ขอทราบเรื่องผู้ปฏิบัติธรรมที่เคยเป็นบ้า...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 5 มีนาคม 2014.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เจตนาตามชื่อกระทู้ค่ะ รบกวนผู้รู้แลกเปลี่ยนข้อมูลค่ะ ในยุคสมัยปัจจุบันมีใครรู้จักบุคคลที่ปฏิบัติธรรม และมีอาการวิปลาส แล้วสามารถหายจากอาการต่างๆกลับมาเป็นปกติได้บ้างคะ?..หากมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ ผู้ที่หายได้เป็นเพราะอะไรบ้างคะ? อย่างในสมัยพุทธกาลก้อมีสตรีที่เป็นบ้า และพุทธองค์ท่านโปรด จนได้บวชและสำเร็จอรหันต์ อย่างนี้เป็นเพราะบุญเก่าของท่านภิกษุณีเกื้อหนุนด้วยรึป่าวคะ?

    เพื่อนผมนั่งสมาธิจนเป็นบ้าครับ - ลานธรรมเสวนา - หน้า 1.25

    BlogGang.com : : ���ԡ�� : ��ԺѵԸ������ҧ�� ��������繺��


    *หากตั้งกระทู้ไม่ตรงห้องก้อขอโทษด้วยค่ะ __/\__
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ตัวเองสกปรก แล้วลงไปล้างตัวในแม่น้ำ แม่น้ำจะสกปรก ตามตัวเองด้วยไหมครับ


    การปฏิบัติก็เหมือนกัน

    ทำสมาธิ รักษาศีล ภาวนา เป็นกรรม กุศลกรรม บุญกุศล

    ไม่ใช่ไปสร้างความชั่วช้า อกุศลกรรมที่ไหนครับ


    .
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ลองถามตัวเองนะว่า มีคนปฏิบัติธรรมกี่คน

    และมีคนเป็นบ้ากี่คน



    คิดเป็นเปอรเซนต์เท่าไหร่ กันของคนที่ปรกติดีอยู่


    .
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เหตุผลที่เว็บพลังจิต ค้าน ''ภาพวาด ภิกษุสันดานกา''


    การที่สื่อ ไม่ว่าจะเป็น ทางโทรทัศน์, วิทยุ, งานศิลปะ, เว็บไซต์, และ หนังสือพิมพ์
    นำเสนอและสนับสนุน เรื่องพระทำเลว ก็เป็น วิพากษ์วิจารณ์ สะท้อนสังคม นำเสนอความจริงของสังคมเพื่อให้ประชาชนได้ทราบเพื่อนำไปปรับปรุง

    แต่ว่าการนำเสนอความจริง ต้องพิจาราณาหลายๆอย่างได้ด้วยกัน

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
    ''ควร พิจารณา ว่า เป็นจริง เท็จ มีประโยชน์ไหม และดูกาลเวลา''


    -----------------------------------------------------------------

    ดูสถิติ คร่าวๆ

    พระทั่วประเทศมี 300,000 กว่ารูป
    ยอมรับว่าคนไม่ดีมีกันอยู่ทุกสังคม และพระทำไม่ดีมีมาตั้งแต่พุทธกาล
    พระที่ทำผิดขั้นปาราชิก คือขาดจากความเป็นพระ


    ที่ออกตามสื่อมีปีหนึ่งมีไม่ถึง 100 รูป จาก 300,000 รูป
    หนึ่งปีมี 365 วัน พระที่ออกตามสื่อ ไม่ได้มีทุกวัน

    ถ้าคิดเป็น % คือ มีเพียง 0.03 %

    และที่ไม่ได้ออกตามสื่อก็มี
    ตรงนี้ยังไม่ทราบตัวเลขแน่นอน เพราะว่ายังไม่มีสถิติพระที่ปรารชิกต่อปี


    ถ้าที่ออกตามสื่อมีปีหนึ่งมี20 รูป จาก สามแสนรูป
    ถ้าคิดเป็น % คือ มีเพียง 0.006 %


