อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,486
    ค่าพลัง:
    +53,107

    ซิกอัพที่บ้านใช่ใหมครับ หายไวๆครับพี่
     
  2. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    เหรียญฟ้าผ่า พ.ศ. 2516 เนื้ออัลปาก้า
    หลวงพ่อมุ่ย สุพรรณบุรี เหรียญที่ 1

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญประสบการณ์ ลงหนังสือพิมพ์ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ คนงานก่อสร้างอาคารหวาก๊าน อยุธยา เป็นอาคาร ๓ ชั้น ระหว่างที่คนงานก่อสร้างชื่อนายสมาน ภูฆัง บ้านเดิมอยู่สุพรรณบุรี กำลังขึ้นไปทำงานปูคอนกรีตแผ่นสำเร็จรูปบนชั้น ๓ นายสมานเดินไปเหยียบเอาปลายแผ่นคอนกรีตขนาด ๓.๔ เมตร หนักแผ่นละ ๒๐๐ กิโลกรัม ที่ปูไว้กลับไม่ชนขอบคานหลายแผ่น ทำให่แผ่นกระดกขึ้นพร้อมกันหลายแผ่น ส่วนตัวนายสมานเองก็เสียหลักพลัดตกลงมานอนฟุบอยู่บนพื้นชั้นที่ ๒ และยังผลให้แผ่นคอนกรีตหนัก ๒๐๐ กิโลกรัมนับสิบแผ่นไหลพุ่งลงมายังชั้น ๒ แต่ไหลแฉลบออก เฉียดร่างนายสมานไปทั้งหมด ข้างท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานนับสิบคู่ ทุกคนเห็นนายสมาน รอดตายราวปาฏิหาริย์ ขณะนั้น นายสมานก็แขวนเหรียญหลวงพ่อมุ่ย รุ่นฟ้าผ่าเพียงเหรียญเดียว

    เหรียญรุ่นนี้ชาวสุพรรณเรียกว่า รุ่นฟ้าผ่า เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อนชาวนา อ.สามชุก แขวนเหรียญรุ่นนี้ ขณะออกทำนาท่ามกลางสายฝนเลยโดนฟ้าผ่า สร้อยสเตนเลสที่ใช้แขวนเหรียญ ละลายหมด แต่เหรียญ และตัวคนแขวน กลับไม่เป็นอะไรเลย

     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เล่าเรื่องหลวงปู่อ่อนสา โดยครูนก
    โพสต์ที่ 5133 หน้าที่ 514




    [​IMG]




    นโม วิมุตฺตานํ

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย

    นโม วิมุตฺติยา

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรมความหลุดพ้นของท่านเหล่านั้น


     
  4. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    วันที่ 07 เมษายน พ.ศ. 2556 ข่าวสดออนไลน์


    [​IMG]


    หลวงพ่ออุย วัดช่องคีรีฯ นครสวรรค์ มรณภาพแล้ว รดน้ำศพ 8 เมษา

    เมื่อเวลาประมาณ 07.52 น.วันที่ 7 เม.ย. หลวงพ่ออุย อภิวฑฺฒโณ หรือพระครูนิภาสธรรมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มรณภาพแล้วที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ด้วยโรคชราขณะอายุ 96 ปี โดยหลวงพ่ออุยมีอาการอาพาธต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย. 2555 หลวงพ่ออุยเข้าโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

    เนื่องจากอาการไม่ค่อยดี บางครั้งไม่รู้สึกตัว โดยท่านต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ โดยคณะกรรมการวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม คณะสงฆ์และคณะศิษย์ได้รับศพออกจากโรงพยาบาล มาทำการประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลาวัดช่องคีรีฯ โดยกำหนดสรงน้ำศพในวันที่ 8 เมษายน เวลา 16.00 น. และตั้งศพสวดพระอภิธรรมระหว่างวันที่ 8-17 เมษายน


    [​IMG]


    ประวัติหลวงพ่ออุย อภิวฑฺฒโณ

    พระครูนิภาสธรรมวัฒน์ หรือหลวงพ่ออุย อภิวฑฺฒโณ เจ้าอาวาสวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ นามเดิมชื่อนายมณี ภู่บัว

