวเราฟังด้วย

    แค่นี้จิตเราก็สงบได้ตั้ง ๑ ชั่วโมง หลังจากสวดจบถ้าไม่เหนื่อยจนอยากหลับ

    หรือยังจะคิดฟุ้งซ่านบ้าง ก็ต้องปล่อยให้ฟุ้งไปก่อน

    ฟุ้งแบบมีสติคือรู้ว่าตอนนี้เราฟุ้งอยู่ อีกหน่อยจะสั่งได้ว่า หยุดฟุ้งได้แล้ว ^^ (ที่สั่งได้เพราะสมาธิเกิด จึงรู้ทันความคิดนะไม่ใช่สั่งให้หยุดคิดนะ) ฮี่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2013
  6. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,187
    เอาศรัทธาเป็นที่ตั้งแล้วสวดก็ยังดีอยู่ครับ การรู้คำแปลแต่ละประโยคจะดึงศรัทธาและจะพัฒนาสมาธิไปในตัว
     
  7. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    ตามวิธีที่คุณพี่บอกมาจริงแท้แน่นอนครับ พิสูจน์ได้ไม่ยากเลยครับแค่ลองทำตามที่คุณพี่คนนี้บอก เดี๋ยวก็จะเห็นผล ว่า เออ ! มันจริงแฮะ

    ขอสาธุครับ
     
  8. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    เอ๋!ว่าแต่คนถามหายไปไหนน้อ ?
     
  9. pornchai17

    pornchai17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +410
    จึงเป็นที่มาของ อิติปิโสถอยหลัง
     
  10. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบคุณพี่ๆ มาเลยครับบบ มาเรียน รามไม่ค่อยได้เล่นเน็ต เปิดมาเจอพี่ๆ ตอบ ดีใจสุดๆ ไปเลยยย
     
  11. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    พี่ๆมาตอบให้แล้วคุณน้องได้ลองทำตามหรือยัง ได้ผลยังงัย ส่งข่าวหน่อยจ๊า
     
  12. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ผมเคยแก้ปัญหาโดย ปรับความเร็วในการสวดครับ

    ลองทั้งสวดเร็วขึ้น แล้วก็ช้าลง แล้วสังเกตว่าจุดไหนที่มีสมาธิตามทันมากที่สุดครับ

    การจุดเทียนก็ช่วยให้สติไม่ค่อยฟุ้งครับ เพราะสติจะจับอยุ่ที่คำสวดและแสงเทียนครับ
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เวลาที่สวดมนต์ลองออกเสียงให้ดัง แล้วเอาประสาทหูฟังเสียงสวดของตัวเองไปพร้อมๆ กับทำความเข้าใจในคำสวดแต่ละคำที่เราเปล่งเสียงนั้น จะได้ทั้งสมาธิและสติค่ะ
     
  14. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    คุณพี่ก็ ! ผมลองทำตามดูแล้วครับ สมาธิก็ขึ้นดีเรื่อยๆนะครับ มันดีขึ้นทีละนิดๆ ตอนนี้ก็พยายามให้มันดีขึ้นอีก
     
  15. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    ตอนนี้ก็ปรับบทสวด ให้เข้าก็ความพอดีของผมแล้วละครับ ปรับให้น้อยลง เมื่อก่อนสวดนานๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหนื่อย ปากแห้ง ปวดขา ก้นชา ผมว่าอาการพวกนี้ทำให้สมาธิผมมันไม่นิ่ง ผมเลยปรับบทสวดให้น้อยลงแต่สมาธิก็ดีขึ้น ผมไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ^^
     
  16. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    ขอโทษนะครับ กดผิด ที่ไปกดไม่เห็นด้วย

    มือถือก็แบบนี้กดผิดกดถูก

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ

    การสวดมนต์จะสวดสั้นหรือสวดยาว จุดประสงค์ที่เราต้องการคือสมาธิ เพราะเช่นนั้นคุณก็ทำถูกแล้ว

    อนุโมทนาบุญกับผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    ครับ ผมเข้าใจดีเลยเเหละจิ้มไปหนึ่งที ได้สี่ปุ่มเนี้ยผมเลยเลิกใช่โทรศัพแบบ Touch screen ไปละโมโห
     
  18. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    แค่เห็นว่าลังเลสงสัย กับฟุ้ง เป็นนิวณ์เป็นทุกข์ ก็วิเศษว่าสมาบัติใดๆในจักรวาล

    ยิ่งฟุ้งยิ่งดี ยิ่งบังเลสงสัยนิ่งดี เห็นทุกข์ จะ จะ
     
  19. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    พอยอมรับว่าฟุ้ง และสงสัย เป็นทุกข์ก็อุทิศกุศลที่ยอมรับว่านี่ทุกข์ชัดๆ
    อุทิศอันนี้ มีอานิสงค์ว่ายินได้ หมื่นล้านโกฏเท่า
     
  20. ph240

    ph240 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +119
    เช่นกันครับผมเริ่มฝึก สวดมนต์ ประมาณ เดื่อนกว่าๆ สรุปเหมื่อนกันเลยครับ จิตไม่นิ่งครับ จะพยามครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...