    ลองคำนวณให้ว่ามีพระ ทำผิด 1,000 รูป จาก พระ 300,000 รูป
    ถ้าคิดเป็น % คือ มี 0.33 %


    จากการคำนวณด้านบนเห็นได้ว่า มีพระปกติ อยู่ถึง 99 % กว่าๆ

    แต่สื่อเอา ส่วนน้อยนี้มาขยาย ประโคมข่าวพระทำเสียหายและสนับสนุนส่วนน้อยส่วนนี้ ทำให้ดูใหญ่โต
    ซึ่งไม่สมดุลกับความเป็นจริง พระทำดี ไม่ค่อยประโคมข่าว

    จึงทำให้ดูว่ามีพระ ทำเลวๆเยอะ ทำให้มีผลต่อความเสื่อมเสีย ทำให้คัดคนออกจากพุทธศาสนา

    พระพุทธเจ้า ก่อตั้งพุทธศาสนาขึ้นมาเพื่อดึงคนเข้าพุทธศาสนา
    การทำอะไรสวนทางกับพระพุทธเจ้า ก็ลองคิดดูเอาเอง จะมีโทษไหม

    ถึงแม้ว่าจะมีเจตนาดี แต่ผลออกมาไม่ดี ก็ควรปรับปรุง

    ในตอนนี้ มองรวมๆแล้ว จะได้ผลเสีย จะมากกว่าผลดี

    -------------------------------------------------------

    ในขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะนำเสนอแต่ข่าวพระทำไม่ดี จนกว่าสื่อจะนำเสนอพระทำดีให้ตรงตามสัดส่วนของจริง แล้วตอนนั้นสื่อจะสามารถนำเสนอพระทำไม่ดีก็ได้
    เช่น นำเสนอ พระทำดี 99.97 % และนำเสนอพระทำไม่ดี 0.03 %


    --------------------------------------------

    ผมยอมรับได้ว่า การนำเสนอ เรื่องราวที่พระทำผิดเพื่อให้ประชาชนได้รูนั่นคือ การตีแผ่ความจริง เพื่อให้คนได้รับรู หูตา สว่าง เป็นการบอกว่า ความไม่ดี มีอยู่จริง ในวงการพระสงฆ์

    สมมุติ ปัจจุบัน มีพระทำดี 95 % และมีพระทำเลว 5%....พอพระทำเลวสื่อต่างๆ ร่วมกันประโคมข่าวใหญ่โตหน้าหนึ่ง

    แต่พอพระ 95% ทำดี สื่อต่างๆ ไม่ประโคมข่าว มีบ้างแต่น้อยมากๆ

    ตรงนี้ไม่เสนอความจริง ทำให้เกิดความไม่สมดุล ความไม่เป็นจริงในสังคม
    ไปประโคมแต่ข่าวพระเลวๆ จนทำให้คนคิดว่า พระนั่นเลว
    ผมคิดว่า เวลานี้ยังไม่เหมาะสม เพราะว่าสื่อยังไม่ได้นำเสนอ ข่าวที่เป็นจริง คือ พระดี 95%

    .......... สื่อมัวแต่เสนอข่าวแต่พระทำเลวกันมาก

    การนำเสนอความจึงจะต้องดูว่ามีประโยชนฺไหม นำเสนอกับใคร และดูกาลเวลาด้วย
    ในพระสูตร เรื่อง กากะเปรต พระพุทธเจ้าก็พบเห็น ความจริง คือเห็นเปรตกา แต่ท่านไม่พูด เพราะว่ายังไม่ถึงกาล
    ถ้าเกิดว่านำเสนอแต่ข่าวเลวๆของพระ ไม่ยอมเสนอข่าวพระทำดี ให้ตรงตามสัดส่วนที่เป็นจริงของสังคม


    ......แล้วจะมาอ้างว่านำเสนอความจริง
    ข้อเสีย จะกระทบ ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม คนได้รับแต่ข่าวไม่ดี พอคนไปเห็นพระดีๆก็อาจจะจะคิดเหมารวม