    เป็นบุตรของพ่อโขน แม่ศรีไพร ภู่บัว เกิดวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเส็ง ตรงกับ วันที่ 15 เมษายน พศ. 2460 เกิดที่บ้านโคกหนองไผ่ หมู่ 2 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีพี่น้องรวมทั้งหมด 9 คน หลวงพ่อเป็นคนโต เหตุที่เรียกว่าหลวงพ่ออุย เนื่องมาจากตอนเด็กหลวงพ่อมีรูปร่างอ้วยอุย จึงเรียกกันว่า “อุย” ครอบครัวมีอาชีพ ทำนาในวัยเด็ก หลวงพ่ออุยได้เรียนหนังสือจนจบชั้นประถมปีที่ 3 เมื่อ พศ.2475 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดโคกหนองไผ่ ท่านเรียน ก.ข. 24 ตัว อักษรสูง อักษรกลาง อักษรต่ำ ก.ข. ก.กา และมาตราแม่ต่างๆ พร้อมทั้งช่วยครอบครัวทำนา จนกระทั่งอายุครบบวช จึงได้ทำการบรรพชา อุปสมบท ตามประเพณีให้พ่อ-แม่ ที่วัดโคกหนองไผ่ เป็นเวลา 2 พรรษา และลาสิกขาบทออกมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ ต่อมาทางราชการมีการเกณฑ์คนหนุ่มส่งไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 และมีข่าวว่าคนหนุ่มที่ถูกส่งไปป่วยเป็นไข้ป่า เสียชีวิตจำนวนมาก ทางครอบครัวจึงส่งท่านให้มาอยู่กับลุงที่นครสวรรค์ ชื่อลุงปาน ที่บ้านวังม้า ต.วังม้า อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ขณะนั้น พศ. 2486 ท่านได้ขอค่าเดินทางมานครสวรรค์ด้วยเงินเพียง 40 บาท

    ต่อมาในปีเดียวกัน(พศ.2486) ลุงปานได้จัดการอุปสมบทให้ท่านที่วัดวังม้า ขณะนั้นท่านอายุได้ 26 ปี อุปสมบทเมื่อวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6

    พระอุปัฌาย์คือหลวงพ่อภู่ วัดลาดยาว พระกรรมวาจาจารย์คือ หลวงพ่อสิงห์ วัดดอนโพธิ์ พระอนุสาสนาจารย์คือหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดวังม้า และจำพรรษาที่วัดวังม้า ต่อมา ปี พศ.2487 จำพรรษาที่วัดโพธาราม พศ. 2488 จำพรรษาที่วัดยาง(วัดสุคตวราราม) และย้ายมาจำพรรษาที่วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม พศ. 2489 ท่านสอบได้นักธรรมโท สำนักเรียนวัดนครสวรรค์ และท่านได้อยู่ที่วัดช่องคีรีศรีสิทธิวรารามมาจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่ออุยเป็นเจ้าอาวาสลำดับที่ 13

    หลังจากที่หลวงพ่ออุยมาจำพรรษาอยู่ที่วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆจากอดีตเจ้าอาวาส และจากหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดวังม้า ซึ่งเป็นพระเถระที่มีอายุกาลพรรษาสูงและมีวิชาอาคมรูปหนึ่งของนครสวรรค์ ทั้งยังศึกษาวิชาจากพระเถระอีกหลายรูปที่มีชื่อเสียงของนครสวรรค์ ท่านได้ปฏิบัติสมาธิ เจริญจิตภาวนา อยู่อย่างสงบตามแบบของพระเถระที่คมในฝัก ท่านไม่อวดโอ้แสดงตน ไม่พูดคุยถึงความรู้ความสามารถและวิชาอาคมที่ท่านมีอยู่ ท่านได้พัฒนาวัดช่องคีรีศรีสิทธิวรารามมาตามลำดับ เมื่อมาอยู่ที่วัดช่องคีรีศรี
    สิทธิวราราม หลวงพ่ออุยได้รักษาการเจ้าอาวาสอยู่นาน 4 ปี ต่อมาจึงได้เป็นเจ้าอาวาส พศ.2524 ได้เป็นพระครูชั้นประทวน พศ. 2530 ได้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร และใน พศ.2552 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ “พระครูนิภาสธรรมวัฒน์”

