อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

    หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ มีนามเดิมว่า "เงิน" เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2348 บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้านตำบลบางคลาน จังหวัดพิจิตร มีพี่น้องร่วม บิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน คนที่ 1 ชื่อ พรม คนที่ 2 ชื่อทับ คนที่ 3 ชื่อ ทอง คนที่ 4 ชื่อ เงิน คนที่ 5 ชื่อ หล่ำ คนที่ 6 ชื่อ รอด (ในหนังสือประวัติของท่านมีผู้เขียนไว้เป็น ๒ กระแส แต่ต่างยืนยันว่าท่านเกิดปีฉลู กระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2348 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2360)

    ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” เป็นชาวบ้านบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่อ อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน มารดาของท่านชื่อฟัก เป็นชาวบ้าน จังหวัดกำแพงเพชร ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงิน อายุได้ 5 ขวบ นายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พา หลวงพ่อเงิน ไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่ง หลวงพ่อเงิน เติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้ จึงได้นำ หลวงพ่อเงิน ไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงคราม ฉายา พุทธโชติ แล้วหลวงพ่อเงิน ท่านได้จำพรรษา เพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่ได้ 3 พรรษาขณะที่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม ท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ ในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี จากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตาราม

    พออายุได้ ๒๐ ปี บิดา-มารดาและบรรดาญาติมีความประสงค์จะให้อุปสมบทแต่ “หลวงพ่อเงิน” ไม่ยอมเพราะเกรงว่า อายุของท่านจะไม่ครบบริบูรณ์จริง บรรดาญาติก็อนุโลมตามกระทั่งหลวงพ่ออายุได้ ๒๒ ปี ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๗๓ ได้กำหนดวันอุปสมบทไม่ทราบว่าอุปัชฌาย์ชื่ออะไรเช่นกันได้ฉายาว่า “พุทธโชติ” หลังจากอุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียน ธรรมะจนแตกฉาน แล้วทำการฝึกฝนวิปัสสนาจนมีญาณสมาธิแก่กล้า จึงมุ่งศึกษาพุทธาคมจาก “หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า” จนมีความชำนาญทางพุทธาคมมาก มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าลือกันในบรรดาชาวบ้านมากมายพอได้อุปสมบทแล้ว ท่านก็ยังศึกษาวิปัสสนากรรมฐานต่ออีกด้วย ต่อมาอีก 3-4 ปี โยมปู่ของท่านป่วยหนัก ท่านจึงได้เดินทางกลับมายังอำเภอโพทะเล ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาราม ประมาณ 1 พรรษา เนื่องจากวัดนี้ มีหลวงพ่ออุปัชฌาย์โห้เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระที่เรืองวิชาเหมือนกันชอบเล่นแร่แปรธาตุ นอกจากนี้หลวงพ่ออุปัชฌาย์ท่านยังชอบเทศน์ชาดก(แหล่เป็นทำนอง) การซ้อมแหล่ของหลวงพ่ออุปัชฌาย์โห้เสียงดัง หลวงพ่อเงินคงจะไม่พอใจ เพราะท่านเป็นพระที่เคร่งทางธรรมวินัย และวิปัสสนา ชอบแต่ความสงบเพื่อผลทางวิปัสสนากรรมฐาน ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่า โดยท่านได้หักกิ่งโพธิ์ไปด้วย 3 กิ่งและปักลงตรงบริเวณป่าตะโก แล้วท่านก็ได้อธิษฐานจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าได้มาสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้ ถ้ามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอให้กิ่งโพธิ์ทั้ง 3 กิ่ง จงเจริญงอกงามตามไปด้วย ก็ปรากฏว่าเป็นไปตามคำอธิษฐานของหลวงพ่อทุกประการ ได้สร้างกุฏิวิหารจนอุโบสถและเสนาสนะภายในวัดจนสมบูรณ์แบบครบถ้วนทุกประการ มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอมาฟังธรรมขอเครื่องรางของขลัง และขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา

    หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) จ.พิจิตร ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น มีผู้คนมาให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ไม่ขาดสาย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมาก็มีหลายท่าน เช่น หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ที่มีชื่อเสียงในด้านตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม ผู้สร้างตะกรุดหนังปลากระเบน และตะกรุดหนังอีเก้ง ปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ หลวงพ่อหอม วัดหลวง หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล ผู้สร้างเหรียญหล่อหลวงพ่อเพชรจำลอง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น นอกจากนี้ศิษย์ฆราวาสก็คือเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท้ายที่สุด หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ฝ่ายวิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อเงิน ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแมเวลา 5.00 น.ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2462รวมอายุได้ 111 ปีพรรษา 90 ณ วัดวังตะโก ตำบลบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร คงทิ้งไว้แต่เรื่องราวอันเป็นปาฏิหาริย์มากมาย นับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุยืนนานมากที่สุดรูปหนึ่ง ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานนับเป็นอีกหนึ่งในจำนานของวงการพระเครื่องไทย
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    พี่โญเตรียมของไว้ใส่บาตรเลยน๊าา
     
  3. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้า คุณปู อ.โญ คุณวัน คุณเอ๊ะ คุณแจมฯ คุณสุข คุณเคี้ยว คุณเอ็ม คุณช้างและทุกๆท่าน
    ทำการทำงานใด ทำมาค้าขายใด ขอให้เจริญรุ่งเรือง ปลอดโปร่ง ราบรื่น นะครับ
     
  4. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระ จ.นราธิวาส

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  5. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดีครับคุณแจมฯ
    เรียกผมว่า ตี๋ ครับ
     
  6. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ว๊าาวว...ถึงขนาดจะออกบวชเลยเหรอครับพี่ปู

    ใจเย็น ๆ นะครับ ต้องสละวัตถุมงคลในกรุให้เรียบร้อยก่อน

    :cool::cool::cool:
     
  7. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เหรียญดี พิธีดังเลยครับพี่ตี๋