    ถ้าเมื่อไหร่ สื่อ สามารถร่วมแรงใจนำเสนอข่าวๆดีๆของพระ 95 %
    แล้วนำเสนอ ข่าวพระทำเลว 5 % ที่ตรงกับสัดส่วนของความเป็นจริง นั่นตรงนั้นทำได้

    สื่อสันดานกาและศิลปินสันดานกา ก็คือ พวกหากินกับพระ ประโคมแต่ข่าวพระทำเลว แล้วคนจะซื้อข่าว และซื้องานของตน เพื่อให้ตนเองมีเงินทอง มีชื่อเสียง แล้วก็อ้างว่า เสนอความจริง เพื่อให้คนได้รับรู้

    แต่ความจริงที่พระทำดีๆ ไม่ยอมลง ไม่ยอมตีแผ่ให้คนอ่านได้รับรู้ความจริง แต่แผ่แต่สิ่งเลวๆของพระ

    พวกนี้ทำบาประดับมหาชนเลย ลงนรก ใครเห็นด้วยร่วมสนับสนุน ก็น่าเป็นห่วง



    ภิกษุสันดานกา โดย ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ (กระทู้นี้สุดยอด ห้ามพลาด!)

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=747723

    ภาพ"ภิกษุสันดานกา" เจตนาดีที่อาจส่งผลร้าย

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=749073

    ---------------------------------------------------------------------------


    ศิลปิน มีอิสระ มีสิทธิ์ สื่อสารอะไรต่างๆ
    แต่ควรจะคำนึงว่า อิสระที่มีนั้นไปเบียดเบียน คนและสถาบันอื่นไหม

    นรกก็เปิดกว้างสำหรับผู้รักอิสระทั้งหลาย
    การปรามาสพระรัตนตรัยทำให้ตกนรก

    ---------------------------------------------------------------

    ในพระไตรปิฎกมีเนื้อหาสาระดีๆที่จะให้วาดมีเยอะแยะ

    การเผยแผ่และขยายในส่วนที่ไม่ดีมากๆ ทำให้มีกระทบต่อสถาบันศาสนา

    -------------------

    ภาพนี้มองรวมๆแล้ว มีผลทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย
    ทำให้พุทธไปในทิศทางลบ


    เอาจีวรไปห่มคนหัวหมา ก็ไม่เหมาะ

    ----------------------

    ภาพวาดของ อ.เฉลิมชัย
    คนมองแล้วเกิดศรัทธา เกิดทิศทางไปในทางบวก

    แต่ภาพที่มีปัญหากันอยู่นี้ เมื่อมองแล้ว เกิดความเสื่อมและไปในทิศทางลบ

    --------------------------------

    ตอนนี้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก
    ก็น่าจะร่วมแรงใจเผยแผ่แต่สิ่งดีๆ ออกไปสู่ชาวโลก เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
    และนำแต่สิ่งดีๆเข้าตนเองและแพร่กระจายออกไป

    ถ้าองค์กรณ์ไปสนับสนุนภาพเหล่านี้ออกไปก็จะเสื่อมเสีย

    อะไรที่ไม่ดีก็มีอยู่ทุกสังคม ตรงนี้เราทราบดี
    ก็เอามาพัฒนาปรับปรุงต่อไป
    ส่วนที่ไม่ดีที่เป็นส่วนเล็กๆก็ไม่ควรนำมาขยายไปใหญ่โต จนไปกลบส่วนที่ดีๆจนหมด

    จนท้ายสุดทำให้คนมองเมหารวมว่าไม่ดีทั้งหมด

    เคยได้ยินสุภาษิต สาวใส้ให้กากิน ไหม

    ------------------------------------------

    จากที่บอกว่า ภิกษุสันดานกา มีในพระไตรปิฏก
    ก็เลยดึงออกมาวาด

    ในพระไตรปิฏกพระพุทธเจ้า ท่านกล่าวสอนแบบเจตนาบริสุทธิ์และเป็นคำพูดที่อธิบายชัดเจน คนฟังแล้วเข้าใจ
    ซึ่งจะต่างกับการสื่อออกมาด้วยรูป ซึ่งคลุมเคลือ มองได้หลายๆอย่าง ไม่ชัดเจน
    -----------------------------------------