    จากเดิมที่วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม อยู่ในป่าไม่มีพระอุโบสถ พระสงฆ์ทั้งหมดต้องเดินทางไปลงพระอุโบสถที่วัดวรนาถบรรพต(วัดกบ)เป็นเวลานานถึง 24 ปี หลวงพ่ออุยจึงได้ริเริ่มทำการก่อสร้างโบสถ์ในปี พศ. 2507 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 7 ปี จึงเสร็จสิ้นเมื่อ พศ. 2514 หลวงพ่ออุยได้เพียรพยายามก่อสร้างศาสนวัตถุ ทั้งโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ ด้วยความร่วมมือของประชาชนและผู้ที่ศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่าน

    หลวงพ่ออุยเป็นพระสมถะ ไม่สะสม ทรัพย์สินเงินทองที่มีผู้ศรัทธาบริจาคทำบุญมา ท่านจะใช้ไปในกิจการของสงฆ์ทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือท่านได้บริจาคตอบคืนให้กับสังคมทั้งทางด้านการศึกษา การช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยการบริจาคทรัพย์สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างกุฏิ ที่วัดโคกหนองไผ่ บ้านเดิมของท่าน เป็นงินทั้งสิ้น 5 ล้านบาท ตั้งมูลนิธิโรคเอดส์ให้โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ 2 ล้านบาท สร้างศูนย์สุขภาพชุมชนวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม 1 ล้านบาท ตั้งมูลนิธิหลวงพ่ออุย ภู่บัว เพื่อการศึกษาให้โรงเรียนเทศบาล 5 วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม 1 ล้าน 3 แสนบาท

    วัตรปฏิบัติที่สำคัญ ที่หลวงพ่ออุย ปฏิบัติมาตลอดคือการออกบิณฑบาต ทุกเช้าตั้งแต่ตี 5 ท่านจะบิณฑบาตไปรอบตลาดปากน้ำโพและกลับถึงวัดเวลาประมาณ 7.00 น. ต่อมาอายุได้ 83 ปี หลวงพ่อต้องหยุดบิณฑบาตเนื่องจากอายุมากขึ้นและเคยได้รับอุบัติเหตุ รวมทั้งถูกแก้วบาดเท้าเวลาบิณฑบาต อีกประการหนึ่งที่หลวงพ่ออุยปฏิบัติเป็นประจำคือการฉันเอกา ท่านฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียวคือมื้อเพล ท่านมักสอนผู้ที่มากราบไหว้ท่านว่า “เช้าๆ อย่าขี้เกียจเดิน มันเป็นยาขนานเอก” และท่านยังแนะนำหลักธรรมในการปฏิบัติตนของชาวพุทธว่า “รักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนก็เพียงพอแล้ว”


    [​IMG]

    ด้านวัตถุมงคลท่านบอกว่าท่านไม่เชื่อและไม่ชอบ แต่ถ้ามีใครมาให้เสก ท่านก็เสกเป่าให้ไป ท่านบอกว่าช่วยสงเคราะห์กันไปในเมื่อเขามาแล้ว แต่วัตถุมงคลของท่านมักจะมีผู้ศรัทธาสร้างมาให้ท่านเสกและให้ท่านแจกจ่าย ไม่มีการให้เช่าบูชา แทบทุกรุ่นจะไม่มีเหลืออยู่ที่วัดเลย และวัตถุมงคลของท่าน ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไป อย่างเหรียญรูปไข่ รุ่นแรกของท่าน สร้างเมื่อประมาณ พศ.2513 ท่านได้แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้ที่เคารพศรัทธาในตัวท่าน เกิดมีประสบการณ์เพราะมีชายคนหนึ่งเดินทางไปเจอกับควายที่อยู่กลาง
    ทุ่งนา ปรากฎว่าถูกควายขวิดกระเด็นจนตัวลอยและควายตัวนั้นได้เอาเขาเสยรับชายคนนั้นที่ตกลงมาจนเสื้อขาด แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่มีรอยบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บเลย จึงเป็นที่แสวงหาและมีราคาค่านิยมมาก

    หลวงพ่ออุย อภิวฑฺฒโณ พระสมถะ ไม่สะสม ไม่นิยมเสก เป็นพระนักปฏิบัติ มีอายุกาลพรรษาสูงรูปหนึ่งของเมืองนครสวรรค์ พระดีที่น่ากราบไหว้ น่าเคารพ น่าศรัทธาในการปฏิบัติตนของท่าน
     
  5. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    สวัสดียามเที่ยงครับ...แจ้งข่าว..!! พี่ตี๋หาทางเข้าเวปไม่ได้ครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2014
  6. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    .... ฝากไว้ในอัลบั้ม ....