    <big> เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ปี 2511วัดเขากง จ.นราธิวาส</big><big>
    [ รายละเอียด ]
    </big> เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ปี 2511วัดเขากง จ.นราธิวาส เหรียญนี้จัดสร้างโดยนำชนวนมวลสารจากเกจิอาจารย์ดัง-สายใต้มากมายหลายท่าน อาทิเช่น หลวงปู่นาค วัดระฆัง อาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ และยังได้ทำการปลุกเสกอีกหลายวาระ รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก 1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา 2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง 3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง 4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม. 5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง 6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี 7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี 8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง 9.พ่อท่านเขียว วัดหลงบล 10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง จ.นราธิวาส ปี 2511 เกจิดังปลุกเสกเพียบ สร้างจากชนวนวัตถุมงคลเก่าๆและตะกรุดของเกจิอาจารย์จำนวนมาก และต่อมายังเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ เหรียญเนื้อทองแดงรมดำ เป็นรุ่นแรก เหรียญมีห่วงเดิมๆ สภาพสวยๆ ตามภาพ เป็นเหรียญที่มีพิธีปลุกเสกดีมากพิธีหนึ่งของภาคใต้ในยุคนั้นครับ พระเกจิอาจารย์ทั้งสายเขาอ้อ และ พระอาจารย์สายใต้ที่เก่งๆและโด่งดังในยุคนั้นร่วมปลุกเสกมากมาย เหรียญดี ราคาเบา น่าบูชา มีประสบการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายต่อครั้งอีกทั้งพุทธศิลป์ ที่งดงามเลิศล่ำ เหมาะที่จะบูชาสะสม ราคาเบามาก ถ้าเทียบกับพิธีการสร้างและตัวเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุก.......... วัดเขากง สถานที่ประดิษฐาน บริเวณพุทธอุทยาน วัดเขากงมงคลมิงมิตรปฏิฐาราม ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส สถานที่อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เป็นศรีสง่าแก่ภาคใต้องค์หนึ่ง ได้แก่ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปี ๒๕๐๙ แล้วเสร็จในปี ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี ๒๕๑๓ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มีพุทธลักษณะงดงาม ประกอบกับประดิษฐานอยู่ยอดเขาจึงสูงเด่นเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล จากตัวเมืองใช้ทางหลวงสายอำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอระแงะ (ทางหลวงสาย 4055) ประมาณ 6กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 105จะมองเห็นวัดเขากงและพระพุทธรูป ทักษิณมิ่งมงคลสีทอง ประทับนั่งปางประทานพรอยู่บนยอดเขา วัดเขากงตั้งอยู่ในตำบลเขากง อำเภอเมือง มีเนื้อที่กว้าง 142ไร่ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512สิ้นค่าก่อสร้าง ทั้งสิ้นกว่า 5ล้านบาท องค์พระเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา หน้าตักกว้าง 17เมตร สูงจากบัวใต้พระเพลา ถึงพระเกศบัวตูม 23เมตร และ ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยดินจากสังเวชนียสถาน มา ประดิษฐานที่พระอุระเบื้องซ้าย การก่อสร้างเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยกระเบื้องโมเสดสีทอง องค์พระพุทธรูป มีลักษณะตามอิทธิพลของสกุลศิลปะอินเดียใต้โจฬะรุ่นหลัง จะพบพุทธรูปสกุลนี้ มากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จนเรียกกันว่า "แบบนครศรีธรรมราช" หรือเรียกอย่างสามัญว่า พระพุทธรูป แบบ "ขนมต้ม" เนื่องจากพระวรกายล่ำสันทุกส่วน สังฆาฏิจัดกลีบแผ่กว้างเต็มพระอังสาเบื้องซ้ายและชายจีวร ใต้พระเพลาทำเป็นริ้วให้ความรู้สึกของการตกแต่งสวยงามกว่าแบบอื่นอย่างเห็น ได้ชัด นอกจากองค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลแล้ว ยังมีพระอุโบสถและเจดีย์สิริมหามายา ซึ่งเป็นรูปทรง ระฆัง ภายในโปร่ง บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พระเจ้าอยู่หัว เสด็จมาเป็นประธาน อาจารย์นำ วัดดอนศาลา ปลุกเสก ปี 2511 วัดเขากง จ.นราธิวาส เนื้อทองแดงรมดำสวยเดิมมาก พิธีใหญ่น่าใช้มาก ในหลวงเสด็จในพิธี เกจิสมัยนั้นร่วมปลุกเสกมากมาย......ปัจจุบันไม่ค่อยเห็น....ออกไม่มากเพียง สองหมื่นเหรียญเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับผม

    วันนี้ เฮง ๆ กันครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    สุดยอดอีกพิธีทางใต้เลยครับ :cool::cool:
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    กราบหลวงพ่อเงิน

    [​IMG] [​IMG]
     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณครับ ที่ได้นำข้อมูลมาให้ทราบ เพื่อนจากภาคใต้มอบให้มาเป็นที่ระลึกเมื่อปี 2528 ตอนอบรมด้วยกันที่กรุงเทพฯ 2เหรียญ คือ รุ่นนี้ปี2511 กับปี2513 ที่ลงไว้แล้วเมื่อวาน ถึงว่าเพื่อนเขาเน้นว่า รักษาให้ดี
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094


    รบกวนพี่วรรณ และพี่ๆ ท่านที่รู้หน่อยครับ พระสี่องค์นี้ ใช่ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำหรือป่าว รุ่นอะไร แล้วเหรียญน่าจะแท้ใหมครับ เค้าลงให้เช่าแบบเหมาๆ ราคาไม่แพงนัก แต่ไม่ทราบข้อมูลนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับผม


    [​IMG] [​IMG]
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    ถ้าไม่ติดว่า อาทิตย์หน้านี้ต้องไปเชียงใหม่อีก ฝีมือบ้านๆ แบบผมจะไปช่วยถ่ายให้นะครับพี่ปู
    :cool::cool:
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094

    ยินดีด้วยครับพี่ตี๋ที่ได้พระดีๆ อีกรุ่นเก็บใว้บูชา:cool::cool::cool:
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG]

    ออกนอกพื้นที่ก่อนครับผม
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,061
    ค่าพลัง:
    +53,094
    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ (สมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล) หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 เดือนเมษายน พ.ศ. 2449 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ 7 และมีน้องสุดท้องชื่อแม่นิน เริ่มต้นชีวิตในผ้ากาสาวพัตร เมื่อหลวงปู่อายุได้ 11 ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาเจ้าฯได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า "กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน" นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาเจ้าฯได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่ยัง เด็กหลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้าน ไม่กี่วันต่อมาบิดาก็นำขันข้าวตอกดอกไม้ พร้อมกับนำตัวเด็กชายดวงดีไปถวายฝากตัวเป็นศิษย์ (ขะโยม) ในท่านครูบาโปธิมา ซึ่งเป็นอธิการวัดท่าจำปี ใกล้ๆ บ้านนั่นเอง ครูบาโปธิมาก็ได้พร่ำสอนหนังสือของทางการบ้านเมืองสมัยนั้น หลังจากสั่งสอนเด็กชายดวงดีจนพออ่านออกเขียนได้ ท่านครูบาโปธิมาก็ย้ายจากวัดท่าจำปีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ห่างจากวัดท่าจำปีไปเล็กน้อย ท่านครูบาสิงหะ เจ้าอาวาสองค์ต่อมา ได้ให้เด็กชายดวงดีศึกษาเป็นขะโยม (เด็กวัด) อยู่กับครูบาสิงหะได้ไม่นาน ครูบาสิงหะก็มรณภาพ คงเหลือสามเณรสิงห์แก้วดูวัดท่าจำปีแทนและทำหน้าที่สั่งสอนลูกศิษย์ไปด้วย หลังจากทำบุญประชุมเพลิงครูบาสิงหะแล้วสามเณรสิงห์แก้วก็ลาสิกขา จึงทำให้วัดท่าจำปีร้างรกไม่มีเจ้าอาวาสติดต่อกันถึง 3 ปี ในขณะที่วัดร้างรานั้น หลวงปู่หรือเด็กชายดวงดีขณะนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลวัดอย่างที่เคยปฏิบัติมา เช่น ปัดกวาดกุฏิวิหาร จัดขันดอกไม้บูชาพระ ตักน้ำคนโท (น้ำต้น) ถวายพระพุทธรูปตลอดเวลา ต่อมาคณะศรัทธาวัดท่าจำปี ได้อาราธนานิมนต์ท่านครูบาโสภามาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกอีกตำแหน่งด้วย ทำให้วัดท่าจำปีเกิดความสำคัญขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านครูบาโสภณจะเป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว ท่านยังเป็นพระสหธรรมิกที่มีอายุพรรษารุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านครูบาศีลธรรม (ครูบาเจ้าศรีวิชัย) มีผู้คนเคารพนับถือมากมายถึงกับขนานนามท่านว่า "ตุ๊เจ้าตนบุญตนวิเศษแห่งล้านนา" จริงๆ เพราะท่านมีบุญญาภินิหารปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือถึงเหตุการณ์ต่างๆ อย่างไม่ลดละตราบจนทุกวันนี้ หลังจาก เด็กชายดวงดี ศึกษาภาษาพื้นเมืองได้คล่องแคล่ว อายุได้ 13 ปีพอดีท่านครูบาโสภาจึงนำเด็กชายดวงดีไปปรึกษากับท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านได้ขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์ทางเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.2462 ท่านครูบาศรีวิชัยมีความพอใจเด็กชายดวงดีมาก