    ที่นี้ผมอยากถามว่า
    ในพระไตรปิฎกมีเนื้อหาสาระดีๆที่จะให้วาดมีเยอะแยะ ?
    วาดแล้วออกไปในทิศทางบวก ทำไมไม่เอามาวาด ?

    ความคิดสร้างสรรค์ทางด้านบวกไม่มี ?

    หรือเป็นเพราะว่า วาดแล้วจะไม่ดัง ไม่ได้รางวัล ไม่มีชื่อเสียง ไม่ได้ลาภยศ
    เพราะว่าคนวาดทางด้านดีมีแล้ว ?

    สู้มาวาดภาพด้านลบๆดีกว่า
    เหมือนกับการเสนอข่าวพระสงฆ์ที่ทำผิด จะดังมากกว่า เสนอข่าวพระสงฆ์ดีๆ นำเสนอไปแล้วดัง มีคนซื้อข่าวซื้อหนังสือ ทำให้รวย ทำให้ธุระกิจเจริญ
    แต่พุทธศาสนาจะพังข้าไม่สนใจ เอาตัวเองไว้ก่อน

    ทีนี้ ไปวาดสื่อว่าพระสงฆ์ทำผิดอะไร ต่างๆ
    ถ้าคิดแบบนั้น ก็เท่ากับว่า คนวาดและกรรมการหากินกับความเสื่อมเสียของพุทธศาสนา
    หากิน หาลาภยศ สรรเสริญ กับความเสื่อมเสียของพุทธศาสนา เอาไปขยายในวงกว้าง

    ซึ่งคุณผู้วาดและคณะ ก็ไม่ต่างกับพระที่ทำผิดพระวินัยดังรูป ที่คุณวาด ที่มาหากิน ตรงจุดอ่อนแอของพุทธศาสนา

    -----------------------------

    ที่นี้ ภาพ พระภิษุสันดานกา อ้างได้ว่ามีในพระไตรฯ

    แต่สำหรับ “หมา-นุษย์”
    จะอ้างอะไรอีก ?

    พระไตรฯ มีบอกเหรอว่า คนหัวหมา ห่มจีวรพระ ?

    สมควรแล้วเหรอ เอาธงชัยแห่งอรหันต์
    เอาผ้าจีวร สีและรูปแบบ
    ที่พระสงฆ์และพระพุทธเจ้าห่ม เอาไปห่มหมา ?
    -----------------------

    ลองเทียบกันดูว่า
    สมมุตว่านะครับว่า

    ถ้าคุณเห็นรูป ฝรั่งวาดรูป ผู้ชายฝรั่งเอาเท้าเหยียบธงชาติไทย
    อีกเท้าอีกข้างหนึ่งหนึ่งเหยียบพระพุทธรูปไว้

    และศิลปินก็อธิบายว่า เขาวาดเพราะว่าสะท้อนความจริงที่ว่า
    ฝรั่งบางคน ที่แถวบ้านเขา ทำแบบนั้นจริงๆ เป็นความจริงที่เกิดขึ้น

    นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้น เขาเพียงวาดเพื่อถ่ายทอดเฉยๆ

    ทีนี้ภาพนั้นได้รับรางวัลระดับชาติแล้วก็จะเผยแผ่ทั่วโลก
    กรรมการตัดสินว่าภาพนั้นเป็นภาพที่เลิศเลอมาก ลายเส้นสวยและการลงสีสวยมาก ไอเดียเจ๋งมากๆ และไม่มีกล้าทำมาก่อนในโลก

    และกรรมการก็คิดแต่เรือ่งศิลปะอย่างเดียว แต่ไม่ได้คิดเรื่องของความเหมาะสมและผลกระทบต่อสังสังคม

    ทีนี้ เราคนไทย ไปเห็นภาพที่เขาวาดออกมาเพราะว่าสะท้อนความจริง นั้น เราจะรับได้หรือไม่ ?
    เราคิดว่าภาพนั้นที่ออกมาจะเหมาะสมไหม ?