    [​IMG]
     
  7. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***ได้ข่าวว่า ป่วยมาก ตอนนี้ ค่อยยังชั่ว หรือยังครับ
    หายไวๆนะครับ เสี่ย เอ๊ะ หายแล้วก็ขอให้ โชคลาภไหลมาเทมานะครับ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  8. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    สวัสดีครับพี่รุ่ง..ดีขึ้นแล้วครับขอบคุณครับพี่รุ่ง...รับพรดีๆครับ
     
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    สวัสดียามบ่าย ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านคร๊าบบ

    ปล. พี่เอ๊ะเก็บมาเป็นชุดเลย :cool:
     
  10. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    อ้าว! ลืมอะไรไปอ่ะครับ
     
  11. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    สวัสดียามบ่ายครับคุณปู...พระที่หลวงปู่สุขท่านปลุกเสกไว้ต่างวัดค่อนข้างหายากแล้วครับ...
     
  12. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    ไม่ทราบครับ...แต่พี่ตี๋โทรเช็คทางเวปแล้วครับ...
     
  13. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    .... ฝากไว้ในอัลบั้ม ....

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อเณร หลังหลวงปู่ฤๅษีขาว วัดทุ่งเศรษฐีฯ
     
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ 2 ใน 3 คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2442 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง

    มูลเหตุบรรพชา

    ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหาจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน

    ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส

    ลาสิกขา

    ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก 3 คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

    การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ 55 ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม พ.ศ.2495 โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา

    ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน

    ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำวัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย

    หลวงปู่กอง จันทวังโส ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายอาชีพ โดยเฉพาะท่านเป็นเกจิที่ขึ้นชื่อในเรื่อง “การเสกตะกรุด” ที่นักเลงพระนิยมกันมาก แต่ปัจจุบันนี้ท่านเสกไม่ไหวแล้ว เพราะการเสกแต่ละครั้งต้องใช้พลังอำนาจจิตเป็นเวลานาน ประกอบกับปัจจุบันท่านก็ชราภาพมากแล้วจึงมี “ป้ากวย ถนอมทรัพย์” หลานสาวของหลวงปู่มาช่วยดูแลเพราะพระที่เคยมาบวชและอยู่ดูแลหลวงปู่ก่อนหน้านี้ก็มรณภาพไปก่อนแล้ว

    ป้ากวยได้บอกเล่าเรื่องราวของหลวงปู่กองให้ผู้เขียนฟังคร่าวๆ ว่า หลวงปู่กอง จันทวังโส เดิมท่านชื่อว่า กอง ถนอมทรัพย์ ท่านบวชและร่ำเรียนวิชามาสารพัดตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ในสมัยที่ท่านออกบวชท่านชอบธุดงค์ไปตามป่าเขา ในดินแดนทุรกันดาร จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเดินพลัดตกเขาสลบไป ก็ปรากฏร่างของพระสงฆ์รูปหนึ่งมาช่วยไว้ หลวงปู่กอง ท่านเรียกพระรูปนั้นว่า “หลวงปู่ใหญ่” ซึ่งก็คือ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลังจากนั้นหลวงปู่กองก็ได้ปฏิบัติทาง “จิต” และร่ำเรียนวิชาที่เป็นศาสตร์ลี้ลับจากหลวงปู่ใหญ่อีกมากมายหลายวิชา เมื่อสำเร็จแล้วจึงออกจากป่ามาจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ และร่ำเรียนวิชาจากพระเกจิชื่อดังอีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่เทียม แห่งวัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา (อยู่ตรงข้ามไม่ไกลจากวัดสระมณฑล หลวงปู่กองอยู่จำพรรษาที่วัดกษัตราฯ เป็นเวลานานกระทั่งเห็นว่าวัดสระมณฑลที่อยู่ไม่ไกลกันนี้เป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษาอยู่ท่านจึงขอมาอยู่ที่นี่เพียงรูปเดียวกระทั่งปัจจุบันนี้