ท่านครูบาโสภาก็เล่าเรื่องการบวชเณรให้ท่านครูบาศรีวิชัยฟัง ท่านก็บอกกับครูบาโสภณว่า "ถ้าบวชพระแล้วก็หื้อขึ้นมาจำพรรษาอยู่วัดพระสิงห์นี่แหละ จะได้เป็นเพื่อนกับนายสิงห์ดำ" (ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของท่านครูบาศรีวิชัย) ซึ่งมีหน้าที่ปลงเกศาให้กับท่านครูบาศรีวิชัย ในขณะที่หลวงปู่อยู่จำพรรษากับท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยนับตั้งแต่เป็นสามเณรใหม่ๆ และเดินทางปฏิบัติเล่าเรียนอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านอายุได 28 ปี เป็นช่วงที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ข้องกล่าวหาต่างๆ นานา เช่นการบุกรุกป่าสงวน ซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผีบุญ จนถึงกับถูกจับส่งตัวไปตัดสินความที่กรุงเทพฯ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต เมื่อคณะสงฆ์ในเขตปกครองแขวงบ้านแมง (อ.สันป่าตอง) ขอลาออกจากการปกครองเมืองเชียงใหม่ถึง 60 วัด ท่านครูบาโสภาวัดท่าจำปี ท่านครูบาปัญญา วัดท่ากิ่งแลหลวง ก็ถูกไต่สวนจนต้องนำคณะศิษย์หนีไปแสวงบุญก่องสร้างวิหารพระพุทธบาทฮังฮุ้ง ในเขตประเทศพม่า จนไม่ยอมกลับมาอีกเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทาง คงค้างแต่ท่านครูบาขาวปีทำหน้าที่ดูแลวัดสิงห์ และเป็นหัวแรงในการก่อสร้างวัดวาอารามที่ค้างไว้ ต่อมา ท่านครูบาศรีวิชัย ถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพที่วัดจามเทวี เมื่ออายุได้ 61 ปี ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ดวงดีอายุได้ 32 ปี หลวงปู่ได้เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ติดตามครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวปีมาสร้างวิหารวัดท่าจำปีหลวงปู่ เดินทางกลับมาก่อสร้างวัดท่าจำปี ขณะนั้นอายุได้ 42 ปี ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกจากท่านครูบาโสภาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลวงปู่จะมีตำแหน่งหน้าที่ทางการคณะสงฆ์ก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ในระหว่างที่มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านครูบาโสภา หลวงปู่ก็มิได้สร้างแต่เฉพาะวัดท่าจำปีเท่านั้น ทุกวัดในละแวกเดียวกันหลวงปู่ก็ช่วยเหลือเป็นแรงสำคัญ ไม่ว่าถนนหนทาง อุโบสถ วิหาร เจดีย์ สะพาน หรือแม้แต่โรงเรียน โรงพยาบาล หลวงปู่ก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง แม้กระทั่งวัดในเขตอำเภอสันป่าตอง หรือต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จนไม่สามารถนำมาบรรยายได้ทั้งหมด หน้าที่การคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทฺโท ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่พ.ศ. 2492 - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ได้รับตั้งเป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล นามว่า "พระครูดวงดี" - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนาม "พระครูสุภัทรสีลคุณ" ณ พุทธมณฑล จังหวัด นครปฐม - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ (เจ้าคุณ) ชั้นสามัญ ในราชทินนาม "พระมงคลวิสุต" -มรณภาพ 6 กุมภาพันธ์ 2553 อายุครบ 104 ปี (บวชพระ 83 พรรษา)

    เหรียญปลาตะเพียน ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ปี 2525

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ เหรียญแปลกแต่สวย(ค้าขายแน่นอน)
    เดินทางปลอดภัยนะ คุณเอ็ม
     

แชร์หน้านี้

Loading...