    ใช่ภาพนั้นสื่อออกมาว่า นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้นจริง
    ตรงความจริงตรงนี้น่าเผยแผ่เหรอ เผยแผ่ออกไปแล้วจะเป็นผลดี ?
    น่าภูมิใจที่เผยแผ่ ? เป็นผลดีต่อชาติ ?

    --------------------------

    ตัวอย่างข้างบนก็เช่นเดียวกันกับคนที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนาที่เห็นภาพดังกล่าว

    -------------------------------

    ลองจินตนาการดูในสังคมหนึ่ง สมมุตินะว่า มีเว็บเดียวในโลกเกี่ยวกับพุทธศาสนา เป็นเว็บพลังจิต เราสื่อและนำเสนอ พระทำเลว 90 % ของเนื้อหาทั้งหมด ส่วนพระทำดี เราเสนอ 10%

    เนื้อหาเว็บทั้งหมด 90 % เราเผยแผ่แต่พระทำเลวๆ หรือเราเผยแผ่ส่วนลบ ซึ่งสวนทางกับความป็นจริงของสังคม สิ่งที่จะเกิด
    คนเข้ามาอ่านทุกวันๆก็จะรับรู้กับบสิ่งหล่านั้น
    จะเกิดอะไรขึ้น ผู้อ่านคิดเองต่อไป

    ความเสื่อมจะมาเยือน

    เหตุผลที่เว็บพลังจิต ค้าน ''ภาพวาด ภิกษุสันดานกา'' เหตุผลที่เว็บพลังจิต ค้าน '' - ข่าวพระพุทธ
     
  5. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ส่วนเรื่องที่ยกมานั้น ชี ญ นางนั้น เค้าไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติใดๆ เลย

    เป็น ญ ที่ หนีตามผู้ชาย กันไป แล้วก็มีลูก บลาๆๆๆ สุดท้ายตายหมด

    ประสบเคราะห์กรรมต่างๆนาๆ จนบุคคลอื่นเห็นแล้วคิดว่านางเป็นบ้า แต่จริงๆนางไม่ได้เป็นคนบ้า แต่คนบุคคลอื่น เข้าใจผิดไปเอง

    จนได้พบพระพุทธเจ้า ได้เทศน์สอน เตือนให้กลับมามี สติ เป็นปรกติ จนปฏิบัติกลายเป็นพระอรหันต์ นะครัช ท่านจขกท.


    กลับมามีสติ แล้วถึงได้บวช ปฏิบัติจนเป็นพระอรหันต์ นะครับ ไม่ใช่ว่า บ้าอยู่แล้วกลายมาเป็นพระอรหันต์

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ละอย่างสุดท้ายนะ

    บุคคลที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้นั้น

    พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญบารมีมาอย่างน้อย 4 อสงไสยกัป กำไรแสนกัป พระอรหันต์สาวกบำเพ็ญบารมีมาอย่างน้อย 1 อสงไสยกัปอีกกำไรแสนกัป


    ดังนั้น ถึงได้ลงมาจุติ มาเกิดเป็นพระอรหันต์ในสมัยของพระพุทธเจ้า นะครับ

    ดังนั้น เป็นเรื่องของ บารมีที่ท่านสร้างมานั้นเองครับ หรือย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า บุญเก่า ที่สร้างไว้นั้นเอง


    .
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    รู้จักแบบเริ่มหลงๆ อยู่ 2 คน เป็นผลจากการฝึกสมถะ เพ่งรูป ทั้งคู่
    ทั้งสองคนไหวตัวทัน มีกัลยาณมิตรดี กลับมาฝึกสติเพื่อควบคุม ก็เป็นปกติ