    ภายในโบสถ์วัดสระมณฑลหลังนี้มีรูปหล่อของหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่ที่หลวงปู่กองให้หล่อขึ้นไว้บูชา ป้ากวยได้เล่าถึงอภินิหารของรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดรให้ฟังว่า เมื่อรูปหล่อหลวงปู่เทพฯ มาถึงวัดขณะที่แดดกำลังเปรี้ยงแต่แล้วฟ้ากลับครึ้มและมีฝนตก แล้วเมื่อถึงเวลาจะยกเข้าประตูโบสถ์ ก็ปรากฏว่าทำยังไงก็ยกเข้าไม่ได้ เพราะองค์พระใหญ่กว่าประตูมาก จนหลวงปู่กองต้องบริกรรมคาถาอยู่ครู่ใหญ่จึงสามารถยกรูปหล่อหลวงปู่เทพฯ เข้ามาได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์

    สำหรับ “ป้ากวย” เองก็เคยพบปาฏิหาริย์จาก “หลวงปู่เทพโลกอุดร” หรือ “หลวงปู่ใหญ่” ด้วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ป้ากวยได้เล่าให้ฟังว่า

    “ก็มีอยู่วันนึงมีพระมาจากไหนก็ไม่รู้เข้ามาในโบสถ์นี่ มากราบหลวงปู่กองและก็บอกหลวงปู่กองว่าวันนี้ประมาณ 6 โมงจะมีพระรูปหนึ่งมากราบ พูดจบท่านก็ลากลับไป แล้วเมื่อถึงเวลานั้นก็มีพระมาจริงๆ แล้วหน้าตาก็เหมือนรูปปั้นนั่นไม่ผิดเพี้ยน (หมายถึงรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดร) เป็นพระหนุ่มนะ แล้วคืนนั้นท่านก็อยู่ค้างด้วย ป้าก็นอนกับญาติอีกคนข้างๆ ไม่ห่างจากพระองค์นี้ แต่น่าแปลกที่พอตกดึกป้าหันไปตรงที่ท่านนอน กลับไม่เห็นท่าน ก็นึกเอะใจแล้วพอหันไปไปดูอีกที เอ๊ะ...ท่านก็ยังนอนอยู่ตรงที่เดิมนี่ แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นก็คิดว่ายังไงๆ อยู่ พอตอนเช้าท่านจะลากลับ ก็เข้าไปกราบหลวงปู่กองและพูดบอกให้หลวงปู่กองมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อช่วยดำรงพระพุทธศาสนา แล้วท่านก็ลากลับ แต่ตอนนี่ท่านจะเดินออกจากประตูโบสถ์นี่สิ ป้าเห็นรูปร่างท่านเปลี่ยน จากรูปร่างคนธรรมดากลายเป็นตัวสูงจรดประตูโบสถ์ ทั้งที่ประตูโบสถ์ก็สูงแล้วนะ และสังเกตเห็นเท้าท่านใหญ่มาก พอท่านเดินออกไปปุ๊บป้าก็เดินตามไปชั่วพริบตา ไม่เห็นท่านเสียแล้ว ท่านมาแปลก เวลาจะไปก็ไปแปลก”

    หลวงปู่กอง ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระมณฑล จนกระทั่งละสังขาร ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2546 สิริอายุได้ 104 ปี 9 วัน 51 พรรษา

    ที่มา: ตัดทอน-เรียบเรียงจาก ศิษย์ใหม่. 2546. หลวงปู่กอง จนฺทวํโส. หนังสือที่ระลึกงานฌาปณกิจ. ม.ป.พ. และมด อมูเล็ต
     
  15. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    เหรียญหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่หลวงปู่กองสร้างหายากมากครับ..
     