    ถ้าขนาดบ้าไปเลย คงจะยากหน่อย หรือถ้าเข้าขั้นหลง แล้วไม่ไหวตัว ยังปล่อยจิตไปตามความหลง ก็กูไม่กลับเหมือนกัน
     
  8. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    จะเล่าเรื่องพี่ชายแท้ๆ ของผมเองให้อ่านเล่นๆครับ จิตไม่ปกติอยู่เกือบ 2 ปี ผมเองอยู่ในเหตุการณ์ และคอยสังเกตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

    วิธีการปฏิบัติ: ด้วยความว่าง เพราะทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อนเลยพาไปรับขันธ์มาเป็นองค์ ... จากนั้นก็มาปฏิบัติเอง จะเป็นสมถกรรมฐาน แต่พิจารณาอะไร อันนี้ไม่ทราบ เพราะตอนปฏิบัติพี่จะเข้าห้องพระปฏิบัติ
    ระยะเวลาการปฏิบัติ: ประมาณ 1 ปี นับจากเริ่มต้น และประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน

    ผลลัพธ์: ส่วนตัวพี่ชายไปอยู่อังกฤษหลายปีมาก ประกอบกับคิดถึงบ้าน ความเหงาด้วยส่วนหนึ่ง หลังจากกลับมาทำธุรกิจอยู่ไทย ก็ได้รู้จักกับกลุ่มร่างทรงมิจฉาทิฏฐิกลุ่มหนึ่ง(ท่านที่เป็นร่างทรงที่ดีก็ยังมีเยอะ) ชวนไปรับขันธ์ พอปฏิบัติไประยะหนึ่งแล้ว เค้าสามารถเห็นวิญญาณต่าง ๆ สื่อสารได้ ปราบผีได้ สามารถเห็นหวยได้ แต่จะเห็นได้เฉพาะตอนเช้าวันหวยออก(แต่บอกคนอื่นไม่ได้) และที่สำคัญคือ คิดว่าตัวเองเป็นศาสดาองค์ใหม่ ไม่เอาพระพุทธเจ้า กลับไปบ้าน เอาพระพุทธรูปที่บ้านไปทิ้งหมด ชอบอยู่ในห้องคนเดียว พูดคนเดียว หน้าดำคล้ำ ดวงตาเหม่อลอย ครอบครัวแตกแยก

    วิธีแก้ไขเบื้องต้น:
    ทางไสย์: อาจารย์ผมบอกวิธีแก้ไขเบื้องต้นให้คือ ให้ใช้น้ำที่รองมาจากแม่อาบน้ำ หรือล้างตัว และให้แม่สวดบทพุทธคุณประมาณ 9 จบ พร้อมอธิษฐานอโหสิกรรมให้ลูก และอธิษฐานให้ลูกหาย จากนั้นหยดน้ำตาเทียนลงน้ำ ข้อนี้ อาจารย์ย้ำว่า ต้องให้แม่เป็นคนทำเท่านั้น หลังจากนั้น ให้เอาไปให้พี่ชายอาบ และดื่มเล็กน้อย ทุกอย่างให้เริ่มตอน 9 โมงเช้า

    ทางจิตวิทยา: หลังจากนั้น ผมก็แนะนำให้พี่ชายย้ายไปทำธุรกิจอยู่ต่างจังหวัด และได้อยู่ใกล้ครอบครัวพี่น้องทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน เริ่มกลับมาปกติ แต่ความสามารถเห็นวิญญาณอะไรต่างๆ ก็ยังมีอยู่

    วิธีการแก้ไขระยะยาว: ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะพามาปฏิบัติตามแนวพระพุทธเจ้า แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะ เพราะทิฏฐิยังมีเยอะอยู่