  16. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    คุณเอ๊ะมีให้ชมไหมครับ
    :cool::cool::cool:
     
  17. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน มีดหมอเทพศาตรา รุ่นพระเจ้าห้าพระองค์

    มีดหมอเทพศาสตรา แรงด้วยพุทธคุณและประสบการณ์ล้วนๆ สร้างในปี 2543 ฝักงา ด้ามงา ตรงส่วนด้ามบรรจุผงอิติปิโสรัตนมาลา ตะกรุด ผงอาถรรพ์และเกศา ใบมีดตีจากตะปูสังขวานรในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ซึ่งมีอายุเป็นร้อยปี เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ คณะ7 วัดสุทัศน์ร่วมกับวัดป่าหนองหล่มจัดสร้าง พิธีปลุกเสก 2 ครั้งที่วัดสุทัศน์และวัดป่าหนองหล่ม และยังนำไปเข้าพิธีใหญ่ๆอีกหลายพิธี ควรค่าแก่การสะสม ของดีหายากครับ

    มีดหมอเทพศาตรา ด้ามงา ฝักงา ใบมีดตะปูสังขวานร โบสถ์วัดสุทัศน์ ปลุกเสกโดยพระเกจิ อายุเกินร้อย สร้าง 2543
    ขนาดจากด้ามถึงปลายมีด ยาวประมาณ 4นิ้วครึ่งครับ

    มีดหมอเทพศาสตรา อาวุธเทพเจ้ารุ่นแรกวัดสุทัศน์

    มีดหมอเทพศาสตรา รุ่นพระเจ้า 5 พระองค์ ของวัดสุทัศน์ฯ ได้จัดสร้างเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองร้อยปี
    นับตั้งแต่ก่อสร้างวัดขึ้นมา ซึ่งได้สร้างตามตำรามหาศาสตราคม ตำรับพระพิชัยสงคราม ฉบับวัดประดู่ทรงธรรม กรุงศรีอยุธยา
    ซึ่งตำรานี้คล้ายกันกับตำราของหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว นครสวรรค์ ผู้เป็นพระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา
    ทำมีดหมอแก่ ลพ.เดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล และพระเกจิยุคเก่าที่สร้างมีดหมอ เป็นที่ยอมรับนับถือว่า
    เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ ลป.ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี หลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร สมุทรสงคราม ลพ.โม วัดสามจีน
    ลพ.เชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ในนครสวรรค์ก็มี ลพ.เทศ วัดสระทะเล ลพ.กัน วัดเขาแก้ว เป็นต้น


    [​IMG]

    ในสมัยโบราณที่มีดหมอนิยมแพร่หลายเพราะเหตุว่า บุคคลที่ประพฤติตัวเป็นนักเลงหัวไม้ อันธพาล ขุนโจร คนเหล่านี้ล้วน
    มีวิชาทางคงกระพันต่างๆ เช่น สักยันต์ สักน้ำมันงา กินว่าน ภาคปูน มีคตต่างๆ ที่ดีตามธรรมชาติ พวกนี้ถือว่ามีหนังดี ก็เที่ยวรังแก
    ผู้ที่อ่อนด้อยกว่า เพราะอาวุธธรรมดาทำอันตรายไม่ได้ อีกประการหนึ่งพวกพ่อมดหมอผี หมอคุณไสย เสน่ยาแฝดต่างๆ ซึ่งมีมากมาย
    ในยุคนั้น ปล่อยภูติผีปีศาจ และปล่อยของอวิชา เช่น หนังควาย ตะปู เส้นผม กระดูก มารบกวนชาวบ้าน บ้างทำให้วิกลจริต บ้างทำให้พิการ
    ทรมาน เจ็บปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย บางทีก็ทำให้เสียชีวิตไปเลยก็มี เพราะอำนาจมนต์ดำคุณไสยต่างๆ พระคณาจารย์ผู้
    ชาญฉลาด เชี่ยวชาญทรงคุณในอาถรรพ์เวทย์จึงได้สร้างมีดหมอขึ้นมา เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์พกไว้สำหรับปกป้องคุ้มกันตัว ไม่ให้
    อำนาจมนต์ดำมาทำร้ายได้ และอีกประการหนึ่งคือ พวกที่หนังดี หนังเหนียว เมื่อถูกคมมีดหมอเข้าก็หายเหนียว เลือดออกทันที
    เพราะมีดหมอนั้นเป็นสิ่งล้างอาถรรพ์ที่สำคัญ ทำให้พวกเหล่าอันธพาลไม่กล้ามารบกวนรังแกกันอีกต่อไป อีกทั้งมีดหมอนั้นก็มี
    คุณเอนกนานัปการ เป็นเครื่องรางที่ทรงไว้ซึ่งมหาอำนาจ เมตตามหานิยม มหาอุต มหาแคล้วคลาด เป็นกำบัง ถ้าใช้ให้ถูกวิธีแล้ว
    สามารถเป็นเครื่องรางหนุนดวงชะตา เสริมบารมี และทำให้ซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย


    ตะปูสังฆวานร
    ของพระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ ที่มีอายุตั้งแต่เริ่มก่อสร้างพระอุโบสถเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีล่วงมาแล้ว ตะปูสังฆวานรเป็นของโบราณ
    ใช้เป็นเครื่องตอกตรึงชนิดหนึ่ง หล่อด้วยปัญจโลหะ ถือกันว่าเป็นของเนื่องในพระพุทธศาสนา ผ่านพิธีสังฆกรรม เริ่มตั้งแต่พิธี
    วางศิลาฤกษ์ ฝังลูกนิมิต สวดสมมุติเสมา สวดพระปาฏิโมกข์ พิธีปวารณาเข้า-ออกพรรษา พิธีสมโภชน์พุทธาภิเษก ทำวัตรสวดมนต์
    เช้า-เย็น เป็นต้น เท่ากับว่าปลุกเสกไปในตัวนับร้อยปี มีเทพยดาอารักษ์ปกปักษ์รักษามาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน และตะปูสังขวานร
    ก็เป็นส่วนหนึ่่งของปูชนียวัตถุที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว อีกทั้งก็เคยปรากฏเรื่องราวอยู่เสมอๆ ในเรื่องที่ตะปูสังฆวานรเพียง
    ตัวเดียว ยังคุ้มครองผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย ให้รอดพ้นจากภัยต่างๆมาได้อย่างอัศจ
    รรย์



    [​IMG]


    วัสดุอาถรรพ์ที่บรรจุในด้ามมี

    1.ผงอิติปิโสรัตนมาลา และผงพุทธคุณ108 จากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ซึ่งดีทางมหาอำนาจ ภูติผีปีศาจเกรงกลัว
    คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
    2. เกศา ของพระเถระอายุเกินร้อย 5 ท่าน คือ ลป.หมุน ลป.อิง ลป.กอง ลป.เหมือน ลป.ลมัย
    3. ตะกรุดนารายณ์แผลงฤทธิ์ ซึ่งดีทางมหาอำนาจ ป้องกันคุณไสยทั้ง 12 ภาษา และคงกระพัน
    4. ชันโรงใต้ดิน เป็นวัตถุอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่หาได้ยาก คือ เมื่อมีไฟไหม้ป่าขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ส่วนที่
    ชันโรงทำรังอยู่ใต้ดินนั้น ที่ดินบริเวณนั้นจะไม่ไหม้ไฟ เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อมีดหมอสร้างเสร็จตามพิธีกรรมแล้ว ได้ทำการจุณเจิมด้วยน้ำมันหอมและจารอักขระทุกเล่ม จากนั้นได้ทำการ
    สมโภชพุทธาภิเษก ด้วยพิธีกรรมต่างๆ ดังนี้

    พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว

    1. ลป.หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี วัดบ้านจาน ศรีสะเกษ
    2. ลป.อิง โชติโญ อายุ 115 ปี วัดโคกขาม บุรีรัมย์
    3. ลป.เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 ปี วัดบ้านคลองทรายใต้ สระแก้ว
    4. ลป.ลมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์
    5. ลป.กอง จนทวังโส อายุ 103 ปี วัดสระมณฑล อยุธยา


    [​IMG]

    เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก 5 ครั้ง

    1. พิธีเพ็ญเดือน 12 พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ 2543
    2. พิธีพุทธาภิเษก วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. 2543
    3. พิธีพุทธาภิเษก วัดคลองตัน อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร วันที่ 28 ธันวาคม 2543 โดยพระเกจิอาจารย์ 25 รูป อาทิ ลป.หงษ์, ลป.คีย์
    วัดศรีลำยอง, ลป.ฤทธิ์ วัดชลประทาน, ลพ.อุตตมะ, ลพ.พูล วัดไผ่ล้อม, ลพ.พูน วัดบ้านแพน, ลพ.สง่า วัดบ้านหม้อ, ลพ.แย้ม
    วัดสามง่าม, ลพ.แย้ม วัดตะเคียน, ลพ.อุ้น วัดตาลกง, ลพ.สิริ วัดตาลหลวง, ลพ.ทิม วัดพระขาว, ลพ.จำเนียร วัดถ้ำเสือ, ลพ.ประสิทธิ์
    วัดไทรน้อย เป็นต้น
    4. พิธีพุทธาภิเษกส่งท้ายปีเก่า ณ พระวิหารหลวงวัดสุทัศน์ 31 ธค. 43
    5. พิธีพุทธาภิเษก 9 วัน 9 คืน วัดสุทัศน์ฯ กทม. ชุมนุมพระภาวนาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองสยาม


    [​IMG]

    ฤทธานุภาพมีดหมอเทพศาสตรา

    มีดหมอเทพศาสตราสร้างตามสัดส่วนของตำรามหาศาสตราคมที่ถูกโฉลก ให้คุณแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของ ในส่วนของมีดหมอ
    ปากกานั้น ตรงกับตำแหน่งสุวรรณลาภปราบพระนคร หมายถึง โชคลาภ ทรัพย์สิน เงินทอง ปราบปรามไพรี ศัตรู ให้พินาศ ก่อให้
    เกิดความสงบสุขทั้งผู้ครอบครองและครอบครัว
    มีดหมอเทพศาสตรานี้เป็นอาวุธที่มีอำนาจและมหิทธิฤทธิ์ของเทพยดาที่ยิ่งใหญ่ 5 ท่าน ผู้เป็นใหญ่เหนือเทพทั้งหลาย
    ได้แก่
    วชิราวุธ อาวุธประจำกายของพระอินทร์ที่ปราบมารร้ายและศัตรู
    ไม้เท้า (กระบอง) ที่ยันกายขององค์ท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นเจ้าแห่งภูติผีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผีอะไรต้องเกรงกลัวท่าน
    ท้าวเวสสุวรรณทั้งนั้น
    ผ้าแดง ของอาฬาวะกะยักษ์ ที่พ่ายแพ้แก่บารมีของสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ้าแดงนี้เป็นอาวุธที่ร้ายแรงตามที่โบราณกล่าวว่า
    ถ้าผ้าผืนนี้ตกลงบนพื้นพิภพแห่งใด จะไหม้เป็นจุลและปลูกอะไรไม่ขึ้นจนตลอดกาล
    นัยเนตร ของท่านพญายมราช ที่เพ่งแล้วภูตผีทั้งหลายจะมอดไหม้ไปเป็นจุลมหาจุล
    กงจักร ของพระนารายณ์ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่า กงจักรจองพระนารายณ์นี้ปราบได้ทั้งสวรรค์ อสูร และใต้บาดาล
    มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับ

    เมื่อได้อัญเชิญความศักดิ์สิทธิ์ของอาวุธทั้งห้าประการด้วยอำนาจอาคม และไสยวิธีมาสถิตย์ในมีดหมอ ก็ย่อมวางใจได้
    ว่าทรงอำนาจในทางปราบมารร้าย ภูติผีปีศาจ อำนาจฝ่ายดำ การกระทำย่ำยี และป้องกันอันตรายจากมนุษย์และสัตว์ได้อีกด้วย
     
  18. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    ไม่มีครับคุณโญ...
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448



    พระศรีศากยะทศพลญาณ

    สมโภช ร.ศ.๒๐๐ ปี ๒๕๒๕



    [​IMG]
     
  20. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    ##ฝากไว้ในอัลบั้มเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง##

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ปี2529 รุ่นแรก

    พระเกจิที่ปลุกเสกพระผงสมเด็จจนแผ่นดินไหว เป็นที่ลือลั่น คนอุตรดิตถ์ไม่มีใครไม่นับถือท่าน และเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อเงินแห่งวัดบางคลาน ที่รับหลวงพ่อทองดำเป็นบุตรบุญธรรมสมัยหลวงปู่ยังเป็นเด็ก อีกอย่างลพ.คูณยังนับถือท่านให้เป็นอาจารย์ คนอุตรดิตถ์ไปกราบหลวงพ่อคูณ ยังเอ่ยปากว่า ทำไมมาถึงที่นี้ อยู่ที่อุตรดิตถ์เก่งกว่าข้าอีก โดยถ้าหลวงพ่อคูณเดินทางผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่แวะไปกราบหลวงพ่อทองดำ แห่งวัดท่าทอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...