    บทสรุป: ส่วนตัวเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องของจิตวิทยาส่วนหนึ่ง และความหลงในนิมิตที่เห็นส่วนหนึ่ง และไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งไหนคือความจริง สิ่งไหนคือนิมิต...ส่วนตัวขอสรุปว่าต้องเจริญสติให้มาก เพื่อให้รู้ทันต่ออาการของจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2014
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมก็ทำสมาธิพุทธ อยู่แต่ยังไม่หายย้ บ้า
    หายเมื่อไหร่จะมาเหลา ให้ฟัง
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    บ้าเป็นเรื่องปรกตินะ ร่างกายเป็นรังของโรค
     
  11. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ไม่รู้ว่าบ้าเพราะนั่งสมาธิหรือเปล่า
    แต่บ้าแน่ๆ ใครก็ว่าบ้า ไม่กล้าไปหาหมอ กลัวหมอจัยมัดไว้
    ไม่เชื่อเอารถโรงบาลบ้ามาจับ ผมหนีสุดชีวิต
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    เคสสมัยพุทธกาล เขาเสียสติหรือเรียกวิปลาส หรือเรียกว่าบ้าดังว่าก็เอา (ไม่น่าถึงขั้นบ้า) เพราะเธอสูญเสีย สามี ลูก และพ่อแม่ เวลาใกล้เคียงกัน ขั้นผ้าผ่อนหลุดไม่รู้เนื้อรู้ตัว (ตัวอย่างปัจจุบันนี่ก็มี เช่นผู้เป็นแม่คนหนึ่ง มีลูกชายคนเดียว จึงรักลูกถนอมลูกมากๆ วันหนึ่งลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกระทันหัน ร้องไห้เสียใจ จนร่างกายอ่อนพับกองกับพื้น คนประคองสองคนยังเดินไม่ได้เลย)

    ส่วนบุคคลตัวอย่างปัจจุบันซึ่งทำการฝึกจิต หรือทำกรรมฐานแล้วเกิดอาการผิดปกติทางจิต (ใช้คำนี้) มีตัวอย่างจริง ได้รู้เห็นมา 3-4 ราย ทั้งตนเองก็เกือบอยู่ในจำนวนนั้นด้วย เรื่องนี้เล่ากันยาว
     
  13. อาตแมว

    อาตแมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +27

    "ไอ้ปฏิบัติธรรมจนวิปลาส นั้นมันแก้ไม่ได้แล้วคุณโยม เรียกว่าช่วยช้าไป ถ้าเกือบๆๆก็ยังช่วยได้อยู่ ไอ้วิปลาสในเรื่องปฏิบัติธรรมนั้นเขาหมายความว่ามันบ้าเพราะตัวกูมันสุกงอมเต็มที่ คือกูมันบรรลุธรรมแล้ว บรรลุปิติขั้นสุดยอดแล้วก็เพี้ยนชนิดหลุดโลกไป แบบนี้พูดอะไรมันจะฟังไหมล่ะ การปฏิบัติเขาถึงต้องมีครูคือคนที่คนปฏิบัติเชื่อใจมันจึงเตือนกันได้พูดแล้วฟัง และอีกอย่างต้องเป็นคนที่รู้ทันวาระจิต แล้วมันจะช่วยแก้อารมณ์ได้ มันก็จะไม่บ้าฟั่นเฟือนไป อันนี้มันต่างจากเป็นบ้าเพราะเป็นโรคเพราะมีอะไรมากระทบจิตใจเสียใจแล้วบ้านะโยม "

    เจริญพุง.................
     
  14. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    การดื่มสุราเมรัย อันบุคคลเสพแล้ว ฯลฯ วิบากแห่งการดื่มสุราเมรัยอย่างเบาที่สุด ก็เป็นไปพร้อมเพื่อความเป็นคนบ้าเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ดังนี้(องฺ. อฏฺฐก. ๒๓/๑๓๐)

    สาเหตุเป็นบ้าตามพระไตรปิฎก เกิดจากกรรม ดื่มน้ำเมา ตามพระสูตร ที่ยกมาข้างบน ไม่ใช่บ้าเพราะปฏิบัติธรรมครับ
     
  15. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    มีสติปฏิบัติ มีปัญญากำกับ มันไม่บ้าดอก
     
  16. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คนที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังไม่เคยโดนด่าว่าบ้า แสดงว่ายังปฏิบัติไม่ถึงขั้น ยังไม่ได้เรื่อง
     
  17. oJOEo

    oJOEo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +136
    ผู้ที่ปฏิบัติธรรมแล้วมีอาการวิปลาส ที่เคยได้ยินมานั้นยังไม่มีครับ แต่ผมทราบแน่ๆ ว่า ผู้ปฏิบัติที่มีอาการวิปลาสนั้นปฏิบัติผิดแน่นอนครับ ผู้นั้นมิได้ปฏิบัิติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
    วิธีแก้ไข ให้กลับมาเป็นปกติมีครับ วิธีแรกเลย ให้เลิกปฏิบัติธรรมแบบนั้น คือหยุดไปเลยครับ แล้วกลับมาใช้ชีวิิตแบบปกติทั่วไป ใช้เวลาช่วยรักษาเยียวยาให้ จิตกลับมาเป็นปกติ ก็จะหาย ส่วนอีกวิธี ที่ผมทราบมา นั้นถ้าอยากทราบให้ส่งข้อความมาถามนะครับ แต่ช่วยอธิบายสิ่งที่จะสื่อในกระทู้ที่ถามมาด้วยครับ
    เช่น เห็นเพื่อนทำแล้ววิปลาส แล้วมีอาการต่างๆอย่างนี้ ประมาณนี้อ่ะ ขอทราบจุดประสงค์ด้วยครับ
     
  18. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ปฏิบัติธรรมแล้วเป็นบ้าก็เคยเห็น ไม่ปฏิบัติธรรมก็เป็นบ้าก็เคยเห็น
    คนที่เป็นบ้าเพราะการปฏิบัติที่ผมเห็น
    1.เถียงคำสอนของพระพุทธเจ้า เช่นว่าความสงบมาก่อนปัญญา เขาก็เถียงว่าปัญญามาก่อนความสงบ (คิดจนเป็นบ้าแบบไม่รู้สึกตัว)
    2.ติดในฤทธาศักดาเดช ประเภทว่าหูทิพย์ ตาทิพย์ เช่นว่าเห็นเทวดา พูดคุยกับเทวดา ไปๆมา เห็นเทวดาไปทั่ว พูดคุยกับเทวดาตลอดเวลา (บ้านั่งหรือเดินพูดอยู่คนเดียว)
    ทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีเหตุมีผล หากตั้งปฏิญานว่าปฏิบัติเพื่อการละวาง เพื่อดับกิเลส ไม่ปราถนาอะไรเกินไปกว่านี้ ผมก็เชื่อว่าจะไม่เป็นบ้า
     
  19. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    ของเราจะตรงกันข้ามอ่ะ เมื่อก่อนเรามีอาการเหมือนคนเป็นบ้า แบบนั่งเหม่อลอย นิ่งๆ เงียบๆ เก็บตัว วันๆ ไม่พูดไม่จากับใครเลย เศร้าน้ำตาไหลออกมาเอง จนรู้สึกตัวว่า ไม่ไหวแล้วนะ ต้องหาทางออก ก็เข้าทางธรรม หัดนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐานจากตำราหลายๆ เล่ม ส่วนใหญ่เป็นตำราทางอินเตอร์เนต ละก็สวดมนต์ทุกวันด้วย...ทุกวันนี้อาการทางจิตเหล่านั้นไม่มีแล้ว ก็กลับมาเป็นคนปกติ แฮบปี้ๆ
     
  20. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    แต่ว่าข้าพเจ้าเพิ่งเริ่มปฏิบัติก็โดนหาว่าบ้าจากบรรดาพ่อ แม่ และน้อง ๆ แล้วนะคะ (||) :( เง้อออ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...